ประกันเดินทางต่างประเทศเปรียบเทียบ แผนรายเที่ยว vs แผนรายปี

ประกันเดินทางต่างประเทศเปรียบเทียบ แผนรายเที่ยว vs แผนรายปี แผนไหนเหมาะกับเรา?

การเดินทางท่องโลกไปยังประเทศที่คุณไม่รู้จัก หรือไปประเทศที่คุณชื่นชอบวัฒนธรรม ธรรมชาติ หรือสิ่งที่แตกต่างจากประเทศไทย ถือเป็นการผจญภัยที่น่าตื่นเต้นและเต็มไปด้วยประสบการณ์อันน่าจดจำและความทรงจำอันล้ำค่า อย่างไรก็ตาม หลังจากที่คุณตัดสินใจซื้อตั๋วเครื่องบิน และจองที่พัก เพื่อเดินทางไปยังประเทศในฝันของคุณแล้ว สิ่งที่สำคัญที่จะช่วยให้คุณหมดกังวลว่าทริปวันหยุดของคุณจะไม่สะดุดระหว่างการเดินทางหากเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันใดๆ คุณจะมีตัวช่วยให้คุณได้อุ่นใจเสมอ วันนี้เราได้นำข้อมูล ประกันเดินทางต่างประเทศเปรียบเทียบ แผนรายเที่ยว vs แผนรายปี มาให้เพื่อนๆ เพื่อเป็นตัวช่วยในการตัดสินใจเลือกซื้อประกันการเดินทางที่เหมาะสมกับการเดินทางของเรามากที่สุด

และไม่ว่าคุณจะชอบเดินทางไปต่างประเทศแบบทริปยาว ๆ ปีละครั้ง หรือทริปสั้น ๆ ปีละ 2-3 ครั้ง Allianz Travel มีแผนประกันภัยการเดินทางสำหรับนักเดินทางทุกประเภท ทั้งแผนแบบรายเที่ยว (Single Plan) ที่ครอบคลุมการเดินทางเพียงทริปเดียว และแผนแบบรายปี (Annual Plan) ที่คุ้มครองการเดินทางหลายเที่ยวในระยะเวลา 365 วัน การที่จะเลือกซื้อแผนไหนดี ก็ขึ้นอยู่กับสไตล์การเดินทางและแผนท่องเที่ยววันหยุดของคุณค่ะ

ทำความรู้จักประกันภัยการเดินทางแผนรายเที่ยว

ประกันภัยการเดินทางแผนรายเที่ยวจะให้ความคุ้มครองทริปวันหยุดของคุณจากประเทศไทยไปยังประเทศจุดหมายปลายทาง และสิ้นสุดเมื่อคุณกลับถึงประเทศไทย คุณควรทำประกันภัยการเดินทางแบบรายเที่ยวทันที่ที่คุณจองทริปวันหยุดพักผ่อนของคุณ เพราะประกันภัยการเดินทางมีความคุ้มครองครอบคลุมการยกเลิกหรือเลื่อนการเดินทางภายใน 30 วันก่อนวันที่คุณจะเริ่มการเดินทาง หากเกิดเหตุการณ์ที่คุณไม่ได้คาดหมายมาก่อน หรืออยู่นอกเนือกจากการควบคุมของคุณ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติม ที่นี่

ถ้าคุณซื้อแผนรายเที่ยวสำหรับทริปเดียว ราคาจะถูกกว่าการซื้อแผนรายปี แต่ถ้าคุณมีแผนที่จะเดินทางสัก 2-3 ทริปในแต่ละปีเราแนะนำให้คุณซื้อแผนรายปีจะคุ้มกว่า

ทำไมต้องซื้อประกันภัยการเดินทางแผนรายปี

ประกันภัยการเดินทางแผนรายปีเปรียบเสมือนเพื่อนร่วมทางที่อยู่เคียงข้างคุณตลอดทั้งปี ช่วยปกป้องคุณจากเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดที่เกิดขึ้นระหว่างทริป เช่น การยกเลิกการเดินทาง เหตุฉุกเฉินทางการแพทย์ และสัมภาระสูญหาย เป็นต้น ไม่ว่าคุณจะเดินทางกี่ครั้งก็ตาม คุณจะได้รับความคุ้มครองทุกทริปในช่วงระยะเวลาหนึ่งปีนับจากวันที่กรมธรรม์เริ่มมีผลบังคับใช้ คุณเดินทางได้มากครั้งเท่าที่คุณต้องการ และแต่ละครั้งก็ได้สูงสุดถึงจำนวนวันที่กำหนดไว้ในแต่ละแผน อ่านรายละเอียดเพิ่มเติม ที่นี่

เปรียบเทียบความแตกต่างประกันภัยการเดินทางแผนรายเที่ยว และแผนรายปี

รายละเอียดแผนรายเที่ยวแผนรายปี
แผนและความคุ้มครองเลือกประเภทแผนและความคุ้มครองตามความต้องการของแต่ละทริปได้ เช่น เดินทางเฉพาะในเอเชีย หรือเดินทางทั่วโลก แผนและความคุ้มครองมาพร้อมกับชุดสิทธิประโยชน์มาตรฐานซึ่งอาจไม่เหมาะสมสำหรับทุกการเดินทาง
ระยะเวลาคุ้มครองตั้งแต่ 1-180 วัน (ขึ้นอยู่กับจำนวนวันเดินทางของแต่ละทริป)คุ้มครองต่อเนื่องสูงสุง 365 วัน
ค่าเบี้ยประกันเบี้ยประกันคิดตามจำนวนวันเดินทางเบี้ยประกันเป็นรายปี คุ้มค่าสำหรับผู้ที่เดินทางบ่อย
ความยุ่งยากต้องซื้อทุกครั้งก่อนเดินทางซื้อครั้งเดียว เดินทางกี่ครั้งก็ได้คุ้มครองตลอดทั้งปี
ความคุ้มค่าเหมาะกับผู้ที่เดินทางไม่กี่วัน หรือเดินทางแค่ปีละครั้งเหมาะกับผู้ที่เดินทางบ่อย
วีซ่าเชงเก้นใช้ประกอบการยื่นขอวีซ่าได้ สำหรับแผนที่คุ้มครองทั่วโลก*ใช้ประกอบการยื่นขอวีซ่าได้ สำหรับแผนที่คุ้มครองทั่วโลก*

ตัวอย่างการเลือกซื้อ ประกันเดินทางต่างประเทศเปรียบเทียบ แผนรายเที่ยว vs แผนรายปี

ตัวอย่าง

คุณ Alliz มีแผนเดินทางไปประเทศญี่ปุ่น ในเดือนเมษายน 2024 เป็นเวลา 7 วัน, เดินทางไปประเทศอังกฤษ ในเดือนมิถุนายน 2024 เป็นเวลา 20 วัน, และเดินทางไปประเทศฟินแลนด์ ในเดือนธันวาคม 2024 เป็นเวลา 20 วัน และทุกทริปต้องการความคุ้มครองแบบครบถ้วนสูงสุด

จากตัวอย่าง หากลูกค้าซื้อประกันการเดินแผนรายเที่ยว และรายปี รายละเอียดค่าใช้จ่ายที่ลูกค้าต้องชำระมีดังนี้

แผนรายเที่ยว

คุณ Alliz ต้องทำการซื้อประกันการเดินทางต่างประเทศ แผนรายเที่ยว ทุกครั้งที่ออกเดินทาง โดยมีรายละเอียดดังนี้

  1. ทริปญี่ปุ่น 7 วัน
    – จำนวนผู้เดินทาง 1 คน
    – ซื้อประกันการเดินทางสำหรับเดินทางในเอเชีย แผนรายเที่ยว แผน Samba
    – ราคา 940 บาท
  2. ทริปอังกฤษ 20 วัน
    – จำนวนผู้เดินทาง 1 คน
    – ซื้อประกันการเดินทางสำหรับเดินทางทั่วโลก แผนรายเที่ยว แผน Tango
    – ราคา 2,920 บาท
  3. ทริปฟินแลนด์ 20 วัน
    – จำนวนผู้เดินทาง 1 คน
    – ซื้อประกันการเดินทางสำหรับเดินทางทั่วโลก แผนรายเที่ยว แผน Tango
    – ราคา 2,920 บาท

ราคารวมที่คุณ Alliz ต้องชำระเงินค่าเบี้ยประกันการเดินทาง แผนรายเที่ยว ในปี 2024
= 940+2,920+2,920 = 6,780 บาท

แผนรายปี

คุณ Alliz สามารถทำการซื้อประกันการเดินทางต่างประเทศ แผนรายปี เพียงครั้งเดียวในทริปแรกที่ออกเดินทาง โดยมีรายละเอียดดังนี้

ระยะเวลาของทริปการเดินทางของคุณ Alliz ในแต่ละทริปไม่เกิน 31 วัน (ทริปญี่ปุ่น 7 วัน, ทริปอังกฤษ 20 วัน, และทริปฟินแลนด์ 20 วัน) ต้องการความคุ้มครองแบบครบถ้วนสูงสุด ดังนั้นคุณ Alliz สามารถซื้อประกันการเดินทางต่างประเทศ แผนรายปี แผน Tango ระยะเวลาการเดินทางในแต่ละทริปภายใน 1 ปี ไม่เกิน 31 วันต่อทริปหรือต่อครั้งที่เดินทางได้ โดยราคารวมที่คุณ Alliz ต้องชำระเงินค่าเบี้ยประกันการเดินทาง แผนรายปี ในปี 2024
= 5,620 บาท

ซึ่งประกันการเดินทางต่างประเทศ แผนรายปี ให้ความคุ้มครองการเดินทางทั่วโลก**

สรุป

จากตัวอย่างด้านบนคุณ Alliz สามารถเลือกซื้อประกันการเดินทางต่างประเทศ แผนรายปี แผน Tango ระยะเวลาการเดินทางต่อทริปหรือต่อครั้งไม่เกิน 31 วัน ในราคา 5,620 บาท จะมีความเหมาะสมและคุ้มค่ามากกว่าซื้อประกันการเดินทาง แผนรายเที่ยว เพราะเมื่อเปรียบเทียบกับประกันการเดินทาง แผนรายเที่ยว ที่มีค่าเบี้ยประกันการเดินทางรวมทุกทริปอยู่ที่ 6,780 บาท คุณ Alliz สามารถประหยัดเงินค่าเบี้ยประกันการเดินทางสำหรับปี 2024 ไปได้ถึง 1,160 บาท

หากเพื่อนๆ ท่านไหนมีแผนการเดินทางคล้ายๆ กับคุณ Alliz หรือมีการเดินทางบ่อย การซื้อประกันการเดินทาง แผนรายปี อาจจะเหมาะสมกับการเดินทางของเพื่อน ๆ มากกว่าการซื้อประกันการเดินทาง แผนรายเที่ยว แต่ถ้าเพื่อน ๆ เดินทางไม่บ่อย ประกันการเดินทางแผนรายเที่ยวก็อาจเป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับเพื่อน ๆ ค่ะ

ถ้าคุณคิดว่าปีนี้จะมีทริปเที่ยวต่างประเทศเพียงครั้งเดียว ประกันภัยการเดินทางแผนรายเที่ยวคือตัวเลือกที่ดีที่สุดของคุณ แต่ถ้าคุณวางแผนเที่ยวต่างประเทศหลายทริปใน 1 ปี การซื้อประกันภัยการเดินทางแบบรายปีก็คุ้มมากกว่า แต่โดยรวมแล้ว การทำประกันภัยการเดินทางทุกครั้งที่ไปเที่ยวต่างประเทศก็เป็นความคิดที่ดีเสมอ เพราะจะช่วยให้คุณเดินทางได้อย่างอุ่นใจ ไร้กังวล เพียงจ่ายเงินไม่กี่บาท คุณก็จะได้ความคุ้มครองมากมายที่ครอบคลุมเกือบทุกเหตุการณ์ไม่คาดฝันที่อาจเกิดขึ้นระหว่างเดินทาง*** เช่น ความเจ็บป่วย การเกิดอุบัติเหตุ กระเป๋าหาย ไฟลท์ดีเลย์ เป็นต้น Allianz Travel ขอแนะนำ ประกันการเดินทางต่างประเทศ Dance Moves ที่จะช่วยให้ทริป การเดินทางของคุณราบรื่น ไม่มีสะดุด อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับความคุ้มครองได้ ที่นี่

*หากวีซ่าไม่ผ่าน และยังไม่ถึงวันเริ่มความคุ้มครองตามกรมธรรม์ สามารถใช้เอกสารการปฏิเสธวีซ่าเป็นหลักฐานในการขอคืนเงินค่าเบี้ยประกันได้เต็มจำนวน
**ยกเว้นประเทศที่ไม่อยู่ภายใต้ความคุ้มครองตามกรมธรรม์สำหรับเดินทางทั่วโลกได้แก่ประเทศเนปาล และประเทศที่ถูกระบุอยู่ในประเทศที่มีความเสี่ยงสูง (Sanction Countries) รวมถึงประเทศดังต่อไปนี้ อัฟกานิสสถาน, แอลจีเรีย, บุรุนดี, คองโก, คิวบา, เอริเทรีย, กินี, อิรัก, คอซอวอ, ไลบีเรีย, ลิเบีย, มอริเตเนีย, ไนเจอร์, ไนจีเรีย, เกาหลีเหนือ, เซอร์เบีย,​โซมาเลีย, ซูดาน, ซีเรีย,​ และเยเมน
***เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทกำหนด

เลือกแผนประกันเดินทางที่ใช่สำหรับคุณ ประกันการเดินทาง Dance Moves จาก Allianz Travel

วิธีสมัคร eTA แคนาดา ทำได้ง่ายด้วยตนเอง

วิธีสมัคร eTA แคนาดา ทำได้ง่ายด้วยตนเอง

นักท่องเที่ยวชาวไทยที่อยากไป เที่ยวแคนาดา สามารถเดินทางได้ง่ายขึ้นแล้ว เมื่อรัฐบาลแคนาดาปรับเงื่อนใขในการเข้าประเทศสำหรับนักท่องเที่ยวจาก 13 ประเทศ ที่รวมถึงประเทศไทยด้วย สามารถเดินทางเข้าแคนาดาได้โดยไม่ขอวีซ่าและพำนักอยู่ได้ไม่เกิน 6 เดือน เพียงแค่สมัครขออนุมัติการเดินทางทางอิเล็กทรอนิกส์ หรือ eTA ซึ่งสามารถทำออนไลน์ได้อย่างสะดวกสบายและไม่ยากเลยค่ะ Allianz Travel จะนำ วิธีสมัคร eTA แคนาดา ทำได้ง่ายด้วยตนเอง มาแนะนำแบบทุกขั้นตอนเพื่อให้เป็นแนวทางกันค่ะ

เงื่อนไขในการลงทะเบียน eTA แคนาดา

eTA ของแคนาดา หรือ Electronic Travel Authorization คือเอกสารอนุมัติการเดินทางเข้าประเทศผ่านระบบออนไลน์ เป็นข้อกำหนดสำหรับชาวต่างชาติที่ได้รับการยกเว้นวีซ่า และมีคุณสมบัติดังต่อไปนี้

  1. เคยมีวีซ่าแคนาดาในช่วงไม่เกิน 10 ปีที่ผ่านมา หรือเป็นผู้ถือวีซ่าชั่วคราวของสหรัฐอเมริกาที่ยังไม่หมดอายุ
  2. มีวัตถุประสงค์ในการเดินทางไปแคนาดาเพื่อการท่องเที่ยวหรือธุรกิจไม่เกิน 6 เดือน
  3. เดินทางเข้าแคนาดาทางเครื่องบินหรือเปลี่ยนเครื่องที่แคนาดา โดยถือพาสปอร์ตที่ยังไม่หมดอายุของประเทศที่สามารถลงทะเบียน eTA ได้

*หากไม่มีคุณสมบัติดังกล่าวจะต้องยื่นขอวีซ่านักท่องเที่ยวเพื่อเดินทางไปแคนาดาตามปกติ

สิ่งที่ต้องใช้สำหรับการสมัคร eTA แคนาดา

ผู้สมัคร eTA แคนาดาจะต้องเตรียมข้อมูลในการกรอกใบสมัครดังนี้

  • เลขที่หนังสือเดินทาง วันที่ออก วันหมดอายุ (หนังสือเดินทางควรมีอายุเหลืออย่างน้อย 6 เดือน)
  • ข้อมูลส่วนตัว เช่น ชื่อ สถานที่เกิด วันเดือนปีเกิด
  • อีเมล (ผลการสมัคร eTA แจ้งผ่านทางอีเมล)
  • บัตรเครดิตหรือบัตรเดบิตสำหรับชำระค่าธรรมเนียม 7 ดอลล่าร์แคนาดา

หมายเหตุ

  • คุณสามารถสมัครและชำระเงินได้ครั้งละหนึ่งคนเท่านั้น หากคุณต้องการสมัครให้สมาชิกในครอบครัวหรือบุคคลอื่น คุณจะต้องกรอกและส่งแบบฟอร์มทีละคน
  • คุณมีเวลาจำกัดในการกรอกแบบฟอร์ม และระบบไม่สามารถบันทึกข้อมูลของคุณเพื่อกรอกในภายหลังได้ แต่คุณสามารถขยายระยะเวลาได้ หากต้องการเวลาเพิ่มอีก เมื่อคุณเห็นข้อความ ‘Session timeout warning (คำเตือนการหมดเวลา)’ ปรากฏขึ้น ให้คลิกปุ่ม ‘Continue session (ดำเนินการต่อ)’ เพื่อขยายเวลาเพิ่ม
วิธีลงทะเบียน eTA แคนาดา

การกรอกใบสมัคร eTA ออนไลน์

  1. เริ่มสมัครโดยเข้าเว็บไซต์ https://onlineservices-servicesenligne.cic.gc.ca/eta/welcome
  2. เข้าสู่หน้า การสมัครขออนุมัติการเดินทางทางอิเล็กทรอนิกส์ (eTA)
  3. คุณสมัครในนามบุคคลอื่นหรือไม่

ในบทความนี้จะแนะนำวิธีลงทะเบียนสำหรับผู้ที่สมัครด้วยตนเอง ดังนั้นสำหรับคำถามนี้ จะต้องตอบ No (ไม่ใช่) หากคุณเป็นพ่อแม่/ผู้ปกครอง หรือตัวแทนที่สมัครขอ eTA ให้กับบุคคลอื่น คุณต้องตอบ ใช่ (Yes) และต้องกรอกรายละเอียดเพิ่มเติม

วิธีลงทะเบียน eTA แคนาดา - สิ่งที่ต้องใช้สำหรับการสมัคร eTA แคนาดา
  1. เริ่มกรอกใบสมัคร คุณต้องกรอกข้อมูลให้ครบถ้วนและถูกต้อง ถ้าข้อมูลไม่ตรงตามหนังสือเดินทางคุณจะไม่สามารถเดินทางได้ ใบสมัครมีแค่ภาษาอังกฤษกับภาษาฝรั่งเศสเท่านั้น 
  2. คุณใช้เอกสารเดินทางอะไรในการเดินทางไปแคนาดา – ให้เลือกประเภทหนังสือเดินทางของคุณ
วิธีลงทะเบียน eTA แคนาดา - เริ่มกรอกใบสมัคร
  1. เลือกรหัสประเทศในหนังสือเดินทาง – สำหรับหนังสือเดินทางไทยให้เลือก THA (Thailand)
  2. คุณเป็นผู้มีถิ่นที่อยู่ถาวรโดยชอบด้วยกฎหมายของสหรัฐอเมริกา โดยมีหมายเลขประประจำตัวที่แสดงสัญชาติและการตรวจคนเข้าเมืองของสหรัฐอเมริกา (USCIS) ที่ถูกต้องหรือไม่
  • ถ้ามี ตอบ ใช่  – ไม่จำเป็นต้องสมัคร  eTA เมื่อเดินทางเข้าแคนาดา สามารถใช้แสดงเอกสารยืนยันการมีถิ่นที่อยู่ถาวรในสหรัฐอเมริกาได
  • ถ้าไม่มี ตอบ ไม่ใช่ และกรอกข้อมูลต่อ
  1. เลือกสัญชาติที่ระบุไว้ในหนังสือเดินทาง – สัญชาติไทยเลือก Thailand
วิธีลงทะเบียน eTA แคนาดา - กรอกข้อมูลรหัสประเทศ, ข้อมูลถิ่นที่อยู่ถาวรโดยชอบด้วยกฎหมายของสหรัฐอเมริกา (USCIS) และสัญชาติ
  1. คุณเดินทางไปแคนาดาทางเครื่องบินหรือไม่

คุณต้องเดินทางไปแคนาดาทางเครื่องบินเท่านั้น ถึงสามารถสมัคร eTA ได้ หากเดินทางด้วยวิธีการอื่น คุณไม่สามารถสมัคร eTA และต้องไปขอวีซ่าเข้าประเทศแคนาดาตามปกติ

  1. ในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา คุณเคยมีวีซ่าแคนาดาแบบพำนักชั่วคราวหรือไม่ – ถ้าเคยมี ตอบ ใช่  ถ้าไม่เคยมี ตอบ ไม่ใช่
  2. ปัจจุบันคุณมีวีซ่าชั่วคราวของสหรัฐอเมริกาหรือไม่
  • ถ้าคุณไม่มีวีซ่าชั่วคราวของสหรัฐอเมริกา และไม่เคยมีวีซ่าแคนาดาในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา  คุณไม่สามารถสมัคร eTA ได้
  • ถ้าคุณไม่มีวีซ่าชั่วคราวของสหรัฐอเมริกา แต่เคยมีวีซ่าแคนาดาในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา คุณสามารถสมัคร eTA ได้
วิธีลงทะเบียน eTA แคนาดา - กรอกข้อมูลรหัสประเทศ, ข้อมูลถิ่นที่อยู่ถาวรโดยชอบด้วยกฎหมายของสหรัฐอเมริกา (USCIS) และสัญชาติ

12. ถ้ามีวีซ่าสหรัฐอเมริกา กรอกรายละเอียดเพิ่มเติม – หมายเลขวีซ่าของสหรัฐอเมริกา และวันหมดอายุ

วิธีลงทะเบียน eTA แคนาดา - กรอกรายละเอียดเพิ่มเติม ถ้ามีวีซ่าสหรัฐอเมริกา

13. ข้อมูลหนังสือเดินทาง – หมายเลขหนังสือเดินทาง ชื่อ-นามสกุล วันเกิด เพศ ประเทศเกิด เมืองเกิดวันที่ออกหนังสือเดินทาง วันที่หนังสือเดินทางหมดอายุ

กรอกข้อมูลหนังสือเดินทางของผู้สมัคร
  1. ข้อมูลส่วนตัวของผู้สมัคร
  • สัญชาติ – เลือกประเทศที่คุณเป็นพลเมืองอยู่
  • คุณเคยยื่นขอวีซ่าหรือมีวีซ่า/eTA หรือมีใบอนุญาตให้ไปเยี่ยมเยียน อยู่อาศัย ทำงาน หรือศึกษาในแคนาดาหรือไม่
  1. ข้อมูลการติดต่อ
  • เลือกภาษาที่ต้องการใช้ในการติดต่อ – อังกฤษ/ฝรั่งเศส
  • อีเมล – ใส่อีเมลที่สามารถติดต่อได้ อีเมลนี้จะใช้ในการแจ้งผลการสมัคร
กรอกข้อมูลส่วนตัว และข้อมูลการติดต่อ
  1. รายละเอียดที่อยู่ – ใส่ที่อยู่ถาวรเท่านั้น ห้ามใส่ที่อยู่ชั่วคราวหรือตู้ไปรษณีย์
  2. รายละเอียดการเดินทาง
  • ถ้าทราบว่าจะเดินทางไปแคนาดาเมื่อไหร่ ตอบ Yes
  • ถ้ายังไม่ทราบตอบ No
กรอกรายละเอียดที่อยู่ และรายละเอียดการเดินทาง

18. การยืนยันของผู้สมัคร – อ่านคำประกาศหรือยืนยันว่ากรอกข้อมูลตามความเป็นจริง คลิกยอมรับ และพิมพ์ชื่อให้ตรงกับหนังสือเดินทาง

ทำการให้คำยินยอมและการยืนยันข้อมูลการลงทะเบียน
  1. หลังจากลงชื่อเรียบร้อยแล้วให้คลิก Proceed to Payment เพื่อดำเนินการจ่ายค่าธรรมเนียมการสมัคร
  2. พิมพ์ใบเสร็จค่าธรรมเนียมทันทีที่สมัครเสร็จ คุณจะไม่สามารถพิมพ์หรือขอสำเนาใหม่ในภายหลังได้
  3. คุณจะได้รับอีเมลยืนยันการสมัคร eTA ทางอีเมล หากไม่ได้รับอีเมล ให้ตรวจสอบโฟลเดอร์ Junk Mail ของคุณด้วย
  4. เมื่อได้รับอีเมลยืนยัน คุณสามารถตรวจสอบสถานะการสมัครได้ที่ https://onlineservices-servicesenligne.cic.gc.ca/eta/applicationQuery โดยกรอกหมายเลขใบสมัครที่ขึ้นต้นด้วยตัว V ดูจากอีเมลที่คุณได้รับหลังจากส่งใบสมัครแล้ว และกรอกหมายเลขหนังสือเดินทาง ประเทศที่ออกหนังสือเดินทาง

วันออกหนังสือเดินทาง และวันที่หนังสือเดินทางหมดอายุให้ตรงกับที่คุณกรอกในใบสมัคร

หลังจากชำระค่าธรรมเนียม ผู้ลงทะเบียนจะได้รับอีเมลยืนยัน
  1. เมื่อใบสมัครได้รับอนุมัติ คุณจะได้รับแจ้งผลทางอีเมล

**คุณควรตรวจสอบชื่อ นามสกุล และหมายเลขหนังสือเดินทางให้ตรงตามหนังสือเดินทางของคุณทันทีที่คุณได้รับอีเมลแจ้งผลอนุมัติ หากรายละเอียดดังกล่าวไม่ถูกต้อง คุณจะไม่สามารถเดินทางไปแคนาดาได้ ดังนั้นคุณจะต้องดำเนินการสมัครและขำระเงินใหม่ นอกจากนี้ถ้าคุณสมัครในเวลากระชั้นชิด คุณอาจไม่ได้รับอนุมัติ eTA ได้ทัน ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ของคุณ

เมื่อใบสมัครได้รับการอนุมัติ ผู้ลงทะเบียนจะได้รับแจ้งทางอีเมล

eTA แคนาดาใช้เวลาในการพิจารณานานแค่ไหน

การสมัคร eTA เป็นการกรอกข้อมูลออนไลน์ ผู้สมัครส่วนใหญ่ได้รับการอนุมัติ eTA (ทางอีเมล) ในเวลาไม่นาน แต่บางกรณี อาจใช้เวลาดำเนินการหลายวัน ซึ่งจะมีอีเมลแจ้งให้ทราบถึงขึ้นตอนต่อไปที่คุณต้องดำเนินการต่อ ดังนั้น คุณควรรีบสมัคร eTA ทันทีที่คุณทราบกำหนดการเดินทาง และควรรอให้ได้รับอนุมัติก่อนที่จะจองเที่ยวบินไปแคนาดา

หลังจากคุณได้รับการอนุมัติแล้ว ข้อมูลหนังสือเดินทางของคุณจะถูกบันทึกอยู่ในระบบ และ eTA มีอายุ 5 ปี หรือจนกว่าหนังสือเดินทางจะหมดอายุ แล้วแต่ว่าอย่างหนึ่งอย่างใดถึงก่อน คุณสามารถเดินทางเข้าประเทศแคนาดาได้ตลอดเวลาภายในระยะเวลาที่กำหนด แต่ระยะเวลาที่อยู่ในแคนาดาแต่ละครั้งต้องไม่เกิน 6 เดือน และหากคุณต้องทำหนังสือเดินทางใหม่ คุณจะต้องดำเนินการสมัครขออนุมัติ eTA ใหม่

เราหวังว่า วิธีสมัคร eTA แคนาดา ทำได้ง่ายด้วยตนเอง แบบละเอียดทุกขั้นตอน  จะเป็นประโยชน์และเป็นแนวทางให้กับผู้ที่กำลังวางแผนจะไปเที่ยวแคนาดา อย่าลืมตรวจสอบเงื่อนไขการสมัครก่อนนะคะ หากมีคุณสมบัติตรงตามเงื่อนไข ก็สามารถดำเนินการสมัครได้เลยค่ะ ขอให้ทุกท่านผ่านการอนุมัติและเดินทางโดยสวัสดิภาพค่ะ

สิ่งสำคัญที่ควรมีในการเดินทางท่องเที่ยวไปในสถานที่ที่เราไม่คุ้นเคยทั้งสภาพอากาศ หรืออาหารการกิน อาจทำให้เราเจ็บไข้ได้ป่วย หรือเกิดเหตุฉุกเฉินที่เราไม่ได้คาดคิดมาก่อน จนต้องเสียค่าใช้จ่ายมากเกินกว่าที่ตั้งใจไว้ สิ่งสำคัญที่จะช่วยให้คุณ เที่ยวต่างประเทศได้อย่างอุ่นใจ ไร้กังวล ก็คือ ประกันการเดินทางต่างประเทศ Allianz Travel ขอแนะนำ ประกันภัยการเดินทาง Dance Moves ที่จะช่วยให้ทริป การเดินทางของคุณราบรื่น ไม่มีสะดุด กับความคุ้มครองที่ครอบคลุมค่าใช้จ่ายจากเกือบทุกเหตุการณ์ที่อาจเกิดขึ้นได้ ไม่ว่าจะเป็นค่ารักษาพยาบาล การเลื่อนหรือยกเลิกการเดินทาง กระเป๋าเดินทางหรือเอกสารสำคัญสูญหาย และอื่นๆ อีกมากมาย* อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับความคุ้มครองได้ ที่นี่

*เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทกำหนด

ขอบคุณข้อมูลจาก : Electronic Travel Authorization (eTA) – Canada.ca, Final Instructions Apply eTA – Canada.ca

เลือกแผนประกันเดินทางที่ใช่สำหรับคุณ ประกันการเดินทาง Dance Moves จาก Allianz Travel

6 วิธีเตรียมตัวก่อนไป ROAD TRIP ที่ต่างประเทศให้แฮปปี้ไม่มีพลาด!

หากคุณเป็นอีกคนหนึ่งที่ชื่นชอบการเดินทาง การท่องเที่ยว ไม่ว่าจะแบ็คแพ็คไปเป็นคู่ ไปหมู่หรือจะไปเดี่ยว การได้ไปในสถานที่ใหม่ๆ คงทำให้คุณตื่นเต้นได้ไม่น้อย อีกหนึ่งสไตล์การท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมและฮอตฮิตมาแต่ไหนแต่ไรก็คงหนีไม่พ้น การท่องเที่ยวแบบ Road Trip หรือการขับรถออกเดินทางไปเยือนสถานที่ใหม่ๆ แถมยังได้ชมวิวสองข้างทาง เปิดเพลงเพราะๆ ฟัง เปิดกระจกรับลม แค่คิดแค่นี้ก็ฟินแล้ว แถมยังสะดวก ไม่ต้องต่อรถ โบกเหมือนการเที่ยวแบบแบ็คแพ็ค เพราะแค่คุณมีรถกับคนรู้ใจก็สามารถไปถึงไหนต่อไหนได้ง่ายนิดเดียว โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเปิดประสบการณ์ใหม่ด้วย Road Trip ในต่างประเทศ คุณจะได้สัมผัสกับบรรยากาศดีๆ ที่ไม่เคยมีใครมารีวิว ที่สำคัญตอนนี้ตั๋วเครื่องบินก็ถูก ค่าเช่ารถก็ไม่แพงแถมยังมีให้เลือกมากมาย ถ้าคุณวางแผนไปก่อน รับรองว่ายังไงก็สนุกแถมกระเป๋าไม่ฉีกอีกด้วย วันนี้เราเลยมีเคล็ดลับ วิธีการเตรียมตัวก่อนไปสนุกกับ Road Trip ในต่างประเทศมาฝากกัน ลองไปดูเลย!

1. MAKE A PLAN

ก่อนอื่นก่อนใด คุณควรจะมานั่งจับเข่าคุยกับเพื่อนร่วมทริปของคุณว่า คุณจะไป Road Trip ที่ไหน ประเทศอะไร กฎหมายในการขับรถเขาเป็นอย่างไร ต้องหาข้อมูลต่างๆ วางแผนล่วงหน้า จองตั๋วเครื่องบินไว้ให้พร้อม อย่าไปตายเอาดาบหน้า เชื่อเรา! โดยประเทศส่วนใหญ่ที่คนนิยมไป Road Trip ง่ายๆ ก่อน อาจจะเป็นในอเมริกาจากรัฐเนวาด้า ลาสเวกัสไปซานฟรานซิสโก หรือจากซานฟรานซิสโกไปซานดิเอโก คุณก็สามารถเลือกวางแผนเส้นทาง Road Trip ของคุณก่อนได้ ดูว่าในระหว่างเส้นทาง จะแวะนอนที่ไหน มีอะไรเที่ยวบ้าง ใช้เวลาคร่าวๆ กี่วัน ต้องลงเครื่องที่ไหน กลับที่ไหน สิ่งเหล่านี้จำเป็นมากๆ ในการเดินทางแบบ Road Trip ของคุณ

2. GO GET IDP

เมื่อคุณวางแผนให้ Road Trip สุดเจ๋งของคุณแล้ว อีกหนึ่งสิ่งสำคัญที่ห้ามพลาดเด็ดขาดเลยคือการทำใบขับขี่สากลหรือ International Driving Permit แต่ไม่ห่วงเพราะวิธีการขอใบขับขี่สากลนั้นง่ายแสนง่าย เพียงแค่คุณมีใบขับขี่ของประเทศไทย เตรียมเอกสารสำคัญไว้ให้พร้อม โดยสามารถเช็คข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ เว็บไซต์ของกรมการขนส่งทางบก หรือโทรไปสอบถามข้อมูลได้ที่เบอร์ 1584 เพียงเท่านี้คุณก็มีใบขับขี่สากลเอาไว้ให้ไปโลดแล่นใน Road Trip นี้ของคุณแล้วล่ะ

3. PICK THE RIGHT CAR

เมื่อคุณจัดแจงด้านเอกสารต่างๆ เรียบร้อยแล้ว ก็มาถึงการเลือกรถ แม้ว่าคุณยังนั่งอยู่ที่บ้านก็สามารถวางแผนหรือหาอ่านรีวิวของบริษัทให้เช่ารถต่างๆ ในประเทศที่คุณกำลังจะไป ดูว่าเขามีรายละเอียดการใช้เช่าอย่างไร ราคาเท่าไหร่ เช่าที่เมืองหนึ่งและคืนอีกเมืองหนึ่งได้ไหม คุณจะได้ไม่ต้องเสียเวลาย้อนไปมา การหาข้อมูลของบริษัทเช่ารถก่อนดีกว่าการไปหาเอาข้างหน้า เพราะคุณจะได้มีเวลาเปรียบเทียบและจะได้สามารถคำนวณค่าใช้จ่ายได้ดีกว่า นอกจากนี้ควรเลือกรถยนต์ที่ไม่หรูหรามากจะได้ไม่ตกเป็นเป้าสายตาของมิจฉาชีพ เลือกรถที่มีสมรรถภาพดี หรือหากใครอยากประหยัดโรงแรมก็ลองเลือกเป็นรถบ้านไปเลยก็ได้ ยิ่งถ้าไปเป็นหมู่คณะจะทำให้คุณสนุกมากยิ่งขึ้นด้วยการตั้งแคมป์ในสถานที่ต่างๆ แต่ก็อย่าลืมหาข้อมูลความปลอดภัยในสถานที่นั้นๆ ด้วยล่ะ

4. DON’T FORGET THE MAP

หนึ่งในสิ่งสำคัญเลยในการเดินทางไป Road Trip ก็คือเส้นทาง เราเชื่อว่าคุณอาจจะยังไม่คุ้นชินกับเส้นทางใหม่ๆ ที่รออยู่ข้างหน้า เพราะฉะนั้นสิ่งที่คุณต้องเตรียมไปด้วยเลยคือแผนที่และ GPS ยิ่งในตอนนี้สมาร์ทโฟนก็มีแอพพลิเคชั่นที่ช่วยอำนวยความสะดวกในการเดินทาง คุณจะดาวน์โหลดติดไว้หรือซื้อ GPS ไปเลยก็ยิ่งดีเข้าไปใหญ่ นอกจากนี้หากคุณไม่มั่นใจ ก็ลองหมั่นหาอ่านรีวิวเส้นทาง Road Trip ที่คุณจะไปไว้ จะได้ไม่ต้องตกใจเมื่อไปถึง ที่สำคัญหากคุณหลงทางจริงๆ ก็ไม่ต้องกลัว งัดวิทยายุทธ์ภาษาอังกฤษและสอบถามคนแปลกหน้าดูบ้าง เผื่อจะได้มิตรภาพใหม่ๆ ขณะเดินทาง แต่ท้ายที่สุดแล้วก็ต้องระมัดระวังตัวเองให้ดีและอย่าประมาท มองซ้ายมองขวาอยู่ตลอดเวลา อย่ามัวแต่ดูวิวเพลินล่ะ

5. ORGANIZE YOUR BAG

แล้วก็มาเริ่มต้นจัดกระเป๋าไป Road Trip คุณควรศึกษาสภาพอากาศของประเทศที่กำลังจะไป จะได้จัดกระเป๋าได้ถูก หากคุณเดินทางติดต่อกันเป็นเวลานาน ก็ไม่จำเป็นต้องเตรียมเสื้อผ้าไปพอดีหรอก ไม่อย่างนั้นคุณอาจต้องยกทั้งตู้เสื้อผ้าไปเลยก็ได้ คุณอาจจะเตรียมเสื้อผ้าไปให้พอดีหนึ่งอาทิตย์ แล้วหลังจากนั้นก็หาที่ซักเอาข้างหน้าหรือตามโรงแรมต่างๆ ก็จะมีบริการซักรีดให้คุณอยู่แล้ว นอกจากนี้สิ่งที่ขาดไม่ได้เลยคือยาสามัญ ยาประจำตัว เพราะในต่างประเทศ คุณไม่สามารถซื้อยาได้หากไม่มีใบรับรองแพทย์ และที่สำคัญ อย่าลืมเตรียมเสบียงติดรถเอาไว้ตลอดเวลาอย่าได้ขาด ไม่ว่าจะเป็นน้ำ ขนม อาหารที่กินได้ง่ายๆ เพราะไม่รู้ว่าตอนไหนคุณจะเจอร้านอาหาร แบบนี้ก็จะได้ไม่ต้องหิวระหว่างทางแล้วล่ะ

6. MAKE YOUR TRIP SMARTER

ก่อนที่ความสนุกจะมาเยือน อีกหนึ่งสิ่งที่คุณควรต้องเตรียมตัวให้ดีก่อนที่จะเริ่มต้น Road Trip เลยคือประกันการเดินทาง คุณอาจคิดว่ามันไม่สำคัญแต่ความจริงคือเราไม่รู้ว่าจะมีอะไรเกิดขึ้นในอนาคต เตรียมทุกอย่างไว้ให้พร้อมอุ่นใจกว่าเยอะ ลองดูประกันภัยการเดินทางจาก Allianz Global Assistance นอกจากนี้คุณยังต้องเตรียมเบอร์โทรศัพท์ ฉุกเฉินเผื่อมีปัญหาระหว่างทาง ทั้งเบอร์ติดต่อประกัน เบอร์สถานีตำรวจในพื้นที่นั้นๆ ไปจนถึงเบอร์โทรศัพท์โรงแรม ร้านเช่ารถยนต์ และที่สำคัญเวลาคุณลงจากรถควรติดเอกสารสำคัญไว้กับตัว อย่าทิ้งไว้บนรถเป็นอันขาด เพียงเท่านี้ Road Trip ของคุณก็จะง่าย สบายใจ หายห่วงแล้วล่ะ!

เรามุ่งมั่นที่จะช่วยเหลือและดูแลคุณ

อลิอันซ์ทราเวลเป็นผู้นำระดับโลกด้านประกันภัยการเดินทางและบริการช่วยเหลือทั่วไป เรามีแผนประกันภัยที่หลากหลายให้เลือก ครอบคลุมตั้งแต่แผนรายเที่ยว แผนรายปี แผนครอบครัว ไปจนถึงแผนเดินทางศึกษาต่อต่างประเทศ เราทุ่มเทที่จะให้บริการช่วยเหลือและปกป้องคุณทุกที่ ทุกเวลาเท่าที่เราจะทำได้ เราไม่ได้จำกัดอยู่แค่ประกันภัยและการให้ความช่วยเหลือ แต่เรามุ่งเน้นไปที่สิ่งที่มากกว่านั้น และทุกบริการของเราก็เพื่อลูกค้าคนสำคัญของเรา

5 ทิปส์ ผู้หญิงเที่ยวคนเดียวอย่างไรให้ปลอดภัย

สำหรับการออกเที่ยวคนเดียวหรือ Solo Traveler ถือว่ากำลังเป็นเทรนด์ที่ไม่ว่าใครๆก็ต้องออกไปฉายเดี่ยว เที่ยวฮิปๆกันทั้งนั้น แต่การไปเที่ยวคนเดียวนั้นใจกล้าอย่างเดียวไม่พอ การเตรียมความพร้อมก็ถือว่ามีความสำคัญ ดังนั้นวันนี้เราขอนำเสนอ 5 วิธีเที่ยวคนเดียวสำหรับผู้หญิง เที่ยวอย่างไรให้ปลอดภัยหายห่วง

1. เอกสารและแพลนต้องพร้อม

การเดินทางคนเดียวนั้น หนึ่งสิ่งที่จะเป็นหลักฐานยืนยันตัวตนของเราได้ก็คือเอกสารต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นบัตรประจำตัวประชาชน, พาสปอร์ต, ประกันการเดินทาง, ตั๋วรถหรือเครื่องบิน ข้อมูลเหล่านี้จะช่วยยืนยันตัวตนของเราเมื่อเกิดเหตุสุดวิสัย รวมถึงการวางแผนล่วงหน้าจะทำให้คุณพอมีไอเดียว่าเมืองที่คุณกำลังจะไปนั้นเป็นอย่างไรและคุณต้องพบเจอกับอะไรบ้างเพื่อเป็นการเตรียมสภาพจิตใจและร่างกายให้พร้อมก่อนลงสนามจริง

2. เก็บของมีค่าให้ปลอดภัย

การเดินทางคนเดียวจะต้องรักษาของมีค่าให้ปลอดภัยที่สุด ไม่ว่าจะเป็นการถือกระเป๋า ควรนำกระเป๋ามาไว้ข้างหน้าเพื่อเป็นการป้องกันการล้วงกระเป๋าจากข้างหลัง ทริคที่หลายๆคนใช้คือการใช้กระเป๋าสะพายโทรมๆ เพื่อทำให้ผู้ไม่หวังดีคิดว่าเราไม่มีของมีค่าใดๆในกระเป๋า ในต่างประเทศมีเสื้อผ้าสำหรับการป้องกันการโดนล้วงกระเป๋าอย่างเช่นแบรนด์ Clothing Art ที่ได้ผลิตการเกงที่มีซิปซ้อนซิปเพื่อเป็นการป้องกันแบบสองชั้น หรือวิธีแบบไทยๆก็อาจจะเป็นการเอาหนังยางมัดเงินเอาไว้ในกระเป๋ากางเกง ก็อาจจะช่วยป้องกันปัญหานี้ได้ไม่มากก็น้อย อีกหนึ่งสิ่งที่คุณทำได้คือการแตกเงินแบงค์เล็กๆใส่ไว้ในกระเป๋ากางเกงเพื่อไว้หยิบใช้ ส่วนแบงค์ใหญ่ๆเก็บไว้ในซิปของเสื้อชั้นใน

3. โรงแรมคือไกด์ที่ดีที่สุด

หนึ่งสิ่งที่อยากจะแนะนำทุกคนคือเมื่อเช็กอินเข้าที่พักเรียบร้อยแล้ว คุณควรจะสอบถามข้อมูลจากโรงแรมสักนิดว่าในบริเวณไหนของเมืองเป็นแหล่งอันตรายไม่ควรเข้าไป การเดินทางแบบไหนปลอดภัยและสะดวก หรือแม้กระทั่งขอคำแนะนำสิ่งที่ควรระมัดระวังถ้ามาเที่ยวคนเดียว
นอกจากนี้คุณควรขอนามบัตรของโรงแรมเอาไว้เพื่อเป็นข้อมูลหากเกิดเหตุฉุกเฉิน อย่างน้อยคุณยังมีเบอร์โทรศัพท์ของโรงแรมไว้ติดต่อได้

4. อย่าทำตัวเป็นนักท่องเที่ยว

การทำตัวเป็นนักท่องเที่ยวโดยการใส่เสื้อผ้าที่เขียนว่ามาจากเมืองต่างๆ การกางแผนที่ เปิด Google Map ถือกล้องถ่ายรูปราคาแพงหรือทำท่าหลงทาง อาจจะทำให้คุณกลายเป็นเป้าของมิจฉาชีพ ดังนั้นคุณควรที่จะทำตัวให้กลมกลืนกับคนในพื้นที่มากที่สุดเพื่อไม่เป็นจุดสนใจของผู้ไม่หวังดี ถ้าหากจำเป็นจริงๆที่จะต้องใช้โทรศัพท์มือถือ คุณควรเข้าไปร้านอาหารเพื่อใช้งานแล้วรีบเก็บมันเข้ากระเป๋า

5. อย่าขัดขืนจะอันตรายต่อชีวิต

ถ้าหากคุณโดนประชิดตัวเพื่อชิงทรัพย์ คุณไม่ควรต่อสู้เพื่อรักษาสิ่งของเหล่านั้น เพราะหลายๆเมืองในหลายประเทศมีประชากรคนจนจำนวนมาก พวกเขาสามารถทำได้แม้กระทั่งการทำร้ายผู้อื่น ยิ่งไปกว่านั้นอาจจะถึงขั้นเสียชีวิต ดังนั้นถ้าคุณตกอยู่ในเหตุการณ์คับขัน ให้ถือว่าเป็นการเสียทรัพย์สินเล็กๆน้อยๆเพื่อรักษาชีวิตที่มีค่าของคุณเอาไว้ก็แล้วกัน

และนี่ก็คือ 5 ทิปส์สำหรับการดูแลตัวเองระหว่างการเที่ยวคนเดียวของผู้หญิง โดยทริปของคุณในอนาคตนี้ อย่าลืมที่จะเตรียมตัวและเตรียมใจให้พร้อมเพื่อออกไปเผชิญโลกกว้างอย่างปลอดภัยไร้กังวล