หากคุณมีแผนที่จะเดินทางไปเที่ยวอังกฤษ คุณควรต้องลอง อาหารอังกฤษ แบบดั้งเดิมที่มีต้นกำเนิดมาจากอังกฤษ หรือเป็นอาหารที่ชาวอังกฤษนิยมทานกันเป็นประจำ อาหารอังกฤษมีประวัติศาสตร์อันน่าทึ่ง และหลายเมนูก็มีอายุย้อนกลับไปหลายศตวรรษตั้งแต่ยุควิคตอเรียนหรือก่อนหน้านั้น มีอาหารอร่อยมากมายในอังกฤษ ที่ทั้งอร่อย มีประโยชน์ และอิ่มท้อง! ตั้งแต่อาหารเช้าแบบอังกฤษเต็มรูปแบบไปจนถึงเนื้อย่างวันอาทิตย์แบบคลาสสิก ทั้งอาหารมื้อหลักของชนชั้นแรงงานไปจนถึงอาหารชั้นสูง จนคุณเลือกไม่ถูกว่าจะรับประทานอะไรก่อนดี นั่นเป็นเหตุผลที่ Allianz Travel รวบรวม 10 เมนูผู้ดีอังกฤษที่คุณต้องลอง เมื่อได้ไปเที่ยวอังกฤษ มาให้เก็บไว้ในลิสต์ของคุณ ลองชิมเมนูโปรดของชาวอังกฤษเหล่านี้ดู คุณจะมีช่วงเวลาที่น่าตื่นตาตื่นใจในการรับประทานอาหารอร่อย พร้อมกับชื่นชมส่วนที่สวยงามของสหราชอาณาจักรแห่งนี้
1. ซันเดย์ โรสต์ (Sunday Roast)
หลังจากที่ครอบครัวชาวอังกฤษเข้าโบสถ์เพื่อประกอบพิธีทางศาสนาเสร็จสิ้นในช่วงบ่ายวันอาทิตย์แล้ว สมาชิกในครอบครัวจะมารวมตัวกันเพื่อร่วมรับประทานอาหารกันอย่างสนุกสนาน โดยเรียกประเพณีนี้กันว่า ซันเดย์ โรสต์ (Sunday Roast) หรือเราอาจได้ยินชาวอังกฤษเรียกชื่อ ซันเดย์ โรสต์ ต่างกันไป บ้างก็เรียก ซันเดย์ ดินเนอร์ (Sunday Dinner) ซันเดย์ ลันช์ (Sunday Lunch) และ ซันเดย์ จอยท์ (Sunday Joint) ซึ่งเป็นประเพณีการรับประทานอาหารของชาวอังกฤษและชาวไอริช ที่ถูกกล่าวถึงกันอย่างแพร่หลายและมีต้นกำเนิดย้อนไปถึงช่วงปี 1700 เมนูจะประกอบด้วยเนื้ออบเป็นหลักราดด้วยซอสเกรวี่ ซึ่งสามารถอบได้ทั้งเนื้อวัว เนื้อหมู เนื้อแกะ เนื้อไก่ หรือแม้กระทั่งเป็ด ห่าน ไก่งวง และเนื้อสัตว์ป่าก็สามารถนำมาอบได้ ขึ้นอยู่กับฤดูกาลและความชื่นชอบของสมาชิกในแต่ละครอบครัว รับประทานกับเครื่องเคียงนานาชนิด รวมถึง มันฝรั่งอบ ผักย่างหรืออบหรือต้ม เช่น ดอกกะหล่ำ บรอคโคลี่ แครอท และยอร์คเชอร์ พุดดิ้ง (Yorkshire pudding)
ปัจจุบันนี้ หากคุณไปเที่ยวอังกฤษ และอยากชิมเมนู ซันเดย์ โรสต์ ก็ไม่จำเป็นต้องรอวันอาทิตย์แล้วนะคะ ร้าน อาหารอังกฤษ ส่วนใหญ่มีเมนูนี้บริการเสิร์ฟทุกวันเลยค่ะ ถ้าใครไปเที่ยวที่อังกฤษ (รวมทั้งประเทศอื่นๆ ในเครือสหราชอาณาจักร อย่างสก็อตแลนด์ เวลส์ และไอร์แลนด์เหนือ) ห้ามพลาดเมนูเนื้ออบวันอาทิตย์แบบต้นฉบับแท้ๆ นะคะ
2. อาหารเช้าแบบอังกฤษเต็มรูปแบบ (Full English Breakfast)
อาหารเช้าแบบอังกฤษเต็มรูปแบบหรือ Full English Breakfast นั้นจะเป็นอาหารปรุงสุกที่ใส่รวมมาในหนึ่งจานใหญ่ ประกอบไปด้วย เบคอน, ไข่, ไส้กรอกเนื้อ หรือไส้กรอกเลือด (Black Pudding) เป้นอาหารโปรตีน เสิร์ฟพร้อมขนมปังหรือมันฝรั่งทอดเป็นคาร์โบไฮเดตให้พลังงาน รับประทานกับถั่วอบ มะเขือเทศย่าง และเห็ดย่าง ส่วนเครื่องดื่มก็จะเป็นกาแฟหรือชา แน่นอนว่ามันจะมีรายละเอียดเล็ก ๆ น้อย ๆ แตกต่างกันไปตามแต่ภูมิภาค เพราะอาหารเช้าสไตล์นี้มักจะพบเจอทั่วเกาะบริเตน ไม่ว่าจะเป็น อังกฤษ, สก็อตแลนด์, เวลส์ หรือไอร์แลนด์ ดังนั้นอาหารเช้าแบบนี้จึงมีชื่อเรียกเฉพาะที่หลากหลายทั้ง Fry Up, Full English, Full Irish, Full Scottish และ Full Welsh
ด้วยความที่สหราชอาณาจักรประกอบไปด้วยหลายประเทศ ดังนั้นอาหารเช้าแบบเต็มรูปแบบอาจแตกต่างกันไป ตัวอย่างเช่น ไอร์แลนด์มักจะขนมปังโซดาไอริชเพิ่มเติมในมื้อเช้า ส่วนที่สก็อตแลนด์ก็จะต้องมีสโคนมันฝรั่ง (Tattie) อยู่ด้วย และชาวเวลส์ก็ต้องมีขนมปังลาเวอร์เบรด (laverbread) ที่ทำมาจากสาหร่ายทะเล ประเพณีของอาหารเช้าแบบอังกฤษนั้นต้องย้อนไปถึงยุคกลาง ในเวลานั้นมักคนอังกฤษมักจะทานพียงสองมื้อต่อวัน คืออาหารเช้าและเย็น อาหารเช้าจะเสิร์ฟช่วงสาย ๆ ไปเกือบเที่ยงและมักจะประกอบด้วยแค่เบียร์ ขนมปัง บางทีอาจจะมีชีส และเนื้อด้วย เมื่อเข้าสู่ยุคอาณานิคม มีคนร่ำรวยเพิ่มมากขึ้น ชาวอังกฤษก็เริ่มใส่ใจกับอาหารเช้าเป็นพิเศษ โดยจะมีอาหารเช้าแบบอังกฤษเสิร์ฟในงานยิงปืนและล่าสัตว์ด้วย วัตถุดิบสำคัญอย่างไข่และเบคอนถูกจัดเสิร์ฟเป็นอาหารเช้าพร้อมกับเนื้อสัตว์ต่างๆ อย่าง cold meat ที่รูปร่างคล้ายแฮม และเนื้อปลาเพื่อเพิ่มคุณค่าทางอาหารให้อิ่มท้องนานยิ่งขึ้น อาหารบนโต๊ะของคนชั้นสูงในช่วงเวลานั้นประกอบไปด้วยอาหารมากมายหลาย และการทานอาหารของชนชั้นสูงในสมัยนั้นยังเน้นไปถึงความสวยงามของจานชามถ้วยแก้วอีกด้วย
อาหารเช้าแบบอังกฤษเป็นที่นิยมอย่างมากทั่วประเทศ ร้านกาแฟส่วนใหญ่จะแสดงรายการอาหารทั้งหมดและให้คุณเลือกสิ่งที่คุณต้องการและไม่ต้องการได้ด้วย
3. ฟิชแอนด์ชิปส์ (Fish and Chips)
ฟิชแอนด์ชิปส์ หรือปลาชุบแป้งทอดกับมันฝรั่งทอด ถือเป็นเมนูเด็ดที่อยู่คู่อังกฤษมานานกว่า 150 ปี จนกลายเป็นอาหารขึ้นชื่อที่นักท่องเที่ยวผู้มาเยือนอังกฤษต้องไม่พลาดที่จะลิ้มลองสักครั้ง วัฒนธรรมการรับประทานปลาทอดเริ่มเข้าสู่อังกฤษครั้งแรกโดยผู้อพยพเชื้อสายยิวจากโปรตุเกสและสเปนในช่วงคริสต์ศตวรรษที่ 17 แต่การรับประทานปลาคู่กับมันฝรั่งทอดในสหราชอาณาจักรเริ่มขึ้นราวปี 1860 และกลายเป็นอาหารจานเด็ดที่ชาวอังกฤษนิยมรับประทานกันเรื่อยมา เชื่อกันว่าปัจจุบันชาวอังกฤษ 22% ทานฟิชแอนด์ชิปสัปดาห์ละครั้ง
ปลาที่นิยมนำมาทำฟิชแอนด์ชิปส์จะเป็นปลาค็อด ปลาแฮดด็อก หรือปลาพอลล็อค ซึ่งจะมีรสสัมผัสและรสชาติต่างกันไป ร้านแต่ละร้านก็จะมีสูตรของตัวเองในการปรุงปลาที่นำมาใช้ นอกจากปลาแล้ว เครื่องเคียงกับซอสที่กินกับฟิชแอนด์ชิปส์ในแต่ละภูมิภาคของอังกฤษก็ต่างกันออกไป ซึ่งโดยปกติแล้วคนอังกฤษจะกินฟิชแอนด์ชิปส์กับเกลือ น้ำส้มสายชู และถั่วลันเตาบด ที่เรียกกันว่า Mushy peas แต่ก็มีหลายพื้นที่ที่มีน้ำเกรวี่ หรือ ซอสแกงกะหรี่มาให้ด้วย
4. น้ำชายามบ่าย (Afternoon Tea)
การดื่มชายามบ่ายหรือ Afternoon tea เริ่มมาตั้งแต่สมัยปลายศตวรรษที่ 18 ในปี ค.ศ. 1840 ซึ่งในยุคนั้นชาวอังกฤษนิยมรับประทานอาหารกันแค่ 2 มื้อหลัก คือ มื้อเช้าและมื้อเย็น ที่เสิร์ฟช่วง 2-3 ทุ่มกันเลย ด้วยระยะเวลาการทานอาหารที่ห่างกันมากนั้น ทำให้พอตกบ่ายก็เลยเกิดความหิวขึ้นมาเป็นปกติ จนในที่สุด เลดี้แอนนา มาเรีย ดัชเชสแห่งของเบดฟอร์ด ก็เลยสั่งให้แม่บ้านจัดชาและของว่างเบาๆ อย่างสโคนกับครีม คุกกี้ชิ้นเล็กๆ ขนมปัง เค้ก และแซนด์วิชชิ้นพอดีคำ จัดมารับประทานแก้หิวในระหว่างวัน แถมยังได้เชิญชวนเหล่าขุนนางอังกฤษ เพื่อนๆ มาร่วมจิบน้ำชา และพูดคุยแลกเปลี่ยนข่าวสารกันด้วย และนับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา การจิบน้ำชายามบ่ายพร้อมของว่างชิ้นเล็ก ๆ ขนาดพอดีคำ ก็กลายเป็นธรรมเนียมปฏิบัติของชาวอังกฤษ
ถ้าจะให้ครบตามสูตรของการจิบชายามบ่ายก็ต้องมาให้เต็มรูปแบบ ที่มีตั้งแต่ของคาวอย่างแซนด์วิชนานาชนิด ซึ่งหนึ่งในแซนด์วิชดั้งเดิมของการดื่มน้ำชาที่จะขาดเสียไปไม่ได้เลยคือ แซนด์วิชไส้แตงกวา นอกจากนั้นจะมีขนมอาทิเช่น สโคน ที่นิยมเสิร์ฟพร้อมกับ Clotted cream (ครีมสีขาวทำมาจากเนย แต่เนื้อสัมผัสหนาข้นกว่าและให้รสชาติหอมมัน) และแยม พร้อมด้วยขนมเค้กชิ้นเล็ก จำพวกคัพเค้ก พายหวาน หรือทาร์ตต่างๆ ดื่มพร้อมชา
ปัจจุบันการดื่มชายามบ่ายมีอยู่ทั่วไปในประเทศอังกฤษ มีเซ็ตของว่างและใบชาให้เลือกอย่างหลากหลาย ส่วนราคาก็มีตั้งแต่ย่อมเยาไปจนแพงหลายสิบกว่าปอนด์ ขึ้นอยู่กับร้านที่เราเลือกทาน
5. เชพเพิร์ดพาย (Shepherd’s Pie)
เชพเพิร์ดพาย มีต้นกำเนิดจากประเทศเลี้ยงแกะในสกอตแลนด์และทางตอนเหนือของอังกฤษ และเป็นที่ชื่นชอบของชนชั้นแรงงานตั้งแต่ในช่วงปลายทศวรรษ 1700 และต้นทศวรรษ 1800 ซึ่งแม่บ้านในสมัยนั้นค่อนข้างประหยัด และมองหาวิธีที่จะนำเอาเนื้อสัตว์ชนิดต่างๆ มารวมกันทำเป็นอาหารจานใหม่ อย่างเช่นเมื่อรับประทานซันเดย์ โรสต์ ในวันอาทิตย์ที่ไม่หมด แม่บ้านก็จะเอาเนื้อนั้นมาทำเชพเพิร์ดพาย โดยเอามันบดปิดด้านบนแล้วอบให้ผิวมีความกรอบนิดๆ รับประทานอร่อยมาก กลายเป็นอาหารจานหรูได้อีกอย่าง
มีการพัฒนาสูตรของเชพเพิร์ดพายหลายรูปแบบในช่วงหลายปีที่ผ่านมา แต่ส่วนผสมหลักและวิธีการปรุงส่วนใหญ่ยังคงเหมือนเดิม สูตรดั้งเดิมจะนำเนื้อแดงบดปรุงในซอสหัวหอมหรือน้ำเกรวี่ ผสมกับเมล็ดถั่วลันเตา แครอท ปรุงรสด้วยซอสเปรี้ยว เมื่อสุกแล้ว นำเนื้อและซอสใส่ชามหรือจานอบ ปิดด้านบนด้วยมันฝรั่งบดผสมไข่แดงให้ทั่ว โรยด้วยพาสลีย์สับ แล้วอบพายจนชั้นบนสุดเป็นสีทอง บางคนชอบใส่ชีสขูดบนมันฝรั่งบดก่อนอบเพื่อเพิ่มมิติของรสชาติ
6. ไข่สก๊อต (Scotch Eggs)
ไข่สกอตช์ (Scotch egg) เป็นอาหารที่มีต้นกำเนิดในประเทศอังกฤษ ทำจากไข่ต้มหุ้มด้วยเนื้อสัตว์บดก่อนจะคลุกด้วยเกล็ดขนมปังแล้วนำไปทอด ที่มาของไข่สกอตช์มีข้อถกเถียงที่หลากหลาย อย่างเช่น ห้างสรรพสินค้าฟอร์ตนัมและเมสันในลอนดอนกล่าวอ้างว่าตนเป็นผู้คิดค้นขึ้นในปี ค.ศ. 1738 โดยได้ชื่อมาจากชื่อเล่นที่ชาวลอนดอนใช้เรียกเจ้าหน้าที่องครักษ์สกอตที่ประจำอยู่ที่นี่และพัฒนาอาหารชนิดนี้ขึ้น ส่วนด้าน Culinary Delights of Yorkshire กล่าวว่าไข่สกอตช์ถูกคิดค้นในศตวรรษที่ 19 ที่เมืองวิตบี มณฑลยอร์กเชอร์ และใช้เนื้อปลาบดแทนเนื้อสัตว์บด โดยชื่ออาหารมาจากร้านวิลเลียม เจ. สกอตแอนด์ซันส์ ซึ่งขายอาหารชนิดนี้
ไข่สกอตช์มีหลายรูปแบบ ไข่สกอตช์ชุดเล็กมักมาพร้อมกับไข่ผ่าซีกและเบคอนราดด้วยมายองเนส ในแมนเชสเตอร์จะใช้ไข่ดองเสิร์ฟพร้อมไส้กรอกแบล็กพุดดิง ในวูสเตอร์จะใช้ไข่ดองเช่นกันแต่เสิร์ฟพร้อมไส้กรอกไวต์พุดดิง ราดด้วยซอสวูสเตอร์
คุณอาจพบไข่สก๊อตขายในซูเปอร์มาร์เก็ตเป็นของว่างเย็นๆ ซึ่งหมายความว่าเราอาจรับประทานเป็นอาหารว่างมากกว่ามื้ออาหาร
7. พายและมันบด (Pie and Mash)
พายและมันบดเป็นอาหารจานด่วนต้นตำรับของลอนดอน เป็นอาหารอังกฤษแบบดั้งเดิมซึ่งเป็นที่นิยมในพื้นที่ท่าเรือทางตะวันออกของเมืองหลวงในช่วงยุควิกตอเรีย เดิมทีเป็นอาหารของชนชั้นแรงงาน แป้งพายจะช่วยปกป้องอาหารของคนงานจากสิ่งสกปรกและฝุ่นผงที่มีอยู่ทั่วเมือง โดยปกติแล้วพายจะมีไส้เนื้อสับ เสิร์ฟพร้อมมันบดและซอสพาร์สลีย์สีเขียว
พายแบบคลาสสิกแบบดั้งเดิมมีทั้งไส้เนื้อบด ไก่และแฮม แต่ทุกวันนี้คุณสามารถเลือกไส้ได้มากมายหลายประเภท รวมถึงไส้ไก่ทิกก้ามาซาล่า! พายจะเสิร์ฟพร้อมกับมันบด และคุณสามารถเพิ่มถั่วลันเตา หรือถั่วบดก็ได้ หากพายเสิร์ฟพร้อมถั่ว คุณสามารถราดน้ำเกรวี่ปริมาณมากปิดท้ายจานได้
สำหรับพายและมันบดถือเป็นเมนูที่ทานเล่นหรือทานจริงจังก็ได้ เพราะร้านเบเกอรี่ในแต่ละเมืองก็จะขายพายเป็นชิ้นๆ ให้ได้ทานเล่นระหว่างวันกันอยู่แล้ว หากไปสั่งที่ร้าน คุณสามารถสั่งขนาดใหญ่สำหรับทานหลายคนหรือขนาดเล็กเพื่อทานคนเดียวก็ได้ค่ะ
8. ขนมอบคอร์นิช (Cornish Pasties)
ขนมอบคอร์นิช (Cornish Pasty) เป็นขนมปังยัดไส้ที่ทำจากเนื้อและผัก มีประวัติอันเป็นเอกลักษณ์และน่าสนใจที่ย้อนกลับไปหลายศตวรรษ ได้รับความนิยมและแพร่หลายไปทั่วสหราชอาณาจักร มีต้นตำหรับจากคอร์นวอลล์ เมืองทางตอนใต้ของอังกฤษ เชื่อกันว่าขนมชนิดนี้ได้รับการพัฒนาขึ้นสำหรับคนงานเหมืองแร่ชาวคอร์นิช ที่ต้องทำงานอยู่ใต้ดินลึกและต้องการอาหารกลางวันที่ตอบสนองความต้องการของสภาพแวดล้อมการทำงานของพวกเขา สามารถถือกินได้ง่าย แป้งครัสต์หนาและไส้แน่นจะคงความอุ่นได้นานหลายชั่วโมงจนถึงเวลาอาหารกลางวัน หรือสามารถอุ่นซ้ำได้ง่ายบนเปลวไฟของตะเกียงน้ำมัน
ขนมถูกปิดผนึกด้วยแป้งที่ทำขอบจีบหนายื่นออกมา เพื่อให้คนงานเหมืองใช้จับในขณะที่กิน ช่วยให้มือที่สกปรกของพวกเขาไม่ไปโดนส่วนที่เหลือของขนม ซึ่งพวกเขาสามารถทิ้งส่วนนี้ไปเมื่อกินเสร็จแล้ว นักประวัติศาสตร์บางคนเชื่อด้วยว่าบางครั้งอาจมีการสลักชื่อย่อของคนงานขุดแร่ลงในแป้งที่ปลายด้านหนึ่ง เพื่อที่ว่าหากทานไม่หมดในคราวเดียว พวกเขาก็สามารถรจำได้ว่าชิ้นไหนเป็นของตนเอง และบางครั้งภรรยาของคนงานเหมืองอาจทำขนมแบ่งออกเป็นสองส่วน ครึ่งหนึ่งจะมีไส้คาวและอีกครึ่งหนึ่งเป็นไส้หวานสำหรับของหวาน
เนื่องจากขนมอบคอร์นิช หรือคอร์นิชเพสทรี้ ได้รับความนิยมอย่างมากและแพร่หลายไปทั่วสหราชอาณาจักร คุณจึงสามารถหาร้านขนมอบคอร์นิชได้ทั่วทุกที่ไม่ว่าจะเป็นตามสถานีรถไฟและรถโดยสาร เพราะเป็นอาหารที่สะดวก อร่อย มีคุณค่า และทำให้อิ่มท้องดี
9. ครัมเป็ต (Crumpets)
ครัมเป็ตมักรับประทานเป็นอาหารเช้าสไตล์อังกฤษแบบดั้งเดิม ลักษณะกลมคล้ายกับแพนเค้ก แต่หนากว่า ทำมาจากแป้ง น้ำหรือนม และยีสต์ ผสมให้เข้ากันแล้วพักไว้จนแป้งขึ้นฟู หลังจากนั้นนำมาใส่พิมพ์ทอดจนสุก เชื่อกันว่าครัมเป็ตมีต้นกำเนิดมาจากเวลส์และถูกรับประทานมานานก่อนที่สูตรครัมเป็ตอย่างเป็นทางการ จะถูกเผยแพร่โดยเอลิซาเบธ ราฟฟาลด์ในปี พ.ศ. 2312 ครัมเป็ตมีรูพรุนจากฟองอากาศที่เป็นเอกลักษณ์ และมีเนื้อสัมผัสหนานุ่มเหมือนฟองน้ำ ที่ช่วยให้ซอส เนย หรือแยม ซึมลงไปในเนื้อครัมเป็ตได้
ครัมเป็ตเป็นที่นิยมในสหราชอาณาจักร หาซื้อได้ตามซูเปอร์มาร์เก็ตส่วนใหญ่ สามารถรับประทานได้ทั้งของว่าง ทั้งคาวและหวาน บางคนชอบละลายเนยบนครัมเป็ตร้อนๆ หรือราดด้วยซอสอื่นๆ บางคนชอบรับประทานกับผลไม้ น้ำผึ้ง หรือโยเกิร์ต ครัมเป็ตเป็นของว่างแสนอร่อยและรับประทานคู่กับชาและเครื่องดื่มอื่นๆ ได้ทั่วประเทศ
10. แบงเกอร์แอนด์แมช (Bangers & Mash)
แบงเกอร์แอนด์แมช (Bangers & Mash) เป็นอาหารทานง่ายยอดนิยมของอังกฤษ ที่มีไส้กรอกเนื้อฉ่ำเสิร์ฟพร้อมมันบดที่ละเอียดจนเนื้อแทบเป็นครีมและน้ำเกรวี่หัวหอมเข้มข้น หรือเรียกอีกอย่างว่าไส้กรอกและมันบด เป็นอาหารอังกฤษที่หาทานได้ทั่วเกาะบริเตนใหญ่ โดยเฉพาะตามผับอังกฤษที่ขายอาหารสไตล์โฮมเมดแสนอร่อย
คำว่าแบงเกอร์ (Bangers) เป็นคำสแลงสำหรับไส้กรอกและสามารถหมายถึงไส้กรอกชนิดใดก็ได้ คำนี้ปรากฏขึ้นในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 1 และแพร่หลายมากขึ้นในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 เมื่อมีการขาดแคลนเนื้อสัตว์ ทำให้แม่บ้านต้องเพิ่มส่วนผสมที่ราคาไม่แพงอื่นๆ เพิ่มไปในไส้กรอก เช่น ขนมปังกรอบ หรือเกล็ดขนมปัง ผสมน้ำในอัตราส่วนที่เพิ่มขึ้น และเมื่อทอดในกระทะหรือโดนความร้อน น้ำในไส้กรอกจะขยายตัวอย่างรวดเร็ว จนทำให้ไส้กรอกระเบิดเสียงดัง “ปัง” ทำให้เกิดเป็นคำแสลงที่เรียกไส้กรอกว่า แบงเกอร์ ปัจจุบันชาวอังกฤษยังคงเรียกแบบเดิม โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อใช้เรียกอาหารจานที่เรียกว่า “แบงเกอร์แอนด์แมช” หรือไส้กรอกและมันบด
เที่ยวอังกฤษ ต้องไม่พลาด อาหารอังกฤษ
อาหารอังกฤษมีประวัติศาสตร์ที่น่าสนใจ สูตรอาหารแบบดั้งเดิมส่วนใหญ่จะเป็นอาหารที่อร่อย มีประโยชน์ หากคุณมีทริปไปเที่ยวอังกฤษ ทั้ง ที่เที่ยวลอนดอน และที่เที่ยวในเมืองอื่นๆ อย่าลืมแวะชิมอาหารเหล่านี้ในร้านกาแฟ ผับสไตล์อังกฤษ และร้านอาหารที่มีอยู่ทั่วประเทศ และถ้าคุณได้ออกไปเที่ยวแถบพื้นที่ชนบทนอกลอนดอน คุณก็จะได้รับประสบการณ์ที่แท้จริงมากยิ่งขึ้น
แต่การเดินทางไปในสถานที่ที่เราไม่คุ้นเคยทั้งสภาพอากาศ หรืออาหารการกิน ก็อาจทำให้เราเจ็บไข้ได้ป่วย หรือเกิดเหตุฉุกเฉินที่เราไม่ได้คาดคิดมาก่อน จนต้องเสียค่าใช้จ่ายมากเกินกว่าที่ตั้งใจไว้ สิ่งสำคัญที่จะช่วยให้คุณ เที่ยวต่างประเทศได้อย่างอุ่นใจ ไร้กังวล ก็คือ ประกันการเดินทางต่างประเทศ Allianz Travel ขอแนะนำ ประกันภัยการเดินทาง Dance Moves ที่จะช่วยให้ทริป การเดินทางของคุณราบรื่น ไม่มีสะดุด กับความคุ้มครองที่ครอบคลุมค่าใช้จ่ายจากเกือบทุกเหตุการณ์ที่อาจเกิดขึ้นได้ ไม่ว่าจะเป็นค่ารักษาพยาบาล การเลื่อนหรือยกเลิกการเดินทาง กระเป๋าเดินทางหรือเอกสารสำคัญสูญหาย และอื่นๆ อีกมากมาย* อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับความคุ้มครองได้ ที่นี่
*เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทกำหนด
ขอบคุณข้อมูลจาก : theplanetd.com , freetoursbyfoot , wanderingwheatleys
เลือกแผนประกันเดินทางที่ใช่สำหรับคุณ ประกันการเดินทาง Dance Moves จาก Allianz Travel