6 ประเทศยุโรปค่าเรียนถูก สำหรับคนอยากศึกษาต่อต่างประเทศ

การศึกษาต่อต่างประเทศนับเป็นอีกทางเลือกหนึ่งสำหรับหลาย ๆ คนที่อยากหาความรู้เพิ่มเติม หรือต้องการความก้าวหน้าในหน้าที่การงาน ปัจจุบันประเทศที่คนไทยนิยมไปเรียนต่อมีทั้งยุโรป อเมริกาและเอเชีย โดยเฉพาะประเทศสหรัฐอเมริกาและอังกฤษ อย่างไรก็ตาม ถึงแม้ว่าบางประเทศ จะต้องเสียค่าใช้จ่ายเป็นเงินจำนวนหลายหลัก แต่ก็ยังมีอีกหลายประเทศที่คิดค่าเทอมต่อปีสำหรับนักศึกษาต่างชาติในราคาที่ไม่แพงมากนัก และบางประเทศอาจไม่ถึงหลักแสนด้วยซ้ำ วันนี้ Allianz Travel จึงขอพาผู้อ่านไปทำความรู้จัก 6 ประเทศยุโรปที่มีค่าเรียนในราคาที่ไม่สูงนัก เหมาะสำหรับคนงบน้อยที่อยากไปเรียนต่อ

1.GERMANY

ค่าเทอมสำหรับนักศึกษาต่างชาติ : ประมาณ 150,000 บาทต่อปี

มหาวิทยาลัยที่ได้รับความนิยม : University of Munich, University of Bonn, University of Mannheim, Wismar University

เยอรมนี ถือเป็นหนึ่งในประเทศยุโรปที่ได้รับความนิยมจากนักศึกษาต่างชาติที่เข้ามาเรียนต่อจำนวนมาก ส่วนหนึ่งเป็นเพราะค่าเทอมของมหาวิทยาลัยในเยอรมนีมีราคาไม่แพงมาก เพียงปีละประมาณ 100,000 – 200,000 บาทเท่านั้น (ก่อนปี 2017 ค่าเทอมฟรี) ที่สำคัญ ประเทศเยอรมนีมีมหาลัยที่มีชื่อเสียงระดับโลกมากมาย ซึ่งล้วนดึงดูดให้นักศึกษาต่างชาติอยากมาเรียนต่อ

อย่างไรก็ตาม ถึงแม้เยอรมนีจะเป็นประเทศที่ค่าเล่าเรียนถูก แต่ค่าครองชีพยังค่อนข้างสูง โดยประมาณอยู่ที่ 350,000 บาทต่อปี

2.FRANCE

ค่าเทอมสำหรับนักศึกษาต่างชาติ : ประมาณ 120,000 ต่อปี

มหาวิทยาลัยที่ได้รับความนิยม : École Polytechnique, Sorbonne University, École Normale Supérieure de Lyon, Sciences Po Paris

นอกเหนือไปจากวัฒนธรรม ผู้คนและสถานที่ท่องเที่ยวแล้ว ประเทศฝรั่งเศสถือเป็นแหล่งบ่มเพาะนักปรัชญา นักเศรษฐศาสตร์ และผู้มีชื่อเสียงมากมาย อีกทั้ง Sorbonne University ก็นับเป็นหนึ่งในมหาวิทยาลัยที่เก่าแก่ที่สุดในยุโรปอีกด้วย

ปัจจุบันนักศึกษาต่างชาติเริ่มหันมาให้ความสนใจศึกษาต่อประเทศฝรั่งเศสมากขึ้น เนื่องจากชื่อเสียงของมหาวิทยาลัยและค่าเทอมการศึกษาที่ถูก (บางที่ฟรี!) ซึ่งเป็นแรงดึงดูดชั้นดีให้นักศึกษาเดินทางมาเรียนต่อที่นี่ โดยค่าเทอมอยู่ที่เพียง 120,000 บาทต่อปีเท่านั้น และบางสถานศึกษาอยู่ที่เพียง 7,000 – 10,000 บาทต่อปี ขณะที่ค่าครองชีพตลอดปี ตกอยู่ที่ราว 350,000 บาทต่อปี

3.FINLAND

ค่าเทอมสำหรับนักศึกษาต่างชาติ : ประมาณ 200,000 ต่อปี (ฟรีสำหรับนักศึกษาประเทศในกลุ่ม EU)

มหาวิทยาลัยที่ได้รับความนิยม : Tampere University, University of Oulu, University of Jyväskylä, Arcada University of Applied Sciences, University of Helsinki

ฟินแลนด์ ประเทศทางกลุ่มสแกนดิเนเวียที่มีความสวยงามทั้งทางสถาปัตยกรรมและธรรมชาติ โอบล้อมด้วยขุนเขาและป่าไม้ ฟินแลนด์เป็นอีกหนึ่งประเทศที่ค่าเทอมการศึกษาสำหรับนักศึกษาต่างชาติไม่แพง อยู่ที่ประมาณ 250,000 บาทต่อปีเท่านั้น และฟินแลนด์เองก็มีทุนการศึกษาสนับสนุนนักศึกษาต่างชาติมากมาย และค่าครองชีพที่ฟินแลนด์ค่อนข้างแพง ตกอยู่ที่ราว 420,000 บาทต่อปี

4.HUNGARY

ค่าเทอมสำหรับนักศึกษาต่างชาติ : ประมาณ 70,000 ต่อปี (ฟรีสำหรับนักศึกษาประเทศในกลุ่ม EU)

มหาวิทยาลัยที่ได้รับความนิยม : Budapest University of Economic Sciences, Central European University, University of Szeged, Eötvös Loránd University

ฮังการี ประเทศที่มีกลิ่นอายยุโรปแบบย้อนยุค ทั้งทางวัฒนธรรม สถาปัตยกรรม และอาคารบ้านเรือน นักศึกษาต่างชาตินิยมมาศึกษาต่อที่ประเทศฮังการี ไม่เพียงเพราะหลงเสน่ห์ “Old Europe” เท่านั้น แต่เพราะค่าครองชีพและค่าเทอมที่แสนถูก ทำให้ฮังการีเป็นจุดหมายปลายทางของใครหลาย ๆ คน โดยที่ค่าเทอมการศึกษาเพียง 35,000 – 70,000 บาทต่อปี และค่าครองชีพตกเพียงเดือนละ ราว 17,500 ปีเท่านั้น (ประมาณ 210,000 บาทต่อปี) สำหรับใครที่มีงบไม่มาก และอยากเรียนต่อต่างประเทศ ฮังการีถือเป็นตัวเลือกอันดับต้น ๆ เลยค่ะ

5.AUSTRIA

ค่าเทอมสำหรับนักศึกษาต่างชาติ : ประมาณ 30,000 – 50,000 บาทต่อปี

มหาวิทยาลัยที่ได้รับความนิยม : University of Vienna, Vienna University of Technology, Graz University of Technology, University of Innsbruck

ออสเตรีย ดินแดนแห่งธรรมชาติ โอบล้อมด้วยขุนเขาและทะเลสาบอันแสนโรแมนติก ที่นี่ถือเป็นจุดมุ่งหมายอันดับต้น ๆ ของนักศึกษาต่างชาติ เพราะเพียงแค่มีเงินหลักหมื่น ก็สามารถเข้าเรียนที่นี้ได้แล้ว และเมื่อเทียบกับประเทศยุโรปอื่น ๆ ก็ถือว่าค่าเทอมถูกมาก ๆ เพียงแค่เทอมละ 10,000 – 30,000 บาท เท่านั้น (ถูกว่าค่าเทอมที่ไทยอีก!) และค่าครองชีพของออสเตรียอยู่ที่ราว 420,000 บาทต่อปี

6.SPAIN

ค่าเทอมสำหรับนักศึกษาต่างชาติ : ประมาณ 70,000 บาทต่อปี

มหาวิทยาลัยที่ได้รับความนิยม : Pompeu Fabra University, University of Barcelona, Autonomous University of Madrid, University of Navarra

สเปน ประเทศในฝันของใครหลาย ๆ คนที่อยากมาสัมผัสสถาปัตยกรรมโบราณและศิลปวัฒนธรรม แต่อาจไม่ได้เป็นที่นิยมมากนักในหมู่นักศึกษาที่ต้องการไปเรียนต่อต่างประเทศ เพราะคิดว่าค่าเทอมต้องแพงแน่ ๆ แต่ที่จริงแล้ว ค่าเทอมของมหาวิทยาลัยรัฐในสเปนถูกมาก เพียงปีละ 50,000 -70,000 บาทเท่านั้น และมหาวิทยาลัยในสเปนเอง หลาย ๆ มหาวิทยาลัยก็มีชื่อเสียงระดับโลก ถ้าใครยังลังเล หรือไม่รู้จะไปเรียนที่ไหนดี สเปนก็เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่น่าสนใจค่ะ

การเรียนต่อต่างประเทศ ไม่จำเป็นต้องเสียค่าใช้จ่ายจำนวนมากเสมอไป ถ้าเราเลือกประเทศและมหาวิทยาลัยให้ถูก ก็จะช่วยลดค่าใช้จ่ายไปได้จำนวนมาก ทั้ง 6 ประเทศยุโรปที่แนะนำวันนี้ ถือเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับคนงบน้อยที่อยากไปเรียนต่อต่างประเทศ

และสำหรับใครที่กำลังจะไปเรียนต่อ หลาย ๆ มหาวิทยาลัยจะแนะนำหรือบังคับให้เราทำประกันการเดินทางสำหรับศึกษาต่อต่างประเทศไปด้วย สาเหตุที่ต้องทำก็เพราะว่าเมื่อเจ็บป่วย และเกิดอุบัติเหตุขึ้นมาแล้ว ค่ารักษาพยาบาลแพงเอาเรื่องเลยค่ะ แผนประกันการเดินทางสำหรับศึกษาต่อต่างประเทศ Overseas Student Care ของ Allianz Travel ก็เป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่ช่วยคุ้มครองครอบคลุมค่ารักษาพยาบาล ที่ทำให้เรามั่นใจ ไร้กังวล มีความสุขกับการเรียนได้อย่างเต็มที่แล้วค่ะ

เรามุ่งมั่นที่จะช่วยเหลือและดูแลคุณ

อลิอันซ์ทราเวลเป็นผู้นำระดับโลกด้านประกันภัยการเดินทางและบริการช่วยเหลือทั่วไป เรามีแผนประกันภัยที่หลากหลายให้เลือก ครอบคลุมตั้งแต่แผนรายเที่ยว แผนรายปี แผนครอบครัว ไปจนถึงแผนเดินทางศึกษาต่อต่างประเทศ เราทุ่มเทที่จะให้บริการช่วยเหลือและปกป้องคุณทุกที่ ทุกเวลาเท่าที่เราจะทำได้ เราไม่ได้จำกัดอยู่แค่ประกันภัยและการให้ความช่วยเหลือ แต่เรามุ่งเน้นไปที่สิ่งที่มากกว่านั้น และทุกบริการของเราก็เพื่อลูกค้าคนสำคัญของเรา

เที่ยวประเทศยุโรป ฉบับคนงบน้อย

เที่ยวประเทศยุโรปฉบับคนงบน้อย (งบไม่เกิน 30,000 – 50,000 บาท)

“ทวีปยุโรป” เป็นทวีปยอดฮิตในฝันของใครหลาย ๆ คน ที่อยากไปสัมผัสสักครั้งในชีวิต เพราะเต็มไปด้วยความงดงามของสถาปัตยกรรม สถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ ผู้คน วัฒนธรรม อาหาร และสิ่งบันเทิงต่าง ๆ ที่รอให้ผู้คนได้ไปสัมผัส ท่องเที่ยว และซึมซับบรรยากาศเหล่านั้น แต่บางคนอาจส่ายหน้าหนีเมื่อนึกถึงการเดินทางไปยุโรป เพราะคิดว่าต้องมีเงินอย่างน้อยหลักแสน ทั้งๆ ที่หลายประเทศในยุโรป แค่ใช้งบเพียง 30,000 ถึง 50,000 บาท ก็เที่ยวได้แล้วค่ะ บทความนี้ Allianz Travel จึงขอพาผู้อ่านไปเที่ยว 6 ประเทศในยุโรปฉบับคนงบน้อยกัน จะมีประเทศไหนบ้าง และต้องเตรียมค่าใช้จ่ายกันเท่าไหร่ ไปดูกันค่ะ

1. ตุรกี

ประเทศตุรกีเป็นดินแดนที่ตั้งอยู่บนแผ่นดินทั้งสองทวีปคือยุโรปและเอเชีย มีประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมมาอย่างยาวนาน คนตุรกีส่วนใหญ่นับถือศาสนาอิสลาม ดังนั้น สถาปัตยกรรม วัฒนธรรมและประเพณี จึงถูกสร้างและแวดล้อมด้วยศาสนาอิสลาม สำหรับการไปเที่ยวตุรกี มีงบเพียง 30,000 บาท ก็สามารถไปเที่ยวได้แล้ว โดยแบ่งค่าใช้จ่ายตามนี้

งบประมาณ : 30,000 บาท

ค่าตั๋วเครื่องบินไป-กลับ : 15,000 – 18,000 บาท

ค่าวีซ่า : ไม่ต้องขอวีซ่า

ค่าที่พักและค่าอาหาร : ค่าที่พักเริ่มต้น 500 บาท/คืน (สำหรับโฮสเทล) ค่าอาหาร 200 – 300 บาทต่อมื้อ

ค่าใช้จ่ายอื่นๆ : ประมาณ 3,000 – 5,000 บาท อาทิ ค่าซื้อประกันภัยการเดินทาง ค่ารถบัสข้ามเมือง ค่ารถเมโทร ค่าเข้าชมสถานที่ต่าง ๆ (ขึ้นอยู่กับว่าไปกี่สถานที่)

สถานที่แนะนำ:

  • สุเหร่าโซเฟีย เมืองอิสตันบูล – ถูกจัดให้เป็น 1 ใน 7 สิ่งมหศัจรรย์ของโลกยุคกลาง สร้างขึ้นตั้งแต่ปี ค.ศ. 360 จุดเด่นคือมีโดมขนาดใหญ่กลางวิหารอายุกว่า 1,500 ปี
  • มัสยิดสีน้ำเงิน เมืองอิสตันบูล – สร้างขึ้นปี ค.ศ. 1606-1615 ข้างในมีการตกแต่งออกแบบภายในด้วยกระเบื้องอิซนิค บนกำแพงชั้นในสีฟ้าสดใสเป็นลายดอกไม้ ทั้งอาคาร มีหอมินาเร็ตหรือหอสวดมนต์ 7 หอ การจัดวางพื้นที่ของอาคารต่างๆ ถูกจัดวางเป็นรูปตัวยูได้อย่างสวยงาม
  • อุทยานแห่งชาติปามุคคาเล่ – สถานที่ยอดฮิตที่มี “บ่อน้ำพุร้อน” หรือแหล่งน้ำพุทางธรรมชาติเป็นจุดเด่น ชื่นชมกับทัศนียภาพของบ่อน้ำพุร้อนที่สวยงามจากการสะสมจนเกิดเป็นภูเขาเกลือขนาดใหญ่
  • พระราชวังทอปกาปี – สร้างขึ้นโดยสุลต่านเมห์เหม็ดที่ 2 ใช้เป็นที่ประทับของสุลต่านหลายพระองค์ต่อเนื่องกันหลายทศวรรษ ปัจจุบันพระราชวังทอปกาปี เป็นพิพิธภัณฑ์ที่จัดแสดงสมบัติล้ำค่าของสุลต่านองค์ต่าง ๆ รวมทั้งวัตถุโบราณอื่น ๆ อาทิเครื่องกระเบื้องของจีนกับญี่ปุ่นกว่า 12,000 ชิ้น
  • เมืองคัปปาโดเชีย – ทัวร์บอลลูนชมเมือง เที่ยวนครใต้ดิน ทัวร์พิพิธภัณฑ์กลางแจ้งเกอเรเม่ ต้องบอกว่ามาตุรกีแล้ว ห้ามพลาดมาเยือนคัปปาโดเชียเด็ดขาด เพราะนี้คือเมืองยอดฮิตที่มีกิจกรรมให้ทำเยอะมาก
ตุรกี
Hot air balloon flying over rock landscape at Cappadocia Turkey

2. รัสเซีย

สำหรับนักท่องเที่ยวไทยที่อยากไปเที่ยวรัสเซีย ข่าวดีคือไม่ต้องทำวีซ่า ก็สามารถเที่ยวได้ถึง 30 วัน รัสเซียเป็นประเทศที่เต็มไปด้วยสถาปัตยกรรมอันโดดเด่น วัฒนธรรมหลากหลาย สภาพอากาศก็เหมาะแก่การเที่ยว ไปเที่ยวรัสเซียใครว่าแพง แค่ 30,000 บาท ก็พอแล้วค่ะ

งบประมาณ : 30,000 บาท

ค่าตั๋วเครื่องบินไป-กลับ : 15,000 – 18,000 บาท

ค่าวีซ่า : ไม่ต้องขอวีซ่า

ค่าที่พักและค่าอาหาร : ค่าที่พักเริ่มต้น 400 บาท/คืน (ราคาโฮสเทล) ค่าอาหารเฉลี่ย 200 บาทต่อมื้อ

ค่าใช้จ่ายอื่นๆ : ประมาณ 3,000 – 5,000 บาท อาทิ ค่าซื้อประกันภัยการเดินทาง ค่ารถบัสข้ามเมือง ค่ารถเมโทร และค่าเข้าชมสถานที่ต่างๆ (ขึ้นอยู่กับว่าไปกี่สถานที่)

สถานที่แนะนำ:

  • พระราชวังแคทเธอรีน เซนต์ปีเตอร์เบิร์ก – หนึ่งในพระราชวังที่ห้ามพลาด ภายในพระราชวังมีห้องต่าง ๆ ให้ชมนับร้อย โดยเฉพาะห้องอำพัน ที่ถือว่าแป็นสุดยอดงานศิลป์ศตวรรษที่ 18 สร้างโดยช่างเยอรมัน ถวายให้แก่กษัตริย์ฟรีดริชที่ 1 แห่งปรัสเซีย
  • พระราชวังเครมลิน กรุงมอสโคว์ – มีอายุยืนยาวกว่า 850 ปี ตั้งอยู่บนเนินสูง ริมแม่น้ำมอสโคว์ ตัวพระราชวังถูกล้อมรอบด้วยกำแพงสีแดง ภายในมีพิพิธภัณฑ์อาร์เมอร์รี่ เป็นพิพิธภัณฑ์ที่เก่าแก่ที่สุดของรัสเซีย ภายในจะมีการเก็บวัตถุโบราณและสมบัติของกษัตริย์รัสเซียไว้มากมาย อาทิ เครื่องเพชร ทองคำ และชุดฉลองพระองค์ เป็นต้น
  • มหาวิหารเซนต์เดอะซาเวียร์ กรุงมอสโคว์ – เป็นมหาวิหารที่ใหญ่ที่สุดในรัสเซียตั้งอยู่ใจกลางเมืองติดกับแม่น้ำมอสโคว์ รอบ ๆ วิหารจะมีภาพล่อโลหะเป็นรูปนักรบโบราณกับกษัตริย์ที่มีความสวยงามเสมือนจริง มหาวิหารนี้ถูกสร้างขึ้นใหม่ในปี ค.ศ. 1990 หลังจากได้ทุบของเดิมทิ้ง
  • มหาวิหารเซนต์บาซิล กรุงมอสโคว์ – ถือเป็นสถานที่ที่นักท่องเที่ยวนิยมมาเที่ยวมากที่สุด มหาวิหารเซนต์บาซิลเป็นสถาปัตยกรรมศิลปะแบบรัสเซียโบราณ ประกอบด้วยยอดโดม 9 ยอด ใครมาเที่ยวกรุงมอสโคว์ ห้ามพลาดด้วยประการทั้งปวง เพราะแค่มองโดมทั้ง 9 ยอด ก็จะเห็นถึงความงดงามและอลังการของสถาปัตยกรรมชิ้นนี้แล้ว
  • ทะเลสาบไบคาล – เป็นทะเลที่เก่าแก่ที่สุดในโลก ตั้งอยู่บริเวณตอนใต้ของไซบีเรีย ช่วงหน้าหนาวทะเลสาบจะกลายเป็นน้ำแข็งทั้งหมด นักท่องเที่ยวนิยมขับรถเข้าไปถ่ายรูปที่เกาะ Olhkon ความสวยงามของทะเลสาบไบคาล อยู่ที่ปรากฏการณ์น้ำแข็งงอก น้ำแข็งย้อย ที่เกิดขึ้นในบริเวณถ้ำต่าง ๆ บริเวณรอบทะเลสาบ ดูแปลกตาและงดงามอย่างยิ่ง
รัสเซีย
Sunny autumn morning at St. Basil’s Cathedral on Red Square

3. อิตาลี

อิตาลี ประเทศในฝันของนักท่องเที่ยวหลาย ๆ คน ที่เต็มไปความงดงามและความอลังการของศิลปะ ประติมากรรม อาคารโบราณ วิหาร และสถาปัตยกรรมอื่น ๆ ซึ่งบางอย่างมีอายุยาวนานมากกว่าพันปี อิตาลีมีสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์เยอะมาก กระจายตัวอยู่ตามเมืองต่าง ๆ ถ้าใครไปเที่ยวแล้ว ก็ควรเก็บที่เที่ยวเหล่านี้ให้ครบนะคะ

งบประมาณ : 50,000 บาท

ค่าตั๋วเครื่องบินไป-กลับ : 16,000 – 20,000 บาท

ค่าวีซ่าเชงเก้น : ประมาณ 2,500 – 3,500 บาท

ค่าที่พักและค่าอาหาร : ค่าที่พักเริ่มต้น 800 บาท/คืน (ราคาโฮสเทล) ค่าอ่าหารเฉลี่ย 400 บาทต่อมื้อ

ค่าใช้จ่ายอื่นๆ : ประมาณ 5,000 – 7,000 บาท อาทิ ค่าซื้อประกันเดินทาง ค่ารถบัสข้ามเมือง ค่ารถเมโทร ค่าเข้าชมสถานที่ต่าง ๆ (ขึ้นอยู่กับว่าไปกี่สถานที่)

สถานที่แนะนำ:

  • Leaning Tower of Pisa – สถานที่ยอดฮิตที่ไม่ว่าใครมาเที่ยวอิตาลีก็ต้องมาถ่ายรูปทำท่าดันหอเอนปิซ่า เพราะหอเอนปิซ่า เป็นหอที่เอียงออกจาแนวดิ่งของฐานถึง 14 ฟุต แต่ไม่ล้ม และหอนี้ก็สร้างตั้งแต่ปี ค.ศ. 1173 และยังคงอยู่มาจนถึงปัจจุบัน
  • Colosseum – หนึ่งในสิ่งมหัศจรรย์ของโลกที่สร้างขึ้นตั้งแต่ปีค.ศ. 72 โคลอสเซียมเป็นสนามกีฬากลางแจ้งที่ใหญ่โตมโหฬาร สามารถจุคนได้ถึง 80,000 คน ถ้าใครอยากชมความยิ่งใหญ่อลังการของสถาปัตยกรรมโบราณ ห้ามพลาดที่นี่เลยค่ะ
  • St Peter’s Basilica – มหาวิหารเซนต์ปีเตอร์ตั้งอยู่ในเขตนครรัฐวาติกัน เป็นผลงานออกแบบของ ไมเคิล แองเจโล สถาปนิกเลื่องชื่อในอดีต มหาวิหารนี้ถือเป็นศูนย์รวมใจหลักของคริสตชนและเป็นสถาปัตยกรรมที่ยิ่งใหญ่และอลังการที่สุดในรัฐวาติกันและอิตาลี
  • Venice Grand Canal – การล่องเรือชมเมืองเวนิสเป็นสิ่งที่ไม่ควรพลาด เพราะตลอดสองข้างทาง จะพบกับบ้านเรือนสวย ๆ สถานที่เที่ยวระดับโลก พระราชวัง และโบสถ์ที่เรียงรายอยู่ริมฝั่งคลอง
  • Pantheon – มหาวิหารแพนธีออนมีอายุกว่า 2,000 ปี แรกเริ่มสร้างขึ้นเพื่อใช้เป็นเทวสถานสำหรับเทพต่าง ๆ ในสมัยโรมันโบราณ โดยมหาวิหารแพนธีออนถือเป็นสถาปัตยกรรมจากสมัยโรมันที่คงสภาพสมบูรณ์ที่สุดในอิตาลี
อิตาลี
Grand Canal and Basilica Santa Maria della Salute in Venice

4. ออสเตรีย

ออสเตรีย ดินแดนสุดโรแมนติกที่รายล้อมไปด้วยขุนเขาและทะเลสาบ ออสเตรียจึงเป็นประเทศที่เหมาะกับนักท่องเที่ยวที่อยากไปสัมผัสธรรมชาติอย่างเต็มปอด แต่ก็ใช่ว่าออสเตรียจะมีเพียงแค่ธรรมชาติเท่านั้น เพราะอาคารเก่าแก่และสถาปัตยกรรมอันงดงามก็ถือเป็นอีกหนึ่งจุดไฮไลต์ของที่นี้เหมือนกัน เพียงแค่เดินชมเมืองก็จะหลงรักออสเตรียแล้วค่ะ

งบประมาณ : 50,000 บาท

ค่าตั๋วเครื่องบินไป-กลับ : 17,000 – 19,000 บาท

ค่าวีซ่าเชงเก้น : ประมาณ 2,500 – 3,500 บาท

ค่าที่พักและค่าอาหาร : ค่าที่พักเริ่มต้น 1,000 บาท/คืน (ราคาโฮสเทล) ค่าอาหารเฉลี่ย 400 บาทต่อมื้อ

ค่าใช้จ่ายอื่นๆ : ประมาณ 5,000 – 7,000 บาท อาทิ ค่าซื้อประกันเดินทาง ค่ารถบัสข้ามเมือง ค่ารถเมโทร ค่าเข้าชมสถานที่ต่าง ๆ (ขึ้นอยู่กับว่าไปกี่สถานที่)

สถานที่แนะนำ:

  • พระราชวังเชินบรุนน์ (Schoenbrunn Palace) – เป็นแหล่งเช็กอินต้น ๆ สำหรับนักท่องเที่ยวเมื่อมาเวียนนา พระราชวังเชินบรุนน์สร้างขึ้นตั้งแต่ศตวรรษที่ 13 เป็นพระราชวังฤดูร้อนที่ได้รับต้นแบบมาจากพระราชวังแวร์ซายส์ในฝรั่งเศส ปัจจุบันได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก
  • เมือง Hallstatt – ถ้าไม่มาเที่ยวเมือง Hallstatt เท่ากับว่ามาไม่ถึงออสเตรีย ! เพราะเมืองนี้ได้ชื่อว่าเป็นเมืองริมทะเลสาบที่มีวิวทัศน์สวยที่สุดในโลกเลย เสน่ห์ของเมือง Hallstatt คือบ้านเมืองที่เรียงรายกันอยู่ริมทะเลสาบ พร้อมวิวทัศน์ภูเขาสูงและทะเลสาบอยู่ด้านหลัง แค่เดินชมเมืองก็ถือว่าคุ้มที่ได้มาแล้วค่ะ
  • เมือง Salzburg – เมืองมรดกโลกที่มีประวัติศาสตร์อย่างยาวนาน สถานที่เที่ยวยอดฮิตในเมืองนี้ อาทิ สวนมิราเบลล์ ป้อมปราการ Hohensalzburg และ The Eisriesenwelt (ถ้ำน้ำแข็ง ยาว 42 กิโลเมตร) มหาวิหารนี้ถือเป็นศูนย์รวมใจหลักของคริสตชนและเป็นสถาปัตยกรรมที่ยิ่งใหญ่และอลังการที่สุดในรัฐวาติกันและอิตาลี
  • เมือง Innsbruck – เมืองเล็ก ๆ ที่บรรยากาศเงียบสงบ อากาศดี เหมาะแก่การพักผ่อน เมืองอินส์บรุคส์ มีเทือกเขาแอลป์เป็นฉากหลัง พร้อมมีแม่น้ำอินส์ไหลผ่าน ภายในเมืองยังเป็นสวรรค์ของนักสกี เพราะมีภูเขาที่มีหิมะขาวโพลนปกคลุมตลอดทั้งปี เหมาะแก่การเล่นสกี และที่นี้ก็เคยได้จัดแข่งโอลิมปิคฤดูหนาวด้วยค่ะ
  • เมือง Zell Am See – อีกหนึ่งเมืองเล็ก ๆ ที่มีวิวทิวทัศน์เป็นภูเขาสูงและทะเลสาบ สำหรับเมืองนี้กิจกรรมที่นักท่องเที่ยวมักมาทำ คือการเล่นสกีน้ำแข็งบนเนินเขาระหว่างภูเขา 3 ลูก ความยาวกว่า 138 กิโลเมตร หรือถ้าใครไม่ชอบเล่นสกี ก็มีบริการนั่งเคเบิลคาร์เพื่อชมวิวยอดเขา Schmittenhohe
ออสเตรีย
Historical quarters of Hallstatt with tall spire of Evangelical Church and wooden fishing boats’ garages in port on Hallstattersee lake, Salzkammergut, Austria.

5. กรีซ

กรีซ ประเทศแห่งเทพนิยายทางตอนใต้ของยุโรปที่มีประวัติศาสตร์มาอย่างยาวนานตั้งแต่ยุคก่อนประวัติศาสตร์ ร้อยเรียงด้วยแหล่งอารยธรรมโบราณ สถาปัตยกรรม ศิลปะ ประติมากรรม และทะเลอันสวยงาม ทำให้กรีซเป็นจุดมุ่งหมายของนักท่องเที่ยวทั้งไทยและทั่วโลกให้ลองมาสัมผัสแหล่งอารยธรรมของโลก กรีซเป็นอีกหนึ่งประเทศที่งบไม่จำเป็นต้องเยอะ ก็ไปเที่ยวเองได้

งบประมาณ : 50,000 บาท

ค่าตั๋วเครื่องบินไป-กลับ : 20,000 บาท

ค่าวีซ่าเชงเก้น : ประมาณ 2,500 – 3,500 บาท

ค่าที่พักและค่าอาหาร : ค่าที่พักเริ่มต้น 800 บาท/คืน (ราคาโฮสเทล) ค่าอาหารเฉลี่ย 400 บาทต่อมื้อ

ค่าใช้จ่ายอื่นๆ : ประมาณ 5,000 – 8,000 บาท อาทิ ค่าซื้อประกันเดินทาง ค่ารถบัส ค่า One Day Trip เกาะ ค่ารถเมโทร ค่าเข้าชมสถานที่ต่าง ๆ (ขึ้นอยู่กับว่าไปกี่สถานที่)

สถานที่แนะนำ:

  • กรุงเอเธนส์ – เมืองเอเธนส์ เมืองโบราณที่มีอายุยืนยาวกว่า 2,000 ปี ภายในเมืองเต็มไปด้วยสถาปัตยกรรมที่มีชื่อเสียง อาทิ วิหารพาเธนอน และอะโครโปลิส เป็นต้น
  • เกาะซานโตรินี – อยู่ทางตอนใต้ของทะเลอีเจียน เกาะซานโตรินีมีจุดเด่นน่าสนใจคือบ้านเรือนและสถาปัตยกรรมที่มีความโดดเด่นแปลกตาด้วยสีขาวโล้นเกือบทั้งเกาะ กิจกรรมน่าสนใจบนเกาะ อาทิ การชมพระอาทิตย์ตกที่หมู่บ้านเอีย (Oia)
  • ถ้ำสีน้ำเงิน (Blue Lagoon) – ถ้ำสีน้ำเงิน ถือเป็นหนึ่งความมหัศจรรย์ที่ต้องมาเยือนให้ได้ โดยด้านหน้าของถ้ำเกิดการกัดเซาะของน้ำทะเลจนเกิดเป็นรูปร่างซุ้มประตูที่สวยงาม เมื่อนั่งเรือลอดเข้ามาในถ้ำแล้ว ก็จะพบกับทะเลสีน้ำเงินใสสะอาด นักท่องเที่ยวสามารถลงเล่นน้ำ และดำน้ำดูปลาภายในถ้ำได้
  • เกาะซาคินทอส – เป็นเกาะที่อยู่นอกฝั่งตะวันตกของกรีซ มีชื่อเสียงด้านความงามของธรรมชาติ อุดมสมบรูณ์ไปด้วยสิ่งมีชีวิตใต้น้ำ ซาคินทอสได้รับการยกย่องว่าเป็นหนึ่งในทะเลที่สวยที่สุดในโลก นอกจากนี้ เมื่อมาถึงซาคินทอสแล้ว อย่าลืมแวะไปหาดนาวาจิโอ ซึ่งเป็นหาดซากเรือแตก และเคยถูกใช้เป็นฉากหลังถ่ายทำซีรีส์เกาหลีด้วยนะ!
  • เกาะมิโคนอส – มาต่อกันอีกเกาะ กับเกาะมิโคนอส ซึ่งขึ้นชื่อเสียงด้านความสวยงามของตัวอาคารที่เรียงรายอย่างเป็นระเบียบ ตัวบ้านจะมีสีขาว ตัดกับประตูหน้าต่างสีฟ้าสดใส บนเกาะมีกิจกรรมให้ทำเยอะมาก อาทิ การดำน้ำลึก พายเรือ ขี่เจ็ตสกี เป็นต้น
กรีซ
Colorful panoramia of Oia town in Santorini, Greece

6. โปแลนด์

ประเทศสุดท้ายที่เราจะพาไปเที่ยวฉบับคนงบน้อยก็คือประเทศโปแลนด์ค่ะ โปแลนด์เป็นประเทศหนึ่งที่ค่าครองชีพไม่ได้สูง ทั้งค่าที่พักและอาหารต่อมื้อ ดังนั้นแล้ว ถ้าจัดการงบประมาณดี ๆ ไม่เกิน 50,000 บาทแน่นอนค่ะ

งบประมาณ : 50,000 บาท

ค่าตั๋วเครื่องบินไป-กลับ : 20,000 บาท

ค่าวีซ่าเชงเก้น : ประมาณ 2,500 – 3,500 บาท

ค่าที่พักและค่าอาหาร : ค่าที่พักเริ่มต้น 600 บาท/คืน (ราคาโฮสเทล) ค่าอาหารเฉลี่ย 300 บาทต่อมื้อ

ค่าใช้จ่ายอื่นๆ : ประมาณ 2,000 – 4,000 บาท อาทิ ค่าซื้อประกันเดินทาง ค่ารถบัส ค่ารถเมโทร ค่าเข้าชมสถานที่ต่าง ๆ (ขึ้นอยู่กับว่าไปกี่สถานที่)

สถานที่แนะนำ:

  • วอร์ซอ – เมืองหลวง และเมืองที่ใหญ่ที่สุดของโปแลนด์ มีสถานที่เที่ยวน่าสนใจจำนวนมาก แบ่งเป็นสามโซนหลักด้วยกันคือ 1. Old Town 2.Royal Route 3. New Town โดยโซน Old Town ได้รับการขึ้นทะเบียนจาก UNESCO ให้เป็นมรดกโลก ในย่านนี้ก็จะมีพระราชวังหลวงตั้งอยู่ด้วยค่ะ
  • มหาวิหารวาเวล – มหาวิหารที่เก่าแก่ในเมืองคราเคา สร้างขึ้นในศตวรรษที่ 14 มหาวิหารแห่งนี้เคยเป็นที่ประกอบพระราชพิธีราชาภิเษกกษัตริย์ และเป็นที่ฝังพระศพกษัตริย์และขุนนางอีกด้วย มหาวิหารแห่งนี้ประกอบไปด้วยโบสถ์ ถึง 18 โบสถ์ ให้นักท่องเที่ยวได้เดินชมความงดงาม
  • ค่ายกักกันเอาชวิทซ์ – เบียร์เคเนา – เป็นค่ายที่นาซีสร้างขึ้นในปี 1940 เพื่อกักกันชาวยิวในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกปี 1979 ภายในค่ายจะแสดงสิ่งของเครื่องใช้ของชาวยิวที่ถูกจับตัวมาในสมัยนั้น ภายในยังมีเปิดให้ชมห้องต่าง ๆ ทั้งห้องนอน ห้องน้ำ และห้องเผาศพ ถึงแม้ค่ายกักกันแห่งนี้จะไม่ใช่สถานที่ตื่นตาตื่นใจ แต่นับเป็นสถานที่ ที่ทำให้เราตระหนักถึงความโหดร้ายของสงครามได้เป็นอย่างดี
  • เหมืองเกลือวิเอลิคชกา – เหมืองเกลือที่มีอายุเก่าแก่ที่สุดในโลก และได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกจาก UNESCO ภายในเหมืองจะมีอุโมงค์ความยาวกว่า 300 กิโลเมตร และส่วนที่ลึกที่สุดของเหมืองแห่งนี้เทียบเท่ากับตึกสูง 40 ชั้นเลยทีเดียว!
  • ซาโกปาเน – เมืองแห่งขุนเขาและสวรรค์ของนักเล่นสกี นักท่องเที่ยวมักมาเที่ยวที่ซาโกปาเนในฤดูหนาว เพราะเมืองจะมีทิวทัศน์ที่สวยงามโอบล้อมด้วยภูเขาหิมะขาวโพลน
โปแลนด์
Aerial view over Grudziadz, Poland

เราไม่จำเป็นต้องใช้เงินมากมายกับการท่องเที่ยวยุโรปอีกต่อไปแล้ว ถ้าเราวางแผนการท่องเที่ยว และคุมงบประมาณเป็นอย่างดี อีกทั้งปัจจุบันโปรโมชั่นที่พักและสายการบินก็มีมาอย่างต่อเนื่อง ทั้ง 6 ประเทศที่เราแนะนำไป ถ้าวางแผนท่องเที่ยวและคุมงบอย่างดีแล้ว รับรองว่าเที่ยวได้อย่างสบายใจ ไม่เกินงบแน่นอนค่ะ (เผลอ ๆ ไม่ถึง 30,00 – 50,000 ด้วย)


สำหรับการท่องเที่ยวประเทศยุโรปแบบคนงบน้อย การเสียค่ารักษาพยาบาล เมื่อเกิดเหตุการณ์ไม่คาดคิด จะทำให้การท่องเที่ยวหมดสนุกไปทันที ดังนั้นการซื้อประกันภัยการเดินทาง ถือเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้เลย เพราะเบี้ยประกันแค่หลักร้อย ก็สามารถคุ้มครองค่ารักษาพยาบาลหลักล้านได้แล้ว ที่ Allianz Travel เรามีประกันการเดินทางรายเที่ยวและรายปี ที่คุ้มครองครอบคลุมค่ารักษาพยาบาล การพลาดการต่อเที่ยวบิน ความล่าช้าของสัมภาระ เอกสารสำคัญสูญหาย และกรณีอื่น ๆ เพียงเท่านี้ เราก็สามารถเที่ยวยุโรปได้อย่างสบายใจ มั่นใจ และไร้กังวลแล้วค่ะ

เรามุ่งมั่นที่จะช่วยเหลือและดูแลคุณ

อลิอันซ์ทราเวลเป็นผู้นำระดับโลกด้านประกันภัยการเดินทางและบริการช่วยเหลือทั่วไป เรามีแผนประกันภัยที่หลากหลายให้เลือก ครอบคลุมตั้งแต่แผนรายเที่ยว แผนรายปี แผนครอบครัว ไปจนถึงแผนเดินทางศึกษาต่อต่างประเทศ เราทุ่มเทที่จะให้บริการช่วยเหลือและปกป้องคุณทุกที่ ทุกเวลาเท่าที่เราจะทำได้ เราไม่ได้จำกัดอยู่แค่ประกันภัยและการให้ความช่วยเหลือ แต่เรามุ่งเน้นไปที่สิ่งที่มากกว่านั้น และทุกบริการของเราก็เพื่อลูกค้าคนสำคัญของเรา

6 ข้อเตรียมพร้อม พาครอบครัวเที่ยวต่างประเทศ

หนึ่งในความฝันของลูก ๆ หลายคนเมื่อเข้าสู่วัยทำงานแล้ว ก็คือการพาครอบครัวไปเที่ยวต่างประเทศพร้อมหน้าพร้อมตากัน แต่การจะไปเที่ยวทั้งครอบครัวก็อาจจะต้องมีการเตรียมการบางอย่างเป็นพิเศษต่างจากการไปเที่ยวเองหรือไปกับกลุ่มเพื่อน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ถ้าไปกับพ่อแม่หรือผู้สูงอายุ เราควรจะต้องวางแผนการท่องเที่ยวอย่างรอบคอบและรัดกุมเหมาะสมกับท่านด้วย ดังนั้น Allianz Travel จึงขอเสนอข้อแนะนำ 6 ข้อเตรียมพร้อม สำหรับผู้อ่านที่กำลังวางแผนพาครอบครัวไปเที่ยวเมืองนอก ว่าจะวางแผนเที่ยวกันอย่างไร และต้องเตรียมพร้อมอย่างไรบ้าง ไปดูกันเลยค่ะ

1.กำหนดสถานที่เที่ยวตามใจครอบครัว

การวางแผนพาพ่อแม่หรือครอบครัวเที่ยว สิ่งแรกที่ควรหลีกเลี่ยงเลยคือการกำหนดที่เที่ยวตามใจเรา เพราะพ่อแม่ท่านอาจจะไม่ชอบ หรือสถานที่นั้นอาจไม่เหมาะสำหรับผู้สูงอายุ ดังนั้นแล้ว ควรถามคุณพ่อคุณแม่และคนอื่น ๆ ก่อนว่า อยากไปที่ไหนและให้ท่านเลือกเลย โดยเราอาจจะเสนอประเทศเที่ยวให้ท่านเป็นตัวเลือกสัก 5 ประเทศ และกิจกรรมที่จะไปทำอย่างคร่าว ๆ หรือถ้าคุณพ่อคุณแม่มีที่เที่ยวอยู่ในใจแล้ว ก็ยิ่งสบายไปใหญ่ การกำหนดสถานที่เที่ยวตามใจครอบครัวถือเป็นเรื่องที่สำคัญมาก ๆ และไม่ควรมองข้ามนะคะ

2.กำหนดแผนเที่ยวตามไลฟ์สไตล์ครอบครัว

นอกจากจะกำหนดสถานที่เที่ยวตามใจครอบครัวแล้ว ไลฟ์สไตล์ก็เป็นสิ่งสำคัญค่ะ ถ้าไปเที่ยวกับพ่อแม่ ก็ต้องดูว่าท่านชอบเที่ยวแบบไหน เที่ยวสบาย ๆ กับทัวร์ หรือเป็นสายลุย ชอบเที่ยวเอง ถ้าไปเที่ยวกันเอง ก็ต้องดูว่าสุขภาพท่านเป็นอย่างไรบ้าง แข็งแรงขนาดไหน เพราะบางสถานที่ วัน ๆ เดินไม่ต่ำกว่า 5 กิโลเลยค่ะ ถ้าสุขภาพไม่แข็งแรงแล้ว ก็แนะนำให้พาท่านไปกับทัวร์จะดีกว่าค่ะ แต่ถ้าไม่ชอบไปทัวร์กับคนอื่น ก็อาจจะจองทัวร์ส่วนตัว หรือว่าเช่ารถขับเที่ยวก็เป็นอีกหนึ่งทางเลือกค่ะ นอกจากนี้ ถ้ามีเด็ก ๆ ไปเที่ยวด้วย ก็ต้องคำนึงว่า เด็กจะซนไหม หรือเด็กจะเบื่อไหม โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ถ้าต้องไปสถานที่ท่องเที่ยวที่คนเยอะ ๆ อาจพลัดหลงกันได้เลย

3.วางแพลนเที่ยวแบบหยืดหยุ่น และเลือกโรงแรมที่พักให้ดี

โดยปกติแล้ว ถ้าเราไปเที่ยวคนเดียว หรือเที่ยวกับเพื่อน เราก็จะวางตารางเที่ยวแน่นมากภายในหนึ่งวัน (เรียกได้ว่าเที่ยวให้คุ้มเลยหล่ะค่ะ) ภายในหนึ่งวัน ตั้งแต่เช้ายันค่ำ เราอาจเที่ยวได้ 7-8 สถานที่เลย แต่เมื่อเราไปกับครอบครัวแล้ว ไม่ควรวางตารางเที่ยวให้แน่นมากนัก ควรมีความยืดหยุ่นและเผื่อเวลา ในแต่ละวัน กำหนดสถานที่เที่ยวสัก 3-4 ที่ ก็เพียงพอแล้วค่ะ นอกจากนี้แล้ว การเลือกโรงแรมที่พักก็สำคัญ ไปคนเดียวหรือไปกับเพื่อนจะนอนพักที่ไหนก็ได้ แต่ไปกับครอบครัว ต้องนอนโรงแรมดี ๆ ไว้ก่อน ความสะดวกสบาย บรรยากาศ อาหาร และการบริการต่าง ๆ เป็นปัจจัยสำคัญ เพราะไปกับคุณพ่อคุณแม่ เราก็อยากให้ท่านได้รับความสะดวกสบายที่สุด ที่สำคัญ อย่าลืมเลือกโรงแรมที่ใกล้กับรถไฟฟ้า หรือใกล้กับแหล่งท่องเที่ยวและตลาดนะคะ เพราะจะช่วยเพิ่มความสะดวกสบายเป็นสองเท่า รับรองว่าคุณพ่อคุณแม่และครอบครัวต้องชอบแน่ ๆ ค่ะ

4.วางแผนค่าใช้จ่ายทั้งทริป

การพาพ่อแม่และครอบครัวไปเที่ยว ไม่เหมือนกับการพาเพื่อนหรือแฟนไปเที่ยว ที่เราสามารถช่วยกันออกค่าใช้จ่ายได้ การไปเที่ยวกับครอบครัว อย่างน้อยเราต้องรับผิดชอบค่าใช้จ่ายสามคน (พ่อ แม่ และตัวเอง) เพราะฉะนั้นแล้ว เมื่อเลือกสถานที่เที่ยวได้แล้ว เลือกได้ว่าจะไปเองหรือไปกับทัวร์แล้ว ต้องวางแผนค่าใช้จ่ายทั้ง ทริปให้ดีว่า จะใช้เงินไปกับอะไรบ้าง ไม่ว่าจะเป็นค่าตั๋วเครื่องบิน ค่าทัวร์ ค่าอาหาร ค่าที่พัก ค่าบัตรเข้าสถานที่เที่ยวและค่าใช้จ่ายอื่น ๆ ที่อาจเกิดขึ้นตามมา ดังนั้นแล้ว ควรกำหนดไปเลยว่าจะใช้จ่ายไปกับอะไรบ้าง ทั้งทริปจะใช้จ่ายเท่าไหร่ และพยายามคุมงบประมาณให้อยู่ในแผน งบประมาณจะได้ไม่บานปลายค่ะ

5.จัดเตรียมเอกสารเดินทางและเอกสารอื่นๆ

ถ้าหากว่าครั้งนี้เป็นการเดินทางไปต่างประเทศครั้งแรกของพ่อแม่ ดังนั้นเราก็ต้องคอยดูแลเรื่องเอกสารสำคัญสำหรับท่านด้วย ไม่ว่าจะเป็นการพาท่านไปทำพาสปอร์ต จัดการทำวีซ่า หรือเอกสารอื่น ๆ ที่จำเป็นในการเดินทางและการผ่านขั้นตอนการตรวจคนเข้าเมืองด้วย จะได้ไม่ติดปัญหาอะไรตั้งแต่เริ่มต้น พาลให้ท่านต้องหงุดหงิดใจจนเที่ยวไม่สนุกซะเปล่าๆ

6. ซื้อประกันการเดินทางสำหรับครอบครัว เตรียมพร้อมเรื่องความปลอดภัยในระหว่างการเดินทางท่องเที่ยว

ในยามที่เราต้องพาคุณพ่อคุณแม่ไปเที่ยวต่างประเทศ เรื่องความปลอดภัยนั้นเป็นเรื่องที่ต้องเตรียมพร้อมไว้เช่นกัน เพราะเราไม่มีทางรู้เลยว่าระหว่างการเที่ยวแล้ว จะเกิดเหตุการณ์อะไรขึ้นบ้าง ยิ่งถ้าเราดูแลเพียงลำพัง ก็อาจจะดูแลได้ไม่ทั่วถึง ถ้าคุณพ่อคุณแม่พลาดท่าลื่นล้ม เกิดอุบัติเหตุ และต้องเข้าโรงพยาบาล เราก็อาจจะต้องกันเงินไว้สำหรับค่ารักษาด้วย แต่แอบกระซิบก่อนเลยว่า ค่าใช้จ่ายรักษาพยาบาลเมืองนอก แพงมาก บางเคสถึงหลักล้านเลยทีเดียว ดังนั้นจะให้ดีที่สุด การซื้อประกันการเดินทางสำหรับครอบครัวไว้ก่อน ย่อมอุ่นใจกว่าค่ะ อย่างน้อยเราก็มีประกันที่จะคุ้มครองค่ารักษาพยาบาลเผื่อไว้แล้ว และเอาเงินที่อาจต้องกันไว้ ไปใช้จ่ายเพื่อความสุขของท่านให้เต็มที่จะดีกว่าค่ะ

การวางแผนเที่ยวกับครอบครัวเป็นเรื่องที่ต้องใช้เวลา และความรอบคอบเป็นพิเศษ เพื่อที่จะให้ทุกคนในครอบครัวมีความสุขกับทริปที่จะไป เมื่อเตรียมตัวพร้อมทุกข้อแล้ว ก็ถึงเวลาออกเดินทางจริงแล้วค่ะ สำหรับใครที่สนใจประกันการเดินทาง ที่ Allianz Travel เรามีประกันการเดินทางสำหรับครอบครัว คุ้มครองสูงสุดถึง 4 ท่าน ในราคาพิเศษ โดยคุ้มครองครอบคลุมค่ารักษาพยาบาล และความช่วยเหลือฉุกเฉิน เพียงเท่านี้ ก็ท่องเที่ยวอุ่นใจ หายห่วงได้แล้วค่ะ

เรามุ่งมั่นที่จะช่วยเหลือและดูแลคุณ

อลิอันซ์ทราเวลเป็นผู้นำระดับโลกด้านประกันภัยการเดินทางและบริการช่วยเหลือทั่วไป เรามีแผนประกันภัยที่หลากหลายให้เลือก ครอบคลุมตั้งแต่แผนรายเที่ยว แผนรายปี แผนครอบครัว ไปจนถึงแผนเดินทางศึกษาต่อต่างประเทศ เราทุ่มเทที่จะให้บริการช่วยเหลือและปกป้องคุณทุกที่ ทุกเวลาเท่าที่เราจะทำได้ เราไม่ได้จำกัดอยู่แค่ประกันภัยและการให้ความช่วยเหลือ แต่เรามุ่งเน้นไปที่สิ่งที่มากกว่านั้น และทุกบริการของเราก็เพื่อลูกค้าคนสำคัญของเรา

7 ข้อ เตรียมตัวให้พร้อม ก่อนไปเรียนต่อต่างประเทศ

การเดินทางไปศึกษาต่อต่างประเทศเป็นจุดมุ่งหมายและความฝันของใครหลาย ๆ คนที่ต้องการหาความรู้เพิ่มเติม และความก้าวหน้าในหน้าที่การงาน เมื่อเราสมัครเรียนต่อและผ่านการคัดเลือกเรียบร้อยแล้ว ก่อนที่เราจะออกเดินทางนั้น ก็มีเรื่องให้เตรียมตัวอยู่พอสมควร อาทิ เรื่องเอกสาร การวางแผนการใช้จ่ายเงิน การจองที่พักและตั๋วเครื่องบินต่างๆ เป็นต้น Allianz Travel จึงขอชวนผู้อ่านที่กำลังเตรียมตัวไปเรียนต่อเมืองนอก มาสำรวจกันว่า ก่อนที่จะออกเดินทางจริง ต้องเตรียมพร้อมอย่างไรบ้าง

1.ซื้อตั๋วเครื่องบิน และหาที่พัก

เมื่อสมัครเรียน ได้รับการคัดเลือก และสมัครวีซ่าผ่านแล้ว ขั้นตอนแรกของการเตรียมตัวให้พร้อม ก่อนไปเรียนนอก ก็คือการซื้อตั๋วเครื่องบินและหาที่พักนั่นเอง โดยปกติแล้ว เราจะจองตั๋วเครื่องบินก่อนเดินทางจริง ประมาณ 3 – 6 เดือน ซึ่งจะมีราคาถูกกว่าการจองแบบกระชั้นชิด ในขณะที่การหาที่พัก ถือเป็นเรื่องใหญ่พอสมควร เพราะที่พักมีหลายแบบ และหลายราคาให้เลือก ตั้งแต่หอพักในแคมปัส หอพักใกล้แคมปัส อพาร์ทเมนท์แบ่งเช่า ไปจนถึงโฮมสเตย์ การเลือกที่พักควรคำนึงถึงความสะดวกสบาย และราคาเป็นหลัก เพราะราคาที่แพงเกินไป อาจทำให้เราต้องลดค่าใช้จ่ายจำเป็นในส่วนอื่น ๆ ลง และถ้าที่พักไกลจากแคมปัสมากเกินไป การเดินทางอาจไม่สะดวกสบาย และทำให้เสียเวลาเดินทางอีกด้วย

2.แลกเงินสด และวางแผนการเงินก่อนเดินทาง

อีกเรื่องที่สำคัญไม่แพ้กัน คือการวางแผนการใช้เงินตลอดการศึกษา ไม่ว่าจะเป็นค่าเทอม ค่าใช้จ่ายส่วนตัว ค่ากิน ค่าของใช้ส่วนตัว ค่าหนังสือ ค่าเที่ยว และค่าอื่นๆ การวางแผนการใช้จ่ายก่อนเดินทาง จะทำให้เรารู้ว่าในแต่ละเดือน จะต้องใช้จ่ายประมาณเท่าไหร่ ซึ่งจะช่วยให้เราคุมงบตลอดปีได้ และก่อนออกเดินทาง อย่าลืมแลกเงินสดให้สามารถพกติดตัวอยู่ได้ประมาณ 1-2 สัปดาห์ และไปเปิดบัญชีธนาคารที่ต่างประเทศเมื่อไปถึง หรือจะใช้วิธีแลก Bank Draft หรือ Traveler’s Check ไว้ใช้ในระยะยาวก็ได้ อีกวิธีหนึ่งที่เป็นทางเลือกก็คือ การพกบัตรเครดิต หรือบัตรเดบิตจากประเทศไทยไปด้วย

3.เตรียมเสื้อผ้า ของใช้ส่วนตัว และยาประจำตัว

เสื้อผ้า ของใช้ส่วนตัว และยาประจำตัว ถือเป็นอีกเรื่องที่สำคัญ เสื้อผ้าและของใช้ส่วนตัวควรจะทำ Checklist ไว้ตั้งแต่เนิ่น ๆ ว่าต้องนำอะไรไปบ้าง จะได้ไม่ลืม เสื้อผ้าที่จะเตรียมไป ควรจะเตรียมไปโดยอิงจากสภาพอากาศของประเทศที่จะไป ถ้าไปประเทศแถวยุโรปและอเมริกา เสื้อกันหนาวเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้เลย และที่สำคัญ อย่าลืมพวกอุปกรณ์ปลั๊กพ่วง ที่ควรจะพก Universal Plug ไปเผื่อด้วย ขณะที่ยาประจำตัว เป็นสิ่งที่ลืมไม่ได้เด็ดขาด เพราะว่าบางประเทศ การจะซื้อยาได้ ต้องมีใบสั่งยาจากแพทย์เท่านั้น จึงเป็นเรื่องที่ลำบากมาก ๆ ยาที่ควรพกติดตัวไปด้วย อาทิ ยาแก้หวัด ยาแก้ปวดหัว ยาแก้ท้องเสีย ยาแก้แพ้ เป็นต้น ถ้ามีเอกสารทางการแพทย์ที่ระบุถึงโรคประจำตัวหรือยาที่ต้องทานประจำ ก็ควรจะพกติดตัวไปด้วยครับ

4.เตรียมเอกสารสำคัญต่างๆ

ก่อนเดินทางจริง ควรรีเช็กให้แน่ใจว่าไม่ลืมเอกสารสำคัญต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นพาสปอร์ต เอกสารการเรียนต่าง ๆ บัตรประชาชน หรือเอกสารอื่น ๆ ที่ระบุตัวตน เอกสารเหล่านี้สำคัญมาก ๆ ถ้าลืมก็อาจทำให้เกิดความยุ่งยากตามมาอีกมาก

5.วางแพลนเที่ยว หรือหางานพิเศษทำ

แน่นอนว่าเมื่อไปเรียนต่อต่างประเทศ หลายคนก็อยากที่จะไปเที่ยวตามสถานที่ใหม่ ๆ และหาประสบการณ์ ใหม่ ๆ ที่ไม่เคยพบมาก่อนโดยปกติแล้ว จะมีทั้งหมด 3 ช่วงให้เราได้วางแพลนเที่ยวยาว ๆ ช่วงแรกคือช่วง Reading Week ซึ่งจะเป็นสัปดาห์ที่ให้นักศึกษาหยุดเพื่ออ่านหนังสือสอบ ประมาณ 1-2 สัปดาห์ ช่วงที่สองคือช่วงปิดเทอมเล็ก และช่วงที่สามคือช่วงปิดเทอมใหญ่ นอกจากนี้ สำหรับใครที่ไม่ชอบเที่ยว แต่อยากหางานพิเศษทำ ก็ควรศึกษาแต่เนิ่น ๆ ตั้งแต่ที่ไทยว่า มหาวิทยาลัยหรือแคมปัสที่จะไป โดยรอบบริเวณ มีเปิดรับสมัครพาร์ทไทม์ที่ไหนบ้าง รายได้ต่อชั่วโมงเท่าไหร่ เมื่อไปถึง เราจะได้ไม่เสียเวลามาหาที่ทำงานพิเศษอีกรอบ ไปเรียนต่อเมืองนอกทั้งที การวางแพลนเที่ยว และหางานพิเศษทำ ถือเป็นอีกหนึ่งประสบการณ์แปลกใหม่ที่ไม่ควรพลาดครับ

6.ทำความรู้จักวัฒนธรรมและประเพณีของประเทศที่จะเดินทางไป

เมื่อเราเตรียมทุกอย่างพร้อมแล้ว อีกสิ่งหนึ่งที่ควรทำการบ้านให้พร้อมก่อนออกเดินทางก็คือ การทำความรู้จักวัฒนธรรมและประเพณีของแต่ละประเทศเบื้องต้น ถ้าเราเข้าใจวัฒนธรรมและประเพณีแล้ว จะช่วยลดการเกิด Culture Shock ณ ประเทศที่เราจะเดินทางไปเรียนต่อได้ อาทิ การเข้าใจวัฒนธรรมการใช้มือกินข้าวของคนอินเดีย-มาเลเซีย หรือการนับถือศาสนาอิสลามเป็นศาสนาหลักในบางประเทศ การรู้วัฒนธรรมเหล่านี้ล่วงหน้า จะช่วยให้เราเตรียมพร้อม และปรับตัวได้ไวขึ้น

7.ซื้อประกันการเดินทาง

ข้อสุดท้าย ซึ่งถือเป็นข้อสำคัญมาก ๆ และไม่ควรมองข้าม คือการซื้อประกันการเดินทาง หลาย ๆ ประเทศ จะบังคับว่านักศึกษาต้องซื้อประกันการเดินทางไปด้วย และอีกหลาย ๆ ประเทศแนะนำให้ซื้อประกันการเดินทางก่อนไป เมื่อเราไปอยู่อาศัย ณ ประเทศปลายทางแล้ว เราไม่มีทางรู้เลยว่าจะเกิดอุบัติเหตุเมื่อไหร่ ถ้าเราไม่มีประกันการเดินทางสำหรับศึกษาต่อต่างประเทศแล้ว อุบัติเหตุบางเคส อาจจะเสียค่ารักพยาบาลเป็นล้าน! และสำหรับคนที่ซื้อประกันแล้ว เมื่อเกิดอุบัติเหตุ ก็เพียงนำค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นจริง มาเคลมประกันที่ทำไว้ได้เลย แค่นี้ก็สบายใจ หายห่วงเรื่องค่ารักษาพยาบาลแล้วครับ

เมื่อเตรียมตัวพร้อมทั้ง 7 ข้อแล้ว ก็ถึงเวลาออกเดินทางไปศึกษาต่อได้อย่างสบายใจแล้วครับ อย่าลืมนะครับว่า ประกันการเดินทางสำคัญมาก ไม่ว่าจะเจ็บป่วย หรือเกิดอุบัติเหตุระหว่างศึกษาต่อ ประกันการเดินทางก็จะช่วยคุ้มครองค่ารักษาพยาบาลทั้งหมด สำหรับใครที่กำลังมองหาประกันการเดินทางสำหรับศึกษาต่อต่างประเทศอยู่ Allianz Travel มีแผนประกันการเดินทาง Overseas Student Care ที่จะคุ้มครองครอบคลุมถึงค่ารักษาพยาบาล เพียงเท่านี้ก็มั่นใจ ไร้กังวล มีความสุขกับการเรียนได้อย่างเต็มที่แล้วครับ

เรามุ่งมั่นที่จะช่วยเหลือและดูแลคุณ

อลิอันซ์ทราเวลเป็นผู้นำระดับโลกด้านประกันภัยการเดินทางและบริการช่วยเหลือทั่วไป เรามีแผนประกันภัยที่หลากหลายให้เลือก ครอบคลุมตั้งแต่แผนรายเที่ยว แผนรายปี แผนครอบครัว ไปจนถึงแผนเดินทางศึกษาต่อต่างประเทศ เราทุ่มเทที่จะให้บริการช่วยเหลือและปกป้องคุณทุกที่ ทุกเวลาเท่าที่เราจะทำได้ เราไม่ได้จำกัดอยู่แค่ประกันภัยและการให้ความช่วยเหลือ แต่เรามุ่งเน้นไปที่สิ่งที่มากกว่านั้น และทุกบริการของเราก็เพื่อลูกค้าคนสำคัญของเรา

4 เหตุการณ์ไม่คาดฝันระหว่างท่องเที่ยวต่างประเทศ

การเดินทางท่องเที่ยวต่างประเทศของแต่ละคน อาจมีจุดมุ่งหมายที่แตกต่างกันไป หลายคนไปท่องเที่ยวเพื่อต้องการพักผ่อนหย่อนใจจากการทำงานหนักมาทั้งปี หลายคนไปท่องเที่ยวเพื่อต้องการสัมผัสประสบการณ์แปลกใหม่ และหลายคนไปท่องเที่ยวเพื่อต้องการค้นหาตัวเอง ไม่ว่าจะมีจุดมุ่งหมายแบบไหน การท่องเที่ยวต่างประเทศ ล้วนมีจุดมุ่งหมายที่ทำให้ตัวเองเกิดความสุขคล้าย ๆ กันทั้งนั้น อย่างไรก็ตาม บางครั้ง การท่องเที่ยวในต่างประเทศ ก็อาจนำพาเราไปสู่ “เหตุการณ์ไม่คาดฝัน” ที่ทำลาย “ความสุข” ให้มลายหายไป วันนี้ Allianz Travel จึงขอพาผู้อ่านไปพบกับ 4 เหตุการณ์ไม่คาดฝัน ที่จะทำให้เรารู้ตัวก่อน และเตรียมพร้อมรับมือกับเหตุการณ์ได้อย่างทันถ่วงที

1. เครื่องบินดีเลย์

เหตุการณ์ไม่คาดฝันแรกที่เราจะเจอตั้งแต่ยังไม่เริ่มเดินทางเลย คือ “เครื่องบินดีเลย์” ความล่าช้าของการเดินทางอาจเกิดขึ้นได้หลายสาเหตุ ไม่ว่าจะเป็นความขัดเครื่องของเครื่องยนต์ น้ำท่วมอย่างรุนแรงหรือสภาพอากาศเลวร้ายจนขึ้นบินไม่ได้ หรือการประท้วงที่สนามบิน เหตุการณ์เหล่านี้ อาจทำให้เครื่องบินดีเลย์ตั้งแต่ 1-2 ชั่วโมงจนกระทั่งเป็นวัน หรือหลายวันเลยก็ได้ ซึ่งเครื่องบินดีเลย์เกิดขึ้นได้ทั้งขาไป และขากลับ แต่ไม่ว่าจะเกิดขึ้นขาไปหรือขากลับก็ตาม ย่อมไม่ดีแน่นอน เพราะอาจส่งผลกระทบกับแผนการเดินทางและค่าใช้จ่ายต่างๆ ที่อาจเกิดขึ้นจากการดีเลย์ ไม่ว่าจะเป็น ค่าบัตรต่าง ๆ ที่จองไว้แล้ว ค่าที่พักที่ต้องเพิ่มขึ้น ที่หนักที่สุดอาจกระทบถึงงานหรือธุรกิจที่เราวางแผนไว้ได้เลยทีเดียว ซึ่งส่วนใหญ่แล้วล้วนเป็นประสบการณ์ที่ไม่น่าภิรมย์ทั้งสิ้น

2. สัมภาระและกระเป๋าเดินทางล่าช้า

เมื่อเครื่องลงจอดสนามบินปลายทางแล้ว เหตุการณ์ไม่คาดฝันที่อาจเกิดขึ้นได้คือการที่สัมภาระและกระเป๋าเดินทางลาช้า ซึ่งบางครั้งอาจล่าช้าเป็นวัน หรือหลายวันเลยก็ได้ และเหตุการณ์นี้ก็เกิดขึ้นบ่อยมาก ๆ โดยเฉพาะเส้นทางการบินไกล ๆ และโดยเฉพาะอย่างยิ่งหากเป็นทริปที่ต้องเดินทางเปลี่ยนที่พักใหม่บ่อย ๆ ตั้งแต่คืนแรก กระเป๋าล่าช้าก็อาจทำให้เกิดความยุ่งยากมากขึ้นไปอีก ดังนั้นแล้ว วิธีรับมือเบื้องต้นคือ ควรพกเสื้อผ้าสำรอง และอุปกรณ์ส่วนตัวที่จำเป็นติดตัวขึ้นเครื่องไปด้วยทุกครั้ง เมื่อสัมภาระล่าช้า จะได้หายห่วงไปเปราะหนึ่งว่ายังมีสิ่งของสำรองสำหรับท่องเที่ยวและชีวิตประจำวันใช้ต่อไปได้

3. เกิดอุบัติเหตุระหว่างท่องเที่ยว

ในระหว่างการเที่ยวต่างประเทศ เหตุการณ์ที่เราไม่อยากเจอมากที่สุด คงหนีไม่พ้น การเกิดอุบัติเหตุระหว่างทาง ไม่ว่าอุบัติเหตุนั้นจะเป็นอุบัติเหตุเล็กหรือใหญ่ก็ตาม เพราะนอกจากจะทำให้แพลนการเดินทางต้องเปลี่ยนไปแล้ว อาจต้องเสียเงินก้อนใหญ่ไปกับการรักษาพยาบาลด้วย อุบัติเหตุระหว่างท่องเที่ยว มีตั้งแต่การลื่นล้ม แขนหัก ขาหัก อาหารเป็นพิษ ผื่นคัน เจ็บป่วยต้องแอดมิทโรงพยาบาล ไปจนถึงอุบัติเหตุรถชน ซึ่งบางกรณีต้องเสียค่ารักษาพยาบาลเป็นล้าน หรือหลายล้านบาทเลยทีเดียว ! วิธีรับมือเบื้องต้นก็คือการซื้อประกันการเดินทางนั่นเอง เพราะส่วนใหญ่แล้วเบี้ยประกันหลักร้อย ก็สามารถคุ้มครองค่ารักษาพยาบาลหลายล้านบาทได้แล้ว เพียงเท่านี้ก็หมดห่วงเรื่องค่าใช้จ่ายไปได้เลย

4. เอกสารส่วนตัวและเงินพกติดตัวหาย

เอกสารส่วนตัวและเงินพกติดตัวหาย เป็นเหตุการณ์หนึ่งที่เกิดขึ้นบ่อยมากกับนักท่องเที่ยว ทั้งขาประจำ และขาจร เอกสารส่วนตัวที่หายบ่อย คงหนีไม่พ้นพาสปอร์ตนั่นเอง เมื่อพาสปอร์ตหรือเงินพกติดตัวหายแล้ว ก็อาจทำให้แพลนการเที่ยวมีอันต้องเปลี่ยนไป เพราะถ้าไม่มีพาสปอร์ตแล้ว การเดินทางไปเที่ยวตามสถานที่ต่าง ๆ ก็ทำได้ลำบากขึ้น (ยิ่งถ้าลืมสำเนาพาสปอร์ตด้วยละก็) และเมื่อเงินพกติดตัวหาย งบประมาณในการเที่ยวก็อาจจะเปลี่ยนไป วิธีรับมือเบื้องต้นคือการไปแจ้งความที่สถานีตำรวจในพื้นที่เกิดเหตุไว้ก่อน ถ้าเป็นพาสปอร์ตก็ให้ติดต่อสถานทูตทันทีเพื่อทำพาสปอร์ตใหม่ และถ้าต้องรีบเดินทางกลับ แนะนำให้ขอเอกสารใบผ่านทางเดินทางครั้งเดียว หรือ Certificate of identity ขึ้นเครื่องแทนพาสปอร์ตไปก่อน เพียงเท่านี้ก็สามารถแก้ปัญหาเบื้องต้นได้แล้วครับ

เหตุการณ์ที่ไม่คาดฝันเหล่านี้ ใช่ว่าจะเป็นเหตุการณ์ที่ไม่อาจหลีกเลี่ยง หรือรับมือไม่ได้เลยซะทีเดียว เมื่อเรารู้แล้วว่า บางครั้ง การเดินทางไปเที่ยวต่างประเทศ อาจเกิดเหตุการณ์เหล่านี้ได้ การทำประกันเดินทางไว้ล่วงหน้า ก็จะช่วยบรรเทา หรือลดค่าใช้จ่ายที่ต้องจ่ายจริงได้ โดยประกันการเดินทางของ Allianz Travel เอง ดูแลและมอบความคุ้มครองที่ครอบคลุมตั้งแต่สัมภาระล่าช้า เครื่องบินดีเลย์ อุบัติเหตุและเจ็บป่วยระหว่างเดินทาง ไปจนถึงเอกสารส่วนตัวและเงินพกติดตัวหาย เพราะฉะนั้น ถ้าทำประกันที่ Allianz Travel แล้ว มั่นใจ หายห่วง กับเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝันได้เลย

เรามุ่งมั่นที่จะช่วยเหลือและดูแลคุณ

อลิอันซ์ทราเวลเป็นผู้นำระดับโลกด้านประกันภัยการเดินทางและบริการช่วยเหลือทั่วไป เรามีแผนประกันภัยที่หลากหลายให้เลือก ครอบคลุมตั้งแต่แผนรายเที่ยว แผนรายปี แผนครอบครัว ไปจนถึงแผนเดินทางศึกษาต่อต่างประเทศ เราทุ่มเทที่จะให้บริการช่วยเหลือและปกป้องคุณทุกที่ ทุกเวลาเท่าที่เราจะทำได้ เราไม่ได้จำกัดอยู่แค่ประกันภัยและการให้ความช่วยเหลือ แต่เรามุ่งเน้นไปที่สิ่งที่มากกว่านั้น และทุกบริการของเราก็เพื่อลูกค้าคนสำคัญของเรา

เที่ยวไหนก็อุ่นใจ ALLIANZ เคียงข้างคุณ

เที่ยวไหนก็อุ่นใจ ประกันการเดินทาง ALLIANZ เคียงข้างคุณ

ทุกครั้งที่เราวางแผนเดินทางท่องเที่ยวไม่ว่าจะเพื่อพักผ่อน หรือเพื่อให้รางวัลชีวิตกับตัวเอง เราต้องไม่ลืมวางแผนการเดินทางรอบคอบ นอกจากการจองโรงแรมดีๆ และที่กินอร่อยๆ การซื้อประกันการเดินทางก็ควรเป็นหนึ่งในแผนสำคัญก่อนออกเดินทางที่ห้ามลืมด้วยเช่นกัน การซื้อประกันการเดินทางนั้นเป็นการลงทุนเพื่อรองรับเหตุการณ์ไม่คาดฝันที่อาจเกิดขึ้นได้ระหว่างทริปการเดินทาง ไม่ว่าจะเป็นปัญหาคลาสสิคที่เจอกันประจำอย่างกระเป๋าเดินทางหาย และที่สำคัญคือการเจ็บป่วยหรือเกิดอุบัติเหตุขึ้นในต่างแดน บางครั้งยังต้องมาปวดหัวเรื่องการสื่อสารอีก ที่ร้ายสุดกับค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาล ที่หลายๆ ประเทศมีอัตราค่ารักษาพยาบาลที่สูงมาก บางประเทศนั้นอาจสามารถตีเป็นเงินได้อีกทริปเลยทีเดียว แต่ประกันการเดินทางก็มีหลากหลายให้ตาลายเหลือเกิน ดังนั้น Allianz Travel ขอนำเสนอกลุ่มแผนประกันการเดินทางที่ได้รับความนิยมมากที่สุด

แผนประกันการเดินทางกลุ่ม TRAVEL SENSE

ประกอบด้วย 6 แผนย่อยกับความคุ้มครองที่แตกต่างกัน เพื่อให้เหมาะสมกับวัตถุประสงค์ในการเดินทางที่แตกต่างกัน รวมไปถึงการให้ความคุ้มครองในรูปแบบ รายบุคคล และแบบครอบครัว ในแผนย่อย Common Sense และ Good Sense ประกอบกับช่วงระยะเวลาการเดินทางที่เลือกได้เพื่อให้เหมาะสมกับระยะเวลาเดินทางจริง ตั้งแต่ 1 วันจนถึงสูงสุด 180 วัน สำหรับแผนรายเที่ยว และแผนรายปี Perfect Sense สำหรับนักท่องเที่ยวตัวยง ที่มอบความยืดหยุ่นให้เดินทางได้ตามที่คุณต้องการ ไม่จำกัดจำนวนครั้ง ภายใน 1 ปี โดยมอบความคุ้มครองรวมถึงสิทธิประโยชน์ครอบคลุมการช่วยเหลือฉุกเฉิน และความล่าช้าของเที่ยวบิน

OVERSEAS STUDENT CARE PLAN

แผนประกันการเดินทางที่เหมาะสำหรับนักเรียน นิสิตนักศึกษา ที่เรียนต่อต่างประเทศ โดยมอบความคุ้มครองที่เหมาะสมกับการเรียนรู้และการใช้ชีวิต ครอบคลุมค่าใช้จ่ายทั้งอุบัติเหตุและสุขภาพเข้าได้ทุกโรงพยาบาล และเครือข่ายช่วยเหลือฉุกเฉินที่ให้ความช่วยเหลือได้ทันท่วงที ทุกที่ ทุกเวลา พร้อมด้วยทีมแพทย์และพยาบาลที่สามารถสื่อสารได้หลายภาษา ที่พร้อมเป็นสื่อกลาง เพื่อความอุ่นใจของนักเรียนและผู้ปกครองในยามห่างไกล นอกจากนี้ยังมีผลประโยชน์อื่นๆ ที่เพิ่มเติมให้เพื่อความอุ่นใจที่มากขึ้นเช่น การสูญหายหรือความเสียหายของกระเป๋าเดินทางหรือทรัพย์สินส่วนตัวในระหว่างการใช้บริการของบริษัทขนส่งสาธารณะ

WORK AND HOLIDAY PLAN

แผนประกันการเดินทางที่เหมาะสำหรับผู้ที่ทำงานในต่างแดน ให้ความคุ้มครองครอบคลุมถึงเอกสารสำคัญต่างๆ นอกเหนือจากความคุ้มครองด้านชีวิตและความช่วยเหลือฉุกเฉิน นอกจากนี้ยังมอบความคุ้มครองเพิ่มเติมด้านเงินชดเชยระหว่างรักษาตัวในโรงพยาบาลต่างประเทศในฐานะผู้ป่วยใน เพื่อให้คุณคลายความกังวลใจเรื่องรายได้ หากเกิดความเจ็บป่วยและต้องพักรักษาตัวจนไม่สามารถปฏิบัติงานได้

SUGOI JAPAN PLAN

แผนประกันการเดินทางเพื่อการท่องเที่ยวประเทศญี่ปุ่นโดยเฉพาะ โดยแบ่งเป็น 3 รูปแบบสำหรับรายบุคคล ได้แก่แผน Sakura, Ume และ Yuri และพิเศษสำหรับแผน Ume ที่สามารถเลือกซื้อเพื่อความคุ้มครองสำหรับการเดินทางเป็นครอบครัวหรือหมู่คณะ ซึ่งมอบความคุ้มครองวงเงินสูง รวมถึงสิทธิประโยชน์ครอบคลุมการช่วยเหลือฉุกเฉิน และความล่าช้าของเที่ยวบิน และนอกจากนี้ยังเพิ่มสิทธิประโยชน์ด้วยโครงการคุ้มครองพิเศษสำหรับบัตรโดยสารรถไฟประเทศญี่ปุ่น ที่ให้ความคุ้มครองบัตรโดยสารรถไฟในประเทศญี่ปุ่นในกรณีสูญหาย ไปจนถึงเอกสารสำคัญต่างๆ

นอกจากแผนประกันการเดินทางกลุ่มหลักที่กล่าวมานั้น Allianz Travel ยังมีแผนประกันอื่นๆที่สามารถตอบสนองความต้องการและรูปแบบการเดินทางที่หลากหลายวัตถุประสงค์ ดังนั้นแล้ว ไม่ว่าจะเป็นการท่องเที่ยว หรือการเดินทางรูปแบบไหน คุณก็อุ่นใจได้เสมอเมื่อมีประกันเดินทางจาก Allianz Travel

เรามุ่งมั่นที่จะช่วยเหลือและดูแลคุณ

อลิอันซ์ทราเวลเป็นผู้นำระดับโลกด้านประกันภัยการเดินทางและบริการช่วยเหลือทั่วไป เรามีแผนประกันภัยที่หลากหลายให้เลือก ครอบคลุมตั้งแต่แผนรายเที่ยว แผนรายปี แผนครอบครัว ไปจนถึงแผนเดินทางศึกษาต่อต่างประเทศ เราทุ่มเทที่จะให้บริการช่วยเหลือและปกป้องคุณทุกที่ ทุกเวลาเท่าที่เราจะทำได้ เราไม่ได้จำกัดอยู่แค่ประกันภัยและการให้ความช่วยเหลือ แต่เรามุ่งเน้นไปที่สิ่งที่มากกว่านั้น และทุกบริการของเราก็เพื่อลูกค้าคนสำคัญของเรา