เช่ารถเที่ยวต่างประเทศ ต้องเตรียมตัวอย่างไร

เช่ารถเที่ยวต่างประเทศ ต้องเตรียมตัวอย่างไร

การเดินทางไปยังสถานที่ที่น่าสนใจระหว่างการท่องเที่ยวต่างประเทศ มีทางเลือกหลายรูปแบบ ทั้งทางรถ เรือ หรือเครื่องบินโดยสารภายในประเทศ เราอาจเลือกใช้บริการการขนส่งสารสาธารณะ หรือการเช่ารถขับ ซึ่งการ เช่ารถเที่ยวต่างประเทศ ก็เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ช่วยอำนวยความสะดวกให้เข้าถึงสถานที่ท่องเที่ยวที่อยู่ห่างไกลได้ง่ายยิ่งขึ้น และง่ายต่อการจัดการให้ได้ตามเวลาที่เราวางแผนการเดินทางไปยังสถานที่ต่างๆ วันนี้ Allianz Travel มีเช็คลิสต์การเตรียมตัวเช่ารถขับเที่ยวต่างประเทศมาฝากเพื่อนๆ กันค่ะ รับรองว่าหากทำตามรายการนี้แล้ว ทริปขับรถเที่ยวของเพื่อนๆ ต้องสนุก ปลอดภัย และไร้ปัญหาที่ต้องมาคอยกังวลกันค่ะ

1. วางแผนการเดินทางและศึกษาเส้นทางล่วงหน้า

วางแผนการเดินทาง สำหรับการ เช่ารถเที่ยวต่างประเทศ

ก่อนออกเดินทาง เราควรวางแผนการเดินทางไว้ล่วงหน้าเพื่อให้การขับรถเที่ยวของเราเป็นไปอย่างราบรื่น ตัวอย่างเช่น


1.1 ศึกษาและเช็คเส้นทางที่จะเดินทางไปยังจุดหมาย หากมีหลายเส้นทาง ให้เลือกเส้นทางที่มีสถานที่ หรือสิ่งอำนวยความสะดวกหากเกิดเหตุการณ์ฉุกเฉิน จะได้ขอความช่วยเหลือได้ทัน

  • ดูรายละเอียดของสถานที่ต่างๆ ที่เราต้องขับผ่านตามเส้นทาง ทำเครื่องหมายมาร์คจุดสำคัญไว้ในแผนที่ เช่น ปั๊มน้ำมัน ร้านอาหาร สถานที่ท่องเที่ยวที่ต้องการแวะบนเส้นทาง สถานีตำรวจ โรงพยาบาล โรงแรมหรือที่พัก เป็นต้น
  • ศึกษารายละเอียดของจุดหมายปลายทางที่เรากำลังจะเดินทางไปท่องเที่ยว รวมถึงบริเวณที่จอดรถหรือทางเข้าออก

1.2 ตรวจสอบสภาพภูมิอากาศก่อนออกเดินทาง

การที่เราตรวจเช็คสภาพอากาศก่อนออกเดินทาง ช่วยให้เราเตรียมอุปกรณ์ที่จำเป็นไว้ล่วงหน้า อย่างเช่น หากเดินทางไปในสถานที่ที่มีโอกาสจะมีหิมะตก เราก็ต้องใช้รถที่มียางรถยนต์สำหรับวิ่งบนหิมะ หรือที่เรียกว่ายางหิมะเป็นยางรถยนต์ที่มีดอกยางพิเศษกว่ายางรถยนต์ทั่วๆไปและยึดเกาะบนถนนได้ดีกว่ายางธรรมดา  ถึงแม้ว่าจุดเริ่มเดินทางจะไม่มีหิมะตกก็ตาม แต่ในระหว่างเดินทางหรือจุดหมายปลายทางอาจมีหิมะตกก็ได้ ดังนั้นก่อนเดินทางจึงต้องศึกษาสภาพอากาศให้ดี และควรใช้ความระมัดระวังในการขับขี่เพิ่มขึ้นหากขับรถบนถนนที่มีหิมะ

2. ศึกษาข้อมูลกฎระเบียบการจราจร

ศึกษาข้อมูลกฎระเบียบการจราจรของประเทศต่างๆ  สำหรับการ เช่ารถเที่ยวต่างประเทศ

กฎระเบียบการจราจรของแต่ละสถานที่ท่องเที่ยวในแต่ละภูมิภาคของโลกมีรูปแบบและวัฒนธรรมในการใช้รถใช้ถนนที่แตกต่างกันออกไป ไม่ว่าจะเป็นภูมิภาคอเมริกา ยุโรป และเอเชีย ดังนั้นเราควรศึกษาเส้นทางในการออกเดินทางไปยังสถานที่ต่างๆ ให้ดี ศึกษาข้อมูลกฎระเบียบการจราจร ศึกษาป้ายจราจร รูปแบบและวัฒนธรรมในการใช้รถใช้ถนนของแต่ละประเทศที่เราต้องการจะไป เพื่อป้องกันเหตุการณ์ที่อาจทำให้ทริปของเราหมดสนุก

3. จองรถที่ต้องการเช่าไว้ล่วงหน้า

ทำการ เช่ารถเที่ยวต่างประเทศ ไว้ล่วงหน้า

เพื่อให้การเดินทางเป็นไปตามแผนที่เราวางไว้ และไม่เสียเวลาในวันออกเดินทางจริง เราควรทำการเช่ารถให้เรียบร้อยก่อนออกเดินทาง โดยติดต่อบริษัทเช่ารถล่วงหน้า หรือผ่านระบบการเช่ารถออนไลน์ นอกจากนั้น การจองล่วงหน้าหลายวัน ก็อาจทำให้เราได้รับส่วนลด หรือโปรโมชั่นอื่นๆ เพิ่มเติมอีกด้วย ที่สำคัญทำให้เราสามารถประหยัดเวลาและลดขั้นตอนความยุ่งยากในการเช่ารถที่จะเกิดขึ้นในวันที่ไปรับรถ หรือออกเดินทาง

4. เตรียมเอกสารสำคัญที่จำเป็นสำหรับการเช่ารถเที่ยวต่างประเทศ

เตรียมใบขับขี่สากลและเอกสารสำคัญที่จำเป็นสำหรับการ เช่ารถเที่ยวต่างประเทศ

เตรียมเอกสารสำคัญที่ใช้ในการเช่ารถในต่างประเทศ อย่างน้อยที่เราจะต้องเตรียมไว้คือ พาสปอร์ตของผู้ขับขี่ ใบขับขี่สากล และบัตรเครดิต

5. ตรวจสอบสภาพรถก่อนรับรถ

ตรวจสอบสภาพรถเช่า  สำหรับการ เช่ารถเที่ยวต่างประเทศ

ก่อนรับรถหรือก่อนออกเดินทาง ควรตรวจสอบสภาพของรถให้เรียบร้อย โดยรถควรอยู่ในสภาพที่ปลอดภัยพร้อมใช้งาน มีอุปกรณ์ที่จำเป็นในสถานการณ์ฉุกเฉินอยู่ภายในรถ เช่น ยางรถยนต์สำรอง ป้ายฉุกเฉิน สายพ่วงแบตเตอรี่ อุปกรณ์สำหรับการเปลี่ยนยางรถยนต์เบื้องต้น เป็นต้น

6. ถ่ายรูปรถก่อนรับมาใช้งานและก่อนส่งคืนหลังจากการใช้งาน

ถ่ายรูปรถก่อนรับมาใช้งานและก่อนส่งคืนหลังจากการใช้งาน สำหรับการ เช่ารถเที่ยวต่างประเทศ

ก่อนรับและส่งรถคืน ควรถ่ายภาพหรือถ่ายวิดีโอรถเช่าให้ทั่วทุกมุมของรถ เพื่อให้เห็นสภาพโดยรอบของตัวรถโดยละเอียด โดยเฉพาะตำหนิต่างๆ ที่ปรากฎบนตัวรถ เพื่อป้องกันปัญหาที่อาจเกิดขึ้นตอนส่งคืนรถให้กับผู้ให้เช่า โดยผู้ให้เช่าอาจเรียกเก็บเงินเพิ่มเติมหรือให้ชดเชยค่าเสียหาย ดังนั้นการที่เรามีรูปหรือวิดีโอเป็นหลักฐานจะสามารถนำมาใช้ยืนยัน ในกรณีที่มีปัญหาเมื่อส่งคืนรถ

7. เตรียมโทรศัพท์มือถือ สายชาร์จ​ และแบตเตอรี่สำรองให้พร้อม

เตรียมมือถือ สายชาร์จมือถือ​ และแบตเตอรี่สำรองให้พร้อม  สำหรับการ เช่ารถเที่ยวต่างประเทศ

ปัจจุบันมีแอปพลิเคชั่นบนมือถือหรือเว็บไซต์มากมายที่ช่วยให้เราดูเส้นทาง และวางแผนการเดินทางได้อย่างสะดวก เช่น Google Maps หรือ Apple Maps เป็นต้น การเตรียมโทรศัพท์มือถือให้พร้อมจะช่วยอำนวยความสะดวกได้เป็นอย่างดี เราไม่ควรหวังพึ่งระบบ GPS จากรถเช่าแต่เพียงอย่างเดียว เพราะรถเช่าบางบิรษัทอาจไม่มีระบบ GPS หรืออาจมีแอพพลิเคชั่นที่เราไม่เคยใช้มาก่อน ทำให้เราต้องเสียเวลาศึกษา เพราะความไม่คุ้นชินกับระบบ นอกจากนี้การใช้แอปพลิเคชั่นที่เราใช้ประจำ จะช่วยให้เราวางแผนได้ล่วงหน้า เตรียมการมาร์คจุดหมายปลายทาง หรือสถานที่ต่างๆ ที่ต้องการเดินทางไว้ก่อนได้ด้วย และสิ่งสำคัญคือต้องเตรียมอุปกรณ์ที่ใช้กับโทรศัพท์มือถือให้พร้อม อย่างเช่น สายชาร์จหรือแบตเตอรี่สำรอง

8. ตรวจสอบระดับน้ำมันและระดับแบตเตอรี่คงเหลือของรถยนต์อยู่เสมอ

ตรวจสอบระดับน้ำมันคงเหลือหรือระดับแบตเตอรี่คงเหลือของรถยนต์อยู่เสมอ สำหรับการ เช่ารถเที่ยวต่างประเทศ

การ เช่ารถเที่ยวต่างประเทศ ระหว่างการเดินทาง เราควรตรวจสอบระดับน้ำมันหรือระดับแบตเตอรี่คงเหลือของรถอยู่เสมอ และในการวางแผนการเดินทางก็ควรมาร์คจุดสถานีบริการน้ำมัน หรือสถานีบริการชาร์จแบตเตอรี่รถยนต์ และควรคำนวณระยะทางในการเดินทางไปในแต่ละสถานที่โดยคร่าวๆ ไว้ในแผนการเดินทางด้วย เพื่อให้เราสามารถเข้าไปเติมน้ำมันหรือชาร์จแบตเตอรี่ได้ตามระยะทางที่กำหนดไว้

9. เตรียมเบอร์โทรศัพท์หรือช่องทางการติดต่อกรณีเกิดเหตุฉุกเฉิน

เตรียมเบอร์โทรศัพท์หรือช่องทางการติดต่อกรณีเกิดเหตุฉุกเฉิน สำหรับการ เช่ารถเที่ยวต่างประเทศ

ในการเดินทางทุกครั้ง เราควรเตรียมเบอร์โทรศัพท์หรือช่องทางสำหรับการติดต่อกับหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องในกรณีเกิดเหตุฉุกเฉิน เช่น สถานีตำรวจ โรงพยาบาลหรือรถพยาบาลฉุกเฉิน บริษัทประกันการเดินทางที่เราทำประกันไว้ บริษัทรถเช่า สถานทูตไทยประจำประเทศที่เราเดินทางไป และสถานที่สำคัญต่างๆ เป็นต้น เพื่อที่เราจะได้รับมือกับเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดที่อาจเกิดขึ้นได้

10. ทำประกันการเดินทางต่างประเทศ

ทำประกันการเดินทางต่างประเทศ สำหรับ เช่ารถเที่ยวต่างประเทศ

การเช่ารถยนต์ในต่างประเทศส่วนใหญ่จะมีส่วนของประกันที่รวมไปในค่าเช่ารถแล้ว แต่เป็นรูปแบบของประกันที่จะมีการจ่ายค่าเสียหายบางส่วนที่เกิดขึ้นให้แก่รถเช่าเท่านั้น นอกจากนี้เรายังสามารถซื้อประกันเพิ่มได้อีก เผื่อเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝัน ที่เราอาจต้องเสียค่าใช้จ่ายเป็นจำนวนมาก แต่ค่าใช้จ่ายก็จะสูงขึ้นตามไปด้วยหากต้องการความครอบคลุมที่คุ้มค่ากับรถเช่าของเรา แต่เราก็มีมีทางเลือกหนึ่งที่ช่วยให้เราไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายในการทำประกันเป็นจำนวนมาก แต่ได้รับความคุ้มครองครอบคลุมในส่วนของความเสียหายที่เกิดกับรถเช่าด้วย คือการทำประกันการเดินทางที่มีความคุ้มครองครอบคลุมในส่วนของรถเช่าด้วย

นอกจากช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายกรณีที่เกิดเหตุการณ์ไม่คาดคิดกับรถแล้ว ประกันภัยการเดินทางยังช่วยคุ้มครองกรณีเจ็บป่วย หรือเหตุฉุกเฉินอื่นๆ อีกด้วย ช่วยให้เราสามารถเดินทางได้อย่างอุ่นใจ ไม่ต้องกังวลระหว่างการเดินทาง

การเช่ารถขับเที่ยวในต่างประเทศช่วยให้เราเดินทางท่องเที่ยวได้สะดวกสบาย สามารถเดินทางไปยังสถานที่ต่างๆ ได้ตามแผนที่วางไว้  อยากหยุดแวะเที่ยวถ่ายรูประหว่างทางก็สามารถทำได้ แต่ต้องมีการเตรียมตัววางแผนและเตรียมความพร้อมสำหรับการเดินทางให้ดี และสิ่งสำคัญที่เราควรมีทุกครั้งที่เดินทางไปต่างประเทศ คือ ประกันการเดินทาง ที่จะช่วยให้แผนการเดินทางของเราไม่สะดุด สามารถทำกิจกรรมต่างๆ ได้อย่างอุ่นใจ ไร้กังวล ให้ความคุ้มครองครอบคลุมค่าใช้จ่ายที่เกิดจากเหตุการณ์ฉุกเฉินที่อาจเกิดขึ้นโดยไม่คาดฝัน*

*เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทกำหนด

เลือกแผนประกันการเดินทางที่ใช่สำหรับคุณ แผนประกันการเดินทาง Dance Moves จาก Allianz Travel

Applications for travel aboard

เที่ยวที่ไหนก็รอด! 8 แอปฯ แนะนำ สำหรับทริปต่างประเทศ

การจัดทริปเที่ยวต่างประเทศเอง ไม่ว่าจะเที่ยวแบบ backpack, เที่ยวเป็นคู่, เที่ยวยกแก๊งเพื่อน หรือเที่ยวกับครอบครัว ไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป เพราะปัจจุบันเรามีเทคโนโลยีที่จะช่วยให้การเดินทางท่องเที่ยวของเราสะดวกสบายมากขึ้น Allianz Travel ขอแนะนำ 8 แอปพลิเคชันสำหรับทริปเที่ยวต่างประเทศ ที่ใช้งานง่าย สะดวกทั้งระบบ iOS และ Android ทำให้คุณอุ่นใจไร้กังวลตลอดการเดินทางเลยค่ะ

1. MAP.ME

เป็นแอปพลิเคชันแผนที่แบบ offline พูดง่ายๆ คือ เราสามารถใช้งานแอปฯ นี้ดูแผนที่ได้แบบไม่ต้องพึ่งพาเครือข่ายอินเทอร์เน็ตเลย Map.me จะช่วยให้เราวางแผนการเดินทางเพื่อไม่ให้พลาดสถานที่ท่องเที่ยวน่าสนใจรอบๆ พื้นที่ได้ ด้วยการรวบรวมข้อมูลของหลายประเทศทั่วโลก เราสามารถใช้งานแอปฯ นี้ ในประเทศไหนก็ได้ ข้อมูต่างๆ มีการอัพเดทตลอดเวลา ไม่ต้องกลัวเลยว่า จะตกเทรนด์หรือประสบปัญหาการหลงทางเลยค่ะ ยิ่งกว่านั้น Map.me มีตัวช่วยในการค้นหาโรงแรม, ร้านอาหารและคาเฟ่, การขนส่งสาธารณะ ฯลฯ อีกด้วย

2. SPLITWISE

หากคุณเคยประสบปัญหาเรื่องการจัดการบิล หรือค่าใช้จ่ายเวลาไปเที่ยว แอปพลิเคชัน Splitwise ถือว่าตอบโจทย์ และช่วยแก้ไขความยุ่งยากนี้ได้แน่นอน การใช้งานแอปฯ ก็แสนง่าย ไม่ซับซ้อน เราสามารถบันทึก, จัดหมวดหมู่, แบ่งสัดส่วนค่าใช้จ่ายได้อย่างอิสระ สำหรับใครที่มีหลายทริป เที่ยวกับเพื่อนหลายกลุ่ม เราก็สามารถตั้งกลุ่มเฉพาะทริปหรือกิจกรรมนั้นๆ ได้ สามารถดาวน์โหลด๊เป็นไฟล์ .csv ได้ด้วย พร้อมมีสกุลเงินที่รองรับมากกว่า 100 ประเทศ ก่อนไปเที่ยวจริง เราโหลดแอปฯ นี้ไปทดลองใช้กับปาร์ตี้เล็กๆ ของเรากับแก๊็งเพื่อนได้นะคะ

3. XE-CURRENCY

แอปพลิเคชันสำหรับการจัดการเงินระหว่างประเทศ ที่ทั้งสามารถทำได้ในขั้นตอนเดียว ไม่ว่าจะเป็นการตรวจอัตราสกุลเงินกลางของตลาด, การแปลงสกุลเงินเพื่อโอนเงินไปต่างประเทศ พร้อมตรวจสอบสถานะการโอนเงินได้เลยทันทีในแอปฯ นี้ ไม่ต้องลำบากเช็กที่ธนาคาร นอกจากนี้ แอปฯ XE-Currency สามารถใช้งานได้แบบออฟไลน์ไม่ต้องใช้เครือข่ายอินเทอร์เน็ตนะคะ

4. ITRANSLATE

เวลาไปเที่ยวต่างประเทศ เราอาจจะพบเจอปัญหาเรื่องการสื่อสาร การอ่านป้ายในภาษาที่เราไม่คุ้นเคย ดังนั้น iTranslate จึงเป็นแอปฯ แปลภาษาที่ตอบโจทย์อย่างมาก เพราะใช้งานง่าย ไม่ต้องใช้สัญญาณอินเทอร์เน็ตหรือโรมมิ่งใดๆ และมีภาษารองรับมากกว่า 100 ภาษาทั่วโลก โดยเราสามารถพิมพ์ประโยคสนทนา หรือจะใช้คำสั่งเสียงแทนการพิมพ์ก็ได้ นอกจากนี้ ยังมีฟังก์ชันเพิ่มเติมสำหรับผู้ที่ต้องการใช้ Pro features อีกด้วย เช่น ใช้กล้องถ่ายภาพสแกนป้าย, แปลบทสนทนาแบบเสียง-ต่อ-เสียงได้แบบทันที, การผันรูปประโยคตามการสนทนา ฯลฯ

5. SKYSCANNER

แอปพลิเคชันสำหรับทริปต่างประเทศ ที่ครบครันตั้งแต่การค้นหาสถานที่ท่องเที่ยว, ที่พัก/โรงแรม, จองเครื่องบิน, เช่ารถ ฯลฯ ให้เราวางแผนการท่องเที่ยวได้ง่ายขึ้น ในราคาที่ดีที่สุด พร้อมกับโปรโมชั่นที่พักที่ดีที่สุดให้ผู้ใช้งานอย่างเรา ที่สำคัญคือ ไม่บวกค่าธรรมเนียมเพิ่มเติมด้วย ใครที่มองหาตัวช่วยในการวางแผนเดินทาง แบบแอปฯ เดียวจบ แนะนำให้ดาวน์โหลด Skyscanner ติดโทรศัพท์ไว้เลยนะคะ

6. MOMONDO

แอป Momondo เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่คล้ายกับแอป Skyscanner จุดเด่นของแอปพลิเคชันนี้คือ การค้นหาและเปรียบเทียบราคาที่พัก/ตั๋วเครื่องบินที่รวดเร็ว ใช้งานง่าย หน้าตาแอปฯ สวยงามและฟรี เหมาะสำหรับการวางแผนทริปท่องเที่ยวที่มีงบประมาณจำกัด เราสามารถตั้งค่าตัวเลือกการค้นหาที่โดนใจเรา และยังสามารถบันทึกหรือเชื่อมต่อประวัติการค้นหาของเราเก็บไว้ในโทรศัพท์หรืออุปกรณ์อื่นได้อีกด้วย ถือเป็นอีกหนึ่งแอปฯ ที่คำนึงถึงผู้ใช้งานอย่างมากเลยค่ะ

7. POCKET

เชื่อว่าหลายคนที่จัดทริปไปต่างประเทศ คงต้องมีการวางแผนก่อนเดินทางเสมอ โดยเฉพาะการหาบทความรีวิวจากเว็บไซต์, วิดีโอ, ข่าวสารหรือโซเชียลมีเดียต่างๆ มากมายจนจำไม่ได้ว่าเก็บไว้ที่ไหนบ้าง แอปพลิเคชัน POCKET จะเข้ามาช่วยเราเข้าถึงและจัดเก็บเว็บไซต์, บทความ, โพสต์ที่เราสนใจจากโซเชียลมีเดียเอาไว้ในแอปฯ เดียว และสามารถเอาออกมาอ่านได้ในภายหลังแบบออฟไลน์ ถึงแม้ว่าเราจะอยู่ในที่ที่ไม่มีเครือข่ายอินเทอร์เน็ตก็ตาม รับรองว่าสะดวกและประหยัดเวลามากขึ้นด้วยค่ะ

8. ROME2RIO

Rome2rio เป็นแอปพลิเคชันที่เหมาะสำหรับคนที่ชื่นชอบการเดินทางเองด้วยขนส่งสาธารณะตอนไปเที่ยวต่างประเทศ ที่รวมตัวเลือกหลากหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นเที่ยวบิน, รถไฟ, รถบัส, เรือเฟอร์รี่ และรถเช่า เป็นต้น เราสามารถวางแผนการเดินทางในแต่ละวันผ่านแอปฯ นี้ได้เลย รวมถึงการเช็กตารางรถสาธารณะได้แบบ real-time และใช้ได้มากกว่า 160 ประเทศทั่วโลก

เป็นอย่างไรบ้างคะ? กับ 8 แอปพลิเคชันที่เรานำมาฝากกัน อย่าลืมโหลดไว้ในโทรศัพท์มือถือก่อนเดินทางนะคะ และเพื่อให้อุ่นใจกับทริปท่องเที่ยวต่างประเทศของคุณยิ่งขึ้น มาเลือกซื้อประกันการเดินทางจาก Allianz Travel ที่พร้อมดูแลคุณ 24 ชม. ทั่วโลก

ขอบคุณข้อมูลจาก
The 10 Best Travel Apps for 2021
15 Essential Travel Apps for backpackers

ขอบคุณรูปภาพจาก
Google Play

เรามุ่งมั่นที่จะช่วยเหลือและดูแลคุณ

อลิอันซ์ทราเวลเป็นผู้นำระดับโลกด้านประกันภัยการเดินทางและบริการช่วยเหลือทั่วไป เรามีแผนประกันภัยที่หลากหลายให้เลือก ครอบคลุมตั้งแต่แผนรายเที่ยว แผนรายปี แผนครอบครัว ไปจนถึงแผนเดินทางศึกษาต่อต่างประเทศ เราทุ่มเทที่จะให้บริการช่วยเหลือและปกป้องคุณทุกที่ ทุกเวลาเท่าที่เราจะทำได้ เราไม่ได้จำกัดอยู่แค่ประกันภัยและการให้ความช่วยเหลือ แต่เรามุ่งเน้นไปที่สิ่งที่มากกว่านั้น และทุกบริการของเราก็เพื่อลูกค้าคนสำคัญของเรา

เที่ยวนครวัด เสน่ห์มนต์ขลัง ที่ต้องลองไปสัมผัสแล้วจะรัก

เสน่ห์มนต์ขลังของ “ นครวัด ” ที่ต้องลองไปสัมผัสแล้วจะรัก

วันนี้ Allianz Travel เรามีแหล่งท่องเที่ยวสุดอลังการที่ได้รับการขนานนามว่าเป็นแหล่งมรดกโลกมาแนะนำทุกท่าน สถานที่ที่เต็มไปด้วยมนต์ขลังและความยิ่งใหญ่ จนทำให้ได้รับการขนานนามว่ามีความสวยงามด้วยสถาปัตยกรรมจนติดอันดับ 1 ใน 10 สถานที่ท่องเที่ยวสุดฮิตในอาเซียนอีกด้วย เก็บเป็นลิสต์ไว้ก่อน ถ้าเราสามารถเดินทางไปต่างประเทศได้เมื่อไหร่ จะได้มีจุดมุ่งหมายในการออกเดินทางไปเที่ยวกัน เพราะอยู่ใกล้ ๆ แค่กัมพูชาประเทศเพื่อนบ้านเรานี่เอง การเดินทางง่ายมากค่ะ เพียงนั่งเครื่องบินออกจากสนามบินนานาชาติดอนเมือง ไปยังนามบินเสียมเรียบอินเตอร์เนชั่นแนล ใช้เวลาเพียง 1 ชั่วโมงเท่านั้น ก็สามารถเที่ยวได้ทันทีแบบไม่เสียเวลาไปกับเดินทางนาน ๆ เลยค่ะ

เราจะพาทุกท่านไปเที่ยวชม “ นครวัด ” ศาสนสถานสำคัญของโลก ณ ประเทศกัมพูชา ไปชมสถาปัตยกรรมขอมโบราณที่ใช้เวลาเดินทางจากสนามบินเสียมเรียบเพียง 15 นาทีเท่านั้น

นครวัด สถาปัตยกรรมอันงดงาม
ท่องเที่ยว นครวัด

นครวัดเป็นศาสนสถานสุดยิ่งใหญ่ที่กลายเป็นสัญลักษณ์หนึ่งของประเทศกัมพูชาที่หลายคนทั่วโลกต่างรู้จักกันเป็นอย่างดี นครวัดสร้างในสมัยของพระเจ้าสุริยวรมันที่ 2 ในช่วงต้นคริสต์ศตวรรษที่ 12 เป็นศูนย์กลางทางศาสนาที่สำคัญเพียงแห่งเดียวที่ยังเหลือรอดมาจนถึงปัจจุบันค่ะ นักท่องเที่ยวมักจะนิยมเที่ยวกันในช่วงเดือนพฤศจิกายนจนถึงเดือนกุมภาพันธ์ เพราะเป็นช่วงที่มีอากาศดีไม่ร้อนจนเกินไป อุณหภูมิจะอยู่ที่ 25-30 องศาเท่านั้นเองค่ะ

นครวัด ประเทศ กัมพูชา

นครวัดเป็นศาสนสถานที่สร้างตามคติความเชื่อทางศาสนาของผู้สร้างในขณะนั้น และการก่อสร้างค่อนข้างกินเวลานานทำให้นครวัดได้รับอิทธิพลจากศาสนาความเชื่อถึง 2 ศาสนา คือแรกเริ่มเป็นศาสนาฮินดูและเปลี่ยนเป็นศาสนาพุทธในตอนท้าย ผังการสร้างปราสาทนครวัดทำเสมือนเป็นแบบภูเขา มีระเบียงคดที่มีภาพสลัก การสร้างปราสาทรูปแบบนี้สื่อถึงเขาพระสุเมรุ ซึ่งตามความเชื่อนั้น เขาพระสุเมรุเป็นสถานที่ที่สถิตของเทพและเทวดาในปกรณัมของศาสนาฮินดู ด้านนอกมีคูน้ำและกำแพงล้อม โดยตัวปราสาทประกอบด้วยระเบียงคดสี่เหลี่ยมที่มีภาพสลักทั้งหมดสามชั้น แต่ละชั้นตั้งอยู่สูงกว่าชั้นล่าง ตรงกลางของปราสาทคือพระปรางค์ที่มีทั้งหมด 5 ยอด นครวัดมีความแตกต่างจากปราสาทในพระนครปราสาทอื่น ๆ เนื่องจากมีการหันหน้าไปทางทิศตะวันตก

นครวัดได้รับการยกย่องในด้านความงามและความกลมกลืนของตัวสถาปัตยกรรม ภาพสลักฝาผนังที่เด่น ๆ สำคัญ ๆ ฝั่งหนึ่งเป็นเรื่องราวการต่อสู้ที่ทุ่งกุรุเกษตรของมหากาพย์มหาภารตะ (มหากาพย์ของศาสนาพราหมณ์-ฮินดู) และ อีกฝั่งเป็นเนื้อหา เกี่ยวกับความเชื่อ โลกสวรรค์ – โลกมนุษย์ – โลกนรก ซึ่งก็คือ เรื่อง บาป- บุญ ของศาสนาพุทธ รายละเอียดของจิตรกรรมต่าง ๆ เป็นเรื่องราวที่เข้มข้นน่าติดตาม

สถาปัตยกรรม นครวัด
สถานที่ท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์ นครวัด

นอกจากนั้นแล้วยังมีสถาปัตยกรรมส่วนอื่น ๆให้ชมอีกมากมาย อาทิเช่น ปราสาทตาพรหม ที่ต้นไม้เลื้อยพันไปกับตัวปราสาทที่เป็นฉากสำคัญในการถ่ายหนัง Holly Wood ที่แองโจลิน่า โจลีห์ แสดงนำอย่างเรื่อง Tomb Raider อีกด้วยนะคะ ตัวสถานที่กว้างใหญ่น่าค้นหาจริง ๆ

สถาปัตยกรรม นครวัด
นครวัด กัมพูชา

พูดถึงการเดินทางไปนครวัดก็ง่าย ความสวยงามยิ่งใหญ่ของสถานที่ก็น่าตื่นเต้น น่าสนใจ ทั้งเรื่องราวความเป็นมาและศิลปะของสถาปัตยกรรมแบบเขมรก็ยิ่งใหญ่ตระการตา อยากให้ลองจัดไปสักทริปค่ะ จะต้องเป็นอีกทริปที่คุณหลงรักแน่นอน ค่าใช้จ่ายก็ไม่สูง ที่พักมีให้เลือกตั้งแต่หลักร้อยไปจนหลักหลายพันบาท นอกจากชมสถาปัตยกรรมอย่าพลาดไปสัมผัสวิถีชีวิต ตลาด ร้านอาหารท้องถิ่นต่าง ๆ ของประเทศเพื่อนบ้านของเราด้วยตนเองด้วยนะคะ

เที่ยวนครวัด
เที่ยวนครวัด

ถ้าอยากเที่ยวแบบอุ่นใจ ไร้กังวล ในการไปเที่ยวต่างแดนแบบนี้ อย่าลืมเลือกทำประกันการเดินทางกับ Allianz Travel นะคะ เราพร้อมดูแลคุณ 24 ชั่วโมง

ขอบคุณข้อมูลจาก :
เที่ยวกัมพูชา ชมความยิ่งใหญ่ ปราสาทนครวัดนครธม

เรามุ่งมั่นที่จะช่วยเหลือและดูแลคุณ

อลิอันซ์ทราเวลเป็นผู้นำระดับโลกด้านประกันภัยการเดินทางและบริการช่วยเหลือทั่วไป เรามีแผนประกันภัยที่หลากหลายให้เลือก ครอบคลุมตั้งแต่แผนรายเที่ยว แผนรายปี แผนครอบครัว ไปจนถึงแผนเดินทางศึกษาต่อต่างประเทศ เราทุ่มเทที่จะให้บริการช่วยเหลือและปกป้องคุณทุกที่ ทุกเวลาเท่าที่เราจะทำได้ เราไม่ได้จำกัดอยู่แค่ประกันภัยและการให้ความช่วยเหลือ แต่เรามุ่งเน้นไปที่สิ่งที่มากกว่านั้น และทุกบริการของเราก็เพื่อลูกค้าคนสำคัญของเรา

เช็คอิน 20 เมืองน่าเที่ยว ยุโรปตะวันออก

ยุโรปตะวันออก: เช็คอิน 20 เมืองน่าเที่ยว

เมื่อพูดถึงทวีป “ยุโรป” หลาย ๆ คน คงนึกถึงประเทศในแถบทวีปยุโรปตะวันตกกันเป็นส่วนใหญ่ ไม่ว่าจะเป็นประเทศอังกฤษ ฝรั่งเศส หรือเยอรมัน ซึ่งประเทศเหล่านี้ ล้วนเป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมของนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ อย่างไรก็ตาม ยุโรปไม่ได้มีดีเพียงแค่ยุโรปตะวันตกเท่านั้นค่ะ ประเทศในแถบยุโรปตะวันออกเองก็มีแหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจมากมาย รวมไปถึงสถาปัตยกรรม อาคารบ้านเรือน และโบสถ์ยุคกลางที่ยังคงความสมบูรณ์ วันนี้ Allianz Travel เลยไม่รอช้า ขออาสาเป็นไกด์ พาทุกคนไปเที่ยว 20 เมืองยุโรปตะวันออกกันค่ะ

1. BUCHAREST, ROMANIA

มาเริ่มกันที่เมืองแรกเลยค่ะกับเมืองบูคาเรสต์ เมืองหลวงของประเทศโรมาเนีย บูคาเรสต์เคยได้ฉายาว่า “Little Paris” ในช่วงต้นศตวรรษที่ 19 ด้วยความทันสมัยของอาคารบ้านเรือนและรสนิยมของชาวเมืองที่คล้าย ๆ กับเมืองปารีสของฝรั่งเศส ณ ขณะนั้น

เมืองบูคาเรสต์ มีสถานที่ท่องเที่ยวให้ท่องเที่ยวชมมากมาย แต่ที่โดดเด่น และถือเป็นไฮไลต์พลาดไม่ได้เลย ก็คือ พระราชวังรัฐสภา ซึ่งมีความหรูหราและอลังการ เทียบเท่าได้กับเพนตากอนของสหรัฐเลยค่ะ นอกจากนี้ยังมีสถาปัตยกรรมอีกหลายแห่งที่มีความโดดเด่น อาทิ คอนเสิร์ตฮอลล์ Romanian Athenaeum, มหาวิทยาลัยบูคาเรสต์ และพิพิธภัณฑ์แห่งชาติ เป็นต้น

BUCHAREST, ROMANIA

2. SIBIU, ROMANIA

จากเมืองหลวงบูคาเรสต์ ขึ้นเหนืออีกนิดไปที่เมืองซีบีอู แคว้นทรานซิลวาเนีย ซีบีอูเป็นเมืองหลวงแห่งวัฒนธรรมยุโรปเมื่อปี ค.ศ. 2007 และเป็นเมืองมรดกโลกที่มีความเก่าแก่ทางสถาปัตยกรรม ด้วยบริเวณเมืองเก่าเป็นชุมชนของชาวเยอรมันเป็นส่วนใหญ่ จึงเต็มไปด้วยบ้านเรือนศิลปะแบบบาโรคและโกธิค สำหรับสถานที่เที่ยวที่น่าสนใจ อาทิ พิพิธภัณฑ์พระราชวัง Brukenthal, จตุรัส Piaata Mare และร้านอาหาร Crama Sibiu Vechi และเมื่อมายังแคว้นทรานซิลวาเนียแล้ว ใครที่ชื่นชอบการปีนเขา ที่นี่ก็มี Transylvania Mountain Trail ด้วยค่ะ โดยเส้นทางปีนเขาทรานซิลวาเนีย เป็นจุดหมายปลายทางของนักปีนเขาจำนวนมาก ด้วยความสวยงามของภูเขา Carpathian บวกกับภาพวิวทิวทัศน์ปราสาท Bran ปราสาทที่สร้างขึ้นตั้งแต่ศตวรรษที่ 14 และตั้งตระหง่าอยู่กลางภูเขาล้อมรอบด้วยป่าไม้

SIBIU, ROMANIA

3. BRATISLAVA, SLOVAKIA

จากประเทศโรมาเนีย มาเที่ยวกันต่อที่เมืองหลวงของประเทศสโลวาเกีย กับเมืองบราติสลาวา เมืองที่อยู่ติดชายแดนกับประเทศออสเตรีย สามารถนั่งรถไฟมาจากกรุงเวียนนาได้ บราติสลาวา เป็นเมืองเก่าแก่ที่เต็มไปด้วยสถาปัตยกรรมยุคกลาง มีปราสาทเนินเขาบราติสลาวาเป็นจุดเด่นสำคัญ และเมื่อมาเที่ยวบราติสลาวาแล้ว ก็ห้ามพลาดการเยี่ยมชมพระราชวัง Primatial โรงละคร Slovenske narodne divadlo รวมไปถึงการเดินหาอาหารพื้นเมืองทานที่จตุรัสเมืองเก่า ซึ่งที่นั้นจะมีร้านอาหาร ผับ บาร์ และตลาดนัด ให้เดินเล่นและทานอาหารกันอย่างเพลิดเพลินเลยค่ะ

BRATISLAVA, SLOVAKIA

4. SKOPJE, MACEDONIA

สโกเปีย เมืองหลวงของประเทศมาซิโดเนียที่มีความหลากหลายทางวัฒนธรรมมากที่สุดแห่งหนึ่ง ในอดีต สโกเปียเคยตกอยู่ภายใต้การปกครองของหลายอาณาจักร เช่น โรมัน ไบแซนไทน์ บัลกาเรียน เซอร์เบีย และออโตมันซึ่งปกครองเมืองยาวนานกว่า 500 ปี ด้วยเหตุนี้ สโกเปียจึงเป็นเมืองที่มีวัฒนธรรมทั้งคริสเตียนและอิสลาม ผสมผสานเข้ากันได้อย่างลงตัว

สำหรับสถานที่เที่ยวน่าสนใจ อาทิ จตุรัสมาซิโดเนีย, ประตูชัยมาซิโดเนีย, โบสถ์แม่ชีเทเรซ่า, โรงละครแห่งชาติมาซิโดเนีย เป็นต้น

SKOPJE, MACEDONIA

5. DUBROVNIK, CROATIA

ดูโบรฟนิก ไข่มุกแห่งทะเลอเดรียติค เมืองเก่าแก่ติดชายทะเลทางตอนใต้ของโครเอเชียที่กำลังได้รับความนิยมเป็นอย่างสูงจากนักท่องเที่ยว ด้วยการเป็นสถานที่ถ่ายทำภาพยนตร์ Game of Thrones ทำให้นักท่องเที่ยวนิยมมาถ่ายรูปกันจำนวนมากค่ะ

ดูโบรฟนิกเป็นเมืองเก่าแก่ที่มีสถาปัตยกรรมสไตล์ยุโรปยุคกลาง ได้รับการยกย่องว่าเป็นเมืองที่สวยงามที่สุดเมืองหนึ่งในยุโรปตะวันออก และได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นเมืองมรดกโลกจากยูเนสโกในปี ค.ศ. 1979 ดูโบรฟนิกมีศิลปและวัฒนธรรมสไตล์ยุโรปยุคกลางมากมาย ไม่ว่าจะเป็นโบสถ์ พิพิธภัณฑ์ หรือประติมากรรม และสถานที่เที่ยวที่พลาดไม่ได้เลย ก็คือ การเดินตามกำแพงเมืองเพื่อชื่นชมวิวทิวทัศน์เมืองและทะเลอเดรียติคค่ะ

DUBROVNIK, CROATIA

6. SPLIT, CROATIA

จากดูโบรฟนิก ขึ้นเหนือเลียบชายฝั่งมายังเมืองสปลิต เมืองชายฝั่งทางตะวันออกของทะเลอเดรียติค และเป็นเมืองที่ใหญ่อันดับสองของประเทศโครเอเชียด้วยค่ะ เมื่อมาเที่ยวยังเมืองสปลิตแล้ว ก็พลาดไมได้เลยที่จะไป เยือนพระราชวังไดโอคลีเชียน พระราชวังที่สร้างขึ้นโดยจักรพรรดิไดโอคลีเชียนเมื่อศตวรรษที่ 4 และปัจจุบันได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกด้วยค่ะ โดยตัวพระราชวัง เปรียบเสมือนศูนย์กลางของเมือง ที่ปัจจุบันเต็มไปด้วยร้านค้า ร้านอาหาร และถนนคนเดิน

สำหรับใครที่ชื่นชอบการเล่นน้ำทะเล ที่เมืองสปลิตก็มีชายหาดสีขาวสวยงามหลากหลายหาดให้เล่นน้ำทะเลกันด้วยค่ะ

SPLIT, CROATIA

7. BELGRADE, SERBIA

จากโครเอเชีย ย้ายมาเที่ยวที่เซอร์เบียกับเมืองเบลเกรด เมืองหลวงของประเทศเซอร์เบีย ซึ่งเบลเกรดเป็นศูนย์กลางทางการค้า วัฒนธรรม และประวัติศาสตร์ เป็นดินแดนที่ที่มีความสำคัญทางวัฒนธรรมยุคก่อนประวัติศาสตร์แห่งหนึ่งของยุโรป สำหรับแหล่งท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์ หลาย ๆ แห่งในเมืองเบลเกรดตั้งอยู่ไม่ไกลจากกันมากนัก ไม่ว่าจะเป็นพิพิธภัณฑ์ทหารเบลเกรด ซึ่งมีวัตถุโบราณกว่า 3,000 ชิ้น หรือจะแวะพักผ่อนที่สวนสาธารณะเคลเมกเดน สวนสาธารณะที่ตั้งอยู่รอบป้อมปราการ และที่พลาดไม่ได้เลยก็คือพิพิธภัณฑ์แห่งชาติเซอร์เบียที่จะพาเราดื่มด่ำไปกับงานศิลปะกว่า 400,000 ชิ้นจากหลากหลายยุคสมัย

เบลเกรดเป็นเมืองที่แม่น้ำสองสายดานูบและซาวาไหลมาบรรจบกัน เอกลักษณ์อีกอย่างหนึ่งของเบลเกรดคือเป็นเมืองราบลุ่มที่มีเนินต่ำสลับ โดยมีทิวเขาสองแห่งตั้งเป็นกำแพงอยู่ทางใต้ ในฤดูหนาวจะมีอุณหภูมิหนาวจัด เหมาะแก่การท่องเที่ยวค่ะ

BELGRADE, SERBIA

8. LIUBLJANA, SLOVENIA

ลูบลิยานา เมืองหลวงของประเทศสโลวีเนีย ตั้งอยู่ใจกลางของทวีปยุโรประหว่างเทือกเขาแอลป์ ทะเลเมดิเตอร์เรเนียน และที่ราบแพนโนเนียน ลูบลิยานา เป็นเมืองที่เต็มไปด้วยพิพิธภัณฑ์ ร้านอาหารและโรงแรม โดยใจกลางเมืองจะเป็นจตุรัสขนาดใหญ่ ขนาบข้างด้วยแม่น้ำลูบลิยานาที่ไหลผ่าน ซึ่งทางรัฐบาลได้จัดให้พื้นที่จตุรัสกลางเมืองเป็นพื้นที่ห้ามรถวิ่ง ทำให้มีร้านอาหาร และคาเฟ่ตลอดสองข้างทางเลียบแม่น้ำ เหมาะแก่การปั่นจักรยานเล่นกลางเมือง และถ้าใครอยากชมสถาปัตยกรรมแบบสโลวีเนีย ก็อย่าลืมแวะไปที่ปราสาทลูบลิยานา และห้องสมุดแห่งชาติ ทั้งสองสถานที่ล้วนมีความสวยงามตามแบบฉบับสถาปัตยกรรมสโลวีเนีย

LIUBLJANA, SLOVENIA

9. WARSAW, POLAND

วอร์ซอเป็นเมืองหลวงและเมืองที่ใหญ่ที่สุดของประเทศโปแลนด์ เป็นเมืองศูนย์กลางอุตสาหกรรมหลัก เช่น เหล็กกล้า รถยนต์ เครื่องจักรอุตสาหกรรม และยังเป็นศูนย์กลางด้านการศึกษาอีกด้วย โดยสถานที่เที่ยววอร์ซอแบ่งได้เป็นสามโซนหลัก ๆ ด้วยกันคือ โซน Old Town โซน Royal Route และโซนเมืองใหม่

โซนเมืองเก่าเป็นโซนที่ได้รับการบูรณะขึ้นใหม่ภายหลังจากการเสียหายจากภัยสงครามโลก สถาปัตยกรรมต่าง ๆ ในโซนเมืองเก่า ถูกสร้างขึ้นมาใหม่อีกครั้งโดยคงรูปแบบเดิมเอาไว้ และสำหรับใครที่อยากศึกษาประวัติศาสตร์เมืองเก่าแห่งนี้ ก็มีพิพิธภัณฑ์ Warsaw Rising Museum ที่เก็บรวบรวมประวัติศาสตร์เมืองให้ศึกษาอีกด้วยค่ะ

WARSAW, POLAND

10. KRAKOW, POLAND

จากวอร์ซอ มาต่อกันที่เมืองคราโคว เมืองที่เก่าแก่ที่สุดเมืองหนึ่งในประเทศโปแลนด์ และเป็นเมืองที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก โดยไฮไลต์ของเมือง อยู่ที่ย่าน Old Town ซึ่งจะมีอาคารบ้านเรือน พระราชวัง และโบสถ์เก่าแก่จำนวนมาก ที่เที่ยวที่ห้ามพลาดเลยก็คือ ปราสาทพระราชวังวาเวล และโบสถ์ St. Adabert โบสถ์เก่าแก่ที่มีอายุเกือบพันปี และปิดท้ายทริปด้วยการเยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์ Schindler พิพิธภัณฑ์ที่บอกเล่าเรื่องราวช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง ในสมัยที่กองทัพนาซีของเยอรมันเข้ายึดครองเมือง ซึ่ง พิพิธภัณฑ์ Schindler ตั้งอยู่บนโรงงานเดิมของ Oscar Schindler นักอุตสาหกรรมชาวเยอรมันที่ได้ช่วยชีวิตชาวยิวในเมืองคราโควกว่า 1,200 คน เรื่องราวเหล่านี้ได้ถูกนำไปสร้างเป็นภาพยนตร์ด้วยค่ะ

KRAKOW, POLAND

11. SOFIA, BULGARIA

เมื่อพูดถึงประเทศบัลแกเรีย หลาย ๆ คนคงจะนึกถึงโยเกิร์ตกันเป็นอันดับแรก แต่บัลแกเรียไม่ได้มีดีแค่โยเกิร์ตนะคะ เพราะบัลแกเรียเต็มไปด้วยสถานที่ท่องเที่ยวมากมาย และเมืองที่เราจะพาไปเที่ยววันนี้ก็คือเมืองหลวงของประเทศ อย่างเมืองโซเฟียค่ะ

โซเฟียเป็นเมืองหลวงสุดน่ารักที่เต็มไปด้วยอาคารเกร๋ ๆ แต่งแต้มไปด้วยสีพาสเทล เหมาะแก่การเดินเล่นชิล ๆ และถ่ายรูปสวย ๆ เป็นที่ระลึก ขณะที่ ภายในเมืองก็มีร้านค้า คาเฟ่ และร้านอาหารจำนวนมากในบริเวณมาร์เก็ตฮอลล์ และหากใครไปโซเฟียทั้งทีก็อย่าลืมแวะไปเที่ยวอาสนวิหารอเล็กซานเดอร์ เนฟสกี (Alexander Nevsky Cathedral) โบสถ์สไตล์ออร์โธด็อกซ์ของบัลแกเรีย จากนั้นแวะไปเที่ยวที่โบสถ์โบยานา (Boyana Church) โบสถ์เล็ก ๆ ที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก ดูข้างนอกอาจจะธรรมดา แต่ภายในเต็มไปด้วยจิตรกรรมฝาผนังอันสวยงามค่ะ

SOFIA, BULGARIA

12. TALLINN, ESTONIA

จากบัลแกเรีย มาต่อกันที่ประเทศเล็ก ๆ อย่างเอสโตเนีย กับเมืองหลวงทาลลินน์ เมืองเก่าแก่ที่เต็มไปด้วยอาคารบ้านเรือนสวยงามมากมาย และตลอดสองข้างทางของเมือง ก็เต็มไปด้วยร้านค้า ร้านอาหาร และร้านคาเฟ่ โดยไฮไลต์สำคัญของเมืองคือการเยี่ยมชม ทาวน์ฮอลล์สไตล์โกธิคที่เก่าแก่ที่สุดในยุโรป รวมไปถึงแลนมาร์คสำคัญของเมืองอย่างโบสถ์เซนต์โอลาฟ ซึ่งภายในโบสถ์จะมีจุดให้เราชมวิวทิวทัศน์เมืองแบบ 360 องศา

เอสโตเนีย มีขนาดพื้นที่โดยรวมแค่ประมาณ 45,227 ตารางกิโลเมตร (17,462 ตารางไมล์) ทางทิศเหนือจะติดกับอ่าวฟินแลนด์ ทิศตะวันตกติดกับทะเลบอลติก ทิศใต้ติดกับปะเทศลัตเวีย ส่วนทางทิศตะวันออกจะติดกับประเทศรัสเซียนั่นเอง ทำให้สามารถเที่ยวหมดได้ภายในระยะเวลาสั้น ๆ และสามารถนั่งรถไฟมาจากทางประเทศรัสเซียหรือทางลัตเวียได้ค่ะ

TALLINN, ESTONIA

13. RIGA, LATVIA

ริกา เมืองหลวงของประเทศลัตเวียที่ตั้งอยู่ริมทะเลบอลติก หนึ่งในสามประเทศเกิดใหม่หลังจากการล่มสลายของสหภาพโซเวียต ริกาได้รับการยกย่องว่าเป็นเมืองแห่งศิลปะ “อาร์ตนูโว” (Art Nouveau) ด้วยความโดดเด่นของเมืองที่เต็มไปด้วยสถาปัตยกรรมอาร์ตนูโว ซึ่งหมายถึงการใช้รูปแบบธรรมชาติ โดยเฉพาะดอกไม้และพืชอื่น ๆ มาทำเป็นลวดลายเส้นโค้งที่อ่อนช้อย ประดับทั้งภายในและภายนอกอาคาร

สำหรับสถานที่ท่องเที่ยวน่าสนใจภายในเมือง อาทิ Central Market, The Riga Art Nouveau Center, House of Blackheads, Latvia National Museum of Art เป็นต้น

ริกา เป็นเมืองชิล ๆ สีสันสดใส ที่สามารถเดินเล่นได้รอบเมืองเลยค่ะ ด้วยความสวยงามของสถาปัตยกรรม เดินไปทางไหน เป็นอันต้องหยุดเพื่อแชะภาพเป็นที่ระลึก ที่สำคัญ เป็นเมืองที่สามารถเที่ยวได้หมดภายในหนึ่งวัน

RIGA, LATVIA

14. VILNIUS, LITHUANIA

จากลัตเวีย ลงทางใต้มายังประเทศลิธัวเนียที่เมืองวีลนิอุส เมืองหลวงของประเทศที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกเพราะความเก่าแก่ยาวนานของประวัติศาสตร์ และความสวยงามของตัวอาคารบ้านเรือนที่มีอายุมาตั้งแต่ช่วงยุคกลาง ตัวเมืองวิลนีอุสมีแม่น้ำสายเล็ก ๆ สองสายไหลผ่านได้แก่ Neris กับ Vilnia จึงทำให้ภายในบริเวณเขตตัวเมืองเก่านั้นมีต้นไม้ขึ้นเขียวชอุ่มไปทั่วทั้งเมือง และบริเวณจัตุรัสเมืองหรือ Town Hall Square จะมีสไตล์การปลูกสร้างเป็นศิลปะแบบบาโรค และบางส่วนก็จะมีส่วนผสมของศิลปะแบบโกธิครวมอยู่ด้วยค่ะ

เมื่อมายังเมืองวีลนิอุสแล้ว อีกหนึ่งสถานที่ห้ามพลาดก็คือ การเยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์สังหารหมู่ (Museum of Genocide) ซึ่งเป็นพิพิธภัณฑ์ที่รวบรวมความโหดร้ายของการกดขี่และการสังหารหมู่ชาวลิธัวเนีย ภายใต้การปกครองของสหภาพโซเวียตนานกว่า 50 ปี

VILNIUS, LITHUANIA

15. KOTOR, MONTENEGRO

กอเตอร์ เมืองโบราณที่มีอายุกว่า 2,000 ปี ตั้งอยู่ติดทะเลอเดรียติค มีประวัติศาสตร์เก่าแก่มาตั้งแต่สมัยกรีกและโรมัน เคยเป็นเมืองท่าชายฝั่งทะเล และศูนย์การค้าที่สำคัญในแถบทะเลเอเดรียติก กอเตอร์เป็นเมืองที่มีภูมิประเทศสวยงาม รายล้อมด้วยเทือกเขาและอ่าวกอเตอร์ ภายในเมืองมีกำแพงเมือง ป้อมปราการจากอดีต คูคลองที่เชื่อมกับอ่าว และอาคารบ้านเรือนแบบยุคกลางที่ยังคงอนุรักษ์ความเก่าแก่ไว้ได้เป็นอย่างดี จนความสวยงามทางธรรมชาติและวัฒนธรรมของที่นี่ได้รับการขึ้นทะเบียนให้เป็นมรดกโลกจากองค์การยูเนสโกค่ะ

สำหรับสถานที่ท่องเที่ยวน่าสนใจได้แก่ กำแพงเมืองและป้อมกอเตอร์ กำแพงและป้อมเก่าแก่ที่ยังคงความสมบูรณ์แบบที่สุดแห่งหนึ่งของยุโรป, โบสถ์เลดี้ออฟเดอะร็อคส์ โบสถ์พระแม่มารีที่ตั้งอยู่บนเกาะเล็ก ๆ, ปราสาทแห่งซาน จีโอวานนี ปราสาทเก่าแก่ยุคกลาง, โบสถ์แห่งกอเตอร์ โบสถ์โรมันคาทอลิกเก่าแก่ในเมือง

KOTOR, MONTENEGRO

16. SARAJEVO, BOSNIA AND HERCEGOVINA

ซาราเยโวเป็นมืองหลวงของประเทศบอสเนียและเฮอร์เซโกวีนา ซึ่งเมื่อทศวรรษ 1990 ทั้งเมืองเคยกลายเป็นซากปรักหักพังจากภัยสงครามกลางเมืองก่อนที่จะฟื้นตัวขึ้นมา กลายเป็นเมืองท่องเที่ยวเมืองยอดนิยมเมืองหนึ่งของประเทศ

เมื่อมาถึงซาราเยโวแล้ว พลาดไม่ได้เลยที่จะต้องไปดู Kovaci Memorial Cemetery สุสานขนาดใหญ่สำหรับฝังศพชาวบอสเนียที่ทำการสู้รบกับชาวเซิรบ์ในสงครามกลางเมืองเมื่อทศวรรษ 1990 รวมไปถึงการเยี่ยมชม Sarajevo Tunnel Museum พิพิธภัณฑ์ที่ครั้งหนึ่งชาวบอสเนียเคยใช้เป็นอุโมงค์เพื่อหลบหนีออกไปนอกเมือง และใช้เป็นที่ส่งเสบียงอาหารเข้ามายังภายในเมือง สำหรับสถานที่ท่องเที่ยวอื่น ๆ ที่น่าสนใจ อาทิ Gazi Husrev-beg Mosque, Latin Bridge, Jewish Museum, Sarajevo Town Hall เป็นต้น

SARAJEVO, BOSNIA AND HERCEGOVINA

17. PRAGUE, CZECH REPUBLIC

ปราก เมืองหลวงและเมืองที่ใหญ่ที่สุดของสาธารณรัฐเช็ก ปรากได้รับฉายาว่า “The City of a Hundred Spires” หรือ “เมืองแห่งหนึ่งร้อยยอด” เนื่องจากทั้งเมืองเต็มไปด้วยความสวยงามและเงียบสงบท่ามกลางขุนเขา อีกทั้งยังเป็นศูนย์กลางอาณาจักรโบราณมาเนิ่นนานตั้งแต่ 200 ปีก่อนคริสตกาล เมืองปรากจึงเต็มไปด้วยเรื่องราว เรื่องเล่า และสถาปัตยกรรมเก่าแก่จำนวนมาก จนทำให้ปรากได้รับการประกาศให้เป็นเมืองมรดกโลกจากยูเนสโกเมื่อปี ค.ศ. 1992 และนับเป็นหนึ่งในจุดหมายปลายทางของนักท่องเที่ยวทั่วโลกด้วยค่ะ

สำหรับสถานที่เที่ยวน่าสนใจ อาทิ
• สะพานชาร์ลส์ สะพานหินเก่าแก่คู่เมือปราก สร้างขึ้นตั้งแต่ปีค.ศ. 1357
• ปราสาทปราก ปราสาทโบราณที่ใหญ่ที่สุดในโลก ด้วยสถาปัตยกรรมแบบโกธิค และภายในปราสาทยังมีสถานที่สำคัญหลายแห่ง อาทิ ถนนทองคำ, มหาวิหารบาซิลลิกา ออฟ เซนต์จอร์จ, พระราชวังเก่า
• หอนาฬิกาดาราศาสตร์ หอนาฬิกาเก่าแก่ที่ติดตั้งครั้งแรกเมื่อปี ค.ศ. 1410 และยังคงใช้งานได้จนถึงปัจจุบัน
• ซุ้มประตูเมือง Powder Tower ตั้งตระหง่านอยู่บริเวณย่านโซนเก่า สร้างด้วยสถาปัตยกรรมโกธิค ด้านบนเป็นหอคอยจุดชมวิวเมืองยอดนิยมของนักท่องเที่ยว

PRAGUE, CZECH REPUBLIC

18. OLOMOUC, CZECH REPUBLIC

จากกรุงปราก มาเที่ยวกันต่อที่เมืองโอโลโมซ ซึ่งตัวเมืองตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกของภูมิภาค Moravia เคยเป็นเมืองหลวงเก่ามาก่อน ห่างจากกรุงปรากโดยรถไฟประมาณสองชั่วโมงครึ่ง ตามเรื่องเล่า เล่ากันว่าเมืองโอโลโมซถือกำเนิดจากการเป็นป้อมปราการของชาวโรมัน โดยมีจูเลียส ซีซาร์เป็นผู้สร้างเมืองขึ้นมา ทำให้เมืองทั้งเมืองได้รับอิทธิพลทางศิลปะและสถาปัตยกรรมแบบโรมันมาทั้งหมดค่ะ

สำหรับสถานที่เที่ยวยอดนิยมที่ใครมาโอโลโมซต่างต้องแวะมาก็คือ จตุรัสใจกลางเมืองที่มีเสาหิน Holy Trinity ศิลปะสไตล์บาโรคตั้งอยู่ โดยเจ้าเสาหินนี้สร้างขึ้นตั้งแต่ศตวรรษที่ 18 ประดับประดาไปด้วยรูปปั้นทางศาสนา นอกจากนี้ยังมีสถานที่น่าสนใจอีกมากมาย อาทิ หอนาฬิกาดาราศาสตร์ โบสถ์เซนต์มอริสท์ พิพิธภัณฑ์ศิลปะ ศาลากลางยุคศตวรรษ 14 และพระราชวังบิชอป เป็นต้น

OLOMOUC, CZECH REPUBLIC

19. BERAT, ALBANIA

เบรัต เมืองที่ได้รับการขนานนามว่า “Town of a thousand windows” หรือเมืองที่มีหน้าต่างหลายพันบาน ด้วยลักษณะภูมิประเทศเป็นภูเขา ทำให้อาคารบ้านเรือนสร้างขึ้นลดหลั่นกันตามแนวภูเขา Tomorri ไปจนถึงตัวปราสาทเบรัต เกิดเป็นภาพหน้าต่างหลายพันบานเมื่อมองมาจากข้างล่าง นอกจากนี้แล้ว ทั้งเมืองยังเป็นเมืองเก่าที่อนุรักษ์สถาปัตยกรรมออตโตมันไว้อย่างสมบูรณ์จนได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกเมื่อปี ค.ศ. 2005

เมื่อมายังเบรัตแล้ว สถานที่เที่ยวที่พลาดไม่ได้เลยก็คือการขึ้นไปยังปราสาทเบรัตเพื่อชมวิวทิวทัศน์รอบเมืองแบบ 360 องศา และเมื่อพระอาทิตย์ตกดิน ก็ไปเดินเล่นที่ถนนคนเดินกลางเมือง เพื่อดื่มด่ำบรรยากาศอันแสนสบายแบบชาวเบรัต ที่จะพากันออกมาสังสรรค์ตามถนนกัน และถ้าอยากเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับวัฒนธรรมและศิลปะของชาวเบรัต ก็มีพิพิธภัณฑ์แห่งชาติ Onufri ให้เข้าชมกันค่ะ

BERAT, ALBANIA

20. BUDAPEST, HUNGARY

มาถึงเมืองสุดท้ายกับเมืองบูดาเปสต์ เมืองหลวงของประเทศฮังการีที่ได้รับการขนานนามว่าเป็น “ไข่มุกแห่งแม่น้ำดานูบ” เนื่องด้วยลักษณะของเมืองที่ตั้งอยู่ริมสองฝั่งแม่น้ำดานูบ ฝั่งตะวันตกของแม่น้ำเรียกว่าฝั่งบูดา และฝั่งตะวันออกของแม่น้ำเรียกว่าฝั่งเปสต์ ด้วยลักษณะเมืองที่มีแม่น้ำคั่นกลาง ทำให้ภูมิทัศน์เมืองมีความสวยงามทั้งจากตัวสถาปัตยกรรม ผังเมือง สะพานข้ามแม่น้ำ และอาคารบ้านเรือน

บูดาเปสต์ เป็นเมืองที่มีสถานที่ท่องเที่ยวเยอะมาก ต้องใช้เวลาหลายวันในการเที่ยว สถานที่เที่ยวที่พลาดไม่ได้เลยได้ อาทิ
• สะพานเชนเซเชนยี สะพานที่พาดระหว่างแม่น้ำดานูบสองฝั่ง ซึ่งกลายมาเป็นสัญลักษณ์ของเมือง
• ปราสาทบูดา ปราสาทที่ในอดีตเคยเป็นที่พำนักของกษัตริย์ฮังการี ปัจจุบันเป็นที่ตั้งของพิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์ชาติ
• โรงอาบน้ำเซเชนยี โรงอาบน้ำที่มีสปาน้ำพุร้อนใหญ่ที่สุดในยุโรป
• จัตุรัสวีรชน สร้างขึ้นเพื่อสรรเสริญวีรบุรุษฮังการีในอดีต และเพื่อฉลองครบรอบ 1,000 ปีประเทศ
• เกลเลิร์ต ฮิลล์ สถานที่ชมวิวที่สามารถมองเห็นวิวบูดาเปสต์ทั้งสองฝั่งได้แบบพาโนรามา
• รัฐสภาฮังการี รัฐสภาที่มีความงดงามตามแบบฉบับสถาปัตยกรรมนีโอคลาสสิค

BUDAPEST, HUNGARY

เป็นอย่างไรกันบ้างคะ กับ 20 เมืองน่าเที่ยวประเทศแถบยุโรปตะวันออก หลาย ๆ เมืองอาจเป็นเมืองที่เราไม่คุ้นเคยหรือไม่เคยได้ยินมาก่อน แต่เมืองเหล่านี้ล้วนมีสถานที่ท่องเที่ยวน่าสนใจหลากหลายแห่ง รวมไปถึงสถาปัตยกรรม ศิลปะและวัฒนธรรมที่แตกต่างจากสถานที่อื่น ๆ รอให้นักท่องเที่ยวได้ไปค้นหา เรียนรู้ และสัมผัสประสบการณ์แปลกใหม่ หวังว่าประเทศแถบยุโรปตะวันออกจะอยู่ใน “Bucket List” สำหรับแพลนเที่ยวครั้งหน้านะคะ ^^

ขอบคุณข้อมูลจาก :
25 Amazing Places in Eastern Europe You Have To Visit

เรามุ่งมั่นที่จะช่วยเหลือและดูแลคุณ

อลิอันซ์ทราเวลเป็นผู้นำระดับโลกด้านประกันภัยการเดินทางและบริการช่วยเหลือทั่วไป เรามีแผนประกันภัยที่หลากหลายให้เลือก ครอบคลุมตั้งแต่แผนรายเที่ยว แผนรายปี แผนครอบครัว ไปจนถึงแผนเดินทางศึกษาต่อต่างประเทศ เราทุ่มเทที่จะให้บริการช่วยเหลือและปกป้องคุณทุกที่ ทุกเวลาเท่าที่เราจะทำได้ เราไม่ได้จำกัดอยู่แค่ประกันภัยและการให้ความช่วยเหลือ แต่เรามุ่งเน้นไปที่สิ่งที่มากกว่านั้น และทุกบริการของเราก็เพื่อลูกค้าคนสำคัญของเรา

best-hiking-trails-europe

ตะลุยธรรมชาติ: 12 เส้นทางเดินเขาทวีปยุโรป

การท่องเที่ยวด้วยการเดินเขาถือเป็นกิจกรรมยอดนิยมสำหรับนักท่องเที่ยวสายผจญภัยที่ชื่นชอบความท้าทายและความทรหด ความสนุกของการเดินเขา นอกเหนือจากการได้ท้าทายขีดจำกัดตัวเองแล้ว ก็คือการค้นพบธรรมชาติที่สวยงามระหว่างทาง และประสบการณ์แปลกใหม่ที่หาที่ไหนไม่ได้ ประเทศแถบยุโรป นับว่าเป็นสถานที่ที่เหมาะแก่การเดินเขาและเดินป่าเป็นอย่างมาก เพราะมีแนวเทือกเขาแอลป์และอุทยานแห่งชาติทอดยาวในหลายประเทศ บทความนี้ Allianz Travel เลยขอเอาใจคนรักการผจญภัย พาไปดู 12 สถานที่เดินเขายอดนิยมทวีปยุโรป จะสวยงามแค่ไหน ไปดูกันเลยค่ะ

1. THE KING’S TRAIL, SWEDEN

ระยะทาง: 440 กิโลเมตร

ระยะเวลา: 8-10 วัน

ระดับความยาก: ยาก

มาเริ่มกันที่เส้นทางแรกกันเลยค่ะ กับ The Kings Trail เส้นทางเดินเขาที่สวยงามที่สุดในประเทศสวีเดน ด้วยระยะทางเดินกว่า 440 กิโลเมตร เริ่มเดินเท้าจากแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมอย่าง Abisko ไปจนถึง Kebnekaise ซึ่งเป็นจุดสูงที่สุดในสวีเดน และวิวทิวทัศน์จุดนี้ก็มีความสวยงามมากจนแทบลืมหายใจเลยค่ะ

ตลอดสองข้างทางเดินเขา จะสังเกตเห็นการเปลี่ยนแปลงของเส้นทางบ่อยครั้ง เนื่องจากทางมีความซับซ้อนและทรหดพอสมควร The Kings Trail จึงเหมาะกับนักเดินเขามืออาชีพมากกว่ามือสมัครเล่น หรือคนที่ไม่เคยเดินเขาเลยค่ะ

THE KING’S TRAIL, SWEDEN

2. HAUTE ROUTE, FRANCE & SWITZERLAND

ระยะทาง: 180 กิโลเมตร

ระยะเวลา: 14 วัน

ระดับความยาก: ยาก

Haute Route เป็นเส้นทางเดินเขาที่พาดผ่านสองประเทศคือฝรั่งเศสและสวิตเซอร์แลนด์ Haute Route มีความสวยงามอยู่ที่วิวทิวทัศน์ระหว่างทางเดินที่แตกต่างกันอย่างสุดขั้ว โดยเฉพาะการต้องเดินขึ้นภูเขาธารน้ำแข็งสูง 4,000 เมตร จากนั้นก็เดินลงผ่านหุบเขาป่าไม้สีเขียว ซึ่งทัศนียภาพที่แตกต่างกันนี้ เป็นเอกลักษณ์ของ Haute Route เลยค่ะ

Haute Route เริ่มเดินจากเมือง Chamonix ทางตอนใต้ของประเทศฝรั่งเศส ไปยังเมือง Zermatt ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ สำหรับใครที่อยากมาเดินเขาที่นี้ ช่วงฤดูร้อนจะเป็นช่วงที่เหมาะที่สุด เพราะจะเห็นทัศนียภาพที่แตกต่างกันอย่างชัดเจนค่ะ

HAUTE ROUTE, FRANCE & SWITZERLAND

3. TOUR DE MONTE ROSA, SWITZERLAND

ระยะทาง: 163 กิโลเมตร

ระยะเวลา: 9 วัน

ระดับความยาก: ยาก

Tour de Monte Rosa เป็นเส้นทางเดินเขาบนเทือกเขาแอลป์ในประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ซึ่งมีจุดชมวิวมากมายที่ทำให้นักเดินเขาหลงใหล และมายังสถานที่แห่งนี้กันทุกปี เส้นทางเดินเขาเริ่มที่ Zermatt ผ่านไปยัง Cervinia และจบเส้นทางที่ Saas-Fee and Grachen

ถึงแม้ว่าการมาเดินเขา Monte Rosa หน้าหนาว จะทำให้เห็นวิวทิวทัศน์แบบ “เมืองหิมะ” แต่เพื่อความปลอดภัย ควรมาเดินขึ้นเขาในช่วงฤดูร้อนมากกว่าค่ะ

TOUR DE MONTE ROSA, SWITZERLAND

4. TOUR DE MONT BLANC, FRANCE, SWITZERLAND, AND ITALY

ระยะทาง: 170 กิโลเมตร

ระยะเวลา: 11 วัน

ระดับความยาก: ปานกลาง – ยาก

Tour de Mont Blanc เส้นทางเดินเขาที่ได้รับขนานนามว่า “ราชาขุนเขาแห่งยุโรป” เนื่องด้วยทัศนียภาพที่โดดเด่นและสวยงามระดับห้าดาว รอให้นักเดินเขาได้สัมผัสและซึมซับบรรยากาศอย่างเต็มอิ่มตลอดระยะเวลาสองสัปดาห์ โดยเส้นทาง Tour de Mont Blanc จะเริ่มจากเมือง Chamonix ทางตอนใต้ของประเทศฝรั่งเศส ไปจบลงที่ Courmayeur หมู่บ้านในประเทศอิตาลี

TOUR DE MONT BLANC, FRANCE, SWITZERLAND, AND ITALY

5. HARDANGERVIDDA TRANSVERSE, NORWAY

ระยะทาง: 67 กิโลเมตร

ระยะเวลา: 7 วัน

ระดับความยาก: ปานกลาง

Hardangervidda เป็นเส้นทางเดินเขาบนที่ราบสูง ประเทศนอร์เวย์ ซึ่งนักเดินเขามือสมัครเล่น หรือคนที่ไม่เคยเดินเขามาก่อนเลย ก็สามารถมาเดินเส้นทางนี้ได้ เพราะไม่ต้องเดินผ่านเขาสูงชันนัก ที่สำคัญ ตลอดสองข้างทางจะพบกับทัศนียภาพที่สวยงามทั้งธารน้ำแข็ง ทะเลสาบและแม่น้ำ

HARDANGERVIDDA TRANSVERSE, NORWAY

6. CINQUE TERRE MOUNTAIN TRAIL, ITALY

ระยะทาง: 40 กิโลเมตร

ระยะเวลา: 2-5 วัน

ระดับความยาก: ปานกลาง

Clinque Terre เส้นทางเดินเขายอดนิยมของประเทศอิตาลี และเป็นหนึ่งในเส้นทางเดินเขาที่สวยที่สุดในประเทศยุโรป โดยเฉพาะถ้าเป็นนักเดินเขาที่ชื่นชอบทัศนียภาพริมชายหาด เพราะเส้นทางเดินเขาติดชายฝั่งทะเล และเมื่อพระอาทิตย์ตกดินสะท้อนกับผิวน้ำ ภาพทิวทัศน์มีความสวยมากจนต้องหยุดดูเลยค่ะ

สำหรับใครที่ไม่ชอบเดินเขาแบบคนพลุกพล่าน แนะนำให้หลีกเลี่ยงเส้นทางติดทางรถไฟ และควรมีไกด์ท้องถิ่นที่ชำนาญทางให้คำแนะนำในการเดินทางด้วยค่ะ

CINQUE TERRE MOUNTAIN TRAIL, ITALY
Vernazza in Cinque Terre, Liguria, Italy, on sunset

7. ALPE ADRIA TRAIL, AUSTRIA, SLOVENIA, ITALY

ระยะทาง: 750 กิโลเมตร (แบ่งเป็น 43 Section, Section ละ 20 กิโลเมตร)

ระยะเวลา: 32 วัน

ระดับความยาก: ยาก

Alpe Adria Trail เส้นทางเดินเขาที่มีระยะทางยาวกว่า 750 กิโลเมตร พาดผ่านสามประเทศคือ ออสเตรีย สโลวีเนีย และอิตาลี ซึ่งตลอดเส้นทางจะพบกับความสวยงามของเทือกเขาแอล์ปสโลวีเนีย และหุบเขาที่เคยเป็นสถานที่รบในสงครามโลกครั้งที่หนึ่ง

ตลอดเส้นทาง Alpe Adria มีทั้งการเดินผ่านเขาสูงชันที่มีความท้าทาย และเขาที่มีความชันไม่มากนัก โดยเราสามารถเลือกเส้นทางที่จะเดินได้ ไม่จำเป็นต้องเดินจนจบระยะ 750 กิโลเมตรก็ได้ค่ะ

ALPE ADRIA TRAIL, AUSTRIA, SLOVENIA, ITALY

8. CENTRAL PICOS CIRCUIT, SPAIN

ระยะทาง: 79 กิโลเมตร

ระยะเวลา: 5 วัน

ระดับความยาก: ยาก

เส้นทาง Central Picos Circuit เป็นเส้นทางผ่านภูเขา Picos de Europa ซึ่งพาดผ่านสามจังหวัดทางตอนเหนือของประเทศสเปน ได้แก่ Cantabria, Asturias และ Leon เส้นทางบริเวณนี่เป็นพื้นที่อุทยานแห่งชาติ ทำให้มีความอุดมสมบูรณ์ของธรรมชาติอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นหุบเขา ป่าไม้ หรือทะเลสาบธารน้ำแข็ง ซึ่งตลอดเส้นทางจะมีป้ายบอกทางเดินและจุดพักชมวิวที่จัดทำโดยทางอุทยานด้วยค่ะ

CENTRAL PICOS CIRCUIT, SPAIN

9. EAGLES WALK, AUSTRIA

ระยะทาง: 412 กิโลเมตร

ระยะเวลา: 1-10 วัน

ระดับความยาก: ปานกลาง – ยาก

“Eagles Walk” เส้นทางเดินเขาที่มีภูมิประเทศคล้ายกับนกอินทรีที่กำลังกางปีกบิน โดยเส้นทางจะเริ่มจากเมือง Tirol ทางตะวันออกไปยังตะวันตกของออสเตรีย และพาดผ่านภูเขาสองลูกคือ Arlberg และ Kaiser โดยมีระยะทางรวม 412 กิโลเมตร แบ่งเป็นทั้งหมด 33 Sections ด้วยกัน ซึ่งตลอดทางก็จะผ่านทั้งเทือกเขาที่มีความสูงชัน หุบเขา ป่าไม้ ทะเลสาบ และที่ราบ ซึ่งแต่ละสถานที่ ล้วนมีธรรมชาติที่สวยงาม รอให้นักเดินทางไปสัมผัสกันค่ะ

EAGLES WALK, AUSTRIA

10. LAUGAVEGURINN – ICELAND

ระยะทาง: 54 กิโลเมตร

ระยะเวลา: 3-5 วัน

ระดับความยาก: ง่าย

Laugavegurinn เป็นเส้นทางเดินป่าเขาที่ผสมผสานธรรมชาติมาไว้ที่นี่ทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นภูเขาหลากสี ภูเขาไฟลาวาที่เพิ่งมอด แคนยอน ถ้ำน้ำแข็ง ทะเลสาบสีดำ และโขดหินทรงประหลาด โดยเส้นทางเดินจะเริ่มจากป่าในไอซ์แลนด์ตะวันตกเฉียงใต้จากแหล่งน้ำพุร้อน Landmannalaugar ไปยังหุบเขาน้ำแข็ง Porsmork ใช้ระยะเวลาเดินทางประมาณ 3-5 วันค่ะ

LAUGAVEGURINN – ICELAND

11. ENGLAND’S COAST TO COAST, UNITED KINGDOM

ระยะทาง: 309 กิโลเมตร

ระยะเวลา: 8-10 วัน

ระดับความยาก: ปานกลาง

England’s Coast to Coast เส้นทางเดินเลียบชายฝั่งจากทะเลไอริชไปยังทะเลเหนือ เริ่มจากอ่าว St. Bees Head และไปจบเส้นทางที่อ่าว Robin Hood รวมระยะทางกว่า 309 กิโลเมตร ตลอดสองข้างทาง เต็มไปด้วยสถานที่ทางประวัติศาสตร์ โดยเฉพาะซากปรักหักพังสไตล์โรมัน อาคารบ้านเรือนโบราณ รวมถึงทัศนียภาพอันสวยงามจากริมผาและชายทะเลที่สำคัญ เส้นทางยาวกว่า 309 กิโลเมตรนี้ พาดผ่านอุทยานแห่งชาติถึง 3 อุทยานด้วยกันคือ Yorkshire Dales National Park, The Lake District National Park และ The North York Moors National Park

ENGLAND’S COAST TO COAST, UNITED KINGDOM

12. TRANSYLVANIAN MOUNTAIN TRAIL – ROMANIA

ระยะทาง: 80 – 130 กิโลเมตร

ระยะเวลา: 7-10 วัน

ระดับความยาก: ปานกลาง – ยาก

เส้นทางเดินเขา Transylvanian เป็นจุดหมายปลายทางของใครหลาย ๆ คน ด้วยความสวยงามของภูเขา Carpathian บวกกับภาพวิวทิวทัศน์ปราสาท Bran ปราสาทที่สร้างขึ้นตั้งแต่ศตวรรษที่ 14 และตั้งตระหง่าอยู่กลางภูเขาล้อมรอบด้วยป่าไม้

เส้นทาง Transylvanian เป็นเส้นทางที่นักเดินเขามืออาชีพชอบมาเดิน สำหรับใครที่เป็นมือสมัครเล่น หรือไม่เคยมีประสบการณ์มาก่อน เส้นทางนี้อาจไม่เหมาะเท่าไหร่ค่ะ

TRANSYLVANIAN MOUNTAIN TRAIL – ROMANIA

หลายๆ เส้นทางเดินเขาที่เราแนะนำข้างต้น ล้วนเต็มไปด้วยความสวยงามของธรรมชาติและทัศนียภาพระหว่างทาง แต่ละเส้นทางก็จะมีลักษณะภูมิประเทศเฉพาะตัวที่แตกต่างกันไป ไม่ว่าจะเป็นภูเขาธารน้ำแข็ง ภูเขาป่าไม้ หรือที่ราบสูง เราหวังว่าทั้ง 12 เส้นทางเดินเขาธรรมชาติในทวีปยุโรปที่แนะนำวันนี้จะเป็นประโยชน์ต่อการวางแผนเดินเขาในครั้งหน้านะคะ : )

ขอบคุณข้อมูลจาก:
50 best hikes in Europe (Single & multi-day trails)

เรามุ่งมั่นที่จะช่วยเหลือและดูแลคุณ

อลิอันซ์ทราเวลเป็นผู้นำระดับโลกด้านประกันภัยการเดินทางและบริการช่วยเหลือทั่วไป เรามีแผนประกันภัยที่หลากหลายให้เลือก ครอบคลุมตั้งแต่แผนรายเที่ยว แผนรายปี แผนครอบครัว ไปจนถึงแผนเดินทางศึกษาต่อต่างประเทศ เราทุ่มเทที่จะให้บริการช่วยเหลือและปกป้องคุณทุกที่ ทุกเวลาเท่าที่เราจะทำได้ เราไม่ได้จำกัดอยู่แค่ประกันภัยและการให้ความช่วยเหลือ แต่เรามุ่งเน้นไปที่สิ่งที่มากกว่านั้น และทุกบริการของเราก็เพื่อลูกค้าคนสำคัญของเรา

รวมสถานที่ท่องเที่ยวต่างประเทศ ที่สวยที่สุดในแต่ละเดือน ให้คุณท่องเที่ยวได้ตลอดทั้งปี

หลังจากที่คุณเหน็ดเหนื่อยกับการทำงานมาตลอดทั้งเดือน หลายคนเลือกผ่อนคลายด้วยการออกท่องเที่ยวไปยังสถานที่ต่าง ๆ เพื่อชาร์จแบตเตอรี่แห่งความสุขให้เต็มเปี่ยมเตรียมความพร้อมสำหรับเดือนถัดไป ในประเทศไทยเองก็มีสถานที่ท่องเที่ยวที่สวยงามตามธรรมชาติและสถานที่ท่องเที่ยวที่มีสถาปัตกรรมวิจิตรงดงามน่าไปเยี่ยมเยือนหลายแห่งแบบที่เรียกว่าสามารถเที่ยวกันได้ทุกสัปดาห์ แต่หากใครกำลังอยากออกไปท่องโลกกว้างและต้องการจัดทริปไปต่างประเทศแต่ไม่รู้ว่าจะไปประเทศไหนดีและควรไปในช่วงเดือนไหนวันนี้เรามีไอเดียมาแบ่งปันกัน

เที่ยวชมแสงเหนือที่นอร์เวย์ในเดือนมกราคม

เริ่มต้นเดือนแรกของปีด้วยความสดใสด้วยการจัดทริปท่องเที่ยวไปยังนอร์เวย์ซึ่งเป็นอีกหนึ่งประเทศที่สามารถเห็นปรากฏการณ์บนท้องฟ้าที่เราเรียกกันว่า แสงเหนือ หรือ ออโรร่า ได้ชัดเจนที่สุด โดยแสงเหนือนี้เป็นปรากฏการณ์ที่เราจะได้เห็นสีสันต่าง ๆ บนท้องฟ้าที่ไม่ใช่แค่สีฟ้า คุณจะเห็นสีเขียว สีแดง สีเขียว สีขาว ซึ่งเป็นประสบการณ์ที่ตื่นตาตื่นใจและจะติดอยู่ในความทรงจำของคุณแน่นอน

กุมภาพันธ์ – ท่องไปในบรรยากาศสุดโรแมนติกของกรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส

สำหรับเดือนแห่งความรักที่ต้องการเติมความหวานให้หัวใจ แนะนำให้คุณและหวานใจไปเที่ยวปล่อยใจไปกับปารีสเมืองที่มีบรรยากาศแห่งความโรแมนติกชวนเคลิ้มฝัน หากคุณไปกับคนรักก็ชักชวนกันไปล่องเรือในแม่น้ำเซนและรับประทานอาหารใต้แสงเทียนช่วยกระชับความสัมพันธ์ให้แนบแน่น สำหรับคนโสดคุณอาจพบคู่ใจที่นั่นใครจะไปรู้

ชมซากุระบานเดือนมีนาคมที่ญี่ปุ่น

เดือนมีนาคมตรงกับฤดูใบไม้ผลิที่ญี่ปุ่นพอดี สัมผัสอากาศเย็นกำลังดีและชมดอกซากุระบานสะพรั่งของญี่ปุ่นซึ่งเป็นประเทศที่สเน่ห์มากประเทศหนึ่งในเอเชีย ไม่ว่าจะเป็นวัฒนธรรมของคนญี่ปุ่นที่น่าชื่นชม อาหารรสเยี่ยมและสถานที่ท่องเที่ยวที่งดงามมีเอกลักษณ์ ที่ทำให้ชาวไทยหลายคนต้องไปท่องเที่ยซ้ำแล้วซ้ำอีก

Cr. Freepik.com

เมษายนหน้าร้อนนี้ที่มัลดีฟ

ฤดูร้อนเป็นช่วงเวลาที่ทะเลสวยที่สุด เยี่ยมชมหมู่เกาะมัลดีฟที่มีน้ำทะเลสีครามใสแจ๋วและหาดทรายสีขาว สัมผัสลมทะเลกับบรรยากาศของการพักผ่อน เหมาะสำหรับการท่องเที่ยวแบบคู่รักที่จะช่วยให้คุณใกล้ชิดกันมากขึ้นแถมใช้เวลาเดินทางจากไทยไม่นานอีกด้วย

Cr. Freepik.com

ชมดอกทุ่งดอกทิวลิปในเดือนพฤษภาคม ที่เนเธอร์แลนด์

เนเธอร์แลนด์ในเดือนพฤษภาคมสวนดอกไม้ซึ่งมีหลายสวนจะผลิบานสะพรั่งสวยงามที่สุด โดยสวนที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวมากที่สุดคือสวนคิวเค็นฮอฟ (Keukenhof) เพราะมีต้นทิวลิปกว่า 800 สายพันธุ์และมีดอกไม้อยู่ภายในสวนทั้งสิ้นมากกว่า 7 ล้านดอก กินพื้นที่ 80 เอเคอร์รับรองว่ามีมุมถ่ายภาพเพื่อเก็บความประทับใจเพียบ

Cr. Holland.com

ร่วมชมเทศการดวงดาวแห่งค่ำคืนสีขาวในเดือนมิถุนายนที่เซนต์ปีเตอร์เบิร์ก รัสเซีย

ที่ประเทศรัสเซียมีการจัดเทศการดวงดาวแห่งค่ำคืนสีขาว (The stars of the white nights) เพื่อต้อนรับฤดูร้อนที่กำลังมาถึงโดยเทศกาลนี้เริ่มจัดตั้งแต่ปลายเดือนพฤษภาคมถึงเดือนกรกฎาคม ซึ่งงานเทศกาลนี้มีกิจกรรมสลับหมุนเวียนกันไป เช่น การแสดงโอเปร่า บัลเลต์ การแสดงดนตรีคลาสสิค ขบวนพาเหรดและไฮไลท์ของงานคือการแสดงล่องเรือสกาเล็ตเซลซึ่งเป็นเรือสำเภาโบราณประดับไฟบนแม่น้ำเนวากลางเมืองเซนต์ปีเตอร์เบิร์ก อลังมากบอกเลย

Cr. socioforum.su

SHOPPING ที่ฮ่องกงในเดือนกรกฎาคม

เกาะฮ่องกง สถานที่ท่องเที่ยวและช็อปปิ้งที่ได้รับความนิยมจากคนไทยอย่างมากเอะอะไป เอะอะไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเดือนกรกฎาคมเป็นช่วงที่หลายร้านร่วมกันลดราคาสินค้า นอกจากเอาใจขาช็อปแล้วฮ่องกงยังมีทิวทัศน์ยามค่ำคืนที่สวยงามและมีอาหารอร่อยระดับมิชลินสตาร์ให้ได้ตามไปลิ้มรสอีกด้วย

Cr. Freepik.com

สิงหาพาสุขเที่ยวสวิตเซอร์แลนด์กับครอบครัว

เดือนสิงหาคมนี้มีวันสำคัญคือวันแม่ดังนั้นพาคุณแม่ไปสูดอากาศทีสวิตเซอร์แลนด์กันดีกว่า เดือนสิงหาคมตรงกับหน้าร้อนของสวิตเอซอร์แลนด์พอดีมีช่วงกลางวันที่ยาวนานทำให้อากาศไม่หนาวจนเกินไป และแหล่งท่องเที่ยวตามธรรมชาติของสวิตเซอร์แลนด์ก็เหมาะกับผู้สูงอายุอย่างมากเลยล่ะ

Cr. travel.prwave.ro

น้ำใส ทะเลสวยที่โครเอเชียในเดือนกันยายน

เริ่มเข้าสู่ฤดูใบไม้ร่วงแล้วอากาศในโครเอเชียเริ่มเย็นขึ้น เหมาะสำหรับการท่องเที่ยวสำหรับผู้ที่ชื่นชอบบรรยากาศปลอดโปร่ง ชอบเดินชมสถาปัตกรรม ตึกรามบ้านช่องและทะเลสวยน้ำใส ช่วงเดือนกันยายนนี้ไปเลย

Cr. gettingstamped.com

ดื่มด่ำกับเส้นทางธรรมชาติฉางชา-จางเจี๋ยเจ้ย ประเทศจีนในเดือนตุลาคม

เดือนตุลาคมเป็นช่วงที่อากาศกำลังเย็นสบายจึงเป็นช่วงเวลาที่ดีที่สุดในการท่องเที่ยวเส้นทางธรรมชาติโดยนั่งรถไฟระหว่างเมืองที่ตัดผ่านหุบเขาเพื่อชื่นชมภูเขาและเหล่าต้นไม้ที่กำลังผลัดใบ ในเส้นทางฉางชา-จางเจี๋ยเจี้ยที่เป็นแรงบันดาลใจให้ฉากในภาพยนตร์เรื่อง Avatar และสัมผัสความหวาดเสียวขณะเดินบนสะพานกระจกใสแจ๋วเพื่อชมวิวภูเขาอย่างใกล้ชิด

Cr. Youtube.com

ร่วมชมเทศกาลแห่งความตายในเม็กซิโกต้นเดือนพฤศจิกายน

ช่วงปลายเดือนตุลาคมย่างเข้าเดือนพฤศจิกายนในเม็กซิโกจะมีงานเทศการแห่งความตายลากาลากา (La Calaca) ใกล้กับสนามบินเมืองเม็กซิโกซิตี้ ซึ่งชาวเมืองจะเพ้นท์ใบหน้าและใส่เสื้อผ้าเลียนแบบคนตายหรือภูตผีเป็นรูปหัวกะโหลกแบบสวยงาม โดยชาวเม็กซิกันมีความเชื่อว่าการตายไม่ใช่เรื่องน่าหวาดกลัวเป็นเพียงการเดินทางครั้งใหม่เท่านั้น

Cr. whatsupsancarlos.com

ฉลองปีใหม่ที่ลาสเวกัสในเดือนธันวาคม

ช่วงส่งท้ายปีเก่าไปเที่ยวลาสเวกัสกันดีกว่า เมืองนี้เป็นเมืองที่เต็มไปด้วยสถานบันเทิง คาสิโนและโชว์ที่สวยงามทำให้มีบรรยากาศสนุกสนานอบอวลไปรอบตัวคุณ นอกจากนี้ช่วงปลายปียังเป็นช่วงที่ราคาที่พักถูกกว่าช่วงอื่น ๆ อีกด้วย

Cr. getyourguide.com

นอกจากประเทศเหล่านี้แล้วยังมีอีกหลายประเทศที่มีความสวยงามและบรรยากาศดีน่าท่องเที่ยว ว่างเดือนไหนก็เที่ยวเดือนนั้นเลย

เรามุ่งมั่นที่จะช่วยเหลือและดูแลคุณ

อลิอันซ์ทราเวลเป็นผู้นำระดับโลกด้านประกันภัยการเดินทางและบริการช่วยเหลือทั่วไป เรามีแผนประกันภัยที่หลากหลายให้เลือก ครอบคลุมตั้งแต่แผนรายเที่ยว แผนรายปี แผนครอบครัว ไปจนถึงแผนเดินทางศึกษาต่อต่างประเทศ เราทุ่มเทที่จะให้บริการช่วยเหลือและปกป้องคุณทุกที่ ทุกเวลาเท่าที่เราจะทำได้ เราไม่ได้จำกัดอยู่แค่ประกันภัยและการให้ความช่วยเหลือ แต่เรามุ่งเน้นไปที่สิ่งที่มากกว่านั้น และทุกบริการของเราก็เพื่อลูกค้าคนสำคัญของเรา