ขั้นตอนและวิธีการทำใบขับขี่สากล

การทำใบขับขี่สากล ใบอนุญาตขับรถระหว่างประเทศ (IDP)

หลายคนมีแผนที่จะขับรถเที่ยวสำหรับทริปในต่างประเทศ การขับรถเที่ยวเป็นเรื่องน่าสนุก เพราะมันช่วยให้คุณมีอิสระในการสำรวจพื้นที่ต่าง ๆ ตามต้องการ คุณอาจได้เจอกับสถานที่ใหม่ๆ ที่เข้าถึงยากหากต้องเดินทางด้วยการขนส่งสาธารณะ และคุณอาจจะได้พบกับการผจญภัยเล็กๆ ที่รอคุณอยู่ข้างหน้า แต่ก่อนที่คุณจะออกเดินทาง คุณรู้ไหมว่าคุณต้องมี ใบขับขี่สากล หรือ ใบอนุญาตขับรถระหว่างประเทศ หากต้องขับรถในบางประเทศ Allianz Travel จะมาแนะนำให้คุณรู้จักกับใบขับขี่สากล หรือ ใบอนุญาตขับรถระหว่างประเทศ ขั้นตอนการทำ การเตรียมเอกสาร และสถานที่ทำใบขับขี่สากล ทำได้ง่าย ๆ ไม่ยุ่งยากเลยค่ะ 🙂

อัปเดท! เราสามารถทำใบขับขี่สากล หรือ ใบอนุญาตขับรถระหว่างประเทศ ออนไลน์ ผ่านแอปเป๋าตัง ได้แล้ววันนี้! ดูรายละเอียดขั้นตอนวิธีการทำใบขับขี่สากล ออนไลน์ ผ่านแอปเป๋าตังได้ที่บทความนี้เลยค่ะ: วิธีทำใบขับขี่สากล ออนไลน์ ผ่านแอปเป๋าตัง

ทำความรู้จัก ใบขับขี่สากล หรือ ใบอนุญาตขับรถระหว่างประเทศ (IDP)

ใบขับขี่สากล หรือ ใบอนุญาตขับรถระหว่างประเทศ (IDP)

ใบขับขี่สากล หรือชื่อทางการคือ ใบอนุญาตขับรถระหว่างประเทศ (International Driving Permit หรือ IDP) เป็นเอกสารทางกฎหมายที่ใช้ในการยืนยันตัวตนเพื่อให้ผู้ถือสามารถขับขี่ได้ในประเทศ หรือดินแดนที่ไม่ใช่ประเทศบ้านเกิด ผู้ที่ขับขี่รถจะต้องแสดงใบขับขี่สากลพร้อมกับใบขับขี่จากประเทศบ้านเกิดต่อเจ้าหน้าที่ในแต่ละประเทศ เพื่อให้ผู้ขับขี่สามารถขับรถออกนอกประเทศได้อย่างถูกกฎหมาย

ใบขับขี่สากล ที่ประเทศไทยได้เข้าร่วมเป็นภาคีอนุสัญญาว่าด้วยการจราจรทางถนน แบ่งออกเป็น 2 ประเภทตามอนุสัญญา 2 ฉบับ ได้แก่

1. อนุสัญญาว่าด้วยการจราจรทางถนน ณ นครเจนีวา ค.ศ. 1949 หรือ อนุสัญญาเจนีวา 1949

สามารถนำไปใช้ได้ใน 102 ประเทศ เช่น สหรัฐอเมริกา ออสเตรเลีย เกาหลีใต้ นิวซีแลนด์ ญี่ปุ่น เป็นต้น ใบขับขี่สากลภายใต้อนุสัญญานี้จะมีอายุการใช้งาน 1 ปี

2. อนุสัญญาว่าด้วยการจราจรทางถนน ณ กรุงเวียนนา ค.ศ. 1968 หรือ อนุสัญญาเวียนนา 1968

สามารถนำไปใช้ได้ใน 86 ประเทศ เช่น บาห์เรน บราซิล เยอรมนี สวิตเซอร์แลนด์ เป็นต้น ซึ่งบางประเทศเป็นประเทศที่ไม่ได้เป็นภาคีในอนุสัญญาเจนีวา ทำให้ใบขับขี่สากลภายใต้อนุสัญญานี้สามารถเป็นตัวเลือกให้กับคนที่กำลังจะเดินทางไปในประเทศที่อนุสัญญาเจนีวาอาจไม่ครอบคลุม มีอายุ 3 ปี นับแต่วันออกใบขับขี่สากล หรือเท่ากับอายุของใบขับขี่ภายในประเทศที่ผู้ถือมีอยู่

Road Trip in Switzerland

หมายเหตุ

  • ประเทศที่เข้าร่วมเป็นภาคีอนุสัญญาทั้งสองฉบับ เช่น ออสเตรีย เบลเยี่ยม เดนมาร์ก สหราชอาณาจักร อิตาลี ฝรั่งเศส เนเธอร์แลนด์ ตุรกี สวีเดน รวมถึงประเทศไทย สามารถใช้ใบขับขี่สากลที่ออกตามอนุสัญญาเวียนนา 1968 เพียงฉบับเดียวได้
  • ผู้ที่ต้องการขอรับใบอนุญาตขับรถระหว่างประเทศ สามารถแจ้งรายชื่อประเทศที่ต้องการนำใบอนุญาตขับรถไปใช้ต่อเจ้าหน้าที่เพื่อตรวจสอบความเกี่ยวข้องในการร่วมเป็นภาคีตามอนุสัญญา และออกใบอนุญาตขับรถระหว่างประเทศให้ได้อย่างถูกต้องตามแบบที่กำหนด

หลักฐานที่ต้องใช้ในการขอรับ ใบขับขี่สากล

1. หนังสือเดินทาง (ฉบับจริง) ซึ่งยังไม่สิ้นอายุ
2. บัตรประจำตัวประชาชน (ฉบับจริง) ซึ่งยังไม่สิ้นอายุ
3. ใบอนุญาตขับรถยนต์ส่วนบุคคล ชนิด 5 ปี หรือตลอดชีพ (ฉบับจริง) ซึ่งยังไม่สิ้นอายุ
4. รูปถ่าย ขนาด 2 นิ้ว 2 รูป ไม่เคลือบมัน (รูปถ่ายไม่เกิน 6 เดือน)
5. สำเนาหลักฐานการแก้ไขชื่อ – สกุล พร้อมสำเนาที่เซ็นรับรองสำเนาถูกต้อง (ถ้ามี)
6. สำเนาทะเบียนสมรสหรือใบหย่าพร้อมสำเนาที่เซ็นรับรองสำเนาถูกต้อง (ถ้ามี)
7. ค่าธรรมเนียมทำใบขับขี่สากล 505 บาท

กรณีไม่สามารถดำเนินการด้วยตนเอง สามารถมอบอำนาจให้ผู้อื่นทำแทนได้ โดยเตรียมเอกสารเพิ่มเติม คือ

  • หนังสือมอบอำนาจฉบับจริง โดยระบุประเทศที่จะเดินทาง พร้อมติดอากรแสตมป์
  • บัตรประชาชนของผู้รับมอบอำนาจ (ฉบับจริงพร้อมสำเนา)
  • เอกสารของผู้มอบอำนาจที่จะใช้ในการขอรับใบขับขี่สากล (สำเนาพร้อมเซ็นรับรองสำเนาถูกต้อง)

ขั้นตอนการทำ ใบขับขี่สากล

1. ลงทะเบียนจองคิวล่วงหน้าผ่านแอปพลิเคชัน DLT Smart Queue บน App Store และ Play Store หรือเว็บไซต์ https://gecc.dlt.go.th/login ตามขั้นตอนดังนี้

  • กดปุ่มลงทะเบียน (Register) กรอกข้อมูลส่วนตัวและกำหนดรหัสผ่าน หากเคยลงทะเบียนไว้แล้ว สามารถเข้าสู่ระบบด้วยเลขบัตรประชาชนได้เลย
  • เมื่อลงทะเบียนสำเร็จแล้ว เลือกสำนักงานที่ต้องการเข้าไปทำใบขับขี่
  • หัวข้อประเภทบริการ เลือกไปที่ “งานใบอนุญาต”
  • หัวข้อประเภทใบอนุญาตขับรถ เลือกไปที่ “ใบอนุญาตขับรถส่วนบุคคล”
  • หัวข้อประเภทเข้ารับบริการ เลือกไปที่ “ใบอนุญาตขับรถระหว่างประเทศ”
  • หัวข้อประเภทยานพาหนะ ให้เลือกยานพาหนะที่เราจะใช้
  • หัวข้อประเภทงาน เลือกไปที่ “ใบอนุญาตส่วนบุคคล: ใบอนุญาตขับรถระหว่างประเทศ”
  • เลือกวันและเวลาที่ต้องการใช้บริการ โดยวันที่ว่างจะขึ้นเป็นสีเขียว ส่วนวันที่คิวเต็มนั้นจะขึ้นคำว่า “เต็ม” เป็นตัวหนังสือสีแดง
  • หลังจากเลือกวันและเวลาที่ต้องการเข้าใช้บริการเรียบร้อยแล้ว ให้กด “ยืนยันการจอง” ถือเป็นอันเสร็จสิ้นการจองคิว

2. เตรียมเอกสารต่าง ๆ ตามรายการ และไปติดต่อขอรับบริการได้ที่สำนักงานขนส่งกรุงเทพมหานครพื้นที่ 1-5 และสำนักงานขนส่งจังหวัดทั่วประเทศ เปิดบริการทุกวันจันทร์-ศุกร์ ตั้งแต่เวลา 08.30-15.30 น. หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม โทร.1584 
3. ยื่นคำขอ ตรวจสอบเอกสารและคุณสมบัติเบื้องต้น > จัดทำคำขอ > ผู้ขอลงนามคำขอ
4. เมื่อตรวจสอบเอกสารผ่าน > ชำระเงิน > ออกใบเสร็จ > จัดทำใบอนุญาต > นายทะเบียนลงนาม > จ่ายใบอนุญาตขับรถ

Road Trip Travel : ทริปขับรถท่องเที่ยวต่างประเทศ

หลังจากที่คุณได้รับ ใบขับขี่สากล เพื่อนำไปใช้ขับขี่ระหว่างทริปท่องเที่ยวต่างประเทศของคุณแล้ว คุณก็ควรศึกษาและทำความเข้าใจกฎจราจรของประเทศนั้น ๆ และศึกษาเส้นทางก่อนออกเดินทางเสมอ เพื่อให้คุณขับขี่ได้อย่างปลอดภัย ป้องกันปัญหาอื่นที่อาจตามมากวนใจคุณในอนาคต นอกจากนี้ สิ่งสำคัญที่คุณควรมีติดตัวไว้ก่อนออกเดินทางไปเที่ยวต่างประเทศ ก็คือ ประกันภัยการเดินทาง ที่ช่วยให้คุณเดินทางได้อย่างอุ่นใจ ไร้กังวล เพียงจ่ายเงินไม่กี่บาท คุณก็จะได้ความคุ้มครองมากมายที่ครอบคลุมเกือบทุกเหตุการณ์ไม่คาดฝันที่อาจเกิดขึ้นระหว่างเดินทาง* เช่น ความเจ็บป่วย การเกิดอุบัติเหตุ กระเป๋าหาย ไฟลท์ดีเลย์ เป็นต้น Allianz Travel ขอแนะนำ ประกันเดินทางต่างประเทศ Dance Moves ที่จะช่วยให้ทริป การเดินทางของคุณราบรื่น ไม่มีสะดุด อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับความคุ้มครองได้ ที่นี่

*เงื่อนไข ความคุ้มครอง และข้อยกเว้นเป็นไปตามที่ระบุไว้ในกรมธรรม์ประกันภัย ผู้ขอเอาประกันภัยควรทำความเข้าใจในรายละเอียดความคุ้มครอง และเงื่อนไขก่อนตัดสินใจทำประกันภัยทุกครั้ง จำนวนความคุ้มครองและผลประโยชน์ขึ้นอยู่กับแผนประกันภัย

ขอบคุณข้อมูลจาก : สำนักงานสวัสดิภาพการขนส่งทางบก (สนภ.) กรมการขนส่งทางบก

เลือกแผนประกันเดินทางที่ใช่สำหรับคุณ ประกันการเดินทาง Dance Moves จาก Allianz Travel

วิธีทำใบขับขี่สากลออนไลน์ ผ่านแอปเป๋าตัง

วิธีทำใบขับขี่สากล ออนไลน์ ผ่านแอปเป๋าตัง

ข่าวดีสำหรับเพื่อน ๆ ที่มีแพลนขับรถเที่ยวในต่างประเทศ แล้วต้องเตรียมตัวไปทำใบขับขี่สากล วันนี้แอปพลิเคชัน เป๋าตัง ได้ร่วมมือกับ กรมขนส่งทางบก ให้เราสามารถ ทำใบขับขี่สากลออนไลน์ ผ่านแอปพลิเคชัน เป๋าตัง ได้แล้ววันนี้ ซึ่งขั้นตอนในการ ทำใบขับขี่สากล ออนไลน์ ผ่านแอป เป๋าตัง สามารถทำได้ง่าย ๆ สะดวก ขั้นตอนไม่ยุ่งยาก ใช้เวลาไม่กี่นาทีก็สามารถนั่งรอใบขับขี่สากลที่บ้านได้เลยค่ะ วันนี้ Allianz Travel มีขั้นตอนการขอใบขับขี่สากล ออนไลน์ ผ่านเป๋าตัง มาฝากเพื่อน ๆ มีเอกสารที่ต้องเตรียม เงื่อนไข และขั้นตอนในการขออย่างไรบ้าง ไปดูกันเลยค่ะ 🙂

เอกสารที่ต้องเตรียมสำหรับ ทำใบขับขี่สากล ออนไลน์ ผ่านแอป เป๋าตัง

1. รูปหน้าตรง ครึ่งตัว ที่ถ่ายไม่เกิน 6 เดือน แต่งกายสุภาพ สวมแว่นสายตาได้
2. ขนาดไฟล์ไม่เกิน 5 MB
3. พื้นหลังของรูปเป็นสีขาว ไม่มีเงาตกกระทบ

คำแนะนำ:
– ต้องเห็นตา จมูก ปาก ชัดเจน และไม่เห็นฟัน
– พยายามลืมตาให้กว้าง ไม่ขมวดคิ้ว
– ไม่ใช้รูปภาพที่ถ่ายด้วยกล้องหน้า (เซลฟี่)
– ไม่สวมหมวก แว่นตาสีเข้ม ผ้าคลุมใบหน้าหรือผ้าโพกศรีษะ ยกเว้นผู้มีความจำเป็นทางศาสนา

เงื่อนไขการทำใบขับขี่สากล ออนไลน์ ผ่านแอป เป๋าตัง

1. หนังสือเดินทางมีอายุเหลือไม่น้อยกว่า 6 เดือน
2. ใบอนุญาตขับรถมีอายุเหลือไม่น้อยกว่า 3 เดือน และไม่เป็นใบอนุญาตขับรถส่วนบุคคลชั่วคราว

ขั้นตอนการทำใบขับขี่สากล ออนไลน์ ผ่านแอป เป๋าตัง

1. เปิดแอปพลิเคชัน เป๋าตัง (เวอร์ชันอัปเดตล่าสุด)
2. เลือกเมนูบริการ ตรงแถบเมนูด้านล่างของหน้าจอแอป

การทำใบขับขี่สากล ออนไลน์ - เลือกเมนูบริการ

3. แอปแสดงหน้าบริการ หลังจากนั้น เลือก กรมการขนส่งทางบก

การทำใบขับขี่สากล ออนไลน์ - เลือกกรมการขนส่งทางบก

4. แอปแสดงหน้าขอรับใบอนุญาตขับรถระหว่างประเทศ พร้อมกับข้อมูลเอกสารที่ต้องเตรียม และเงื่อนไขเอกสาร หลังจากนั้นกดถัดไป

การทำใบขับขี่สากล ออนไลน์ - หน้าขอรับใบอนุญาตขับรถระหว่างประเทศ

5. แอปแสดงหน้าเลือกประเภทใบอนุญาตขับรถระหว่างประเทศ ขั้นตอนนี้ให้เราเลือกประเภทใบอนุญาตขับรถระหว่างประเทศให้ตรงกับประเทศที่เราเดินทางไป โดยตรวจสอบรายชื่อประเทศที่อยู่ในแต่ละอนุสัญญา โดยกดเลือก ดูรายชื่อประเทศ ที่อยู่ในแต่ละอนุสัญญา โดยมีรายละเอียดดังนี้

การทำใบขับขี่สากล ออนไลน์ - หน้าเลือกประเภทใบอนุญาตขับรถระหว่างประเทศ

5.1 อนุสัญญาเจนีวา 1949 (ประเภท 1 ปี 102 ประเทศ)
ใบอนุญาตมีอายุ: 1 ปี
ประเภทของรถ: รถยนต์และรถจักรยานยนต์
ค่าบริการ: 505 บาท
จำนวนประเทศ: 102 ประเทศ

5.2 อนุสัญญาเวียนนา 1968 (ประเภทไม่เกิน 3 ปี 91 ประเทศ)
ใบอนุญาตมีอายุ: ไม่เกิน3 ปี
ประเภทของรถ: รถยนต์
ค่าบริการ: 505 บาท
จำนวนประเทศ: 91 ประเทศ

หลังจากเลือกประเภทใบอนุญาตขับรถระหว่างประเทศเรียบร้อยแล้ว ให้กดถัดไปค่ะ

หมายเหตุ: หากประเทศที่ต้องการไปไม่อยู่ในอนุสัญญาเดียวกัน กรุณาขอรับใบอนุญาตขับรถระหว่างประเทศอนุสัญญาอื่นเพิ่มเติม

6. แอปแสดงหน้าข้อมูลบัตรประชาชน กรอกข้อมูลรหัสหลังบัตรประชาชน 12 หลัก  หลังจากนั้นกดถัดไป

การทำใบขับขี่สากล ออนไลน์ - หน้าข้อมูลบัตรประชาชน


7. แอปแสดงหน้าสแกนใบหน้า เพื่อทำการยืนยันตัวตน กดสแกนใบหน้า

การทำใบขับขี่สากล ออนไลน์ - หน้าสแกนใบหน้า


8. หลังจากสแกนใบหน้า แอปจะแสดงหน้าอัปโหลดรูปภาพติดใบอนุญาตขับรถระหว่างประเทศ โดยรูปภาพที่ใช้ต้องเป็นไปตามรายละเอียดที่ระบุไว้ ตามรายละเอียดในหัวข้อ เอกสารที่ต้องเตรียมสำหรับการทำใบขับขี่สากล ออนไลน์ ผ่านแอป เป๋าตัง ข้างต้นค่ะ (แนะนำให้เตรียมรูปไว้ให้เรียบร้อยก่อนสมัคร อัปโหลดรูปได้ไม่เกิน 5 รอบ) หลังจากนั้นทำการอัปโหลดรูปภาพที่เราเตรียมไว้ และกดถัดไปค่ะ

การทำใบขับขี่สากล ออนไลน์ - หน้าอัปโหลดรูปภาพติดใบอนุญาตขับรถระหว่างประเทศ
การทำใบขับขี่สากล ออนไลน์ - หน้าอนุญาตการเข้าถึงคลังรูปภาพ
การทำใบขับขี่สากล ออนไลน์ - หน้าอัปโหลดรูปภาพสำเร็จ

9. แอปแสดงหน้าที่อยู่สำหรับจัดส่ง กรอกข้อมูลที่อยู่สำหรับจัดส่งเอกสารใบอนุญาตขับรถระหว่างประเทศ เบอร์โทรศัพท์ และอีเมลสำหรับจัดส่งใบเสร็จ (ถ้ามี) หลังจากนั้นกดถัดไป

การทำใบขับขี่สากล ออนไลน์ - หน้าที่อยู่สำหรับจัดส่ง


10. แอปแสดงหน้าตรวจสอบข้อมูล ทำการตรวจสอบข้อมูลรายละเอียดการขอรับใบอนุญาตขับรถระหว่างประเทศ ที่อยู่สำหรับการจัดส่ง และรูปภาพติดใบอนุญาตอีกครั้ง หลังจากตรวจสอบเสร็จเรียบร้อยแล้วให้กดถัดไปค่ะ

การทำใบขับขี่สากล ออนไลน์ - หน้าตรวจสอบข้อมูล

11. ทำการชำระเงิน โดยราคาค่าบริการในการขอใบอนุญาตขับรถระหว่างประเทศ รวมค่าจัดส่งอยู่ที่ 565 บาท ชำระเงินผ่านแอป เป๋าตัง หลังจากนั้นรอรับ ใบอนุญาตขับรถระหว่างประเทศ หรือ ใบขับขี่สากล ที่จะถูกจัดส่งผ่านทางไปรษณีย์มาที่บ้านได้เลยค่ะ : )

การทำใบขับขี่สากลออนไลน์ ทำให้หลาย ๆ คน สะดวกมากขึ้น ลดระยะเวลาในการเตรียมเอกสารต่าง ๆ การจองคิว และการเดินทางไปทำใบขับขี่สากล เพียงไม่กี่ขั้นตอน ในระยะเวลาไม่กี่นาที เราก็สามารถทำใบขับขี่สากล และรอรับที่บ้านได้เลย เพียงเท่านี้เราก็สามารถมีใบอนุญาตขับรถระหว่างประเทศ หรือ ใบขับขี่สากล เพื่อขับรถท่องเที่ยวในต่างประเทศได้แล้ว แต่การเดินทางโดยการขับรถท่องเที่ยวในต่างประเทศ เราจะต้องศึกษากฎจราจรของประเทศนั้น ๆ เพราะแต่ละประเทศจะมีรูปแบบที่แตกต่างกันออกไป และที่สำคัญสิ่งที่จะขาดไม่ได้ก็คือ ประกันการเดินทางต่างประเทศ สิ่งสำคัญที่ช่วยให้คุณเดินทางได้อย่างอุ่นใจ ไร้กังวล เพียงจ่ายเงินไม่กี่บาท คุณก็จะได้รับความคุ้มครองมากมายที่ครอบคลุมเกือบทุกเหตุการณ์ไม่คาดฝันที่อาจเกิดขึ้นระหว่างเดินทาง* เช่น ความเจ็บป่วย การเกิดอุบัติเหตุ กระเป๋าหาย เที่ยวบินดีเลย์ เป็นต้น Allianz Travel ขอแนะนำ ประกันการเดินทางต่างประเทศ Dance Moves ที่จะช่วยให้ทริป การเดินทางของคุณราบรื่น ไม่มีสะดุด อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับความคุ้มครองได้ ที่นี่

*เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทกำหนด

ขอบคุณข้อมูลจาก: dlt.go.th (กรมการขนส่งทางบก), safedrivedlt.com (สำนักสวัสดิภาพการขนส่งทางบก (สนภ.) กรมการขนส่งทางบก), แอปพลิเคชั่นเป๋าตัง

เลือกแผนประกันเดินทางที่ใช่สำหรับคุณ ประกันการเดินทาง Dance Moves จาก Allianz Travel

35 ประเทศไม่ต้องขอวีซ่า สำหรับนักท่องเที่ยวไทย 2567

อัปเดต! 35 ประเทศ ไม่ต้องขอวีซ่า สำหรับคนไทย ปี 2567

(อัปเดต 1 สิงหาคม 2567) สำหรับนักท่องเที่ยวชาวไทยที่ต้องการเดินทางท่องเที่ยวต่างประเทศโดยไม่ต้องผ่านขั้นตอนการขอวีซ่าที่ยุ่งยาก และต้องใช้เวลาเตรียมการล่วงหน้านานพอสมควร Allianz Travel ขอนำลิสต์อัปเดท 35 ประเทศที่ผู้ที่ถือหนังสือเดินทางของประเทศไทยสามารถเดินทางเข้าประเทศได้โดยไม่ต้องขอวีซ่า มาเป็นทางเลือกให้เพื่อนๆ ได้ไปเที่ยวกันแบบชิลๆ เพียงแค่เก็บกระเป๋า ซื้อตั๋วเครื่องบิน และไปเที่ยวได้เลย มีประเทศไหนบ้าง มาดูกันเลย

อัพเดท 35 ประเทศ คนไทยไม่ต้องขอวีซ่า 2567

ข้อควรรู้ก่อนการเดินทาง

ถึงแม้ว่าเราไม่ต้องขอวีซ่าในการเดินทางเข้าประเทศเหล่านั่น แต่เราก็ควรเตรียมเอกสารติดตัวไปให้พร้อม กรณีที่ด่านตรวจคนเข้าเมืองของประเทศปลายทางเรียกตรวจสอบ เราก็ต้องแสดงหลักฐานให้เจ้าหน้าที่เชื่อว่าเราเดินทางมาท่องเที่ยว โดยไม่มีเจตนาอื่นที่ผิดกฎหมาย Allianz Travel ขอแนะนำให้เตรียมเอกสารดังต่อไปนี้ติดตัวไปด้วย

  • หลักฐานการทำงาน เช่น หนังสือรับรองการทำงาน บัตรพนักงาน หรือถ้าเป็น Freelance ก็แสดงผลงานของเรา หรือถ้ายังเป็นนักเรียน นักศึกษาก็แสดง สถานะการเรียน หรือใบรับรองการศึกษา
  • สมุดบัญชีที่มีการเคลื่อนไหว
  • ตั๋วโดยสารเครื่องบินทั้งขาไป และขากลับ
  • หลักฐานการจองที่พัก
  • แผนการเดินทางอย่างละเอียด

ประเทศ ไม่ต้องขอวีซ่า ที่อนุญาตให้อยู่ได้ 14 วัน

• กัมพูชา

• เมียนมา (พม่า) (*เฉพาะท่าอากาศยานนานาชาติ)

• ไต้หวัน (สิ้นสุด 31 ก.ค. 2568) (สามารถดูข้อมูลเกี่ยวกับการท่องเที่ยวไต้หวันได้ที่บทความ: 10 กิจกรรมที่ควรทำเมื่อไป เที่ยวไต้หวัน)

• บรูไน

ประเทศ ไม่ต้องขอวีซ่า ที่อนุญาตให้อยู่ได้ 15 วัน

• ญี่ปุ่น (สามารถดูข้อมูลเกี่ยวกับการท่องเที่ยวญี่ปุ่นได้ที่บทความ: เที่ยวญี่ปุ่น ไปได้ทั้งปี สัมผัสความงามได้ทุกฤดู)

ประเทศ ไม่ต้องขอวีซ่า ที่อนุญาตให้อยู่ได้  30 วัน

• จีน (สามารถดูข้อมูลเกี่ยวกับการท่องเที่ยวจีนได้ที่บทความ:เที่ยวจีน ต้อนรับฟรีวีซ่า กับ 8 เมืองท่องเที่ยวยอดนิยม)

• ฮ่องกง

• อินโดนีเซีย

• ลาว

• มาเก๊า

• มองโกเลีย

• ทาจิกิสถาน

• มาเลเซีย

• มัลดีฟส์

• ฟิลิปปินส์

• กาตาร์

• รัสเซีย

• หมู่เกาะเซเชลส์

• มณฑลไห่หนาน

• สิงคโปร์ (สามารถดูข้อมูลเกี่ยวกับการท่องเที่ยวสิงคโปร์ได้ที่บทความ: 10 ที่เที่ยวสิงคโปร์ สุดฮิต 2022 ที่ไม่ควรพลาด!)

• แอฟริกาใต้

• ตุรกี

• วานูอาตู

• เวียดนาม (สามารถดูข้อมูลเกี่ยวกับการท่องเที่ยวเวียดนามได้ที่บทความ: 12 ที่เที่ยวเวียดนาม 2022 ที่ควรเก็บไว้ในลิสต์)

ประเทศ ไม่ต้องขอวีซ่า ที่อนุญาตให้อยู่ได้  60 วัน

• คีร์กีซ หรือ คีร์กีซสถาน (สิ้นสุด 31 ธ.ค. 2568)

ประเทศ ไม่ต้องขอวีซ่า ที่อนุญาตให้อยู่ได้  90 วัน

• อาร์เจนตินา

• บราซิล

• ชิลี

• เอกวาดอร์

• เปรู

• แอลเบเนีย (สิ้นสุด 31 ธ.ค. 2567)

• เกาหลีใต้ (สามารถดูข้อมูลเกี่ยวกับการท่องเที่ยวเกาหลีใต้ได้ที่บทความ: 10 ที่เที่ยวเกาหลี 2022 ไม่ควรพลาด)

ประเทศ ไม่ต้องขอวีซ่า ที่อนุญาตให้อยู่ได้  180 วัน

• ปานามา

ประเทศ ไม่ต้องขอวีซ่า ที่อนุญาตให้อยู่ได้  365 วัน

• จอร์เจีย (สามารถดูข้อมูลเกี่ยวกับการท่องเที่ยวจอร์เจียได้ที่บทความ: 13 ที่เที่ยวจอร์เจีย ธรรมชาติอันงดงามบนเทือกเขาคอเคซัส)

หมายเหตุ: เนื่องจากเป็นการอนุญาตของประเทศปลายทางซึ่งอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ กรุณาตรวจสอบข้อมูลอีกครั้งก่อนเดินทางที่สถานทูตของประเทศปลายทางที่ตั้งอยู่ในประเทศไทย หรือที่กระทรวงการต่างประเทศดังนี้

  • กรมอเมริกาและแปซิฟิกใต้ 02 643 5128
  • กรมยุโรป 02 643 5138
  • กรมเอเชียตะวันออก 02 643 5194
  • กรมเอเชียใต้ ตะวันออกกลาง และแอฟริกา 02 643 5062

ประเทศและดินแดนที่ผู้ถือหนังสือเดินทางไทยไม่จำเป็นต้องขอวีซ่าล่วงหน้า แต่สามารถขอ Visa on Arrival (VOA) ได้

นอกจากประเทศที่เราสามารถเดินทางไปได้โดยไม่ต้องขอวีซ่าแล้ว ยังมีอีก 11 ประเทศที่อนุญาตให้ผู้ที่ถือหนังสือเดินทางสัญชาติไทยสามารถขอ Visa on Arrival หรือ VOA ได้ที่ด่านตรวจคนเข้าเมืองของประเทศนั้นๆ ตามรายละเอียดดังต่อไปนี้

ประเทศ/ดินแดนพำนักได้ไม่เกินอัตราค่าธรรมเนียม
บาร์เรน14 วัน 5 ดีนาร์บาร์เรน (สำหรับหนังสือเดินทางธรรมดา ที่ด่านท่าอากาศยานนานาชาติและสะพานข้ามแดนซาอุฯ – บาร์เรน)
โบลิเวีย30 วัน 135 เหรียญสหรัฐ (เฉพาะวีซ่าประเภทท่องเที่ยว)
ฟิจิ4 เดือนไม่มีค่าธรรมเนียม
จอร์แดน30 วัน40 ดีนาร์จอร์แดน
คีร์กีซสถาน15 วัน/1 เดือน50 เหรียญสหรัฐ/60 เหรียญสหรัฐ (สำหรับหนังสือเดินทางธรรมดา)
เนปาล15 วัน25 เหรียญสหรัฐ
30 วัน40 เหรียญสหรัฐ
90 วัน100 เหรียญสหรัฐ
นิการากัว30 วัน10 เหรียญสหรัฐ
นีอูเอ30 วันไม่มีค่าธรรมเนียม
โอมาน30 วัน20 เรียลโอมาน
หมู่เกาะโซโลมอน3 เดือนไม่มีค่าธรรมเนียม
ติมอร์-เลสเต30 วัน30 เหรียญสหรัฐ

หมายเหตุ: การขอ Visa on Arrival อาจมีค่าธรรมเนียมตามแต่ละประเทศ และข้อมูลต่างๆ อาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ กรุณาตรวจสอบกับประเทศปลายทางให้แน่ชัดอีกครั้งก่อนเดินทาง ***

ถึงแม้ว่าเราจะสามารถเดินทางไปได้โดยไม่ต้องกังวลกับเรื่องวีซ่าแล้ว แต่เราก็ยังต้องเตรียมตัวและข้าวของจำเป็นให้พร้อมก่อนเดินทางเพื่อให้การเดินทางของเราราบรื่น เที่ยวสนุก ปลอดภัย และไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายใด ๆ เพิ่มเติมจากที่วางแผนไว้ และสิ่งสำคัญที่ขาดไม่ได้คือ การซื้อประกันการเดินทางต่างประเทศ ที่จะช่วยให้การเดินทางของคุณราบรื่น ไม่มีสะดุด กับความคุ้มครองที่ครอบคลุมค่าใช้จ่ายจากเกือบทุกเหตุการณ์ที่อาจเกิดขึ้นได้ ไม่ว่าจะเป็นค่ารักษาพยาบาล การบาดเจ็บจากอุบัติเหตุระหว่างเดินทาง การเลื่อนหรือยกเลิกการเดินทาง กระเป๋าเดินทางหรือเอกสารสำคัญสูญหาย และอื่นๆ อีกมากมาย* อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับความคุ้มครองได้ ที่นี่

*เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทกำหนด

ข้อมูลปรับปรุง: 1 สิงหาคม 2567

ขอบคุณข้อมูลจาก : mfa.go.th

เลือกแผนประกันเดินทางที่ใช่สำหรับคุณ ประกันการเดินทาง Dance Moves จาก Allianz Travel

เที่ยวฟินแลนด์ ช่วงคริสต์มาส แวะบ้านเกิดซานตาคลอส

เที่ยวฟินแลนด์ ช่วงคริสต์มาส แวะบ้านเกิดซานตาคลอส

เทศกาลวันคริสต์มาสซึ่งตรงกับวันที่ 25 ธันวาคมของทุกปีใกล้จะมาถึงแล้ว สถานที่หลายแห่งจะมีการประดับประดาตกแต่ง สร้างบรรยากาศเฉลิมฉลองเทศกาลแห่งความสุข และหนึ่งในสัญลักษณ์ของวันคริสต์มาสที่ทุกคนนึกถึงคือซานตาคลอส ชายแก่ท่าทางใจดี สวมชุดสีแดง มีหนวดเคราสีขาว สวมรองเท้าบูตสีดำ ที่มักปรากฏตัวในค่ำคืนของวันคริสต์มาส พร้อมกับกวางเรนเดียร์จมูกแดงและรถลากเลื่อนคู่ใจ เพื่อนำของขวัญไปมอบให้แก่เด็กๆ ที่เป็นภาพจำของผู้คนทั่วโลกมาอย่างยาวนาน และวันนี้ Allianz Travel จะพาคุณไปสัมผัสความมหัศจรรย์ที่แท้จริงของคริสต์มาส นั่นคือการจัดทริปพาคุณไป เที่ยวฟินแลนด์ บ้านคุณลุงซานต้าที่หมู่บ้านซานตาคลอสกันค่ะ

เที่ยวฟินแลนด์ หมู่บ้านซานตาคลอส ช่วงเทศกาลคริสต์มาส

หมู่บ้านซานตาคลอสตั้งอยู่บนเส้นอาร์กติกเซอร์เคิล (Arctic Circle) เมืองโรวาเนียมิ (Rovaniemi) แลปแลนด์ (Lapland) ภูมิภาคทางเหนือสุดของประเทศฟินแลนด์ บ้านเกิดอย่างเป็นทางการของซานตาคลอสตั้งแต่ปีพ.ศ. 2508 และเป็นหนึ่งในที่เที่ยวสุดฮิตของฟินแลนด์ที่มีนักท่องเที่ยวแวะมากันอย่างคึกคัก ที่นี่เปิดให้เที่ยวชม และพบกับลุงซานต้าได้ตลอดทั้งปี แต่ช่วงเทศกาลคริสต์มาสก็อาจเป็นช่วงเวลาที่น่ามหัศจรรย์ที่สุด งานเฉลิมฉลองเทศกาลจะจัดล่วงหน้าก่อนวันสำคัญประมาณ 1 เดือน มีการประดับไฟกันอย่างสวยงาม นักท่องเที่ยวก็ยิ่งเยอะมากเป็นพิเศษ และทุกวันที่ 23 ธันวาคม จะมีกิจกรม Santa is on His Way ซึ่งผู้คนจะมารวมตัวกันเพื่อชมช่วงเวลาอันงดงามขณะที่ซานตาคลอสกำลังจะออกเดินทางรอบโลก

ที่เที่ยวฟินแลนด์ หมู่บ้านซานตาคลอส

กิจกรรมห้ามพลาดที่หมู่บ้านซานตาคลอส

หมู่บ้านซานตาคลอสเป็นประสบการณ์อันน่ามหัศจรรย์ในการไป เที่ยวฟินแลนด์ ที่คุณสามารถใช้เวลาแบบรวดรัดใน 1 วัน หรือพักค้างคืนเพื่อร่วมกิจกรรมต่างๆ รวมถึงอาจออกไปเที่ยวตามสถานที่ท่องเที่ยวอื่นๆ โดยรอบ

1. เที่ยวฟินแลนด์ ถ่ายรูปกับซานต้า

สิ่งที่เป็นที่นิยมมากที่สุดเมื่อมาถึงหมู่บ้านซานตาคลอสคือการไปเจอและถ่ายรูปกับกับซานตาคลอสที่สำนักงาน ซึ่งเปิดทุกวันตลอดทั้งปี เช็ครายละเอียดเวลาทำการได้ที่นี่

เที่ยวฟินแลนด์ ถ่ายรูปกับซานต้า

2. ที่ทำการไปรษณีย์ซานต้า

ศูนย์กลางการส่งของขวัญและจดหมาย มีการ์ดสวยๆ แสตมป์และของขวัญที่ไม่ซ้ำใคร คุณสามารถส่งโปสการ์ดและประทับตราไปรษณีย์พิเศษจากหมู่บ้านซานตาคลอสไปถึงเพื่อนของคุณได้ทั่วโลก รวมถึงชมการคัดแยกจดหมายจากเด็กๆ ทั่วโลกที่จ่าหน้าซองถึงคุณลุงซานต้าด้วย ซึ่งจดหมายทุกฉบับที่จ่าหน้าซองถึง “Santa Claus” จะถูกส่งมาที่นี่โดยไม่ต้องระบุที่อยู่! อ่านรายละเอียดที่นี่

ที่เที่ยวฟินแลนด์ ที่ทำการไปรษณีย์ซานต้า

3. นั่งเลื่อนกวางเรนเดียร์

เพลิดเพลินกับการนั่งเลื่อนกวางเรนเดียร์ ซึ่งเป็นกิจกรรมที่เนิบนาบไปเรื่อยๆ แต่สนุก เพราะเจ้ากวางเรนเดียร์จะค่อยๆ พาคุณเข้าไปในป่าสนที่เต็มไปด้วยหิมะ ราวกับเข้าไปในวันเดอร์แลนด์ พอจบทริปก็แวะไปที่ฟาร์มเพื่อเยี่ยมชมและให้อาหารกวางเรนเดียร์ และเหล่าเพื่อน เช่น อัลปาก้า ลูกม้า แพะ แกะ กระต่าย ลา และนกชนิดต่างๆ

ที่เที่ยวฟินแลนด์ นั่งเลื่อนกวางเรนเดียร์

4. เดินข้ามเส้นอาร์กติกเซอร์เคิล

เส้นอาร์กติกเซอร์เคิลเป็นเส้นวงกลมละติจูดที่อยู่เหนือสุดของโลก อยู่ที่ 66 องศา 33 ลิปดา 45.9 ฟิลิปดา ซึ่งเส้นนี้จะมีการขยับขึ้นเหนือไปเรื่อยๆ ตามการเอียงของแกนโลก บริเวณเส้นเส้นอาร์กติกเซอร์เคิลจะเป็นดินแดนแห่งพระอาทิตย์เที่ยงคืน หน้าร้อนจะสว่างตลอด 24 ชั่วโมง ส่วนหน้าหนาวจะมีแต่ความหนาวเย็นและความมืด คุณสามารถเดินข้ามเข้าไปในวงกลมอาร์กติกและได้รับประกาศนียบัตรรับรองว่าคุณได้มาถึงขั้วโลกเหนือแล้ว

5. ชมแสงเหนือ

คุณสามารถชมแสงเหนือหรือแสงออโรร่า บอเรลลิส (Aurora Borealis) ได้ที่หมู่บ้านซานตาคลอส ซึ่งปรากฎการณ์นี้เห็นได้มากที่สุดระหวางเดือนพฤศจิกายนถึงเดือนมีนาคม คุณสามารถเลือกไปกับทัวร์ไล่ล่าแสงเหนือด้วยสโนว์โมบิลซึ่งจะพาคุณออกตระเวนไปตามบริเวณที่มีแนวโน้มว่าจะพบเห็นมากที่สุด หรือนั่งรอชมแบบอุ่นๆ ในที่พักแบบ igloo ที่มีห้องหลังคากระจกกว้างและมีเครื่องจับคลื่นแม่เหล็กจากแสงเหนือ เลือกได้ตามสไตล์ที่คุณชอบ

เที่ยวคริสมาสต์ ที่ฟินแลนด์ ดูแสงเหนือหรือแสงออโรร่า บอเรลลิส (Aurora Borealis)

6. ฮัสกี้ซาฟารี (Husky Safaris)

นอกจากการนั่งเลื่อนกวางเรนเดียร์แล้ว เรายังสามารถไปสัมผัสกับสุนัขแสนรู้พันธุ์ไซบีเรียนฮัสกี้ นั่งเลื่อนที่ลากด้วยสุนัขฮัสกี้ที่ทรงพลัง 6 ตัว วิ่งกันเป็นทีมด้วยความเร็วไปบนพื้นหิมะในป่าสนที่ขาวโพลน เตรียมเสื้อผ้าและอุปกรณ์กันหนาวให้พร้อมที่สุดเลยนะคะ

เที่ยวคริสมาสต์ ที่ฟินแลนด์ นั่งเลื่อนที่ลากด้วยสุนัขฮัสกี้และการนั่งเลื่อนกวางเรนเดียร์

7. สนุกกับการขี่สโนว์โมบิล

อยู่รอบแลปแลนด์ด้วยการขี่สโนว์โมบิล ซึ่งเลือกได้ตั้งแต่ 2 ชั่วโมง ไปจนถึง 4 ชั่วโมง และถ้าอยากพิเศษกว่านั้นยามค่ำคืนก็มีขับสโนว์โมบิลไปล่าแสงเหนือได้อีกด้วยค่ะ

เที่ยวฟินแลนด์ ขี่สโนว์โมบิล

วิธีเดินทางจากเฮลซิงกิไปโรวาเนียมิ

การเดินทางจากเฮลซิงกิไปโรวาเนียมิมีให้เลือกหลายรูปแบบ ทั้งทางเครื่องบิน รถไฟ รถโค้ช หรือรถยนต์ และโดยเฉพาะช่วงคริสต์มาส มีเที่ยวบินเช่าเหมาลำพร้อมแพ็คเกจโรงแรมให้บริการจากหลายประเทศ

  • การเดินทางด้วยเครื่องบินสายการบินฟินแอร์ ให้บริการเที่ยวบินระหว่างโรวาเนียมิและเฮลซิงกิทุกวันตลอดทั้งปี และสายการบินนอร์วีเจียน ให้บริการสัปดาห์ละหลายเที่ยว นอกจากนี้คุณยังสามารถบินตรงจากเมืองอื่นๆ ในยุโรปในช่วงเดือนตุลาคมถึงเดือนมีนาคมได้อีกด้วย อย่างเช่น ลอนดอน ปารีส มาดริด อัมสเตอร์ดัม เป็นต้น
  • การเดินทางด้วยรถไฟการรถไฟฟินแลนด์ ให้บริการรถไฟจากเมืองต่างๆ ในฟินแลนด์ โดยมีรถไฟหลายขบวนวิ่งไปและกลับจากเฮลซิงกิทุกวัน ตลอดทั้งปี แม้ว่าสภาพอากาศจะไม่ดีก็ตาม
เที่ยวคริสมาสต์ ที่ฟินแลนด์ การเดินทางด้วยรถไฟ จากเฮลซิงกิไปโรวาเนียมิ
  • การเดินทางด้วยรถบัส – คุณสามารถใช้บริการรถบัสของ Matkahuolto และ Onnibus ที่ครอบคลุมหลายเส้นทางเชื่อมต่อเมืองโรวาเนียมิกับเมืองทางตอนเหนือของแลปแลนด์
  • การเดินทางด้วยรถยนต์ – เมืองโรวาเนียมิเข้าถึงได้ง่ายทางรถยนต์ แต่คุณควรจัดตารางเวลาให้ดีสำหรับการขับรถระยะทางไกลและสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลงอยู่บ่อยๆ โดยเฉพาะในฤดูหนาว

เที่ยวฟินแลนด์ ส่งจดหมายหาซานตาคลอส

หากคุณยังไม่มีโอกาสเดินทางไปถึงหมู่บ้านซานตาคลอส คุณสามารถส่งจดหมายถึงซานต้าได้ตามที่อยู่นี้

Santa Claus
Santa Claus’s Main Post Office969
30 Napapiiri, Finland

เที่ยวคริสมาสต์ ที่ฟินแลนด์ ส่งจดหมายหาซานตาคลอส

ติดตามหมู่บ้านซานตาคลอสผ่าน Live

ขอบคุณ Live จาก: santaclausvillage.info

อ่านข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับหมู่บ้านซานตาคลอส

สามารถอ่านข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ santaclausvillage.info

ขอบคุณรูปภาพจาก : santaclausvillage.info

ประสบการณ์การไปพบกับซานตาคลอสเป็นอีกหนึ่งทริปที่มีความทรงจำที่คุ้มค่า อาจเป็นครั้งหนึ่งในชีวิตที่ทำให้ความฝันในวัยเยาว์ได้เติมเต็ม แต่การไปเที่ยวต่างประเทศในที่ที่คุณไม่คุ้นเคย อาจทำให้คุณกังวลกับเหตุที่อาจเกิดขึ้นโดยไม่คาดฝัน ดังนั้น สิ่งสำคัญที่คุณควรมีพร้อมติดตัวไว้คือประกันภัยการเดินทาง สิ่งสำคัญที่ช่วยให้คุณเดินทางอย่างอุ่นใจไร้กังวล เพียงจ่ายเงินไม่กี่บาท คุณก็จะได้ความคุ้มครองมากมายที่ครอบคลุมเกือบทุกเหตุการณ์ไม่คาดฝันที่อาจเกิดขึ้นระหว่างเดินทาง* เช่น ความเจ็บป่วย การเกิดอุบัติเหตุ กระเป๋าหาย เที่ยวบินดีเลย์ เป็นต้น Allianz Travel ขอแนะนำ ประกันการเดินทาง Dance Moves ที่จะช่วยให้ทริป การเดินทางของคุณราบรื่น ไม่มีสะดุด อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับความคุ้มครองได้ ที่นี่

*เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทกำหนด

ขอบคุณข้อมูลจาก : santaclausvillage.info, visitfinland.com, visitrovaniemi.fi

เลือกแผนประกันเดินทางที่ใช่สำหรับคุณ ประกันการเดินทาง Dance Moves จาก Allianz Travel

Beautiful Places Celebrating Christmas

12 สถานที่ฉลองคริสต์มาส จากทั่วทุกมุมโลก

ใกล้ถึงเทศกาลคริสต์มาสในอีกไม่กี่วันข้างหน้าแล้ว หลาย ๆ สถานที่ในทั่วทุกมุมของโลก ถูกตกแต่งไปด้วยสีสันที่สวยงาม บางสถานที่ถูกปกคลุมไปด้วยหิมะสีขาว ที่มาพร้อมกับอากาศหนาว เป็นอีกหนึ่งช่วงเวลาที่เต็มไปด้วยความสุขสนุกสนาน เต็มไปด้วยรอยยิ้ม และเสียงหัวเราะ ได้พักผ่อน และเติมพลังในช่วงท้ายของปี วันนี้ Allianz Travel รวบรวมลิสต์ 12 สถานที่ฉลองคริสต์มาส จากทั่วทุกมุมของโลก มาฝากเพื่อน ๆ เพื่อใช้เป็นตัวช่วยในการวางแผนการเดินทางไปเที่ยวในสถานที่ต่าง ๆ ในช่วงคริสต์มาส มีที่ไหนบ้าง ไปดูกันเลยค่ะ : )

1. SANTA CLAUS VILLAGE IN ROVANIEMI, FINLAND

Santa Claus Village บ้านเกิดของซานต้าคลอส ถือเป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมของเมือง Rovaniemi, Finland ที่ต้อนรับนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก คุณสามารถสัมผัสบรรยากาศของความสนุกสนาน ได้พบกับซานต้าคลอสตลอดทั้งปีด้วย สำหรับหมู่บ้านซานต้าคลอสมีให้บริการที่พัก อาหารและจัดกิจกรรมให้เราร่วมสนุกได้ไม่จำกัด เช่น ฟาร์มกวางเรนเดียร์, ชมแสงออโรร่า, นั่งรถลากจูงด้วยฝูงสุนัขไซบีเรียน ฯลฯ โดยเฉพาะในช่วงเดือนมิถุนายน เป็นช่วงซัมเมอร์ของประเทศฟินแลนด์ เราสามารถพบกับพระอาทิตย์เที่ยงคืนได้อีกด้วยค่ะ

สถานที่ฉลองคริสมาสต์ - SANTA CLAUS VILLAGE IN ROVANIEMI, FINLAND

2. MIDNIGHT MASS, VATICAN

เราสามารถสัมผัสได้กับมนต์ขลังของการเฉลิมฉลองเทศกาลคริสต์มาส ในนครรัฐวาติกัน ซึ่งไฮไลท์ของงานจะถูกจัดอยู่ที่บริเวณ จัตุรัสเซนต์ปีเตอร์ สถานที่อันศักดิ์สิทธิ์ของชาวคาทอลิก ท่านจะได้ชมสถาปัตยกรรมอันสวยงาม และในระหว่างวันที่ 24-25 ธันวาคมของทุกปี เราจะได้พบกับวัฒนธรรม-ประเพณีของคนท้องถิ่น ไม่ว่าจะเป็นฝั่งของนครรัฐวาติกัน หรือฝั่งของโรม, ประเทศอิตาลีอีกด้วยค่ะ

สถานที่ฉลองคริสมาสต์ - MIDNIGHT MASS, VATICAN

3. NUREMBERG, GERMANY

เมืองที่มีตลาดคริสต์มาสกลางแจ้งที่มีเสน่ห์มาก ๆ เก่าแก่และมีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก มีสินค้าจัดจำหน่ายมากมาย ทั้งของเล่น, เครื่องประดับเล็ก ๆ น้อย ๆ, ขนมปังขิง, ร้านอาหารมากมายเกือบ 200 ร้าน มีทั้งอาหารพื้นเมืองของชาวเยอรมัน อาทิ ไส้กรอกเยอรมัน และไวน์อุ่น ฯลฯ สิ่งเหล่านี้ดึงดูดนักท่องเที่ยวให้มาเยือนที่นี่มากขึ้นทุกปี จุดเด่นของตลาดคริสต์มาสแห่งนี้คือ มีการประกวดธิดาคริสต์มาสหรือทูตแห่งคริสต์มาสด้วยค่ะ

สถานที่ฉลองคริสมาสต์ - NUREMBERG, GERMANY

4. TOKYO, JAPAN

เมืองขึ้นชื่อเรื่องเทศกาลคริสต์มาสของเอเชีย เพราะในทุก ๆ ปี แต่ละสถานที่ทั่วโตเกียวจะมีการจัดแสงสี โคมไฟประดับไปทั่วบริเวณ สร้างความสวยงามและความประทับใจให้กับนักท่องเที่ยว ทั้งกลางวันและกลางคืน โดยเฉพาะย่าน Shibuya, Yebisu Garden Place, Tokyo Disney land, Sanrio Puroland ฯลฯ ในบางปีเทศกาลฉลองคริสต์มาสของที่นี่ อาจจะมีการลากยาวตั้งแต่เดือนธันวาคม – กุมภาพันธ์ เลยทีเดียว ใครที่ไม่อยากเดินทางไกลถึงยุโรป หรืออเมริกา มาสัมผัสบรรยากาศแสงสีของเทศกาลคริสต์มาส ที่ญี่ปุ่นได้เลยค่ะ

สถานที่ฉลองคริสมาสต์ - TOKYO, JAPAN

5. BRUGES, BELGIUM

ศิลปะและสถาปัตยกรรมที่คงอยู่มาอย่างยาวนาน ตั้งแต่ยุคกลาง ส่งผลให้เมือง Bruges มีเสน่ห์อย่างคาดไม่ถึง โดยเฉพาะในเทศกาลคริสต์มาส เราสามารถชื่นชมการตกแต่งอาคาร ไฟประดับ บนถนนทุกสายรอบเมือง โดยเฉพาะบริเวณ Church of our Lady และ Gruuthuse สถาปัตยกรรมเก่าแก่ที่ทำให้เราได้ดื่มด่ำบรรยากาศได้อย่างไม่มีที่สิ้นสุด

สถานที่ฉลองคริสมาสต์ - BRUGES, BELGIUM

6. MONTREAL, CANADA

เมืองแห่งเทศกาลของประเทศแคนาดา มีความเป็นมามากมายทางประวัติศาสตร์ โดยเฉพาะวัฒนธรรมฝรั่งเศส ไม่แปลกใจเลยถ้าจะเจอร้านอาหารฝรั่งเศส หรือคนที่พูดฝรั่งเศสบนท้องถนน และถือเป็นเมืองที่มีเสน่ห์อย่างมาก สำหรับเทศกาลคริสต์มาส มีการเดินขบวนพาเหรดสร้างสีสันและความบันเทิงให้กับนักท่องเที่ยว มามากกว่า 60 ปี นอกจากนี้ เราสามารถเยี่ยมชมความสวยงามของโบสถ์ Notre-Dame Basilica ที่ขึ้นชื่อว่าสวยที่สุดอีกด้วย

สถานที่ฉลองคริสมาสต์ - MONTREAL, CANADA

7. DUBLIN, IRELAND

เทศกาลเฉลิมฉลองสไตล์ไอริช 100% เราสามารถหาได้ที่ Dublin, ประเทศไอร์แลนด์ สัมผัสกับบรรยากาศที่เต็มไปด้วยความสุขและอบอุ่น ในฤดูหนาวนี้ โดยเฉพาะบริเวณถนน Grafton มีทั้งตลาดคริสต์มาส, ร้านขายของที่ระลึก, บาร์, ร้านเครื่องดื่ม-ขนมหวานมากมาย ที่จะทำให้ช่วงวันหยุดคริสต์มาสของเราอบอวลไปด้วยความสุข

สถานที่ฉลองคริสมาสต์ - DUBLIN, IRELAND

8. NEW YORK, USA

เมืองที่ได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยว ตลอดทั้งปี โดยเฉพาะช่วงเทศกาลคริสต์มาสและปีใหม่ ที่จะตกแต่งไปด้วยแสงไฟสวยงามทุกตรอกถนน กิจกรรมที่ไม่ควรพลาดของที่นี่ คือ Ice Skating ที่ Rockefeller Center ใครที่สนใจอยากมาชมบรรยากาศเทศกาลคริสต์มาสของที่นี่ จะต้องวางแผนกันนิดนึงนะคะ ทั้งเรื่องที่พักและตั๋วเครื่องบิน เพราะถือเป็นหนึ่งสถานที่ยอดนิยมที่สุดในสหรัฐฯ เลยทีเดียว

สถานที่ฉลองคริสมาสต์ - NEW YORK, USA

9. VIENNA, AUSTRIA

มนต์เสน่ห์ของที่นี่ จะอยู่ที่ตลาดคริสต์มาส หน้าศาลาว่าการของเมืองเวียนนา มีทั้งสินค้าพื้นเมือง, ของที่ระลึกเทศกาลคริสต์มาส, ต้นคริสต์มาส, อาหาร-ขนม, เครื่องดื่ม ฯลฯ ไม่ว่าจะเที่ยวคนเดียว, กลุ่มเพื่อน, มาเป็นคู่ หรือแบบครอบครัว ก็สนุกสนานเช่นกัน นอกจากนี้ ยังมีการแสดงดนตรีพื้นเมืองของ Vienna Boy Choir อายุกว่า 500 ปีอีกด้วย

สถานที่ฉลองคริสมาสต์ - VIENNA, AUSTRIA

10. PRAGUE, CZECH REPUBLIC

อีกหนึ่งสถานที่ ที่เราไม่ควรพลาดในการเฉลิมฉลองเทศกาลคริสต์มาส เพื่อต้อนรับนักท่องเที่ยวทั้งในประเทศและต่างประเทศ งานคริสต์มาสจะถูกจัดตลอดเดือนธันวาคม โดยเฉพาะย่าน Old town และจัตุรัส Wenceslas ที่จะมีตลาดคริสต์มาสให้คุณได้ช้อปปิ้งของที่ระลึก และของกินมากมาย พร้อมชมสถาปัตยกรรมเก่าแก่สไตล์โกธิคของบ้านเรือน และสถานที่สำคัญของเมืองได้ด้วยค่ะ

สถานที่ฉลองคริสมาสต์ - PRAGUE, CZECH REPUBLIC

11. STRASBOURG, FRANCE

หนึ่งในเมืองที่มีตลาดคริสต์มาสเก่าแก่ที่สุดของฝรั่งเศส มีการค้นพบว่า การตกแต่งคริสต์มาสถือกำเนิดขึ้นที่นี่ ตั้งแต่ปี 1605 ไม่เพียงแต่บรรยากาศของเทศกาลเฉลิมฉลอง เราสามารถเดินชมสถาปัตยกรรมสมัยยุคกลาง และประเพณีเก่าแก่ของฝรั่งเศส ที่คงความงดงามให้เห็นมาจนถึงปัจจุบัน

สถานที่ฉลองคริสมาสต์ - STRASBOURG, FRANCE

12. HONG KONG

เป็นสถานที่ที่ครึกครื้นที่สุด ไม่แพ้โตเกียว, ประเทศญี่ปุ่น เลยทีเดียว เพราะในทุก ๆ ปี อาคารและตึกสูงในฮ่องกง พากันตกแต่งและเปิดไฟ เพื่อเฉลิมฉลองเทศกาลคริสต์มาสและปีใหม่ นักท่องเที่ยวจากทั่วโลกต่างเข้ามาเยี่ยมเยียนอย่างไม่ขาดสาย โดยเฉพาะบริเวณอ่าววิคตอเรีย เราจะเห็นวิวและทิวทัศน์ของแสงไฟที่ตกแต่งอย่างสวยงามบนตึกระฟ้า ได้อย่างชัดเจน

สถานที่ฉลองคริสมาสต์ - HONG KONG

การเดินทางท่องเที่ยวในช่วงคริสต์มาสทำให้เราได้เห็นความสวยงามของการตกแต่งตามสถานที่ต่างๆ และได้ทำกิจกรรมที่มีเฉพาะในช่วงคริสต์มาสเท่านั้น แต่การที่จะให้แผนการเที่ยวของคุณเป็นประสบการณ์ที่น่าประทับใจ ไม่ต้องกังวลกับเรื่องร้าย ๆ กับค่าใช้จ่ายที่อาจงอกเพิ่มระหว่างการเดินทาง สิ่งที่เราควรมีติดตัวไว้ก็คือ ประกันภัยการเดินทาง สิ่งสำคัญที่ช่วยให้คุณเดินทางได้อย่างอุ่นใจ ไร้กังวล เพียงจ่ายเงินไม่กี่บาท คุณก็จะได้รับความคุ้มครองมากมายที่ครอบคลุมเกือบทุกเหตุการณ์ไม่คาดฝันที่อาจเกิดขึ้นระหว่างเดินทาง* เช่น ความเจ็บป่วย การเกิดอุบัติเหตุ กระเป๋าหาย เที่ยวบินดีเลย์ เป็นต้น Allianz Travel ขอแนะนำ ประกันการเดินทางต่างประเทศ Dance Moves ที่จะช่วยให้ทริป การเดินทางของคุณราบรื่น ไม่มีสะดุด อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับความคุ้มครองได้ ที่นี่

*เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทกำหนด

ขอบคุณข้อมูลจาก
30 Best Places to Spend Christmas: The World’s Most Festive Cities

เลือกแผนประกันเดินทางที่ใช่สำหรับคุณ ประกันการเดินทาง Dance Moves จาก Allianz Travel

10 ที่เที่ยวปีใหม่ต่างประเทศ ฉลองปีใหม่ทั่วโลก

10 ที่เที่ยวปีใหม่ต่างประเทศ สุดสวย ฉลองปีใหม่ทั่วโลก

หากคุณกำลังมองหาจุดหมายปลายทางเพื่อไปเฉลิมฉลองช่วงเวลาส่งท้ายปีเก่า ต้อนรับปีใหม่ในต่างประเทศ Allianz Travel รวบรวมรายชื่อ 10 ที่เที่ยวปีใหม่ต่างประเทศ พิกัดยอดฮิต สำหรับเคาท์ดาวน์ในสถานที่ต่างๆ ทั่วโลก ที่มีงานเฉลิมฉลองสุดปัง กับกิจกรรมต่างๆ มากมาย ทั้งงานสังสรรค์ในเมืองใหญ่ๆ ที่คุณจะได้นับถอยหลังเข้าสู่ปีใหม่แบบยิ่งใหญ่ มีคนเต้นรำกันตลอดทั้งคืนในงานปาร์ตี้ริมถนนที่ยาวไปจนถึงเช้า หรือการเฉลิมฉลองภายใต้ดอกไม้ไฟที่สาดแสงระยิบระยับที่จัดได้อย่างอลังการ เรามาดูกันว่าจะวางแผนไปฉลองปีใหม่ที่ไหนกันดี

1. ซิดนีย์ ประเทศออสเตรเลีย (Sydney, Australia)

10 ที่เที่ยวปีใหม่ต่างประเทศ - ซิดนีย์ ประเทศออสเตรเลีย (Sydney, Australia)

การเฉลิมฉลองปีใหม่ในช่วงฤดูร้อนของซิดนีย์ถือเป็นหนึ่งในงานปาร์ตี้งานแรก ๆ ของโลก ที่เริ่มต้นเฉลิมฉลองวันปีใหม่ ผู้เข้าร่วมงานกว่าล้านคนมารวมตัวกันบนเรือ หรือตามชายฝั่งเพื่อเตรียมพร้อมชมการแสดงดอกไม้ไฟเหนือโอเปร่าเฮาส์ (Opera House) และการแสดงน้ำตกดอกไม้ไฟจากสะพานฮาร์เบอร์ (Harbour Bridge) การแสดง Harbour of Light Parade พาเหรดเรือประดับไฟสวยงามในอ่าวซิดนีย์ นอกจากนี้ยังมีเทศกาลดนตรีที่มีตลอดทั้งคืน ที่นี่จะเข้าสู่ปีใหม่เร็วกว่าประเทศไทย 4 ชั่วโมง และช่วงปีใหม่ในออสเตรเลียเป็นเทศกาลในช่วงฤดูร้อน ดังนั้นอากาศจึงไม่หนาวเหน็บเท่ากับงานปาร์ตี้วันส่งท้ายปีเก่าส่วนใหญ่ในซีกโลกเหนือค่ะ

2. ปารีส ประเทศฝรั่งเศส (Paris, France)

10 ที่เที่ยวปีใหม่ต่างประเทศ - ปารีส ประเทศฝรั่งเศส (Paris, France)

ช่วงปีใหม่ในกรุงปารีส ดินแดนแห่งความโรแมนติก จะเต็มไปด้วยแสงไฟระยิบระยับฉลองส่งท้ายปีเก่าได้อย่างน่าประทับใจ ผู้คนจะออกมาดิ่มด่ำไปกับอากาศเย็นๆ และสนุกสนานไปกับการชมแสงไฟทั่วเมือง ชาวปารีสจะมารวมตัวกันที่บาร์และร้านอาหารตั้งแต่ประมาณ 21.00 น. เพื่อรับประทานอาหารค่ำ เต้นรำ และดื่มแชมเปญเป็นจำนวนมาก แล้วไปที่จุดสำคัญของเมืองอย่างหอไอเฟลและประตูชัยฝรั่งเศส เมื่อถึงเที่ยงคืน จะร่วมกันนับถอยหลังเข้าสู่ปีใหม่ และรอชมการแสดงดอกไม้ไฟสุดอลังการที่ส่องประกายบนท้องฟ้าเหนือสถานที่สำคัญของเมือง พร้อมกับการแสดงแสงสีเสียงควบคู่ไปด้วย เรียกได้ว่า ปารีส เป็นหนึ่งใน ที่เที่ยวปีใหม่ต่างประเทศ ที่คุณไม่ควรพลาดกันเลย

3. มาดริด ประเทศสเปน (Madrid, Spain)

10 ที่เที่ยวปีใหม่ต่างประเทศ - มาดริด ประเทศสเปน (Madrid, Spain)

กรุงมาดริดเป็นหนึ่งในไม่กี่เมืองในทวีปยุโรปที่จัดงานเฉลิมฉลองการก้าวเข้าสู่ปีใหม่ โดยจัดขึ้นที่จัตุรัสสาธารณะปูเอร์ตา เดล โซล (Puerta del Sol) งานนี้จะถ่ายทอดสดไปยังชาวสเปนทั่วประเทศ แต่หากคุณต้องการสัมผัสประสบการณ์วันปีใหม่ของสเปนอย่างแท้จริง คุณต้องเข้าร่วมประเพณีท้องถิ่นที่สำคัญ โดยรับประทานองุ่น 12 ลูกในช่วงเวลา 12 วินาทีสุดท้าย พร้อมกับเสียงระฆังจากยอดหอนาฬิกาที่ดังจนครบ 12 ครั้ง เชื่อกันว่าหากคุณกินได้หมดทันเวลาก็จะมีปีใหม่ที่มีความสุขและโชคดีตลอดทั้งปี หลังจากนั้นก็ชมการจุดพลุอย่างยิ่งใหญ่

4. นิวยอร์กซิตี้ ประเทศสหรัฐอเมริกา (New York, USA)

10 ที่เที่ยวปีใหม่ต่างประเทศ - นิวยอร์กซิตี้ ประเทศสหรัฐอเมริกา (New York, USA)

จัตุรัสไทม์สแควร์ (Time Square) จัดว่าเป็นสถานที่ที่คนพูดถึงการอีกแห่งหนึ่งในการเคาท์ดาวน์ปีใหม่ เป็น ที่เที่ยวปีใหม่ต่างประเทศ ที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวได้ประมาณหนึ่งล้านคนทุกปี ผู้ร่วมงานจะทยอยกันมาตั้งแต่ช่วงเช้า เพื่อแย่งชิงพื้นที่ที่ได้เห็นมุมที่ดีที่สุด ซึ่งงานจริง ๆ จะเริ่มเวลา 18.00 น. ซึ่งจัดจัดเฉลิมฉลองอย่างยิ่งใหญ่อลังการ ไฮไลท์ของงานคือการแสดงจากศิลปินระดับโลก แสงไฟ ลูกบอลคริสตัลยักษ์ที่จะถูกปล่อยลงมาจากยอดเสาบนอาคารวัน ไทม์สแควร์ และการรอร่วมนับถอยหลังจนถึงวินาทีเข้าสู่ปีใหม่ที่จะมีการจุดพลุและโปรยกระดาษสี นอกจากนี้ คุณสามารถชมดอกไม้จากสถานที่โดยรอบได้ เช่น บนดาดฟ้าของโรงแรมที่อยู่ใกล้เคียง เซ็นทรัลพาร์ค (Central Park) พิพิธภัณฑ์ท่าเรือเซาท์สตรีท (South Street Seaport Museum) และพรอสเปกต์พาร์ค (Prospect Park) เป็นต้น

5. ลอนดอน ประเทศสหราชอาณาจักร (London, United Kingdom)

10 ที่เที่ยวปีใหม่ต่างประเทศ - ลอนดอน ประเทศสหราชอาณาจักร (London, United Kingdom)

หอนาฬิกาบิ๊กเบนซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของลอนดอนจะกลายมาเป็นจุดเด่นในคืนส่งท้ายปีเก่า ไฮไลท์ของงานคือการรอเสียงนาฬิกาบิ๊กเบนตีระฆังดังกึกก้องในตอนเที่ยงคืน ที่เป็นสัญญาณบอกเราว่าเป็นการเริ่มต้นปีใหม่แล้ว พลุไฟตระการตาจะเต็มท้องฟ้าใกล้กับลอนดอนอายและบิ๊กเบน ใครอยากไปชมงานเคาน์ดาวน์จะต้องซื้อบัตรเข้าชมอย่างเป็นทางการผ่านเว็บไซต์ https://www.london.gov.uk/ ซึ่งขายหมดอย่างรวดเร็ว หรือการล่องเรือชมงานปีใหม่ในแม่น้ำเทมส์ก็เป็นอีกทางเลือกที่ดี และขบวนพาเหรดวันปีใหม่เริ่มในตอนเที่ยงของวันที่ 1 มกราคมที่พิคคาดิลลี่ (ใกล้สถานีรถไฟใต้ดินกรีนพาร์คและสิ้นสุดใกล้กับจัตุรัสพาร์เลียเมนต์)

6. โตเกียว ประเทศญี่ปุ่น (Tokyo, Japan)

10 ที่เที่ยวปีใหม่ต่างประเทศ - โตเกียว ประเทศญี่ปุ่น (Tokyo, Japan)

หนึ่งในประเทศยอดฮิตของนักท่องเที่ยวชาวไทยก็คงหนีไม่พ้นประเทศญี่ปุ่น ซึ่งมีการเฉลิมฉลองตามประเพณีอยู่มากมาย  ผู้คนหลายล้านคนมักจะไปเยี่ยมชมศาลเจ้าเมจิจิงกูในโตเกียวในช่วงเทศกาล รวมทั้งการฉลองปีใหม่ที่นี่ด้วย ถังสาเกจะวางซ้อนกันติดป้ายสีสันสดใส มีการทำพิธี และสวดมนต์เพื่อความเป็นสิริมงคล และมีการตีระฆัง 108 ครั้ง ก่อนยกแก้วฉลองปีใหม่ 2025 นอกจากนี้ คุณสามารถเข้าร่วมการนับถอยหลังที่โตเกียวทาวเวอร์ ย่านชอปปิ้งแลนด์มาร์คสุดฮิตอย่างชิบูย่า (Shibuya) หรือชมพลุปีใหม่ที่อาวโตเกียว (Tokyo Bay)

7. ดูไบ ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (Dubai, UAE)

10 ที่เที่ยวปีใหม่ต่างประเทศ - ดูไบ ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (Dubai, UAE)

ดูไบเป็นหนึ่งในเมืองที่มีการเฉลิมฉลองวันส่งท้ายปีเก่าอย่างยิ่งใหญ่ และมีบรรยากาศหรูหราอลังการ การเฉลิมฉลองจะมีตั้งแต่ตามชายฝั่งไปและตึกสูงต่างๆ รวมระยะทางกว่า 60 ไมล์ นักท่องเที่ยวจะรอเฝ้าชมการแสดงดอกไม้ไฟที่อลังการที่สุดแห่งหนึ่งของโลก ซึ่งเป็นไฮไลท์ของการงานส่งท้ายปีเก่า เข้าสู่ปีใหม่ สถานที่ที่ควรไปชมคือตึกเบิร์จคาลิฟา (Burj Khalifa) และเบิร์จอัลอาหรับ (Burj al Arab) เมื่อถึงวินาทีของการก้าวเข้าสู่ปีใหม่ จะมีการจุดพลุดอกไม่ไฟที่ตัวตึกสว่างไสว พร้อมการแสดงไฟอย่างสวยงาม ควรรีบไปจับจองที่นั่งริมน้ำข้างน้ำพุแห่งดูไบ (Dubai Fountain) ซึ่งมีการแสดงแสงสีและน้ำเป็นของตัวเองด้วย

8. รีโอเดอจาเนโร ประเทศบราซิล (Rio de Janeiro, Brazil)

10 ที่เที่ยวปีใหม่ต่างประเทศ - รีโอเดอจาเนโร ประเทศบราซิล (Rio de Janeiro, Brazil)

การต้อนรับปีใหม่ที่ชายหาดโคปาคาบานาซึ่งเป็นตำนานของเมืองริโอเป็นเสน่ห์ที่น่าดึงดูดใจอย่างมาก แต่ยิ่งพิเศษขึ้นไปอีกหากคุณได้ร่วมเป็นส่วนหนึ่งของประเพณีท้องถิ่นด้วย อย่าลืมแต่งตัวด้วยชุดสีขาวทั้งหมด ทั่วทั้งชายหาดจะเปลี่ยนสีเป็นสีเดียวในคืนส่งท้ายปีเก่า ผู้คนมากกว่า 2 ล้านคนสวมชุดสีขาวล้วนลงมาที่ชายหาดเพื่อร่วมฉลองแบบบราซิลแท้ๆ ที่ผสมผสานความเชื่อทางศาสนา ประเพณี และความสนุกสนาน ชมดอกไม้ไฟ ดนตรีสด (รวมถึงแซมบ้าด้วย) และกระโดดข้ามคลื่น 7 ลูกในเวลาเที่ยงคืน เดินเท้าเปล่าบนหาดทรายอันโด่งดัง เล่นน้ำในน้ำอุ่นๆ นับเป็นการเริ่มต้นปีใหม่ที่ดีทีเดียว

9. เรคยาวิก ประเทศไอซ์แลนด์ (Reykjavik, Iceland)

10 ที่เที่ยวปีใหม่ต่างประเทศ - เรคยาวิก ประเทศไอซ์แลนด์ (Reykjavik, Iceland)

ฉลองเทศกาลปีใหม่พร้อมกับสัมผัสความหนาวในเมืองหลวงของไอซ์แลนด์ที่มีการเฉลิมฉลองแบบอลักงารที่ไม่แพ้เมืองไหนในโลก ถึงแม้ว่าจะไม่มีการแสดงดอกไม้ไฟอย่างเป็นทางการ แต่ ชาวเมืองกว่า 200,000 คน (ซึ่งก็เกือบเท่ากับประชากรของเมือง) จะร่วมกันจุดพลุจากทั่วทุกมุมของเมือง เริ่มตั้งแต่เวลา 23.30 น. บรรยากาศแห่งความสนุกสนานจะดังก้องไปทั่ว และหลังจากเข้าสู่วันปีใหม่ ผับและบาร์ต่างๆ จะพร้อมใจกันเปิดจนถึงเช้า เต็มไปด้วยความสนุกสนาน เพื่อให้ผู้คนได้ผ่อนคลายกันอย่างเต็มที่

10. เอดินเบอระ ประเทศสกอตแลนด์ (Edinburgh, Scotland)

10 ที่เที่ยวปีใหม่ต่างประเทศ - เอดินเบอระ ประเทศสกอตแลนด์ (Edinburgh, Scotland)

เมืองหลวงของสกอตแลนด์จัดเทศกาลเฉลิมฉลองปีใหม่ตามประเพณีแบบคนสกอตแลนด์ หรือที่เรียกว่า ฮอกมาเนย์ (Hogmanay) อย่างยิ่งใหญ่เป็นเวลา 3 วัน บริเวณสถานที่สำคัญของเมืองจะเต็มไปด้วยผู้คนที่มารอนับถอยหลังไปพร้อมๆ กัน ใจกลางเมืองในคืนส่งท้ายปีเก่าจะมีงานปาร์ตี้ตามท้องถนน ซึ่งจะมีการเต้นรำ การดื่มสุรา การจุดพลุ และความสนุกสนานอื่นๆ ของเมืองนี้ และหลังจากการแสดงดอกไม้ไฟยามค่ำคืนเหนือปราสาทเอดินบะระ จะมีเสียงระฆังแรกของปีใหม่ ผู้คนจะร่วมกันร้องเพลง Auld Lang Syne และร่วมสนุกสนานไปด้วยกันกับทุกคนที่อยู่รอบตัว

หากใครอยากลองเปลี่ยนบรรยากาศไปฉลองส่งท้ายปีเก่า เคาท์ดาวน์ ต้อนรับปีใหม่ในต่างประเทศ ต้องวางแผน และเตรียมตัวกันให้ดี นอกจากนี้ ประกันภัยการเดินทาง ยังเป็นหนึ่งในเอกสารสำคัญที่มีบางประเทศ อย่างกลุ่มประเทศที่ใช้วีซ่าเชงเก้น จะต้องใช้ประกอบการยื่นขอวีซ่าด้วย นอกจากนี้ ประกันภัยการเดินทางยังช่วยให้คุณเดินทางได้อย่างอุ่นใจ ไร้กังวล เพียงจ่ายเงินไม่กี่บาท คุณก็จะได้รับความคุ้มครองมากมายที่ครอบคลุมเกือบทุกเหตุการณ์ไม่คาดฝันที่อาจเกิดขึ้นระหว่างเดินทาง* เช่น ความเจ็บป่วย การเกิดอุบัติเหตุ กระเป๋าหาย เที่ยวบินดีเลย์ เป็นต้น Allianz Travel ขอแนะนำ ประกันการเดินทางต่างประเทศ Dance Moves ที่จะช่วยให้ทริป การเดินทางของคุณราบรื่น ไม่มีสะดุด อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับความคุ้มครองได้ ที่นี่

*เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทกำหนด

ขอบคุณข้อมูลจาก : timeout.com, cntraveler.com

เลือกแผนประกันเดินทางที่ใช่สำหรับคุณ ประกันการเดินทาง Dance Moves จาก Allianz Travel