เที่ยวฟินแลนด์ ช่วงคริสต์มาส แวะบ้านเกิดซานตาคลอส

เที่ยวฟินแลนด์ ช่วงคริสต์มาส แวะบ้านเกิดซานตาคลอส

เทศกาลวันคริสต์มาสซึ่งตรงกับวันที่ 25 ธันวาคมของทุกปีใกล้จะมาถึงแล้ว สถานที่หลายแห่งจะมีการประดับประดาตกแต่ง สร้างบรรยากาศเฉลิมฉลองเทศกาลแห่งความสุข และหนึ่งในสัญลักษณ์ของวันคริสต์มาสที่ทุกคนนึกถึงคือซานตาคลอส ชายแก่ท่าทางใจดี สวมชุดสีแดง มีหนวดเคราสีขาว สวมรองเท้าบูตสีดำ ที่มักปรากฏตัวในค่ำคืนของวันคริสต์มาส พร้อมกับกวางเรนเดียร์จมูกแดงและรถลากเลื่อนคู่ใจ เพื่อนำของขวัญไปมอบให้แก่เด็กๆ ที่เป็นภาพจำของผู้คนทั่วโลกมาอย่างยาวนาน และวันนี้ Allianz Travel จะพาคุณไปสัมผัสความมหัศจรรย์ที่แท้จริงของคริสต์มาส นั่นคือการจัดทริปพาคุณไป เที่ยวฟินแลนด์ บ้านคุณลุงซานต้าที่หมู่บ้านซานตาคลอสกันค่ะ

เที่ยวฟินแลนด์ หมู่บ้านซานตาคลอส ช่วงเทศกาลคริสต์มาส

หมู่บ้านซานตาคลอสตั้งอยู่บนเส้นอาร์กติกเซอร์เคิล (Arctic Circle) เมืองโรวาเนียมิ (Rovaniemi) แลปแลนด์ (Lapland) ภูมิภาคทางเหนือสุดของประเทศฟินแลนด์ บ้านเกิดอย่างเป็นทางการของซานตาคลอสตั้งแต่ปีพ.ศ. 2508 และเป็นหนึ่งในที่เที่ยวสุดฮิตของฟินแลนด์ที่มีนักท่องเที่ยวแวะมากันอย่างคึกคัก ที่นี่เปิดให้เที่ยวชม และพบกับลุงซานต้าได้ตลอดทั้งปี แต่ช่วงเทศกาลคริสต์มาสก็อาจเป็นช่วงเวลาที่น่ามหัศจรรย์ที่สุด งานเฉลิมฉลองเทศกาลจะจัดล่วงหน้าก่อนวันสำคัญประมาณ 1 เดือน มีการประดับไฟกันอย่างสวยงาม นักท่องเที่ยวก็ยิ่งเยอะมากเป็นพิเศษ และทุกวันที่ 23 ธันวาคม จะมีกิจกรม Santa is on His Way ซึ่งผู้คนจะมารวมตัวกันเพื่อชมช่วงเวลาอันงดงามขณะที่ซานตาคลอสกำลังจะออกเดินทางรอบโลก

ที่เที่ยวฟินแลนด์ หมู่บ้านซานตาคลอส

กิจกรรมห้ามพลาดที่หมู่บ้านซานตาคลอส

หมู่บ้านซานตาคลอสเป็นประสบการณ์อันน่ามหัศจรรย์ในการไป เที่ยวฟินแลนด์ ที่คุณสามารถใช้เวลาแบบรวดรัดใน 1 วัน หรือพักค้างคืนเพื่อร่วมกิจกรรมต่างๆ รวมถึงอาจออกไปเที่ยวตามสถานที่ท่องเที่ยวอื่นๆ โดยรอบ

1. เที่ยวฟินแลนด์ ถ่ายรูปกับซานต้า

สิ่งที่เป็นที่นิยมมากที่สุดเมื่อมาถึงหมู่บ้านซานตาคลอสคือการไปเจอและถ่ายรูปกับกับซานตาคลอสที่สำนักงาน ซึ่งเปิดทุกวันตลอดทั้งปี เช็ครายละเอียดเวลาทำการได้ที่นี่

เที่ยวฟินแลนด์ ถ่ายรูปกับซานต้า

2. ที่ทำการไปรษณีย์ซานต้า

ศูนย์กลางการส่งของขวัญและจดหมาย มีการ์ดสวยๆ แสตมป์และของขวัญที่ไม่ซ้ำใคร คุณสามารถส่งโปสการ์ดและประทับตราไปรษณีย์พิเศษจากหมู่บ้านซานตาคลอสไปถึงเพื่อนของคุณได้ทั่วโลก รวมถึงชมการคัดแยกจดหมายจากเด็กๆ ทั่วโลกที่จ่าหน้าซองถึงคุณลุงซานต้าด้วย ซึ่งจดหมายทุกฉบับที่จ่าหน้าซองถึง “Santa Claus” จะถูกส่งมาที่นี่โดยไม่ต้องระบุที่อยู่! อ่านรายละเอียดที่นี่

ที่เที่ยวฟินแลนด์ ที่ทำการไปรษณีย์ซานต้า

3. นั่งเลื่อนกวางเรนเดียร์

เพลิดเพลินกับการนั่งเลื่อนกวางเรนเดียร์ ซึ่งเป็นกิจกรรมที่เนิบนาบไปเรื่อยๆ แต่สนุก เพราะเจ้ากวางเรนเดียร์จะค่อยๆ พาคุณเข้าไปในป่าสนที่เต็มไปด้วยหิมะ ราวกับเข้าไปในวันเดอร์แลนด์ พอจบทริปก็แวะไปที่ฟาร์มเพื่อเยี่ยมชมและให้อาหารกวางเรนเดียร์ และเหล่าเพื่อน เช่น อัลปาก้า ลูกม้า แพะ แกะ กระต่าย ลา และนกชนิดต่างๆ

ที่เที่ยวฟินแลนด์ นั่งเลื่อนกวางเรนเดียร์

4. เดินข้ามเส้นอาร์กติกเซอร์เคิล

เส้นอาร์กติกเซอร์เคิลเป็นเส้นวงกลมละติจูดที่อยู่เหนือสุดของโลก อยู่ที่ 66 องศา 33 ลิปดา 45.9 ฟิลิปดา ซึ่งเส้นนี้จะมีการขยับขึ้นเหนือไปเรื่อยๆ ตามการเอียงของแกนโลก บริเวณเส้นเส้นอาร์กติกเซอร์เคิลจะเป็นดินแดนแห่งพระอาทิตย์เที่ยงคืน หน้าร้อนจะสว่างตลอด 24 ชั่วโมง ส่วนหน้าหนาวจะมีแต่ความหนาวเย็นและความมืด คุณสามารถเดินข้ามเข้าไปในวงกลมอาร์กติกและได้รับประกาศนียบัตรรับรองว่าคุณได้มาถึงขั้วโลกเหนือแล้ว

5. ชมแสงเหนือ

คุณสามารถชมแสงเหนือหรือแสงออโรร่า บอเรลลิส (Aurora Borealis) ได้ที่หมู่บ้านซานตาคลอส ซึ่งปรากฎการณ์นี้เห็นได้มากที่สุดระหวางเดือนพฤศจิกายนถึงเดือนมีนาคม คุณสามารถเลือกไปกับทัวร์ไล่ล่าแสงเหนือด้วยสโนว์โมบิลซึ่งจะพาคุณออกตระเวนไปตามบริเวณที่มีแนวโน้มว่าจะพบเห็นมากที่สุด หรือนั่งรอชมแบบอุ่นๆ ในที่พักแบบ igloo ที่มีห้องหลังคากระจกกว้างและมีเครื่องจับคลื่นแม่เหล็กจากแสงเหนือ เลือกได้ตามสไตล์ที่คุณชอบ

เที่ยวคริสมาสต์ ที่ฟินแลนด์ ดูแสงเหนือหรือแสงออโรร่า บอเรลลิส (Aurora Borealis)

6. ฮัสกี้ซาฟารี (Husky Safaris)

นอกจากการนั่งเลื่อนกวางเรนเดียร์แล้ว เรายังสามารถไปสัมผัสกับสุนัขแสนรู้พันธุ์ไซบีเรียนฮัสกี้ นั่งเลื่อนที่ลากด้วยสุนัขฮัสกี้ที่ทรงพลัง 6 ตัว วิ่งกันเป็นทีมด้วยความเร็วไปบนพื้นหิมะในป่าสนที่ขาวโพลน เตรียมเสื้อผ้าและอุปกรณ์กันหนาวให้พร้อมที่สุดเลยนะคะ

เที่ยวคริสมาสต์ ที่ฟินแลนด์ นั่งเลื่อนที่ลากด้วยสุนัขฮัสกี้และการนั่งเลื่อนกวางเรนเดียร์

7. สนุกกับการขี่สโนว์โมบิล

อยู่รอบแลปแลนด์ด้วยการขี่สโนว์โมบิล ซึ่งเลือกได้ตั้งแต่ 2 ชั่วโมง ไปจนถึง 4 ชั่วโมง และถ้าอยากพิเศษกว่านั้นยามค่ำคืนก็มีขับสโนว์โมบิลไปล่าแสงเหนือได้อีกด้วยค่ะ

เที่ยวฟินแลนด์ ขี่สโนว์โมบิล

วิธีเดินทางจากเฮลซิงกิไปโรวาเนียมิ

การเดินทางจากเฮลซิงกิไปโรวาเนียมิมีให้เลือกหลายรูปแบบ ทั้งทางเครื่องบิน รถไฟ รถโค้ช หรือรถยนต์ และโดยเฉพาะช่วงคริสต์มาส มีเที่ยวบินเช่าเหมาลำพร้อมแพ็คเกจโรงแรมให้บริการจากหลายประเทศ

  • การเดินทางด้วยเครื่องบินสายการบินฟินแอร์ ให้บริการเที่ยวบินระหว่างโรวาเนียมิและเฮลซิงกิทุกวันตลอดทั้งปี และสายการบินนอร์วีเจียน ให้บริการสัปดาห์ละหลายเที่ยว นอกจากนี้คุณยังสามารถบินตรงจากเมืองอื่นๆ ในยุโรปในช่วงเดือนตุลาคมถึงเดือนมีนาคมได้อีกด้วย อย่างเช่น ลอนดอน ปารีส มาดริด อัมสเตอร์ดัม เป็นต้น
  • การเดินทางด้วยรถไฟการรถไฟฟินแลนด์ ให้บริการรถไฟจากเมืองต่างๆ ในฟินแลนด์ โดยมีรถไฟหลายขบวนวิ่งไปและกลับจากเฮลซิงกิทุกวัน ตลอดทั้งปี แม้ว่าสภาพอากาศจะไม่ดีก็ตาม
เที่ยวคริสมาสต์ ที่ฟินแลนด์ การเดินทางด้วยรถไฟ จากเฮลซิงกิไปโรวาเนียมิ
  • การเดินทางด้วยรถบัส – คุณสามารถใช้บริการรถบัสของ Matkahuolto และ Onnibus ที่ครอบคลุมหลายเส้นทางเชื่อมต่อเมืองโรวาเนียมิกับเมืองทางตอนเหนือของแลปแลนด์
  • การเดินทางด้วยรถยนต์ – เมืองโรวาเนียมิเข้าถึงได้ง่ายทางรถยนต์ แต่คุณควรจัดตารางเวลาให้ดีสำหรับการขับรถระยะทางไกลและสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลงอยู่บ่อยๆ โดยเฉพาะในฤดูหนาว

เที่ยวฟินแลนด์ ส่งจดหมายหาซานตาคลอส

หากคุณยังไม่มีโอกาสเดินทางไปถึงหมู่บ้านซานตาคลอส คุณสามารถส่งจดหมายถึงซานต้าได้ตามที่อยู่นี้

Santa Claus
Santa Claus’s Main Post Office969
30 Napapiiri, Finland

เที่ยวคริสมาสต์ ที่ฟินแลนด์ ส่งจดหมายหาซานตาคลอส

ติดตามหมู่บ้านซานตาคลอสผ่าน Live

ขอบคุณ Live จาก: santaclausvillage.info

อ่านข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับหมู่บ้านซานตาคลอส

สามารถอ่านข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ santaclausvillage.info

ขอบคุณรูปภาพจาก : santaclausvillage.info

ประสบการณ์การไปพบกับซานตาคลอสเป็นอีกหนึ่งทริปที่มีความทรงจำที่คุ้มค่า อาจเป็นครั้งหนึ่งในชีวิตที่ทำให้ความฝันในวัยเยาว์ได้เติมเต็ม แต่การไปเที่ยวต่างประเทศในที่ที่คุณไม่คุ้นเคย อาจทำให้คุณกังวลกับเหตุที่อาจเกิดขึ้นโดยไม่คาดฝัน ดังนั้น สิ่งสำคัญที่คุณควรมีพร้อมติดตัวไว้คือประกันภัยการเดินทาง สิ่งสำคัญที่ช่วยให้คุณเดินทางอย่างอุ่นใจไร้กังวล เพียงจ่ายเงินไม่กี่บาท คุณก็จะได้ความคุ้มครองมากมายที่ครอบคลุมเกือบทุกเหตุการณ์ไม่คาดฝันที่อาจเกิดขึ้นระหว่างเดินทาง* เช่น ความเจ็บป่วย การเกิดอุบัติเหตุ กระเป๋าหาย เที่ยวบินดีเลย์ เป็นต้น Allianz Travel ขอแนะนำ ประกันการเดินทาง Dance Moves ที่จะช่วยให้ทริป การเดินทางของคุณราบรื่น ไม่มีสะดุด อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับความคุ้มครองได้ ที่นี่

*เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทกำหนด

ขอบคุณข้อมูลจาก : santaclausvillage.info, visitfinland.com, visitrovaniemi.fi

เลือกแผนประกันเดินทางที่ใช่สำหรับคุณ ประกันการเดินทาง Dance Moves จาก Allianz Travel

Beautiful Places Celebrating Christmas

12 สถานที่ฉลองคริสต์มาส จากทั่วทุกมุมโลก

ใกล้ถึงเทศกาลคริสต์มาสในอีกไม่กี่วันข้างหน้าแล้ว หลาย ๆ สถานที่ในทั่วทุกมุมของโลก ถูกตกแต่งไปด้วยสีสันที่สวยงาม บางสถานที่ถูกปกคลุมไปด้วยหิมะสีขาว ที่มาพร้อมกับอากาศหนาว เป็นอีกหนึ่งช่วงเวลาที่เต็มไปด้วยความสุขสนุกสนาน เต็มไปด้วยรอยยิ้ม และเสียงหัวเราะ ได้พักผ่อน และเติมพลังในช่วงท้ายของปี วันนี้ Allianz Travel รวบรวมลิสต์ 12 สถานที่ฉลองคริสต์มาส จากทั่วทุกมุมของโลก มาฝากเพื่อน ๆ เพื่อใช้เป็นตัวช่วยในการวางแผนการเดินทางไปเที่ยวในสถานที่ต่าง ๆ ในช่วงคริสต์มาส มีที่ไหนบ้าง ไปดูกันเลยค่ะ : )

1. SANTA CLAUS VILLAGE IN ROVANIEMI, FINLAND

Santa Claus Village บ้านเกิดของซานต้าคลอส ถือเป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมของเมือง Rovaniemi, Finland ที่ต้อนรับนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก คุณสามารถสัมผัสบรรยากาศของความสนุกสนาน ได้พบกับซานต้าคลอสตลอดทั้งปีด้วย สำหรับหมู่บ้านซานต้าคลอสมีให้บริการที่พัก อาหารและจัดกิจกรรมให้เราร่วมสนุกได้ไม่จำกัด เช่น ฟาร์มกวางเรนเดียร์, ชมแสงออโรร่า, นั่งรถลากจูงด้วยฝูงสุนัขไซบีเรียน ฯลฯ โดยเฉพาะในช่วงเดือนมิถุนายน เป็นช่วงซัมเมอร์ของประเทศฟินแลนด์ เราสามารถพบกับพระอาทิตย์เที่ยงคืนได้อีกด้วยค่ะ

สถานที่ฉลองคริสมาสต์ - SANTA CLAUS VILLAGE IN ROVANIEMI, FINLAND

2. MIDNIGHT MASS, VATICAN

เราสามารถสัมผัสได้กับมนต์ขลังของการเฉลิมฉลองเทศกาลคริสต์มาส ในนครรัฐวาติกัน ซึ่งไฮไลท์ของงานจะถูกจัดอยู่ที่บริเวณ จัตุรัสเซนต์ปีเตอร์ สถานที่อันศักดิ์สิทธิ์ของชาวคาทอลิก ท่านจะได้ชมสถาปัตยกรรมอันสวยงาม และในระหว่างวันที่ 24-25 ธันวาคมของทุกปี เราจะได้พบกับวัฒนธรรม-ประเพณีของคนท้องถิ่น ไม่ว่าจะเป็นฝั่งของนครรัฐวาติกัน หรือฝั่งของโรม, ประเทศอิตาลีอีกด้วยค่ะ

สถานที่ฉลองคริสมาสต์ - MIDNIGHT MASS, VATICAN

3. NUREMBERG, GERMANY

เมืองที่มีตลาดคริสต์มาสกลางแจ้งที่มีเสน่ห์มาก ๆ เก่าแก่และมีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก มีสินค้าจัดจำหน่ายมากมาย ทั้งของเล่น, เครื่องประดับเล็ก ๆ น้อย ๆ, ขนมปังขิง, ร้านอาหารมากมายเกือบ 200 ร้าน มีทั้งอาหารพื้นเมืองของชาวเยอรมัน อาทิ ไส้กรอกเยอรมัน และไวน์อุ่น ฯลฯ สิ่งเหล่านี้ดึงดูดนักท่องเที่ยวให้มาเยือนที่นี่มากขึ้นทุกปี จุดเด่นของตลาดคริสต์มาสแห่งนี้คือ มีการประกวดธิดาคริสต์มาสหรือทูตแห่งคริสต์มาสด้วยค่ะ

สถานที่ฉลองคริสมาสต์ - NUREMBERG, GERMANY

4. TOKYO, JAPAN

เมืองขึ้นชื่อเรื่องเทศกาลคริสต์มาสของเอเชีย เพราะในทุก ๆ ปี แต่ละสถานที่ทั่วโตเกียวจะมีการจัดแสงสี โคมไฟประดับไปทั่วบริเวณ สร้างความสวยงามและความประทับใจให้กับนักท่องเที่ยว ทั้งกลางวันและกลางคืน โดยเฉพาะย่าน Shibuya, Yebisu Garden Place, Tokyo Disney land, Sanrio Puroland ฯลฯ ในบางปีเทศกาลฉลองคริสต์มาสของที่นี่ อาจจะมีการลากยาวตั้งแต่เดือนธันวาคม – กุมภาพันธ์ เลยทีเดียว ใครที่ไม่อยากเดินทางไกลถึงยุโรป หรืออเมริกา มาสัมผัสบรรยากาศแสงสีของเทศกาลคริสต์มาส ที่ญี่ปุ่นได้เลยค่ะ

สถานที่ฉลองคริสมาสต์ - TOKYO, JAPAN

5. BRUGES, BELGIUM

ศิลปะและสถาปัตยกรรมที่คงอยู่มาอย่างยาวนาน ตั้งแต่ยุคกลาง ส่งผลให้เมือง Bruges มีเสน่ห์อย่างคาดไม่ถึง โดยเฉพาะในเทศกาลคริสต์มาส เราสามารถชื่นชมการตกแต่งอาคาร ไฟประดับ บนถนนทุกสายรอบเมือง โดยเฉพาะบริเวณ Church of our Lady และ Gruuthuse สถาปัตยกรรมเก่าแก่ที่ทำให้เราได้ดื่มด่ำบรรยากาศได้อย่างไม่มีที่สิ้นสุด

สถานที่ฉลองคริสมาสต์ - BRUGES, BELGIUM

6. MONTREAL, CANADA

เมืองแห่งเทศกาลของประเทศแคนาดา มีความเป็นมามากมายทางประวัติศาสตร์ โดยเฉพาะวัฒนธรรมฝรั่งเศส ไม่แปลกใจเลยถ้าจะเจอร้านอาหารฝรั่งเศส หรือคนที่พูดฝรั่งเศสบนท้องถนน และถือเป็นเมืองที่มีเสน่ห์อย่างมาก สำหรับเทศกาลคริสต์มาส มีการเดินขบวนพาเหรดสร้างสีสันและความบันเทิงให้กับนักท่องเที่ยว มามากกว่า 60 ปี นอกจากนี้ เราสามารถเยี่ยมชมความสวยงามของโบสถ์ Notre-Dame Basilica ที่ขึ้นชื่อว่าสวยที่สุดอีกด้วย

สถานที่ฉลองคริสมาสต์ - MONTREAL, CANADA

7. DUBLIN, IRELAND

เทศกาลเฉลิมฉลองสไตล์ไอริช 100% เราสามารถหาได้ที่ Dublin, ประเทศไอร์แลนด์ สัมผัสกับบรรยากาศที่เต็มไปด้วยความสุขและอบอุ่น ในฤดูหนาวนี้ โดยเฉพาะบริเวณถนน Grafton มีทั้งตลาดคริสต์มาส, ร้านขายของที่ระลึก, บาร์, ร้านเครื่องดื่ม-ขนมหวานมากมาย ที่จะทำให้ช่วงวันหยุดคริสต์มาสของเราอบอวลไปด้วยความสุข

สถานที่ฉลองคริสมาสต์ - DUBLIN, IRELAND

8. NEW YORK, USA

เมืองที่ได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยว ตลอดทั้งปี โดยเฉพาะช่วงเทศกาลคริสต์มาสและปีใหม่ ที่จะตกแต่งไปด้วยแสงไฟสวยงามทุกตรอกถนน กิจกรรมที่ไม่ควรพลาดของที่นี่ คือ Ice Skating ที่ Rockefeller Center ใครที่สนใจอยากมาชมบรรยากาศเทศกาลคริสต์มาสของที่นี่ จะต้องวางแผนกันนิดนึงนะคะ ทั้งเรื่องที่พักและตั๋วเครื่องบิน เพราะถือเป็นหนึ่งสถานที่ยอดนิยมที่สุดในสหรัฐฯ เลยทีเดียว

สถานที่ฉลองคริสมาสต์ - NEW YORK, USA

9. VIENNA, AUSTRIA

มนต์เสน่ห์ของที่นี่ จะอยู่ที่ตลาดคริสต์มาส หน้าศาลาว่าการของเมืองเวียนนา มีทั้งสินค้าพื้นเมือง, ของที่ระลึกเทศกาลคริสต์มาส, ต้นคริสต์มาส, อาหาร-ขนม, เครื่องดื่ม ฯลฯ ไม่ว่าจะเที่ยวคนเดียว, กลุ่มเพื่อน, มาเป็นคู่ หรือแบบครอบครัว ก็สนุกสนานเช่นกัน นอกจากนี้ ยังมีการแสดงดนตรีพื้นเมืองของ Vienna Boy Choir อายุกว่า 500 ปีอีกด้วย

สถานที่ฉลองคริสมาสต์ - VIENNA, AUSTRIA

10. PRAGUE, CZECH REPUBLIC

อีกหนึ่งสถานที่ ที่เราไม่ควรพลาดในการเฉลิมฉลองเทศกาลคริสต์มาส เพื่อต้อนรับนักท่องเที่ยวทั้งในประเทศและต่างประเทศ งานคริสต์มาสจะถูกจัดตลอดเดือนธันวาคม โดยเฉพาะย่าน Old town และจัตุรัส Wenceslas ที่จะมีตลาดคริสต์มาสให้คุณได้ช้อปปิ้งของที่ระลึก และของกินมากมาย พร้อมชมสถาปัตยกรรมเก่าแก่สไตล์โกธิคของบ้านเรือน และสถานที่สำคัญของเมืองได้ด้วยค่ะ

สถานที่ฉลองคริสมาสต์ - PRAGUE, CZECH REPUBLIC

11. STRASBOURG, FRANCE

หนึ่งในเมืองที่มีตลาดคริสต์มาสเก่าแก่ที่สุดของฝรั่งเศส มีการค้นพบว่า การตกแต่งคริสต์มาสถือกำเนิดขึ้นที่นี่ ตั้งแต่ปี 1605 ไม่เพียงแต่บรรยากาศของเทศกาลเฉลิมฉลอง เราสามารถเดินชมสถาปัตยกรรมสมัยยุคกลาง และประเพณีเก่าแก่ของฝรั่งเศส ที่คงความงดงามให้เห็นมาจนถึงปัจจุบัน

สถานที่ฉลองคริสมาสต์ - STRASBOURG, FRANCE

12. HONG KONG

เป็นสถานที่ที่ครึกครื้นที่สุด ไม่แพ้โตเกียว, ประเทศญี่ปุ่น เลยทีเดียว เพราะในทุก ๆ ปี อาคารและตึกสูงในฮ่องกง พากันตกแต่งและเปิดไฟ เพื่อเฉลิมฉลองเทศกาลคริสต์มาสและปีใหม่ นักท่องเที่ยวจากทั่วโลกต่างเข้ามาเยี่ยมเยียนอย่างไม่ขาดสาย โดยเฉพาะบริเวณอ่าววิคตอเรีย เราจะเห็นวิวและทิวทัศน์ของแสงไฟที่ตกแต่งอย่างสวยงามบนตึกระฟ้า ได้อย่างชัดเจน

สถานที่ฉลองคริสมาสต์ - HONG KONG

การเดินทางท่องเที่ยวในช่วงคริสต์มาสทำให้เราได้เห็นความสวยงามของการตกแต่งตามสถานที่ต่างๆ และได้ทำกิจกรรมที่มีเฉพาะในช่วงคริสต์มาสเท่านั้น แต่การที่จะให้แผนการเที่ยวของคุณเป็นประสบการณ์ที่น่าประทับใจ ไม่ต้องกังวลกับเรื่องร้าย ๆ กับค่าใช้จ่ายที่อาจงอกเพิ่มระหว่างการเดินทาง สิ่งที่เราควรมีติดตัวไว้ก็คือ ประกันภัยการเดินทาง สิ่งสำคัญที่ช่วยให้คุณเดินทางได้อย่างอุ่นใจ ไร้กังวล เพียงจ่ายเงินไม่กี่บาท คุณก็จะได้รับความคุ้มครองมากมายที่ครอบคลุมเกือบทุกเหตุการณ์ไม่คาดฝันที่อาจเกิดขึ้นระหว่างเดินทาง* เช่น ความเจ็บป่วย การเกิดอุบัติเหตุ กระเป๋าหาย เที่ยวบินดีเลย์ เป็นต้น Allianz Travel ขอแนะนำ ประกันการเดินทางต่างประเทศ Dance Moves ที่จะช่วยให้ทริป การเดินทางของคุณราบรื่น ไม่มีสะดุด อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับความคุ้มครองได้ ที่นี่

*เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทกำหนด

ขอบคุณข้อมูลจาก
30 Best Places to Spend Christmas: The World’s Most Festive Cities

เลือกแผนประกันเดินทางที่ใช่สำหรับคุณ ประกันการเดินทาง Dance Moves จาก Allianz Travel

christmas travel locations

10 สถานที่น่าเที่ยวช่วงคริสต์มาส

เทศกาลคริสต์มาสใกล้เข้ามาแล้ว หลายคนคงนึกถึงเทศกาลแห่งความสนุกสนาน หิมะสีขาว รวมถึงช่วงเวลาแห่งการหยุดพักผ่อน และการได้เฉลิมฉลองกับครอบครัว Allianz Travel เลยอยากแนะนำเพื่อนๆ ไปเยี่ยมชม 10 สถานที่ที่มีมนต์เสน่ห์แห่งเทศกาลเฉลิมฉลองคริสต์มาสที่นักท่องเที่ยวนิยมไปกันค่ะ

1. สวนแห่งดวงดาว (Starlight Garden) กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น

สถานที่ที่หนุ่มสาวคู่รักจะจูงมือกันไปชมทะเลดวงดาวสวยงามตระการตาจากการประดับไฟนับล้านดวง

2. แมนฮัตตัน นิวยอร์ก ประเทศสหรัฐอเมริกา

ในช่วงเทศกาลคริสต์มาส นครนิวยอร์กจะเต็มไปด้วยการประดับตกแต่งด้วยสีเขียวและสีแดงมากมายทั่วเมือง โดยมีแมนฮัตตันเป็นหัวใจหลักในการจัดงาน

3. อัมสเตอร์ดัม ประเทศเนเธอร์แลนด์

บ้านเกิดของเซนต์นิโคลัส หรือซานตาคลอส ซึ่งในทุกๆ ปีจะมีขบวนพาเหรดซานตาคลอส เพื่อระลึกถึงนักบุญขวัญใจเด็กๆ ทั่วโลก นอกจากนี้ยังมีเทศกาลไฟประดับ (Light Festival) ที่จัดขึ้นให้ชาวเมือง และนักท่องเที่ยวได้ชมกันอย่างเพลิดเพลิน

4. หมู่บ้านซานตาคลอส (Santa Clause Village) เมืองแลปแลนด์ ประเทศฟินแลนด์

หมู่บ้านน่ารัก สวยงามที่ทุกคนจะได้พูดคุยกับซานตาคลอส และได้ชิมขนมและอาหารประจำเทศกาลแห่งความสุขนี้ รวมไปถึงการเลือกซื้อของฝากที่ระลึกประจำเทศกาลน่ารักๆ ติดไม้ติดมือกลับบ้านกันอีกด้วย

5. กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ

ถึงแม้ว่ากรุงลอนดอนจะมีการฉลองคริสต์มาสที่สั้นกว่าประเทศอื่นๆ เพราะสิ้นสุดแค่วันที่ 24 ธันวาคม หรือคริสต์มาสอีฟ แต่ก็ยังสามารถเพลิดเพลินไปกับการชมเมืองยามค่ำคืนที่มีการประดับไฟสวยงามที่สุดแห่งหนึ่งได้ตลอดเวลา

6. เมืองควิเบก ประเทศแคนาดา

อีกหนึ่งเมืองที่ขึ้นชื่อเรื่องการเฉลิมฉลองเทศกาลคริสต์มาส ซึ่งหากเดินทางมาเที่ยวช่วงคริสต์มาสแล้ว นอกจากจะได้ชมการตกแต่งเมืองที่สวยงาม เพื่อนๆ ก็ยังจะได้ลิ้มลองขนม อาหาร และเครื่องดื่มประจำเทศกาลสไตล์ยุโรปเก่าแก่อีกด้วย

7. เมืองเรคาวิก ประเทศไอซ์แลนด์

จะมีการจำลองเมืองทั้งเมืองให้เหมือนเมืองในเทพนิยาย และมีหมู่บ้านคริสต์มาสที่จะเปิดเฉพาะเสาร์-อาทิตย์ตลอดเดือนธันวาคม นอกจากนี้ยังมีการก่อกองไฟ และจุดดอกไม้ไฟเฉลิมฉลองในช่วงปีใหม่อีกด้วย

8. ตลาดสินค้าคริสต์มาส กรุงเวียนนา ประเทศออสเตรีย

เริ่มจัดเทศกาลคริสมาสตร์ตั้งแต่ปลายเดือนพฤศจิกายน จนถึงวันคริสต์มาส มีสิ่งของให้จับจ่ายและอาหารให้เลือกชิมมากมาย เช่น ขนมปัง วาฟเฟิล ไส้กรอกย่าง และไวน์ เป็นต้น

9. ตลาดคริสต์มาสแห่งนครแฟรงก์เฟิร์ต ประเทศเยอรมัน

เป็นตลาดที่เก่าแก่ที่มีมาตั้งแต่ ค.ศ. 1393 มีการตกแต่งสถานที่อย่างสวยงาม มีร้านค้ามากมายถึง 200 ร้านค้าที่จัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์แฮนด์เมดและสิ่งของเกี่ยวกับคริสต์มาสมากมาย

10. ตลาดคริสต์มาสแห่งเมืองนูเรมเบิร์ก อีกหนึ่งที่เที่ยวช่วงเทศกาลคริสต์มาสแห่งประเทศเยอรมัน

ซึ่งเป็นเมืองต้นตำรับแห่งการทำขนมผิง โดยจะมีร้านค้ามากถึงเกือบ 200 ร้านค้ามาจำหน่ายของสินค้าที่มีแค่เฉพาะที่นี่ รวมทั้งอาหารและขนมที่จะมีขายปีละครั้งในเทศกาลคริสต์มาสเท่านั้น

เป็นยังไงกันบ้างคะกับ 10 สถานที่น่าเที่ยวช่วงเทศกาลเฉลิมฉลองคริสต์มาส ที่เราได้พาไปเยี่ยมชมกัน Allianz Travel หวังเป็นอย่างยิ่งว่าเพื่อนๆ ทุกคนจะมีความสุขในเทศกาลคริสต์มาสในปีนี้นะคะ

เรามุ่งมั่นที่จะช่วยเหลือและดูแลคุณ

อลิอันซ์ทราเวลเป็นผู้นำระดับโลกด้านประกันภัยการเดินทางและบริการช่วยเหลือทั่วไป เรามีแผนประกันภัยที่หลากหลายให้เลือก ครอบคลุมตั้งแต่แผนรายเที่ยว แผนรายปี แผนครอบครัว ไปจนถึงแผนเดินทางศึกษาต่อต่างประเทศ เราทุ่มเทที่จะให้บริการช่วยเหลือและปกป้องคุณทุกที่ ทุกเวลาเท่าที่เราจะทำได้ เราไม่ได้จำกัดอยู่แค่ประกันภัยและการให้ความช่วยเหลือ แต่เรามุ่งเน้นไปที่สิ่งที่มากกว่านั้น และทุกบริการของเราก็เพื่อลูกค้าคนสำคัญของเรา