Singapore open border and exempt quarantine for vaccinated tourist

สิงคโปร์เปิดประเทศแล้ว นักท่องเที่ยวฉีดวัคซีนครบโดส ไม่ต้องกักตัว

สิงคโปร์เปิดประเทศ แล้ว! ตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2565 รัฐบาลสิงคโปร์จะเริ่มผ่อนคลายมาตรการคุมระบาดของโรคโควิด-19 โดยอนุญาตให้นักเดินทางจากทุกชาติที่ฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ครบโดสแล้ว สามารถเดินทางเข้าประเทศได้โดยไม่ต้องกักตัว รายละเอียดของมาตรการแตกต่างกันไปสำหรับผู้ที่ฉีดวัคซีนครบโดสแล้วและยังฉีดไม่ครบโดส เพื่อให้นักท่องเที่ยวสามารถเดินทางเที่ยวเกาะสิงคโปร์ได้อย่างมั่นใจ 

Jewel Changi Airport - Singapore

1. สำหรับผู้ที่ฉีดวัคซีนครบโดส

ผู้ที่ฉีดวัคซีนครบโดสสามารถเดินทางเข้าสิงคโปร์ได้โดยไม่ต้องมีการขออนุมัติเข้าประเทศหรือการกักตัว แต่ต้องแสดงเอกสารยืนยันผลตรวจโควิด-19 ชนิด RT-PCR หรือ Antigen Rapid Test (ART) เป็นลบ ที่ออกโดยสถานพยาบาลในระยะเวลาไม่เกิน 2 วันก่อนการเดินทาง

*ผู้ที่ฉีดวัคซีนครบโดสแล้วและเด็กอายุ 12 ปีและต่ำกว่าที่ยังได้รับวัคซีนไม่ครบโดสสามารถเดินทางเข้าประเทศสิงคโปร์ได้

สิ่งที่ต้องเตรียมก่อนออกเดินทาง:

2. สำหรับผู้ที่ได้รับวัคซีนไม่ครบโดส

ผู้เดินทางระยะสั้นที่ได้รับวัคซีนไม่ครบโดส ทางสิงคโปร์ยังไม่อนุญาตให้เดินทางเข้าประเทศสิงคโปร์ ยกเว้นในกรณีที่ได้รับการอนุมัติอื่น ๆ หรือมีเหตุจำเป็นต้องเดินทางเข้าประเทศสิงคโปร์

สิ่งที่ต้องเตรียมก่อนออกเดินทาง:

  • ต้องดำเนินเรื่องการขออนุมัติเพื่อเดินทางเข้าประเทศสิงคโปร์:
  • ระยะเวลา 2 วันก่อนออกเดินทาง:
    • ทำการตรวจหาเชื้อโควิด-19 ด้วยวิธี Polymerase Chain Reaction (PCR) หรือ Antigen Rapid Test (ART) ที่ได้รับการรับรองโดยสถานพยาบาล
  • เมื่อเดินทางมาถึงสิงคโปร์:
    • ต้องเข้ารับการกักตัว 7 วัน (Stay-Home Notice: SHN) ณ ที่พักที่ท่านจองล่วงหน้าไว้
  • หลังครบกำหนดกักตัว:
    • ทำการตรวจหาเชื้อด้วยวิธี PCR

แนวทางปฏิบัติเพื่อป้องกันโควิด-19 เมื่อเดินทางมาสิงคโปร์

สวมหน้ากากอนามัย

นักท่องเที่ยวสามารถเลือกได้ว่าจะสวมหรือไม่สวมหน้ากากอนามัยเมื่ออยู่กลางแจ้ง แต่เมื่ออยู่ภายในอาคารจะต้องสวมหน้ากากอนามัยเสมอ ยกเว้นขณะรับประทานอาหารและเครื่องดื่ม

การรวมกลุ่ม

อนุญาตให้รวมกลุ่มได้สูงสุด 10 คน

– การรับประทานอาหารในร้าน

ผู้ที่ฉีดวัคซีนครบโดสแล้วสามารถรวมกลุ่มกันรับประทานอาหารในร้านได้สูงสุด 10 คน ไม่ว่าจะเป็นที่ร้านอาหาร ร้านเครื่องดื่ม ศูนย์อาหาร และร้านกาแฟ โดยทางร้านจะมีการตรวจสอบสถานะการฉีดวัคซีนที่บริเวณทางเข้า

นักท่องเที่ยวสามารถอัพเดทข่าวสาร มาตรการการเดินทาง และติดตามสถานการณ์โควิด-19 ในสิงคโปร์ได้ทางเว็บไซต์ กระทรวงสาธารณสุข และ Gov.sg

ถึงแม้สิงคโปร์ หรือหลายๆ ประเทศ จะเปิดประเทศให้นักท่องเที่ยวที่ฉีดวัคซีนครบโดสสามารถเดินทางเข้าประเทศได้โดยไม่ต้องกักตัวแล้ว แต่เราก็ควรติดตามและอัพเดทข่าวสาร มาตรการการเดินทางเข้าประเทศของแต่ละประเทศ พร้อมทั้งวางแผนการเดินทางเพื่อเตรียมความพร้อมให้ดี และสิ่งสำคัญที่เราควรมีทุกครั้งที่เดินทางไปต่างประเทศ คือ ประกันการเดินทาง ที่จะช่วยให้แผนการเดินทางของเราไม่สะดุด สามารถทำกิจกรรมต่างๆ ได้อย่างอุ่นใจ ไร้กังวล ให้ความคุ้มครองครอบคลุมค่าใช้จ่ายที่เกิดจากเหตุการณ์ฉุกเฉินที่อาจเกิดขึ้นโดยไม่คาดฝัน*

*เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทกำหนด

ขอบคุณข้อมูลจาก: มาตรการการเดินทางเข้าสิงคโปร์สำหรับผู้เดินทางระยะสั้น : visitsingapore.com

เลือกแผนประกันการเดินทางที่ใช่สำหรับคุณ ประกันการเดินทาง Dance Moves จาก Allianz Travel

10 ที่เที่ยวเกาหลี ไม่ควรพลาด

10 ที่เที่ยวเกาหลี ไม่ควรพลาด

ใครคิดถึงเกาหลียกมือขึ้น! สำหรับคนที่คิดถึง ที่เที่ยวเกาหลี สถานที่ท่องเที่ยวในที่ต่างๆ บรรยากาศ วัฒนธรรม ศิลปะ อาหาร ธรรมชาติ และความรู้สึกต่างๆ ที่เกิดขึ้นระหว่างการเดินทางท่องที่ยวในประเทศเกาหลีใต้ เตรียมเก็บกระเป๋าแล้ววางแผนการเดินทางเพื่อไปสัมผัสบรรยากาศเหล่านั้นในเกาหลีกันเลย


วันนี้​ Allianz Travel ขอนำเสนอลิสต์ 10 ที่เที่ยวเกาหลี ยอดนิยมในเกาหลีใต้ที่หลายๆ คนคิดถึง มาฝากเพื่อนๆ กันค่ะ เพื่อใช้เป็นตัวช่วยในการทำเช็คลิสต์ที่เที่ยวเมื่อเดินทางไปเกาหลีใต้ ไปดูกันเลยว่ามีที่ไหนกันบ้าง

1. พระราชวังคยองบกกุง (Gyeongbokgung Palace)

พระราชวังคยองบกกุง (Gyeongbokgung Palace)

ใครที่ไปเที่ยวกรุงโซลจะต้องไม่พลาดพระราชวังคยองบกกุง ซึ่งเป็นพระราชวังที่เก่าแก่และขนาดใหญ่ที่สุดในกรุงโซล มีความโดดเด่นด้านสถาปัตยกรรมสวยงาม และนักท่องเที่ยวมักสวมใส่ชุดประจำชาติเกาหลีหรือชุดฮันบกเพื่อถ่ายรูปเป็นที่ระลึก ภายในบริเวณพระราชวัง มีพิพิธภัณฑ์พระราชวังแห่งชาติ ที่จัดแสดงวัตถุโบราณของราชวงศ์โชซอน และพิพิธภัณฑ์พื้นบ้านแห่งชาติ แสดงวิถีชีวิตดั้งเดิมของเกาหลี

2. โซลทาวเวอร์ (N Seoul Tower)

โซลทาวเวอร์ (N Seoul Tower)

หนึ่งในแหล่งท่องเที่ยวสำคัญของเมืองโซล เปิดให้บริการมาตั้งแต่ปี 1980 ตั้งอยู่บนยอดเขานัมซัง สูง 236 เมตร สามารถชมวิวเมืองโซลและบริเวณโดยรอบแบบพาโนราม่า นับว่าเป็นหนึ่งในทาวเวอร์ที่ให้วิวสวยที่สุดในเอเชีย

โซลทาวเวอร์ มีการปรับปรุงใหม่ในปี 2005 และเปลี่ยนชื่อใหม่เป็น N Seoul Tower โดย N ที่เพิ่มขึ้นมานั้นย่อมาจาก new look หรือ รูปแบบใหม่ ซึ่งมีการปรับเปลี่ยนและพัฒนาการต่างๆ ทั้งการให้แสงไฟที่หลากหลายและสวยงามขึ้น รวมถึงภายในที่ตกแต่งใหม่ โดยมีร้านอาหารบนหอคอยที่จะหมุนครบรอบทุกๆ 48 นาที ชื่อว่า N Grill และห้องน้ำตกแต่งสไตล์อวกาศ โซล ทาวเวอร์ ยังเป็นที่เที่ยวสุดโรแมนติกที่คู่รักมักเดินทางมาคล้องกุญแจ Love Key Ceremony ไว้ที่ราวเหล็ก เพราะมีความเชื่อว่าคู่รักที่คล้องกุญแจจะมีความรักที่ยืนยาว

3. หมู่บ้านบุกชอนฮันอก (Bukchon Hanok Village)

หมู่บ้านบุกชอนฮันอก (Bukchon Hanok Village)

อีกหนึ่งสัญลักษณ์ของเกาหลีที่อยู่ท่ามกลางตึกรามบ้านช่องทันสมัยของกรุงโซล เป็นหมู่บ้านที่ยังคงกลิ่นอายของเกาหลีในยุคเก่าแก่ เหมาะสำหรับคนที่ชอบสถานที่ท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์ ภายในหมู่บ้านมีอาคารแบบดั้งเดิมของเกาหลีที่เรียกว่าฮันอก (hanok) กว่า 100 หลัง มีอายุเก่าแก่มาตั้งแต่สมัยโชซอน ส่วนชื่อบุคชอน (Bukchon) แปลว่าหมู่บ้านทางตอนเหนือ ซึ่งตั้งตามตำแหน่งที่อยู่ทางทิศเหนือของสถานที่สำคัญ 2 แห่งของกรุงโซล คือ คลองชองกเยชอน (Cheonggyecheon Stream) กับ จงโร (Jongno)

4. เกาะเชจู (Jeju)

เกาะเชจู (Jeju)

ที่เที่ยวเกาหลี ยอดฮิตอีกแห่งก็คือ เกาะเชจู เป็นเกาะที่ใหญ่ที่สุดในเกาหลี ตั้งอยู่ทางตอนใต้ของประเทศ เป็นเขตมรดกโลก และมีอากาศดีทั้งปี เป็นสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่สวยงามจนได้รับฉายานามว่าเป็นฮาวายเกาหลี ที่นี่เป็นสถานที่พักผ่อนตากอากาศยอดฮิตของคนเกาหลี และยังเป็นโลเคชั่นที่ถ่ายทำซีรีย์ดังๆ หลายเรื่อง ด้วยทิวทัศน์สวยงามทั้งทะเล หาดทราย ถ้ำ น้ำตก และหน้าผา ให้ได้เที่ยวชมและพักผ่อนหย่อนใจ

5. ย่านช้อปปิ้งเมียงดง (Myeongdong)

หนึ่งในย่านช้อปปิ้งที่เต็มไปด้วยร้านรวงขายสินค้านานาชนิด รวมถึงร้านอาหารหลากหลายประเภท และเป็นถนนช้อปปิ้งที่มีชื่อเสียงของกรุงโซล นอกจากนี้ ยังมีร้านอาหารรถเข็นแนว Street Food และมีห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่อีกหลายแห่งตั้งอยู่บนถนนและตรอกซอกซอย  จึงเป็นสถานที่ซึ่งคุณสามารถเลือกซื้อเลือกหาสินค้านานาประเภทได้ตามใจชอบ ได้แก่ เสื้อผ้าแฟชั่น, รองเท้า, เครื่องสำอาง และอื่นๆ อีกมากมาย

6. อุทยานแห่งชาติซอรัคซาน (Seoraksan National Park)

อุทยานแห่งชาติซอรัคซาน (Seoraksan National Park)

ตั้งอยู่ในเมืองซกโช จังหวัดคังวอนโด เป็นอุทยานที่มีพื้นที่ถึง 354 ตารางกิโลเมตร และเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่สามารถชมใบไม้เปลี่ยนสีที่สวยที่สุดแห่งหนึ่งในเกาหลี โดยใบไม้ที่นี่จะเป็นที่แรกๆ ในเกาหลีที่เริ่มเปลี่ยนสี โดยปกติใบไม้จะเริ่มเปลี่ยนสีช่วงประมาณปลายเดือนกันยายน แต่ขึ้นอยู่กับสภาพอากาศในแต่ละปี จะมีสัญลักษณ์ของอุทยานป็นรูปปั้นหมีตั้งอยู่ภายในบริเวณพื้นที่ของอุทยาน นอกจากนี้เรายังสามารถขึ้นไปชมวิวทิวเขาได้โดยการนั่งกระเช้าขึ้นไปบนยอดเขา Gwongeumseong Fortress เพื่อขึ้นไปพิชิตจุดสูงสุดของยอดเขา และชมวิวรอบๆ ในมุมสูง นอกจากนี้เรายังสามารถเดินไปตามเส้นทางเดินป่าของทางอุทยานแห่งชาติซอรัคซาน เพื่อดื่มด่ำกับธรรมชาติและความสวยของอุทยาน โดยเส้นทางจะผ่านวัดและสะพานข้ามลำธารที่อยู่ภายในอุทยาน

7. ปูซาน (Busan)

ปูซานเป็นเมืองใหญ่เป็นอันดับสองของเกาหลี มีชายหาดและรีสอร์ทที่สวยงามเรียงราย มีวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์มากมาย นอกจากนี้ยังมีหมู่บ้านบนเนินเขาของ Gamcheon เป็นหมู่บ้านสไตล์ยุโรปบนหน้าผาที่อยู่เหนือทะเลที่หลายคนบอกว่าเป็นซานโตรินีในเวอร์ชั่นเกาหลีบ้านและอาคารภายในหมู่บ้านถูกทาเป็นสีพาสเทลมีการประดับตกแต่งด้วยรูปปั้น และงานศิลปะแบบต่างๆ โดยรูปปั้นที่โด่งดังที่สุดคือรูปปั้นของเจ้าชายน้อย ซึ่งเป็นจุดท่องเที่ยวที่หลายๆ คนจะต้องแวะมาถ่ายรูปด้วยเมื่อเดินทางมาท่องเที่ยวที่ปูซาน

8. พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติเกาหลี (National Museum of Korea)

พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติเกาหลี (National Museum of Korea)
ขอบคุณรูปภาพจาก : MUSEUMS OF THE WORLD

พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติเกาหลี เป็นพิพิธภัณฑ์ที่ใหญ่ที่สุดของเกาหลี ตั้งอยู่ในกรุงโซล เป็นสถานที่เก็บรวบรวมผสมผสานศิลปะ ประวัติศาสตร์ และโบราณคดี เพื่อแสดงประวัติศาสตร์ วัฒนธรรม และบอกเล่าวเรื่องราวของชาวเกาหลี ตั้งแต่สมัยโบราณจนกระทั่งถึงยุคปัจจุบัน โดยวัตถุหรือสิ่งของที่อยู่ภายในพิพิธภัณฑ์มีอายุนับล้านปี เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่รวบรวมสิ่งของทางประวัติศาสตร์ของเกาหลีมากมาย ตั้งแต่ยุคหินไปจนถึงงานศิลปะสมัยใหม่โดยศิลปินเกาหลี

9. ทางรถไฟดอกซากุระคยองฮวา (Gyeonghwa Station)

ทางรถไฟดอกซากุระคยองฮวา (Gyeonghwa Station)

ในช่วงประมาณต้นเดือนเมษายน สถานีรถไฟคยองฮวา เป็นจุดชมซากุระที่สวยอันดับต้นๆ ของเกาหลี เราสามารถนั่งมองรถไฟที่วิ่งผ่านอุโมงค์ดอกซากุระที่ออกดอกเรียงกันอยู่เต็มสองข้างทาง  สถานีรถไฟคยองฮวาได้ยกเลิกการใช้งานไปแล้วตั้งแต่ปี 2015 แต่จะเปิดให้รถไฟวิ่งเฉพาะในช่วงเทศกาล Jinhae Gunhangje Festival ซึ่งเป็นเทศกาลชมดอกซากุระของเมืองจินแฮ โดยรถไฟจะไม่ได้มาจอดที่สถานี เพียงแต่ใช้เป็นทางผ่านไปยังสถานีอื่นๆ

10. อิแทวอน (Itaewon)

อิแทวอน (Itaewon)
ขอบคุณรูปภาพจาก : Unsplash

ตั้งอยู่ในกรุงโซล ในเขตยงซานกู ใกล้กับแม่น้ำฮัน เป็นแหล่งช้อปปิ้งสำหรับชาวต่างชาติ ย่านอิแทวอนจะมีชาวต่างชาติอยู่มากมาย เป็นย่านที่เหมาะกับการเดินเล่น และช้อปปิ้ง ตลอดสองข้างทางของถนนเส้นหลักจะมีร้านค้ามากมาย ตั้งแต่ร้านค้าแบรนด์ชั้นนำ ร้านค้าแผงลอย ร้านอาหารนานาชาติ รวมไปถึงแหล่งเที่ยวกลางคืน เช่น สถานบันเทิง คลับ บาร์ นอกจากนี้เรายังสามารถมองเห็นโซลทาวเวอร์ และชมวิวของเมืองบนเนินเขาได้จากที่นั่งบนชั้นดาดฟ้าของร้านอาหารหรือคาเฟ่ในอิแทวอนได้อีกด้วย

10 สถานที่เที่ยวในเกาหลีที่เรานำมาฝากคงทำให้หลายๆ คนหายคิดถึงเกาหลีกันได้บ้างนะคะ หรืออาจจะทำให้คิดถึงมากขึ้นกว่าเดิมจนต้องกดลางาน แล้วเก็บกระเป๋าเพื่อเตรียมตัวเดินทางไปเกาหลีใต้กันเลย แต่ถึงแม้เกาหลีจะเปิดประเทศให้นักเดินทางเดินทางเข้าประเทศได้โดยไม่ต้องกักตัว และฟรีวีซ่าแล้ว แต่เราก็ควรอัพเดทข่าวสารการเดินทางเข้าประเทศ และวางแผนการเดินทางพร้อมกับเตรียมความพร้อมให้ดี และสิ่งสำคัญที่เราควรมีทุกครั้งที่เดินทางไปต่างประเทศ คือ ประกันการเดินทาง ที่จะช่วยให้แผนการเดินทางของเราไม่สะดุด สามารถทำกิจกรรมต่างๆ ได้อย่างอุ่นใจ ไร้กังวล ให้ความคุ้มครองครอบคลุมค่าใช้จ่ายที่เกิดจากเหตุการณ์ฉุกเฉินที่อาจเกิดขึ้นโดยไม่คาดฝัน*

*เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทกำหนด

เลือกแผนประกันการเดินทางที่ใช่สำหรับคุณ ประกันการเดินทาง Dance Moves จาก Allianz Travel

7 ประเทศกับกฎข้อห้ามสุดแปลก

7 ประเทศกับ กฎข้อห้ามสุดแปลก

การเดินทางไปต่างประเทศ ในบางประเทศนั้นอาจมีกฏหมายห้ามทำสิ่งต่างๆ ที่เราอาจมองว่าแปลกและคาดไม่ถึงกันเลยทีเดียว ดังนั้นก่อนเดินทางเราควรจะรู้ กฎข้อห้ามสุดแปลก เหล่านี้กันก่อน วันนี้ Allianz Travel จึงนำกฏข้อห้ามแปลกๆ บางส่วนของต่างประเทศมาให้ดูกันค่ะ

1. อิตาลี (Italy)

ห้ามคู่รักจูบกันในรถยนต์

แหล่งรวมข้อห้ามแปลกๆ ที่มีเยอะมาก โดยเราจะยกตัวอย่างมาให้ 5 ข้อห้ามใน 5 สถานที่ ดังนี้

  • เกาะคาปรี (Capri) ซึ่งเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีคนนิยมเดินทางไปมากจึงมีกฏห้ามใส่รองเท้าที่มีเสียงดังเวลาเดิน
  • เมืองอีโบลิ (Eboli) มีกฏห้ามคู่รักจูบกันในรถยนต์
  • เมืองเอราเคลีย (Eraclea) ห้ามก่อประสาททรายบนชายหาดเพราะเป็นการรบกวนการเดินเล่นบนชายหาดของคนอื่น
  • เมืองเวนิส (Venice) ห้ามให้อาหารนกพิราบที่จัตุรัสเซนต์มาร์ก
  • เมืองมิลาน (Milan) ห้ามทำหน้ามุ่ย หน้านิ่ว คิ้วขมวด หงุดหงิด

2. สิงคโปร์ (Singapore)

ห้ามเคี้ยวหมากฝรั่ง

สิงคโปร์เป็นอีกหนึ่งประเทศที่มี กฎข้อห้ามสุดแปลก เยอะมาก เราไปดูกันเลยว่ามีข้อห้ามอะไรบ้าง

  • ห้ามเคี้ยวหมากฝรั่ง ใช้บังคับมาตั้งแต่ปี 1992 เนื่องจากคนที่เคี้ยวหมากฝรั่งมักคายทิ้งตามพื้นและเอาไปแปะตามพื้นที่สาธารณะ ทำให้สกปรก และสร้างความเดือดร้อนให้กับผู้คนทีเผลอเหยียบ หรือเอามือพลาดไปโดน แต่ในปี 2004 มีการผ่อนผันให้ใช้หมากฝรั่งเพื่อการบำบัด หรือหมากฝรั่งนิโคตินสำหรับผู้ที่อยากเลิกบุหรี่ และปัจจุบันการเคี้ยวหมากฝรั่งไม่ผิดกฎหมายแล้ว นักท่องเที่ยวสามารถนำหมากฝรั่งเข้าสิงคโปร์ได้คนละ 2 แพ็ค แต่ก็ยังมีข้อห้ามทิ้งหมากฝรั่งเรี่ยราดหรือพ่นลงพื้น
  • ห้ามเดินเปลือยในบ้านตัวเอง ที่สิงคโปร์ถือว่าการเดินเปลือยในพื้นที่ส่วนตัวของเราเองโดยไม่ปิดประตู หรือผ้าม่านจนอาจมีคนอื่นเห็นนั้น เป็นการสร้างความเดือดร้อนรำคาญต่อสาธารณชน หากมีคนแจ้งเจ้าหน้าที่หรือถูกจับได้ต้องถูกปรับ 2,000 เหรียญสิงคโปร์ หรือราว 46,945 บาท หรือจำคุกอย่างน้อย 3 เดือน
  • ห้ามขโมยใช้ไวไฟคนอื่น กฎหมายสิงคโปร์ถือว่าการใช้ไวไฟของคนอื่นโดยไม่ได้รับอนุญาตคือการแฮกข้อมูล มีโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี
  • ห้ามลืมกดชักโครกสาธารณะ หากฝ่าฝืนมีโทษปรับ 150 เหรียญสิงคโปร์ หรือราว 3,519 บาท
  • ห้ามให้อาหารนกพิราบ อาจถูกปรับถึง 500 เหรียญสิงคโปร์ หรือราว 11,731 บาทเลยทีเดียว
  • ห้ามเลี้ยงสัตว์แปลก สิงคโปร์ออกกฎหมายห้ามทั้งการเลี้ยง ผสมพันธุ์ หรือจำหน่ายสัตว์ครึ่งบกครึ่งน้ำ สัตว์เลื้อยคลานที่มาจากต่างถิ่นโดยไม่ได้รับอนุญาต เพื่อปกป้องระบบนิเวศและความหลากหลายของประเทศ
  • ห้ามใช้เครื่องดนตรีสร้างความรำคาญให้กับคนที่ใช้ถนนหรือสถานที่สาธารณะอย่างถูกกฎหมาย หากฝ่าฝืนมีโทษปรับถึง 1,000 เหรียญสิงคโปร์

3. แคนาดา (Canada)

ห้ามในการดื่มเครื่องดื่มแอลกฮอลล์ในที่สาธารณะ

มีกฏหมายให้ร้านค้าสามารถปฎิเสธการรับเงินจากลูกค้าที่ใช้เหรียญจ่ายหากสินค้ามีมูลค่ามากกว่า 25 เหรียญ และยังมีกฏข้อห้ามในการดื่มเครื่องดื่มแอลกฮอลล์ในที่สาธารณะด้วย

4. ญี่ปุ่น (Japan)

ห้ามอ้วน

เมื่อเราเดินทางไปประเทศญี่ปุ่น เราควรศึกษาข้อห้ามต่างๆ ให้ดี โดยข้อห้ามบางส่วนที่เรานำมายกตัวอย่างมีดังนี้

  • ห้ามอ้วนโดยกำหนดจากขนาดเอวสำหรับบุคลในช่วงอายุ 40-47 ปี คือ ไม่เกิน 86 ซม. สำหรับผู้ชายและ 90 ซม. สำหรับสตรี ซึ่งกฏข้อห้ามนี้ถูกออกมาเพื่อแก้ปัญหาสุขภาพและโรคอ้วนในประเทศ ซึ่งหากใครเกินก็จะมีการเรียกเก็บเงินเพิ่ม
  • ห้ามวางตะเกียบพาดบนชามข้าว เพราะนั่นเป็นการกระทำในพิธีศพ หากเลิกใช้ตะเกียบแล้ว ให้วางตะเกียบลงบนจานสำหรับวางตะเกียบที่มักจะให้มาด้วยกันแทน
  • ห้ามเดินไปทานไป ควรหาสถานที่ที่สามารถรับประทานอย่างรวดเร็วแล้วค่อยไปทำธุระต่อ การทานอาหารในระบบขนส่งสาธารณะก็ถือเป็นเรื่องที่ไม่มีมารยาท ยกเว้นสำหรับรถไฟระยะไกลเท่านั้น
  • ห้ามสั่งน้ำมูกในที่สาธารณะ เราจะเห็นคนญี่ปุ่นสวมใส่หน้ากากอนามัยเป็นเรื่องปกติ โดยเฉพาะในช่วงฤดูหนาว เนื่องจากพวกเขาต้องการหลีกเลี่ยงการแพร่กระจายของเชื้อโรค
  • ห้ามให้ทิปในร้านอาหาร การให้ทิปในญี่ปุ่นอาจถือเป็นการดูถูกได้ ค่าบริการต่างๆ จะถูกรวมอยู่ในใบเสร็จที่ร้านอาหารแล้ว แม้กระทั่งคนขับรถแท็กซี่เองก็จะปฏิเสธค่าโดยสารที่ปัดเศษขึ้น ค่าบริการเท่าไหน ก็จ่ายเท่านั้น
  • หลีกเลี่ยงการใช้โทรศัพท์ในระบบขนส่งสาธารณะ คนญี่ปุ่นเคร่งครัดเรื่องมารยาทมาก คุณอาจได้ยินประกาศเตือนให้ปิดโทรศัพท์หลังจากเข้าไปในรถไฟ หรือบางครั้งก็เพียงเตือนให้ปิดเสียงและใช้ระบบสั่นเพื่อไม่ให้รบกวนผู้โดยสารคนอื่น ๆ แน่นอนว่ากฎเช่นนี้ทำให้ไม่มีการคุยโทรศัพท์ในรถไฟ

5. สหรัฐอเมริกา (United States)

ห้ามทำนายอนาคต

รัฐต่างๆ ในสหรัฐอเมริกา มีข้อห้ามที่แตกต่างกันไปในแต่ละรัฐ โดยมีตัวอย่างข้อห้ามของรัฐต่างๆ ดังนี้

  • รัฐแมรีแลนด์ เมืองบัลติมอร์ (Maryland, Baltimore) เราจะไม่มีทางเห็นหมอดูตามสวนสาธารณะเด็ดขาด เพราะในเมืองบัลติมอร์จะมีกฏข้อห้ามในการทำนายอนาคตซึ่งถือว่าเป็นเรื่องผิดกฏหมาย หากฝ่าฝืนก็จะถูกปรับหรือจำคุก
  • รัฐอิลลินอยส์ (Illinois) ห้ามใส่กางเกงเอวต่ำมาตั้งแต่ปี 2011 ซึ่งมีข้อกำหนดชัดเจนเลยว่ากางเกงที่ใส่ห้ามต่ำกว่าสะโพกเกิน 3 นิ้ว คนที่ฝ่าฝืนก็จะถูกปรับ และทำงานบริการชุมชน
  • รัฐคอนเนตทิคัต (Connecticut) คุณสามารถมีอาหารในรถได้ แต่ห้ามกินเด็ดขาด ถ้าแอบกินเพียงนิดเดียว และกล้องจับภาพคุณได้ คุณจะได้รับโทษตามกฎหมาย
  • รัฐฮาวาย (Hawaii) ห้ามเดินไปพร้อมกับการใช้โทรศัพท์มือถือ เนื่องจากระหว่างที่เดินไม่ดูทางอาจจะทำให้เกิดอุบัติเหตุขึ้นได้ ค่าปรับสำหรับผู้ทำผิดจะอยู่ที่ $15 แต่ไม่เกิน $99

6. คาซัคสถาน (Kazakhstan)

ห้ามถ่ายสิ่งที่เกี่ยวข้องกับทหาร และอาคารราชการ หากไม่ได้รับการอนุญาต

เวลาถ่ายรูปสถานที่ต่างๆ ในประเทศนี้จะต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ เพราะมีกฏข้อห้ามในการถ่ายสิ่งที่เกี่ยวข้องกับทหาร สนามบิน และอาคารราชการ หากไม่ได้รับการอนุญาตให้ถ่ายก็อาจถูกจับดำเนินคดีได้

7. เม็กซิโก (Mexico)

มีกฏข้อหมายเพื่อความปลอดภัยออกมาโดยเฉพาะสำหรับนักปั่น คือห้ามไม่ให้ยกเท้าออกจากที่ปั่นจักรยานเพื่อลดโอกาสที่จะสูญเสียการควบคุมและเกิดอุบัติเหตุ

จากกฎหรือข้อห้ามด้านบน เป็นแค่ตัวอย่างกฏหรือข้อห้ามบางส่วนที่มีอยู่ในแต่ละประเทศนะคะ เพราะฉะนั้นหากเราจะเดินทางไปยังสถานที่ต่างๆ เราควรมีการวางแผนการเดินทาง และศึกษากฏหรือข้อห้ามของสถานที่นั้นๆ เพิ่มเติม เพื่อให้เราสามารถเดินทางได้อย่างราบลื่น และไม่ทำผิดกฏหรือข้อห้ามของแต่ละสถานที่ที่เราเดินทางไป

และสิ่งสำคัญที่เราควรเตรียมไว้ก่อนเดินทาง คือ ประกันภัยการเดินทาง “Dance Moves” จาก Allianz Travel ที่มีความคุ้มครองกรณีเกิดเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝันในต่างประเทศ ไม่ว่าจะเป็นการเจ็บป่วยขณะเดินทาง เที่ยวบินล่าช้า และอื่นๆ อีกมากมาย ที่ช่วยให้คุณทำกิจกรรมต่างๆ ตลอดทริปได้อย่างอุ่นใจ ไร้กังวล*

*เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทกำหนด

เลือกแผนประกันการเดินทางที่ใช่สำหรับคุณ ประกันการเดินทาง Dance Moves จาก Allianz Travel

เกาหลีเปิดประเทศ นักท่องเที่ยวไทย ฟรีวีซ่า ไม่ต้องกักตัว

เกาหลีใต้เปิดประเทศ นักท่องเที่ยวไทย ฟรีวีซ่า ไม่ต้องกักตัว เริ่ม 1 เมษายน นี้

Allianz Travel มีข่าวดีสำหรับนักท่องเที่ยวไทยที่คิดถึงบรรยากาศการท่องเที่ยวในประเทศเกาหลีใต้ ตอนนี้ทางกระทรวงการต่างประเทศของสาธารณรัฐเกาหลีตัดสินใจที่จะยกเลิกการระงับข้อตกลงการยกเว้นวีซ่าชั่วคราว และบันทึกการแลกเปลี่ยนและการเข้าประเทศโดยไม่ต้องขอวีซ่าสำหรับ 46 ประเทศ ซึ่งรวมถึงผู้เดินทางจากประเทศไทยด้วย

โดยผู้เดินทางสามารถเดินทางเข้าประเทศเกาหลีใต้ได้โดยไม่ต้องขอวีซ่า และไม่ต้องกักตัว ตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2565 นี้ โดยรายชื่อประเทศ / ภูมิภาคที่เคยถูกระงับชั่วคราว รวม 46 ประเทศมีดังนี้

1. ประเทศ / ภูมิภาคปลอดวีซ่า (21 ประเทศ) 

นาอูรู, แอฟริกาใต้, หมู่เกาะมาร์แชลล์, มอริเชียส, มอนเตเนโกร, บาห์เรน, บอสเนียและเฮอร์เซโกวีนา, บอตสวานา, เซอร์เบีย, เซเชลส์, อาร์เจนตินา, เอสวาตินี, เอกวาดอร์, โอมาน, ฮอนดูรัส, กาตาร์, แคนาดา, ตูวาลู, ปารากวัย, ฟิจิ, ออสเตรเลีย

2. ประเทศที่ลงนามในข้อตกลงยกเว้นวีซ่า (บันทึกการแลกเปลี่ยน) (25 ประเทศ)

กัวเตมาลา, สาธารณรัฐโดมินิกัน, รัสเซีย, เลโซโท, มาเลเซีย, โมร็อกโก, บาฮามาส, บราซิล, เซนต์ลูเซีย, ซูรินาเม, สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์, เฮติ, แอนทีกาและบาร์บิวดา, เอลซัลวาดอร์, อุรุกวัย, อิสราเอล, จาเมกา, ชิลี, คาซัคสถาน, คอสตาริกา, โคลอมเบีย, ไทย, ตุรกี, ตูนิเซีย, ตรินิแดดและโตเบโก

โดยผู้เดินทางของของประเทศหรือภูมิภาคดั่งกล่าวข้างต้นต้องลงทะเบียนผ่านระบบ K-ETA (Electronic Travel Authorization) ล่วงหน้าเพื่อเดินทางเข้าสู่ประเทศเกาหลีใต้

ขอบคุณรูปภาพจาก : K-ETA (Korea Electronic Travel Authorization)

สำหรับใครที่คิดถึงประเทศเกาหลีใต้ เตรียมตัววางแผนการเดินทาง และเตรียมตัวแพ็คกระเป๋ารอได้เลย แต่จากสถานการณ์โควิดในประเทศเกาหลีใต้ในตอนนี้ ตัวเลขผู้ติดเชื้อโควิด-19 ยังพุ่งสูงอย่างต่อเนื่อง ควรเช็คสถานการณ์การระบาดของโควิด-19 และเงื่อนไขการเข้า-ออกประเทศอยู่เสมอ เพื่อไม่ให้พลาดการอัพเดทข่าวสาร อย่างไรก็แล้วแต่เราควรมีการวางแผนการเดินทางที่ดี เตรียมอุปกรณ์ต่างๆ ให้พร้อม และสิ่งสำคัญที่เราควรมีทุกครั้งที่เดินทางไปต่างประเทศ คือ ประกันภัยการเดินทาง เช่น ประกันภัยการเดินทาง “Dance Moves” จาก Allianz Travel ที่มีความคุ้มครองกรณีเกิดเหตุการณ์ฉุกเฉินในต่างประเทศ ไม่ว่าจะเป็นการเจ็บป่วยขณะเดินทาง เที่ยวบินล่าช้า และอื่นๆ อีกมากมาย ที่ช่วยให้คุณทำกิจกรรมต่างๆ ตลอดทริปได้อย่างอุ่นใจ ไร้กังวล*

*เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทกำหนด

ขอบคุณข้อมูลจาก: สถานเอกอัครราชฑูตสาธารณะรัฐเกาหลีประจำเอธิโอเปียและผู้แทนสาธารณะรัฐเกาหลีประจำสหภาพแอฟริกา

เลือกแผนประกันการเดินทางที่ใช่สำหรับคุณ ประกันการเดินทาง Dance Moves จาก Allianz Travel

6 tips to survive a long haul flight

6 เคล็ดลับนั่งเครื่องบินนานๆ ไม่ให้เมื่อย และไม่น่าเบื่อ

หยุดยาวปีนี้มีแผนอยากไปเที่ยวต่างประเทศไกลๆ แต่เมื่อนึกถึงความเมื่อยล้าและน่าเบื่อกับการที่ต้องนั่งเครื่องบินนานหลายชั่วโมง ก็อาจทำให้เปลี่ยนใจกันไปเลย วันนี้  Allianz Travel มีเคล็ดลับในการแก้เบื่อ และช่วยผ่อนคลายร่างกายคลายเมื่อย เมื่อต้องนั่งเครื่องบินนานๆ มาฝากค่ะ

1. แต่งตัวให้สบาย

เลือกชุดที่ใส่สบายๆ อย่างเสื้อยืดแขนยาว กางเกงผ้าเนื้อนุ่มพร้อมนอน ไม่ใส่เสื้อผ้าที่รัดรูป หรือมีขนาดพอดีตัวมากเกินไป เพราะจะทำให้การลุกขึ้นเดินลำบาก รวมถึงเลือกใส่รองเท้าหุ้มส้น หรือรองเท้าผ้าใบที่ใส่สบายๆ และหลีกเลี่ยงการใส่รองเท้าส้นสูง

2. เลือกที่นั่งที่ดีและเหมาะสมกับเรา

หากเรารู้ตัวว่าเป็นคนที่ต้องลุกไปทำธุระที่ห้องน้ำบ่อย ก็ควรที่จะเลือกที่นั่งริมทางเดิน เพื่อความสะดวกในการลุกเดินเข้าออก  แต่ถ้าเราชอบความเป็นส่วนตัว ก็อาจจะเลือกที่นั่งริมหน้าต่าง และจะได้ชมวิวทิวทัศน์ภายนอกไปด้วยได้

3. พกอุปกรณ์เอนเตอร์เทนแก้เบื่อ

ไม่ว่าจะเป็นหนังสือ เครื่องเล่นเกม หูฟัง โหลดหนังหรือเพลงที่ชอบลงโทรศัพท์มือถือหรือ iPad เพราะการทำกิจกรรมที่ชอบจะช่วยให้เราเพลิดเพลิน คลายเครียด และแก้เบื่อได้ดีในระหว่างการเดินทาง แถมยังทำให้เรารู้สึกว่าเวลาผ่านไปเร็วอีกด้วย

4. นอนหลับพักผ่อน

ถือโอกาสใช้เวลาว่างบนเครื่องบินนอนหลับยาวๆ และเตรียมที่ปิดตา ที่อุดหู และหมอนรองคอติดตัวไว้เวลาที่ต้องเดินทางไกล ช่วยให้เรานอนหลับบนเครื่องได้สบายขึ้น เป็นการนอนเอาแรงก่อนออกเที่ยวต่อเมื่อจุดหมายปลายทาง

5. ลุกเดินหรือขยับร่างกายบ้าง

การนั่งอยู่ในท่าเดิมบวกกับการนั่งอยู่ในที่แคบเป็นเวลานานจะทำให้เราเกิดอาการปวดเมื่อยตามร่างกายได้ การขยับร่างกายหรือออกกำลังกายเบาๆ ด้วยการขยับขา หมุนข้อมือ ทำให้เราป้องกันอาการเหน็บชา หรือตะคริว ได้ในระดับหนึ่ง หรือหาโอกาสลุกเดินไปเข้าห้องน้ำ ยืดเส้นยืดสาย และบิดขี้เกียจก็ได้เ่ช่นกัน

6. พกขนมหรือลูกอมติดกระเป๋าไว้บ้าง

ถึงแม้ว่าสายการบินแบบฟูลเซอร์วิสจะมีบริการอาหารหรือเครื่องดื่มให้เราอยู่แล้ว แต่การพกขนมหรือของกินเล่นเล็กๆ น้อยๆ ที่เราชอบติดกระเป๋าไว้ เช่น ขนมแห้งๆ อย่างพวกคุกกี้ หรือ ธัญพืช เอาไว้เคี้ยวเวลาเบื่อๆ พอให้หายอยาก พออิ่มแล้วก็นอนต่อได้เลยค่ะ

เพียงทำตาม 6 เคล็ดลับนั่งเครื่องบินนานๆ ไม่ให้เมื่อย และไม่น่าเบื่อ และนึกถึงความสุขเมื่อเราเดินทางถึงเป้าหมายในทริปนี้ของเรารออยู่ข้างหน้าแล้ว การที่เราต้องนั่งเครื่องบินนานๆ ก็ไม่ใช่เรื่องที่น่าเบื่ออีกต่อไป และการเดินทางไปต่างประเทศทุกครั้ง เพื่อนๆ ก็ควรเตรียมตัวซื้อประกันภัยการเดินทางที่ให้ความคุ้มครองค่าใช้จ่ายทีเกิดจากสถานการณ์ไม่คาดฝันต่างๆ ที่อาจเกิดขึ้นได้ เช่น ประกันภัยการเดินทาง “Dance Moves” จาก Allianz Travel ที่มีความคุ้มครองกรณีเกิดเหตุการณ์ฉุกเฉินในต่างประเทศ ไม่ว่าจะเป็นการเจ็บป่วยขณะเดินทาง เที่ยวบินล่าช้า และอื่นๆ อีกมากมาย ที่ช่วยให้คุณทำกิจกรรมต่างๆ ตลอดทริปได้อย่างอุ่นใจ ไร้กังวล*

*เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทกำหนด

เลือกแผนประกันการเดินทางที่ใช่สำหรับคุณ ประกันการเดินทาง Dance Moves จาก Allianz Travel

เกาหลีใต้เปิดรับนักเดินทาง ไม่ต้องกักตัว

เกาหลีใต้เปิดประเทศแล้ว เข้าประเทศไม่ต้องกักตัว

สำหรับเพื่อนๆ ที่คิดถึงประเทศเกาหลีใต้เตรียมตัวแพ็คกระเป๋าเดินทางกันได้แล้ว กระทรวงสาธารณสุขของประเทศเกาหลีใต้ได้ประกาศยกเลิกข้อกำหนดเดิม และหันมารับนักเดินทางโดยไม่ต้องกักตัว เริ่มต้น 21 มีนาคมนี้

โดยผู้เดินทางต้องมีประวัติการฉีดวัดซีนครบ 2 เข็ม (Pfizer, Moderna, AstraZeneca, Johnson & Johnson, Novavax, Sinopharm(Beijing), Sinovac, Covishield, Covaxin, Covovax) และ 1 เข็มสำหรับผู้ที่ได้รับวัคซีน Johnson & Johnson) และอยู่ในระยะเวลาระหว่าง 14-180 วัน ของการฉีดเข็มที่ 2 หรือได้รับวัคซีนเข็มที่ 3 โดยสอดคล้องกับเกณฑ์ของ WHO

ผู้ที่มีประวัติการฉีดวัคซีนนอกประเทศเกาหลีใต้จะต้องลงทะเบียนในระบบของรัฐบาลประเทศเกาหลีใต้และได้รับการยืนยืนก่อน ถึงจะเดินทางเข้าประเทศเกาหลีใต้ได้โดยรับการยกเว้นการกักตัว โดยข้อมูลที่เกี่ยวข้องจะถูกเชื่อมผ่านระบบกรอกข้อมูลล่วงหน้า (Q-CODE)

ผู้ที่สนใจสามารถลงทะเบียนได้ลิงก์นี้ https://cov19ent.kdca.go.kr/cpassportal/

ระบบกรอกข้อมูลล่วงหน้า (Q-CODE) สำหรับผู้เดินทางเข้าประเทศเกาหลีใต้
ขอบคุณรูปภาพจากเว็บไซต์ Q-CODE

มาตรการนี้จะไม่ครอบคลุมถึงผู้ที่เดินทางมาจากประเทศปากีสถาน อุซเบกิสถาน ยูเครน และเมียนมา ผู้เดินทางมาจากประเทศดังกล่าวยังต้องกักตัวแม้จะได้รับวัคซีนครบตามที่กำหนดแล้ว

นอกจากนี้ผู้ที่เดินทางเข้าประเทศเกาหลีใต้จะต้องตรวจโควิดเป็นจำนวน 3 ครั้ง คือ ก่อนเดินทางเข้าประเทศ และหลังจากเข้าประเทศแล้ว 1 วัน และหลังเดินทางเข้าประเทศแล้ว 6-7 วัน โดยใช้ผลตรวจแบบ Rapid Antigen Test ได้

แม้รัฐบาลประเทศเกาหลีใต้จะประกาศยกเลิกการกักตัว แต่สำหรับนักท่องเที่ยวไทยผู้ที่จะเดินทางไปประเทศเกาหลีใต้ จะต้องขอวีซ่าจากสถานเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐเกาหลีประจำประเทศไทย เท่านั้น เนื่องจากสถานการณ์โควิด-19 (COVID-19) ทำให้ตอนนี้ทางประเทศเกาหลีใต้ได้ระงับฟรีวีซ่าของประเทศต่างๆ รวมถึงประเทศไทยไว้ก่อน

หลายๆ ประเทศเริ่มเปิดประเทศให้นักท่องเที่ยวเข้าประเทศกันมากขึ้น หลังจากสถานการณ์โควิด-19 (COVID-19) เริ่มดีขึ้น ซึ่งนับเป็นข่าวดีของหลายคนที่เฝ้ารอการออกเดินทางไปต่างประเทศ จะได้เริ่มวางแผนการเดินทางและเตรียมแพ็คกระเป๋า และสิ่งสำคัญที่เราควรมีทุกครั้งที่เดินทางไปต่างประเทศ คือ ประกันภัยการเดินทาง ที่จะช่วยให้แผนการเดินทางของเราไม่สะดุด สามารถทำกิจกรรมต่างๆ ได้อย่างอุ่นใจ ไร้กังวล ให้ความคุ้มครองครอบคลุมค่าใช้จ่ายที่เกิดจากเหตุการณ์ฉุกเฉินที่อาจเกิดขึ้นโดยไม่คาดฝัน*

*เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทกำหนด

ขอบคุณข้อมูลจาก : สถานเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐเกาหลีประจำประเทศไทย

เลือกแผนประกันการเดินทางที่ใช่สำหรับคุณ ประกันการเดินทาง Dance Moves จาก Allianz Travel