6 สิ่งที่ต้องเช็คให้ชัวร์ ก่อนออกเดินทางท่องเที่ยวต่างประเทศ

6 สิ่งที่ต้องเช็คให้ชัวร์ ก่อนออกเดินทาง ท่องเที่ยวต่างประเทศ

หลายคนคงเฝ้ารอช่วงวันหยุดยาวให้แวะเวียนมาถึง เพื่อเตรียมวางแผนเที่ยวพักผ่อนกันอย่างเต็มที่ แต่การที่จะไปไหนหลายๆ วัน Allianz Travel ขอแนะนำให้เพื่อนๆ เตรียมตัวและเตรียมความพร้อมในการดูแลบ้าน เพื่อให้เดินทาง ท่องเที่ยวต่างประเทศ อย่างสบายและไร้กังวล วันนี้เราเตรียมลิสต์ 6 สิ่งที่ควรทำเพื่อดูแลบ้านให้พร้อมและปลอดภัยก่อนออกเดินทางไกล มีอะไรบ้าง มาดูกันเลยค่ะ

1. ถอดปลั๊กไฟที่ไม่ได้ใช้งานออก

ถอดปลั๊กไฟที่ไม่ได้ใช้งานออก ก่อนเดินทางท่องเที่ยวต่างประเทศ

เรื่องไฟฟ้าเป็นสิ่งสำคัญอันดับต้นๆ เลยก็ว่าได้ เราควรตรวจดูปลั๊กไฟ เต้าเสียบไฟ เครื่องใช้ไฟฟ้าที่คุณมักชอบเสียบปลั๊กทิ้งไว้หลังการใช้งาน ควรเอาปลั๊กออกให้เรียบร้อย เพื่อลดโอกาสการเกิดไฟฟ้ารั่วหรือไฟฟ้าลัดวงจรขึ้นขณะที่เราไม่อยู่

2. เปิดไฟสว่างไว้ตรงจุดสำคัญของบ้าน

หากต้องเดินทางไกลบ้านหลายวัน เราขอแนะนำให้เปิดไฟ้ไว้ในจุดที่สำคัญๆ ของบ้าน เพราะแสงสว่างจะทำให้โจรผู้ร้ายคิดว่าบ้านมีคนอยู่ แต่หากกลัวว่าจะเปลืองไฟ เราสามารถติดตั้งหรือเลือกใช้ระบบเปิด-ปิดไฟอัตโนมัติ เพื่อให้สะดวกสบายมากยิ่งขึ้น

3. ปิดวาล์วน้ำ-ปั๊มน้ำ ก่อนออกเดินทาง

การเดินทาง ท่องเที่ยวต่างประเทศ ทำให้เราไม่อยู่บ้านเป็นระยะเวลานาน เราควรปิดวาล์วน้ำไว้ เพื่อป้องกันปัญหาท่อน้ำแตกหรือน้ำรั่วซึมขณะที่เราไม่อยู่บ้าน

4. ล็อกประตู-หน้าต่าง

ล็อกประตู - หน้าต่างของบ้าน ก่อนออกเดินทาง

ก่อนออกจากบ้านให้ตรวจเช็คความเรียบร้อยให้มั่นใจว่าเราได้ล็อกประตู และหน้าต่างภายในบ้านครบทุกบาน ทั้งชั้นล่างชั้นบน  รวมถึงประตูรั้วหน้าบ้านด้วย หาเราสามารถติดตั้งกล้องวงจรปิดได้ก็เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่ดี ช่วยให้บ้านของคุณปลอดภัยจากมิจฉาชีพ

5. เก็บของมีมูลค่าไว้ในที่ปลอดภัย

สิ่งของสำคัญ มีมูลค่าภายในบ้าน เช่น เพชร พลอย ทอง เงินสด ก็ควรเก็บซ่อนไว้ให้มิดชิด หรือหากเรายังกังวลกับความปลอดภัยก็สามารถนำไปฝากไว้กับญาติพี่น้องที่ไว้ใจได้ หรือหากสิ่งของมีมูลค่ามากมหาศาลก็อาจจะเลือกใช้วิธีการเช่าตู้เซฟของธนาคารเพื่อเก็บสิ่งของเหล่านั้นไว้ได้

6. ฝากบ้านกับเพื่อนบ้านหรือตำรวจก่อนเดินทาง ท่องเที่ยวต่างประเทศ

แจ้งเพื่อนบ้านหรือเพื่อนร่วมที่พักห้องใกล้เคียงที่สนิทและไว้ใจได้ให้ช่วยสอดส่อง คอยเป็นหูเป็นตาให้ในระหว่างที่คุณไม่อยู่บ้าน หรืออีกหนึ่งความปลอดภัยที่ได้รับความนิยมคือเข้าร่วมโครงการฝากบ้านไว้กับตำรวจ ผ่านแอพพลิเคชั่น Police I lert U เพื่อใช้ติดต่อสื่อสารระหว่างตำรวจกับเจ้าของบ้าน ด้วยการนำบาร์โค้ด หรือคิวอาร์โค้ดไปติดไว้ที่หน้าบ้านที่เข้าร่วมโครงการ เมื่อตำรวจเข้าไปตรวจดูแลความปลอดภัย ก็จะสแกนบาร์โค้ดแล้วรายงานให้เจ้าของบ้านรับทราบโดยการส่งข้อความไปยังโทรศัพท์มือถือของเจ้าของบ้าน ดังนั้นแม้ว่าเราจะอยู่ไกลบ้าน  เราก็ยังสามารถดูความเรียบร้อยของบ้านตนเองได้ทางโทรศัพท์มือถือ

นอกจากนี้ เรายังไม่ควรประกาศให้คนอื่นรู้ว่าเราจะไม่อยู่บ้านหลายวัน เพราะเอาเป็นการเปิดช่องให้โจรหรือขโมยรู้ว่าบ้านนี้ไม่มีคนอยู่ ดังนั้นนอกจากเราจะระมัดระวังและเตรียมบ้านให้พร้อมแล้วยังต้องระวังการโพสท์ข้อมูลต่างๆ ในโซเชียลด้วยนะคะ

และสิ่งสำคัญที่ต้องมีติดตัวไว้คือ ประกันการเดินทางDance Moves” จาก Allianz Travel ที่มีความคุ้มครองกรณีเกิดเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝันในต่างประเทศ ไม่ว่าจะเป็นการเจ็บป่วยขณะเดินทาง เที่ยวบินล่าช้า และอื่นๆ อีกมากมาย ที่ช่วยให้คุณทำกิจกรรมต่างๆ ตลอดทริปได้อย่างอุ่นใจ ไร้กังวล*

*เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทกำหนด

เลือกแผนประกันการเดินทางที่ใช่สำหรับคุณ ประกันการเดินทาง Dance Moves จาก Allianz Travel

เช่ารถเที่ยวต่างประเทศ ต้องเตรียมตัวอย่างไร

เช่ารถเที่ยวต่างประเทศ ต้องเตรียมตัวอย่างไร

การเดินทางไปยังสถานที่ที่น่าสนใจระหว่างการท่องเที่ยวต่างประเทศ มีทางเลือกหลายรูปแบบ ทั้งทางรถ เรือ หรือเครื่องบินโดยสารภายในประเทศ เราอาจเลือกใช้บริการการขนส่งสารสาธารณะ หรือการเช่ารถขับ ซึ่งการ เช่ารถเที่ยวต่างประเทศ ก็เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ช่วยอำนวยความสะดวกให้เข้าถึงสถานที่ท่องเที่ยวที่อยู่ห่างไกลได้ง่ายยิ่งขึ้น และง่ายต่อการจัดการให้ได้ตามเวลาที่เราวางแผนการเดินทางไปยังสถานที่ต่างๆ วันนี้ Allianz Travel มีเช็คลิสต์การเตรียมตัวเช่ารถขับเที่ยวต่างประเทศมาฝากเพื่อนๆ กันค่ะ รับรองว่าหากทำตามรายการนี้แล้ว ทริปขับรถเที่ยวของเพื่อนๆ ต้องสนุก ปลอดภัย และไร้ปัญหาที่ต้องมาคอยกังวลกันค่ะ

1. วางแผนการเดินทางและศึกษาเส้นทางล่วงหน้า

วางแผนการเดินทาง สำหรับการ เช่ารถเที่ยวต่างประเทศ

ก่อนออกเดินทาง เราควรวางแผนการเดินทางไว้ล่วงหน้าเพื่อให้การขับรถเที่ยวของเราเป็นไปอย่างราบรื่น ตัวอย่างเช่น


1.1 ศึกษาและเช็คเส้นทางที่จะเดินทางไปยังจุดหมาย หากมีหลายเส้นทาง ให้เลือกเส้นทางที่มีสถานที่ หรือสิ่งอำนวยความสะดวกหากเกิดเหตุการณ์ฉุกเฉิน จะได้ขอความช่วยเหลือได้ทัน

  • ดูรายละเอียดของสถานที่ต่างๆ ที่เราต้องขับผ่านตามเส้นทาง ทำเครื่องหมายมาร์คจุดสำคัญไว้ในแผนที่ เช่น ปั๊มน้ำมัน ร้านอาหาร สถานที่ท่องเที่ยวที่ต้องการแวะบนเส้นทาง สถานีตำรวจ โรงพยาบาล โรงแรมหรือที่พัก เป็นต้น
  • ศึกษารายละเอียดของจุดหมายปลายทางที่เรากำลังจะเดินทางไปท่องเที่ยว รวมถึงบริเวณที่จอดรถหรือทางเข้าออก

1.2 ตรวจสอบสภาพภูมิอากาศก่อนออกเดินทาง

การที่เราตรวจเช็คสภาพอากาศก่อนออกเดินทาง ช่วยให้เราเตรียมอุปกรณ์ที่จำเป็นไว้ล่วงหน้า อย่างเช่น หากเดินทางไปในสถานที่ที่มีโอกาสจะมีหิมะตก เราก็ต้องใช้รถที่มียางรถยนต์สำหรับวิ่งบนหิมะ หรือที่เรียกว่ายางหิมะเป็นยางรถยนต์ที่มีดอกยางพิเศษกว่ายางรถยนต์ทั่วๆไปและยึดเกาะบนถนนได้ดีกว่ายางธรรมดา  ถึงแม้ว่าจุดเริ่มเดินทางจะไม่มีหิมะตกก็ตาม แต่ในระหว่างเดินทางหรือจุดหมายปลายทางอาจมีหิมะตกก็ได้ ดังนั้นก่อนเดินทางจึงต้องศึกษาสภาพอากาศให้ดี และควรใช้ความระมัดระวังในการขับขี่เพิ่มขึ้นหากขับรถบนถนนที่มีหิมะ

2. ศึกษาข้อมูลกฎระเบียบการจราจร

ศึกษาข้อมูลกฎระเบียบการจราจรของประเทศต่างๆ  สำหรับการ เช่ารถเที่ยวต่างประเทศ

กฎระเบียบการจราจรของแต่ละสถานที่ท่องเที่ยวในแต่ละภูมิภาคของโลกมีรูปแบบและวัฒนธรรมในการใช้รถใช้ถนนที่แตกต่างกันออกไป ไม่ว่าจะเป็นภูมิภาคอเมริกา ยุโรป และเอเชีย ดังนั้นเราควรศึกษาเส้นทางในการออกเดินทางไปยังสถานที่ต่างๆ ให้ดี ศึกษาข้อมูลกฎระเบียบการจราจร ศึกษาป้ายจราจร รูปแบบและวัฒนธรรมในการใช้รถใช้ถนนของแต่ละประเทศที่เราต้องการจะไป เพื่อป้องกันเหตุการณ์ที่อาจทำให้ทริปของเราหมดสนุก

3. จองรถที่ต้องการเช่าไว้ล่วงหน้า

ทำการ เช่ารถเที่ยวต่างประเทศ ไว้ล่วงหน้า

เพื่อให้การเดินทางเป็นไปตามแผนที่เราวางไว้ และไม่เสียเวลาในวันออกเดินทางจริง เราควรทำการเช่ารถให้เรียบร้อยก่อนออกเดินทาง โดยติดต่อบริษัทเช่ารถล่วงหน้า หรือผ่านระบบการเช่ารถออนไลน์ นอกจากนั้น การจองล่วงหน้าหลายวัน ก็อาจทำให้เราได้รับส่วนลด หรือโปรโมชั่นอื่นๆ เพิ่มเติมอีกด้วย ที่สำคัญทำให้เราสามารถประหยัดเวลาและลดขั้นตอนความยุ่งยากในการเช่ารถที่จะเกิดขึ้นในวันที่ไปรับรถ หรือออกเดินทาง

4. เตรียมเอกสารสำคัญที่จำเป็นสำหรับการเช่ารถเที่ยวต่างประเทศ

เตรียมใบขับขี่สากลและเอกสารสำคัญที่จำเป็นสำหรับการ เช่ารถเที่ยวต่างประเทศ

เตรียมเอกสารสำคัญที่ใช้ในการเช่ารถในต่างประเทศ อย่างน้อยที่เราจะต้องเตรียมไว้คือ พาสปอร์ตของผู้ขับขี่ ใบขับขี่สากล และบัตรเครดิต

5. ตรวจสอบสภาพรถก่อนรับรถ

ตรวจสอบสภาพรถเช่า  สำหรับการ เช่ารถเที่ยวต่างประเทศ

ก่อนรับรถหรือก่อนออกเดินทาง ควรตรวจสอบสภาพของรถให้เรียบร้อย โดยรถควรอยู่ในสภาพที่ปลอดภัยพร้อมใช้งาน มีอุปกรณ์ที่จำเป็นในสถานการณ์ฉุกเฉินอยู่ภายในรถ เช่น ยางรถยนต์สำรอง ป้ายฉุกเฉิน สายพ่วงแบตเตอรี่ อุปกรณ์สำหรับการเปลี่ยนยางรถยนต์เบื้องต้น เป็นต้น

6. ถ่ายรูปรถก่อนรับมาใช้งานและก่อนส่งคืนหลังจากการใช้งาน

ถ่ายรูปรถก่อนรับมาใช้งานและก่อนส่งคืนหลังจากการใช้งาน สำหรับการ เช่ารถเที่ยวต่างประเทศ

ก่อนรับและส่งรถคืน ควรถ่ายภาพหรือถ่ายวิดีโอรถเช่าให้ทั่วทุกมุมของรถ เพื่อให้เห็นสภาพโดยรอบของตัวรถโดยละเอียด โดยเฉพาะตำหนิต่างๆ ที่ปรากฎบนตัวรถ เพื่อป้องกันปัญหาที่อาจเกิดขึ้นตอนส่งคืนรถให้กับผู้ให้เช่า โดยผู้ให้เช่าอาจเรียกเก็บเงินเพิ่มเติมหรือให้ชดเชยค่าเสียหาย ดังนั้นการที่เรามีรูปหรือวิดีโอเป็นหลักฐานจะสามารถนำมาใช้ยืนยัน ในกรณีที่มีปัญหาเมื่อส่งคืนรถ

7. เตรียมโทรศัพท์มือถือ สายชาร์จ​ และแบตเตอรี่สำรองให้พร้อม

เตรียมมือถือ สายชาร์จมือถือ​ และแบตเตอรี่สำรองให้พร้อม  สำหรับการ เช่ารถเที่ยวต่างประเทศ

ปัจจุบันมีแอปพลิเคชั่นบนมือถือหรือเว็บไซต์มากมายที่ช่วยให้เราดูเส้นทาง และวางแผนการเดินทางได้อย่างสะดวก เช่น Google Maps หรือ Apple Maps เป็นต้น การเตรียมโทรศัพท์มือถือให้พร้อมจะช่วยอำนวยความสะดวกได้เป็นอย่างดี เราไม่ควรหวังพึ่งระบบ GPS จากรถเช่าแต่เพียงอย่างเดียว เพราะรถเช่าบางบิรษัทอาจไม่มีระบบ GPS หรืออาจมีแอพพลิเคชั่นที่เราไม่เคยใช้มาก่อน ทำให้เราต้องเสียเวลาศึกษา เพราะความไม่คุ้นชินกับระบบ นอกจากนี้การใช้แอปพลิเคชั่นที่เราใช้ประจำ จะช่วยให้เราวางแผนได้ล่วงหน้า เตรียมการมาร์คจุดหมายปลายทาง หรือสถานที่ต่างๆ ที่ต้องการเดินทางไว้ก่อนได้ด้วย และสิ่งสำคัญคือต้องเตรียมอุปกรณ์ที่ใช้กับโทรศัพท์มือถือให้พร้อม อย่างเช่น สายชาร์จหรือแบตเตอรี่สำรอง

8. ตรวจสอบระดับน้ำมันและระดับแบตเตอรี่คงเหลือของรถยนต์อยู่เสมอ

ตรวจสอบระดับน้ำมันคงเหลือหรือระดับแบตเตอรี่คงเหลือของรถยนต์อยู่เสมอ สำหรับการ เช่ารถเที่ยวต่างประเทศ

การ เช่ารถเที่ยวต่างประเทศ ระหว่างการเดินทาง เราควรตรวจสอบระดับน้ำมันหรือระดับแบตเตอรี่คงเหลือของรถอยู่เสมอ และในการวางแผนการเดินทางก็ควรมาร์คจุดสถานีบริการน้ำมัน หรือสถานีบริการชาร์จแบตเตอรี่รถยนต์ และควรคำนวณระยะทางในการเดินทางไปในแต่ละสถานที่โดยคร่าวๆ ไว้ในแผนการเดินทางด้วย เพื่อให้เราสามารถเข้าไปเติมน้ำมันหรือชาร์จแบตเตอรี่ได้ตามระยะทางที่กำหนดไว้

9. เตรียมเบอร์โทรศัพท์หรือช่องทางการติดต่อกรณีเกิดเหตุฉุกเฉิน

เตรียมเบอร์โทรศัพท์หรือช่องทางการติดต่อกรณีเกิดเหตุฉุกเฉิน สำหรับการ เช่ารถเที่ยวต่างประเทศ

ในการเดินทางทุกครั้ง เราควรเตรียมเบอร์โทรศัพท์หรือช่องทางสำหรับการติดต่อกับหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องในกรณีเกิดเหตุฉุกเฉิน เช่น สถานีตำรวจ โรงพยาบาลหรือรถพยาบาลฉุกเฉิน บริษัทประกันการเดินทางที่เราทำประกันไว้ บริษัทรถเช่า สถานทูตไทยประจำประเทศที่เราเดินทางไป และสถานที่สำคัญต่างๆ เป็นต้น เพื่อที่เราจะได้รับมือกับเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดที่อาจเกิดขึ้นได้

10. ทำประกันการเดินทางต่างประเทศ

ทำประกันการเดินทางต่างประเทศ สำหรับ เช่ารถเที่ยวต่างประเทศ

การเช่ารถยนต์ในต่างประเทศส่วนใหญ่จะมีส่วนของประกันที่รวมไปในค่าเช่ารถแล้ว แต่เป็นรูปแบบของประกันที่จะมีการจ่ายค่าเสียหายบางส่วนที่เกิดขึ้นให้แก่รถเช่าเท่านั้น นอกจากนี้เรายังสามารถซื้อประกันเพิ่มได้อีก เผื่อเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝัน ที่เราอาจต้องเสียค่าใช้จ่ายเป็นจำนวนมาก แต่ค่าใช้จ่ายก็จะสูงขึ้นตามไปด้วยหากต้องการความครอบคลุมที่คุ้มค่ากับรถเช่าของเรา แต่เราก็มีมีทางเลือกหนึ่งที่ช่วยให้เราไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายในการทำประกันเป็นจำนวนมาก แต่ได้รับความคุ้มครองครอบคลุมในส่วนของความเสียหายที่เกิดกับรถเช่าด้วย คือการทำประกันการเดินทางที่มีความคุ้มครองครอบคลุมในส่วนของรถเช่าด้วย

นอกจากช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายกรณีที่เกิดเหตุการณ์ไม่คาดคิดกับรถแล้ว ประกันภัยการเดินทางยังช่วยคุ้มครองกรณีเจ็บป่วย หรือเหตุฉุกเฉินอื่นๆ อีกด้วย ช่วยให้เราสามารถเดินทางได้อย่างอุ่นใจ ไม่ต้องกังวลระหว่างการเดินทาง

การเช่ารถขับเที่ยวในต่างประเทศช่วยให้เราเดินทางท่องเที่ยวได้สะดวกสบาย สามารถเดินทางไปยังสถานที่ต่างๆ ได้ตามแผนที่วางไว้  อยากหยุดแวะเที่ยวถ่ายรูประหว่างทางก็สามารถทำได้ แต่ต้องมีการเตรียมตัววางแผนและเตรียมความพร้อมสำหรับการเดินทางให้ดี และสิ่งสำคัญที่เราควรมีทุกครั้งที่เดินทางไปต่างประเทศ คือ ประกันการเดินทาง ที่จะช่วยให้แผนการเดินทางของเราไม่สะดุด สามารถทำกิจกรรมต่างๆ ได้อย่างอุ่นใจ ไร้กังวล ให้ความคุ้มครองครอบคลุมค่าใช้จ่ายที่เกิดจากเหตุการณ์ฉุกเฉินที่อาจเกิดขึ้นโดยไม่คาดฝัน*

*เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทกำหนด

เลือกแผนประกันการเดินทางที่ใช่สำหรับคุณ แผนประกันการเดินทาง Dance Moves จาก Allianz Travel

Common tourist scams and how to avoid them

รู้ทันกลโกงมิจฉาชีพในสถานที่ท่องเที่ยว

การได้ไปเดินทางท่องเที่ยวต่างประเทศน่าจะเป็นอีกหนึ่งความฝันของใครหลายๆ คน ไม่ว่าจะเป็นแถบยุโรป อเมริกา หรือแม้แต่ในเอเชียก็ตาม บางคนอุตส่าห์เตรียมตัวหาข้อมูลเรื่องสถานที่ท่องเที่ยวไปอย่างดี เพื่อให้การเดินทางครั้งนั้นเป็นสิ่งที่น่าจดจำ แต่บางครั้งระหว่างที่เรากำลังประทับใจกับสถานที่นั้นๆ ก็มีมิจฉาชีพเข้ามาร่วมซีน จนเกิดเหตุการณ์ที่ทำให้ทริปนั้นกลายเป็นฝันร้ายได้ 

วันนี้ Allianz Travel นำกลโกงของมิจฉาชีพมาบอกเล่าให้เพื่อนๆ ฟัง เพื่อให้ระวังตัว และเที่ยวได้อย่างปลอดภัย ซึ่งมิจฉาชีพจะเข้ามาหาเราในรูปแบบใดบ้างมาดูกันเลย

1. มิจฉาชีพที่มาในรูปแบบแก๊งบังคับซื้อ

ในสถานที่ท่องเที่ยวที่เป็นที่นิยม จะมีกลุ่มคนที่คอยมองคนที่ไม่ทันระวังตัว และเดินตรงปรี่เข้ามาแบบไม่ให้เราตั้งตัว พร้อมกับยื่นของหรือยัดเยียดใส่มือเรา อย่างเช่น อาหารนกพิราบ ผ้า สิ่งของต่างๆ ถ้าเราเผลอรับไป ก็จะโดนเรียกให้จ่ายเงินทันที หากเราไม่จ่าย พวกเขาก็จะเริ่มโวยวาย และพยายามกันไม่ให้เราเดินหนี และอาจจะล้วงกระเป๋าเอาสิ่งของมีค่าไป ในจังหวะที่เรามัวแต่สนใจคนที่โวยวายอยู่ข้างหน้า ฉะนั้น หากเข้าไปในสถานที่ท่องเที่ยวที่มีคนเยอะ เราควรมองซ้ายมองขวา ถ้าเห็นใครเดินเข้ามายื่นของให้เรา เราควรรีบเดินหนีทันทีจะดีที่สุด

2. มิจฉาชีพที่มาในรูปแบบตำรวจปลอม

จะทำเป็นเข้ามาขอตรวจสอบเอกสารประจำตัวของเรา เช่น พาสปอร์ต ซึ่งหากเราเป็นนักท่องเที่ยวที่อยู่ต่างถิ่น ก็อาจรู้สึกตกใจกลัว จนไม่ทันระวัง ตำรวจปลอมเหล่านี้ก็จะชิงกระเป๋าเราหนีไปทันที หรืออาจเข้ามาบอกว่ามีการแพร่ระบาดของธนบัตรปลอม และขอตรวจเงินที่เราพกอยู่ ถ้าเราหยิบกระเป๋าขึ้นมาก็อาจจะโดนฉกชิงไปเลย ดังนั้นหากเราเจอตำรวจเดินเข้ามาหา ก็ให้ระวังไว้สักหน่อย ขอตรวจสอบบัตรประจำตัว หรือสอบถามความผิดของเราให้ชัดเจนเสียก่อน

3. มิจฉาชีพที่มาในรูปแบบการแกล้งทำของหล่น

หากเราเดินเที่ยวอยู่ แล้วเจอคนทำของตก กระจัดกระจาย เราขอแนะนำให้เดินผ่านไปเลย เพราะหากเราเข้าไปช่วยเหลือเก็บของเหล่านั้น จะเป็นจังหวะที่เราไม่ได้สนใจสิ่งรอบข้าง ซึ่งถือว่าเป็นจังหวะทองของมิจฉาชีพที่สามารถเอาของมีค่าไปจากเราได้ โดยที่เราไม่รู้ตัวเลยทีเดียว

4. มิจฉาชีพที่มาในรูปแบบโจรในคราบนักบุญ

หากเราถือของเยอะ ถือกระเป๋าใบใหญ่ หรือแวะซื้อตั๋วรถไฟตามตู้กดอัตโนมัติ ก็อาจมีมิจฉาชีพเข้ามาแสดงตัวให้ความช่วยเหลือ หากเรายอมให้ช่วยยกของ หรือให้ช่วยซื้อตั๋วให้ ก็อาจเจอการขอค่าตอบแทนทันที ซึ่งหากเราไม่ให้ พวกเขาก็จะส่งเสียงโวยวายใหญ่โตใส่เรา ดังนั้นควรปฎิเสธความช่วยเหลือจากคนที่เราไม่รู้จักตั้งแต่แรกเลยจะดีที่สุด

5. มิจฉาชีพที่มาในรูปแบบการสอบถามทาง “ฉันจะไปที่นี่ได้ยังไง?”

มิจฉาชีพบางคนมาในรูปแบบถือแผนที่แผ่นใหญ่ๆ ทำตัวเหมือนเป็นนักท่องเที่ยว และเข้ามาถามทางกับเรา หากเราพยายามช่วย และใช้สมาธิไปกับการดูแผนที่ ทำให้มีจังหวะที่เราไม่ทันได้ระวังตัว ก็จะมีมิจฉาชีพอีกคนเข้ามาล้วงกระเป๋า หรือหยิบของของเราไปดื้อๆ ซึ่งหากพบเจอก็ให้เดินหนีไปเลยดีที่สุด

6. มิจฉาชีพที่มาในรูปแบบการขอให้ช่วยถ่ายรูปให้หน่อย

มิจฉาชีพในคราบนักท่องเที่ยวอีกประเภทหนึ่งจะเดินเข้ามายื่นกล้องให้คุณช่วยถ่ายรูปให้ หากคุณใจดีรับกล้องมาเพื่อที่จะถ่ายรูปให้ และในขณะที่ถ่ายอยู่ ก็จะไม่มีเหตุการณ์อะไรเกิดขึ้น แต่ว่าในจังหวะที่เราส่งกล้องคืนเท่านั้นแหละ มิจฉาชีพจะแกล้งทำกล้องตก แล้วโวยวายเสียงดัง เพื่อเรียกร้องให้เราจ่ายค่าเสียหาย

7. มิจฉาชีพที่มาในรูปแบบอาสาสมัครถ่ายรูปให้ไหม

มิจฉาชีพบางคนจะแกล้งทำเป็นคนมีน้ำใจ เมื่อเห็นว่าเรากำลังถ่ายรูป ก็อาจเดินเข้ามาอาสาเป็นคนถ่ายรูปให้ และเมื่อถ่ายรูปให้เราเสร็จแล้ว มิจฉาชีพก็จะขอเงินค่าถ่ายรูปกับเราทันที หรือในกรณีที่เลวร้ายที่สุดคือเอากล้องสุดรักของเราวิ่งหนีหายไปเลย

8. มิจฉาชีพที่มาในรูปแบบขอทานปลอม

บางคนใช้ความขี้สงสารของคนเป็นเครื่องมือ แต่งตัวเหมือนขอทานมาขอเงินนักท่องเที่ยว หากเราหยิบกระเป๋าเงินออกมา ก็อาจจะถูกชิงไปจากมือแล้ววิ่งหนี หรือมีอีกกรณีคือหากเราส่งเงินไปให้ 1 คน ก็จะมีขอทานคนอื่นมารุมล้อม จนเราไม่สามารถเดินไปไหนได้จนกว่าจะให้เงิน และท้ายที่สุดก็อาศัยจังหวะชุลมุนล้วงกระเป๋าเราไปอีกด้วย

9. มิจฉาชีพที่มาในรูปแบบการขายตั๋วปลอม

สถานที่ท่องเที่ยวบางแห่งจะต้องมีการซื้อตั๋วเข้าชม ซึ่งจะมีมิจฉาชีพบางกลุ่มนำตั๋วปลอมมาขายในราคาที่ถูกจนน่าตกใจ ซึ่งหากเราหลงกลซื้อเพราะคิดว่าสามารถประหยัดเงินได้ แต่กลับกลายเป็นว่าตั๋วที่ได้มาเป็นของปลอมที่ไม่สามารถใช้งานได้ และจะต้องเสียเงินซื้อตั๋วใหม่อีกครั้ง

10. มิจฉาชีพที่มาในรูปแบบองค์กรช่วยเหลือสังคม

แก๊งมิจฉาชีพบางแก๊งจะทำตัวเหมือนเป็นองค์กรที่ช่วยเหลือสังคม เข้ามาโน้มน้าวพูดข้อมูลยาวเหยียด พร้อมให้ช่วยลงชื่อสนับสนุน ถ้าเรามัวแต่ให้ความสนใจไปกับเรื่องราวที่พวกนี้เล่าให้ฟัง ก็จะเป็นเป้าหมายให้มิจฉาชีพที่รออยู่เข้ามาล้วงกระเป๋า โดยที่เราไม่ทันรู้ตัวก็เป็นได้

11. มิจฉาชีพที่มาในรูปแบบการขอเงินทอนจากการซื้อตั๋วจากตู้จำหน่ายตั๋วอัตโนมัติ

มิจฉาชีพกลุ่มสุดท้ายจะรอจังหวะที่คุณซื้อตั๋วจากตู้จำหน่ายตั๋วอัตโนมัติตามที่ต่างๆ แล้วก็จะเข้ามาขอเงินคุณแบบไม่อายฟ้าอายดินกันเลยทีเดียว หากคุณไม่ยอมให้ ก็จะโวยวายเสียงดัง ทางทีดีหากพบเจอก็ให้เดินหนี หรือเปลี่ยนที่ซื้อตั๋วเลยจะเป็นการดีที่สุด

จะเห็นได้ว่ากลโกงที่เหล่ามิจฉาชีพใช้มักมาจากความเมตตาใจดีของนักท่องเที่ยว ฉะนั้น หากเราเดินทางท่องเที่ยวไม่ว่าจะไปคนเดียวหรือไปเป็นกลุ่ม เราก็ควรระมัดระวังตัวเองให้ดี ปิดกระเป๋าให้แน่นสนิทและเก็บไว้ใกล้ตัวตลอดเวลา และถึงแม้จะดูใจร้ายใจดำแต่การที่เราทำตัวไม่สนใจคนอื่น หรือไม่เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับเหตุการณ์รอบข้างก็เป็นวิธีที่ทำให้เราปลอดภัยห่างไกลจากมิจฉาชีพได้ และสิ่งสำคัญที่ควรมีทุกครั้งที่เดินทางไปต่างประเทศ คือประกันภัยการเดินทาง ที่จะช่วยให้แผนการเดินทางของเราไม่สะดุด ทำกิจกรรมต่างๆ ได้อย่างอุ่นใจ ไร้กังวล โดยมีความคุ้มครองที่ครอบคลุมค่าใช้จ่ายที่เกิดจากเหตุฉุกเฉินที่อาจเกิดขึ้นโดยไม่คาดฝัน* 

*เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทกำหนด

เลือกแผนประกันการเดินทางที่ใช่สำหรับคุณ แผนประกันการเดินทาง Dance Moves จาก Allianz Travel

10-zoos-in-the-world

10 สวนสัตว์ระดับโลก ต้องไปเที่ยวสักครั้ง!!

สวนสัตว์ เป็นแหล่งท่องเที่ยวอีกสถานที่หนึ่งที่อยู่ในใจใครหลายๆ คน ไม่ว่าจะไปเที่ยวเป็นครอบครัว เป็นแก๊งค์ เป็นคู่ หรือบินเดี่ยว ก็ไปได้ สำหรับคนที่ชื่นชอบสัตว์ชนิดต่างๆ ซึ่งแต่ละสถานที่จะมีสัตว์แต่ละชนิดที่หาดูได้ยาก วันนี้ Allianz Travel ได้รวบรวมแหล่งท่องเที่ยว สวนสัตว์ระดับโลก มาให้ทุกคนกันแล้ว ไปดูกันเลยว่า เราจะไปหาน้องๆ ที่เราชื่นชอบได้ที่ไหนกันบ้าง ไปดูกันเลยค่ะ

1. Bronx Zoo เมืองนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา

Bronx Zoo
ขอบคุณรูปภาพจาก : https://www.flickr.com/photos/klingon65/3753502811/sizes/h/

สวนสัตว์ที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งในประเทศสหรัฐอเมริกาตั้งอยู่ในที่เมืองนิวยอร์ก (New York) มีสัตว์หลากหลายชนิด เนื่องจากสวนสัตซืมีขนาดใหญ่กว้างขวางมาก ดังนั้นหากต้องการมาเที่ยวชมดูทุกสิ่งภายในสวนสัตว์ในวันเราก็ควรเดินทางมาที่สวนสัตว์ตั้งแต่เช้า หรืออาจเลือกดูเฉพาะสัตว์ในโซนที่เราอยากจะดูเท่านั้น

ค่าเข้าชม :  ผู้ใหญ่ 25 USD / เด็ก 17 USD

ค่าเข้าชมแบบรวมเครื่องเล่นพิเศษและสถานที่ท่องเที่ยวในสวนสัตว์ : ผู้ใหญ่ 35 USD / เด็ก 25 USD

2. Toronto Zoo เมืองโตรอนโต ประเทศแคนาดา 

Toronto Zoo
ขอบคุณรูปภาพจาก : https://www.flickr.com/photos/57156785@N02/28716926254/in/photostream/

สวนสัตว์ Toronto เป็นสวนสัตว์ที่ใหญ่ที่สุดในแคนาดา ตั้งอยู่บนพื้นที่กว่า 710 เอเคอร์ และเป็นสวนสัตว์แห่งเดียวที่มีนิทรรศการแสดงสัตว์ที่มีถิ่นกำเนิดในแคนาดา ได้แก่ กวางมูส กวางเอลค์ และสัตว์สายพันธุ์อื่นๆ นอกจากนี้ สวนสัตว์ยังมีนิทรรศการ Indo-Malaya, Tundra Trek, Australasia, Africas, America และ Eurasia อีกด้วย

ค่าเข้าชมสวนสัตว์ :  ค่าเข้าชมทั่วไปในสวนสัตว์ 22 USD (หรือ 29 CAD) 

ค่าที่จอดรถ : 12 USD ต่อคัน

3. Pretoria National Zoo เมืองพริทอเรีย ประเทศแอฟริกาใต้

Pretoria National Zoo
ขอบคุณรูปภาพจาก : https://www.pretoriazoo.org/about/

หากเราเดินทางไปเที่ยวแอฟริกาใต้ สวนสัตว์แห่งชาติในเมือง Pretoria แอฟริกาใต้ เป็นหนึ่งใน สวนสัตว์ระดับโลก อีกสถานที่ที่ไม่ควรพลาดเลย สวนสัตว์แห่งนี้มีพื้นที่กว่า 200 เอเคอร์ มีสถานที่ท่องเที่ยวแบบซาฟารีสุดคลาสสิก และสัตว์จากพื้นที่อื่นๆ ของโลก

สวนสัตว์แห่งชาติ Pretoria ก่อตั้งขึ้นในปี พ.ศ. 2442 (ค.ศ. 1899) เพื่อช่วยเหลือสัตว์ใกล้สูญพันธุ์ในแอฟริกา และปัจจุบันสวนสัตว์แห่งนี้ก็ได้อนุรักษ์พันธุ์สัตว์หลายชนิดจากแอฟริกา และจากทวีปอื่นๆ 

ค่าเข้าชมสวนสัตว์ : ประมาณ 8 USD ต่อคน

4. San Diego Zoo เมืองซานดิเอโก ประเทศสหรัฐอเมริกา

สวนสัตว์ซานดิเอโกครอบคลุมพื้นที่กว่า 100 เอเคอร์ ในรัฐแคลิฟอร์เนีย ประเทศสหรัฐอเมริกา (United States) สวนสัตว์ที่นี่เน้นไปที่การอนุรักษ์สัตว์ และมีบทบาทสำคัญในการเพิ่มจำนวนของแพนด้ายักษ์ และแพนด้าในสวนสัตว์ซานดิเอโกมีผู้เข้าชมมากที่สุด นอกจากนี้ภายในสวนสัตว์ยังมีเครื่องเล่น ภาพยนตร์ และสถานที่ท่องเที่ยวอื่นๆ ภายในสวนสัตว์อีกด้วย

ค่าเข้าชมสวนสัตว์ : ผู้ใหญ่ 62 USD / เด็ก 52 USD

5. Taronga Zoo เมืองซิดนีย์ ประเทศออสเตรเลีย 

Taronga Zoo
ขอบคุณรูปภาพจาก : https://www.flickr.com/photos/51035608727@N01/2844963929

หากเดินทางไปที่เมืองซิดนีย์ ประเทศออสเตรเลีย ต้องอย่าพลาดสวนสัตว์ Taronga ถึงแม้ว่าสวนสัตว์แห่งนี้จะอยู่ในย่านชานเมืองที่พลุกพล่านของซิดนีย์ แต่ภายในสวนสัตว์ก็มีสัตว์ต่างๆ มากกว่า 5,000 ตัว จากในประเทศและทวีปต่างๆ การแสดงแมวน้ำของที่นี่เป็นอีกหนึ่งสิ่งที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวเป็นจำนวนมากในการมาเยือนที่สวนสัตว์แห่งนี้

ค่าเข้าชมสวนสัตว์ : 32 USD ต่อคน

6. Schönbrunn Zoo เมืองเวียนนา ประเทศออสเตรีย

Schönbrunn Zoo
ขอบคุณรูปภาพจาก : https://www.zoovienna.at/en/zoo-and-visitors/trip-schonbrunn-zoo/ (Photo by : Daniel Zupanc)

สำหรับคนชื่นชอบสัตว์ป่า และประวัติศาสตร์ อย่ามองข้ามสวนสัตว์เวียนนา หรือสวนสัตว์ Schönbrunn ในประเทศออสเตรีย สวนสัตว์แห่งนี้เก่าแก่ที่สุดในโลก เปิดในปี 1752 ภายในสวนสัตว์มีสัตว์มากมาย เช่น ชิมแปนซี และม้าลาย เป็นต้น

ค่าเข้าชมสวนสัตว์ : 26 USD ต่อคน

7. Berlin Zoo เมืองเบอร์ลิน ประเทศเยอรมนี

สวนสัตว์เบอร์ลิน ในประเทศเยอรมนี มีมาตั้งแต่ศตวรรษที่สิบเก้า ครอบคลุมพื้นที่ 90 เอเคอร์ มีการจัดแสดงหมีขั้วโลก พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำ สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมในแอฟริกา และเอเชีย นอกจากนี้ยังมีการแสดงของสัตว์อื่นๆ อีกมากมาย

ค่าเข้าชมสวนสัตว์ : 19 USD ต่อคน

8. สวนสัตว์ Zoorasia เมืองโยโกฮาม่า ประเทศญี่ปุ่น

Zoorasia Zoo
ขอบคุณรูปภาพจาก : https://www.tabido.jp/en-us/spot/1156/

สวนสัตว์ซูเรเซีย (Zoorasia) ตั้งอยู่ที่เมืองโยโกฮาม่า เป็นสวนสัตว์ที่มีขนาดใหญ่และดีที่สุดแห่งหนึ่งของญี่ปุ่น มีบรรยากาศธรรมชาติแบบขั้นสุดไปเลยล่ะค่ะ มีการจำลองบรรยากาศป่าโซนต่างๆ ได้อย่างเนียนมากๆ สัตว์ต่างๆ อยู่ในพื้นที่กว้างขวาง เลียนแบบที่อยู่อาศัยตามธรรมชาติของสัตว์แต่ละประเภท ซึ่งมีทั้งป่าเขตร้อนเอเชีย, ป่ากึ่งขั้วโลก, ทุ่งหญ้าโอเชียเนีย, กลางภูเขาเอเชีย, ชนบทญี่ปุ่น, ป่าอเมซอน และป่าฝนเมืองร้อนแอฟริกัน สัตว์ไฮไลท์ที่ไม่ควรพลาดเลยก็คือ ช้าง หมีขั้วโลก หมีดำ โอคาปี และลิงจมูกยาว นอกจากนี้ยังมีเส้นทางธรรมชาติ และพื้นที่นันทนาการสำหรับเด็กและครอบครัวอีกด้วย 

ค่าเข้าชมสวนสัตว์ : 7 USD ต่อคน

9. Beijing Zoo กรุงปักกิ่ง ประเทศจีน

สวนสัตว์ปักกิ่ง (Beijing Zoo) เป็นสวนสัตว์และสวนสาธารณะที่เก่าแก่ที่สุดในประเทศจีน มีแพนด้าอยู่จำนวนมาก และเป็นจุดดึงดูดหลักของสวนสัตว์แห่งนี้ นอกจากนี้ยังมีสัตว์ต่างๆ เกือบ 1,000 สายพันธุ์ในสวนสัตว์แห่งนี้

ค่าเข้าชมสวนสัตว์ : ประมาณ 2 USD ต่อคน (15 หยวน)

10. Singapore Zoo ประเทศสิงคโปร์

Singapore Zoo
ขอบคุณรูปภาพจาก : https://www.familytravel.com.au/rainforest-lumina-singapore-zoo/

สวนสัตว์สิงคโปร์เป็นหนึ่งในสถานที่ที่มีสัตว์หลากหลายและโดดเด่นที่สุดแห่งหนึ่ง เป็นสวนสัตว์แบบเปิดที่สัตว์เกือบทั้งหมดอยู่ในที่อยู่อาศัยตามธรรมชาติของพวกมัน

ค่าเข้าชมสวนสัตว์ : 27.50 USD ต่อคน

หากมีโอกาสได้เดินทางไปยังประเทศเหล่านี้ อย่าลืมหาโอกาสแวะไปเที่ยวชมสวนสัตว์กันด้วยนะคะ เพราะเป็นโอกาสที่เราจะได้สัมผัสบรรยากาศธรรมชาติ และอาจได้เห็นสัตว์ประจำท้องถิ่นของแต่ละประเทศกันด้วย แต่อย่างไรก็ตาม การเดินทางไปเที่ยวสวนสัตว์แต่ละแห่งก็ควรวางแผนการเดินทางไว้ล่วงหน้า อย่างเช่น ช่วงเวลาที่เหมาะสม สภาพอากาศ ระยะเวลาในการเที่ยวชม วิธีเดินทางไปยังสถานที่นั้นๆ อุปกรณ์ที่จำเป็นสำหรับการเดินทาง และสิ่งสำคัญที่ควรมีทุกครั้งที่เดินทางไปต่างประเทศ คือประกันภัยการเดินทาง ที่จะช่วยให้แผนการเดินทางของเราไม่สะดุด ทำกิจกรรมต่างๆ ได้อย่างอุ่นใจ ไร้กังวล โดยมีความคุ้มครองที่ครอบคลุมค่าใช้จ่ายที่เกิดจากเหตุฉุกเฉินที่อาจเกิดขึ้นโดยไม่คาดฝัน* 

*เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทกำหนด

เลือกแผนประกันการเดินทางที่ใช่สำหรับคุณ แผนประกันการเดินทาง Dance Moves จาก Allianz Travel

ขอบคุณข้อมูลจาก : Traveller Worldwide : The 15 Best Zoos in the World in 2022 

7 Places of The Northern Light

7 สถานที่ ตามล่าแสงเหนือ ปรากฎการณ์ธรรมชาติมหัศจรรย์

ตามล่าแสงเหนือ เป็นหนึ่งกิจกรรมที่น่าจะอยู่ในลิสต์การเดินทางครั้งหนึ่งในชีวิตของใครหลายๆ คน แสงเหนือหรือออโรรา (Aurora) ปรากฎการณ์ทางธรรมชาติที่เป็นแสงเรืองรองสีแปลกๆ เป็นแถบสีต่างๆ บนท้องฟ้าในเวลากลางคืน เกิดขึ้นในชั้นบรรยากาศของโลก ที่ระดับความสูงเหนือพื้นดิน 100-300 เมตร แสงออโรรามีหลายสี ทั้งสีเขียว ฟ้า ชมพู เหลือง และม่วง แต่สีที่เห็นได้บ่อยที่สุดคือสีเขียวและเหลือง

เราสามารถมองเห็นแสงเหนือได้ในช่วงเวลาที่ท้องฟ้าปลอดโปร่งในฤดูหนาวคืนเดือนมืด แต่ปรากฎการณ์ที่เกิดขึ้นมีความไม่แน่นอน บางครั้งถึงแม้ว่าสภาพอากาศจะได้ แต่เราก็อาจไม่เห็นแสงเหนือเลยก็ได้ นอกจากนี้ เราสามารถใช้แอพ Sky Guide ในการค้นหาคืนที่มืดของสถานที่ที่อาจจะเกิดแสงเหนือได้ และวันนี้ Allianz Travel ได้นำข้อมูลสถานที่ที่จะทำให้เราพบกับแสงเหนือมาฝากทุกคนกันค่ะ ไปดูกันเลยว่ามีที่ไหนกันบ้าง

1. เมือง Reykjavík ประเทศ Iceland

ถึงแม้จะไม่ใช่ฤดูกาลที่มีแสงเหนือ Iceland ก็เป็นหนึ่งในประเทศที่มีธรรมชาติสวยงาม แต่สิ่งที่ขึ้นชื่อของที่นี่คือการที่มีจุดชมแสงเหนือที่สวยงามและชัดเจน โดยจุดที่ดีและเป็นที่นิยมที่สุดคือ The Grotta Lighthouse บริเวณชานเมือง Reykjavík

ช่วงเวลาที่ควรออกล่าแสงเหนือ : ปลายเดือนสิงหาคมถึงต้นเดือนเมษายน

Iceland

2. เมือง Fairbanks รัฐ Alaska ประเทศสหรัฐอเมริกา

Fairbanks เป็นจุดชมความงามของแสงเหนือที่ดีที่สุดในสหรัฐอมริกา อยู่ใกล้สนามบินนานาชาติและใกล้กับอุทยานแห่งชาติ Denali (Denali National Park) นอกจากนี้เมือง Fairbanks ยังมีระบบพยากรณ์ของตัวเอง และให้บริการทัวร์เพื่อพานักท่องเที่ยวออกนอกเมือง เพื่อไป ตามล่าแสงเหนือ


ช่วงเวลาที่ควรออก ตามล่าแสงเหนือ : ปลายเดือนสิงหาคมถึงกลางเดือนเมษายน

Fairbanks, Alaska, United States

3. เมือง Yellowknife ประเทศ Canada

แคนาดาเป็นสวรรค์แห่งการชมแสงเหนือ ด้วยละติจูดเหนือและมีมลพิษทางแสงน้อย จุดชมแสงเหนือในประเทศแคนาดาอยู่บริเวณรอบทะเลสาบ Prosperous ในเมืองเยลโลไนฟ์ นอกจากนี้ยังมีสถานที่อื่นๆ ที่ชมแสงเหนือได้ เช่น อุทยานแห่งชาติ Wood Buffalo และ Jasper


ช่วงเวลาที่ควรออกล่าแสงเหนือ : กลางเดือนสิงหาคมถึงปลายเดือนเมษายน

Canada

4. ตามล่าแสงเหนือ เมืองทรุมเซอ (Tromsø) ประเทศนอร์เวย์

เมืองทรุมเซอที่อยู่ทางตอนเหนือของนอร์เวย์ถือเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่ดีอีกแห่งหนึ่ง เมืองนี้อยู่ห่างขั้วโลกเหนือเพียง 217 ไมล์ ทำให้สามารถเห็นแสงเหนืออันตระการตาจากหมู่บ้าน Ersfjordbotn ซึ่งอยู่ห่างจากเมืองทรุมเซอ 12 ไมล์ 


ช่วงเวลาที่ควรออกล่าแสงเหนือ : กลางเดือนกันยายนถึงปลายเดือนมีนาคม

Norway

5. ตอนเหนือของประเทศสวีเดนและฟินแลนด์

เนื่องจากตอนเหนือของประเทศสวีเดนและฟินแลนด์อยู่ในบริเวณที่ใกล้กันเมือง Kiruna ทางตอนเหนือสุดของสวีเดนเป็นประตูสู่สถานที่ท่องเที่ยว และอุทยานแห่งชาติ Abisko เป็นจุดชมแสงเหนือของสวีเดน ขณะที่ฟินแลนด์อยู่ที่เมือง Rovaniemi แต่ถึงแม้ทั้งสองประเทศจะมีอากาศที่มีเสถียรภาพมากกว่าชายฝั่งนอร์เวย์มาก แต่ก็หนาวกว่าด้วย

ช่วงเวลาที่ควรออกล่าแสงเหนือ : กลางเดือนกันยายนถึงปลายเดือนมีนาคม

Sweden
Finland

6. ตามล่าแสงเหนือ ประเทศกรีนแลนด์

เราสามารถชมแสงเหนือได้แทบจะทุกจุดของประเทศกรีนแลนด์ โดยทางทางใต้จะเห็นแสงเหนือที่สวยงาม ที่บริเวณธารน้ำแข็ง Qaleraliq เรียกได้ว่าแค่เดินทางไปชมวิวทิวทัศน์ที่สวยงามของกรีนแลนด์ก็ซื้อว่าเป็นการเดินทางที่คุ้มค่ามาก


ช่วงเวลาที่ควรออกล่าแสงเหนือ : กลางเดือนสิงหาคมถึงปลายเดือนเมษายนทางใต้

7. ตามล่าแสงเหนือ เมือง Murmansk ประเทศรัสเซีย

เมือง Murmansk ที่อยู่ใกล้กับ The Kola Peninsula ทางตอนเหนือของประเทศรัสเซีย เป็นอีกจุดที่มีโอกาสจะได้พบแสงเหนือสูง แต่อากาศหนาวจัดมาก เราจึงควรวางแผนและเตรียมตัวให้ดี เพราะแสงเหนือที่นี่ก็สวยงามไม่แพ้ที่อื่นเลย

ช่วงเวลาที่ควรออกล่าแสงเหนือ : ปลายเดือนกันยายนถึงสิ้นเดือนมีนาคม

Murmansk, Russia

แสงเหนือในแต่ละสถานที่ มีความสวยงามแตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับสภาพอากาศ และฤดูการในการออกล่าแสงเหนือ ที่สำคัญหลายคนเชื่อว่าเราต้องพกดวงไปด้วยถึงจะได้ชมความสวยงามจากแสงเหนือ 🙂 ยังไงก็แล้วแต่ก่อนที่เราจะเดินทางออกล่าแสงเหนือ เราควรศึกษาข้อมูลการเดินทางของสถานที่ต่างๆ ในประเทศที่เราต้องการเดินทางไป ช่วงเวลาที่เหมาะสมที่จะเดินทาง พร้อมกับเตรียมอุปกรณ์ต่างๆ ที่จำเป็นสำหรับการเดินทาง และสิ่งสำคัญที่เราควรมีทุกครั้งที่เดินทางไปต่างประเทศ คือ ประกันภัยการเดินทาง ที่จะช่วยให้แผนการเดินทางของเราไม่สะดุด สามารถทำกิจกรรมต่างๆ ได้อย่างอุ่นใจ ไร้กังวล ให้ความคุ้มครองครอบคลุมค่าใช้จ่ายที่เกิดจากเหตุการณ์ฉุกเฉินที่อาจเกิดขึ้นโดยไม่คาดฝัน*

เลือกแผนประกันภัยการเดินทางที่ใช่สำหรับคุณ คลิกเลย!!

*เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทกำหนด

ขอบคุณข้อมูลจาก : NATIONAL GEOGRAPHIC

เรามุ่งมั่นที่จะช่วยเหลือและดูแลคุณ

อลิอันซ์ทราเวลเป็นผู้นำระดับโลกด้านประกันภัยการเดินทางและบริการช่วยเหลือทั่วไป เรามีแผนประกันภัยที่หลากหลายให้เลือก ครอบคลุมตั้งแต่แผนรายเที่ยว แผนรายปี แผนครอบครัว ไปจนถึงแผนเดินทางศึกษาต่อต่างประเทศ เราทุ่มเทที่จะให้บริการช่วยเหลือและปกป้องคุณทุกที่ ทุกเวลาเท่าที่เราจะทำได้ เราไม่ได้จำกัดอยู่แค่ประกันภัยและการให้ความช่วยเหลือ แต่เรามุ่งเน้นไปที่สิ่งที่มากกว่านั้น และทุกบริการของเราก็เพื่อลูกค้าคนสำคัญของเรา

7 Tips Traveling Alone

7 เคล็ดลับลุยเดี่ยว เที่ยวคนเดียวให้ปลอดภัย

บางครั้งการวางแผนเที่ยวเป็นกลุ่มอาจต้องประสบความยุ่งยาก ล่าช้า รอกันไปรอกันมา ทำให้บางคนที่มีความพร้อมเพียงพอตัดสินใจออกเดินทางคนเดียว ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่ง่าย แต่ก็ไม่ใช่ว่ายากมากจนเราทำไม่ได้ นอกจากต้องมีเรื่องความกล้ามาก่อนแล้ว สิ่งสำคัญคือเราจะต้องวางแผนเตรียมตัวให้พร้อมก่อนออกเดินทาง Allianz Travel ขอนำ 7 เคล็ดลับลุยเดี่ยว ออกท่องเที่ยวคนเดียวให้สนุก ปลอดภัย ไม่น่ากลัว

1. การเปิดใจและตัดความกลัวออกไป

เราอย่าเพิ่งกังวลไปล่วงหน้าว่าเราจะมีปัญหาอะไร ปัจจุบันมีอุปกรณ์หรือแอพพลิเคชั่นผ่านทางมือถือมากมายที่คอยช่วยเราในการเดินทาง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการดำรงชีวิต การกินอยู่ เส้นทาง หรือภาษาที่ใช้สื่อสารกับคนท้องถิ่น

Confident

2. การวางแผนล่วงหน้า

ใช้เวลาศึกษาสถานที่ท่องเที่ยว การเดินทาง และการจองที่พักก่อนออกเดินทาง ถ้าต้องเดินทางคนเดียว ก็ควรหาที่พักที่อยู่ในพื้นที่ที่มีความปลอดภัย เดินทางสะดวก

Planing

3. การเลือกตั๋วเที่ยวบิน

บางครั้งเราอาจเลือกเที่ยวบินที่ราคาถูกและคุ้มค่าเป็นหลัก โดยไมได้คำนึงถึงเวลาออกเดินทาง และเวลาที่ไปถึงสถานที่ปลายทาง  แต่หากเราเดินทางคนเดียว และไปยังสถานที่ที่ไม่เคยไปมาก่อน เราควรหลีกเลี่ยงเที่ยวบินที่เดินทางถึงสถานที่ปลายทางในตอนกลางคืน เพราะอาจไม่ปลอดภัยสำหรับนักท่องเที่ยวที่เดินทางคนเดียว

Ticket

4. ทำตัวให้กลมกลืนกับคนท้องถิ่น

อย่าทำตัวเป็นจุดสนใจ เพื่อที่จะได้ไม่เป็นเป้าหมายของมิจฉาชีพ และไม่เปิดเผยข้อมูลส่วนตัวให้กับคนแปลกหน้า ไม่ว่าจะเป็นข้อมูลที่พัก หรือแผนการท่องเที่ยวของเรา

Make yourself like local people

5. ควรใช้กระเป๋าเป้สะพายหลังแทนการใช้กระเป๋าเดินทางใบใหญ่

ไม่พกสิ่งของมีค่าและไม่ขนข้าวของที่มากเกินความจำเป็น เพื่อให้เดินทางได้อย่างคล่องตัว และปลอดภัยจากมิจฉาชีพ

Using backpack

6. อย่าขาดการติดต่อ

ถึงแม้ว่าการเดินทางท่องเที่ยวของเราจะสนุกแค่ไหน ก็อย่าลืมที่จะหมั่นติดต่อกลับไปหาครอบครัวหรือคนใกล้ชิด รายงานเป็นระยะว่าจะไปที่ไหน ทำอะไร กลับถึงที่พักกี่โมง และเมื่อถึงที่พักแล้ว ควรติดต่ออีกครั้งเพื่อให้ครอบครัวได้ทราบความเคลื่อนไหว และไม่ต้องเป็นห่วง

Communication with family and friend

7. ทำประกันภัยการเดินทาง

เพราะเหตุการณ์ไม่คาดฝันสามารถเกิดขึ้นได้เสมอ ไม่ว่าจะเป็นการเจ็บป่วย การเกิดอุบัติเหตุ เที่ยวบินล่าช้า หรือแม้แต่สัมภาระสูญหาย การมีประกันภัยการเดินทางติดตัวไว้ก็ช่วยให้เราท่องเที่ยวได้อย่างอุ่นใจ สนุก และรู้สึกปลอดภัยมากขึ้น*

Buy Travel Insurance

อุ่นใจทุกการเดินทางไปกับแผนประกันภัยการเดินทาง Dance Moves จาก Allianz Travel สนใจซื้อประกันการเดินทาง คลิกเลย!!

*เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทกำหนด

เรามุ่งมั่นที่จะช่วยเหลือและดูแลคุณ

อลิอันซ์ทราเวลเป็นผู้นำระดับโลกด้านประกันภัยการเดินทางและบริการช่วยเหลือทั่วไป เรามีแผนประกันภัยที่หลากหลายให้เลือก ครอบคลุมตั้งแต่แผนรายเที่ยว แผนรายปี แผนครอบครัว ไปจนถึงแผนเดินทางศึกษาต่อต่างประเทศ เราทุ่มเทที่จะให้บริการช่วยเหลือและปกป้องคุณทุกที่ ทุกเวลาเท่าที่เราจะทำได้ เราไม่ได้จำกัดอยู่แค่ประกันภัยและการให้ความช่วยเหลือ แต่เรามุ่งเน้นไปที่สิ่งที่มากกว่านั้น และทุกบริการของเราก็เพื่อลูกค้าคนสำคัญของเรา