7 Tips Traveling Alone

7 เคล็ดลับลุยเดี่ยว เที่ยวคนเดียวให้ปลอดภัย

บางครั้งการวางแผนเที่ยวเป็นกลุ่มอาจต้องประสบความยุ่งยาก ล่าช้า รอกันไปรอกันมา ทำให้บางคนที่มีความพร้อมเพียงพอตัดสินใจออกเดินทางคนเดียว ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่ง่าย แต่ก็ไม่ใช่ว่ายากมากจนเราทำไม่ได้ นอกจากต้องมีเรื่องความกล้ามาก่อนแล้ว สิ่งสำคัญคือเราจะต้องวางแผนเตรียมตัวให้พร้อมก่อนออกเดินทาง Allianz Travel ขอนำ 7 เคล็ดลับลุยเดี่ยว ออกท่องเที่ยวคนเดียวให้สนุก ปลอดภัย ไม่น่ากลัว

1. การเปิดใจและตัดความกลัวออกไป

เราอย่าเพิ่งกังวลไปล่วงหน้าว่าเราจะมีปัญหาอะไร ปัจจุบันมีอุปกรณ์หรือแอพพลิเคชั่นผ่านทางมือถือมากมายที่คอยช่วยเราในการเดินทาง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการดำรงชีวิต การกินอยู่ เส้นทาง หรือภาษาที่ใช้สื่อสารกับคนท้องถิ่น

Confident

2. การวางแผนล่วงหน้า

ใช้เวลาศึกษาสถานที่ท่องเที่ยว การเดินทาง และการจองที่พักก่อนออกเดินทาง ถ้าต้องเดินทางคนเดียว ก็ควรหาที่พักที่อยู่ในพื้นที่ที่มีความปลอดภัย เดินทางสะดวก

Planing

3. การเลือกตั๋วเที่ยวบิน

บางครั้งเราอาจเลือกเที่ยวบินที่ราคาถูกและคุ้มค่าเป็นหลัก โดยไมได้คำนึงถึงเวลาออกเดินทาง และเวลาที่ไปถึงสถานที่ปลายทาง  แต่หากเราเดินทางคนเดียว และไปยังสถานที่ที่ไม่เคยไปมาก่อน เราควรหลีกเลี่ยงเที่ยวบินที่เดินทางถึงสถานที่ปลายทางในตอนกลางคืน เพราะอาจไม่ปลอดภัยสำหรับนักท่องเที่ยวที่เดินทางคนเดียว

Ticket

4. ทำตัวให้กลมกลืนกับคนท้องถิ่น

อย่าทำตัวเป็นจุดสนใจ เพื่อที่จะได้ไม่เป็นเป้าหมายของมิจฉาชีพ และไม่เปิดเผยข้อมูลส่วนตัวให้กับคนแปลกหน้า ไม่ว่าจะเป็นข้อมูลที่พัก หรือแผนการท่องเที่ยวของเรา

Make yourself like local people

5. ควรใช้กระเป๋าเป้สะพายหลังแทนการใช้กระเป๋าเดินทางใบใหญ่

ไม่พกสิ่งของมีค่าและไม่ขนข้าวของที่มากเกินความจำเป็น เพื่อให้เดินทางได้อย่างคล่องตัว และปลอดภัยจากมิจฉาชีพ

Using backpack

6. อย่าขาดการติดต่อ

ถึงแม้ว่าการเดินทางท่องเที่ยวของเราจะสนุกแค่ไหน ก็อย่าลืมที่จะหมั่นติดต่อกลับไปหาครอบครัวหรือคนใกล้ชิด รายงานเป็นระยะว่าจะไปที่ไหน ทำอะไร กลับถึงที่พักกี่โมง และเมื่อถึงที่พักแล้ว ควรติดต่ออีกครั้งเพื่อให้ครอบครัวได้ทราบความเคลื่อนไหว และไม่ต้องเป็นห่วง

Communication with family and friend

7. ทำประกันภัยการเดินทาง

เพราะเหตุการณ์ไม่คาดฝันสามารถเกิดขึ้นได้เสมอ ไม่ว่าจะเป็นการเจ็บป่วย การเกิดอุบัติเหตุ เที่ยวบินล่าช้า หรือแม้แต่สัมภาระสูญหาย การมีประกันภัยการเดินทางติดตัวไว้ก็ช่วยให้เราท่องเที่ยวได้อย่างอุ่นใจ สนุก และรู้สึกปลอดภัยมากขึ้น*

Buy Travel Insurance

อุ่นใจทุกการเดินทางไปกับแผนประกันภัยการเดินทาง Dance Moves จาก Allianz Travel สนใจซื้อประกันการเดินทาง คลิกเลย!!

*เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทกำหนด

เรามุ่งมั่นที่จะช่วยเหลือและดูแลคุณ

อลิอันซ์ทราเวลเป็นผู้นำระดับโลกด้านประกันภัยการเดินทางและบริการช่วยเหลือทั่วไป เรามีแผนประกันภัยที่หลากหลายให้เลือก ครอบคลุมตั้งแต่แผนรายเที่ยว แผนรายปี แผนครอบครัว ไปจนถึงแผนเดินทางศึกษาต่อต่างประเทศ เราทุ่มเทที่จะให้บริการช่วยเหลือและปกป้องคุณทุกที่ ทุกเวลาเท่าที่เราจะทำได้ เราไม่ได้จำกัดอยู่แค่ประกันภัยและการให้ความช่วยเหลือ แต่เรามุ่งเน้นไปที่สิ่งที่มากกว่านั้น และทุกบริการของเราก็เพื่อลูกค้าคนสำคัญของเรา

Thailand Passport Office in Bangkok and Metropolitan Region

8 สถานที่ทำพาสปอร์ต ในกรุงเทพฯ และปริมณฑล

ช่วงนี้หลายคนเริ่มวางแผนสำหรับการเดินทางไปต่างประเทศกันแล้ว แต่อย่าลืม!! ตรวจสอบวันหมดอายุของพาสปอร์ต (Passport) กันด้วยนะคะ ถ้าพาสปอร์ตหมดอายุ หรือมีอายุเหลือไม่ถึง 6 เดือน เราต้องดำเนินการทำพาสปอร์ตใหม่ แล้วถ้าเราต้องการทำพาสปอร์ตในเขตพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑลเราจะสามารถทำได้ที่ไหนบ้าง? วันนี้ Allianz Travel ได้นำข้อมูลสถานที่สำหรับทำพาสปอร์ต (Passport) หรือ หนังสือเดินทางในเขตพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล มาฝากทุกคนกันค่ะ ไปดูกันเลยว่ามีที่ไหนกันบ้าง

1. กรมการกงสุล แจ้งวัฒนะ

วันทำการ : เปิดบริการจันทร์ – ศุกร์ (เวลา 08.30 – 16.30 น.)

ที่อยู่ : 123 ถนนแจ้งวัฒนะ เขตหลักสี่ กรุงเทพฯ 10210

โทรศัพท์ : Call Center 02 572 8442 หรือ 02 203 5000 กด 1 เพื่อติดต่อกรมการกงสุล

Google Map : https://goo.gl/maps/YpY9ge5U6WFQU92g9

2. สำนักงานหนังสือเดินทางชั่วคราว บางนา – ศรีนครินทร์

วันทำการ : เปิดบริการจันทร์ – ศุกร์ (เวลา 10.00 – 18.00 น.)

ที่อยู่ : ศูนย์การค้าธัญญาพาร์ค ศรีนครินทร์ ชั้น 1 โซน C

โทรศัพท์ : 02 136 3800, 02 136 3802 และ 093 -0105246

โทรสาร : 02 136 3801

Google Map : https://goo.gl/maps/Dbi895MLxKVcPy117

3. สำนักงานหนังสือเดินทางชั่วคราว สายใต้ใหม่ – ตลิ่งชัน

วันทำการ : เปิดบริการจันทร์ – ศุกร์ (เวลา 08.30 – 16.30 น.)

ที่อยู่ : อาคาร SC Plaza สถานีขนส่งกรุงเทพ (สายใต่ใหม่) ถนนบรมราชชนนี

โทรศัพท์ : 02 422 3431

โทรสาร : 02 422 3432

Google Map : https://goo.gl/maps/W1c3SimQKp6JDsRe7

4. สำนักงานหนังสือเดินทางชั่วคราว มีนบุรี

วันทำการ : เปิดบริการจันทร์ – ศุกร์ (เวลา 10.00 – 18.00 น.)

ที่อยู่ : ศูนย์การค้าบิ๊กซี สาขาสุวินทวงศ์ 29 ถนนสุวินทวงศ์ แขวงมีนบุรี เขตมีนบุรี กทม. 10510

โทรศัพท์ : 02 024 8362-64

โทรสาร : 02 024 8361

Google Map : https://goo.gl/maps/5APaCnZLrY5JJQBJ8

5. สำนักงานหนังสือเดินทางชั่วคราว MRT คลองเตย

วันทำการ : เปิดบริการจันทร์ – ศุกร์ (เวลา 08.30 – 16.30 น.)

ที่อยู่ : สถานีรถไฟฟ้ามหานคร (MRT) คลองเตย ถนนพระราม 4 แขวงคลองเตย เขตคลองเตย กทม. 10110

โทรศัพท์ : 02-024-8896, 093-010-5247

โทรสาร : 02-024-8897

Google Map : https://goo.gl/maps/i7R3WB8HygBAd6RA8

6. สำนักงานหนังสือเดินทางชั่วคราว ปทุมวัน

วันทำการ : เปิดให้บริการทุกวันจันทร์ – ศุกร์ (เวลา 10.00 – 18.00 น.)

ที่อยู่ : ศูนย์การค้าเอ็มบีเค เซ็นเตอร์ (MBK CENTER)ชั้น 5 โซน A ถนนพญาไท แขวงวังใหม่ เขตปทุมวัน กรุงเทพฯ

โทรศัพท์ : 02 126 7612

โทรสาร : 02 126 7613

Google Map : https://goo.gl/maps/hbDSJVC868QqUmuJ6

7. สำนักงานหนังสือเดินทางชั่วคราว ธัญบุรี

วันทำการ : เปิดบริการจันทร์ – ศุกร์ (เวลา 10.00 – 18.00 น.)

ที่อยู่ : ศูนย์การค้าฟิวเจอร์พาร์ค รังสิต ชั้น 3 ถนนพหลโยธิน ตำบลประชาธิปัตย์ อำเภอธัญบุรี จังหวัดปทุมธานี

Google Map : https://goo.gl/maps/g3LD3JMZM9hqyVjU6

8. สำนักงานหนังสือเดินทางชั่วคราว บางใหญ่

วันทำการ : เปิดบริการจันทร์ – ศุกร์ (เวลา 11.00 – 18.00 น.)

ที่อยู่ : ศูนย์การค้าเซ็นทรัล พลาซา เวสต์เกต ชั้น G ถนนรัตนาธิเบศร์ ตำบลเสาธงหิน อำเภอบางใหญ่ นนทบุรี

Google Map : https://goo.gl/maps/gzGCDpW928c6W6739

โดยการทำพาสปอร์ตสามารถจองคิวผ่านระบบออนไลน์ล่วงหน้าสำหรับการทำหนังสือเดินทางได้ที่เว็บไซต์ : www.qpassport.in.th

: ข้อมูล ณ​ วันที่ 4 ตุลาคม 2564

นอกจากการเตรียมตัวเรื่องพาสปอร์ต (Passport) หรือ หนังสือเดินทางให้พร้อมแล้ว ก่อนเดินทางควรศึกษาข้อมูลการเดินทางของประเทศที่เราต้องการเดินทางไป พร้อมกับเตรียมอุปกรณ์ต่างๆ ที่จำเป็นสำหรับการเดินทาง และสิ่งสำคัญที่เราควรมีทุกครั้งที่เดินทางไปต่างประเทศ คือ ประกันภัยการเดินทาง ที่จะช่วยให้แผนการเดินทางของเราไม่สะดุด สามารถทำกิจกรรมต่างๆ ได้อย่างอุ่นใจ ไร้กังวล ให้ความคุ้มครองครอบคลุมค่าใช้จ่ายที่เกิดจากเหตุการณ์ฉุกเฉินที่อาจเกิดขึ้นโดยไม่คาดฝัน* เลือกแผนประกันการเดินทางที่ใช่สำหรับคุณ แผนประกันการเดินทาง Dance Moves จาก Allianz Travel สนใจซื้อแผนประกันการเดินทาง คลิกเลย!!

*เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทกำหนด

ขอบคุณข้อมูลจาก : กรมการกงสุล กระทรวงการต่างประเทศ

เรามุ่งมั่นที่จะช่วยเหลือและดูแลคุณ

อลิอันซ์ทราเวลเป็นผู้นำระดับโลกด้านประกันภัยการเดินทางและบริการช่วยเหลือทั่วไป เรามีแผนประกันภัยที่หลากหลายให้เลือก ครอบคลุมตั้งแต่แผนรายเที่ยว แผนรายปี แผนครอบครัว ไปจนถึงแผนเดินทางศึกษาต่อต่างประเทศ เราทุ่มเทที่จะให้บริการช่วยเหลือและปกป้องคุณทุกที่ ทุกเวลาเท่าที่เราจะทำได้ เราไม่ได้จำกัดอยู่แค่ประกันภัยและการให้ความช่วยเหลือ แต่เรามุ่งเน้นไปที่สิ่งที่มากกว่านั้น และทุกบริการของเราก็เพื่อลูกค้าคนสำคัญของเรา

พาลูกขึ้นเครื่องบินอย่างไร ให้ราบรื่นตลอดทาง

เมื่อต้องเดินทางไกลไปต่างประเทศ การเดินทางด้วยเครื่องบินนับเป็นวิธีการเดินทางที่รวดเร็วและสะดวกที่สุด แต่ถ้าคุณพ่อคุณแม่ต้องพาลูกน้อยขึ้นเครื่องบินด้วยแล้ว หลายท่านอาจเกิดความกังวลใจขึ้นมาว่าลูกน้อยจะสร้างความรำคาญให้แก่ผู้โดยสารคนอื่น ๆ แถมการเดินทางด้วยเครื่องบินอาจทำให้ลูกเหนื่อยล้าจากการเดินทาง และเกิดปัญหาอื่น ๆ ตามมาอีกด้วยค่ะ วันนี้ Allianz Travel มีเคล็ด (ไม่) ลับ ในการพาลูกขึ้นเครื่องบินให้ราบรื่นมาฝากค่ะ จะต้องเตรียมอะไรบ้าง มีขั้นตอนปฏิบัติอย่างไร ไปดูกันเลยค่ะ

ข้อควรรู้ก่อนพาลูกออกเดินทาง

ก่อนอื่นเราต้องรู้ก่อนว่าเด็กขึ้นเครื่องบินได้ตั้งแต่อายุกี่เดือน หรือกี่ขวบ และมีค่าใช้จ่ายอย่างไรบ้าง บางคนอาจเข้าใจผิดว่า ต้องรอให้ลูกอายุครบหนึ่งหรือสองขวบก่อน ถึงจะขึ้นเครื่องบินได้ ทั้ง ๆ ที่จริงแล้ว บางสายการบินอนุญาตให้เด็กทารกที่มีอายุตั้งแต่ 14 วันขึ้นไปสามารถขึ้นเครื่องบินได้ แต่บางสายการบินอาจอนุญาตให้เพียงแค่ 7 วัน ก็ขึ้นเครื่องบินได้แล้วค่ะ นอกจากนี้ ถ้าเด็กอายุยังไม่ถึง 2 ปีบริบูรณ์ ส่วนใหญ่แล้วสายการบินจะอนุญาตให้นั่งตักผู้โดยสารผู้ใหญ่ได้ โดยไม่ต้องเสียเงินซื้อที่นั่งเพิ่มอีกที่ แต่อาจเก็บค่าธรรมเนียมเพิ่มเล็กน้อย ขณะที่ถ้าเป็นเด็กอายุ 2 ปีบริบูรณ์ขึ้นไป จะมีอัตราค่าโดยสารเช่นเดียวกับผู้ใหญ่ หรือบางสายการบินก็จะคิดอัตราพิเศษค่ะ

เมื่อรู้แล้วว่าอายุเท่าไหร่ถึงขึ้นเครื่องบินได้ และต้องเสียค่าใช้จ่ายเพิ่มไหม ก็ถึงเวลามาดู 5 เคล็ด (ไม่) ลับพาลูกขึ้นเครื่องบินกันค่ะ

1.เลือกไฟลท์บินใกล้เคียงเวลานอนเด็ก

เคล็ดลับง่าย ๆ เลยสำหรับการพาลูกขึ้นเครื่องบินก็คือการเลือกไฟลท์บินให้ใกล้เคียงกับเวลานอนของลูกให้ได้มากที่สุด เช่น ถ้าปกติลูกนอนเวลาสามทุ่ม ก็ควรเลือกเที่ยวบินให้ใกล้เคียง อาจจะก่อนสามทุ่มเล็กน้อย เผื่อเวลาให้เครื่องบินผ่านการปรับความกดอากาศก่อน จะได้ไม่มีเสียงรบกวนหรือหูอื้อที่อาจทำให้ตื่นกลางคัน

2.เลือกที่นั่งให้เหมาะกับเด็ก

การเลือกที่นั่งบนเครื่องบินเป็นสิ่งสำคัญ หากคุณพ่อคุณแม่มีโอกาสเลือกที่นั่งในช่วงการจองตั๋ว แนะนำให้เลือกที่นั่งติดริมทางเดิน ที่นั่งใกล้ห้องน้ำ หรือที่นั่งที่สามารถยืดขาได้และไม่มีเก้าอี้แถวด้านหน้า การเลือกที่นั่งเหล่านี้ จะไม่เป็นการรบกวนผู้โดยสารคนอื่น ๆ ถ้าหากต้องลุกมาเปลี่ยนผ้าอ้อมให้ลูกน้อย หรือถ้าต้องลุกมาเข้าห้องน้ำบ่อย ๆ นอกจากนี้ บางสายการบินจะมีที่นั่งแนะนำให้คุณแม่ที่เดินทางกับลูกน้อยโดยเฉพาะด้วยค่ะ

3.เตรียมของใช้ที่จำเป็น

เมื่ออยู่บนเครื่องบินแล้ว สิ่งที่ขาดไม่ได้เลยคือข้าวของเครื่องใช้ที่จำเป็นสำหรับลูกน้อย สิ่งของเหล่านี้ต้องพกติดตัวขึ้นเครื่องบิน ไม่ควรโหลดใต้ท้องเครื่อง สิ่งของจำเป็นที่ต้องเตรียม อาทิ ขวดนม นมผง น้ำร้อน ผ้าอ้อม แพมเพิร์ส ทิชชู่เปียก และที่สำคัญคือ ถุงพลาสติก สำหรับเหตุฉุกเฉินเมื่อลูกเกิดการอาเจียนและอ้วกบนเครื่องบินเนื่องจากการเปลี่ยนแปลงของความกดอากาศระหว่างเครื่องกำลังขึ้น นอกจากนี้ ควรพกพวกของเล่นเด็กไปด้วย เผื่อลูกไม่หลับ และเบื่อกับการนั่งเครื่องนาน ๆ อย่างน้อย การมีของเล่นสักชิ้น สองชิ้น ก็คลายเบื่อ และทำให้ลูกไม่งอแงได้แล้วค่ะ

4.เตรียมของกินไม่ให้เด็กหิว

อีกเคล็ดลับที่สำคัญมาก ๆ คือ อย่าปล่อยให้ลูกหิวเด็ดขาด เพราะถ้าหิวขึ้นมาแล้วละก็ งอแงและร้องลั่นเครื่องแน่ ๆ เราสามารถเตรียมพร้อมเรื่องนี้ได้ โดยการเตรียมนมและอาหารให้เพียงพอและตรงตามเวลาที่ลูกกินเป็นประจำ โดยของเหลวทั้งอาหารและนมของเด็ก สายการบินอนุญาตให้ถือขึ้นเครื่องได้ค่ะ
เมื่อพูดถึงเรื่องกินแล้ว อีกเรื่องที่ควรระวังมาก ๆ คือ ไม่ควรให้เด็กกินอิ่มเกินไปก่อนขึ้นเครื่องหรือระหว่างอยู่บนเครื่อง เพราะอาจอาเจียนได้

5.เตรียมรับมือกับแรงกดอากาศ

เรื่องสุดท้ายที่ต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ ก็คือ อาการหูอื้อจากแรงกดอากาศขณะเครื่องบินขึ้นสู่ท้องฟ้าและกำลังลงจอดบนรันเวย์ ขนาดผู้ใหญ่อย่างเรายังมีอาการหูอื้อเลย เพราะฉะนั้นแล้วเด็ก ๆ ต้องเตรียมการรับมือเป็นพิเศษ โดยวิธีป้องกันอาการหูอื้อมีด้วยกันหลายวิธี วิธีแรกคือการใช้ที่อุดหู (ตามร้านอุปกรณ์กีฬา) อีกวิธีคือการให้ เด็ก ๆ ดื่มน้ำ นม หรือทานอาหารระหว่างที่เครื่องบินขึ้นและลง ถ้าเด็กกินอาหารไม่ลง ก็ลองเปลี่ยนให้ทานขนมขบเคี้ยวดู เพราะการทานอาหาร ขนมหรือน้ำ ทำให้เด็กต้องกลืนน้ำลายซึ่งจะช่วยบรรเทาอาการหูอื้อได้ค่ะ

เพื่อที่จะให้การเดินทางราบรื่นตลอดไฟล์ท การวางแผนพาลูกขึ้นเครื่องบินจึงเป็นเรื่องที่สำคัญและต้องใส่ใจเป็นพิเศษ เพียงทำตาม 5 เคล็ด (ไม่) ลับที่แนะนำไป แค่นี้ก็สามารถคลายกังวลได้แล้วค่ะ

เรามุ่งมั่นที่จะช่วยเหลือและดูแลคุณ

อลิอันซ์ทราเวลเป็นผู้นำระดับโลกด้านประกันภัยการเดินทางและบริการช่วยเหลือทั่วไป เรามีแผนประกันภัยที่หลากหลายให้เลือก ครอบคลุมตั้งแต่แผนรายเที่ยว แผนรายปี แผนครอบครัว ไปจนถึงแผนเดินทางศึกษาต่อต่างประเทศ เราทุ่มเทที่จะให้บริการช่วยเหลือและปกป้องคุณทุกที่ ทุกเวลาเท่าที่เราจะทำได้ เราไม่ได้จำกัดอยู่แค่ประกันภัยและการให้ความช่วยเหลือ แต่เรามุ่งเน้นไปที่สิ่งที่มากกว่านั้น และทุกบริการของเราก็เพื่อลูกค้าคนสำคัญของเรา

6 ข้อเตรียมพร้อม พาครอบครัวเที่ยวต่างประเทศ

หนึ่งในความฝันของลูก ๆ หลายคนเมื่อเข้าสู่วัยทำงานแล้ว ก็คือการพาครอบครัวไปเที่ยวต่างประเทศพร้อมหน้าพร้อมตากัน แต่การจะไปเที่ยวทั้งครอบครัวก็อาจจะต้องมีการเตรียมการบางอย่างเป็นพิเศษต่างจากการไปเที่ยวเองหรือไปกับกลุ่มเพื่อน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ถ้าไปกับพ่อแม่หรือผู้สูงอายุ เราควรจะต้องวางแผนการท่องเที่ยวอย่างรอบคอบและรัดกุมเหมาะสมกับท่านด้วย ดังนั้น Allianz Travel จึงขอเสนอข้อแนะนำ 6 ข้อเตรียมพร้อม สำหรับผู้อ่านที่กำลังวางแผนพาครอบครัวไปเที่ยวเมืองนอก ว่าจะวางแผนเที่ยวกันอย่างไร และต้องเตรียมพร้อมอย่างไรบ้าง ไปดูกันเลยค่ะ

1.กำหนดสถานที่เที่ยวตามใจครอบครัว

การวางแผนพาพ่อแม่หรือครอบครัวเที่ยว สิ่งแรกที่ควรหลีกเลี่ยงเลยคือการกำหนดที่เที่ยวตามใจเรา เพราะพ่อแม่ท่านอาจจะไม่ชอบ หรือสถานที่นั้นอาจไม่เหมาะสำหรับผู้สูงอายุ ดังนั้นแล้ว ควรถามคุณพ่อคุณแม่และคนอื่น ๆ ก่อนว่า อยากไปที่ไหนและให้ท่านเลือกเลย โดยเราอาจจะเสนอประเทศเที่ยวให้ท่านเป็นตัวเลือกสัก 5 ประเทศ และกิจกรรมที่จะไปทำอย่างคร่าว ๆ หรือถ้าคุณพ่อคุณแม่มีที่เที่ยวอยู่ในใจแล้ว ก็ยิ่งสบายไปใหญ่ การกำหนดสถานที่เที่ยวตามใจครอบครัวถือเป็นเรื่องที่สำคัญมาก ๆ และไม่ควรมองข้ามนะคะ

2.กำหนดแผนเที่ยวตามไลฟ์สไตล์ครอบครัว

นอกจากจะกำหนดสถานที่เที่ยวตามใจครอบครัวแล้ว ไลฟ์สไตล์ก็เป็นสิ่งสำคัญค่ะ ถ้าไปเที่ยวกับพ่อแม่ ก็ต้องดูว่าท่านชอบเที่ยวแบบไหน เที่ยวสบาย ๆ กับทัวร์ หรือเป็นสายลุย ชอบเที่ยวเอง ถ้าไปเที่ยวกันเอง ก็ต้องดูว่าสุขภาพท่านเป็นอย่างไรบ้าง แข็งแรงขนาดไหน เพราะบางสถานที่ วัน ๆ เดินไม่ต่ำกว่า 5 กิโลเลยค่ะ ถ้าสุขภาพไม่แข็งแรงแล้ว ก็แนะนำให้พาท่านไปกับทัวร์จะดีกว่าค่ะ แต่ถ้าไม่ชอบไปทัวร์กับคนอื่น ก็อาจจะจองทัวร์ส่วนตัว หรือว่าเช่ารถขับเที่ยวก็เป็นอีกหนึ่งทางเลือกค่ะ นอกจากนี้ ถ้ามีเด็ก ๆ ไปเที่ยวด้วย ก็ต้องคำนึงว่า เด็กจะซนไหม หรือเด็กจะเบื่อไหม โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ถ้าต้องไปสถานที่ท่องเที่ยวที่คนเยอะ ๆ อาจพลัดหลงกันได้เลย

3.วางแพลนเที่ยวแบบหยืดหยุ่น และเลือกโรงแรมที่พักให้ดี

โดยปกติแล้ว ถ้าเราไปเที่ยวคนเดียว หรือเที่ยวกับเพื่อน เราก็จะวางตารางเที่ยวแน่นมากภายในหนึ่งวัน (เรียกได้ว่าเที่ยวให้คุ้มเลยหล่ะค่ะ) ภายในหนึ่งวัน ตั้งแต่เช้ายันค่ำ เราอาจเที่ยวได้ 7-8 สถานที่เลย แต่เมื่อเราไปกับครอบครัวแล้ว ไม่ควรวางตารางเที่ยวให้แน่นมากนัก ควรมีความยืดหยุ่นและเผื่อเวลา ในแต่ละวัน กำหนดสถานที่เที่ยวสัก 3-4 ที่ ก็เพียงพอแล้วค่ะ นอกจากนี้แล้ว การเลือกโรงแรมที่พักก็สำคัญ ไปคนเดียวหรือไปกับเพื่อนจะนอนพักที่ไหนก็ได้ แต่ไปกับครอบครัว ต้องนอนโรงแรมดี ๆ ไว้ก่อน ความสะดวกสบาย บรรยากาศ อาหาร และการบริการต่าง ๆ เป็นปัจจัยสำคัญ เพราะไปกับคุณพ่อคุณแม่ เราก็อยากให้ท่านได้รับความสะดวกสบายที่สุด ที่สำคัญ อย่าลืมเลือกโรงแรมที่ใกล้กับรถไฟฟ้า หรือใกล้กับแหล่งท่องเที่ยวและตลาดนะคะ เพราะจะช่วยเพิ่มความสะดวกสบายเป็นสองเท่า รับรองว่าคุณพ่อคุณแม่และครอบครัวต้องชอบแน่ ๆ ค่ะ

4.วางแผนค่าใช้จ่ายทั้งทริป

การพาพ่อแม่และครอบครัวไปเที่ยว ไม่เหมือนกับการพาเพื่อนหรือแฟนไปเที่ยว ที่เราสามารถช่วยกันออกค่าใช้จ่ายได้ การไปเที่ยวกับครอบครัว อย่างน้อยเราต้องรับผิดชอบค่าใช้จ่ายสามคน (พ่อ แม่ และตัวเอง) เพราะฉะนั้นแล้ว เมื่อเลือกสถานที่เที่ยวได้แล้ว เลือกได้ว่าจะไปเองหรือไปกับทัวร์แล้ว ต้องวางแผนค่าใช้จ่ายทั้ง ทริปให้ดีว่า จะใช้เงินไปกับอะไรบ้าง ไม่ว่าจะเป็นค่าตั๋วเครื่องบิน ค่าทัวร์ ค่าอาหาร ค่าที่พัก ค่าบัตรเข้าสถานที่เที่ยวและค่าใช้จ่ายอื่น ๆ ที่อาจเกิดขึ้นตามมา ดังนั้นแล้ว ควรกำหนดไปเลยว่าจะใช้จ่ายไปกับอะไรบ้าง ทั้งทริปจะใช้จ่ายเท่าไหร่ และพยายามคุมงบประมาณให้อยู่ในแผน งบประมาณจะได้ไม่บานปลายค่ะ

5.จัดเตรียมเอกสารเดินทางและเอกสารอื่นๆ

ถ้าหากว่าครั้งนี้เป็นการเดินทางไปต่างประเทศครั้งแรกของพ่อแม่ ดังนั้นเราก็ต้องคอยดูแลเรื่องเอกสารสำคัญสำหรับท่านด้วย ไม่ว่าจะเป็นการพาท่านไปทำพาสปอร์ต จัดการทำวีซ่า หรือเอกสารอื่น ๆ ที่จำเป็นในการเดินทางและการผ่านขั้นตอนการตรวจคนเข้าเมืองด้วย จะได้ไม่ติดปัญหาอะไรตั้งแต่เริ่มต้น พาลให้ท่านต้องหงุดหงิดใจจนเที่ยวไม่สนุกซะเปล่าๆ

6. ซื้อประกันการเดินทางสำหรับครอบครัว เตรียมพร้อมเรื่องความปลอดภัยในระหว่างการเดินทางท่องเที่ยว

ในยามที่เราต้องพาคุณพ่อคุณแม่ไปเที่ยวต่างประเทศ เรื่องความปลอดภัยนั้นเป็นเรื่องที่ต้องเตรียมพร้อมไว้เช่นกัน เพราะเราไม่มีทางรู้เลยว่าระหว่างการเที่ยวแล้ว จะเกิดเหตุการณ์อะไรขึ้นบ้าง ยิ่งถ้าเราดูแลเพียงลำพัง ก็อาจจะดูแลได้ไม่ทั่วถึง ถ้าคุณพ่อคุณแม่พลาดท่าลื่นล้ม เกิดอุบัติเหตุ และต้องเข้าโรงพยาบาล เราก็อาจจะต้องกันเงินไว้สำหรับค่ารักษาด้วย แต่แอบกระซิบก่อนเลยว่า ค่าใช้จ่ายรักษาพยาบาลเมืองนอก แพงมาก บางเคสถึงหลักล้านเลยทีเดียว ดังนั้นจะให้ดีที่สุด การซื้อประกันการเดินทางสำหรับครอบครัวไว้ก่อน ย่อมอุ่นใจกว่าค่ะ อย่างน้อยเราก็มีประกันที่จะคุ้มครองค่ารักษาพยาบาลเผื่อไว้แล้ว และเอาเงินที่อาจต้องกันไว้ ไปใช้จ่ายเพื่อความสุขของท่านให้เต็มที่จะดีกว่าค่ะ

การวางแผนเที่ยวกับครอบครัวเป็นเรื่องที่ต้องใช้เวลา และความรอบคอบเป็นพิเศษ เพื่อที่จะให้ทุกคนในครอบครัวมีความสุขกับทริปที่จะไป เมื่อเตรียมตัวพร้อมทุกข้อแล้ว ก็ถึงเวลาออกเดินทางจริงแล้วค่ะ สำหรับใครที่สนใจประกันการเดินทาง ที่ Allianz Travel เรามีประกันการเดินทางสำหรับครอบครัว คุ้มครองสูงสุดถึง 4 ท่าน ในราคาพิเศษ โดยคุ้มครองครอบคลุมค่ารักษาพยาบาล และความช่วยเหลือฉุกเฉิน เพียงเท่านี้ ก็ท่องเที่ยวอุ่นใจ หายห่วงได้แล้วค่ะ

เรามุ่งมั่นที่จะช่วยเหลือและดูแลคุณ

อลิอันซ์ทราเวลเป็นผู้นำระดับโลกด้านประกันภัยการเดินทางและบริการช่วยเหลือทั่วไป เรามีแผนประกันภัยที่หลากหลายให้เลือก ครอบคลุมตั้งแต่แผนรายเที่ยว แผนรายปี แผนครอบครัว ไปจนถึงแผนเดินทางศึกษาต่อต่างประเทศ เราทุ่มเทที่จะให้บริการช่วยเหลือและปกป้องคุณทุกที่ ทุกเวลาเท่าที่เราจะทำได้ เราไม่ได้จำกัดอยู่แค่ประกันภัยและการให้ความช่วยเหลือ แต่เรามุ่งเน้นไปที่สิ่งที่มากกว่านั้น และทุกบริการของเราก็เพื่อลูกค้าคนสำคัญของเรา

7 ข้อ เตรียมตัวให้พร้อม ก่อนไปเรียนต่อต่างประเทศ

การเดินทางไปศึกษาต่อต่างประเทศเป็นจุดมุ่งหมายและความฝันของใครหลาย ๆ คนที่ต้องการหาความรู้เพิ่มเติม และความก้าวหน้าในหน้าที่การงาน เมื่อเราสมัครเรียนต่อและผ่านการคัดเลือกเรียบร้อยแล้ว ก่อนที่เราจะออกเดินทางนั้น ก็มีเรื่องให้เตรียมตัวอยู่พอสมควร อาทิ เรื่องเอกสาร การวางแผนการใช้จ่ายเงิน การจองที่พักและตั๋วเครื่องบินต่างๆ เป็นต้น Allianz Travel จึงขอชวนผู้อ่านที่กำลังเตรียมตัวไปเรียนต่อเมืองนอก มาสำรวจกันว่า ก่อนที่จะออกเดินทางจริง ต้องเตรียมพร้อมอย่างไรบ้าง

1.ซื้อตั๋วเครื่องบิน และหาที่พัก

เมื่อสมัครเรียน ได้รับการคัดเลือก และสมัครวีซ่าผ่านแล้ว ขั้นตอนแรกของการเตรียมตัวให้พร้อม ก่อนไปเรียนนอก ก็คือการซื้อตั๋วเครื่องบินและหาที่พักนั่นเอง โดยปกติแล้ว เราจะจองตั๋วเครื่องบินก่อนเดินทางจริง ประมาณ 3 – 6 เดือน ซึ่งจะมีราคาถูกกว่าการจองแบบกระชั้นชิด ในขณะที่การหาที่พัก ถือเป็นเรื่องใหญ่พอสมควร เพราะที่พักมีหลายแบบ และหลายราคาให้เลือก ตั้งแต่หอพักในแคมปัส หอพักใกล้แคมปัส อพาร์ทเมนท์แบ่งเช่า ไปจนถึงโฮมสเตย์ การเลือกที่พักควรคำนึงถึงความสะดวกสบาย และราคาเป็นหลัก เพราะราคาที่แพงเกินไป อาจทำให้เราต้องลดค่าใช้จ่ายจำเป็นในส่วนอื่น ๆ ลง และถ้าที่พักไกลจากแคมปัสมากเกินไป การเดินทางอาจไม่สะดวกสบาย และทำให้เสียเวลาเดินทางอีกด้วย

2.แลกเงินสด และวางแผนการเงินก่อนเดินทาง

อีกเรื่องที่สำคัญไม่แพ้กัน คือการวางแผนการใช้เงินตลอดการศึกษา ไม่ว่าจะเป็นค่าเทอม ค่าใช้จ่ายส่วนตัว ค่ากิน ค่าของใช้ส่วนตัว ค่าหนังสือ ค่าเที่ยว และค่าอื่นๆ การวางแผนการใช้จ่ายก่อนเดินทาง จะทำให้เรารู้ว่าในแต่ละเดือน จะต้องใช้จ่ายประมาณเท่าไหร่ ซึ่งจะช่วยให้เราคุมงบตลอดปีได้ และก่อนออกเดินทาง อย่าลืมแลกเงินสดให้สามารถพกติดตัวอยู่ได้ประมาณ 1-2 สัปดาห์ และไปเปิดบัญชีธนาคารที่ต่างประเทศเมื่อไปถึง หรือจะใช้วิธีแลก Bank Draft หรือ Traveler’s Check ไว้ใช้ในระยะยาวก็ได้ อีกวิธีหนึ่งที่เป็นทางเลือกก็คือ การพกบัตรเครดิต หรือบัตรเดบิตจากประเทศไทยไปด้วย

3.เตรียมเสื้อผ้า ของใช้ส่วนตัว และยาประจำตัว

เสื้อผ้า ของใช้ส่วนตัว และยาประจำตัว ถือเป็นอีกเรื่องที่สำคัญ เสื้อผ้าและของใช้ส่วนตัวควรจะทำ Checklist ไว้ตั้งแต่เนิ่น ๆ ว่าต้องนำอะไรไปบ้าง จะได้ไม่ลืม เสื้อผ้าที่จะเตรียมไป ควรจะเตรียมไปโดยอิงจากสภาพอากาศของประเทศที่จะไป ถ้าไปประเทศแถวยุโรปและอเมริกา เสื้อกันหนาวเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้เลย และที่สำคัญ อย่าลืมพวกอุปกรณ์ปลั๊กพ่วง ที่ควรจะพก Universal Plug ไปเผื่อด้วย ขณะที่ยาประจำตัว เป็นสิ่งที่ลืมไม่ได้เด็ดขาด เพราะว่าบางประเทศ การจะซื้อยาได้ ต้องมีใบสั่งยาจากแพทย์เท่านั้น จึงเป็นเรื่องที่ลำบากมาก ๆ ยาที่ควรพกติดตัวไปด้วย อาทิ ยาแก้หวัด ยาแก้ปวดหัว ยาแก้ท้องเสีย ยาแก้แพ้ เป็นต้น ถ้ามีเอกสารทางการแพทย์ที่ระบุถึงโรคประจำตัวหรือยาที่ต้องทานประจำ ก็ควรจะพกติดตัวไปด้วยครับ

4.เตรียมเอกสารสำคัญต่างๆ

ก่อนเดินทางจริง ควรรีเช็กให้แน่ใจว่าไม่ลืมเอกสารสำคัญต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นพาสปอร์ต เอกสารการเรียนต่าง ๆ บัตรประชาชน หรือเอกสารอื่น ๆ ที่ระบุตัวตน เอกสารเหล่านี้สำคัญมาก ๆ ถ้าลืมก็อาจทำให้เกิดความยุ่งยากตามมาอีกมาก

5.วางแพลนเที่ยว หรือหางานพิเศษทำ

แน่นอนว่าเมื่อไปเรียนต่อต่างประเทศ หลายคนก็อยากที่จะไปเที่ยวตามสถานที่ใหม่ ๆ และหาประสบการณ์ ใหม่ ๆ ที่ไม่เคยพบมาก่อนโดยปกติแล้ว จะมีทั้งหมด 3 ช่วงให้เราได้วางแพลนเที่ยวยาว ๆ ช่วงแรกคือช่วง Reading Week ซึ่งจะเป็นสัปดาห์ที่ให้นักศึกษาหยุดเพื่ออ่านหนังสือสอบ ประมาณ 1-2 สัปดาห์ ช่วงที่สองคือช่วงปิดเทอมเล็ก และช่วงที่สามคือช่วงปิดเทอมใหญ่ นอกจากนี้ สำหรับใครที่ไม่ชอบเที่ยว แต่อยากหางานพิเศษทำ ก็ควรศึกษาแต่เนิ่น ๆ ตั้งแต่ที่ไทยว่า มหาวิทยาลัยหรือแคมปัสที่จะไป โดยรอบบริเวณ มีเปิดรับสมัครพาร์ทไทม์ที่ไหนบ้าง รายได้ต่อชั่วโมงเท่าไหร่ เมื่อไปถึง เราจะได้ไม่เสียเวลามาหาที่ทำงานพิเศษอีกรอบ ไปเรียนต่อเมืองนอกทั้งที การวางแพลนเที่ยว และหางานพิเศษทำ ถือเป็นอีกหนึ่งประสบการณ์แปลกใหม่ที่ไม่ควรพลาดครับ

6.ทำความรู้จักวัฒนธรรมและประเพณีของประเทศที่จะเดินทางไป

เมื่อเราเตรียมทุกอย่างพร้อมแล้ว อีกสิ่งหนึ่งที่ควรทำการบ้านให้พร้อมก่อนออกเดินทางก็คือ การทำความรู้จักวัฒนธรรมและประเพณีของแต่ละประเทศเบื้องต้น ถ้าเราเข้าใจวัฒนธรรมและประเพณีแล้ว จะช่วยลดการเกิด Culture Shock ณ ประเทศที่เราจะเดินทางไปเรียนต่อได้ อาทิ การเข้าใจวัฒนธรรมการใช้มือกินข้าวของคนอินเดีย-มาเลเซีย หรือการนับถือศาสนาอิสลามเป็นศาสนาหลักในบางประเทศ การรู้วัฒนธรรมเหล่านี้ล่วงหน้า จะช่วยให้เราเตรียมพร้อม และปรับตัวได้ไวขึ้น

7.ซื้อประกันการเดินทาง

ข้อสุดท้าย ซึ่งถือเป็นข้อสำคัญมาก ๆ และไม่ควรมองข้าม คือการซื้อประกันการเดินทาง หลาย ๆ ประเทศ จะบังคับว่านักศึกษาต้องซื้อประกันการเดินทางไปด้วย และอีกหลาย ๆ ประเทศแนะนำให้ซื้อประกันการเดินทางก่อนไป เมื่อเราไปอยู่อาศัย ณ ประเทศปลายทางแล้ว เราไม่มีทางรู้เลยว่าจะเกิดอุบัติเหตุเมื่อไหร่ ถ้าเราไม่มีประกันการเดินทางสำหรับศึกษาต่อต่างประเทศแล้ว อุบัติเหตุบางเคส อาจจะเสียค่ารักพยาบาลเป็นล้าน! และสำหรับคนที่ซื้อประกันแล้ว เมื่อเกิดอุบัติเหตุ ก็เพียงนำค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นจริง มาเคลมประกันที่ทำไว้ได้เลย แค่นี้ก็สบายใจ หายห่วงเรื่องค่ารักษาพยาบาลแล้วครับ

เมื่อเตรียมตัวพร้อมทั้ง 7 ข้อแล้ว ก็ถึงเวลาออกเดินทางไปศึกษาต่อได้อย่างสบายใจแล้วครับ อย่าลืมนะครับว่า ประกันการเดินทางสำคัญมาก ไม่ว่าจะเจ็บป่วย หรือเกิดอุบัติเหตุระหว่างศึกษาต่อ ประกันการเดินทางก็จะช่วยคุ้มครองค่ารักษาพยาบาลทั้งหมด สำหรับใครที่กำลังมองหาประกันการเดินทางสำหรับศึกษาต่อต่างประเทศอยู่ Allianz Travel มีแผนประกันการเดินทาง Overseas Student Care ที่จะคุ้มครองครอบคลุมถึงค่ารักษาพยาบาล เพียงเท่านี้ก็มั่นใจ ไร้กังวล มีความสุขกับการเรียนได้อย่างเต็มที่แล้วครับ

เรามุ่งมั่นที่จะช่วยเหลือและดูแลคุณ

อลิอันซ์ทราเวลเป็นผู้นำระดับโลกด้านประกันภัยการเดินทางและบริการช่วยเหลือทั่วไป เรามีแผนประกันภัยที่หลากหลายให้เลือก ครอบคลุมตั้งแต่แผนรายเที่ยว แผนรายปี แผนครอบครัว ไปจนถึงแผนเดินทางศึกษาต่อต่างประเทศ เราทุ่มเทที่จะให้บริการช่วยเหลือและปกป้องคุณทุกที่ ทุกเวลาเท่าที่เราจะทำได้ เราไม่ได้จำกัดอยู่แค่ประกันภัยและการให้ความช่วยเหลือ แต่เรามุ่งเน้นไปที่สิ่งที่มากกว่านั้น และทุกบริการของเราก็เพื่อลูกค้าคนสำคัญของเรา

5 ข้อ เตรียมพร้อมก่อน ROAD TRIP

เตรียมพร้อมก่อน ROAD TRIP

ถ้าหากว่า ความสวยงามของการเดินทางคือการค้นหาความหมายระหว่างทาง และปลายทางคือความสำเร็จ จึงทำให้การเช่ารถขับเที่ยวในต่างประเทศหรือ Road Trip นั้นได้รับความนิยมมากขึ้น ตอนนี้ถือได้ว่าเป็นอีกหนึ่งเทรนด์ของนักเดินทางที่กำลังได้รับความนิยม หากใครยังไม่เคยออกไปลอง นี่ถือเป็นการท่องเที่ยวที่แตกต่างอีกรูปแบบหนึ่งที่ต้องลองสักครั้ง เพราะนอกจากเรื่องความสะดวกสบายและความเป็นส่วนตัว ยังสามารถแวะเที่ยวตามทางที่เราต้องการไปเรื่อยๆจนถึงจุดหมายได้ ไม่ว่าจะเป็นจุดชมวิวสวยๆเพื่อลง social แบบไม่ซ้ำใคร หรือร้านอาหารที่น่าสนใจนอกเหนือรายการรีวิว และที่สำคัญยังช่วยกระชับความสัมพันธ์ผู้ร่วมทริปได้อีกจากการช่วยกันแก้ปัญหา ลองผิดลองถูก เพราะไม่สามารถคาดเดาได้เลยว่าจะเจออะไรระหว่างทางบ้าง ถ้าตัดสินใจกันแล้วก็มาเตรียมตัวกับ “5 เตรียม” ที่ Allianz Travel ขอแนะนำกันเลย

  1. เตรียมตัว นอกจากเตรียมร่างกายให้พร้อมเนื่องจากการขับรถเที่ยวนั้นสิ่งสำคัญคือสุขภาพของผู้ขับ ซึ่งต้องแข็งแรงเพราะการขับรถเป็นระยะเวลานานอาจส่งผลให้เกิดความเหนื่อล้า หรือถ้าหากมีอาการเจ็บป่วยก่อนการเดินทางก็อาจเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุได้ และเกิดอันตรายต่อผู้ร่วมทางได้นั่นเอง ดังนั้นควรนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอก่อนการเดินทาง เพื่อไม่ให้เกิดการเหนื่อยล้าหรือหลับในขณะขับรถ และขับขี่รถด้วยความระมัดระวัง ไม่ขับรถเร็วเกินกว่ากฎหมายกำหนด แต่ถ้าหากเกิดอาการเหนื่อยล้า ก็แวะพักชมวิวขยับแข้งขา หรือจะถ่ายรูปสวยๆชิคๆโพสต์ลงโซเชียลแก้ความเมื่อยล้าก็ได้ นอกแผนนิดหน่อยได้ไม่ว่ากัน
  2. เตรียมใจ เพราะเหตุการณ์ฉุกเฉินนั้นอาจเกิดขึ้นได้ทุกเวลาโดยไม่มีการแจ้งล่วงหน้า ดังนั้นการเตรียมใจเผื่อไว้ ดึงสติไว้ให้มั่น เพื่อรับมือเหตุการณ์ที่อาจเกิดขึ้น เช่นอุบัติเหตุ หลงทาง น้ำมันหมด หรืออื่นๆที่อาจเกิดขึ้นได้ ข้อแนะนำคือ การเตรียมเบอร์โทรฉุกเฉินของแต่ละประเทศที่เราเดินทางไปไว้ด้วย เผื่อไว้ในกรณีเกิดเหตุไม่คาดฝันระหว่างการขับรถเที่ยว เพราะเราไม่สามารถรู้ได้ว่าอันตรายในการขับขี่หรืออุบัติเหตุจะเกิดขึ้นเมื่อใด แต่เราจะสามารถสบายใจได้มากขึ้น และอาจกลายมาเป็นความทรงจำดีๆที่ต้องเล่าต่อได้เลย
  3. เตรียมรถ ส่วนประกอบสำคัญที่สุดของการเดินทางแบบ Road Trip หลังจากการเช่ารถแล้ว ก่อนออกเดินทางเราควรตรวจเช็คความพร้อมของรถก่อนด้วยว่าระบบต่างๆสามารถใช้งานได้อย่างปกติ เพื่อให้แน่ใจว่าอุปกรณ์ต่างๆนั้นจะพร้อมใช้งานเมื่อถึงเวลา นอกจากสภาพของตัวรถเองนั้น เราควรตรวจสอบเรื่องอุปกรณ์และอะไหล่สำหรับเหตุฉุกเฉิน เช่น ยางอะไหล่ ไฟฉาย แม่แรง ประแจ เครื่องสูบยางรถยนต์ ไขควง น้ำมันสำรอง สายพ่วงแบตเตอรี่ หรือชุดปฐมพยาบาลกรณีเกิดเหตุฉุกเฉิน เพื่อว่าจะสามารถแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าได้เมื่อจำเป็น แต่หากเป็นสาวๆ ก็แนะนำว่าให้โทรหาเบอร์ฉุกเฉินที่เตรียมไว้ตามข้อ 2 แล้วนั่งรออยู่ในรถจะเหมาะกว่า ^^
  4. เตรียมแวะ วางแผนขับรถเที่ยวเองทั้งที ต้องศึกษาเส้นทางการเดินทางกันหน่อย นอกจากเรื่องระยะทาง ระยะเวลาที่ใช้ในการเดินทาง หรือเส้นทางที่จะต้องใช้ ที่แน่นอนว่าเราต้องเช็คให้เรียบร้อยก่อนการเดินทาง เราขอแนะนำอีกหน่อยเพื่อความอภิรมย์ในการเดินทาง คือ… มองหาที่เที่ยว หรือจุดที่น่าสนใจระหว่างเส้นทาง เราอาจจะได้พบ Unseen บางจุดให้ถ่ายรูปเก๋ๆ หรือร้านอร่อยที่ยังไม่มีใครเคยเจอ เอาไว้แชร์กับแคปชั่นเด็ดแนว Explorer กันหน่อย ดังนั้น กล้องต้องพร้อม พรอพต้องได้ แต่ยังไงก็ตาม อย่ามัวแต่มองหาจุดแวะจนลืมว่าเราต้องไปให้ถึงจุดหมายกันด้วยล่ะ
  5. เตรียมเอกสาร เพื่อให้ Road Trip ของเรานั้นไม่สะดุดหรือต้องยกเลิก เราควรเตรียมพร้อมเรื่องเอกสารต่างๆที่จำเป็นต้องเตรียมพร้อมจากประเทศเราด้วย เช่นใบขับขี่สากล ซึ่งสามารถทำได้ที่ กรมการขนส่งทางบกจังหวัด และเอกสารที่จำเป็นตามข้อกำหนดแต่ละประเทศ ซึ่งอาจมีความต้องการแตกต่างกันไปในบางอย่าง นอกจากนั้น เราควรคำนึงถึงเรื่องความปลอดภัยด้วยและหากว่าเราเช่ารถจากผู้ให้บริการ ก็ควรเตรียมเอกสารการจองและศึกษาเงื่อนไงและข้อกำหนดในสัญญาเช่าให้ละเอียดเรียบร้อยด้วย

นอกจากการเตรียมพร้อมทั้งหมดที่กล่าวมา การขับรถไปในเส้นทางที่เราไม่คุ้นชินนั้น เรื่องความปลอดภัยเป็นสิ่งที่ต้องระวังอย่างยิ่ง และค่าใช้จ่ายระหว่างทางก็เป็นสิ่งที่ต้องคำนึงถึงด้วย โดยเฉพาะหากเกิดเหตุการณ์ไม่คาดคิดทำให้ต้องเสียเงินเพิ่มไปกับปัญหาหรืออุบัติเหตุที่เกิดขึ้น ไม่ว่าจะเป็นความเจ็บป่วยที่อาจเกิดจากอากาศ อาหารการกิน หรือกับรถที่เช่ามา ดังนั้นการเตรียมพร้อมที่ดีและมีประกันที่ครอบคลุมถึงค่าใช้จ่ายส่วนนี้ไว้ย่อมดีกว่า เช่นความคุ้มครองประกันภัยการเดินทาง โดย Allianz Travel Thailand ที่มอบคุ้มครองที่ครอบคลุมถึงเรื่องการชดเชยความรับผิดชอบส่วนแรกสำหรับรถเช่ากรณีเกิดเหตุไม่คาดฝัน นอกเหนือจากความเจ็บป่วยและความช่วยเหลือฉุกเฉิน เพื่อช่วยผ่อนหนักเป็นเบา และลดภาระค่าใช้จ่ายที่เพิมขึ้นโดยไม่คาดคิด เพื่อให้คุณได้เดินทางท่องเที่ยวอย่างสบายใจ ไม่ต้องกังวลให้ทริปหมดสนุก

เรามุ่งมั่นที่จะช่วยเหลือและดูแลคุณ

อลิอันซ์ทราเวลเป็นผู้นำระดับโลกด้านประกันภัยการเดินทางและบริการช่วยเหลือทั่วไป เรามีแผนประกันภัยที่หลากหลายให้เลือก ครอบคลุมตั้งแต่แผนรายเที่ยว แผนรายปี แผนครอบครัว ไปจนถึงแผนเดินทางศึกษาต่อต่างประเทศ เราทุ่มเทที่จะให้บริการช่วยเหลือและปกป้องคุณทุกที่ ทุกเวลาเท่าที่เราจะทำได้ เราไม่ได้จำกัดอยู่แค่ประกันภัยและการให้ความช่วยเหลือ แต่เรามุ่งเน้นไปที่สิ่งที่มากกว่านั้น และทุกบริการของเราก็เพื่อลูกค้าคนสำคัญของเรา