ภูเขาไฟฟูจิ เป็นภูเขาที่สูงที่สุดและมีชื่อเสียงที่สุดในญี่ปุ่น เป็นสัญลักษณ์ของความงาม ความแข็งแกร่ง และความสงบมายาวนาน ยอดเขาศักดิ์สิทธิ์แห่งนี้มีความสูง 3,776 เมตร และได้สร้างแรงบันดาลใจให้กับศิลปิน กวี และนักเดินทางมากมาย ภูเขาไฟฟูจิก็เป็นฉากหลังที่สวยงามตระการตาสำหรับช่างภาพและผู้ที่รักธรรมชาติเช่นเดียวกัน
หากคุณกำลังวางแผนเดินทางไปญี่ปุ่นและต้องการถ่ายภาพภูเขาฟูจิเพื่อเก็บไว้เป็นความทรงจำที่น่าประทับใจไม่รู้ลืม การได้ไปที่จุดชมวิวภูเขาไฟฟูจิที่ดีที่สุดจึงเป็นสิ่งสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นบริเวณทะเลสาบที่เห็นเงาสะท้อนยอดเขาที่ปกคลุมด้วยหิมะของภูเขาไฟฟูจิ หรือด้านในหมู่บ้านแบบญี่ปุ่นดั้งเดิม Allianz Travel พาคุณไปชม 14 จุดชมวิวภูเขาไฟฟูจิในโตเกียวและบริเวณใกล้เคียง โดยแต่ละจุดก็มีมุมมองที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว ไม่ว่าคุณจะเป็นช่างภาพมืออาชีพ หรือแค่ชอบถ่ายภาพสวยๆ สถานที่เหล่านี้จะช่วยให้คุณถ่ายภาพภูเขาไฟฟูจิออกมาได้อย่างสวยงาม
ข้อควรรู้ก่อนวางแผนไปชม ภูเขาไฟฟูจิ
ภูเขาไฟฟูจิซ่อนตัวจากโตเกียวในฤดูร้อน
ถ้าคุณมีจุดหมายไปทางอยู่ที่โตเกียวในช่วงปลายเดือนพฤษภาคมถึงกลางเดือนกันยายน คุณอาจจะไม่ได้เห็นภูเขาไฟฟูจิ เนื่องจากในช่วงเวลานี้จะมีความชื้นสูง และมีหมอกเยอะ ทำให้การชมภูเขาไฟฟูจิจากโตเกียวเป็นเรื่องที่ค่อนข้างยาก คุณอาจแทบไม่เห็นเงาของภูเขาไฟฟูจิท่ามกลางหมอกเลย ยกเว้นในบางโอกาส อย่างเช่น หลังฝนตกหนักในฤดูร้อน เป็นต้น แต่อย่าทำให้เรื่องเหล่านี้ทำให้คุณผิดหวังจนล้มเลิกแผนการท่องเที่ยวญี่ปุ่น เพราะคุณสามารถเดินทางไปยังสถานที่อื่นๆ ที่อยู่ใกล้เคียง และที่สำคัญ คุณจะไม่ได้เห็นภูเขาไฟฟูจิไม่ว่าจะเป็นฤดูใดและไม่ว่าคุณจะอยู่ที่ไหนก็ตาม เมื่ออากาศมีฝนตกและมีเมฆมาก
หิมะที่ปกคลุมภูเขาไฟฟูจิจะหายไปในฤดูร้อน
ถ้าคุณไปที่ยวญี่ปุ่นในช่วงเดือนกรกฎาคมถึงกันยายน คุณอาจจะผิดหวังกับภาพภูเขาไฟฟูจิที่คุณได้เห็น เนื่องจากภูเขาไฟฟูจิจะไม่มีหิมะปกคลุม ภาพภูเขาไฟฟูจิที่ปกคลุมไปด้วยหิมะสวยงามที่เคยเห็นตามภาพโปสเตอร์ จะเปลี่ยเป็นสีน้ำตาลและดูแห้งแล้ง เนื่องจากหิมะสีขาวระยิบระยับส่วนใหญ่จะละลายในฤดูร้อน ยกเว้นบริเวณยอดเขาที่ยีงมีหิมะหลงเหลืออยู่บ้าง แต่ก็น้อยมาก จนคุณไม่สามารถมองเห็นได้ชัดเจนแม้จะอยู่ใกล้ๆ ก็ตาม
สถานที่ชมวิว ภูเขาไฟฟูจิ ในโตเกียว
1. อาคารรัฐบาลกรุงโตเกียว (ชินจูกุ)
หนึ่งในจุดชมภูเขาไฟฟูจิที่ดีที่สุดคืออาคารรัฐบาลกรุงโตเกียว (Tokyo Metropolitan Government Building) หรือเรียกย่อๆ ว่าโทโช (Tocho) อยู่ทางด้านตะวันตกของชินจูกุ เหตุผลที่หลายคนแนะนำว่าที่นี่เป็นสถานที่ชมภูเขาไฟฟูจิที่ดีที่สุดจากโตเกียวก็เพราะไม่เพียงแต่ได้ชมวิวภูเขาไฟฟูจิที่สวยงาม แต่ยังเป็นเพราะเข้าชมได้ฟรีอีกด้วย
ด้านบนของอาคารหลักของโทโชแยกออกเป็น 2 ทาวเวอร์ (ทาวเวอร์เหนือและทาวเวอร์ใต้) ซึ่งแยกกันทั้งแต่ชั้นที่ 33 ทั้งสองทาวเวอร์มี 48 ชั้น และชั้นชมวิวอยู่ที่ชั้นที่ 45 ที่ความสูง 202 เมตร แต่ทาวเวอร์เหนือปิดให้ขึ้นไปชมวิวตั้งแต่เดือนเมษายน 2023 ควรตรวจสอบวันทำการก่อนไป เพราะบางวันชั้นชมวิวปิดให้บริการเนื่องจากมีงานพิเศษ และทางอาคารโทโชขอให้ไม่ใช้ขาตั้งกล้องหรืออุปกรณ์ถ่ายภาพ
การขึ้นไปที่ชั้นชมวิว คุณต้องไปขึ้นลิฟต์สำหรับไปที่ชั้นชมวิวโดยเฉพาะ ซึ่งอยู่ที่ชั้น 1 ของอาคารหลัก หลังออกจากลิฟต์แล้ว ให้เดินไปทางทิศตะวันตก ซึ่งเป็นเป็นทิศที่คุณจะมองเห็นภูเขาไฟฟูจิจากระยะไกลได้ คุณควรไปช่วงเช้าในวันที่อากาศแจ่มใส เพราะจะทำให้คุณมีโอกาสได้เห็นวิวภูเขาไฟฟูจิได้ดีที่สุด
นอกจากชมวิวภูเขาไฟฟูจิแล้ว คุณจะได้เห็นทิวทัศน์ของเมืองโตเกียวจากที่กว้างใหญ่ไพศาลจากมุมสูง ตัวอย่างเช่น คุณจะมองเห็นโตเกียวสกายทรีทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือ และโตเกียวทาวเวอร์ทางทิศตะวันออกเฉียงใต้
วิธีการเดินทาง:
อาคารรัฐบาลกรุงโตเกียวอยู่ห่างจากสถานีชินจูกุโดยการเดินเท้า 10 นาที หรือเดินจากสถานีนิชิชินจูกุ (Nishi Shinjuku) บนสายมารุโนะอุจิ (Marunouchi Line) โดยใช้เวลาประมาณ 12 นาที
ที่อยู่: 2 Chome-8-1 Nishishinjuku, Shinjuku City, Tokyo
โทร: 0353207890
เวลาทำการ:
9.30-22.00 น. (ปิดวันอังคารที่ 1 และ 3 ของเดือน และช่วงวันหยุดปีใหม่ 29 ธันวาคมถึง 3 มกราคม)
ค่าเข้าชม: ฟรี
2. อาคารแครอท (Carrot Tower) ย่านซังเก็นจายะ
อาคารแครอท (Carrot Tower) ตั้งอยู่ในย่านซังเก็นจายะ (Sangenjaya) ที่อยู่ไม่ไกลจากย่านชิบูย่ามากนัก หากเดินทางด้วยรถไฟ แต่ก็ไม่ใช่จุดหมายปลายทางยอดนิยมสำหรับนักท่องเที่ยว อย่างไรก็ตามอาคารแครอทถือเป็นสถานที่แนะนำเนื่องจากสามารถขึ้นไปที่จุดชมวิว Sky Carrot Observation Deck ชั้น 26 ได้ฟรี แม้ว่าจะสูงแค่ 120 เมตร แต่ก็ไม่มีอาคารสูงอื่น ๆ ขวางทางชมวิว ซึ่งคุณจะได้เพลิดเพลินกับทิวทัศน์เส้นขอบฟ้าของโตเกียว โดยเฉพาะย่านชิบูย่า และรวมถึงภูเขาไฟฟูจิซึ่งเป็นจุดดึงดูดหลักด้วย
วิธีการเดินทาง:
การเดินทางไปยังซังเก็นจายะนั้นค่อนข้างง่ายโดยขึ้นรถบัสหรือรถไฟจากชิบูย่าสายเดนเอ็นโตชิ (Denentoshi Line) รถบัสใช้เวลาประมาณ 8 นาที ขึ้นอยู่กับสภาพการจราจร และรถไฟใช้เวลาประมาณ 4 นาที อาคารแครอททาวเวอร์อยู่ห่างจากสถานีซังเก็นจายะโดยการเดินเท้า 3 นาที ทั้งนี้ ควรตรวจสอบให้แน่ใจก่อนว่าอาคารไม่ได้ปิดให้บริการ เนื่องจากอยู่ระหว่างการตรวจสอบหรือซ่อมบำรุง
ที่อยู่: 4-1-1 Chome, Taishido, Setagaya City, Tokyo
เวลาทำการ: 9.30-23.00 น. (ปิดวันพุธที่ 2 ของเดือน และช่วงวันหยุดปีใหม่)
ค่าเข้าชม: ฟรี
3. ชิบูย่าสกาย ย่านชิบูย่า
สถานที่ท่องเที่ยวแห่งใหม่ล่าสุดของย่านชิบูย่า กรุงโตเกียว คือชิบูย่าสกาย (Shibuya Sky) จุดชมวิวกลางแจ้งบนดาดฟ้าแบบเปิดโล่ง 360 องศา ที่มีความสูง 229 เมตร ตั้งอยู่บนชั้น 47 (ชั้นบนสุด) ของอาคารชิบุย่าสครัมเบิลสแควร์ (Shibuya Scramble Square) ที่นี่คือจุดชมวิวบนดาดฟ้ากลางแจ้งที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่นที่ทำให้คุณต้องร้องว้าว คุณจะได้ชมทิวทัศน์อันสวยงามตระการตาเหนือของกรุงโตเกียวแบบพาโนรามา นอกจากมองลงไปเห็นทางข้ามม้าลายยักษ์ห้าแยกชิบูย่า พระราชวังอิมพีเรียลที่ล้อมรอบด้วยป่าอันอุดมสมบูรณ์ โตเกียวสกายทรี และในวันที่อากาศแจ่มใส ที่นี่เป็นสถานที่ที่ยอดเยี่ยมในการชมทิวทัศน์และจุดถ่ายรูปภูเขาไฟฟูจิที่ดีที่สุดแห่งหนึ่งในโตเกียวอีกด้วย
ชิบุยะสกายยามค่ำคืนจะมีการแสดงแสงไฟ “CROSSING LIGHT” ทุก 30 นาทีตั้งแต่เวลา 19:00 น. ของทุกวัน และการแสดงจะแตกต่างกันไปตามฤดูกาล จุดถ่ายรูปยอดนิยมคือบันไดเลื่อนกระจกที่ขึ้นไปยังดาดฟ้า และมุมที่เรียกว่าสกายเอดจ์ก็เป็นจุดที่เหมาะสำหรับถ่ายรูปลงอินสตาแกรมเช่นกัน นอกจากนี้ สถานที่แห่งนี้ยังมีบริการถ่ายรูปโดยมืออาชีพอีกด้วย
ช่วงเวลาที่เหมาะที่จะไปเยือนชิบูย่าสกายน่าจะเป็นช่วง 30 นาทีก่อนพระอาทิตย์ตก แต่เนื่องจากเป็นช่วงเวลายอดนิยม ดังนั้นอย่าลืมเผื่อเวลาในการต่อคิวไว้ด้วย แนะนำให้จองตั๋วไปล่วงหน้า พระอาทิตย์ตกดินเร็วที่สุดในโตเกียวในช่วงต้นเดือนธันวาคม เวลาประมาณ 16:30 น. และตกดินช้าที่สุดในช่วงปลายเดือนมิถุนายนถึงต้นเดือนกรกฎาคม เวลาประมาณ 19:00 น.
วิธีการเดินทาง:
นั่งรถไฟลงสถานีชิบูย่า เดินอีก 1 นาที ตั้งอยู่ในตึก Shibuya Scramble Square
ที่อยู่: 2-24-12 Shibuya, Shibuya , Tokyo 150-0002
เวลาทำการ: 10.00-22.30 น. ต้องเข้าก่อน 21.20 น. (ปิดวันปีใหม่ และอาจมีเปลี่ยนแปลงเวลาได้)
ค่าเข้าชม:
ผู้ใหญ่ 2,500 เยน เด็กมัธยม 2,000 เยน
เด็กประถม 1,200 เยน (ซื้อหน้าเคาน์เตอร์ในวันเข้าชม)
เด็กอายุ 3-5 ขวบ 700 เยน (ซื้อหน้าเคาน์เตอร์ในวันเข้าชม)
เด็กอายุต่ำว่า 3 ขวบ ฟรี
เว็บไซต์: https://www.shibuya-scramble-square.com
4. อาคารซันไชน์ 60 ย่านอิเคบุคุโระ
จุดชมวิวซันไชน์ 60 (Sunshine 60 Observatory Tembo Park) อยู่บนชั้น 60 ซึ่งเป็นชั้นสูงสุดของอาคารซั้นไชน์ 60 (Sunshine 60) อยู่สูง 251 เมตร เหนือตัวเมือง ถูกออกแบบให้เป็นสวนธารณะในร่มที่ล้อมรอบไปด้วยท้องฟ้า ที่คุณสามารถเข้าเยี่ยมชมได้ตลอดทั้งปี และทิวทัศน์จะเปลี่ยนแปลงไปตามช่วงเวลา ฤดูกาล และสภาพอากาศ พื้นที่หลักคือส่วนที่เรียกว่า เท็นโบ-โนะ-โอกะ (Tembo no Oka) ซึ่งเป็นภาษาญี่ปุ่นแปลว่าเนินชมวิว คุณสามารถปูเสื่อปิกนิกบนพื้นหญ้าเทียม หรือนั่งบนโซฟา เก้าอี้ หรือม้านั่ง และชมวิวที่อยู่ภายนอกหน้าต่างโดยรอบ ซึ่งคุณสามารถมองเห็นเมืองด้านล่างและภูเขาไฟฟูจิในระยะไกลได้ในวันที่อากาศแจ่มใส
อาคารซันไชน์ 60 อยู่ห่างจากสถานีอิเคะบุคุโระ (Ikebukuro) โดยระยะเดิน 8 นาที ที่ทางออกจากสถานีใต้ดินจะมีป้ายบอกทางไปยังอาคารซันไชน์ 60 ทางออก 35 เป็นทางออกที่ใกล้ที่สุด หากคุณขึ้นสายยูราคุโจ (Yurakucho Line) ให้ลงที่สถานีฮิกาชิ-อิเคะบุคุโระ (Higashi Ikebukuro) จากนั้นเดินต่อประมาณ 3 นาทีก็จะถึงซันไชน์ซิตี้
วิธีการเดินทาง:
สถานี Higashi-Ikebukuro (สาย Yurakucho) ทางออก 6 หรือ 7; สถานี Ikebukuro ทางออกทิศตะวันออก
ที่อยู่: Sunshine 60 Bldg 60F, 3-1 Higashi-Ikebukuro, Toshima-ku, Tokyo
เวลาทำการ: 11.00-21.00 น. (เข้าก่อน 20.00 น.)
ค่าเข้าชม:
วันจันทร์-ศุกร์ ผู้ใหญ่ 700 เยน นักเรียนมัธยมต้นและประถมศึกษา 500 เยน
วันเสาร์-อาทิตย์ และวันหยุด ผู้ใหญ่ 900 เยน นักเรียนมัธยมต้นและประถมศึกษา 600 เยน
5. อาคารโมริทาวเวอร์ ย่านรปปงหงิ
อีกหนึ่งจุดชมวิวยอดนิยมของกรุงโตเกียว คือจุดชมวิวบนอาคารโมริทาวเวอร์ (Mori Tower) อาคารสำนักงานรูปทรงทันสมัยในศูนย์การค้ารปปงหงิฮิลล์ (Roppongi Hills) ที่นี่มีจุดชมวิว 2 จุดที่คุณสามารถมองเห็นภูเขาไฟฟูจิได้ คือบริเวณ Tokyo City View ชั้น 52 เป็นพื้นที่ชมวิวในร่มสูง 250 เมตร แต่หากต้องการชมวิวที่สูงกว่านั้น คุณสามารถขึ้นไปบน Sky Deck ซึ่งเป็นจุดชมวิวกลางแจ้งบนชั้นดาดฟ้าที่สูง 270 เมตร เนื่องจากบริเวณนี้เป็นลานจอดเฮลิคอปเตอร์ ทำให้สามารถมองเห็นเมืองและภูเขาไฟฟูจิแบบเปิดกว้าง 360 องศาในวันที่อากาศแจ่มใส
หลังจากชมวิวแล้ว คุณอาจจะแวะชมพิพิธภัณฑ์ศิลปะโมริ (Mori Art Museum) ที่ชั้น 53 (ซื้อตั๋วเข้าชมเพิ่มเติม) ซึ่งเป็นศูนย์กลางของศิลปะร่วมสมัยของศิลปินต่างประเทศ รวมถึง ภาพวาด การออกแบบและสถาปัตยกรรม นิทรรศการภาพถ่าย เป็นต้น
วิธีการเดินทาง:
- Tokyo Metro สาย Hibiya: สถานี Roppongi ทางออกที่ 1C (0 นาที)
- Toei Oedo Line สถานี Roppongi: ทางออกที่ 3 (4 นาที)
- Toei Oedo Line สถานี Azabu-juban: ทางออกที่ 7 (4 นาที)
- Tokyo Metro Namboku Line สถานี Azabu-juban: ทางออกที่ 4 (7 นาที)
- Tokyo Metro Chiyoda Line สถานี Nogizaka: ทางออกที่ 5 (8 นาที)
ที่อยู่: 6-10-1, Roppongi, Minato-ku, Tokyo
เวลาทำการ:
Tokyo City View ชั้น 52: 10.00-22.00 น. (เข้าก่อน 21.30 น.)
Sky Deck: 11.00-20.00 น. (เข้าก่อน 19.30 น.)
วันและเวลาทำการอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้
ค่าเข้าชม:
วันจันทร์-ศุกร์ ผู้ใหญ่ 1,800 เยน นักเรียน 1,300 เยน เด็ก 700 เยน ผู้สูงอายุ 1,500 เยน
วันเสาร์-อาทิตย์ และวันหยุด ผู้ใหญ่ 2,000 เยน นักเรียน 1,400 เยน เด็ก 800 เยน ผู้สูงอายุ 1,700 เยน
เว็บไซต์: https://tcv.roppongihills.com/en/
6. โตเกียวทาวเวอร์ ย่านมินาโตะ
โตเกียวทาวเวอร์มีความสูง 333 เมตร สร้างเสร็จในปี 1958 นั้น เป็นสัญลักษณ์ของการฟื้นฟูโตเกียวหลังสงคราม ในยุคที่สร้างเสร็จใหม่ๆ ถือเป็นอาคารที่สูงที่สุดในโลกโดยสูงกว่าหอไอเฟลถึง 13 เมตร ปัจจุบัน ถึงแม้ว่าความสูงจะแพ้โตเกียวสกายทรี แต่ที่นี่ก็ยังคงเป็นสถานที่ท่องเที่ยวและจุดถ่ายรูปยอดนิยมสำหรับนักท่องเที่ยว โตเกียวทาวเวอร์แบ่งออกเป็น 3 ส่วน ส่วนแรกคือ Foot Town ศูนย์การค้า 4 ชั้นที่ตั้งอยู่ด้านล่างของหอคอย เป็นที่รวมแหล่งช้อปปิ้ง ร้านอาหาร และความบันเทิงต่างๆ ให้นักท่องเที่ยวได้เพลิดเพลิน ส่วนที่ 2 คือ Main Deck เป็นจุดชมวิวสูง 150 เมตร ที่คุณสามารถชมความงดงามของทิวทัศน์รอบเมืองโตเกียว และมองลงไปเบื้องล่างผ่านพื้นกระจก Skywalk Windows และส่วนบนสุด Top deck จุดชมวิวพิเศษที่ความสูง 250 เมตร เพื่อชมทิวทัศน์แบบพาโนรามา และหากสภาพอากาศแจ่มใส คุณจะได้เห็นภูเขาไฟฟูจิได้จากจุดชมวิวทั้ง 2 ชั้นเลยค่ะ
วิธีการเดินทาง:
- สถานี Onarimon (สาย Mita) สถานี Akabanebashi (สาย Oedo) สถานี Kamiyacho (สาย Hibiya) และเดินต่อประมาณ 5-10 นาที
- สถานี Daimon (สาย Asakusa) เดินต่อประมาณ 10 นาที
- สถานี JR Hamamatsucho เดินต่อประมาณ 15 นาที
ที่อยู่: 4 Chome-2-8 Shibakoen, Minato City, Tokyo
เวลาทำการ:
Main Deck 9.00-23.00 น. (เข้าก่อน 22.30 น.)
Top Deck 9.00-22.45 น. (ทัวร์รอบสุดท้าย 22.00-22.15 น.)
เว็บไซต์: https://en.tokyotower.co.jp/
ค่าเข้าชม:
ประเภท | ผู้ใหญ่ | เด็กมัธยมปลาย | เด็กประถมและมัธยมต้น | เด็ก (อายุ 4 ขวบขึ้นไป) |
---|---|---|---|---|
Main Desk (150 ม.) | 1,500 เยน | 1,200 เยน | 900 เยน | 600 เยน |
Top Deck Tour (150 ม. และ 250 ม.) | 3,300 เยน (เว็บ) 3,500 เยน (เคาน์เตอร์) | 3,100 เยน (เว็บ) 3,300 เยน (เคาน์เตอร์) | 2,100 เยน (เว็บ) 2,300 เยน (เคาน์เตอร์) | 1,500 เยน (เว็บ) 1,700 เยน (เคาน์เตอร์) |
Tokyo Diamond Tour (150 ม. และ 250 ม.) (ทัวร์พิเศษทุกชั่วโมงตั้งแต่ 12.00-18.00 น. ปิด 22.45 น.) | 7,000 เยน | 6,500 เยน | 4,700 เยน | 3,000 เยน |
7. โตเกียวสกายทรี ย่านสุมิดะ
โตเกียวสกายทรี (Tokyo Skytree) หอส่งสัญญาณโทรทัศน์ที่มีความสูง 634 เมตร เป็นหอคอยที่สูงที่สุดในญี่ปุ่น เปิดให้บริการในปี 2012 จากบนชั้นชมวิว คุณไม่เพียงแต่จะสามารถมองเห็นภูเขาไฟฟูจิได้ในวันที่อากาศแจ่มใสเท่านั้น แต่ยังสามารถมองเห็นภูมิภาคคันโตได้ทั้งหมดในทุกทิศทางอีกด้วย โตเกียวสกายทรีเปิดให้ขึ้นไปชมวิวได้อยู่ 2 ชั้น คือ Tembo Deck ที่ความสูง 350 เมตร ที่มีทั้งหน้าต่างชมวิว ร้านกาแฟ ร้านขายของที่ระลึก และร้านอาหาร และ Tembo Galleria ที่ความสูง 450 เมตร ซึ่งมีทางเดินวนที่คุณค่อยๆ เดินไปจนถึงความสูง 451.2 เมตร ซึ่งเป็นจุดสูงสุดในการชมวิว
วิธีการเดินทาง:
- สถานี Tokyo Skytree (สาย Tobu Skytree)
- สถานี Oshiage (สาย Keisei หรือ Tokyo Metro Hanzomon หรือ Toei Asakusa)
- สถานี Asakusa (สาย Tokyo Metro Ginza)
- นั่ง Skytree Shuttle จาก สถานี Tokyo ย่าน Ueno-Asakusa สนามบิน Haneda และ Tokyo Disney resort
ที่อยู่: 1-chōme-1-2 Oshiage, Sumida City, Tokyo
เวลาทำการ: 10.00-22.00 น. ต้องเข้าก่อน 21.00 น.
ค่าเข้าชม:
Tembo Deck: ซื้อล่วงหน้า 2,100 เยน / ซื้อหน้างาน 2,400 เยน
Tembo Deck + Tembo Galleria: ซื้อล่วงหน้า 3,100 เยน / ซื้อหน้างาน 3,500 เยน
เว็บไซต์: https://www.tokyo-skytree.jp/en/
สถานที่ชมภูเขาไฟฟูจินอกเมืองโตเกียว
8. ทะเลสาบคาวากูจิ จังหวัดยามานาชิ
ทะเลสาบคาวากูจิ (Lake Kawaguchi) เป็นหนึ่งในห้าทะเลสาบที่ล้อมรอบภูเขาไฟฟูจิ ที่สามารถชมความงดงามของภูเขาไฟฟูจิได้ตลอดทั้งปี ไฮไลท์ของการเที่ยวชมทะเลสาบคาวากูจิคือการชมภูเขาไฟฟูจิจากมุมต่างๆ ทั้งจากการนั่งกระเช้าลอยฟ้า หรือการนั่งเรือท่องเที่ยวในทะเลสาบ นอกจากชมทัศนียภาพอันตระการตาของภูเขาไฟฟูจิแล้ว คุณอาจเดินเล่นรอบทะเลสาบซึ่งมีร้านขายของที่ระลึก ร้านอาหารที่ให้บริการอาหารท้องถิ่น เช่น โฮโตะ (บะหมี่ถ้วยที่เสิร์ฟพร้อมเนื้อสัตว์และผัก เช่น สควอช ในน้ำซุปมิโซะ) นอกจากนี้ยังมีขนมหวานอีกหลายชนิด ชิงเงนโมจิเป็นเค้กข้าวชนิดหนึ่งที่นุ่มและเคี้ยวหนึบ โรยด้วยคินาโกะ (ผงถั่วเหลืองคั่ว) ที่ให้รสชาติเหมือนถั่ว และราดด้วยน้ำเชื่อมน้ำตาลทรายแดง ขนมหวานอีกชนิดที่ควรลองหากไปที่ทะเลสาบคาวากูจิคือไอศกรีมรสองุ่นที่มีรสชาติเหมือนองุ่นเคียวโฮอันเลื่องชื่อซึ่งเป็นสินค้าพิเศษอันทรงคุณค่าของภูมิภาคนี้
วิธีการเดินทาง:
การเดินทางไปกลับจากโตเกียวไปทะเลสาบคาวากูจิสะดวกและง่ายมาก โดยการนั่งรถบัสจากชินจูกุและชิบูย่า ซึ่งใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง 45 นาที หรือนักท่องเที่ยวที่ถือบัตร Japan Rail Pass สามารถนั่งรถไฟไปที่นั่นได้โดยไม่ต้องเสียค่าเดินทางเพิ่มเติม และหากคุณต้องการพักค้างคืน ที่นี่มีที่พักหลายแห่งที่มีบ่อน้ำพุร้อนกลางแจ้ง ซึ่งคุณสามารถมองเห็นภูเขาไฟฟูจิได้ขณะแช่ตัวในบ่อน้ำพุร้อน และคุณสามารถตื่นนอนในช่วงเช้าเพื่อออกไปถ่ายภาพพระอาทิตย์ขึ้นสีชมพูของทั้งภูเขาและทะเลสาบได้
9. สวนสาธารณะอาราคุระยามะเซ็นเก็น จังหวัดยามานาชิ
คุณสามารถไปเที่ยวสวนสาธารณะอาราคุระยามะเซ็นเก็น (Arakurayama Sengen Park) ได้ตลอดทั้งปี คุณจะได้ชมภูเขาไฟฟูจิสีขาวโพลนพร้อมต้นไม้แผ่กิ่งก้านไร้ใบ โดยมีหิมะปกคลุมโดยรอบในช่วงฤดูหนาวในฤดูร้อน คุณสามารถเพลิดเพลินกับทัศนียภาพของภูเขาไฟฟูจิท่ามกลางต้นไม้เขียวขจีได้ในฤดูร้อน และชมภูเขาไฟฟูจิต้ดกับใบไม้สีแดงสด ในฤดูใบไม้ร่วง และเมื่อดอกซากุระจากต้นนับร้อยต้นบานสะพรั่ง ก็ไม่มีอะไรจะสื่อถึงความเป็นญี่ปุ่นได้ดีไปกว่าทิวทัศน์ของภูเขาไฟฟูจิที่รายล้อมไปด้วยซากุระสีชมพูในฤดูใบไม้ผลิอีกแล้ว
การเข้าชมสวนสาธารณะอาราคุระยามะเซ็นเก็นไม่เสียค่าธรรมเนียม คุณสามารถเดินขึ้นบันได 400 ขั้นไปชมศาลเจ้าและเจดีย์ชูเรโตะ (Chureito Pagoda) ซึ่งวิวที่เห็นด้านบนคุ้มค่ากับการออกแรงเป็นอย่างมาก หากเดินทางไปกลับจากจากโตเกียว ควรเผื่อเวลาไว้ทั้งวัน หรือเพื่อไม่ให้เหนื่อยจนเกินไป คุณอาจพักค้างคืนที่โรงแรมแถมทะเลสาบคาวากูจิก็ได้
วิธีการเดินทาง:
จากสถานีทะเลสาบคาวากูจิ ให้ขึ้นรถไฟ Fujikyu Railway* ใช้เวลาประมาณ 15 นาทีไปยังสถานี Shimoyoshida ซึ่งเป็นทางเข้าสวนสาธารณะ อีกวิธีหนึ่งคือขึ้นรถไฟ JR Chuo Line ซึ่งเริ่มต้นจากสถานีโตเกียวไปยังสถานี Otsuki (สาย Chuo จะจอดระหว่างทางที่สถานีอื่นๆ เช่น Ochanomizu, Yotsuya และ Shinjuku) หลังจากนั้น เปลี่ยนไปขึ้นรถไฟ Fujikyu Railway* ไปยังสถานี Shimoyoshida จากสถานี คุณสามารถเดินไปยังศาลเจ้าและเจดีย์ชูเรโตะได้ ซึ่งใช้เวลาประมาณ 10-15 นาที
*คุณไม่สามารถใช้ JR Rail Pass เพื่อโดยสารรถไฟสาย Fujikyu ได้
10. เกาะเอโนชิมะ จังหวัดคานากาวะ
เกาะเอโนชิมะเป็นเกาะเล็กๆ ในพื้นที่ประมาณ 0.39 ตารางกิโลเมตร ที่เชื่อมต่อกับชายฝั่งทางแผนดินใหญ่ด้วยสะพานยาว 400 เมตร จากเกาะ คุณสามารถชมทิวทัศน์ที่สวยงาม ทั้งวิวทะเลและวิวภูเขาภูเขาไฟฟูจิอันงดงามจากชายหาด ฤดูกาลที่ดีที่สุดในการชมภูเขาไฟฟูจิจากเกาะเอโนะชิมะคือฤดูใบไม้ผลิ ฤดูใบไม้ร่วง และฤดูหนาว เกาะเอโนชิมะมีลักษณะเป็นภูเขา หากจะไปชมวิวในมุมสูงต้องเดินขึ้นบันไดไปตามเส้นทาง ผ่านร้านค้า ผ่านศาลเจ้าเอโนชิมะ จนไปถึงหอชมวิว Enoshima Sea Candle สูง 100 เมตร ที่อยู่ใน Enoshima Samuel Cocking Garden (เปิดบริการ 09.00-20.00 น. ค่าเข้าสวน 200 เยน ค่าขึ้นหอชมวิว 300 เยน
วิธีการเดินทาง:
เกาะเอโนชิมะอยู่ใกล้กับโตเกียว เหมาะกับการท่องเที่ยวแบบไปเช้าเย็นกลับ โดยนั่งรถไฟจากสถานีชินจูกุประมาณ 1 ชั่วโมง นอกจากนี้ยังมีรถไฟสายสั้นๆ (รถไฟฟ้าเอโนชิมะ หรือเรียกสั้นๆ ว่า “เอโนเด็น”) ที่เชื่อมต่อคามาคุระกับเอโนชิมะโดยตรงในเวลา 24 นาที ชายหาดอยู่ห่างจากสถานี Enoshima โดยใช้เวลาเดิน 15 นาที มีสถานีที่ใกล้กว่าคือสถานี Katase-Enoshima ซึ่งเป็นสถานีสุดท้ายของสาย Odakyū Enoshima ซึ่งสามารถเดินทางไปได้ตั้งแต่สถานีชินจูกุและเปลี่ยนรถไฟที่สถานี Fujisawa ใช้เวลาเดินจากสถานี Katase Enoshima ไปยังบริเวณชายหาดประมาณ 5 นาที
11. ฮาโกเน่ จังหวัดคานากาวะ
ฮาโกเน่ (Hokone) มีชื่อเสียงในด้านการชมภูเขาไฟฟูจิ แต่ก็เป็นแหล่งท่องเที่ยวตลอดทั้งปีที่มีทัศนียภาพที่สวยงาม บ่อน้ำพุร้อน พิพิธภัณฑ์ศิลปะ และสถานที่ทางประวัติศาสตร์ ที่นี่มีการชนส่งหลายรูปแบบให้คุณได้ชมวิวภูเขาไฟฟูจิจากมุมมองที่แตกต่างกัน เช่น การขึ้นกระเช้าลอยฟ้าซึ่งถือเป็นวิวที่ดีที่สุดในบริเวณนี้ เพราะคุณสามารถมองเห็นภูเขาไฟฟูจิได้ตั้งแต่เชิงเขาถึงยอดเขา การนั่งกระเช้าลอยฟ้าใช้เวลาเพียง 9 นาทีเท่านั้น คุณต้องเตรียมกล้องหรือสมาร์ทโฟนให้พร้อมเพื่อไม่ให้พลาดการถ่ายภาพภูเขาอันสวยงาม การนั่งรถไฟ หรือทัวร์รถบัสก็เป็นอีกหนึ่งทางเลือก และการนั่งเรือโจรสลัดชมวิวในทะเลสาบอาชิ (Ashinoko) ก็ได้ภาพภูเขาไฟฟูจิที่สะท้อนอยูบนผืนน้ำที่งดงาม
วิธีการเดินทาง:
เริ่มจากสถานีชินจูกุ เดินทางด้วยรถไฟ Odakyu ที่ให้บริการรถด่วน Romance Car ที่ออกแบบมาเป็นพิเศษและเป็นที่นิยมในหมู่นักเดินทางเนื่องจากมีที่นั่งที่สะดวกสบายและหน้าต่างแบบพาโนรามาที่ให้ทัศนียภาพอันงดงามของภูมิประเทศที่เปลี่ยนแปลงไป นอกจากนี้ การซื้อบัตร Hakone Free Pass ยังเป็นวิธีที่คุ้มค่ามาก เพราะครอบคลุมการเดินทางไม่จํากัดบนรถไฟฮาโกเน่โทซัง และรวมถึงการเข้าถึงกระเช้าลอยฟ้าฮาโกเน่และเคเบิลคาร์โทซัง หรือนั่งรถบัสฮาโกเน่โทซังในการเดินทางไปยังสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ
12. ฟูจิมิเทอเรซ จังหวัดชิซูโอกะ
หนึ่งในจุดชมวิวที่ดีที่สุดแห่งหนึ่งของญี่ปุ่นคือฟูจิมิเทอเรซ (Fujimi Terrace) ที่อยู่ในบริเวณ Iz Panorama Park บนยอดเขาคัตสึรางิ (Mt. Katsuragi) จังหวัดชิซูโอกะ ห่างจากภูเขาไฟฟูจิ 70 กฺโลเมตรโดยประมาณ คาบสมุทรอิซุ (Izu Peninsula) คำว่า “ฟูจิมิ” แปลว่า “วิวฟูจิ” หากต้องการขึ้นไปที่ฟูจิมิเทอเรซ คุณจะต้องขึ้นกระเช้าลอยฟ้าระยะทาง 1,800 เมตร เป็นเวลาประมาณ 7 นาที เพื่อขึ้นไปที่ระดับความสูง 452 เมตร เหนือน้ำทะเล จากจุดชมวิว คุณจะมองเห็นภูเขาไฟฟูจิและอ่าวซูการุ รวมถึงผืนป่าสีเขียว และเมืองที่อยู่ด้านล่างได้โดยไม่มีสิ่งกีดขวาง บนนี้ยังมีพื้นที่นั่งเล่น ทั้งเลานจ์ระดับพรีเมียม พื้นที่โซฟา เคาน์เตอร์กลางแจ้ง เป็นต้น
วิธีการเดินทาง:
คุณสามารถเดินทางโดยรถไฟชินคันเซ็น Tokaido หรือรถไฟสาย JR Tokaido จากสถานี Tokyo ไปยังสถานี Mishima จากนั้นเปลี่ยนไปขึ้นรถไฟสาย Izu Hakone Railway Sunzu Line และลงที่สถานี Izu-Nagaoka แล้วขึ้นรถบัส Izu Hakone Bus Nagaoka Onsen Loop หรือ Mito Sea Paradise ไปอีก 10 นาที เพื่อไปลงที่ศาลากลางเมืองอิซุโนะคุนิ (Izunokuni) แล้วเดินต่อไปอีก 1-2 นาที
13. สะพานแขวนมิชิมะสกายวอล์ค จังหวัดชิซูโอกะ
อีกหนึ่งสถานที่ที่คนตามหาภูเขาไฟฟูจิห้ามพลาดก็คือสะพานแขวนมิชิมะสกายวอล์ค (Mishima Skywalk) เป็นสะพานแขวนขนาดใหญ่ที่มีความยาวรวม 400 ม. มีระดับสูงจากพื้นดิน 70 เมตร ถือได้ว่าเป็นสะพานแขวนที่ยาวที่สุดในญี่ปุ่นเลยล่ะ ช่วยให้คุณมองเห็นภูเขาไฟฟูจิได้อย่างใกล้ชิดเลยล่ะ เวลาที่ดีที่สุดในการชมภูเขาไฟฟูจิจากที่นี่คือช่วงประมาณเก้าโมงเช้าหรือบ่ายแก่ๆ ในช่วงพระอาทิตย์ตก ภูเขาไฟฟูจิและทิวทัศน์ของอ่าวซูรูกะจะสวยงามเป็นพิเศษในช่วงเดือนตุลาคมถึงเดือนกุมภาพันธ์
วิธีการเดินทาง:
นั่งรถไฟชินคันเซ็นสายโทไกโดจากสถานีโตเกียวไปยังสถานีมิชิมะ (55 นาที) จากนั้นขึ้นรถบัสรับส่งสีส้มสายโทไก (เส้นทาง N) จากป้ายรถบัสหมายเลข 5 ซึ่งอยู่ที่ทางออกด้านใต้ของสถานีมิชิมะ จุดหมายปลายทางของรถบัสคือท่าเรือโมโตฮาโกเนะ แต่ให้ลงที่ป้ายรถบัส Mishima Skywalk ซึ่งใช้เวลาเดินทางประมาณ 20 นาที ทางเข้าอยู่ตรงหน้าป้ายรถบัสเลย
14. โกเทมบะ จังหวัดชิซูโอกะ
โกเทมบะเป็นเมืองเล็กๆ ในจังหวัดชิซูโอกะ ตั้งอยาบริเวณเชิงภูเขาไฟฟูจิ และมีชื่อเสียงในหมู่นักชอปปิ้ง เพราะมีห้างสรรพสินค้าเอาท์เล็ตขนาดใหญ่ในเมืองอย่างโกเทมบะพรีเมียมเอาท์เลต (Gotemba Premium Outlet) ที่มีตั้งแต่ร้านอาหาร คาเฟ่ และสินค้าแบรนด์ต่างๆ ทั้งแบรนด์ญี่ปุ่นและต่างประเทศ ให้คุณได้ชอปปิ้งกันอย่างเต็มอิ่ม หากคุณไม่มีเวลามาก คุณสามารถรวมการซื้อของได้อย่างเพลินๆ และชมภูเขาไฟฟูจิอย่างใกล้ชิดไว้ในที่เดียวกันโดยการไปที่โกเทมบะ
วิธีการเดินทาง:
วิธีที่ง่ายที่สุดคือการขึ้นรถบัสทางด่วนสายใดสายหนึ่งที่ออกจากสถานีต่างๆ ทั่วโตเกียว เช่น โตเกียว ชิบูย่า ชินจูกุ อิเคบุคุโระ และชินากาวะ รวมถึงจากโยโกฮาม่าด้วย วิธีที่เร็วที่สุดคือการขึ้นรถไฟ Romance Car สาย Odakyu จากสถานีชินจูกุไปยังสถานีโกเทมบะ ซึ่งใช้เวลาเดินทางประมาณ 95 และจากสถานี Gotemba จะมีรถบัสรับส่งฟรีไปยังโกเทมบะพรีเมียมเอาท์เลต คุณสามารถนั่งรถบัสจากโกเทบะไปยังภูเขาไฟฟูจิได้อีกด้วย
การไปเที่ยวญี่ปุ่นจะไม่สมบูรณ์หากไม่ได้เห็นภูเขาไฟฟูจิ ไม่ว่าจะมองจากหน้าต่างรถไฟชินคันเซน ตึกระฟ้าในโตเกียว หรือสถานที่ท่องเที่ยวธรรมชาติที่อยู่ใกล้เคียง แต่การที่จะให้แผนการเที่ยวของคุณเป็นประสบการณ์ที่น่าประทับใจ ไม่ต้องกังวลกับเรื่องร้ายๆ กับค่าใช้จ่ายที่อาจงอกเพิ่มระหว่างการเดินทาง สิ่งที่เราควรมีติดตัวไว้ก็คือ ประกันภัยการเดินทาง สิ่งสำคัญที่ช่วยให้คุณเดินทางได้อย่างอุ่นใจ ไร้กังวล เพียงจ่ายเงินไม่กี่บาท คุณก็จะได้รับความคุ้มครองมากมายที่ครอบคลุมเกือบทุกเหตุการณ์ไม่คาดฝันที่อาจเกิดขึ้นระหว่างเดินทาง* เช่น ความเจ็บป่วย การเกิดอุบัติเหตุ กระเป๋าหาย เที่ยวบินดีเลย์ เป็นต้น Allianz Travel ขอแนะนำ ประกันการเดินทางต่างประเทศ Dance Moves ที่จะช่วยให้ทริป การเดินทางของคุณราบรื่น ไม่มีสะดุด อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับความคุ้มครองได้ ที่นี่
*เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทกำหนด
ขอบคุณข้อมูลจาก : japantravel.navitime.com, gotokyo.org
เลือกแผนประกันเดินทางที่ใช่สำหรับคุณ ประกันการเดินทาง Dance Moves จาก Allianz Travel