6 tips to survive a long haul flight

6 เคล็ดลับนั่งเครื่องบินนานๆ ไม่ให้เมื่อย และไม่น่าเบื่อ

หยุดยาวปีนี้มีแผนอยากไปเที่ยวต่างประเทศไกลๆ แต่เมื่อนึกถึงความเมื่อยล้าและน่าเบื่อกับการที่ต้องนั่งเครื่องบินนานหลายชั่วโมง ก็อาจทำให้เปลี่ยนใจกันไปเลย วันนี้  Allianz Travel มีเคล็ดลับในการแก้เบื่อ และช่วยผ่อนคลายร่างกายคลายเมื่อย เมื่อต้องนั่งเครื่องบินนานๆ มาฝากค่ะ

1. แต่งตัวให้สบาย

เลือกชุดที่ใส่สบายๆ อย่างเสื้อยืดแขนยาว กางเกงผ้าเนื้อนุ่มพร้อมนอน ไม่ใส่เสื้อผ้าที่รัดรูป หรือมีขนาดพอดีตัวมากเกินไป เพราะจะทำให้การลุกขึ้นเดินลำบาก รวมถึงเลือกใส่รองเท้าหุ้มส้น หรือรองเท้าผ้าใบที่ใส่สบายๆ และหลีกเลี่ยงการใส่รองเท้าส้นสูง

2. เลือกที่นั่งที่ดีและเหมาะสมกับเรา

หากเรารู้ตัวว่าเป็นคนที่ต้องลุกไปทำธุระที่ห้องน้ำบ่อย ก็ควรที่จะเลือกที่นั่งริมทางเดิน เพื่อความสะดวกในการลุกเดินเข้าออก  แต่ถ้าเราชอบความเป็นส่วนตัว ก็อาจจะเลือกที่นั่งริมหน้าต่าง และจะได้ชมวิวทิวทัศน์ภายนอกไปด้วยได้

3. พกอุปกรณ์เอนเตอร์เทนแก้เบื่อ

ไม่ว่าจะเป็นหนังสือ เครื่องเล่นเกม หูฟัง โหลดหนังหรือเพลงที่ชอบลงโทรศัพท์มือถือหรือ iPad เพราะการทำกิจกรรมที่ชอบจะช่วยให้เราเพลิดเพลิน คลายเครียด และแก้เบื่อได้ดีในระหว่างการเดินทาง แถมยังทำให้เรารู้สึกว่าเวลาผ่านไปเร็วอีกด้วย

4. นอนหลับพักผ่อน

ถือโอกาสใช้เวลาว่างบนเครื่องบินนอนหลับยาวๆ และเตรียมที่ปิดตา ที่อุดหู และหมอนรองคอติดตัวไว้เวลาที่ต้องเดินทางไกล ช่วยให้เรานอนหลับบนเครื่องได้สบายขึ้น เป็นการนอนเอาแรงก่อนออกเที่ยวต่อเมื่อจุดหมายปลายทาง

5. ลุกเดินหรือขยับร่างกายบ้าง

การนั่งอยู่ในท่าเดิมบวกกับการนั่งอยู่ในที่แคบเป็นเวลานานจะทำให้เราเกิดอาการปวดเมื่อยตามร่างกายได้ การขยับร่างกายหรือออกกำลังกายเบาๆ ด้วยการขยับขา หมุนข้อมือ ทำให้เราป้องกันอาการเหน็บชา หรือตะคริว ได้ในระดับหนึ่ง หรือหาโอกาสลุกเดินไปเข้าห้องน้ำ ยืดเส้นยืดสาย และบิดขี้เกียจก็ได้เ่ช่นกัน

6. พกขนมหรือลูกอมติดกระเป๋าไว้บ้าง

ถึงแม้ว่าสายการบินแบบฟูลเซอร์วิสจะมีบริการอาหารหรือเครื่องดื่มให้เราอยู่แล้ว แต่การพกขนมหรือของกินเล่นเล็กๆ น้อยๆ ที่เราชอบติดกระเป๋าไว้ เช่น ขนมแห้งๆ อย่างพวกคุกกี้ หรือ ธัญพืช เอาไว้เคี้ยวเวลาเบื่อๆ พอให้หายอยาก พออิ่มแล้วก็นอนต่อได้เลยค่ะ

เพียงทำตาม 6 เคล็ดลับนั่งเครื่องบินนานๆ ไม่ให้เมื่อย และไม่น่าเบื่อ และนึกถึงความสุขเมื่อเราเดินทางถึงเป้าหมายในทริปนี้ของเรารออยู่ข้างหน้าแล้ว การที่เราต้องนั่งเครื่องบินนานๆ ก็ไม่ใช่เรื่องที่น่าเบื่ออีกต่อไป และการเดินทางไปต่างประเทศทุกครั้ง เพื่อนๆ ก็ควรเตรียมตัวซื้อประกันภัยการเดินทางที่ให้ความคุ้มครองค่าใช้จ่ายทีเกิดจากสถานการณ์ไม่คาดฝันต่างๆ ที่อาจเกิดขึ้นได้ เช่น ประกันภัยการเดินทาง “Dance Moves” จาก Allianz Travel ที่มีความคุ้มครองกรณีเกิดเหตุการณ์ฉุกเฉินในต่างประเทศ ไม่ว่าจะเป็นการเจ็บป่วยขณะเดินทาง เที่ยวบินล่าช้า และอื่นๆ อีกมากมาย ที่ช่วยให้คุณทำกิจกรรมต่างๆ ตลอดทริปได้อย่างอุ่นใจ ไร้กังวล*

*เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทกำหนด

เลือกแผนประกันการเดินทางที่ใช่สำหรับคุณ ประกันการเดินทาง Dance Moves จาก Allianz Travel

เกาหลีใต้เปิดรับนักเดินทาง ไม่ต้องกักตัว

เกาหลีใต้เปิดประเทศแล้ว เข้าประเทศไม่ต้องกักตัว

สำหรับเพื่อนๆ ที่คิดถึงประเทศเกาหลีใต้เตรียมตัวแพ็คกระเป๋าเดินทางกันได้แล้ว กระทรวงสาธารณสุขของประเทศเกาหลีใต้ได้ประกาศยกเลิกข้อกำหนดเดิม และหันมารับนักเดินทางโดยไม่ต้องกักตัว เริ่มต้น 21 มีนาคมนี้

โดยผู้เดินทางต้องมีประวัติการฉีดวัดซีนครบ 2 เข็ม (Pfizer, Moderna, AstraZeneca, Johnson & Johnson, Novavax, Sinopharm(Beijing), Sinovac, Covishield, Covaxin, Covovax) และ 1 เข็มสำหรับผู้ที่ได้รับวัคซีน Johnson & Johnson) และอยู่ในระยะเวลาระหว่าง 14-180 วัน ของการฉีดเข็มที่ 2 หรือได้รับวัคซีนเข็มที่ 3 โดยสอดคล้องกับเกณฑ์ของ WHO

ผู้ที่มีประวัติการฉีดวัคซีนนอกประเทศเกาหลีใต้จะต้องลงทะเบียนในระบบของรัฐบาลประเทศเกาหลีใต้และได้รับการยืนยืนก่อน ถึงจะเดินทางเข้าประเทศเกาหลีใต้ได้โดยรับการยกเว้นการกักตัว โดยข้อมูลที่เกี่ยวข้องจะถูกเชื่อมผ่านระบบกรอกข้อมูลล่วงหน้า (Q-CODE)

ผู้ที่สนใจสามารถลงทะเบียนได้ลิงก์นี้ https://cov19ent.kdca.go.kr/cpassportal/

ระบบกรอกข้อมูลล่วงหน้า (Q-CODE) สำหรับผู้เดินทางเข้าประเทศเกาหลีใต้
ขอบคุณรูปภาพจากเว็บไซต์ Q-CODE

มาตรการนี้จะไม่ครอบคลุมถึงผู้ที่เดินทางมาจากประเทศปากีสถาน อุซเบกิสถาน ยูเครน และเมียนมา ผู้เดินทางมาจากประเทศดังกล่าวยังต้องกักตัวแม้จะได้รับวัคซีนครบตามที่กำหนดแล้ว

นอกจากนี้ผู้ที่เดินทางเข้าประเทศเกาหลีใต้จะต้องตรวจโควิดเป็นจำนวน 3 ครั้ง คือ ก่อนเดินทางเข้าประเทศ และหลังจากเข้าประเทศแล้ว 1 วัน และหลังเดินทางเข้าประเทศแล้ว 6-7 วัน โดยใช้ผลตรวจแบบ Rapid Antigen Test ได้

แม้รัฐบาลประเทศเกาหลีใต้จะประกาศยกเลิกการกักตัว แต่สำหรับนักท่องเที่ยวไทยผู้ที่จะเดินทางไปประเทศเกาหลีใต้ จะต้องขอวีซ่าจากสถานเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐเกาหลีประจำประเทศไทย เท่านั้น เนื่องจากสถานการณ์โควิด-19 (COVID-19) ทำให้ตอนนี้ทางประเทศเกาหลีใต้ได้ระงับฟรีวีซ่าของประเทศต่างๆ รวมถึงประเทศไทยไว้ก่อน

หลายๆ ประเทศเริ่มเปิดประเทศให้นักท่องเที่ยวเข้าประเทศกันมากขึ้น หลังจากสถานการณ์โควิด-19 (COVID-19) เริ่มดีขึ้น ซึ่งนับเป็นข่าวดีของหลายคนที่เฝ้ารอการออกเดินทางไปต่างประเทศ จะได้เริ่มวางแผนการเดินทางและเตรียมแพ็คกระเป๋า และสิ่งสำคัญที่เราควรมีทุกครั้งที่เดินทางไปต่างประเทศ คือ ประกันภัยการเดินทาง ที่จะช่วยให้แผนการเดินทางของเราไม่สะดุด สามารถทำกิจกรรมต่างๆ ได้อย่างอุ่นใจ ไร้กังวล ให้ความคุ้มครองครอบคลุมค่าใช้จ่ายที่เกิดจากเหตุการณ์ฉุกเฉินที่อาจเกิดขึ้นโดยไม่คาดฝัน*

*เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทกำหนด

ขอบคุณข้อมูลจาก : สถานเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐเกาหลีประจำประเทศไทย

เลือกแผนประกันการเดินทางที่ใช่สำหรับคุณ ประกันการเดินทาง Dance Moves จาก Allianz Travel

อัพเดทลิสต์ประเทศเปิดให้เที่ยวแล้วปี 2022

อัพเดทลิสต์ประเทศเปิดให้เที่ยวแล้ว ปี 2022

หลายคนคงคิดถึงบรรยากาศการเดินทางไปท่องเที่ยวต่างประเทศหาประสบการณ์ใหม่ๆ กันอย่างแน่นอน ซึ่งช่วงปี 2022 สถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิดก็เริ่มจะมีแนวโน้มดีขึ้น รัฐบาลของหลายๆ ประเทศทั่วโลกเริ่มเตรียมพร้อมเปิดรับนักท่องเที่ยวที่ได้รับการฉีดวัคซีนครบตามกำหนด และคลายล็อคมาตรการกักตัว Allianz Travel จึงอยากมาอัพเดทลิสต์รายชื่อประเทศที่คุณสามารถเดินทางไปท่องเที่ยวได้แล้ว โดยจะมีประเทศอะไรบ้าง และแต่ละประเทศมีมาตรการอย่างใด เปิดให้นักท่องเที่ยวเดินทางเมื่อไหร่ก็สามารถตามเราไปดูพร้อม ๆ กันได้เลยค่ะ

อัพเดทลิสต์ประเทศเปิดให้เที่ยวแล้ว ปี 2022

71 ประเทศเปิดให้เข้าประเทศได้ โดยไม่จำเป็นต้องแสดงผลการตรวจโควิด-19 และไม่จำเป็นต้องกักตัว

Albania
Andorra
Armenia
Aruba
Austria
Bahrain
Bangladesh
Belarus
Belgium
Belize
Bosnia and Herzegovina
Bulgaria
Costa Rica
Croatia
Curaçao
Cyprus
Czech Republic
Denmark
Dominican Republic
Egypt
El Salvador
Estonia
Faroe Islands
United Kingdom

Finland
France
Georgia
Germany
Greenland
Honduras
Hungary
Iceland
Ireland
Italy
Jersey
Jordan
Kazakhstan
Kenya
Kosovo
Kuwait
Kyrgyzstan
Latvia
Lebanon
Liechtenstein
Lithuania
Luxembourg
Malta
Vatican City

Mexico
Moldova
Monaco
Montenegro
North Macedonia
Norway
Oman
Pakistan
Panama
Peru
Portugal
Romania
Saint Martin
San Marino
Saudi Arabia
Senegal
Sint Maarten
Slovenia
Spain
Sri Lanka
Switzerland
Turkey
United Arab Emirates

96 ประเทศเปิดให้เข้าประเทศได้ แต่ต้องแสดงผลการตรวจโควิด-19 ก่อน

Algeria
Anguilla
Antigua and Barbuda
Argentina
Australia
Bahamas
Barbados
Benin
Bolivia
Botswana
Brazil
British Virgin Islands
Burkina Faso
Burundi
Cambodia
Canada
Cape Verde
Cayman Islands
Colombia
Congo
Cuba
Democratic Republic of Congo
Djibouti
Dominica
Ecuador
Eritrea
Eswatini
Ethiopia
Fiji
French Polynesia
Gabon
Gambia

Ghana
Greece
Grenada
Guam
Guatemala
Guinea
Guinea-Bissau
Guyana
Haiti
India
Iran
Iraq
Ivory Coast
Jamaica
Kenya
Liberia
Malawi
Malaysia
Maldives
Mali
Mauritania
Mauritius
Mongolia
Morocco
Mozambique
Namibia
Nepal
Netherlands
Nicaragua
Nigeria
Papua New Guinea
Paraguay

Philippines
Poland
Puerto Rico
Qatar
Russia
Saint Barthélemy
Saint Kitts and Nevis
Saint Lucia
Saint Vincent and the Gr.
São Tomé and Príncipe
Serbia
Seychelles
Singapore
Slovakia
South Africa
South Sudan
Sudan
Suriname
Sweden
Tajikistan
Tanzania
Trinidad and Tobago
Tunisia
Turks and Caicos Islands
U.S. Virgin Islands
Uganda
United States
Uruguay
Uzbekistan
Venezuela
Zambia
Zimbabwe

19 ประเทศเปิดให้เข้าประเทศได้ โดยที่ต้องมีการแสดงผลตรวจโควิด-19 ก่อน และต้องกักตัวเมื่อเดินทางมาถึง

Bermuda
Bhutan
Central African Republic
Chile
Gibraltar
Indonesia
Israel
Laos
Libya
Madagascar

Montserrat
New Caledonia
Niger
Palau
Palestinian Territories
Rwanda
Sierra Leone
Togo
Vietnam

กฎการเดินทางและข้อบังคับของแต่ละประเทศอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา ก่อนวางแผนการเดินทางไปที่ไหน เราควรเช็คข้อมูลให้ดีก่อนนะคะ และสิ่งสำคัญที่เราควรมีทุกครั้งที่เดินทางไปต่างประเทศ คือ ประกันการเดินทาง ที่จะช่วยให้แผนการเดินทางของเราไม่สะดุด สามารถทำกิจกรรมต่างๆ ได้อย่างอุ่นใจ ไร้กังวล ให้ความคุ้มครองครอบคลุมค่าใช้จ่ายที่เกิดจากเหตุการณ์ฉุกเฉินที่อาจเกิดขึ้นโดยไม่คาดฝัน*

*เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทกำหนด
**อัพเดทข้อมูลวันที่ 15 มีนาคม 2565

ขอบคุณข้อมูลจาก : Wego

เลือกแผนประกันการเดินทางที่ใช่สำหรับคุณ ประกันการเดินทาง Dance Moves จาก Allianz Travel

6 สิ่งที่ต้องเช็คให้ชัวร์ ก่อนออกเดินทางท่องเที่ยวต่างประเทศ

6 สิ่งที่ต้องเช็คให้ชัวร์ ก่อนออกเดินทาง ท่องเที่ยวต่างประเทศ

หลายคนคงเฝ้ารอช่วงวันหยุดยาวให้แวะเวียนมาถึง เพื่อเตรียมวางแผนเที่ยวพักผ่อนกันอย่างเต็มที่ แต่การที่จะไปไหนหลายๆ วัน Allianz Travel ขอแนะนำให้เพื่อนๆ เตรียมตัวและเตรียมความพร้อมในการดูแลบ้าน เพื่อให้เดินทาง ท่องเที่ยวต่างประเทศ อย่างสบายและไร้กังวล วันนี้เราเตรียมลิสต์ 6 สิ่งที่ควรทำเพื่อดูแลบ้านให้พร้อมและปลอดภัยก่อนออกเดินทางไกล มีอะไรบ้าง มาดูกันเลยค่ะ

1. ถอดปลั๊กไฟที่ไม่ได้ใช้งานออก

ถอดปลั๊กไฟที่ไม่ได้ใช้งานออก ก่อนเดินทางท่องเที่ยวต่างประเทศ

เรื่องไฟฟ้าเป็นสิ่งสำคัญอันดับต้นๆ เลยก็ว่าได้ เราควรตรวจดูปลั๊กไฟ เต้าเสียบไฟ เครื่องใช้ไฟฟ้าที่คุณมักชอบเสียบปลั๊กทิ้งไว้หลังการใช้งาน ควรเอาปลั๊กออกให้เรียบร้อย เพื่อลดโอกาสการเกิดไฟฟ้ารั่วหรือไฟฟ้าลัดวงจรขึ้นขณะที่เราไม่อยู่

2. เปิดไฟสว่างไว้ตรงจุดสำคัญของบ้าน

หากต้องเดินทางไกลบ้านหลายวัน เราขอแนะนำให้เปิดไฟ้ไว้ในจุดที่สำคัญๆ ของบ้าน เพราะแสงสว่างจะทำให้โจรผู้ร้ายคิดว่าบ้านมีคนอยู่ แต่หากกลัวว่าจะเปลืองไฟ เราสามารถติดตั้งหรือเลือกใช้ระบบเปิด-ปิดไฟอัตโนมัติ เพื่อให้สะดวกสบายมากยิ่งขึ้น

3. ปิดวาล์วน้ำ-ปั๊มน้ำ ก่อนออกเดินทาง

การเดินทาง ท่องเที่ยวต่างประเทศ ทำให้เราไม่อยู่บ้านเป็นระยะเวลานาน เราควรปิดวาล์วน้ำไว้ เพื่อป้องกันปัญหาท่อน้ำแตกหรือน้ำรั่วซึมขณะที่เราไม่อยู่บ้าน

4. ล็อกประตู-หน้าต่าง

ล็อกประตู - หน้าต่างของบ้าน ก่อนออกเดินทาง

ก่อนออกจากบ้านให้ตรวจเช็คความเรียบร้อยให้มั่นใจว่าเราได้ล็อกประตู และหน้าต่างภายในบ้านครบทุกบาน ทั้งชั้นล่างชั้นบน  รวมถึงประตูรั้วหน้าบ้านด้วย หาเราสามารถติดตั้งกล้องวงจรปิดได้ก็เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่ดี ช่วยให้บ้านของคุณปลอดภัยจากมิจฉาชีพ

5. เก็บของมีมูลค่าไว้ในที่ปลอดภัย

สิ่งของสำคัญ มีมูลค่าภายในบ้าน เช่น เพชร พลอย ทอง เงินสด ก็ควรเก็บซ่อนไว้ให้มิดชิด หรือหากเรายังกังวลกับความปลอดภัยก็สามารถนำไปฝากไว้กับญาติพี่น้องที่ไว้ใจได้ หรือหากสิ่งของมีมูลค่ามากมหาศาลก็อาจจะเลือกใช้วิธีการเช่าตู้เซฟของธนาคารเพื่อเก็บสิ่งของเหล่านั้นไว้ได้

6. ฝากบ้านกับเพื่อนบ้านหรือตำรวจก่อนเดินทาง ท่องเที่ยวต่างประเทศ

แจ้งเพื่อนบ้านหรือเพื่อนร่วมที่พักห้องใกล้เคียงที่สนิทและไว้ใจได้ให้ช่วยสอดส่อง คอยเป็นหูเป็นตาให้ในระหว่างที่คุณไม่อยู่บ้าน หรืออีกหนึ่งความปลอดภัยที่ได้รับความนิยมคือเข้าร่วมโครงการฝากบ้านไว้กับตำรวจ ผ่านแอพพลิเคชั่น Police I lert U เพื่อใช้ติดต่อสื่อสารระหว่างตำรวจกับเจ้าของบ้าน ด้วยการนำบาร์โค้ด หรือคิวอาร์โค้ดไปติดไว้ที่หน้าบ้านที่เข้าร่วมโครงการ เมื่อตำรวจเข้าไปตรวจดูแลความปลอดภัย ก็จะสแกนบาร์โค้ดแล้วรายงานให้เจ้าของบ้านรับทราบโดยการส่งข้อความไปยังโทรศัพท์มือถือของเจ้าของบ้าน ดังนั้นแม้ว่าเราจะอยู่ไกลบ้าน  เราก็ยังสามารถดูความเรียบร้อยของบ้านตนเองได้ทางโทรศัพท์มือถือ

นอกจากนี้ เรายังไม่ควรประกาศให้คนอื่นรู้ว่าเราจะไม่อยู่บ้านหลายวัน เพราะเอาเป็นการเปิดช่องให้โจรหรือขโมยรู้ว่าบ้านนี้ไม่มีคนอยู่ ดังนั้นนอกจากเราจะระมัดระวังและเตรียมบ้านให้พร้อมแล้วยังต้องระวังการโพสท์ข้อมูลต่างๆ ในโซเชียลด้วยนะคะ

และสิ่งสำคัญที่ต้องมีติดตัวไว้คือ ประกันการเดินทางDance Moves” จาก Allianz Travel ที่มีความคุ้มครองกรณีเกิดเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝันในต่างประเทศ ไม่ว่าจะเป็นการเจ็บป่วยขณะเดินทาง เที่ยวบินล่าช้า และอื่นๆ อีกมากมาย ที่ช่วยให้คุณทำกิจกรรมต่างๆ ตลอดทริปได้อย่างอุ่นใจ ไร้กังวล*

*เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทกำหนด

เลือกแผนประกันการเดินทางที่ใช่สำหรับคุณ ประกันการเดินทาง Dance Moves จาก Allianz Travel

เช่ารถเที่ยวต่างประเทศ ต้องเตรียมตัวอย่างไร

เช่ารถเที่ยวต่างประเทศ ต้องเตรียมตัวอย่างไร

การเดินทางไปยังสถานที่ที่น่าสนใจระหว่างการท่องเที่ยวต่างประเทศ มีทางเลือกหลายรูปแบบ ทั้งทางรถ เรือ หรือเครื่องบินโดยสารภายในประเทศ เราอาจเลือกใช้บริการการขนส่งสารสาธารณะ หรือการเช่ารถขับ ซึ่งการ เช่ารถเที่ยวต่างประเทศ ก็เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ช่วยอำนวยความสะดวกให้เข้าถึงสถานที่ท่องเที่ยวที่อยู่ห่างไกลได้ง่ายยิ่งขึ้น และง่ายต่อการจัดการให้ได้ตามเวลาที่เราวางแผนการเดินทางไปยังสถานที่ต่างๆ วันนี้ Allianz Travel มีเช็คลิสต์การเตรียมตัวเช่ารถขับเที่ยวต่างประเทศมาฝากเพื่อนๆ กันค่ะ รับรองว่าหากทำตามรายการนี้แล้ว ทริปขับรถเที่ยวของเพื่อนๆ ต้องสนุก ปลอดภัย และไร้ปัญหาที่ต้องมาคอยกังวลกันค่ะ

1. วางแผนการเดินทางและศึกษาเส้นทางล่วงหน้า

วางแผนการเดินทาง สำหรับการ เช่ารถเที่ยวต่างประเทศ

ก่อนออกเดินทาง เราควรวางแผนการเดินทางไว้ล่วงหน้าเพื่อให้การขับรถเที่ยวของเราเป็นไปอย่างราบรื่น ตัวอย่างเช่น


1.1 ศึกษาและเช็คเส้นทางที่จะเดินทางไปยังจุดหมาย หากมีหลายเส้นทาง ให้เลือกเส้นทางที่มีสถานที่ หรือสิ่งอำนวยความสะดวกหากเกิดเหตุการณ์ฉุกเฉิน จะได้ขอความช่วยเหลือได้ทัน

  • ดูรายละเอียดของสถานที่ต่างๆ ที่เราต้องขับผ่านตามเส้นทาง ทำเครื่องหมายมาร์คจุดสำคัญไว้ในแผนที่ เช่น ปั๊มน้ำมัน ร้านอาหาร สถานที่ท่องเที่ยวที่ต้องการแวะบนเส้นทาง สถานีตำรวจ โรงพยาบาล โรงแรมหรือที่พัก เป็นต้น
  • ศึกษารายละเอียดของจุดหมายปลายทางที่เรากำลังจะเดินทางไปท่องเที่ยว รวมถึงบริเวณที่จอดรถหรือทางเข้าออก

1.2 ตรวจสอบสภาพภูมิอากาศก่อนออกเดินทาง

การที่เราตรวจเช็คสภาพอากาศก่อนออกเดินทาง ช่วยให้เราเตรียมอุปกรณ์ที่จำเป็นไว้ล่วงหน้า อย่างเช่น หากเดินทางไปในสถานที่ที่มีโอกาสจะมีหิมะตก เราก็ต้องใช้รถที่มียางรถยนต์สำหรับวิ่งบนหิมะ หรือที่เรียกว่ายางหิมะเป็นยางรถยนต์ที่มีดอกยางพิเศษกว่ายางรถยนต์ทั่วๆไปและยึดเกาะบนถนนได้ดีกว่ายางธรรมดา  ถึงแม้ว่าจุดเริ่มเดินทางจะไม่มีหิมะตกก็ตาม แต่ในระหว่างเดินทางหรือจุดหมายปลายทางอาจมีหิมะตกก็ได้ ดังนั้นก่อนเดินทางจึงต้องศึกษาสภาพอากาศให้ดี และควรใช้ความระมัดระวังในการขับขี่เพิ่มขึ้นหากขับรถบนถนนที่มีหิมะ

2. ศึกษาข้อมูลกฎระเบียบการจราจร

ศึกษาข้อมูลกฎระเบียบการจราจรของประเทศต่างๆ  สำหรับการ เช่ารถเที่ยวต่างประเทศ

กฎระเบียบการจราจรของแต่ละสถานที่ท่องเที่ยวในแต่ละภูมิภาคของโลกมีรูปแบบและวัฒนธรรมในการใช้รถใช้ถนนที่แตกต่างกันออกไป ไม่ว่าจะเป็นภูมิภาคอเมริกา ยุโรป และเอเชีย ดังนั้นเราควรศึกษาเส้นทางในการออกเดินทางไปยังสถานที่ต่างๆ ให้ดี ศึกษาข้อมูลกฎระเบียบการจราจร ศึกษาป้ายจราจร รูปแบบและวัฒนธรรมในการใช้รถใช้ถนนของแต่ละประเทศที่เราต้องการจะไป เพื่อป้องกันเหตุการณ์ที่อาจทำให้ทริปของเราหมดสนุก

3. จองรถที่ต้องการเช่าไว้ล่วงหน้า

ทำการ เช่ารถเที่ยวต่างประเทศ ไว้ล่วงหน้า

เพื่อให้การเดินทางเป็นไปตามแผนที่เราวางไว้ และไม่เสียเวลาในวันออกเดินทางจริง เราควรทำการเช่ารถให้เรียบร้อยก่อนออกเดินทาง โดยติดต่อบริษัทเช่ารถล่วงหน้า หรือผ่านระบบการเช่ารถออนไลน์ นอกจากนั้น การจองล่วงหน้าหลายวัน ก็อาจทำให้เราได้รับส่วนลด หรือโปรโมชั่นอื่นๆ เพิ่มเติมอีกด้วย ที่สำคัญทำให้เราสามารถประหยัดเวลาและลดขั้นตอนความยุ่งยากในการเช่ารถที่จะเกิดขึ้นในวันที่ไปรับรถ หรือออกเดินทาง

4. เตรียมเอกสารสำคัญที่จำเป็นสำหรับการเช่ารถเที่ยวต่างประเทศ

เตรียมใบขับขี่สากลและเอกสารสำคัญที่จำเป็นสำหรับการ เช่ารถเที่ยวต่างประเทศ

เตรียมเอกสารสำคัญที่ใช้ในการเช่ารถในต่างประเทศ อย่างน้อยที่เราจะต้องเตรียมไว้คือ พาสปอร์ตของผู้ขับขี่ ใบขับขี่สากล และบัตรเครดิต

5. ตรวจสอบสภาพรถก่อนรับรถ

ตรวจสอบสภาพรถเช่า  สำหรับการ เช่ารถเที่ยวต่างประเทศ

ก่อนรับรถหรือก่อนออกเดินทาง ควรตรวจสอบสภาพของรถให้เรียบร้อย โดยรถควรอยู่ในสภาพที่ปลอดภัยพร้อมใช้งาน มีอุปกรณ์ที่จำเป็นในสถานการณ์ฉุกเฉินอยู่ภายในรถ เช่น ยางรถยนต์สำรอง ป้ายฉุกเฉิน สายพ่วงแบตเตอรี่ อุปกรณ์สำหรับการเปลี่ยนยางรถยนต์เบื้องต้น เป็นต้น

6. ถ่ายรูปรถก่อนรับมาใช้งานและก่อนส่งคืนหลังจากการใช้งาน

ถ่ายรูปรถก่อนรับมาใช้งานและก่อนส่งคืนหลังจากการใช้งาน สำหรับการ เช่ารถเที่ยวต่างประเทศ

ก่อนรับและส่งรถคืน ควรถ่ายภาพหรือถ่ายวิดีโอรถเช่าให้ทั่วทุกมุมของรถ เพื่อให้เห็นสภาพโดยรอบของตัวรถโดยละเอียด โดยเฉพาะตำหนิต่างๆ ที่ปรากฎบนตัวรถ เพื่อป้องกันปัญหาที่อาจเกิดขึ้นตอนส่งคืนรถให้กับผู้ให้เช่า โดยผู้ให้เช่าอาจเรียกเก็บเงินเพิ่มเติมหรือให้ชดเชยค่าเสียหาย ดังนั้นการที่เรามีรูปหรือวิดีโอเป็นหลักฐานจะสามารถนำมาใช้ยืนยัน ในกรณีที่มีปัญหาเมื่อส่งคืนรถ

7. เตรียมโทรศัพท์มือถือ สายชาร์จ​ และแบตเตอรี่สำรองให้พร้อม

เตรียมมือถือ สายชาร์จมือถือ​ และแบตเตอรี่สำรองให้พร้อม  สำหรับการ เช่ารถเที่ยวต่างประเทศ

ปัจจุบันมีแอปพลิเคชั่นบนมือถือหรือเว็บไซต์มากมายที่ช่วยให้เราดูเส้นทาง และวางแผนการเดินทางได้อย่างสะดวก เช่น Google Maps หรือ Apple Maps เป็นต้น การเตรียมโทรศัพท์มือถือให้พร้อมจะช่วยอำนวยความสะดวกได้เป็นอย่างดี เราไม่ควรหวังพึ่งระบบ GPS จากรถเช่าแต่เพียงอย่างเดียว เพราะรถเช่าบางบิรษัทอาจไม่มีระบบ GPS หรืออาจมีแอพพลิเคชั่นที่เราไม่เคยใช้มาก่อน ทำให้เราต้องเสียเวลาศึกษา เพราะความไม่คุ้นชินกับระบบ นอกจากนี้การใช้แอปพลิเคชั่นที่เราใช้ประจำ จะช่วยให้เราวางแผนได้ล่วงหน้า เตรียมการมาร์คจุดหมายปลายทาง หรือสถานที่ต่างๆ ที่ต้องการเดินทางไว้ก่อนได้ด้วย และสิ่งสำคัญคือต้องเตรียมอุปกรณ์ที่ใช้กับโทรศัพท์มือถือให้พร้อม อย่างเช่น สายชาร์จหรือแบตเตอรี่สำรอง

8. ตรวจสอบระดับน้ำมันและระดับแบตเตอรี่คงเหลือของรถยนต์อยู่เสมอ

ตรวจสอบระดับน้ำมันคงเหลือหรือระดับแบตเตอรี่คงเหลือของรถยนต์อยู่เสมอ สำหรับการ เช่ารถเที่ยวต่างประเทศ

การ เช่ารถเที่ยวต่างประเทศ ระหว่างการเดินทาง เราควรตรวจสอบระดับน้ำมันหรือระดับแบตเตอรี่คงเหลือของรถอยู่เสมอ และในการวางแผนการเดินทางก็ควรมาร์คจุดสถานีบริการน้ำมัน หรือสถานีบริการชาร์จแบตเตอรี่รถยนต์ และควรคำนวณระยะทางในการเดินทางไปในแต่ละสถานที่โดยคร่าวๆ ไว้ในแผนการเดินทางด้วย เพื่อให้เราสามารถเข้าไปเติมน้ำมันหรือชาร์จแบตเตอรี่ได้ตามระยะทางที่กำหนดไว้

9. เตรียมเบอร์โทรศัพท์หรือช่องทางการติดต่อกรณีเกิดเหตุฉุกเฉิน

เตรียมเบอร์โทรศัพท์หรือช่องทางการติดต่อกรณีเกิดเหตุฉุกเฉิน สำหรับการ เช่ารถเที่ยวต่างประเทศ

ในการเดินทางทุกครั้ง เราควรเตรียมเบอร์โทรศัพท์หรือช่องทางสำหรับการติดต่อกับหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องในกรณีเกิดเหตุฉุกเฉิน เช่น สถานีตำรวจ โรงพยาบาลหรือรถพยาบาลฉุกเฉิน บริษัทประกันการเดินทางที่เราทำประกันไว้ บริษัทรถเช่า สถานทูตไทยประจำประเทศที่เราเดินทางไป และสถานที่สำคัญต่างๆ เป็นต้น เพื่อที่เราจะได้รับมือกับเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดที่อาจเกิดขึ้นได้

10. ทำประกันการเดินทางต่างประเทศ

ทำประกันการเดินทางต่างประเทศ สำหรับ เช่ารถเที่ยวต่างประเทศ

การเช่ารถยนต์ในต่างประเทศส่วนใหญ่จะมีส่วนของประกันที่รวมไปในค่าเช่ารถแล้ว แต่เป็นรูปแบบของประกันที่จะมีการจ่ายค่าเสียหายบางส่วนที่เกิดขึ้นให้แก่รถเช่าเท่านั้น นอกจากนี้เรายังสามารถซื้อประกันเพิ่มได้อีก เผื่อเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝัน ที่เราอาจต้องเสียค่าใช้จ่ายเป็นจำนวนมาก แต่ค่าใช้จ่ายก็จะสูงขึ้นตามไปด้วยหากต้องการความครอบคลุมที่คุ้มค่ากับรถเช่าของเรา แต่เราก็มีมีทางเลือกหนึ่งที่ช่วยให้เราไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายในการทำประกันเป็นจำนวนมาก แต่ได้รับความคุ้มครองครอบคลุมในส่วนของความเสียหายที่เกิดกับรถเช่าด้วย คือการทำประกันการเดินทางที่มีความคุ้มครองครอบคลุมในส่วนของรถเช่าด้วย

นอกจากช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายกรณีที่เกิดเหตุการณ์ไม่คาดคิดกับรถแล้ว ประกันภัยการเดินทางยังช่วยคุ้มครองกรณีเจ็บป่วย หรือเหตุฉุกเฉินอื่นๆ อีกด้วย ช่วยให้เราสามารถเดินทางได้อย่างอุ่นใจ ไม่ต้องกังวลระหว่างการเดินทาง

การเช่ารถขับเที่ยวในต่างประเทศช่วยให้เราเดินทางท่องเที่ยวได้สะดวกสบาย สามารถเดินทางไปยังสถานที่ต่างๆ ได้ตามแผนที่วางไว้  อยากหยุดแวะเที่ยวถ่ายรูประหว่างทางก็สามารถทำได้ แต่ต้องมีการเตรียมตัววางแผนและเตรียมความพร้อมสำหรับการเดินทางให้ดี และสิ่งสำคัญที่เราควรมีทุกครั้งที่เดินทางไปต่างประเทศ คือ ประกันการเดินทาง ที่จะช่วยให้แผนการเดินทางของเราไม่สะดุด สามารถทำกิจกรรมต่างๆ ได้อย่างอุ่นใจ ไร้กังวล ให้ความคุ้มครองครอบคลุมค่าใช้จ่ายที่เกิดจากเหตุการณ์ฉุกเฉินที่อาจเกิดขึ้นโดยไม่คาดฝัน*

*เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทกำหนด

เลือกแผนประกันการเดินทางที่ใช่สำหรับคุณ แผนประกันการเดินทาง Dance Moves จาก Allianz Travel

Common tourist scams and how to avoid them

รู้ทันกลโกงมิจฉาชีพในสถานที่ท่องเที่ยว

การได้ไปเดินทางท่องเที่ยวต่างประเทศน่าจะเป็นอีกหนึ่งความฝันของใครหลายๆ คน ไม่ว่าจะเป็นแถบยุโรป อเมริกา หรือแม้แต่ในเอเชียก็ตาม บางคนอุตส่าห์เตรียมตัวหาข้อมูลเรื่องสถานที่ท่องเที่ยวไปอย่างดี เพื่อให้การเดินทางครั้งนั้นเป็นสิ่งที่น่าจดจำ แต่บางครั้งระหว่างที่เรากำลังประทับใจกับสถานที่นั้นๆ ก็มีมิจฉาชีพเข้ามาร่วมซีน จนเกิดเหตุการณ์ที่ทำให้ทริปนั้นกลายเป็นฝันร้ายได้ 

วันนี้ Allianz Travel นำกลโกงของมิจฉาชีพมาบอกเล่าให้เพื่อนๆ ฟัง เพื่อให้ระวังตัว และเที่ยวได้อย่างปลอดภัย ซึ่งมิจฉาชีพจะเข้ามาหาเราในรูปแบบใดบ้างมาดูกันเลย

1. มิจฉาชีพที่มาในรูปแบบแก๊งบังคับซื้อ

ในสถานที่ท่องเที่ยวที่เป็นที่นิยม จะมีกลุ่มคนที่คอยมองคนที่ไม่ทันระวังตัว และเดินตรงปรี่เข้ามาแบบไม่ให้เราตั้งตัว พร้อมกับยื่นของหรือยัดเยียดใส่มือเรา อย่างเช่น อาหารนกพิราบ ผ้า สิ่งของต่างๆ ถ้าเราเผลอรับไป ก็จะโดนเรียกให้จ่ายเงินทันที หากเราไม่จ่าย พวกเขาก็จะเริ่มโวยวาย และพยายามกันไม่ให้เราเดินหนี และอาจจะล้วงกระเป๋าเอาสิ่งของมีค่าไป ในจังหวะที่เรามัวแต่สนใจคนที่โวยวายอยู่ข้างหน้า ฉะนั้น หากเข้าไปในสถานที่ท่องเที่ยวที่มีคนเยอะ เราควรมองซ้ายมองขวา ถ้าเห็นใครเดินเข้ามายื่นของให้เรา เราควรรีบเดินหนีทันทีจะดีที่สุด

2. มิจฉาชีพที่มาในรูปแบบตำรวจปลอม

จะทำเป็นเข้ามาขอตรวจสอบเอกสารประจำตัวของเรา เช่น พาสปอร์ต ซึ่งหากเราเป็นนักท่องเที่ยวที่อยู่ต่างถิ่น ก็อาจรู้สึกตกใจกลัว จนไม่ทันระวัง ตำรวจปลอมเหล่านี้ก็จะชิงกระเป๋าเราหนีไปทันที หรืออาจเข้ามาบอกว่ามีการแพร่ระบาดของธนบัตรปลอม และขอตรวจเงินที่เราพกอยู่ ถ้าเราหยิบกระเป๋าขึ้นมาก็อาจจะโดนฉกชิงไปเลย ดังนั้นหากเราเจอตำรวจเดินเข้ามาหา ก็ให้ระวังไว้สักหน่อย ขอตรวจสอบบัตรประจำตัว หรือสอบถามความผิดของเราให้ชัดเจนเสียก่อน

3. มิจฉาชีพที่มาในรูปแบบการแกล้งทำของหล่น

หากเราเดินเที่ยวอยู่ แล้วเจอคนทำของตก กระจัดกระจาย เราขอแนะนำให้เดินผ่านไปเลย เพราะหากเราเข้าไปช่วยเหลือเก็บของเหล่านั้น จะเป็นจังหวะที่เราไม่ได้สนใจสิ่งรอบข้าง ซึ่งถือว่าเป็นจังหวะทองของมิจฉาชีพที่สามารถเอาของมีค่าไปจากเราได้ โดยที่เราไม่รู้ตัวเลยทีเดียว

4. มิจฉาชีพที่มาในรูปแบบโจรในคราบนักบุญ

หากเราถือของเยอะ ถือกระเป๋าใบใหญ่ หรือแวะซื้อตั๋วรถไฟตามตู้กดอัตโนมัติ ก็อาจมีมิจฉาชีพเข้ามาแสดงตัวให้ความช่วยเหลือ หากเรายอมให้ช่วยยกของ หรือให้ช่วยซื้อตั๋วให้ ก็อาจเจอการขอค่าตอบแทนทันที ซึ่งหากเราไม่ให้ พวกเขาก็จะส่งเสียงโวยวายใหญ่โตใส่เรา ดังนั้นควรปฎิเสธความช่วยเหลือจากคนที่เราไม่รู้จักตั้งแต่แรกเลยจะดีที่สุด

5. มิจฉาชีพที่มาในรูปแบบการสอบถามทาง “ฉันจะไปที่นี่ได้ยังไง?”

มิจฉาชีพบางคนมาในรูปแบบถือแผนที่แผ่นใหญ่ๆ ทำตัวเหมือนเป็นนักท่องเที่ยว และเข้ามาถามทางกับเรา หากเราพยายามช่วย และใช้สมาธิไปกับการดูแผนที่ ทำให้มีจังหวะที่เราไม่ทันได้ระวังตัว ก็จะมีมิจฉาชีพอีกคนเข้ามาล้วงกระเป๋า หรือหยิบของของเราไปดื้อๆ ซึ่งหากพบเจอก็ให้เดินหนีไปเลยดีที่สุด

6. มิจฉาชีพที่มาในรูปแบบการขอให้ช่วยถ่ายรูปให้หน่อย

มิจฉาชีพในคราบนักท่องเที่ยวอีกประเภทหนึ่งจะเดินเข้ามายื่นกล้องให้คุณช่วยถ่ายรูปให้ หากคุณใจดีรับกล้องมาเพื่อที่จะถ่ายรูปให้ และในขณะที่ถ่ายอยู่ ก็จะไม่มีเหตุการณ์อะไรเกิดขึ้น แต่ว่าในจังหวะที่เราส่งกล้องคืนเท่านั้นแหละ มิจฉาชีพจะแกล้งทำกล้องตก แล้วโวยวายเสียงดัง เพื่อเรียกร้องให้เราจ่ายค่าเสียหาย

7. มิจฉาชีพที่มาในรูปแบบอาสาสมัครถ่ายรูปให้ไหม

มิจฉาชีพบางคนจะแกล้งทำเป็นคนมีน้ำใจ เมื่อเห็นว่าเรากำลังถ่ายรูป ก็อาจเดินเข้ามาอาสาเป็นคนถ่ายรูปให้ และเมื่อถ่ายรูปให้เราเสร็จแล้ว มิจฉาชีพก็จะขอเงินค่าถ่ายรูปกับเราทันที หรือในกรณีที่เลวร้ายที่สุดคือเอากล้องสุดรักของเราวิ่งหนีหายไปเลย

8. มิจฉาชีพที่มาในรูปแบบขอทานปลอม

บางคนใช้ความขี้สงสารของคนเป็นเครื่องมือ แต่งตัวเหมือนขอทานมาขอเงินนักท่องเที่ยว หากเราหยิบกระเป๋าเงินออกมา ก็อาจจะถูกชิงไปจากมือแล้ววิ่งหนี หรือมีอีกกรณีคือหากเราส่งเงินไปให้ 1 คน ก็จะมีขอทานคนอื่นมารุมล้อม จนเราไม่สามารถเดินไปไหนได้จนกว่าจะให้เงิน และท้ายที่สุดก็อาศัยจังหวะชุลมุนล้วงกระเป๋าเราไปอีกด้วย

9. มิจฉาชีพที่มาในรูปแบบการขายตั๋วปลอม

สถานที่ท่องเที่ยวบางแห่งจะต้องมีการซื้อตั๋วเข้าชม ซึ่งจะมีมิจฉาชีพบางกลุ่มนำตั๋วปลอมมาขายในราคาที่ถูกจนน่าตกใจ ซึ่งหากเราหลงกลซื้อเพราะคิดว่าสามารถประหยัดเงินได้ แต่กลับกลายเป็นว่าตั๋วที่ได้มาเป็นของปลอมที่ไม่สามารถใช้งานได้ และจะต้องเสียเงินซื้อตั๋วใหม่อีกครั้ง

10. มิจฉาชีพที่มาในรูปแบบองค์กรช่วยเหลือสังคม

แก๊งมิจฉาชีพบางแก๊งจะทำตัวเหมือนเป็นองค์กรที่ช่วยเหลือสังคม เข้ามาโน้มน้าวพูดข้อมูลยาวเหยียด พร้อมให้ช่วยลงชื่อสนับสนุน ถ้าเรามัวแต่ให้ความสนใจไปกับเรื่องราวที่พวกนี้เล่าให้ฟัง ก็จะเป็นเป้าหมายให้มิจฉาชีพที่รออยู่เข้ามาล้วงกระเป๋า โดยที่เราไม่ทันรู้ตัวก็เป็นได้

11. มิจฉาชีพที่มาในรูปแบบการขอเงินทอนจากการซื้อตั๋วจากตู้จำหน่ายตั๋วอัตโนมัติ

มิจฉาชีพกลุ่มสุดท้ายจะรอจังหวะที่คุณซื้อตั๋วจากตู้จำหน่ายตั๋วอัตโนมัติตามที่ต่างๆ แล้วก็จะเข้ามาขอเงินคุณแบบไม่อายฟ้าอายดินกันเลยทีเดียว หากคุณไม่ยอมให้ ก็จะโวยวายเสียงดัง ทางทีดีหากพบเจอก็ให้เดินหนี หรือเปลี่ยนที่ซื้อตั๋วเลยจะเป็นการดีที่สุด

จะเห็นได้ว่ากลโกงที่เหล่ามิจฉาชีพใช้มักมาจากความเมตตาใจดีของนักท่องเที่ยว ฉะนั้น หากเราเดินทางท่องเที่ยวไม่ว่าจะไปคนเดียวหรือไปเป็นกลุ่ม เราก็ควรระมัดระวังตัวเองให้ดี ปิดกระเป๋าให้แน่นสนิทและเก็บไว้ใกล้ตัวตลอดเวลา และถึงแม้จะดูใจร้ายใจดำแต่การที่เราทำตัวไม่สนใจคนอื่น หรือไม่เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับเหตุการณ์รอบข้างก็เป็นวิธีที่ทำให้เราปลอดภัยห่างไกลจากมิจฉาชีพได้ และสิ่งสำคัญที่ควรมีทุกครั้งที่เดินทางไปต่างประเทศ คือประกันภัยการเดินทาง ที่จะช่วยให้แผนการเดินทางของเราไม่สะดุด ทำกิจกรรมต่างๆ ได้อย่างอุ่นใจ ไร้กังวล โดยมีความคุ้มครองที่ครอบคลุมค่าใช้จ่ายที่เกิดจากเหตุฉุกเฉินที่อาจเกิดขึ้นโดยไม่คาดฝัน* 

*เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทกำหนด

เลือกแผนประกันการเดินทางที่ใช่สำหรับคุณ แผนประกันการเดินทาง Dance Moves จาก Allianz Travel