6 ข้อเตรียมพร้อม พาครอบครัวเที่ยวต่างประเทศ

หนึ่งในความฝันของลูก ๆ หลายคนเมื่อเข้าสู่วัยทำงานแล้ว ก็คือการพาครอบครัวไปเที่ยวต่างประเทศพร้อมหน้าพร้อมตากัน แต่การจะไปเที่ยวทั้งครอบครัวก็อาจจะต้องมีการเตรียมการบางอย่างเป็นพิเศษต่างจากการไปเที่ยวเองหรือไปกับกลุ่มเพื่อน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ถ้าไปกับพ่อแม่หรือผู้สูงอายุ เราควรจะต้องวางแผนการท่องเที่ยวอย่างรอบคอบและรัดกุมเหมาะสมกับท่านด้วย ดังนั้น Allianz Travel จึงขอเสนอข้อแนะนำ 6 ข้อเตรียมพร้อม สำหรับผู้อ่านที่กำลังวางแผนพาครอบครัวไปเที่ยวเมืองนอก ว่าจะวางแผนเที่ยวกันอย่างไร และต้องเตรียมพร้อมอย่างไรบ้าง ไปดูกันเลยค่ะ

1.กำหนดสถานที่เที่ยวตามใจครอบครัว

การวางแผนพาพ่อแม่หรือครอบครัวเที่ยว สิ่งแรกที่ควรหลีกเลี่ยงเลยคือการกำหนดที่เที่ยวตามใจเรา เพราะพ่อแม่ท่านอาจจะไม่ชอบ หรือสถานที่นั้นอาจไม่เหมาะสำหรับผู้สูงอายุ ดังนั้นแล้ว ควรถามคุณพ่อคุณแม่และคนอื่น ๆ ก่อนว่า อยากไปที่ไหนและให้ท่านเลือกเลย โดยเราอาจจะเสนอประเทศเที่ยวให้ท่านเป็นตัวเลือกสัก 5 ประเทศ และกิจกรรมที่จะไปทำอย่างคร่าว ๆ หรือถ้าคุณพ่อคุณแม่มีที่เที่ยวอยู่ในใจแล้ว ก็ยิ่งสบายไปใหญ่ การกำหนดสถานที่เที่ยวตามใจครอบครัวถือเป็นเรื่องที่สำคัญมาก ๆ และไม่ควรมองข้ามนะคะ

2.กำหนดแผนเที่ยวตามไลฟ์สไตล์ครอบครัว

นอกจากจะกำหนดสถานที่เที่ยวตามใจครอบครัวแล้ว ไลฟ์สไตล์ก็เป็นสิ่งสำคัญค่ะ ถ้าไปเที่ยวกับพ่อแม่ ก็ต้องดูว่าท่านชอบเที่ยวแบบไหน เที่ยวสบาย ๆ กับทัวร์ หรือเป็นสายลุย ชอบเที่ยวเอง ถ้าไปเที่ยวกันเอง ก็ต้องดูว่าสุขภาพท่านเป็นอย่างไรบ้าง แข็งแรงขนาดไหน เพราะบางสถานที่ วัน ๆ เดินไม่ต่ำกว่า 5 กิโลเลยค่ะ ถ้าสุขภาพไม่แข็งแรงแล้ว ก็แนะนำให้พาท่านไปกับทัวร์จะดีกว่าค่ะ แต่ถ้าไม่ชอบไปทัวร์กับคนอื่น ก็อาจจะจองทัวร์ส่วนตัว หรือว่าเช่ารถขับเที่ยวก็เป็นอีกหนึ่งทางเลือกค่ะ นอกจากนี้ ถ้ามีเด็ก ๆ ไปเที่ยวด้วย ก็ต้องคำนึงว่า เด็กจะซนไหม หรือเด็กจะเบื่อไหม โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ถ้าต้องไปสถานที่ท่องเที่ยวที่คนเยอะ ๆ อาจพลัดหลงกันได้เลย

3.วางแพลนเที่ยวแบบหยืดหยุ่น และเลือกโรงแรมที่พักให้ดี

โดยปกติแล้ว ถ้าเราไปเที่ยวคนเดียว หรือเที่ยวกับเพื่อน เราก็จะวางตารางเที่ยวแน่นมากภายในหนึ่งวัน (เรียกได้ว่าเที่ยวให้คุ้มเลยหล่ะค่ะ) ภายในหนึ่งวัน ตั้งแต่เช้ายันค่ำ เราอาจเที่ยวได้ 7-8 สถานที่เลย แต่เมื่อเราไปกับครอบครัวแล้ว ไม่ควรวางตารางเที่ยวให้แน่นมากนัก ควรมีความยืดหยุ่นและเผื่อเวลา ในแต่ละวัน กำหนดสถานที่เที่ยวสัก 3-4 ที่ ก็เพียงพอแล้วค่ะ นอกจากนี้แล้ว การเลือกโรงแรมที่พักก็สำคัญ ไปคนเดียวหรือไปกับเพื่อนจะนอนพักที่ไหนก็ได้ แต่ไปกับครอบครัว ต้องนอนโรงแรมดี ๆ ไว้ก่อน ความสะดวกสบาย บรรยากาศ อาหาร และการบริการต่าง ๆ เป็นปัจจัยสำคัญ เพราะไปกับคุณพ่อคุณแม่ เราก็อยากให้ท่านได้รับความสะดวกสบายที่สุด ที่สำคัญ อย่าลืมเลือกโรงแรมที่ใกล้กับรถไฟฟ้า หรือใกล้กับแหล่งท่องเที่ยวและตลาดนะคะ เพราะจะช่วยเพิ่มความสะดวกสบายเป็นสองเท่า รับรองว่าคุณพ่อคุณแม่และครอบครัวต้องชอบแน่ ๆ ค่ะ

4.วางแผนค่าใช้จ่ายทั้งทริป

การพาพ่อแม่และครอบครัวไปเที่ยว ไม่เหมือนกับการพาเพื่อนหรือแฟนไปเที่ยว ที่เราสามารถช่วยกันออกค่าใช้จ่ายได้ การไปเที่ยวกับครอบครัว อย่างน้อยเราต้องรับผิดชอบค่าใช้จ่ายสามคน (พ่อ แม่ และตัวเอง) เพราะฉะนั้นแล้ว เมื่อเลือกสถานที่เที่ยวได้แล้ว เลือกได้ว่าจะไปเองหรือไปกับทัวร์แล้ว ต้องวางแผนค่าใช้จ่ายทั้ง ทริปให้ดีว่า จะใช้เงินไปกับอะไรบ้าง ไม่ว่าจะเป็นค่าตั๋วเครื่องบิน ค่าทัวร์ ค่าอาหาร ค่าที่พัก ค่าบัตรเข้าสถานที่เที่ยวและค่าใช้จ่ายอื่น ๆ ที่อาจเกิดขึ้นตามมา ดังนั้นแล้ว ควรกำหนดไปเลยว่าจะใช้จ่ายไปกับอะไรบ้าง ทั้งทริปจะใช้จ่ายเท่าไหร่ และพยายามคุมงบประมาณให้อยู่ในแผน งบประมาณจะได้ไม่บานปลายค่ะ

5.จัดเตรียมเอกสารเดินทางและเอกสารอื่นๆ

ถ้าหากว่าครั้งนี้เป็นการเดินทางไปต่างประเทศครั้งแรกของพ่อแม่ ดังนั้นเราก็ต้องคอยดูแลเรื่องเอกสารสำคัญสำหรับท่านด้วย ไม่ว่าจะเป็นการพาท่านไปทำพาสปอร์ต จัดการทำวีซ่า หรือเอกสารอื่น ๆ ที่จำเป็นในการเดินทางและการผ่านขั้นตอนการตรวจคนเข้าเมืองด้วย จะได้ไม่ติดปัญหาอะไรตั้งแต่เริ่มต้น พาลให้ท่านต้องหงุดหงิดใจจนเที่ยวไม่สนุกซะเปล่าๆ

6. ซื้อประกันการเดินทางสำหรับครอบครัว เตรียมพร้อมเรื่องความปลอดภัยในระหว่างการเดินทางท่องเที่ยว

ในยามที่เราต้องพาคุณพ่อคุณแม่ไปเที่ยวต่างประเทศ เรื่องความปลอดภัยนั้นเป็นเรื่องที่ต้องเตรียมพร้อมไว้เช่นกัน เพราะเราไม่มีทางรู้เลยว่าระหว่างการเที่ยวแล้ว จะเกิดเหตุการณ์อะไรขึ้นบ้าง ยิ่งถ้าเราดูแลเพียงลำพัง ก็อาจจะดูแลได้ไม่ทั่วถึง ถ้าคุณพ่อคุณแม่พลาดท่าลื่นล้ม เกิดอุบัติเหตุ และต้องเข้าโรงพยาบาล เราก็อาจจะต้องกันเงินไว้สำหรับค่ารักษาด้วย แต่แอบกระซิบก่อนเลยว่า ค่าใช้จ่ายรักษาพยาบาลเมืองนอก แพงมาก บางเคสถึงหลักล้านเลยทีเดียว ดังนั้นจะให้ดีที่สุด การซื้อประกันการเดินทางสำหรับครอบครัวไว้ก่อน ย่อมอุ่นใจกว่าค่ะ อย่างน้อยเราก็มีประกันที่จะคุ้มครองค่ารักษาพยาบาลเผื่อไว้แล้ว และเอาเงินที่อาจต้องกันไว้ ไปใช้จ่ายเพื่อความสุขของท่านให้เต็มที่จะดีกว่าค่ะ

การวางแผนเที่ยวกับครอบครัวเป็นเรื่องที่ต้องใช้เวลา และความรอบคอบเป็นพิเศษ เพื่อที่จะให้ทุกคนในครอบครัวมีความสุขกับทริปที่จะไป เมื่อเตรียมตัวพร้อมทุกข้อแล้ว ก็ถึงเวลาออกเดินทางจริงแล้วค่ะ สำหรับใครที่สนใจประกันการเดินทาง ที่ Allianz Travel เรามีประกันการเดินทางสำหรับครอบครัว คุ้มครองสูงสุดถึง 4 ท่าน ในราคาพิเศษ โดยคุ้มครองครอบคลุมค่ารักษาพยาบาล และความช่วยเหลือฉุกเฉิน เพียงเท่านี้ ก็ท่องเที่ยวอุ่นใจ หายห่วงได้แล้วค่ะ

เรามุ่งมั่นที่จะช่วยเหลือและดูแลคุณ

อลิอันซ์ทราเวลเป็นผู้นำระดับโลกด้านประกันภัยการเดินทางและบริการช่วยเหลือทั่วไป เรามีแผนประกันภัยที่หลากหลายให้เลือก ครอบคลุมตั้งแต่แผนรายเที่ยว แผนรายปี แผนครอบครัว ไปจนถึงแผนเดินทางศึกษาต่อต่างประเทศ เราทุ่มเทที่จะให้บริการช่วยเหลือและปกป้องคุณทุกที่ ทุกเวลาเท่าที่เราจะทำได้ เราไม่ได้จำกัดอยู่แค่ประกันภัยและการให้ความช่วยเหลือ แต่เรามุ่งเน้นไปที่สิ่งที่มากกว่านั้น และทุกบริการของเราก็เพื่อลูกค้าคนสำคัญของเรา

7 ข้อ เตรียมตัวให้พร้อม ก่อนไปเรียนต่อต่างประเทศ

การเดินทางไปศึกษาต่อต่างประเทศเป็นจุดมุ่งหมายและความฝันของใครหลาย ๆ คนที่ต้องการหาความรู้เพิ่มเติม และความก้าวหน้าในหน้าที่การงาน เมื่อเราสมัครเรียนต่อและผ่านการคัดเลือกเรียบร้อยแล้ว ก่อนที่เราจะออกเดินทางนั้น ก็มีเรื่องให้เตรียมตัวอยู่พอสมควร อาทิ เรื่องเอกสาร การวางแผนการใช้จ่ายเงิน การจองที่พักและตั๋วเครื่องบินต่างๆ เป็นต้น Allianz Travel จึงขอชวนผู้อ่านที่กำลังเตรียมตัวไปเรียนต่อเมืองนอก มาสำรวจกันว่า ก่อนที่จะออกเดินทางจริง ต้องเตรียมพร้อมอย่างไรบ้าง

1.ซื้อตั๋วเครื่องบิน และหาที่พัก

เมื่อสมัครเรียน ได้รับการคัดเลือก และสมัครวีซ่าผ่านแล้ว ขั้นตอนแรกของการเตรียมตัวให้พร้อม ก่อนไปเรียนนอก ก็คือการซื้อตั๋วเครื่องบินและหาที่พักนั่นเอง โดยปกติแล้ว เราจะจองตั๋วเครื่องบินก่อนเดินทางจริง ประมาณ 3 – 6 เดือน ซึ่งจะมีราคาถูกกว่าการจองแบบกระชั้นชิด ในขณะที่การหาที่พัก ถือเป็นเรื่องใหญ่พอสมควร เพราะที่พักมีหลายแบบ และหลายราคาให้เลือก ตั้งแต่หอพักในแคมปัส หอพักใกล้แคมปัส อพาร์ทเมนท์แบ่งเช่า ไปจนถึงโฮมสเตย์ การเลือกที่พักควรคำนึงถึงความสะดวกสบาย และราคาเป็นหลัก เพราะราคาที่แพงเกินไป อาจทำให้เราต้องลดค่าใช้จ่ายจำเป็นในส่วนอื่น ๆ ลง และถ้าที่พักไกลจากแคมปัสมากเกินไป การเดินทางอาจไม่สะดวกสบาย และทำให้เสียเวลาเดินทางอีกด้วย

2.แลกเงินสด และวางแผนการเงินก่อนเดินทาง

อีกเรื่องที่สำคัญไม่แพ้กัน คือการวางแผนการใช้เงินตลอดการศึกษา ไม่ว่าจะเป็นค่าเทอม ค่าใช้จ่ายส่วนตัว ค่ากิน ค่าของใช้ส่วนตัว ค่าหนังสือ ค่าเที่ยว และค่าอื่นๆ การวางแผนการใช้จ่ายก่อนเดินทาง จะทำให้เรารู้ว่าในแต่ละเดือน จะต้องใช้จ่ายประมาณเท่าไหร่ ซึ่งจะช่วยให้เราคุมงบตลอดปีได้ และก่อนออกเดินทาง อย่าลืมแลกเงินสดให้สามารถพกติดตัวอยู่ได้ประมาณ 1-2 สัปดาห์ และไปเปิดบัญชีธนาคารที่ต่างประเทศเมื่อไปถึง หรือจะใช้วิธีแลก Bank Draft หรือ Traveler’s Check ไว้ใช้ในระยะยาวก็ได้ อีกวิธีหนึ่งที่เป็นทางเลือกก็คือ การพกบัตรเครดิต หรือบัตรเดบิตจากประเทศไทยไปด้วย

3.เตรียมเสื้อผ้า ของใช้ส่วนตัว และยาประจำตัว

เสื้อผ้า ของใช้ส่วนตัว และยาประจำตัว ถือเป็นอีกเรื่องที่สำคัญ เสื้อผ้าและของใช้ส่วนตัวควรจะทำ Checklist ไว้ตั้งแต่เนิ่น ๆ ว่าต้องนำอะไรไปบ้าง จะได้ไม่ลืม เสื้อผ้าที่จะเตรียมไป ควรจะเตรียมไปโดยอิงจากสภาพอากาศของประเทศที่จะไป ถ้าไปประเทศแถวยุโรปและอเมริกา เสื้อกันหนาวเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้เลย และที่สำคัญ อย่าลืมพวกอุปกรณ์ปลั๊กพ่วง ที่ควรจะพก Universal Plug ไปเผื่อด้วย ขณะที่ยาประจำตัว เป็นสิ่งที่ลืมไม่ได้เด็ดขาด เพราะว่าบางประเทศ การจะซื้อยาได้ ต้องมีใบสั่งยาจากแพทย์เท่านั้น จึงเป็นเรื่องที่ลำบากมาก ๆ ยาที่ควรพกติดตัวไปด้วย อาทิ ยาแก้หวัด ยาแก้ปวดหัว ยาแก้ท้องเสีย ยาแก้แพ้ เป็นต้น ถ้ามีเอกสารทางการแพทย์ที่ระบุถึงโรคประจำตัวหรือยาที่ต้องทานประจำ ก็ควรจะพกติดตัวไปด้วยครับ

4.เตรียมเอกสารสำคัญต่างๆ

ก่อนเดินทางจริง ควรรีเช็กให้แน่ใจว่าไม่ลืมเอกสารสำคัญต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นพาสปอร์ต เอกสารการเรียนต่าง ๆ บัตรประชาชน หรือเอกสารอื่น ๆ ที่ระบุตัวตน เอกสารเหล่านี้สำคัญมาก ๆ ถ้าลืมก็อาจทำให้เกิดความยุ่งยากตามมาอีกมาก

5.วางแพลนเที่ยว หรือหางานพิเศษทำ

แน่นอนว่าเมื่อไปเรียนต่อต่างประเทศ หลายคนก็อยากที่จะไปเที่ยวตามสถานที่ใหม่ ๆ และหาประสบการณ์ ใหม่ ๆ ที่ไม่เคยพบมาก่อนโดยปกติแล้ว จะมีทั้งหมด 3 ช่วงให้เราได้วางแพลนเที่ยวยาว ๆ ช่วงแรกคือช่วง Reading Week ซึ่งจะเป็นสัปดาห์ที่ให้นักศึกษาหยุดเพื่ออ่านหนังสือสอบ ประมาณ 1-2 สัปดาห์ ช่วงที่สองคือช่วงปิดเทอมเล็ก และช่วงที่สามคือช่วงปิดเทอมใหญ่ นอกจากนี้ สำหรับใครที่ไม่ชอบเที่ยว แต่อยากหางานพิเศษทำ ก็ควรศึกษาแต่เนิ่น ๆ ตั้งแต่ที่ไทยว่า มหาวิทยาลัยหรือแคมปัสที่จะไป โดยรอบบริเวณ มีเปิดรับสมัครพาร์ทไทม์ที่ไหนบ้าง รายได้ต่อชั่วโมงเท่าไหร่ เมื่อไปถึง เราจะได้ไม่เสียเวลามาหาที่ทำงานพิเศษอีกรอบ ไปเรียนต่อเมืองนอกทั้งที การวางแพลนเที่ยว และหางานพิเศษทำ ถือเป็นอีกหนึ่งประสบการณ์แปลกใหม่ที่ไม่ควรพลาดครับ

6.ทำความรู้จักวัฒนธรรมและประเพณีของประเทศที่จะเดินทางไป

เมื่อเราเตรียมทุกอย่างพร้อมแล้ว อีกสิ่งหนึ่งที่ควรทำการบ้านให้พร้อมก่อนออกเดินทางก็คือ การทำความรู้จักวัฒนธรรมและประเพณีของแต่ละประเทศเบื้องต้น ถ้าเราเข้าใจวัฒนธรรมและประเพณีแล้ว จะช่วยลดการเกิด Culture Shock ณ ประเทศที่เราจะเดินทางไปเรียนต่อได้ อาทิ การเข้าใจวัฒนธรรมการใช้มือกินข้าวของคนอินเดีย-มาเลเซีย หรือการนับถือศาสนาอิสลามเป็นศาสนาหลักในบางประเทศ การรู้วัฒนธรรมเหล่านี้ล่วงหน้า จะช่วยให้เราเตรียมพร้อม และปรับตัวได้ไวขึ้น

7.ซื้อประกันการเดินทาง

ข้อสุดท้าย ซึ่งถือเป็นข้อสำคัญมาก ๆ และไม่ควรมองข้าม คือการซื้อประกันการเดินทาง หลาย ๆ ประเทศ จะบังคับว่านักศึกษาต้องซื้อประกันการเดินทางไปด้วย และอีกหลาย ๆ ประเทศแนะนำให้ซื้อประกันการเดินทางก่อนไป เมื่อเราไปอยู่อาศัย ณ ประเทศปลายทางแล้ว เราไม่มีทางรู้เลยว่าจะเกิดอุบัติเหตุเมื่อไหร่ ถ้าเราไม่มีประกันการเดินทางสำหรับศึกษาต่อต่างประเทศแล้ว อุบัติเหตุบางเคส อาจจะเสียค่ารักพยาบาลเป็นล้าน! และสำหรับคนที่ซื้อประกันแล้ว เมื่อเกิดอุบัติเหตุ ก็เพียงนำค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นจริง มาเคลมประกันที่ทำไว้ได้เลย แค่นี้ก็สบายใจ หายห่วงเรื่องค่ารักษาพยาบาลแล้วครับ

เมื่อเตรียมตัวพร้อมทั้ง 7 ข้อแล้ว ก็ถึงเวลาออกเดินทางไปศึกษาต่อได้อย่างสบายใจแล้วครับ อย่าลืมนะครับว่า ประกันการเดินทางสำคัญมาก ไม่ว่าจะเจ็บป่วย หรือเกิดอุบัติเหตุระหว่างศึกษาต่อ ประกันการเดินทางก็จะช่วยคุ้มครองค่ารักษาพยาบาลทั้งหมด สำหรับใครที่กำลังมองหาประกันการเดินทางสำหรับศึกษาต่อต่างประเทศอยู่ Allianz Travel มีแผนประกันการเดินทาง Overseas Student Care ที่จะคุ้มครองครอบคลุมถึงค่ารักษาพยาบาล เพียงเท่านี้ก็มั่นใจ ไร้กังวล มีความสุขกับการเรียนได้อย่างเต็มที่แล้วครับ

เรามุ่งมั่นที่จะช่วยเหลือและดูแลคุณ

อลิอันซ์ทราเวลเป็นผู้นำระดับโลกด้านประกันภัยการเดินทางและบริการช่วยเหลือทั่วไป เรามีแผนประกันภัยที่หลากหลายให้เลือก ครอบคลุมตั้งแต่แผนรายเที่ยว แผนรายปี แผนครอบครัว ไปจนถึงแผนเดินทางศึกษาต่อต่างประเทศ เราทุ่มเทที่จะให้บริการช่วยเหลือและปกป้องคุณทุกที่ ทุกเวลาเท่าที่เราจะทำได้ เราไม่ได้จำกัดอยู่แค่ประกันภัยและการให้ความช่วยเหลือ แต่เรามุ่งเน้นไปที่สิ่งที่มากกว่านั้น และทุกบริการของเราก็เพื่อลูกค้าคนสำคัญของเรา

5 ข้อ เตรียมพร้อมก่อน ROAD TRIP

เตรียมพร้อมก่อน ROAD TRIP

ถ้าหากว่า ความสวยงามของการเดินทางคือการค้นหาความหมายระหว่างทาง และปลายทางคือความสำเร็จ จึงทำให้การเช่ารถขับเที่ยวในต่างประเทศหรือ Road Trip นั้นได้รับความนิยมมากขึ้น ตอนนี้ถือได้ว่าเป็นอีกหนึ่งเทรนด์ของนักเดินทางที่กำลังได้รับความนิยม หากใครยังไม่เคยออกไปลอง นี่ถือเป็นการท่องเที่ยวที่แตกต่างอีกรูปแบบหนึ่งที่ต้องลองสักครั้ง เพราะนอกจากเรื่องความสะดวกสบายและความเป็นส่วนตัว ยังสามารถแวะเที่ยวตามทางที่เราต้องการไปเรื่อยๆจนถึงจุดหมายได้ ไม่ว่าจะเป็นจุดชมวิวสวยๆเพื่อลง social แบบไม่ซ้ำใคร หรือร้านอาหารที่น่าสนใจนอกเหนือรายการรีวิว และที่สำคัญยังช่วยกระชับความสัมพันธ์ผู้ร่วมทริปได้อีกจากการช่วยกันแก้ปัญหา ลองผิดลองถูก เพราะไม่สามารถคาดเดาได้เลยว่าจะเจออะไรระหว่างทางบ้าง ถ้าตัดสินใจกันแล้วก็มาเตรียมตัวกับ “5 เตรียม” ที่ Allianz Travel ขอแนะนำกันเลย

  1. เตรียมตัว นอกจากเตรียมร่างกายให้พร้อมเนื่องจากการขับรถเที่ยวนั้นสิ่งสำคัญคือสุขภาพของผู้ขับ ซึ่งต้องแข็งแรงเพราะการขับรถเป็นระยะเวลานานอาจส่งผลให้เกิดความเหนื่อล้า หรือถ้าหากมีอาการเจ็บป่วยก่อนการเดินทางก็อาจเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุได้ และเกิดอันตรายต่อผู้ร่วมทางได้นั่นเอง ดังนั้นควรนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอก่อนการเดินทาง เพื่อไม่ให้เกิดการเหนื่อยล้าหรือหลับในขณะขับรถ และขับขี่รถด้วยความระมัดระวัง ไม่ขับรถเร็วเกินกว่ากฎหมายกำหนด แต่ถ้าหากเกิดอาการเหนื่อยล้า ก็แวะพักชมวิวขยับแข้งขา หรือจะถ่ายรูปสวยๆชิคๆโพสต์ลงโซเชียลแก้ความเมื่อยล้าก็ได้ นอกแผนนิดหน่อยได้ไม่ว่ากัน
  2. เตรียมใจ เพราะเหตุการณ์ฉุกเฉินนั้นอาจเกิดขึ้นได้ทุกเวลาโดยไม่มีการแจ้งล่วงหน้า ดังนั้นการเตรียมใจเผื่อไว้ ดึงสติไว้ให้มั่น เพื่อรับมือเหตุการณ์ที่อาจเกิดขึ้น เช่นอุบัติเหตุ หลงทาง น้ำมันหมด หรืออื่นๆที่อาจเกิดขึ้นได้ ข้อแนะนำคือ การเตรียมเบอร์โทรฉุกเฉินของแต่ละประเทศที่เราเดินทางไปไว้ด้วย เผื่อไว้ในกรณีเกิดเหตุไม่คาดฝันระหว่างการขับรถเที่ยว เพราะเราไม่สามารถรู้ได้ว่าอันตรายในการขับขี่หรืออุบัติเหตุจะเกิดขึ้นเมื่อใด แต่เราจะสามารถสบายใจได้มากขึ้น และอาจกลายมาเป็นความทรงจำดีๆที่ต้องเล่าต่อได้เลย
  3. เตรียมรถ ส่วนประกอบสำคัญที่สุดของการเดินทางแบบ Road Trip หลังจากการเช่ารถแล้ว ก่อนออกเดินทางเราควรตรวจเช็คความพร้อมของรถก่อนด้วยว่าระบบต่างๆสามารถใช้งานได้อย่างปกติ เพื่อให้แน่ใจว่าอุปกรณ์ต่างๆนั้นจะพร้อมใช้งานเมื่อถึงเวลา นอกจากสภาพของตัวรถเองนั้น เราควรตรวจสอบเรื่องอุปกรณ์และอะไหล่สำหรับเหตุฉุกเฉิน เช่น ยางอะไหล่ ไฟฉาย แม่แรง ประแจ เครื่องสูบยางรถยนต์ ไขควง น้ำมันสำรอง สายพ่วงแบตเตอรี่ หรือชุดปฐมพยาบาลกรณีเกิดเหตุฉุกเฉิน เพื่อว่าจะสามารถแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าได้เมื่อจำเป็น แต่หากเป็นสาวๆ ก็แนะนำว่าให้โทรหาเบอร์ฉุกเฉินที่เตรียมไว้ตามข้อ 2 แล้วนั่งรออยู่ในรถจะเหมาะกว่า ^^
  4. เตรียมแวะ วางแผนขับรถเที่ยวเองทั้งที ต้องศึกษาเส้นทางการเดินทางกันหน่อย นอกจากเรื่องระยะทาง ระยะเวลาที่ใช้ในการเดินทาง หรือเส้นทางที่จะต้องใช้ ที่แน่นอนว่าเราต้องเช็คให้เรียบร้อยก่อนการเดินทาง เราขอแนะนำอีกหน่อยเพื่อความอภิรมย์ในการเดินทาง คือ… มองหาที่เที่ยว หรือจุดที่น่าสนใจระหว่างเส้นทาง เราอาจจะได้พบ Unseen บางจุดให้ถ่ายรูปเก๋ๆ หรือร้านอร่อยที่ยังไม่มีใครเคยเจอ เอาไว้แชร์กับแคปชั่นเด็ดแนว Explorer กันหน่อย ดังนั้น กล้องต้องพร้อม พรอพต้องได้ แต่ยังไงก็ตาม อย่ามัวแต่มองหาจุดแวะจนลืมว่าเราต้องไปให้ถึงจุดหมายกันด้วยล่ะ
  5. เตรียมเอกสาร เพื่อให้ Road Trip ของเรานั้นไม่สะดุดหรือต้องยกเลิก เราควรเตรียมพร้อมเรื่องเอกสารต่างๆที่จำเป็นต้องเตรียมพร้อมจากประเทศเราด้วย เช่นใบขับขี่สากล ซึ่งสามารถทำได้ที่ กรมการขนส่งทางบกจังหวัด และเอกสารที่จำเป็นตามข้อกำหนดแต่ละประเทศ ซึ่งอาจมีความต้องการแตกต่างกันไปในบางอย่าง นอกจากนั้น เราควรคำนึงถึงเรื่องความปลอดภัยด้วยและหากว่าเราเช่ารถจากผู้ให้บริการ ก็ควรเตรียมเอกสารการจองและศึกษาเงื่อนไงและข้อกำหนดในสัญญาเช่าให้ละเอียดเรียบร้อยด้วย

นอกจากการเตรียมพร้อมทั้งหมดที่กล่าวมา การขับรถไปในเส้นทางที่เราไม่คุ้นชินนั้น เรื่องความปลอดภัยเป็นสิ่งที่ต้องระวังอย่างยิ่ง และค่าใช้จ่ายระหว่างทางก็เป็นสิ่งที่ต้องคำนึงถึงด้วย โดยเฉพาะหากเกิดเหตุการณ์ไม่คาดคิดทำให้ต้องเสียเงินเพิ่มไปกับปัญหาหรืออุบัติเหตุที่เกิดขึ้น ไม่ว่าจะเป็นความเจ็บป่วยที่อาจเกิดจากอากาศ อาหารการกิน หรือกับรถที่เช่ามา ดังนั้นการเตรียมพร้อมที่ดีและมีประกันที่ครอบคลุมถึงค่าใช้จ่ายส่วนนี้ไว้ย่อมดีกว่า เช่นความคุ้มครองประกันภัยการเดินทาง โดย Allianz Travel Thailand ที่มอบคุ้มครองที่ครอบคลุมถึงเรื่องการชดเชยความรับผิดชอบส่วนแรกสำหรับรถเช่ากรณีเกิดเหตุไม่คาดฝัน นอกเหนือจากความเจ็บป่วยและความช่วยเหลือฉุกเฉิน เพื่อช่วยผ่อนหนักเป็นเบา และลดภาระค่าใช้จ่ายที่เพิมขึ้นโดยไม่คาดคิด เพื่อให้คุณได้เดินทางท่องเที่ยวอย่างสบายใจ ไม่ต้องกังวลให้ทริปหมดสนุก

เรามุ่งมั่นที่จะช่วยเหลือและดูแลคุณ

อลิอันซ์ทราเวลเป็นผู้นำระดับโลกด้านประกันภัยการเดินทางและบริการช่วยเหลือทั่วไป เรามีแผนประกันภัยที่หลากหลายให้เลือก ครอบคลุมตั้งแต่แผนรายเที่ยว แผนรายปี แผนครอบครัว ไปจนถึงแผนเดินทางศึกษาต่อต่างประเทศ เราทุ่มเทที่จะให้บริการช่วยเหลือและปกป้องคุณทุกที่ ทุกเวลาเท่าที่เราจะทำได้ เราไม่ได้จำกัดอยู่แค่ประกันภัยและการให้ความช่วยเหลือ แต่เรามุ่งเน้นไปที่สิ่งที่มากกว่านั้น และทุกบริการของเราก็เพื่อลูกค้าคนสำคัญของเรา

ทริปยกเลิก ทำไงดี

ทริปยกเลิก ทำไงดี เคลมได้มั้ย

ช่วงนี้หลายๆคนคงเริ่มวางแผนเดินทางท่องเที่ยวประจำปีกันบ้างแล้วทั้งทริปสั้นทริปยาว หรือบางคนก็อาจกำลังทำแพลนการท่องเที่ยวต่างประเทศกันเลย วางแผนทั้งทีก็จะวุ่นวายกันหน่อย ไม่ว่า จะไปประเทศไหนดี เที่ยวที่ไหนบ้าง เดินทางยังไง งบประมาณเท่าไหร่ ต้องจองอะไรล่วงหน้าบ้างมั้ย เชื่อว่าคงมีแผนไว้ในหัวกันเรียบร้อยแล้ว ที่ต้องจองก็จองไป ที่ต้องจ่ายมัดจำก็จ่ายกันไป แต่อย่างไรก็ตาม อย่าลืมเตรียมการเรื่องความปลอดภัยเผื่อไว้ด้วยนะ โดยซื้อประกันเดินทางเอาไว้ เพื่อว่าหากเกิดกรณีเจ็บป่วยฉุกเฉินจะได้ไม่กังวล นอกจากนี้การซื้อประกันเดินทางก็มีข้อดีอีกหลายอย่างนอกเหนือจากเรื่องค่ารักษาพยาบาลและการช่วยเหลือฉุกเฉิน อย่างเช่นการเคลมกรณียกเลิกการเดินทาง ที่จะสามารถเคลมค่าใช้จ่ายคือได้หากว่ามีการยกเลิกการเดินทางตามข้อตกลงเงื่อนไขความคุ้มครอง วันนี้เราจะมาดูรายละเอียดข้อตกลงความคุ้มครอง โดยจะขอยกตัวอย่างจาก ข้อตกลงของ Allianz Travel เอง ว่ากรณีไหนที่สามารถเคลมได้บ้าง

ข้อตกลงคุ้มครองการยกเลิกการเดินทาง

กรมธรรม์ประกันภัย ให้ความคุ้มครองเมื่อการเดินทางของผู้เอาประกันภัยที่ได้รับการยืนยันแล้วถูกยกเลิกภายใน 30 วันก่อนเริ่มการเดินทาง เนื่องจากเหตุการณ์ไม่ได้คาดหมาย และอยู่เหนือการควบคุมของผู้เอาประกันภัย มีดังต่อไปนี้

  1. การเสียชีวิต การบาดเจ็บสาหัส การเจ็บป่วยรุนแรงของผู้เอาประกันภัย หรือญาติสนิท หรือผู้ใกล้ชิดทางธุรกิจ (“ผู้ใกล้ชิดทางธุรกิจ” หมายถึง บุคคลที่เกี่ยวข้องกับผู้เอาประกันภัยในการทำธุรกิจ ที่มีความสัมพันธ์ทางธุรกิจที่ต่อเนื่องกับ ผู้เอาประกันภัย และมีการพึ่งพาทางธุรกิจซึ่งกันและกันกับผู้เอาประกันภัย หรือบุคคลทางธุรกิจที่ร่วมเดินทางไปกับผู้เอาประกันภัยด้วยจุดหมายเดียวกันและจำเป็นต่อการดำเนินธุรกิจของผู้เอาประกันภัย)
  2. การยกเลิกตารางเดินทางของผู้ขนส่งสาธารณะเนื่องจาก การจลาจล การนัดหยุดงาน การประท้วง การก่อความวุ่นวาย พายุหรือไต้ฝุ่น
  3. การถูกหมายเรียกเพื่อไปให้การเป็นพยานในศาลของผู้เอาประกันภัย

โดยระยะเวลานั้นอ้างอิงจากวันที่ระบุในเอกสารใบรับรองแพทย์ ซึ่งต้องอยู่ในระหว่างวันที่ซื้อประกันการท่องเที่ยว และภายใน 30 วันก่อนเริ่มการเดินทาง และถ้าหากสาเหตุการยกเลิกการเดินทางเข้าข่ายข้อใดข้อหนึ่งดังที่กล่าวไป เราจะสามารถทำเรื่องการเคลมเพื่อให้บริษัทพิจารณาอนุมัติได้ โดยบริษัทจะจ่ายคืนให้ผู้เอาประกันภัย สำหรับเงินมัดจำล่วงหน้าที่ถูกยึด สำหรับค่าตั๋วเครื่องบินที่ไม่ได้ใช้ ค่าที่พักและค่าจองการท่องเที่ยวที่จ่ายโดยผู้เอาประกัน หรือมีสัญญาว่า ผู้เอาประกันภัยจะต้องจ่ายและไม่สามารถเรียกคืนได้ ซึ่งทั้งนี้ต้องไม่เกินจำนวนเงินเอาประกันที่ได้ระบุไว้ในหน้าตารางกรมธรรม์ประกันภัย
นอกจากนี้ยังมีเงื่อนไขต่างๆ และในกรมธรรม์จะแสดงส่วนของข้อยกเว้นการคุ้มครองด้วย โดยเงื่อนไขที่ไม่คุ้มครอง การบาดเจ็บ ความสูญเสีย หรือความเสียหาย ขึ้นอยู่กันข้อตกลงคุ้มครองตามกรมธรรม์นั้นๆ และวงเงินความคุ้มครอง ดังนั้นเราควรอ่านและทำความเข้าใจรายละเอียดของกรมธรรม์ทุกครั้งด้วย แม้ว่าจะยาวหน่อยแต่ก็คุ้มค่ากับการเสียเวลาอ่าน

ไม่ว่าจะเที่ยวมือใหม่หรือเที่ยวมือเก๋า ต่อให้วางแผนไว้ดีขนาดไหน ก็มีโอกาสเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันได้เสมอ ตั้งแต่การเจ็บป่วย จนถึงการยกเลิกการเดินทาง ดังนั้นการเตรียมพร้อมสำหรับเหตการณ์ที่อาจเกิดขึ้นไว้ก่อนย่อมดี และเป็นประโยชน์กว่า โดยเฉพาะการเลือกผู้ให้บริการที่มีความพร้อมและเครือข่ายเช่น Allianz Travel ที่ให้บริการความช่วยเหลือฉุกเฉินที่รวดเร็วและระบบเครือข่ายระดับโลก เพราะทุกวินาทีมีค่ายามฉุกเฉิน ดังนั้นเราจึงพัฒนาเพื่อให้มั่นใจได้ว่าคุณจะ “อุ่นใจทุกครั้งเมื่อเดินทาง”

เรามุ่งมั่นที่จะช่วยเหลือและดูแลคุณ

อลิอันซ์ทราเวลเป็นผู้นำระดับโลกด้านประกันภัยการเดินทางและบริการช่วยเหลือทั่วไป เรามีแผนประกันภัยที่หลากหลายให้เลือก ครอบคลุมตั้งแต่แผนรายเที่ยว แผนรายปี แผนครอบครัว ไปจนถึงแผนเดินทางศึกษาต่อต่างประเทศ เราทุ่มเทที่จะให้บริการช่วยเหลือและปกป้องคุณทุกที่ ทุกเวลาเท่าที่เราจะทำได้ เราไม่ได้จำกัดอยู่แค่ประกันภัยและการให้ความช่วยเหลือ แต่เรามุ่งเน้นไปที่สิ่งที่มากกว่านั้น และทุกบริการของเราก็เพื่อลูกค้าคนสำคัญของเรา

การเตรียมชุดกันหนาวให้พร้อมสำหรับความหนาวเย็นในทริปต่างประเทศ

ผู้ที่รักในการท่องเที่ยวที่เลือกไปท่องเที่ยวต่างประเทศในช่วงฤดูหนาวเพราะต้องการสัมผัสอากาศหนาวแบบที่บ้านเราไม่มี และแน่นอน อยากสัมผัสหิมะที่เย็นยะเยือกสักครั้งรวมทั้งเตรียมตัวสำหรับกิจกรรมบนหิมะยกตัวอย่างเช่น การเล่นสกีหรือสโนว์บอร์ด รวมไปถึงผู้ที่ชื่นชอบการผจญภัยในการเดินเขาหรือขึ้นเขาในแถบประเทศที่หนาวเย็นด้วย แน่นอนว่าอากาศที่นั่นต้องแตกต่างจากบ้านเราแน่นอนเพราะบ้านเรามีเพียงฤดูฝน ฤดูร้อนและฤดูร้อนมากเท่านั้นและไม่เคยมีหิมะตกเลยนี่สิ แล้วเราควรจะเตรียมเสื้อผ้าอย่างไรกันดีล่ะ

ก่อนอื่นต้องสำรวจก่อนว่าประเทศที่เราจะไปนั้นอยู่ในฤดูอะไร อุณหภูมิโดยประมาณเท่าไหร่ และนอกจากอากาศที่หนาวเย็นแล้วยังมีหิมะหรือลมฝนร่วมด้วยหรือไม่ เพื่อเตรียมเสื้อผ้าไปให้พร้อมกับทุกสถานการณ์เพราะถ้าป่วยขึ้นมาก็เที่ยวไม่สนุกกันพอดีน่ะสิจริงมั้ย

ประเทศที่มีอากาศหนาวเย็นระดับเบเบี๋ (15-25 องศาเซลเซียส)

อุณหภูมิระดับนี้ก็ใกล้เคียงกับอากาศทางภาคเหนือของประเทศเราในหน้าหนาว ซึ่งอากาศแบบนี้จะอยู่ในช่วงฤดูใบไม้ร่วงของประเทศทางฝั่งยุโรปและประเทศในเอเชียอย่างญี่ปุ่น เกาหลี ก่อนจะเข้าสู่ฤดูหนาว การจัดกระเป๋าก็ไม่ยากเลย

  • ชุดชั้นใน เลือกชุดชั้นในที่ใส่ปกติหรือหนาสักนิดก็ใช้ได้
  • เสื้อผ้า เสื้อเลือกที่สวมใส่สบาย สาว ๆ อาจเลือกเลกกิ้งมาปกป้องเรียวขาจากอากาศเย็นแล้วสวมมินิสเกิร์ตทับส่วนหนุ่ม ๆ ใส่ยีนส์สักตัวก็เอาอยู่
  • เสื้อกันหนาว เลือกเสื้อกันหนาวที่ช่วยกันลมอย่าง เสื้อแจ็คเก็ต หรือเสื้อโค้ทที่ไม่หนามากนักเป็นสไตล์แฟชั่นมาใส่ก็ได้
  • รองเท้า สวมถุงเท้าหนากับรองเท้าหุ้มส้นหรือผ้าใบที่ใส่สบาย

ประเทศที่มีอากาศหนาวเย็นระดับประถม (0-15 องศาเซลเซียส)

ยกระดับความหนาวเย็นขึ้นมาอีกนิดหนึ่ง อุณหภูมิขนาดนี้เป็นช่วงฤดูหนาวของต่างประเทศซึ่งหนาวกว่าบ้านเรามาก ยิ่งกับผู้ที่เคยชินกับอากาศ 20 องศาปลาย ๆ ของภาคกลางแล้วล่ะก็อาจป่วยได้ ที่อุณหภูมิขนาดนี้ควรติดผ้าพันคอและเพิ่มความอบอุ่นให้แก่ศีรษะของคุณด้วยหมวกไหมพรม สวมถุงมือไหมพรมเพื่อป้องกันลมช่วยเพิ่มความอบอุ่นให้กับมือของคุณได้เป็นอย่างดี

  • ชุดชั้นใน จุดนี้ควรเลือกชุดชั้นในที่มีความหนาเพื่อช่วยเพิ่มความอบอุ่นให้กับร่างกายแล้วสวมลองจอนทับอีกชั้น
  • เสื้อผ้า แนะนำเป็นเสื้อวูล, เสื้อฮีทเทค หรือเป็นสเวตเตอร์ที่หนาสักนิดมีแขนยาวและปิดคอเพื่อเก็บความร้อนและให้ความอบอุ่น ส่วนท่อนล่างควรสวมลองจอนวูลเพื่อเพิ่มความอบอุ่นให้ขาของคุณ และสวมกางเกงยีนส์หนา ๆ ทับอีกชั้น
  • เสื้อกันหนาว ควรเลือกเสื้อโค้ทที่มีความหนาและมีฮู้ดไว้ป้องกันความหนาวเย็นจากลมหากคุณต้องยืนตากลมนาน ๆ อาจทำให้รู้สึกไม่สบายได้ และเสื้อกันหนาวหรือโค้ทควรมีความยาวเลยสะโพกลงไปยิ่งถ้าได้เสื้อขนเป็ดก็จะดีมาก
  • รองเท้า ควรเตรียมถุงเท้าวูลและรองเท้าบูทไปด้วย

ประเทศที่มีอากาศหนาวเย็นระดับมหาวิทยาลัย ( -15 ถึง -1 องศาเซลเซียส)

ความหนาวระดับนี้เป็นระดับที่มีหิมะตกนอกจากความหนาวเย็นแล้วคุณอาจต้องพบกับความชื้นของหิมะด้วย ต้องจัดเตรียมเสื้อผ้าที่สามารถระบายความชื้นได้ดี เก็บความอบอุ่นได้ดีและกันเปียก หากเสื้อโค้ทที่คุณเตรียมไปไม่มีฮู้ดควรเตรียมหมวกไหมพรมหนา ๆ ที่ปิดหูและถุงมือไหมพรมวูล รวมถึงถุงเท้าไหมพรมวูลไปด้วย

  • ชุดชั้นใน เลือกชุดชั้นในที่มีความหนาเพื่อรักษาความอบอุ่นแล้วสวมลองจอนทับอีกชั้นหนึ่ง ควรเลือกแบบที่ระบายความชื้นได้เร็วแล้วสวมไทต์เลกกิ้งหนาและแพนตี้โฮสด้านล่าง
  • เสื้อผ้า สวมแจ็คเกตบาง ๆ หรือเสวตเตอร์ผสมขนสัตว์เพิ่มความอบอุ่นแขนยาวไว้ด้านใน ท่อนล่างใส่ลองจอนวูลที่สามารถระบายความชื้นได้ดีหากคุณต้องเจอกับหิมะสวมยีนห์หนาที่มีเนื้อผ้าสามารถกันลมได้ดีหรือกางเกงผ้าร่มบุด้านในที่สามารถกันเปียกได้ดี
  • เสื้อกันหนาว เสื้อกันหนาวควรเลือกเป็นวูลขนเป็ดและผ้าด้านนอกกันเปียก หากเป็นโค้ทควรเลือกตัวยาว ยาวถึงเขาเลยยิ่งดี มีความหนามาก ๆ แต่แนะนำเป็นเสื้อวูลขนเป็ดที่มีความหนาแน่นมากดีกว่าเพื่อเก็บความอบอุ่นให้กับคุณ และหากคุณมั่นใจว่าต้องเจอหิมะแน่ ๆ ไม่ควรเลือก Down Jacket มาใส่เพราะถึงแม้จะเบาและอบอุ่นแต่โดนความชื้นเข้าไปแจ็คเก็ตจะเปียกและไม่อุ่นอีกต่อไปจ้า
  • รองเท้า ควรเตรียมถุงเท้าวูลและรองเท้าบูทที่ยาวถึงเข่าและสามารถเดินบนหิมะได้ไปด้วย

สำหรับจำนวนนั้นขึ้นอยู่กับระยะเวลาของทริปนี้ด้วยหากไปเพียง 2-3 วันเตรียมเสื้อกันหนาวไปตัวเดียวและชุดชั้นในและเสื้อผ้าตามจำนวนวันและรองเท้าบูทและผ้าใบอย่างละคู่ก็เพียงพอแล้วแต่หากไป 7 วันขึ้นไปควรตระเตรียมเสื้อหนาวไปเผื่ออีกสักหนึ่งตัวหรือไปซื้อเพิ่มที่ประเทศนั้น ๆ ก็ได้คุณจะได้เสื้อที่เหมาะเหม็งกับสภาพอากาศทีเดียวเชียว สำหรับผู้ที่ตั้งใจไปสกีหรือปีนเขาต้องเตรียมอุปกรณ์เซฟตี้แขนขา แว่นกันลมรวมถึงถุงมือที่เหมาะสำหรับปีนเขาและเล่นสกีไปด้วยนะ

เรามุ่งมั่นที่จะช่วยเหลือและดูแลคุณ

อลิอันซ์ทราเวลเป็นผู้นำระดับโลกด้านประกันภัยการเดินทางและบริการช่วยเหลือทั่วไป เรามีแผนประกันภัยที่หลากหลายให้เลือก ครอบคลุมตั้งแต่แผนรายเที่ยว แผนรายปี แผนครอบครัว ไปจนถึงแผนเดินทางศึกษาต่อต่างประเทศ เราทุ่มเทที่จะให้บริการช่วยเหลือและปกป้องคุณทุกที่ ทุกเวลาเท่าที่เราจะทำได้ เราไม่ได้จำกัดอยู่แค่ประกันภัยและการให้ความช่วยเหลือ แต่เรามุ่งเน้นไปที่สิ่งที่มากกว่านั้น และทุกบริการของเราก็เพื่อลูกค้าคนสำคัญของเรา

ผู้ชนะ 10 TRIP … กับ 10 TIPS ในการเตรียมตัวไป TRIP ทัวร์ต่างประเทศ

เพื่อนๆ อาจเคยได้ยินประโยคเชิญชวนท่องเที่ยวที่ว่า “เที่ยวเมืองไทย ไม่ไป ไม่รู้” อย่าว่าแต่เมืองไทยเลย เราอยากบอกว่า เที่ยวเมืองนอกก็เช่นกัน แต่ที่สำคัญไปกว่านั้นคือ ถ้าไปแบบไม่รู้ และไม่ได้เตรียมอะไรเลย ต้องแย่แน่ๆ เราจึงรวบรวมและหวังว่า 10 Tips ต่อไปนี้ อาจจะช่วยคุณได้

1. เครื่องแต่งกาย

เป็นสิ่งจำเป็นที่ไม่ควรมองข้ามอย่างยิ่ง คุณควรจะศึกษาสภาพอากาศของประเทศที่คุณจะเดินทางไป หนาวไหม ร้อนมากหรือเปล่า รวมถึงข้อห้ามในท้องถิ่นของเขา เช่น ประเทศแถบตะวันออกกลาง หรือ ประเทศที่มีข้อห้ามทางศาสนาในการแต่งตัวต่างๆ ศึกษาให้ดีๆ ในกระเป๋าเดินทางของคุณจะได้เต็มไปด้วยเครื่องแต่งกายที่พร้อมใส่ทุกสถานการณ์ไงล่ะ

2. ของใช้ส่วนตัว

เครื่องแต่งกายว่าสำคัญแล้ว ของใช้ส่วนตัวยิ่งสำคัญมากขึ้นไปอีก ไม่ว่าจะเป็นสิ่งของเบสิคอย่าง แปรงสีฟัน ยาสีฟัน โฟมล้างหน้า ไปจนถึงที่โกนหนวด หรือครีมต่างๆ ขอแนะนำอีกนิดว่า คุณควรจะติดพวกทิชชู่เปียก ไม้จิ้มฟัน ชุดเข็มกับด้าย ไว้เผื่อเวลาฉุกเฉินด้วยนะ

3. GADGET

ในโลกยุคไซเบอร์นี้ คงไม่มีใครไม่พก Gadget ติดตัวแน่ๆ ที่ขาดไม่ได้เลยก็คงเป็นสมาร์ทโฟนที่สามารถบันทึกภาพความทรงจำดีๆ ของเราได้ แต่อย่าลืมอุปกรณ์ในการชาร์จเชียวนะ เพราะที่เมืองนอกน่ะ ปลั๊กไฟหรือกระแสไฟอาจจะไม่เหมือนที่บ้านเรา ฉะนั้นควรเตรียม “ที่แปลงหัวปลั๊กไฟ” ติดตัวไว้ด้วยเป็นดีที่สุด และไม่ควรมองข้ามเครื่องมือแปลภาษา ที่จะช่วยให้เราสื่อสารกับคนรอบข้างได้ ไม่ว่าจะเป็นพจนานุกรมหรืออุปกรณ์ในรูปแบบอื่นๆ ซึ่งเดี๋ยวนี้ก็มีแอพลิเคชั่น ไว้ให้โหลดกันง่ายๆ บนโทรทัศท์มือถือแล้วด้วย

4. เตรียมเสบียงไว้เลี้ยงตัว

ระหว่างเดินทางอาจจะต้องมีท้องร้องกันบ้างแหละ หรือในมื้อแรกๆ อาจจะยังไม่คุ้นชินกับอาหารหน้าตาแปลกๆ ที่เราไม่เคยกินมาก่อน ยามนี้เราจึงควรหยิบเสบียงที่เตรียมไว้เล็กๆ น้อยๆ ในกระเป๋าออกมาประทัง เพื่อคลายความหิวกันสักนิด

5. ยาสามัญประจำบ้าน และยาโรคประจำตัว

ถ้าไม่อยากให้การท่องเที่ยวทริปนี้กลายเป็นทริปรักษาร่าง นอนป่วยอยู่แต่ที่โรงแรม จนไม่ได้ออกไปเที่ยวตามแพลนที่วางไว้ ก็แนะนำว่า อย่าได้ลืมยาสามัญประจำบ้าน และยาโรคประจำตัว ไว้ในกระเป๋าเดินทางด้วย รวมถึงพวกชุดปฐมพยาบาลก็ไม่ควรละเลยนะ เกิดอะไรขึ้นมาจะได้แก้ปัญหาได้ทันท่วงทีไงล่ะ

6. เงินสด และบัตรเครดิต

แม้ว่าปัจจุบัน การเบิกเงินในต่างแดนจะทำได้สะดวก แต่เราก็ควรเตรียมเงินสดติดกระเป๋าไว้สักนิด รวมถึงการแลกสกุลเงินที่ต้องใช้ไปก่อนเดินทางเลย เพื่อการใช้จ่ายที่ไม่สะดุดและป้องกันเหตุไม่คาดฝัน และที่ขาดไม่ได้คือบัตรเครดิต ที่สามารถใช้ได้ทุกมุมทั่วโลก เน้นว่าห้ามลืมข้อนี้เป็นอันขาด ไม่งั้นกลับบ้านไม่ได้ไม่รู้ด้วยนะ

7. เอกสารแสดงตน และเอกสารสำคัญอื่นๆ

จะเดินทางทั้งที มัวเตรียมแต่เครื่องแต่งกายจนลืมเอกสารแสดงตนหรือเอกสารสำคัญอื่นๆ คงหมดสนุกอยู่แค่สนามบินชัวร์!!! ถ้ายังงั้นลองเขียนเช็คลิสต์ในหมวดนี้ดูว่า นอกจากบัตรประชาชนและพาสปอร์ตแล้ว ยังมีอะไรต้องพกใส่กระเป๋าไปอีก เช่น นามบัตร เบอร์ติดต่อกรณีฉุกเฉิน ตั๋วเดินทาง แผนที่ แผนการเดินทาง สมุดบันทึก Hotel Reservation Travel insurance เห็นไหม นี่ถ้าไม่เช็คตามลิสต์นี้ กระเป๋าที่จัดมาคงต้องหอบกลับไปบ้านเหมือนเดิม

8. สนามบิน และการเช็คอินของสายการบิน

ก่อนเดินทางจริง เราแนะนำให้ตรวจสอบเส้นทางไปสนามบิน จะได้ไม่หลงทาง และในวันจริงควรเผื่อเวลาเดินทางแบบชิลล์ๆ ไปสนามบินด้วยนะ อย่างน้อยสัก 2 ชั่วโมง เผื่อมีอะไรผิดพลาด จะได้มีเวลาแก้ปัญหาได้ทัน อย่าลืม!!! ตรวจสอบการเช็คอินของสายการบินให้ละเอียดด้วยทั้งที่ตั้งของอาคาร หมายเลขเคาน์เตอร์ น้ำหนักของกระเป๋าเดินทาง พร้อมแทคกระเป๋า ตามจำนวนที่เราฝากลงท้องเครื่อง เพื่อเป็นหลักฐานในการเคลม เมื่อกระเป๋าของเราเกิดความผิดพลาดในการส่ง หรือเสียหายนั่นเอง

9. ตรวจสอบสถานที่ท่องเที่ยวของท้องถิ่น หรือ งานเทศกาลต่างๆ

หลายคนพลาดมากๆ ในข้อนี้ ถือว่าเราแนะนำเพิ่มเติมจากสถานที่ที่เป็นจุดแลนด์มาร์คที่สมควรจะไปอยู่แล้ว ว่าเราควรหาข้อมูลเพิ่มเติม เกี่ยวกับสถานที่ท่องเที่ยวของท้องถิ่นนั้นๆ หรืองานเทศกาลที่อาจจัดขึ้นในช่วงเวลาที่เราท่องเที่ยวอยู่ในบริเวณนั้น เพื่อเป็นการเปิดมุมมองใหม่ๆ ความรู้สึกใหม่ๆ ให้กับตัวเองด้วย

10. หลีกเลี่ยงพื้นที่เสี่ยง

ถ้าต้องประสบเหตุการณ์เสี่ยงตายในพื้นที่ไกลบ้าน คงเป็นความทรงจำที่ยากจะลืมเลือน เรื่องแบบนี้เลี่ยงได้ก็ควรเลี่ยงดีกว่า เช่น ไม่เข้าไปท่องเที่ยวในพื้นที่ที่มีสถานะการณ์ตึงเครียดทางการทหารจากการสู้รบ การโจมตี หรือด้านการเมือง ไม่ว่าจะเป็นการเดินขบวนประท้วง และพื้นที่ที่มีปัญหาขัดแย้ง เป็นต้น พื้นที่เหล่านี้จะมีการควบคุมโดยกองกำลังความมั่นคงต่างๆ มากมาย ซึ่งอาจจะทำให้เกิดความล่าช้าหรือปัญหาอื่นๆ จากมาตราการที่มีความเข้มงวด หรือปฎิบัติการของกองกำลังเหล่านี้ และถ้าเลี่ยงไม่ได้จริงๆ ควรมีเบอร์ของสถานทูต รวมถึงหน่วยงานอื่นๆ เพื่อสามารถติดต่อได้ยามฉุกเฉินด้วย

เป็นไงบ้างเอ่ย กับ 10 ข้อด้านบนที่เราเอามาฝากกัน ถ้าเช็คลิตส์ครบถ้วนแล้ว ก็เตรียมแพ็คกระเป๋า เดินทางข้ามน้ำข้ามทะเลไปเปิดมุมมองใหม่ๆ ให้กับชีวิตกันได้เลย! แล้วอย่าลืมเก็บเกี่ยวประสบการณ์กลับมาให้ได้มากๆ ล่ะ เพื่อให้การเป็นนักเดินทางในครั้งนี้ คุ้มค่าตั๋วสุดๆ ให้สมกับเป็น “ผู้ชนะ 10 trip … กับ 10 Tips ในการเตรียมตัวไป trip ทัวร์ต่างประเทศ” เลย

เรามุ่งมั่นที่จะช่วยเหลือและดูแลคุณ

อลิอันซ์ทราเวลเป็นผู้นำระดับโลกด้านประกันภัยการเดินทางและบริการช่วยเหลือทั่วไป เรามีแผนประกันภัยที่หลากหลายให้เลือก ครอบคลุมตั้งแต่แผนรายเที่ยว แผนรายปี แผนครอบครัว ไปจนถึงแผนเดินทางศึกษาต่อต่างประเทศ เราทุ่มเทที่จะให้บริการช่วยเหลือและปกป้องคุณทุกที่ ทุกเวลาเท่าที่เราจะทำได้ เราไม่ได้จำกัดอยู่แค่ประกันภัยและการให้ความช่วยเหลือ แต่เรามุ่งเน้นไปที่สิ่งที่มากกว่านั้น และทุกบริการของเราก็เพื่อลูกค้าคนสำคัญของเรา