ทริปยกเลิก ทำไงดี

ทริปยกเลิก ทำไงดี เคลมได้มั้ย

ช่วงนี้หลายๆคนคงเริ่มวางแผนเดินทางท่องเที่ยวประจำปีกันบ้างแล้วทั้งทริปสั้นทริปยาว หรือบางคนก็อาจกำลังทำแพลนการท่องเที่ยวต่างประเทศกันเลย วางแผนทั้งทีก็จะวุ่นวายกันหน่อย ไม่ว่า จะไปประเทศไหนดี เที่ยวที่ไหนบ้าง เดินทางยังไง งบประมาณเท่าไหร่ ต้องจองอะไรล่วงหน้าบ้างมั้ย เชื่อว่าคงมีแผนไว้ในหัวกันเรียบร้อยแล้ว ที่ต้องจองก็จองไป ที่ต้องจ่ายมัดจำก็จ่ายกันไป แต่อย่างไรก็ตาม อย่าลืมเตรียมการเรื่องความปลอดภัยเผื่อไว้ด้วยนะ โดยซื้อประกันเดินทางเอาไว้ เพื่อว่าหากเกิดกรณีเจ็บป่วยฉุกเฉินจะได้ไม่กังวล นอกจากนี้การซื้อประกันเดินทางก็มีข้อดีอีกหลายอย่างนอกเหนือจากเรื่องค่ารักษาพยาบาลและการช่วยเหลือฉุกเฉิน อย่างเช่นการเคลมกรณียกเลิกการเดินทาง ที่จะสามารถเคลมค่าใช้จ่ายคือได้หากว่ามีการยกเลิกการเดินทางตามข้อตกลงเงื่อนไขความคุ้มครอง วันนี้เราจะมาดูรายละเอียดข้อตกลงความคุ้มครอง โดยจะขอยกตัวอย่างจาก ข้อตกลงของ Allianz Travel เอง ว่ากรณีไหนที่สามารถเคลมได้บ้าง

ข้อตกลงคุ้มครองการยกเลิกการเดินทาง

กรมธรรม์ประกันภัย ให้ความคุ้มครองเมื่อการเดินทางของผู้เอาประกันภัยที่ได้รับการยืนยันแล้วถูกยกเลิกภายใน 30 วันก่อนเริ่มการเดินทาง เนื่องจากเหตุการณ์ไม่ได้คาดหมาย และอยู่เหนือการควบคุมของผู้เอาประกันภัย มีดังต่อไปนี้

  1. การเสียชีวิต การบาดเจ็บสาหัส การเจ็บป่วยรุนแรงของผู้เอาประกันภัย หรือญาติสนิท หรือผู้ใกล้ชิดทางธุรกิจ (“ผู้ใกล้ชิดทางธุรกิจ” หมายถึง บุคคลที่เกี่ยวข้องกับผู้เอาประกันภัยในการทำธุรกิจ ที่มีความสัมพันธ์ทางธุรกิจที่ต่อเนื่องกับ ผู้เอาประกันภัย และมีการพึ่งพาทางธุรกิจซึ่งกันและกันกับผู้เอาประกันภัย หรือบุคคลทางธุรกิจที่ร่วมเดินทางไปกับผู้เอาประกันภัยด้วยจุดหมายเดียวกันและจำเป็นต่อการดำเนินธุรกิจของผู้เอาประกันภัย)
  2. การยกเลิกตารางเดินทางของผู้ขนส่งสาธารณะเนื่องจาก การจลาจล การนัดหยุดงาน การประท้วง การก่อความวุ่นวาย พายุหรือไต้ฝุ่น
  3. การถูกหมายเรียกเพื่อไปให้การเป็นพยานในศาลของผู้เอาประกันภัย

โดยระยะเวลานั้นอ้างอิงจากวันที่ระบุในเอกสารใบรับรองแพทย์ ซึ่งต้องอยู่ในระหว่างวันที่ซื้อประกันการท่องเที่ยว และภายใน 30 วันก่อนเริ่มการเดินทาง และถ้าหากสาเหตุการยกเลิกการเดินทางเข้าข่ายข้อใดข้อหนึ่งดังที่กล่าวไป เราจะสามารถทำเรื่องการเคลมเพื่อให้บริษัทพิจารณาอนุมัติได้ โดยบริษัทจะจ่ายคืนให้ผู้เอาประกันภัย สำหรับเงินมัดจำล่วงหน้าที่ถูกยึด สำหรับค่าตั๋วเครื่องบินที่ไม่ได้ใช้ ค่าที่พักและค่าจองการท่องเที่ยวที่จ่ายโดยผู้เอาประกัน หรือมีสัญญาว่า ผู้เอาประกันภัยจะต้องจ่ายและไม่สามารถเรียกคืนได้ ซึ่งทั้งนี้ต้องไม่เกินจำนวนเงินเอาประกันที่ได้ระบุไว้ในหน้าตารางกรมธรรม์ประกันภัย
นอกจากนี้ยังมีเงื่อนไขต่างๆ และในกรมธรรม์จะแสดงส่วนของข้อยกเว้นการคุ้มครองด้วย โดยเงื่อนไขที่ไม่คุ้มครอง การบาดเจ็บ ความสูญเสีย หรือความเสียหาย ขึ้นอยู่กันข้อตกลงคุ้มครองตามกรมธรรม์นั้นๆ และวงเงินความคุ้มครอง ดังนั้นเราควรอ่านและทำความเข้าใจรายละเอียดของกรมธรรม์ทุกครั้งด้วย แม้ว่าจะยาวหน่อยแต่ก็คุ้มค่ากับการเสียเวลาอ่าน

ไม่ว่าจะเที่ยวมือใหม่หรือเที่ยวมือเก๋า ต่อให้วางแผนไว้ดีขนาดไหน ก็มีโอกาสเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันได้เสมอ ตั้งแต่การเจ็บป่วย จนถึงการยกเลิกการเดินทาง ดังนั้นการเตรียมพร้อมสำหรับเหตการณ์ที่อาจเกิดขึ้นไว้ก่อนย่อมดี และเป็นประโยชน์กว่า โดยเฉพาะการเลือกผู้ให้บริการที่มีความพร้อมและเครือข่ายเช่น Allianz Travel ที่ให้บริการความช่วยเหลือฉุกเฉินที่รวดเร็วและระบบเครือข่ายระดับโลก เพราะทุกวินาทีมีค่ายามฉุกเฉิน ดังนั้นเราจึงพัฒนาเพื่อให้มั่นใจได้ว่าคุณจะ “อุ่นใจทุกครั้งเมื่อเดินทาง”

เรามุ่งมั่นที่จะช่วยเหลือและดูแลคุณ

อลิอันซ์ทราเวลเป็นผู้นำระดับโลกด้านประกันภัยการเดินทางและบริการช่วยเหลือทั่วไป เรามีแผนประกันภัยที่หลากหลายให้เลือก ครอบคลุมตั้งแต่แผนรายเที่ยว แผนรายปี แผนครอบครัว ไปจนถึงแผนเดินทางศึกษาต่อต่างประเทศ เราทุ่มเทที่จะให้บริการช่วยเหลือและปกป้องคุณทุกที่ ทุกเวลาเท่าที่เราจะทำได้ เราไม่ได้จำกัดอยู่แค่ประกันภัยและการให้ความช่วยเหลือ แต่เรามุ่งเน้นไปที่สิ่งที่มากกว่านั้น และทุกบริการของเราก็เพื่อลูกค้าคนสำคัญของเรา

การเตรียมชุดกันหนาวให้พร้อมสำหรับความหนาวเย็นในทริปต่างประเทศ

ผู้ที่รักในการท่องเที่ยวที่เลือกไปท่องเที่ยวต่างประเทศในช่วงฤดูหนาวเพราะต้องการสัมผัสอากาศหนาวแบบที่บ้านเราไม่มี และแน่นอน อยากสัมผัสหิมะที่เย็นยะเยือกสักครั้งรวมทั้งเตรียมตัวสำหรับกิจกรรมบนหิมะยกตัวอย่างเช่น การเล่นสกีหรือสโนว์บอร์ด รวมไปถึงผู้ที่ชื่นชอบการผจญภัยในการเดินเขาหรือขึ้นเขาในแถบประเทศที่หนาวเย็นด้วย แน่นอนว่าอากาศที่นั่นต้องแตกต่างจากบ้านเราแน่นอนเพราะบ้านเรามีเพียงฤดูฝน ฤดูร้อนและฤดูร้อนมากเท่านั้นและไม่เคยมีหิมะตกเลยนี่สิ แล้วเราควรจะเตรียมเสื้อผ้าอย่างไรกันดีล่ะ

ก่อนอื่นต้องสำรวจก่อนว่าประเทศที่เราจะไปนั้นอยู่ในฤดูอะไร อุณหภูมิโดยประมาณเท่าไหร่ และนอกจากอากาศที่หนาวเย็นแล้วยังมีหิมะหรือลมฝนร่วมด้วยหรือไม่ เพื่อเตรียมเสื้อผ้าไปให้พร้อมกับทุกสถานการณ์เพราะถ้าป่วยขึ้นมาก็เที่ยวไม่สนุกกันพอดีน่ะสิจริงมั้ย

ประเทศที่มีอากาศหนาวเย็นระดับเบเบี๋ (15-25 องศาเซลเซียส)

อุณหภูมิระดับนี้ก็ใกล้เคียงกับอากาศทางภาคเหนือของประเทศเราในหน้าหนาว ซึ่งอากาศแบบนี้จะอยู่ในช่วงฤดูใบไม้ร่วงของประเทศทางฝั่งยุโรปและประเทศในเอเชียอย่างญี่ปุ่น เกาหลี ก่อนจะเข้าสู่ฤดูหนาว การจัดกระเป๋าก็ไม่ยากเลย

  • ชุดชั้นใน เลือกชุดชั้นในที่ใส่ปกติหรือหนาสักนิดก็ใช้ได้
  • เสื้อผ้า เสื้อเลือกที่สวมใส่สบาย สาว ๆ อาจเลือกเลกกิ้งมาปกป้องเรียวขาจากอากาศเย็นแล้วสวมมินิสเกิร์ตทับส่วนหนุ่ม ๆ ใส่ยีนส์สักตัวก็เอาอยู่
  • เสื้อกันหนาว เลือกเสื้อกันหนาวที่ช่วยกันลมอย่าง เสื้อแจ็คเก็ต หรือเสื้อโค้ทที่ไม่หนามากนักเป็นสไตล์แฟชั่นมาใส่ก็ได้
  • รองเท้า สวมถุงเท้าหนากับรองเท้าหุ้มส้นหรือผ้าใบที่ใส่สบาย

ประเทศที่มีอากาศหนาวเย็นระดับประถม (0-15 องศาเซลเซียส)

ยกระดับความหนาวเย็นขึ้นมาอีกนิดหนึ่ง อุณหภูมิขนาดนี้เป็นช่วงฤดูหนาวของต่างประเทศซึ่งหนาวกว่าบ้านเรามาก ยิ่งกับผู้ที่เคยชินกับอากาศ 20 องศาปลาย ๆ ของภาคกลางแล้วล่ะก็อาจป่วยได้ ที่อุณหภูมิขนาดนี้ควรติดผ้าพันคอและเพิ่มความอบอุ่นให้แก่ศีรษะของคุณด้วยหมวกไหมพรม สวมถุงมือไหมพรมเพื่อป้องกันลมช่วยเพิ่มความอบอุ่นให้กับมือของคุณได้เป็นอย่างดี

  • ชุดชั้นใน จุดนี้ควรเลือกชุดชั้นในที่มีความหนาเพื่อช่วยเพิ่มความอบอุ่นให้กับร่างกายแล้วสวมลองจอนทับอีกชั้น
  • เสื้อผ้า แนะนำเป็นเสื้อวูล, เสื้อฮีทเทค หรือเป็นสเวตเตอร์ที่หนาสักนิดมีแขนยาวและปิดคอเพื่อเก็บความร้อนและให้ความอบอุ่น ส่วนท่อนล่างควรสวมลองจอนวูลเพื่อเพิ่มความอบอุ่นให้ขาของคุณ และสวมกางเกงยีนส์หนา ๆ ทับอีกชั้น
  • เสื้อกันหนาว ควรเลือกเสื้อโค้ทที่มีความหนาและมีฮู้ดไว้ป้องกันความหนาวเย็นจากลมหากคุณต้องยืนตากลมนาน ๆ อาจทำให้รู้สึกไม่สบายได้ และเสื้อกันหนาวหรือโค้ทควรมีความยาวเลยสะโพกลงไปยิ่งถ้าได้เสื้อขนเป็ดก็จะดีมาก
  • รองเท้า ควรเตรียมถุงเท้าวูลและรองเท้าบูทไปด้วย

ประเทศที่มีอากาศหนาวเย็นระดับมหาวิทยาลัย ( -15 ถึง -1 องศาเซลเซียส)

ความหนาวระดับนี้เป็นระดับที่มีหิมะตกนอกจากความหนาวเย็นแล้วคุณอาจต้องพบกับความชื้นของหิมะด้วย ต้องจัดเตรียมเสื้อผ้าที่สามารถระบายความชื้นได้ดี เก็บความอบอุ่นได้ดีและกันเปียก หากเสื้อโค้ทที่คุณเตรียมไปไม่มีฮู้ดควรเตรียมหมวกไหมพรมหนา ๆ ที่ปิดหูและถุงมือไหมพรมวูล รวมถึงถุงเท้าไหมพรมวูลไปด้วย

  • ชุดชั้นใน เลือกชุดชั้นในที่มีความหนาเพื่อรักษาความอบอุ่นแล้วสวมลองจอนทับอีกชั้นหนึ่ง ควรเลือกแบบที่ระบายความชื้นได้เร็วแล้วสวมไทต์เลกกิ้งหนาและแพนตี้โฮสด้านล่าง
  • เสื้อผ้า สวมแจ็คเกตบาง ๆ หรือเสวตเตอร์ผสมขนสัตว์เพิ่มความอบอุ่นแขนยาวไว้ด้านใน ท่อนล่างใส่ลองจอนวูลที่สามารถระบายความชื้นได้ดีหากคุณต้องเจอกับหิมะสวมยีนห์หนาที่มีเนื้อผ้าสามารถกันลมได้ดีหรือกางเกงผ้าร่มบุด้านในที่สามารถกันเปียกได้ดี
  • เสื้อกันหนาว เสื้อกันหนาวควรเลือกเป็นวูลขนเป็ดและผ้าด้านนอกกันเปียก หากเป็นโค้ทควรเลือกตัวยาว ยาวถึงเขาเลยยิ่งดี มีความหนามาก ๆ แต่แนะนำเป็นเสื้อวูลขนเป็ดที่มีความหนาแน่นมากดีกว่าเพื่อเก็บความอบอุ่นให้กับคุณ และหากคุณมั่นใจว่าต้องเจอหิมะแน่ ๆ ไม่ควรเลือก Down Jacket มาใส่เพราะถึงแม้จะเบาและอบอุ่นแต่โดนความชื้นเข้าไปแจ็คเก็ตจะเปียกและไม่อุ่นอีกต่อไปจ้า
  • รองเท้า ควรเตรียมถุงเท้าวูลและรองเท้าบูทที่ยาวถึงเข่าและสามารถเดินบนหิมะได้ไปด้วย

สำหรับจำนวนนั้นขึ้นอยู่กับระยะเวลาของทริปนี้ด้วยหากไปเพียง 2-3 วันเตรียมเสื้อกันหนาวไปตัวเดียวและชุดชั้นในและเสื้อผ้าตามจำนวนวันและรองเท้าบูทและผ้าใบอย่างละคู่ก็เพียงพอแล้วแต่หากไป 7 วันขึ้นไปควรตระเตรียมเสื้อหนาวไปเผื่ออีกสักหนึ่งตัวหรือไปซื้อเพิ่มที่ประเทศนั้น ๆ ก็ได้คุณจะได้เสื้อที่เหมาะเหม็งกับสภาพอากาศทีเดียวเชียว สำหรับผู้ที่ตั้งใจไปสกีหรือปีนเขาต้องเตรียมอุปกรณ์เซฟตี้แขนขา แว่นกันลมรวมถึงถุงมือที่เหมาะสำหรับปีนเขาและเล่นสกีไปด้วยนะ

เรามุ่งมั่นที่จะช่วยเหลือและดูแลคุณ

อลิอันซ์ทราเวลเป็นผู้นำระดับโลกด้านประกันภัยการเดินทางและบริการช่วยเหลือทั่วไป เรามีแผนประกันภัยที่หลากหลายให้เลือก ครอบคลุมตั้งแต่แผนรายเที่ยว แผนรายปี แผนครอบครัว ไปจนถึงแผนเดินทางศึกษาต่อต่างประเทศ เราทุ่มเทที่จะให้บริการช่วยเหลือและปกป้องคุณทุกที่ ทุกเวลาเท่าที่เราจะทำได้ เราไม่ได้จำกัดอยู่แค่ประกันภัยและการให้ความช่วยเหลือ แต่เรามุ่งเน้นไปที่สิ่งที่มากกว่านั้น และทุกบริการของเราก็เพื่อลูกค้าคนสำคัญของเรา

ผู้ชนะ 10 TRIP … กับ 10 TIPS ในการเตรียมตัวไป TRIP ทัวร์ต่างประเทศ

เพื่อนๆ อาจเคยได้ยินประโยคเชิญชวนท่องเที่ยวที่ว่า “เที่ยวเมืองไทย ไม่ไป ไม่รู้” อย่าว่าแต่เมืองไทยเลย เราอยากบอกว่า เที่ยวเมืองนอกก็เช่นกัน แต่ที่สำคัญไปกว่านั้นคือ ถ้าไปแบบไม่รู้ และไม่ได้เตรียมอะไรเลย ต้องแย่แน่ๆ เราจึงรวบรวมและหวังว่า 10 Tips ต่อไปนี้ อาจจะช่วยคุณได้

1. เครื่องแต่งกาย

เป็นสิ่งจำเป็นที่ไม่ควรมองข้ามอย่างยิ่ง คุณควรจะศึกษาสภาพอากาศของประเทศที่คุณจะเดินทางไป หนาวไหม ร้อนมากหรือเปล่า รวมถึงข้อห้ามในท้องถิ่นของเขา เช่น ประเทศแถบตะวันออกกลาง หรือ ประเทศที่มีข้อห้ามทางศาสนาในการแต่งตัวต่างๆ ศึกษาให้ดีๆ ในกระเป๋าเดินทางของคุณจะได้เต็มไปด้วยเครื่องแต่งกายที่พร้อมใส่ทุกสถานการณ์ไงล่ะ

2. ของใช้ส่วนตัว

เครื่องแต่งกายว่าสำคัญแล้ว ของใช้ส่วนตัวยิ่งสำคัญมากขึ้นไปอีก ไม่ว่าจะเป็นสิ่งของเบสิคอย่าง แปรงสีฟัน ยาสีฟัน โฟมล้างหน้า ไปจนถึงที่โกนหนวด หรือครีมต่างๆ ขอแนะนำอีกนิดว่า คุณควรจะติดพวกทิชชู่เปียก ไม้จิ้มฟัน ชุดเข็มกับด้าย ไว้เผื่อเวลาฉุกเฉินด้วยนะ

3. GADGET

ในโลกยุคไซเบอร์นี้ คงไม่มีใครไม่พก Gadget ติดตัวแน่ๆ ที่ขาดไม่ได้เลยก็คงเป็นสมาร์ทโฟนที่สามารถบันทึกภาพความทรงจำดีๆ ของเราได้ แต่อย่าลืมอุปกรณ์ในการชาร์จเชียวนะ เพราะที่เมืองนอกน่ะ ปลั๊กไฟหรือกระแสไฟอาจจะไม่เหมือนที่บ้านเรา ฉะนั้นควรเตรียม “ที่แปลงหัวปลั๊กไฟ” ติดตัวไว้ด้วยเป็นดีที่สุด และไม่ควรมองข้ามเครื่องมือแปลภาษา ที่จะช่วยให้เราสื่อสารกับคนรอบข้างได้ ไม่ว่าจะเป็นพจนานุกรมหรืออุปกรณ์ในรูปแบบอื่นๆ ซึ่งเดี๋ยวนี้ก็มีแอพลิเคชั่น ไว้ให้โหลดกันง่ายๆ บนโทรทัศท์มือถือแล้วด้วย

4. เตรียมเสบียงไว้เลี้ยงตัว

ระหว่างเดินทางอาจจะต้องมีท้องร้องกันบ้างแหละ หรือในมื้อแรกๆ อาจจะยังไม่คุ้นชินกับอาหารหน้าตาแปลกๆ ที่เราไม่เคยกินมาก่อน ยามนี้เราจึงควรหยิบเสบียงที่เตรียมไว้เล็กๆ น้อยๆ ในกระเป๋าออกมาประทัง เพื่อคลายความหิวกันสักนิด

5. ยาสามัญประจำบ้าน และยาโรคประจำตัว

ถ้าไม่อยากให้การท่องเที่ยวทริปนี้กลายเป็นทริปรักษาร่าง นอนป่วยอยู่แต่ที่โรงแรม จนไม่ได้ออกไปเที่ยวตามแพลนที่วางไว้ ก็แนะนำว่า อย่าได้ลืมยาสามัญประจำบ้าน และยาโรคประจำตัว ไว้ในกระเป๋าเดินทางด้วย รวมถึงพวกชุดปฐมพยาบาลก็ไม่ควรละเลยนะ เกิดอะไรขึ้นมาจะได้แก้ปัญหาได้ทันท่วงทีไงล่ะ

6. เงินสด และบัตรเครดิต

แม้ว่าปัจจุบัน การเบิกเงินในต่างแดนจะทำได้สะดวก แต่เราก็ควรเตรียมเงินสดติดกระเป๋าไว้สักนิด รวมถึงการแลกสกุลเงินที่ต้องใช้ไปก่อนเดินทางเลย เพื่อการใช้จ่ายที่ไม่สะดุดและป้องกันเหตุไม่คาดฝัน และที่ขาดไม่ได้คือบัตรเครดิต ที่สามารถใช้ได้ทุกมุมทั่วโลก เน้นว่าห้ามลืมข้อนี้เป็นอันขาด ไม่งั้นกลับบ้านไม่ได้ไม่รู้ด้วยนะ

7. เอกสารแสดงตน และเอกสารสำคัญอื่นๆ

จะเดินทางทั้งที มัวเตรียมแต่เครื่องแต่งกายจนลืมเอกสารแสดงตนหรือเอกสารสำคัญอื่นๆ คงหมดสนุกอยู่แค่สนามบินชัวร์!!! ถ้ายังงั้นลองเขียนเช็คลิสต์ในหมวดนี้ดูว่า นอกจากบัตรประชาชนและพาสปอร์ตแล้ว ยังมีอะไรต้องพกใส่กระเป๋าไปอีก เช่น นามบัตร เบอร์ติดต่อกรณีฉุกเฉิน ตั๋วเดินทาง แผนที่ แผนการเดินทาง สมุดบันทึก Hotel Reservation Travel insurance เห็นไหม นี่ถ้าไม่เช็คตามลิสต์นี้ กระเป๋าที่จัดมาคงต้องหอบกลับไปบ้านเหมือนเดิม

8. สนามบิน และการเช็คอินของสายการบิน

ก่อนเดินทางจริง เราแนะนำให้ตรวจสอบเส้นทางไปสนามบิน จะได้ไม่หลงทาง และในวันจริงควรเผื่อเวลาเดินทางแบบชิลล์ๆ ไปสนามบินด้วยนะ อย่างน้อยสัก 2 ชั่วโมง เผื่อมีอะไรผิดพลาด จะได้มีเวลาแก้ปัญหาได้ทัน อย่าลืม!!! ตรวจสอบการเช็คอินของสายการบินให้ละเอียดด้วยทั้งที่ตั้งของอาคาร หมายเลขเคาน์เตอร์ น้ำหนักของกระเป๋าเดินทาง พร้อมแทคกระเป๋า ตามจำนวนที่เราฝากลงท้องเครื่อง เพื่อเป็นหลักฐานในการเคลม เมื่อกระเป๋าของเราเกิดความผิดพลาดในการส่ง หรือเสียหายนั่นเอง

9. ตรวจสอบสถานที่ท่องเที่ยวของท้องถิ่น หรือ งานเทศกาลต่างๆ

หลายคนพลาดมากๆ ในข้อนี้ ถือว่าเราแนะนำเพิ่มเติมจากสถานที่ที่เป็นจุดแลนด์มาร์คที่สมควรจะไปอยู่แล้ว ว่าเราควรหาข้อมูลเพิ่มเติม เกี่ยวกับสถานที่ท่องเที่ยวของท้องถิ่นนั้นๆ หรืองานเทศกาลที่อาจจัดขึ้นในช่วงเวลาที่เราท่องเที่ยวอยู่ในบริเวณนั้น เพื่อเป็นการเปิดมุมมองใหม่ๆ ความรู้สึกใหม่ๆ ให้กับตัวเองด้วย

10. หลีกเลี่ยงพื้นที่เสี่ยง

ถ้าต้องประสบเหตุการณ์เสี่ยงตายในพื้นที่ไกลบ้าน คงเป็นความทรงจำที่ยากจะลืมเลือน เรื่องแบบนี้เลี่ยงได้ก็ควรเลี่ยงดีกว่า เช่น ไม่เข้าไปท่องเที่ยวในพื้นที่ที่มีสถานะการณ์ตึงเครียดทางการทหารจากการสู้รบ การโจมตี หรือด้านการเมือง ไม่ว่าจะเป็นการเดินขบวนประท้วง และพื้นที่ที่มีปัญหาขัดแย้ง เป็นต้น พื้นที่เหล่านี้จะมีการควบคุมโดยกองกำลังความมั่นคงต่างๆ มากมาย ซึ่งอาจจะทำให้เกิดความล่าช้าหรือปัญหาอื่นๆ จากมาตราการที่มีความเข้มงวด หรือปฎิบัติการของกองกำลังเหล่านี้ และถ้าเลี่ยงไม่ได้จริงๆ ควรมีเบอร์ของสถานทูต รวมถึงหน่วยงานอื่นๆ เพื่อสามารถติดต่อได้ยามฉุกเฉินด้วย

เป็นไงบ้างเอ่ย กับ 10 ข้อด้านบนที่เราเอามาฝากกัน ถ้าเช็คลิตส์ครบถ้วนแล้ว ก็เตรียมแพ็คกระเป๋า เดินทางข้ามน้ำข้ามทะเลไปเปิดมุมมองใหม่ๆ ให้กับชีวิตกันได้เลย! แล้วอย่าลืมเก็บเกี่ยวประสบการณ์กลับมาให้ได้มากๆ ล่ะ เพื่อให้การเป็นนักเดินทางในครั้งนี้ คุ้มค่าตั๋วสุดๆ ให้สมกับเป็น “ผู้ชนะ 10 trip … กับ 10 Tips ในการเตรียมตัวไป trip ทัวร์ต่างประเทศ” เลย

เรามุ่งมั่นที่จะช่วยเหลือและดูแลคุณ

อลิอันซ์ทราเวลเป็นผู้นำระดับโลกด้านประกันภัยการเดินทางและบริการช่วยเหลือทั่วไป เรามีแผนประกันภัยที่หลากหลายให้เลือก ครอบคลุมตั้งแต่แผนรายเที่ยว แผนรายปี แผนครอบครัว ไปจนถึงแผนเดินทางศึกษาต่อต่างประเทศ เราทุ่มเทที่จะให้บริการช่วยเหลือและปกป้องคุณทุกที่ ทุกเวลาเท่าที่เราจะทำได้ เราไม่ได้จำกัดอยู่แค่ประกันภัยและการให้ความช่วยเหลือ แต่เรามุ่งเน้นไปที่สิ่งที่มากกว่านั้น และทุกบริการของเราก็เพื่อลูกค้าคนสำคัญของเรา

เที่ยวต่างประเทศแบบมือใหม่ ปลอดภัยตั้งแต่ไปยันกลับ

เดี๋ยวนี้เพื่อนในเฟซบุ๊คนี่นิยมไปเที่ยวต่างประเทศ อวดอุณหภูมิติดลบกันเป็นว่าเล่นเลยนะ แถมยังไปคนเดียวอีกต่างหาก! ก็เพราะการเดินทางมันช่างสะดวกสบายซะขนาดนี้ หยิบมือถือเข้าแอพจองตั๋วเครื่องบินไม่ถึง 10 นาทีก็เตรียมตัวเก็บกระเป๋าเดินทางได้แล้ว ทำให้คนเราเลือกจะไปไหนมาไหนคนเดียวมากขึ้น ไม่ต้องมารอใครให้เสียเวลา อยากไปไหนก็ไป อยากแวะไหนก็แวะ จะหยุดชิมกินอาหารข้างทางทุกร้านก็ไม่มีใครว่า สบายใจสุด ๆ

แต่สำหรับมือใหม่ที่เพิ่งเคยออกรอบไปเที่ยวต่างประเทศคนเดียวก็อาจจะยังไม่รู้ว่าควรจะเตรียมตัวอะไรยังไงดี เพราะฉะนั้นวันนี้เราจึงรวบรวมวิธีเตรียมตัวเดินทางไปต่างประเทศคนเดียวแบบปลอดภัย อุ่นใจตั้งแต่ไปยันกลับ มาให้เพื่อน ๆ ได้ชมกัน อ่านเสร็จแล้วเตรียมแพ็คกระเป๋าได้เลย

1. เตรียมเงินให้พร้อม ก่อนท่องโลก

แน่นอนอยู่แล้วว่าต่างประเทศเค้าไม่ได้ใช้สกุลเงิน “บาท” แบบเราหรอก เพราะฉะนั้นเราต้องแลกเงินแลกทองไว้ให้พร้อม วางแผนให้ดีว่าเราจะไปไหนบ้าง แต่ละที่ใช้เงินประมาณเท่าไหร่ เพราะอัตราแลกเปลี่ยนหรือค่าธรรมเนียมของประเทศที่เราไปมันอาจแพงหูฉี่เหมือนโดนปล้นเลยก็ได้ ดังนั้นเตรียมตัวให้พร้อมตั้งแต่ที่นี่ดีกว่าเนอะ

2. ถ่ายเอกสารสำคัญเก็บไว้ด้วย ช่วยได้เยอะ

บางประเทศมีสถานที่ท่องเที่ยวสวยก็จริง แต่โจรนี่ชุมยิ่งกว่ายุงซะอีก ทำให้เอกสารสำคัญต่าง ๆ ของเราอาจหายหรือถูกขโมยได้ ดังนั้นทางที่ดี ก่อนออกเดินทางเนี่ยให้เราถ่ายเอกสารของสำคัญพวกนี้ให้ครอบครัวเก็บไว้ด้วย เพราะถ้ามีอะไรขึ้นมาอย่างน้อยเราก็ขอสำเนาจากพวกเค้าได้

3. ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหน ต้องติดต่อได้ตลอด

เวลาไปไหนมาไหนคนเดียวพ่อแม่ก็ต้องเป็นห่วง อยากรู้อยู่แล้วว่าเราเป็นยังไง อยู่ที่ไหน ทำอะไรอยู่ ซึ่งถ้าเราสามารถติดต่อได้ตลอด คุยกับพวกเค้าอยู่เรื่อย ๆ มันก็จะยิ่งทำให้เราปลอดภัยยิ่งขึ้นด้วย เพราะฉะนั้นลงเครื่องปุ๊ปให้ไปซื้อโทรศัพท์มือถือมาเปิดซิมปั๊ปเลย จะได้ติดต่อกันได้สะดวก แล้วไปไหนกับใครก็อย่าลืมบอกเค้าไว้ด้วยล่ะ

4. ถ้าไม่จำเป็น ไม่ต้องพูดเรื่องส่วนตัว

ไอคำทีว่า “คนเรารู้หน้าไม่รู้ใจ” นี่ยังใช้ได้อยู่ตลอดนะ โดยเฉพาะกับการไปเที่ยวต่างประเทศคนเดียวด้วย ยิ่งต้องเพลย์เซฟให้มากที่สุด ไม่ใช่รู้จักกันแค่แป๊ปเดียวก็ไปบอกเค้าซะหมดว่าพักอยู่ไหน ห้องอะไร พรุ่งนี้จะไปไหนบ้าง ข้อมูลแน่นขนาดนี้ จะโดนดักปล้นก็คงไม่แปลกอะไรแล้วแหละ เพราะฉะนั้นให้บอกเรื่องส่วนตัวเหล่านี้เฉพาะตอนที่จำเป็นเท่านั้นก็พอแล้ว

5. พกพาสปอร์ตติดตัว ชัวร์กว่าเยอะ

เดี๋ยวนี้มีข่าวให้เห็นกันบ่อยนะว่ามิจฉาชีพต่างประเทศเนี่ยเค้าจะขโมยพาสปอร์ตกัน เอาไปขายเล่มนึงได้ตั้งเป็นแสน ๆ สงสัยกันใช่มั้ยล่ะว่าเค้าจะขโมยพาสปอร์ตไปทำไม ก็เอาไปให้คนร้ายที่มีรูปพรรณใกล้เคียงกับเรามากที่สุดใช้ไง ทีนี้คนพวกนั้นจะเข้าจะออกประเทศไหนในชื่อเราก็ง่ายละ แถมความซวยยังมาตกที่เราอีก ดังนั้นห้ามเก็บไว้ที่โรงแรมเด็ดขาด พกติดตัวไว้ตลอดน่ะปลอดภัยกว่าเยอะ

6. ซื้อประกันเดินทางไว้ อุ่นใจสุด ๆ

อย่าได้คิดเลยนะว่า “ไปต่างประเทศแค่แป๊ปเดียวเอง คงไม่มีอะไรหรอกมั้ง” ก็เพราะไอความประมาทพวกนี้แหละที่ทำให้ใครต่อใครต้องเสียเงิน เสียเวลากันไปแล้วตั้งเท่าไหร่ เพราะอย่างที่รู้ว่าอุบัติเหตุมันเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา ยิ่งเราเดินทางไปคนเดียวในต่างแดนด้วย การซื้อประกันเดินทางไว้ เสียเงินแค่ไม่กี่ร้อยบาทแลกกับความอุ่นใจ ยังไงก็คุ้ม เวลาเจ็บไข้ได้ป่วยตอนอยู่ที่นั่นก็ไม่ต้องหาโรงพยาบาลเอง ติดต่อแพทย์เอง และที่สำคัญนะ ไม่ต้องจ่ายค่ารักษาที่แพงหูฉี่เองด้วย ซื้อประกันเดินทางน่ะดีที่สุดแล้ว

ทั้งหมดนี้ก็เป็นเคล็ดลับเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่จะทำให้เพื่อน ๆ ทุกคนเที่ยวต่างประเทศคนเดียวได้อย่างปลอดภัย สบายใจ ไม่ต้องคอยมากังวลกับเรื่องไม่เป็นเรื่องต่าง ๆ ยิ่งถ้าเราเตรียมตัวเองให้พร้อมรับมือกับสถานการณ์ที่จะเจอได้มากเท่าไหร่ ต่อให้เป็นมือใหม่ หรือมือเก่า การท่องเที่ยวในต่างแดนคนเดียวก็ไม่ใช่เรื่องน่ากลัวอีกต่อไป

เรามุ่งมั่นที่จะช่วยเหลือและดูแลคุณ

อลิอันซ์ทราเวลเป็นผู้นำระดับโลกด้านประกันภัยการเดินทางและบริการช่วยเหลือทั่วไป เรามีแผนประกันภัยที่หลากหลายให้เลือก ครอบคลุมตั้งแต่แผนรายเที่ยว แผนรายปี แผนครอบครัว ไปจนถึงแผนเดินทางศึกษาต่อต่างประเทศ เราทุ่มเทที่จะให้บริการช่วยเหลือและปกป้องคุณทุกที่ ทุกเวลาเท่าที่เราจะทำได้ เราไม่ได้จำกัดอยู่แค่ประกันภัยและการให้ความช่วยเหลือ แต่เรามุ่งเน้นไปที่สิ่งที่มากกว่านั้น และทุกบริการของเราก็เพื่อลูกค้าคนสำคัญของเรา

8 วิธีลดค่าใช้จ่ายเที่ยวต่างประเทศให้สบายกระเป๋า

การเที่ยวต่างประเทศเป็นความฝันของใครหลายๆคน แต่การเที่ยวต่างประเทศในแต่ละครั้งนั้นมีค่าใช้จ่ายที่มากเกินไป เราจึงมีวิธีวางแผนเที่ยวแบบประหยัดที่กลับมาแล้วไม่ล้มละลายจนต้องกินมาม่าไปทั้งเดือนมาฝากผู้อ่านกันครับ

1. เลี่ยงการพักในโรงแรม หันใช้บริการ AIRBNB และ HOSTEL

ค่าใช้จ่ายหลักในการเดินทางไปเที่ยวต่างประเทศคือค่าที่พัก หนึ่งวิธีที่จะช่วยลดค่าใช้จ่ายในส่วนนี้ลงได้คือการหลีกเลี่ยงการเข้าพักในโรงแรมและหันมาพักในโฮสเทลหรือที่พักประเภท AirBNB แทน ซึ่งในปัจจุบันธุรกิจประเภทนี้กำลังเป็นที่นิยมในหมู่นักท่องเที่ยววัยรุ่นอย่างมาก ถึงแม้ความสะดวกสบายอาจจะไม่เท่าและความเป็นส่วนตัวอาจจะน้อยกว่าการพักในโรงแรม แต่การพักในโฮสเทลและ AirBNB จะทำให้คุณได้รู้จักกับคนใหม่ๆ ที่เดินทางมาจากหลายประเทศทั่วโลก ซึ่งถือเป็นประสบการณ์ที่ดีครั้งหนึ่งในชีวิต

2. ซื้อตั๋วโปร

การเดินทางไปต่างประเทศในปัจจุบันไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป เนื่องจากสายการบิน Low Cost มากมายต่างออกโปรโมชั่นเรียกลูกค้าตลอดทั้งปี ดังนั้นการกดฟอลโล่วและไลค์เพจท่องเที่ยวหรือตั๋วถูกเช่น Chang Trixget หรือ อาแปะ ทำให้คุณไม่มีทางพลาดตั๋วโปรดีๆอย่างแน่นอน นอกจากนี้การรู้จักสุดยอดเครื่องมืออย่าง Google Flight ก็เป็นอีกหนึ่งสิ่งที่จะช่วยให้การวางแผนหาตั๋วเครื่องบินราคาถูกนั้นง่ายขึ้น เนื่องจาก Google Flight นั้นจะช่วยเปรียบเทียบราคาของทุกสายการบิน คุณไม่ต้องกลัวว่าจะพลาดซื้อตั๋วแพงอย่างแน่นอน

3. ศึกษาการเดินทาง

แต่ละเมือง แต่ละประเทศมีคมนาคมขนส่งที่แตกต่างกัน ดังนั้นการศึกษาเส้นทางเพื่อประหยัดค่าใช้จ่ายในการเดินทางเป็นอีกหนึ่งวิธีที่ควรทำ เช่นการเดินทางจากสนามบินกัวลาลัมเปอร์เพื่อเข้าตัวเมือง มีวิธีการเดินทางกว่า 4 วิธี หากไม่ได้ศึกษาการเดินทางคนส่วนใหญ่อาจจะเลือกใช้รถไฟ KLIA Transit ซึ่งเฉลี่ยราคาตกอยู่คนละ 400 บาท ซึ่งถ้าหากคุณเดินทางเป็นหมู่คณะ การเลือกใช้ Uber หรือ Grab อาจจะมีราคาที่ถูกลงและสะดวกกว่ามาก ดังนั้นควรศึกษาวิธีการเดินทางให้ดี คำนวณราคาต่อหัวเพื่อประหยัดงบในส่วนนี้ลงได้

4. เตรียมคูปองส่วนลดให้พร้อม

โดยส่วนตัวแล้ว ถ้าหากคุณต้องเดินทางด้วย Uber หรือ Grab ในเมืองนั้นๆ การเตรียมคูปองส่วนลดสำหรับค่าใช้จ่ายเป็นหนึ่งสิ่งที่จะช่วยประหยัดได้ไม่มากก็น้อย ถ้าหากจะพูดถึงเว็บไซต์คูปองใหญ่ๆในเมืองไทยก็คงต้องนึกถึง iPrice ซึ่งมีคูปองที่หลากหลายรูปแบบให้เลือกใช้ ก่อนการเดินทางคุณควรเซฟคูปองเผื่อเอาไว้ใช้ระหว่างการเดินทาง

5. ทาน FAST-FOOD บางมื้อ

ร้าน Fast-food เช่น McDonalds’, KFC, Subway ในบางประเทศนั้นมีราคาที่ค่อนข้างถูกเมื่อเทียบกับอาหารประเภทอื่นๆ ในบางประเทศอาหาร Fast-Food อาจมีราคาที่ถูกกว่าในประเทศไทยด้วยซ้ำ ถ้าหากคุณมีโอกาสและต้องการประหยัดก็ลองเข้าไปเช็กราคาและทานอาหารประเภทนี้ในบางมื้อ

6. เที่ยวพิพิธภัณฑ์แบบไม่มีค่าใช้จ่าย

หลายๆเมืองในทวีปยุโรปและอเมริกานั้น ทางรัฐบาลมีการสนับสนุนแหล่งท่องเที่ยวและสร้างพิพิธภัณฑ์ที่ให้ความรู้แก่ประชาชนโดยไม่มีค่าใช้จ่าย เช่นในกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. ประเทศสหรัฐอเมริกามี Smithsonian ซึ่งเป็นพิพิธภัณฑ์ที่ใหญ่ที่สุดในโลกซึ่งเปิดให้ประชาชนได้เข้าชมฟรี ถ้าหากคุณคิดว่าของฟรีมันจะไปดีอะไร บอกได้เลยว่าคุณคิดผิด เพราะสถานที่เหล่านี้ถูกสร้างมาจากรัฐบาลและถูกโปรโมทให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวเพื่อสร้างชื่อเสียงให้กับเมืองของเขาอยู่แล้ว ดังนั้นคุณควรศึกษาหาสถานที่ท่องเที่ยวที่ไม่เก็บค่าใช้จ่ายเอาไว้ลดค่าใช้จ่ายในทริปส์ของคุณ

7. อย่าลืมทำ TAX REFUND

ในบางประเทศอาทิ ญี่ปุ่น, เกาหลี, ไต้หวัน มีนโยบายเพื่อโปรโมตการท่องเที่ยวผ่านการทำ Tax Refund ให้กับนักท่องเที่ยวที่เข้ามาใช้จ่ายในประเทศของเขา การเก็บใบเสร็จและนำไปขอคืนภาษีที่สนามบินจะช่วยให้คุณได้ประหยัดเงินเล็กน้อย ถ้าหากคุณเป็นนักช้อปปิ้งตัวยง คุณอาจจะได้เงินจำนวนหนึ่งไปกินขนมเล่นที่ไทยก็ได้

8. ใช้สิทธิพิเศษจากบัตรเครดิต

บริษัทบัตรเครดิตต่างปล่อยสิทธิพิเศษดีๆมากมายสำหรับลูกค้าผู้ใช้บัตร การเลือกใช้บัตรในบางสถานการณ์อาจช่วยให้คุณได้รับเงินคืนบ้าง (Rebate) และที่สำคัญหากสถานที่ท่องเที่ยวหรือร้านอาหารมีการทำโปรโมชั่นกับบัตรที่คุณถืออยู่ คุณสามารถใช้บัตรเครดิตเพื่อรับสิทธิพิเศษดีๆนี้เช่นกัน

จากข้อแนะนำทั้งหมดนี้ ผู้อ่านคงทราบดีแล้วว่าการค้นหาข้อมูลและการวางแผนก่อนออกเดินทางเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดที่จะทำให้คุณออกเที่ยวต่างประเทศได้อย่างไร้กังวลและเสียค่าใช้จ่ายน้อยที่สุด ถ้าหากคุณเป็นคนหนึ่งที่รักในการท่องเที่ยวต่างประเทศ ก็อย่าลืมนำไอเดียเหล่านี้ไปปรับใช้เพื่อลดค่าใช้จ่ายในแต่ละทริปส์เพื่อกลับมาจะได้ไม่ต้องนั่งต้มมาม่ากินครับ

เรามุ่งมั่นที่จะช่วยเหลือและดูแลคุณ

อลิอันซ์ทราเวลเป็นผู้นำระดับโลกด้านประกันภัยการเดินทางและบริการช่วยเหลือทั่วไป เรามีแผนประกันภัยที่หลากหลายให้เลือก ครอบคลุมตั้งแต่แผนรายเที่ยว แผนรายปี แผนครอบครัว ไปจนถึงแผนเดินทางศึกษาต่อต่างประเทศ เราทุ่มเทที่จะให้บริการช่วยเหลือและปกป้องคุณทุกที่ ทุกเวลาเท่าที่เราจะทำได้ เราไม่ได้จำกัดอยู่แค่ประกันภัยและการให้ความช่วยเหลือ แต่เรามุ่งเน้นไปที่สิ่งที่มากกว่านั้น และทุกบริการของเราก็เพื่อลูกค้าคนสำคัญของเรา

[INFOGRAPHIC] 6 กระเป๋าและ CHECK LIST ติ๊กให้ครบก่อนเที่ยวต่างประเทศ

อย่างที่รู้ๆกันอยู่ว่าการเดินทางออกนอกประเทศจะต้องเตรียมเอกสารสำคัญหลายอย่าง รวมถึงการหาซื้อของใช้ที่จำเป็นในต่างประเทศค่อนข้างหายาก ดังนั้นการเตรียมของให้พร้อมก่อนออกเดินทางนั้นมีความสำคัญ ฉะนั้นวันนี้เราจะมาพูดถึง Check List สิ่งของที่ควรจัดใส่กระเป๋าให้เป็นระเบียบจะได้เที่ยวต่างประเทศอย่างไร้กังวล โดยเราจะแบ่งการจัดสิ่งของออกเป็น 6 กระเป๋าดังต่อไปนี้

1. กระเป๋า CARRY ON

กระเป๋าใบแรกที่เราจะพูดถึงก็คือกระเป๋าใบเล็กสำหรับนำขึ้นเครื่องนั่นเอง การเดินทางไปต่างประเทศถ้าหากเดินทางไปสหรัฐอเมริกาหรือยุโรปก็อาจจะต้องเตรียมสิ่งของเพื่อเอนเตอร์เทนตัวเองบนเครื่องบินที่แสนจะยาวนาน สิ่งของที่คุณควรเตรียมได้แก่

  • USB Cable ควรเตรียมติดตัวไว้ตลอดเวลา ถ้าหากเราเล่นเกมหรือฟังเพลงบนเครื่องจะได้มีสายชาร์จโทรศัพท์เพื่อไม่ให้ความบันเทิงของคุณขาดตอน
  • หูฟังส่วนตัวเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้ ถึงแม้บางสายการบินจะให้บริการหูฟัง แต่คุณภาพของหูฟังอาจจะไม่ดี บางอันเสียงไม่ดี บางอันก็สายสั้นจนเกินไป ดังนั้นควรเตรียมหูฟังอันโปรดของคุณเพื่อความบันเทิงที่ครบรส
  • อุปกรณ์อิเล็กโทรนิกส์เช่นโทรศัพท์มือถือ, คอมพิวเตอร์และกล้อง ควรจัดใส่กระเป๋า Carry On สิ่งของเหล่านี้เป็นสิ่งของมีมูลค่าสูง ควรนำติดตัวไว้ตลอด ถ้าหากกระเป๋ามีล็อคก็ควรปิดให้สนิทเพื่อป้องกันผู้ไม่ประสงค์ดี
  • หนังสืออ่านเล่นดีๆสักเล่มจะช่วยให้การเดินทางที่แสนยาวนานลดความตึงเครียดลงได้ ถ้าหากมีเวลาไม่พอสำหรับการหาซื้อหนังสือ คุณอาจจะซื้อ Magazine Gossip เบาสมองเอามาอ่านฆ่าเวลา
  • โดยส่วนตัวผมมักจะเตรียมอาหารว่างหรือขนมใส่ไว้ในกระเป๋า Carry On เนื่องจากเราอาจจะหิวระหว่างการเดินทางและสายการบินให้บริการอาหารไม่ตรงเวลา การเตรียมอาหารเบาๆไว้รองเท้าเป็นการแก้ปัญหาได้ทางหนึ่ง
  • ถ้าหากคุณมีปัญหากับการนั่งแล้วคอตก คอพับ คุณควรเตรียมหมอนรองคอมาใช้เพื่อซัพพอร์ตให้คุณนอนหลับได้สบายยิ่งขึ้น
  • สำหรับไฟล์ทยาวๆ ผมมักเจอผู้โดยสารนำแผ่นมาส์กหน้าขึ้นมาใช้ระหว่างนอนหลับ เนื่องจากอากาศในตัวเครื่องค่อนข้างแห้ง การใช้แผ่นมาส์กหน้าจะช่วยให้คุณมีผิวหน้าที่เปล่งปลั่งพร้อมลุยได้อย่างเฉิดฉาย
  • Adapter ควรเตรียมจากประเทศไทยเพราะเป็นอุปกรณ์อิเล็กโทรนิกส์ที่ค่อนข้างหาซื้อได้ยากในต่างประเทศ แถมราคาค่อนข้างแพงเมื่อเทียบกับประเทศไทย
  • สิ่งสุดท้ายที่ห้ามลืมโดยเด็ดขาดก็คือปากกาที่จะต้องนำมากรอกเอกสารตรวจคนเข้าเมือง แต่ถ้าหากไม่ได้เตรียมมา คุณอาจจะขอยืมจาก Flight Attendant ก็ได้

2. CHECKED BAG

การเลือกกระเป๋า Checked Bag ใบนี้ควรเลือกกระเป๋าที่มีความเบาและขนาดเหมาะสมสำหรับการใช้งาน กระเป๋า Cheked Bag จะเป็นกระเป๋าที่ใช้ใส่สำภาระของใช้ต่างๆ อาทิ

  • เสื้อผ้า
  • รองเท้า
  • เครื่องประดับ
  • เครื่องสำอางและของใช้ส่วนตัวอื่นๆ
  • อาหารกึ่งสำเร็จรูปเช่นมาม่าหรือโจ๊ก สำหรับคนที่ติดรสจัดก็อย่าลืมเตรียมพริกป่นไปด้วย

เนื่องจากของใช้ที่เป็นของเหลวจะต้องใส่ในกระเป๋าลูกหลักนี้ คุณควรมีการจัดของเหลวใส่ในภาชนะที่มีฝาปิดสนิท เนื่องจากแรงดันอากาศใต้เครื่องบินนั้นสูงมาก อาจจะทำให้ของเหลวนั้นทะลักออกมาจากภาชนะ หนึ่งสิ่งที่อยากจะแนะนำคือนำภาชนะที่บรรจุของเหลวใส่ในถุง Ziploc อีกชั้นหนึ่งเพื่อป้องกันไม่ให้ของเหลวไหลออกมาจากถุง

3. กระเป๋าใส่ของใช้ในห้องน้ำ

สิ่งของประเภทแปรงสีฟัน, ยาสีฟัน, สบู่, โฟมล้างหน้า, makeup remover, และเครื่องสำอางต่างๆ คุณควรแยกใส่ในกระเป๋าเล็กอีกใบหนึ่งเพื่อง่ายต่อการหยิบใช้ ซึ่งถ้าหากเดินทางยาวๆ คุณอาจจะนำกระเป๋าใบนี้ใส่ลงใน Carry On ก็ได้ แต่ของเหลวจะต้องถูกบรรจุในภาชนะที่มีขนาดน้อยกว่า 100 มิลลิลิตร

กระเป๋าลูกนี้ควรถูกจัดอย่างเป็นระเบียบที่สุดและคุณควรเลือกกระเป๋าที่มีขนาดพอเหมาะ สามารถหยิบใช้ได้สะดวก

4. กระเป๋ายา

ถ้าหากคุณมีโรคประจำตัวคุณควรเตรียมยาเฉพาะทางของคุณ โดยกระเป๋ายาควรมียาสามัญเอาไว้สำหรับกรณีฉุกเฉินด้วย สิ่งที่ควรเตรียมมีดังต่อไปนี้

  • ยาแก้ปวด
  • ยาแก้แพ้อากาศและลดน้ำมูก
  • ยาลดไข้
  • คาร์บอนสำหรับดูดซับสารพิษและยาแก้ท้องเสีย
  • พลาสเตอร์แปะแผล
  • ยาแก้เมารถ

5. กระเป๋าสตางค์

สิ่งที่ห้ามลืมโดยเด็ดขาดก็คือเงินสดและบัตรเครดิตที่ต้องใช้สำหรับการชำระค่าสินค้าต่างๆ คุณควรหากางเกงที่มีซิปปิดมิดชิด หรือนำกระเป๋าสตางค์ใส่ไว้ในกระเป๋าลับของเสื้อตัวนอกเพื่อไม่ให้เป็นที่สังเกต นอกจากนี้ผมมักจะหยิบนามบัตรของโรงแรมใส่กระเป๋าติดตัวไว้เสมอ เผื่อในกรณีฉุกเฉิน จะได้มีที่อยู่ของโรงแรมเอาไว้ติดต่อขอความช่วยเหลือได้

6. กระเป๋าหรือซองใส่เอกสาร

กระเป๋าใบนี้เป็นกระเป๋าที่มีความสำคัญที่สุดในการเดินทางครั้งนี้ โดยสิ่งที่คุณจะต้องเตรียมก็คือ Passport, บัตรประชาชน, ใบขับขี่สากล, เอกสารการจองโรงแรม, ตั๋วโดยสาร, แผนที่และแพลนท่องเที่ยว เป็นต้น

ประกันเดินทาง

นอกจากนี้อีกหนึ่งสิ่งที่ขาดไม่ได้เลยคือประกันการเดินทาง หลายๆคนอาจจะมองข้ามเอกสารสำคัญนี้ไปเนื่องจากไม่อยากจะเสียค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม แต่ประกันการเดินทางจะช่วยให้คุณท่องเที่ยวต่างประเทศได้อย่างไร้กังวล เพียงเลือกซื้อประกันการเดินทางกับบริษัทที่คุณไว้วางใจแล้วอย่าลืมอ่านข้อตกลงว่าประกันนั้นจะครอบคลุมในส่วนใดบ้าง คุณควรเลือกซื้อประกันที่ครอบคลุมในส่วนของประกันชีวิตและทรัพย์สินมีค่าเช่น passport ถ้าเกิดการสูญหาย ทางบริษัทจะช่วยติดต่อผสานงานให้อย่างรวดเร็ว เพียงมีประกันการเดินทาง คุณก็จะรู้สึกอุ่นใจและเที่ยวต่างประเทศได้อย่างไร้กังวล Allianz Travel คือหนึ่งในผู้ให้บริการประกันภัยการเดินทางแนวหน้าของโลก พร้อมให้ความช่วยเหลือตลอด 24 ชั่วโมงทั่วโลกไม่ว่าคุณจะเดินทางไปท่องเที่ยวที่ไหนก็ตาม และมีแผนประกันภัยมากมายให้คุณได้เลือกเพื่อตอบโจทย์การเดินทางของคุณ สามารถสั่งซื้อออนไลน์ก่อนออกเดินทางได้ที่นี่ BUY Allianz Travel

และนี่ก็คือ 6 กระเป๋าและ Check List ที่คุณควรเตรียมให้พร้อมก่อนออกเดินทางไปต่างประเทศ ตรวจสำภาระของคุณให้พร้อมก่อนออกเดินทางแล้วคุณจะได้เที่ยวต่างประเทศอย่างมีความสุข

เรามุ่งมั่นที่จะช่วยเหลือและดูแลคุณ

อลิอันซ์ทราเวลเป็นผู้นำระดับโลกด้านประกันภัยการเดินทางและบริการช่วยเหลือทั่วไป เรามีแผนประกันภัยที่หลากหลายให้เลือก ครอบคลุมตั้งแต่แผนรายเที่ยว แผนรายปี แผนครอบครัว ไปจนถึงแผนเดินทางศึกษาต่อต่างประเทศ เราทุ่มเทที่จะให้บริการช่วยเหลือและปกป้องคุณทุกที่ ทุกเวลาเท่าที่เราจะทำได้ เราไม่ได้จำกัดอยู่แค่ประกันภัยและการให้ความช่วยเหลือ แต่เรามุ่งเน้นไปที่สิ่งที่มากกว่านั้น และทุกบริการของเราก็เพื่อลูกค้าคนสำคัญของเรา