8 สิ่งสำคัญที่ควรเตรียมให้พร้อม ก่อนเดินทางไปจีน

8 สิ่งสำคัญที่ควรเตรียมให้พร้อม ก่อนเดินทางไปจีน

การเดินทางไปจีนเป็นประสบการณ์ที่น่าตื่นเต้น ทั้งวัฒนธรรมประวัติศาสตร์ สถาปัตยกรรมที่สวยงาม และอาหารท้องถิ่นที่อร่อย แต่การ เตรียมตัวไปจีน อย่างรอบคอบเป็นสิ่งสำคัญ เพื่อให้ทริปของคุณ สนุก ปลอดภัย และราบรื่น ในบทความนี้ เราจะมาแนะนำ 8 สิ่งสำคัญที่คุณควรเตรียมก่อนเดินทางไปจีนกันค่ะ

1. ตรวจสอบเอกสารการเดินทาง

เตรียมตัวไปจีน: ตรวจสอบเอกสารการเดินทาง

การเตรียมตัวไปจีน สิ่งแรกที่คุณต้องเตรียมคือ เอกสารสำคัญ เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาในการเข้าประเทศจีน

  • พาสปอร์ต: ตรวจสอบให้แน่ใจว่าพาสปอร์ตของคุณมีอายุมากกว่า 6 เดือน นับจากวันที่เดินทาง
  • วีซ่าจีน: สำหรับคนไทยสามารถเดินทางเข้าประเทศจีนได้สะดวกมากขึ้น เมื่อรัฐบาลจีนอนุมัติให้คนไทยเข้าประเทศจีนได้โดยไม่ต้องขอวีซ่า ที่อนุญาตให้อยู่ได้  30 วัน มีผลตั้งแต่ 1 มีนาคม 2567 เป็นต้นมา นอกจากประเทศจีนแล้วคุณสามารถดูรายชื่อประเทศที่คนไทยเดินทางเข้าได้โดยไม่ต้องขอวีซ่า ได้ที่บทความนี้ค่ะ อัปเดต! 36 ประเทศ ไม่ต้องขอวีซ่า สำหรับคนไทย ปี 2568
  • ตั๋วเครื่องบินและที่พัก: เตรียมเอกสารการเดินทาง ตั๋วเครื่องบิน หลักฐานการจองที่พัก และเอกสารอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการเดินทางสำหรับทริปนี้ ไว้สำหรับใช้ยืนยันกับเจ้าหน้าที่ ที่สนามบิน

2. วางแผนการเงิน

เตรียมตัวไปจีน: วางแผนการเงิน

เงินเป็นสิ่งสำคัญที่ต้องวางแผนล่วงหน้าสำหรับการ เตรียมตัวไปจีน เพื่อความสะดวกในการใช้จ่ายระหว่างการเดินทาง

  • แลกเงินหยวนจีน (CNY): เงินหยวนยังคงจำเป็น แลกเงินบางส่วนก่อนเดินทางเพื่อใช้สำหรับการชำระเงินให้กับทางร้านค้า ร้านค้าส่วนมากสามารถรับชำระเงินผ่านมือถือได้ แต่ร้านค้าท้องถิ่นยังคงรับเฉพาะเงินสด และบางร้านค้าไม่สามารถรับชำระเงินผ่านแอปที่ผูกกับบัตรต่างประเทศได้
  • ดาวน์โหลดแอป WeChat หรือ Alipay แอปพลิเคชันสำหรับชำระเงินออนไลน์ผ่านมือถือ: ทำการผูกบัตรเครดิต หรือบัตร Travel Card ไว้ที่แอป โดยเราสามารถใช้แอป WeChat หรือ Alipay ชำระเงินได้เกือบทุกร้านค้าในประเทศจีน แต่บางร้านค้าจะรับชำระได้เพียงแอปใดแอปหนึ่ง เพราะฉะนั้นเราดาวน์โหลดและเตรียมไว้ทั้ง 2 แอปพลิเคชันเลย อุ่นใจกว่าค่ะ
  • บัตรเครดิต/เดบิต: ตรวจสอบด้วยว่าบัตรของคุณสามารถใช้ในต่างประเทศได้
  • ค่าธรรมเนียมถอนเงิน: ตรวจสอบค่าธรรมเนียมถอนเงินต่างประเทศ เพื่อหลีกเลี่ยงค่าใช้จ่ายที่อาจต้องเสียเพิ่มเติม

3. ศึกษาสภาพอากาศและเตรียมเสื้อผ้า

เตรียมตัวไปจีน: ศึกษาสภาพอากาศและเตรียมเสื้อผ้า

จีนมีภูมิอากาศและฤดูกาลที่หลากหลาย การเตรียมเสื้อผ้าให้เหมาะสมจะช่วยให้ทริปสะดวกสบาย ไม่สะดุดระหว่างการเดินทางค่ะ

  • ตรวจสอบฤดูกาล: คุณต้องวางแผนการเดินทางว่าทริปของคุณจะเดินทางไปเมืองไหนและในฤดูอะไร เช่น ฤดูหนาวในปักกิ่งจะหนาวมาก โดยเพื่อน ๆ สามารถตรวจสอบสภาพอากาศได้จากแอปพลิเคชันพยากรณ์อากาศ หรือสามารถตรวจสอบได้ที่ เว็บไซต์พยากรณ์อากาศ เช่น weather.com เพื่อใช้เป็นตัวช่วยในการวางแผนการเดินทางได้เลยค่ะ
  • จัดเตรียมเสื้อผ้าที่เหมาะสม: เตรียมทั้งเสื้อกันหนาว เสื้อผ้าเบาสำหรับอากาศร้อน หรือร่มกันฝน ควรเตรียมเสื้อผ้าไปให้เหมาะสมกับฤดูที่เราเดินทางไป
  • เตรียมรองเท้าที่ใส่สบาย: ควรเตรียมรองเท้าที่เราสวมใส่สบาย สามารถใส่เดินได้ในระยะทางที่ไกล และนาน เพื่อให้เราสามารถเดินทางท่องเที่ยวและสำรวจสถานที่ท่องเที่ยวต่าง ๆ ได้อย่างสบายไม่ต้องทนเจ็บระหว่างทาง

4. วางแผนเส้นทางและสถานที่ท่องเที่ยว

เตรียมตัวไปจีน: วางแผนเส้นทางและสถานที่ท่องเที่ยว

การวางแผนเส้นทางและสถานที่ท่องเที่ยว เป็นการ เตรียมตัวไปจีน ที่สำคัญมาก เพราะการวางแผนเส้นทางล่วงหน้าจะช่วยให้คุณ ใช้เวลาได้อย่างคุ้มค่า

  • เลือกเมืองและสถานที่ท่องเที่ยว: เลือกเมืองที่เราต้องการเดินทางไปท่องเที่ยว เพราะเมืองแต่ละเมืองในประเทศจีนมีขนาดใหญ่มาก เพราะฉะนั้นควรวางแผนการเดินทางให้ดี ว่าทริปที่เราวางแผนที่จะเดินทางไป จะไปที่เมืองไหนบ้าง อาจเริ่มต้นจากการเที่ยวทริปละ 1 เมืองก็ได้ค่ะ เพราะแต่ละเมืองมีที่เที่ยวที่แตกต่างกัน และมีเสน่ห์เฉพาะตัวค่ะ เช่น ปักกิ่ง, เซี่ยงไฮ้, เฉิงตู, ซีอาน หรือกุ้ยหลิน
  • ทำแผนที่ท่องเที่ยว: จัดทำแผนการท่องเที่ยวในแต่ละวัน โดยในประเทศจีนเราจะใช้แอปแผนที่ ที่ชื่อว่า AMap ใช้เป็นตัวช่วยในการดูแผนที่ระหว่างที่เราเดินทางอยู่ในประเทศจีน โดยเราสามารถวางแผนการเดินทางโดยใช้แอป AMap เป็นตัวช่วยในการวางแผน โดยอาจเริ่มจากการเดินทางจากนอกเมือง ไล่มาที่ตัวเมือง หรือกลับกันเราอาจวางแผนการเดินทางท่องเที่ยวจากตัวเมือง ไล่ไปที่นอกเมืองที่ไกลออกไปก็ได้ แล้วแต่แผนการเดินทางของเรา เพื่อให้ง่ายต่อการวางแผนการเดินทางของเราในแต่ละวัน และควรจองตั๋วล่วงหน้า สำหรับสถานที่บางแห่งที่สามารถจองตั๋วล่วงหน้าได้ เช่น ตั๋วเข้าพิพิธภัณฑ์ ศูนย์อนุรักษ์ หรือทัวร์เมือง เพื่อช่วยให้เราสามารถเดินทางได้สะดวก และประหยัดเวลามากขึ้นค่ะ
  • ศึกษาวิธีการเดินทาง: ควรศึกษาวิธีการเดินทางในแต่สถานที่ ที่เราวางแผนที่จะเดินทางไป ควรใช้วิธีการเดินทางแบบใดที่จะทำให้เราสะดวกที่สุด เช่น รถไฟความเร็วสูง, รถเมล์, แท็กซี่ หรือแอปเรียกรถ เช่น DiDi

5. เตรียมอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่จำเป็นต้องใช้ให้พร้อม

เตรียมตัวไปจีน: เตรียมอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่จำเป็นต้องใช้ให้พร้อม

การเดินทางในจีน หรือการเดินทางไปต่างประเทศ การเตรียมอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์มีความจำเป็นอย่างมาก เพราะระหว่างการเดินทางคุณจำเป็นต้องใช้อุปกรณ์เหล่านั้น เพื่อช่วยให้คุณเดินทางได้อย่างราบรื่น และสะดวก โดยมีอุปกรณ์ที่จำเป็นสำหรับการเดินทางเบื้องต้นดังนี้ค่ะ

  • ปลั๊กไฟและอะแดปเตอร์ (Travel Adapter): ปลั๊กไฟในจีนเป็นแบบ Type A, C หรือ I ส่วนใหญ่ใช้ลักษณะเดียวกับปลั๊กในประเทศไทย และประเทศจีนใช้กระแสไฟฟ้า 220 V เช่นเดียวกัน แต่สำหรับเครื่องใช้ไฟฟ้าบางตัวของเราเช่น labtop หรือโน๊ตบุ๊ค จะมีใช้ปลั๊กที่มี 3 ขา มีสายดินเพิ่มเข้ามา จะไม่สามารถใช้ได้ที่ประเทศจีน เพราะฉะนั้นเพื่อความอุ่นใจเราควรพก Travel Adapter ไปด้วย เพื่อให้เราสามารถใช้งานอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่เรานำไปด้วยได้ทุกอุปกรณ์
  • โทรศัพท์มือถือและอินเทอร์เน็ต: สามารถใช้บริการ Roaming, eSim, ซิมจีน หรือ Pocket Wi-Fi ได้ Travel Sim จากไทยสามารถใช้งานในจีนได้โดยไม่ถูกจำกัด หากใช้ Wi-Fi สาธารณะหรือของที่พัก อาจจะยังมีข้อจำกัดในด้านต่าง ๆ อยู่ แนะนำให้เตรียม VPN ที่ถูกกฎหมายเพื่อให้สามารถใช้งานอินเทอร์เน็ตได้อย่างต่อเนื่อง
  • พาวเวอร์แบงก์ (Power Bank): อุปกรณ์สำคัญสำหรับชาร์จมือถือระหว่างวัน โดยเฉพาะเวลาท่องเที่ยว โดย Power Bank ที่สามารถนำเข้าไปในประเทศจีนได้นั้นจะต้องเป็น Power Bank ที่มีเครื่องหมายหรือสัญลักษณ์รับรองความปลอดภัย CCC (China Compulsory Certification) หรือ 3C เป็นหลัก หากไม่มี จะถูกยึดทันที และต้องพกใส่เฉพาะสัมภาระที่ถือขึ้นเครื่องเท่านั้น หากแบตเตอรี่ความจุต่ำกว่า 100 Wh (ประมาณ 20,000 mAh) สามารถนำขึ้นเครื่องได้เลย แต่หากมีความจุ 100 – 160 Wh (ประมาณ 20,000 – 32,000 mAh) จะต้องขออนุญาตกับสายการบินก่อนนำขึ้นเครื่อง

6. ศึกษาวัฒนธรรม คำศัพท์ภาษาจีนพื้นฐาน และกฎระเบียบ

เตรียมตัวไปจีน: ศึกษาวัฒนธรรม คำศัพท์ภาษาจีนพื้นฐาน และกฎระเบียบ

อีกหนึ่งข้อที่จำเป็นสำหรับ เตรียมตัวไปจีน นั่นก็คือการเข้าใจวัฒนธรรม ภาษา และกฎระเบียบของจีน เป็นการเตรียมตัวที่จะช่วยให้คุณไม่เกิดปัญหาระหว่างการเดินทางและได้รับความช่วยเหลือ และที่สำคัญได้ใจชาวท้องถิ่นค่ะ สิ่งที่คุณควรศึกษาก่อนเดินทางไปประเทศจีน มีดังนี้ค่ะ

  • วัฒนธรรมจีน: เรียนรู้มารยาท เช่น การทักทาย ยื่นและรับของด้วยสองมือ หลีกเลี่ยงการส่งเสียงดังในที่สาธารณะ ต่อคิวเสมอ โดยเฉพาะเวลาเดินทางโดยรถไฟใต้ดิน
  • คำศัพท์ภาษาจีนพื้นฐาน: เรียนรู้คำศัพท์ภาษาจีนพื้นฐาน ที่สามารถนำไปใช้ได้จริง เช่นคำดังต่อไปนี้
    • 你好 (Nǐ hǎo / หนี ห่าว): สวัสดี
    • 谢谢 (Xièxiè / เซี่ยะ เซี่ยะ): ขอบคุณ
    • 不要 (bú yào / ปู๋เย่า): ไม่เอา/ไม่ต้อง
    • 多少钱?(Duōshao qián? / ตัวฉ่าว เฉียน?): ราคาเท่าไหร่?
    • 对不起 (Duìbuqǐ / ตุ้ยปู้ฉี่): ขอโทษ
    • 不客气 (Bù kèqi / ปู๋เค่อฉี่): ไม่เป็นไร
    • 再见 (Zàijiàn / จ้ายเจี้ยน): ลาก่อน
    • 我听不懂 (Wǒ tīng bù dǒng / หว่อ ทิง ปู้ ต่ง): ฉันฟังไม่เข้าใจ
    • 厕所 (Cèsuǒ / เช่อสั่ว): ห้องน้ำ
    • 火车站 (Huǒchē zhàn / ฮั่วเช่อ จ้าน): สถานีรถไฟ
    • 出租车 (Chūzūchē / ชูจูเช่อ): รถแท็กซี่
    • 酒店 (Jiǔdiàn / จิ่วเตี้ยน): โรงแรม
    • 我不要辣的 (Wǒ bú yào là de / หว่อ ปู๋ เย่า ล่า เตอะ): ฉันไม่กินเผ็ด
    • (Shuǐ / สุ่ย): น้ำดื่ม
    • 我需要医生 (Wǒ xūyào yīshēng / หว่อ ซวีเย่า อีเชิง): ฉันต้องการหมอ
    • 我迷路了 (Wǒ mílù le / หว่อ หมีลู่ เลอ): ฉันหลงทาง
    • 你会说英语吗?(Nǐ huì shuō Yīngyǔ ma? / หนี่ หุ้ย ซัว อิง หวี่ มา?): คุณพูดภาษาอังกฤษได้ไหม?
    • 米饭 (mǐfàn / หมี่ฟ่าน): ข้าวสวย (คำที่ใช้บ่อยที่สุดสำหรับข้าวสุก)
    • (duì / ตุ้ย): ถูก, ใช่, ตกลง
  • กฎหมายและข้อห้าม: หลีกเลี่ยงสิ่งที่ผิดกฎหมายหรือผิดระเบียบ เช่น การถ่ายรูปในบางสถานที่

7. แอปพลิเคชัน ที่ควรมีติดตัวไว้ระหว่างเดินทางที่จีน

เตรียมตัวไปจีน: แอปพลิเคชัน ที่ควรมีติดตัวไว้ระหว่างเดินทางที่จีน

สิ่งที่ต้องเตรียมก่อนเที่ยวจีน อีกหนึ่งสิ่งที่สำคัญมากและต้องเตรียมพร้อม นั่นก็คือ การดาวน์โหลดแอปพลิเคชันต่าง ๆ ที่จำเป็นต้องใช้ในระหว่างการเดินทาง ได้แก่ แอปแปลภาษา, แอปแผนที่, แอปเรียกรถเพื่อความสะดวก, แอปสำหรับการชำระเงินที่จีน, และแอปอื่น ๆ ที่จำเป็นในการเดินทาง เพื่อช่วยให้การเดินทางของเราไม่สะดุด โดยแอปพลิเคชันที่จำเป็นสำหรับการเดินทางในประเทศจีนหลัก ๆ มีดังต่อไปนี้

  • แอป WeChat หรือ Alipay: แอปพลิเคชันสำหรับชำระเงินออนไลน์ ผ่านมือถือ เราสามารถใช้ชำระเงินได้เกือบทุกร้านค้าในประเทศจีน แต่บางร้านค้าจะรับชำระได้เพียงแอปใดแอปหนึ่ง เพราะฉะนั้นเราดาวน์โหลดและเตรียมไว้ทั้ง 2 แอปพลิเคชันเลย อุ่นใจกว่าค่ะ
  • แอปพลิเคชัน DiDi: แอปพลิเคชันสำหรับไว้ใช้บริการเรียกรถในประเทศจีน ที่สะดวกและปลอดภัย และราคาถูกค่ะ วิธีการใช้งานคล้ายกับแอปพลิเคชันเรียกรถบ้านเรา แต่ DiDi เพื่อความแม่นยำของจุดหมายแนะนำให้ใช้ภาษาจีนค่ะ เพราะบางสถานที่หาชื่อสถานที่เป็นภาษาอังกฤษไม่เจอนะคะ แนะนำให้ไปหาชื่อสถานที่ภาษาจีนมาใช้ในแอปค่ะ ใช้แอปพลิเคชัน Goolge Translate ช่วยค่ะ
  • แอปพลิเคชันแปลภาษา เช่น แอปพลิเคชัน Google Translate: ตัวช่วยในการการแปลข้อความจากภาษาไทยเป็นภาษาจีน หรือภาษาอังกฤษเป็นภาษาจีน ทั้งจากการพิมพ์ข้อความหรือการพูดคุย และยังสามารถใช้กล้องส่องป้ายหรือเมนูอาหารเพื่อแปลได้ทันทีอีกด้วย ซึ่งคนจีนส่วนใหญ่ไม่พูดภาษาอังกฤษ จะพูดภาษาจีนเป็นหลัก เพราะฉะนั้นแอปพลิเคชันแปลภาษามีความสำคัญมากในการเดินทางในประเทศจีน เพราะเป็นตัวช่วยสำคัญที่ทำให้คุณสามารถสื่อสารกับคนในพื้นที่ได้
  • แอปพลิเคชัน AMap หรือ Baidu Map: แอปพลิเคชันแผนที่ ตัวช่วยในการแนะนำเส้นทางการเดินทางในประเทศจีน มีความแม่นยำกว่าการใช้ Google Map
  • แอปพลิเคชัน MetroMan: แอปพลิเคชันแสดงเส้นทางรถไฟใต้ดิน ตัวช่วยการเดินทางในจีน แนะนำเส้นทางที่ช่วยให้เราไปถึงจุดหมายได้อย่างง่ายดาย ใช้ง่าย ช่วยการเดินทางของเราสะดวกมากยิ่งขึ้น

8. ประกันการเดินทาง

เตรียมตัวไปจีน: ประกันการเดินทาง

สิ่งสำคัญที่ควรพกติดตัวไปด้วยทุกทริปการเดินทางไปต่างประเทศ นั่นก็คือ ประกันการเดินทาง ตัวช่วยที่จะทำให้การเดินทางของเราไม่สะดุด หมดกังวลกับค่าใช้จ่ายที่อาจเพิ่มขึ้น จากเหตุการณ์ไม่คาดคิดระหว่างการเดินทาง ด้วยความคุ้มครองที่ครอบคลุมเหตุการณ์ไม่คาดคิดต่าง ๆ อาทิ:

  • ความคุ้มครองกรณีเสียชีวิต หรือทุพพลภาพถาวร
  • คุ้มครองค่ารักษาพยาบาล
  • บริการเคลื่อนย้ายฉุกเฉินทางการแพทย์
  • คุ้มครองเที่ยวบินล่าช้า
  • คุ้มครองกระเป๋าเดินทางหรือเอกสารสำคัญสูญหาย
  • บริการช่วยเหลือฉุกเฉิน 24 ชม.

คำถามที่พบบ่อย

คำถามที่ 1: คนไทยต้องขอวีซ่า ก่อนเดินทางไปจีนใช่หรือไม่?

คำตอบ: ผู้ถือพาสปอร์ตไทยไม่ต้องขอวีซ่าหากเดินทางเข้าประเทศจีน เมื่อรัฐบาลจีนอนุมัติให้คนไทยเข้าประเทศจีนได้โดยไม่ต้องขอวีซ่า ที่อนุญาตให้อยู่ได้  30 วัน มีผลตั้งแต่ 1 มีนาคม 2567 เป็นต้นมา

คำถามที่ 2: ควรแลกเงินจีน (เงินหยวนจีน) กี่บาทก่อนเดินทาง?

คำตอบ: แนะนำประมาณ 2,000–5,000 บาท สำหรับค่าใช้จ่ายเริ่มต้น ควรเตรียมลงแอปพลิเคชัน WeChat และ Alipay ไว้บนมือถือ พร้อมกับสมัครและผูกบัตรเครดิตกับแอปพลิเคชันไว้ด้วย เพราะร้านค้าส่วนใหญ่ และคนจีนส่วนใหญ่ใช้จ่ายผ่านแอป WeChat และ Alipay และเพื่อเสริมความั่นใจเราอาจพกบัตรเครดิตไปด้วยเพื่อความอุ่นใจและความสะดวกสบายในการใช้จ่าย

Q3: แอปพลิเคชันอะไรช่วยในการเดินทางในจีน?

คำตอบ: แอปพลิเคชัน Baidu Maps และ AMap สำหรับดูแผนที่และเส้นทางการเดินทาง, แอปพลิเคชัน DiDi สำหรับเรียกรถ ช่วยให้การเดินทางของเราสะดวกสบาย และราคาไม่แพง, และแอปพลิเคชัน Google Translate ตัวช่วยที่จะทำให้เราสามารถสื่อสารกับทุกคนในประเทศจีนได้ ไม่ว่าจะเป็นการถามเส้นทาง ทานข้าว ซื้อของ เรียกว่าทุกกิจกรรมในแต่ละวัน แอปแปลภาษาช่วยให้เราสามารถสื่อสารกับคนในพื้นที่ได้อย่างเข้าใจ

การเตรียมตัวก่อนเดินทางไปจีนอย่างรอบคอบ จะช่วยให้ทริปของคุณ สนุก ปลอดภัย และไร้ความกังวล อย่าลืมเตรียม 8 สิ่งสำคัญนี้ก่อนเดินทางไปจีนนะคะ:

  1. ตรวจสอบเอกสารการเดินทาง
  2. วางแผนการเงิน
  3. ศึกษาสภาพอากาศและเตรียมเสื้อผ้าให้เหมาะสมกับสถานที่และฤดูกาลที่คุณจะเดินทางไป
  4. วางแผนเส้นทางและสถานที่ท่องเที่ยว
  5. เตรียมอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่จำเป็นต้องใช้ไปให้ครบ
  6. ศึกษาวัฒนธรรม คำศัพท์ภาษาจีนพื้นฐาน และกฎระเบียบ
  7. แอปพลิเคชัน ที่ควรมีติดตัดไว้ระหว่างเดินทางที่จีน
  8. ประกันการเดินทาง ตัวช่วยที่จะทำให้เราเดินทางได้อย่างอุ่นใจ ไร้กังวล

หากเพื่อน ๆ เตรียมความพร้อมตามข้อแนะนำครบทั้ง 8 ข้อแล้ว การเดินทางไปประเทศจีนก็ไม่ใช่เรื่องที่ต้องกังวลอีกต่อไป เตรียมจัดกระเป๋า ซื้อตั๋วเครื่องบิน จองโรงแรม ทำแผนการเดินทาง แล้วออกเดินทางไปพบเจอประสบการณ์ใหม่ ๆ ในประเทศจีน ได้เลย! และทุกครั้งที่เดินทางไปต่างประเทศ สิ่งสำคัญที่ไม่ควรลืมพกติดตัวไว้เสมอนั่นก็คือ ประกันเดินทาง ที่ช่วยให้คุณเดินทางได้อย่างอุ่นใจ ไร้กังวล เพียงจ่ายเงินไม่กี่บาท คุณก็จะได้ความคุ้มครองมากมายที่ครอบคลุมเกือบทุกเหตุการณ์ไม่คาดฝันที่อาจเกิดขึ้นระหว่างเดินทาง* เช่น ความเจ็บป่วย การเกิดอุบัติเหตุ กระเป๋าหาย ไฟลต์ดีเลย์ เป็นต้น ให้คุณเที่ยวจีนได้อย่างมั่นใจและไร้กังวล! Allianz Travel ขอแนะนำ ประกันการเดินทางต่างประเทศ Dance Moves ที่จะช่วยให้ทริป การเดินทางของคุณราบรื่น ไม่มีสะดุด อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับความคุ้มครองได้ ที่นี่

*เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทกำหนด

ขอบคุณข้อมูลจาก: travelchinaguide.com, china-tour.cn, cathaypacific.com, chinaodysseytours.com

เลือกแผนประกันเดินทางที่ใช่สำหรับคุณ ประกันการเดินทาง Dance Moves จาก Allianz Travel

เที่ยวจีนต้องรู้! ถ้าไม่อยากถูกยึด Power Bank

เที่ยวจีนต้องรู้! ถ้าไม่อยากถูกยึด Power Bank

เวลาเดินทางต่างประเทศ โดยเฉพาะการเที่ยวจีน สิ่งจำเป็นที่ต้องพกติดตัวก็คือ พาวเวอร์แบงก์ (Power Bank) เพราะตลอดการเดินทางเราต้องใช้โทรศัพท์มือถือทั้งในการนำทางผ่านแอปแผนที่ ใช้เรียกรถ ดูข้อมูลเส้นทางรถไฟหรือรถบัส รวมถึงค้นหาข้อมูลท่องเที่ยวแบบเรียลไทม์ เมื่อเดินทางไปจีนซึ่งผู้คนส่วนใหญ่พูดภาษาจีน การใช้แอปแปลภาษาจึงสำคัญมากเพื่อให้สื่อสารได้อย่างถูกต้อง และยิ่งต้องใช้มือถือบ่อยขึ้นตลอดทั้งวัน เช่น การจ่ายเงินผ่านมือถือ การเช็กอินที่สถานที่ท่องเที่ยว หรือการค้นหาเส้นทาง ทำให้ Power Bank กลายเป็นอุปกรณ์คู่ใจของนักเดินทาง แต่หลายคนอาจยังไม่รู้ว่า สนามบินจีนเข้มงวดเรื่อง Power Bank มากเป็นพิเศษ หากพาวเวอร์แบงก์ไม่มีสัญลักษณ์รับรองมาตรฐาน CCC / 3C หรือไม่ตรงตาม กฎพาวเวอร์แบงก์จีน ก็มีโอกาสถูกยึดทันที การเตรียม Power Bank ให้ถูกต้องก่อนเดินทางจึงเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดสำหรับนักท่องเที่ยวที่กำลังวางแผนไปจีน

เที่ยวจีนต้องรู้ กฎพาวเวอร์แบงก์จีน

วันนี้ Allianz Travel ได้สรุปกฎเกี่ยวกับพาวเวอร์แบงก์ (Power Bank) ของจีน (CCC หรือ 3C Power Bank Rule) ที่เราต้องรู้ก่อนเดินทางไปจีน มีอะไรบ้าง ไปดูกันเลยค่ะ

ทำความเข้าใจ “ กฎพาวเวอร์แบงก์จีน 3C/CCC ” – ทำไมสนามบินจีนยึดเยอะมาก?

ตั้งแต่วันที่ 28 มิถุนายน 2025 ทางการจีนเริ่ม เข้มงวดจริงจัง กับพาวเวอร์แบงก์ที่ไม่มีเครื่องหมาย CCC (China Compulsory Certification) โดยเฉพาะบน เที่ยวบินภายในจีน ซึ่งเป็นผลมาจากกรณีไฟไหม้แบตเตอรี่บนเครื่องบินที่เพิ่มขึ้น โดยกฎระบุไว้อย่างชัดเจนว่า:

❌ พาวเวอร์แบงก์ใดก็ตามที่ “ไม่มีสัญลักษณ์ CCC / 3C” จะถูกห้ามนำขึ้นเครื่อง

วิธีตรวจเช็กพาวเวอร์แบงก์ (Power Bank)ให้ผ่านด่านสนามบินจีน

ก่อนเดินทางไปจีน หรือก่อนเช็กอินที่จีน คุณควรตรวจสอบ Power Bank ของคุณตามรายละเอียด 3 ข้อด้านล่างนี้ให้ครบ:

  1. ต้องมีสัญลักษณ์ “CCC” พิมพ์บนตัวเครื่อง
    สัญลักษณ์จะมีหน้าตาเป็นตัว “CCC” อยู่ในวงรี อย่าสับสนกับสัญลักษณ์ CE ซึ่งสัญลักษณ์ ​CE ไม่ถือว่าใช้แทนกันได้ และจะโดนยึด
สัญลักษณ์ CCC บน Power Bank ตามกฎพาวเวอร์แบงก์ของจีน
  1. ฉลากต้องชัดเจน ไม่ลอก ไม่ซีด
    พาวเวอร์แบงก์ที่ตัวสัญลักษณ์ไม่ชัดเจน มีความลบเลือน หรือสัญลักษณ์เป็นสติ๊กเกอร์แปะ มีความเสี่ยงที่จะโดนยึดเช่นกัน
  2. ต้องระบุความจุของแบตไว้ชัดเจน
    ความจุของแบตต้อง ไม่เกิน 100Wh (≈ 27,000mAh) จึงจะได้รับอนุญาตให้สามารถพกขึ้นเครื่องได้
Power Bank ไปจีน ที่มีสัญลักษณ์ CCC หรือ 3C
ตัวอย่าง Power Bank ไปจีน ที่มีสัญลักษณ์ CCC หรือ 3C
Power Bank สำหรับไปจีน พร้อมสัญลักษณ์ CCC

กฎบอกว่าบังคับใช้เฉพาะไฟลต์ที่บินภายในประเทศ แต่ในความเป็นจริงสนามบินทำการยึดพาวเวอร์แบงก์ที่ไม่ตรงตามกฎกับไฟลต์ที่บินต่างประเทศด้วยเช่นกัน

ทางการจีนประกาศว่ากฎ CCC / 3C ใช้เฉพาะ เที่ยวบินภายในประเทศจีน (domestic flights) แต่รายงานจากนักท่องเที่ยวจำนวนมากใน Beijing, Shanghai, Guangzhou บอกตรงกันว่า แม้เป็นเที่ยวบินต่างประเทศ นักท่องเที่ยวก็ถูกตรวจและยึด! เช่นเดียวกัน หากพาวเวอร์แบงก์ (Power Bank) ไม่เป็นไปตามกฎพาวเวอร์แบงก์ (Power Bank) ของจีน

กรณีที่ทำให้นักท่องเที่ยวถูกยึด Power Bank บ่อย คือการต่อเครื่องภายในประเทศจีน

ตัวอย่าง: การเดินทางไป New York -> Shanghai -> Khunming
ตอนต่อเครื่องจาก Shanghai ไป Khunming เจ้าหน้าที่จะทำการตรวจสอบใหม่อีกครั้ง หากพาวเวอร์แบงก์ (Power Bank) ของคุณไม่มีสัญลักษณ์ CCC เจ้าหน้าที่จำทำการยึดพาวเวอร์แบงก์ (Power Bank) ของคุณทันที

เพื่อความแน่ใจและปลอดภัย เราแนะนำให้คุณคิดว่า กฎ Power Bank ไปจีน กฎนี้ ใช้กับทุกเที่ยวบินที่ออกจากสนามบินจีน ค่ะ

สามารถซื้อพาวเวอร์แบงก์แบบผ่านมาตรฐาน CCC ได้ที่ไหน?

1. ซื้อในจีน

หลังลงเครื่องที่จีน คุณสามารถซื้อพาวเวอร์แบงก์ที่ผ่านมาตรฐานได้จาก:

  • ร้านสะดวกซื้อในสนามบิน
  • Xiaomi / Huawei / OPPO Store
  • ร้านอิเล็กทรอนิกส์ทั่วไป

พาวเวอร์แบงก์ที่ขายในจีนจะมี สัญลักษณ์ CCC / 3C ทุกชิ้น สามารถใช้งานได้ตลอดทริป

2. ซื้อผ่านช่องทางออนไลน์ก่อนเดินทาง แต่ต้องตรวจสอบให้ดี

หากคุณทำการสั่งซื้อ Power Bank ที่มีสัญลักษณ์ CCC ผ่านช่องทางออนไลน์ คุณต้องทำการตรวจสอบเพื่อความแน่ใจตามรายละเอียดดังนี้

  • ตรวจสอบว่าสัญลักษณ์ CCC ว่ามีการถูกพิมพ์ไว้บนเครื่องหรือไม่?
  • หากไม่แน่ใจให้ทำการติดต่อผู้ขายเพื่อยืนยันว่า Power Bank ที่คุณซื้อเป็นรุ่นที่เป็นไปตามกฎพาวเวอร์แบงก์ (Power Bank) ของจีน

FAQ: คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับ กฎพาวเวอร์แบงก์จีน CCC / 3C

คำถามที่ 1: หากพาวเวอร์แบงก์ (Power Bank) โดนยึด จะได้คืนไหม?

คำตอบ: ส่วนใหญ่ “ไม่ได้คืน” ควรเตรียมพาวเวอร์แบงก์ (Power Bank) รุ่นที่มีสัญลักษณ์ CCC / 3C จะปลอดภัยที่สุด

คำถามที่ 2: ใส่พาวเวอร์แบงก์ (Power Bank) ในกระเป๋าเดินทางที่โหลดไว้ใต้เครื่องบินได้ไหม?

คำตอบ: “ไม่ได้” ต้องใส่ในกระเป๋าที่ถือขึ้นเครื่องบินเท่านั้น

คำถามที่ 3: มือถือ โน้ตบุ๊ก กล้อง อุปกรณ์เหล่านี้ต้องมีสัญลักษณ์ CCC / 3C ไหม?

คำตอบ: “ไม่ต้อง” กฎนี้ใช้สำหรับ “พาวเวอร์แบงก์ (Power Bank)” เท่านั้น

คำถามที่ 4: ถ้าไม่มีพาวเวอร์แบงก์ (Power Bank) ที่มีสัญลักษณ์ CCC / 3C จะยังสามารถใช้พาวเวอร์แบงก์ในจีนได้ไหม (นอกสนามบิน)?

คำตอบ: “ได้” สามารถใช้ชาร์จที่โรงแรม ร้านกาแฟ ฯลฯ กฎนี้ใช้เฉพาะเวลาที่เดินทางโดยเครื่องบินเท่านั้น

คำถามที่ 5: หากไม่สามารถหาพาวเวอร์แบงก์ (Power Bank) ที่มีสัญลักษณ์ CCC / 3C ได้ทัน ต้องทำอย่างไร?

คำตอบ: สามารถพกปลั๊กชาร์จติดตัวระหว่างเดินทาง หรือใช้บริการ “เช่ายืมพาวเวอร์แบงก์” ที่มีให้บริการทั่วประเทศจีนได้

คำถามที่ 6: กฎนี้ใช้กับไฟลต์ที่เดินทางไปฮ่องกง หรือ มาเก๊าไหม?

คำตอบ: “ไม่ได้ใช้” กฎพาวเวอร์แบงก์ (Power Bank) จีน เป็นกฎที่ใช้เฉพาะที่จีนแผ่นดินใหญ่เท่านั้น

นอกจากพาวเวอร์แบงก์ (Power Bank) ที่ต้องเตรียมตามกฎพาวเวอร์แบงค์จีนแล้ว การเดินทางไปประเทศจีนยังต้องเตรียมสิ่งจำเป็นอื่น ๆ เช่น แอปพลิเคชันที่ใช้ในจีน มารยาทพื้นฐาน และภาษาจีนเบื้องต้นที่ควรรู้ คุณสามารถดูรายละเอียดสิ่งสำคัญที่ควรเตรียมตัวให้พร้อม ก่อนเดินทางไปประเทศจีน ได้ที่บทความนี้ 8 สิ่งสำคัญที่ควรเตรียมให้พร้อม ก่อนเดินทางไปจีน เพื่อให้การเดินทางของคุณราบรื่นและปลอดภัย

ก่อนออกเดินทางไปจีน ควรเลือก พาวเวอร์แบงก์ (Power Bank) ที่เป็นไปตามกฎพาวเวอร์แบงก์ของจีน เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาที่อาจทำให้การเดินทางของคุณต้องสะดุด และทุกครั้งที่เดินทางไปต่างประเทศ สิ่งสำคัญที่ไม่ควรลืมพกติดตัวไว้เสมอนั่นก็คือ ประกันเดินทาง ที่ช่วยให้คุณเดินทางได้อย่างอุ่นใจ ไร้กังวล เพียงจ่ายเงินไม่กี่บาท คุณก็จะได้ความคุ้มครองมากมายที่ครอบคลุมเกือบทุกเหตุการณ์ไม่คาดฝันที่อาจเกิดขึ้นระหว่างเดินทาง* เช่น ความเจ็บป่วย การเกิดอุบัติเหตุ กระเป๋าหาย ไฟลต์ดีเลย์ เป็นต้น ให้คุณเที่ยวจีนได้อย่างมั่นใจและไร้กังวล! Allianz Travel ขอแนะนำ ประกันการเดินทางต่างประเทศ Dance Moves ที่จะช่วยให้ทริป การเดินทางของคุณราบรื่น ไม่มีสะดุด อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับความคุ้มครองได้ ที่นี่

*เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทกำหนด

ขอบคุณข้อมูลจาก: scmp.com, ourwander.com, cmatesting.org

เลือกแผนประกันเดินทางที่ใช่สำหรับคุณ ประกันการเดินทาง Dance Moves จาก Allianz Travel

วิธีทำใบขับขี่สากลออนไลน์ ผ่านแอปเป๋าตัง

วิธีทำใบขับขี่สากล ออนไลน์ ผ่านแอปเป๋าตัง

ข่าวดีสำหรับเพื่อน ๆ ที่มีแพลนขับรถเที่ยวในต่างประเทศ แล้วต้องเตรียมตัวไปทำใบขับขี่สากล วันนี้แอปพลิเคชัน เป๋าตัง ได้ร่วมมือกับ กรมขนส่งทางบก ให้เราสามารถ ทำใบขับขี่สากลออนไลน์ ผ่านแอปพลิเคชัน เป๋าตัง ได้แล้ววันนี้ ซึ่งขั้นตอนในการ ทำใบขับขี่สากล ออนไลน์ ผ่านแอป เป๋าตัง สามารถทำได้ง่าย ๆ สะดวก ขั้นตอนไม่ยุ่งยาก ใช้เวลาไม่กี่นาทีก็สามารถนั่งรอใบขับขี่สากลที่บ้านได้เลยค่ะ วันนี้ Allianz Travel มีขั้นตอนการขอใบขับขี่สากล ออนไลน์ ผ่านเป๋าตัง มาฝากเพื่อน ๆ มีเอกสารที่ต้องเตรียม เงื่อนไข และขั้นตอนในการขออย่างไรบ้าง ไปดูกันเลยค่ะ 🙂

เอกสารที่ต้องเตรียมสำหรับ ทำใบขับขี่สากล ออนไลน์ ผ่านแอป เป๋าตัง

1. รูปหน้าตรง ครึ่งตัว ที่ถ่ายไม่เกิน 6 เดือน แต่งกายสุภาพ สวมแว่นสายตาได้
2. ขนาดไฟล์ไม่เกิน 5 MB
3. พื้นหลังของรูปเป็นสีขาว ไม่มีเงาตกกระทบ

คำแนะนำ:
– ต้องเห็นตา จมูก ปาก ชัดเจน และไม่เห็นฟัน
– พยายามลืมตาให้กว้าง ไม่ขมวดคิ้ว
– ไม่ใช้รูปภาพที่ถ่ายด้วยกล้องหน้า (เซลฟี่)
– ไม่สวมหมวก แว่นตาสีเข้ม ผ้าคลุมใบหน้าหรือผ้าโพกศรีษะ ยกเว้นผู้มีความจำเป็นทางศาสนา

เงื่อนไขการทำใบขับขี่สากล ออนไลน์ ผ่านแอป เป๋าตัง

1. หนังสือเดินทางมีอายุเหลือไม่น้อยกว่า 6 เดือน
2. ใบอนุญาตขับรถมีอายุเหลือไม่น้อยกว่า 3 เดือน และไม่เป็นใบอนุญาตขับรถส่วนบุคคลชั่วคราว

ขั้นตอนการทำใบขับขี่สากล ออนไลน์ ผ่านแอป เป๋าตัง

1. เปิดแอปพลิเคชัน เป๋าตัง (เวอร์ชันอัปเดตล่าสุด)
2. เลือกเมนูบริการ ตรงแถบเมนูด้านล่างของหน้าจอแอป

ทำใบขับขี่สากลออนไลน์ ผ่านแอปเป๋าตัง - เลือกเมนูบริการ

3. แอปแสดงหน้าบริการ หลังจากนั้น เลือกหมวดหมู่ขับขี่และท่องเที่ยว และเลือกเมนูทำใบขับขี่สากล

ทำใบขับขี่สากลออนไลน์ ผ่านแอปเป๋าตัง - เลือกเมนูทำใบขับขี่สากล

4. ในกรณีที่ใช้บริการครั้งแรก แอปจะแสดงหน้าข้อตกลงและเงื่อนไขการใช้บริการออนไลน์ของกรมการขนส่งทางบกบนแอปพลิเคชันเป๋าตัง หลังจากนั้นเลือกยอมรับข้อตกลงและเงื่อนไขการใช้บริการ และกดปุ่มตกลง แอปจะแสดงหน้าขอรับใบอนุญาตขับรถระหว่างประเทศ พร้อมกับข้อมูลเอกสารที่ต้องเตรียม และเงื่อนไขเอกสาร หลังจากนั้นกดถัดไป

ทำใบขับขี่สากลออนไลน์ ผ่านแอปเป๋าตัง - หน้าข้อตกลงและเงื่อนไข
ทำใบขับขี่สากลออนไลน์ ผ่านแอปเป๋าตัง - หน้าขอรับใบอนุญาตขับรถระหว่างประเทศ

5. แอปแสดงหน้าเลือกประเภทใบอนุญาตขับรถระหว่างประเทศ ขั้นตอนนี้ให้เราเลือกประเภทใบอนุญาตขับรถระหว่างประเทศให้ตรงกับประเทศที่เราเดินทางไป โดยตรวจสอบรายชื่อประเทศที่อยู่ในแต่ละอนุสัญญา โดยกดเลือก ดูรายชื่อประเทศ ที่อยู่ในแต่ละอนุสัญญา โดยมีรายละเอียดดังนี้

ทำใบขับขี่สากลออนไลน์ ผ่านแอปเป๋าตัง - หน้าเลือกประเภทใบอนุญาตขับรถระหว่างประเทศ

5.1 อนุสัญญาเจนีวา 1949 (ประเภท 1 ปี 102 ประเทศ)
ใบอนุญาตมีอายุ: 1 ปี
ประเภทของรถ: รถยนต์และรถจักรยานยนต์
ค่าบริการ: 505 บาท
จำนวนประเทศ: 102 ประเทศ

5.2 อนุสัญญาเวียนนา 1968 (ประเภทไม่เกิน 3 ปี 91 ประเทศ)
ใบอนุญาตมีอายุ: ไม่เกิน3 ปี
ประเภทของรถ: รถยนต์
ค่าบริการ: 505 บาท
จำนวนประเทศ: 91 ประเทศ

หลังจากเลือกประเภทใบอนุญาตขับรถระหว่างประเทศเรียบร้อยแล้ว ให้กดถัดไปค่ะ

หมายเหตุ: หากประเทศที่ต้องการไปไม่อยู่ในอนุสัญญาเดียวกัน กรุณาขอรับใบอนุญาตขับรถระหว่างประเทศอนุสัญญาอื่นเพิ่มเติม

6. แอปแสดงหน้าข้อมูลบัตรประชาชน กรอกข้อมูลรหัสหลังบัตรประชาชน 12 หลัก  หลังจากนั้นกดถัดไป

ทำใบขับขี่สากลออนไลน์ ผ่านแอปเป๋าตัง - หน้ากรอกข้อมูลส่วนตัว


7. แอปแสดงหน้าการจัดการข้อมูลส่วนบุคคลพร้อมรายละเอียดเกี่ยวกับการเก็บข้อมูล หลังจากนั้นเลือกยอมรับ และกดปุ่มยืนยัน แอปจะแสดงหน้าสแกนใบหน้า เพื่อทำการยืนยันตัวตน กดสแกนใบหน้า

ทำใบขับขี่สากลออนไลน์ ผ่านแอปเป๋าตัง - หน้ายอมรับการจัดการข้อมูลส่วนบุคคล
ทำใบขับขี่สากลออนไลน์ ผ่านแอปเป๋าตัง - หน้าสแกนใบหน้า


8. หลังจากสแกนใบหน้า แอปจะแสดงหน้าอัปโหลดรูปภาพติดใบอนุญาตขับรถระหว่างประเทศ โดยรูปภาพที่ใช้ต้องเป็นไปตามรายละเอียดที่ระบุไว้ ตามรายละเอียดในหัวข้อ เอกสารที่ต้องเตรียมสำหรับการทำใบขับขี่สากล ออนไลน์ ผ่านแอป เป๋าตัง ข้างต้นค่ะ (แนะนำให้เตรียมรูปไว้ให้เรียบร้อยก่อนสมัคร อัปโหลดรูปได้ไม่เกิน 5 รอบ) หลังจากนั้นทำการอัปโหลดรูปภาพที่เราเตรียมไว้ และกดถัดไปค่ะ

ทำใบขับขี่สากลออนไลน์ ผ่านแอปเป๋าตัง - หน้าอัปโหลดรูปภาพติดใบอนุญาตขับรถระหว่างประเทศ
ทำใบขับขี่สากลออนไลน์ ผ่านแอปเป๋าตัง - หน้าอัปโหลดรูปภาพติดใบอนุญาตขับรถระหว่างประเทศสำเร็จ

9. แอปแสดงหน้าที่อยู่สำหรับจัดส่ง กรอกข้อมูลที่อยู่สำหรับจัดส่งเอกสารใบอนุญาตขับรถระหว่างประเทศ เบอร์โทรศัพท์ และอีเมลสำหรับจัดส่งใบเสร็จ (ถ้ามี) หลังจากนั้นกดถัดไป

ทำใบขับขี่สากลออนไลน์ ผ่านแอปเป๋าตัง - หน้ากรอกข้อมูลที่อยู่สำหรับจัดส่ง


10. แอปแสดงหน้าตรวจสอบข้อมูล ทำการตรวจสอบข้อมูลรายละเอียดการขอรับใบอนุญาตขับรถระหว่างประเทศ ที่อยู่สำหรับการจัดส่ง และรูปภาพติดใบอนุญาตอีกครั้ง หลังจากตรวจสอบเสร็จเรียบร้อยแล้วให้กดถัดไปค่ะ

ทำใบขับขี่สากลออนไลน์ ผ่านแอปเป๋าตัง - หน้าตรวจสอบข้อมูลรายละเอียดการขอใบอนุญาตขับรถระหว่างประเทศ

11. ทำการชำระเงิน โดยราคาค่าบริการในการขอใบอนุญาตขับรถระหว่างประเทศ รวมค่าจัดส่งอยู่ที่ 565 บาท ชำระเงินผ่านแอป เป๋าตัง หลังจากนั้นรอรับ ใบอนุญาตขับรถระหว่างประเทศ หรือ ใบขับขี่สากล ที่จะถูกจัดส่งผ่านทางไปรษณีย์มาที่บ้านได้เลยค่ะ : )

ทำใบขับขี่สากลออนไลน์ ผ่านแอปเป๋าตัง - หน้าชำระเงิน

การทำใบขับขี่สากลออนไลน์ ทำให้หลาย ๆ คน สะดวกมากขึ้น ลดระยะเวลาในการเตรียมเอกสารต่าง ๆ การจองคิว และการเดินทางไปทำใบขับขี่สากล เพียงไม่กี่ขั้นตอน ในระยะเวลาไม่กี่นาที เราก็สามารถทำใบขับขี่สากล และรอรับที่บ้านได้เลย เพียงเท่านี้เราก็สามารถมีใบอนุญาตขับรถระหว่างประเทศ หรือ ใบขับขี่สากล เพื่อขับรถท่องเที่ยวในต่างประเทศได้แล้ว แต่การเดินทางโดยการขับรถท่องเที่ยวในต่างประเทศ เราจะต้องศึกษากฎจราจรของประเทศนั้น ๆ เพราะแต่ละประเทศจะมีรูปแบบที่แตกต่างกันออกไป และที่สำคัญสิ่งที่จะขาดไม่ได้ก็คือ ประกันการเดินทางต่างประเทศ สิ่งสำคัญที่ช่วยให้คุณเดินทางได้อย่างอุ่นใจ ไร้กังวล เพียงจ่ายเงินไม่กี่บาท คุณก็จะได้รับความคุ้มครองมากมายที่ครอบคลุมเกือบทุกเหตุการณ์ไม่คาดฝันที่อาจเกิดขึ้นระหว่างเดินทาง* เช่น ความเจ็บป่วย การเกิดอุบัติเหตุ กระเป๋าหาย เที่ยวบินดีเลย์ เป็นต้น Allianz Travel ขอแนะนำ ประกันการเดินทางต่างประเทศ Dance Moves ที่จะช่วยให้ทริป การเดินทางของคุณราบรื่น ไม่มีสะดุด อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับความคุ้มครองได้ ที่นี่

*เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทกำหนด

ขอบคุณข้อมูลจาก: dlt.go.th (กรมการขนส่งทางบก), safedrivedlt.com (สำนักสวัสดิภาพการขนส่งทางบก (สนภ.) กรมการขนส่งทางบก), แอปพลิเคชั่นเป๋าตัง

เลือกแผนประกันเดินทางที่ใช่สำหรับคุณ ประกันการเดินทาง Dance Moves จาก Allianz Travel

9 สายพันธุ์ซากุระยอดนิยม ความงดงามที่แตกต่างในญี่ปุ่น

9 สายพันธุ์ซากุระ ยอดนิยม ความงดงามที่แตกต่างในญี่ปุ่น

ซากุระเป็นสัญลักษณ์ความงดงามของประเทศญี่ปุ่นในช่วงฤดูใบไม้ผลิ เป็นช่วงเวลาที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวจำนวนมากจากทั่วโลกมาท่องเที่ยวชมความงามของดอกซากุระที่บานสะพรั่งในทั่วทุกพื้นที่ของญี่ปุ่นในทุก ๆ ปี ช่วงเวลาที่ซากุระพันธุ์หลัก ๆ เริ่มบานจะเป็นช่วงเดือนกุมภาพันธุ์ – ต้นเดือนพฤษภาคม โดยช่วงเวลาที่ดอกซากุระบานจะแตกต่างกันออกไปขึ้นอยู่กับ สายพันธุ์ซากุระ และสภาพภูมิประเทศ และสภาพภูมิอากาศของแต่ละปี บางปีถ้าอากาศหนาวเป็นระยะเวลานาน ก็จะทำให้ดอกซากุระบานช้ากว่าปกติ วันนี้ Allianz Travel จะพาเพื่อน ๆ ไปทำความรู้จักกับ 9 สายพันธุ์ซากุระ ที่เป็นที่นิยมในประเทศญี่ปุ่น โดยแต่ละสายพันธุ์มีความแตกต่างและมีความสวยงามที่เป็นเอกลักษณ์ของตัวเอง มีสายพันธุ์อะไรบ้าง ไปดูกันเลยค่ะ : )

1. โซเมโยชิโนะ (Somei Yoshino) – ซากุระยอดนิยมที่สุด

สายพันธุ์ซากุระ: โซเมโยชิโนะ (Somei Yoshino)

ลักษณะ:

ดอกสีชมพูอ่อนเกือบขาว บานเป็นช่อใหญ่บนกิ่งที่เปลือยเปล่า มีกลีบดอก 5 กลีบ มักออกดอกก่อนที่ใบจะงอก

ช่วงบาน:

ปลายเดือนมีนาคม – ต้นเดือนเมษายน

แหล่งกำเนิด:

พัฒนาจากการผสมพันธุ์โดยนักพฤกษศาสตร์ในสมัยเอโดะ

ความหมายทางวัฒนธรรม:

เป็นสายพันธุ์ที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในญี่ปุ่น และมักใช้เป็นตัวแทนของฤดูใบไม้ผลิ

สถานที่แนะนำ:

  • สวนอุเอโนะ (Ueno Park), โตเกียว
  • แม่น้ำเมกุโระ (Meguro River), โตเกียว
  • ปราสาทฮิโรซากิ (Hirosaki Castle), อาโอโมริ

2. ยามะซากุระ (Yamazakura Zakura) – ซากุระป่าธรรมชาติ

สายพันธุ์ซากุระ: ยามะซากุระ (Yamazakura Zakura)

ลักษณะ:

ดอกสีชมพูอ่อนถึงขาว ใบอ่อนออกสีแดง บานพร้อมกับการแตกใบ

ช่วงบาน:

ต้นเดือนเมษายน – กลางเดือนเมษายน

แหล่งกำเนิด:

พบมากในป่าภูเขาของญี่ปุ่น เป็นซากุระสายพันธุ์ดั้งเดิม

ความหมายทางวัฒนธรรม:

เป็นสัญลักษณ์ของความเป็นธรรมชาติและความสงบ

สถานที่แนะนำ:

ภูเขาโยชิโนะ (Mount Yoshino), นารา – ซากุระป่า 30,000 ต้นที่ขึ้นเองตามธรรมชาติ

3. ชิดาเระซากุระ (Shidarezakura) – ซากุระกิ่ง

สายพันธุ์ซากุระ: ชิดาเระซากุระ (Shidarezakura)

ลักษณะ:

เป็นกิ่งโน้มต่ำ ห้อยเป็นระย้า ดอกสีชมพูสดใส หรือสีขาว มีกลีบดอก 5-20 กลีบ

ช่วงบาน:

ปลายเดือนมีนาคม – กลางเดือนเมษายน

แหล่งกำเนิด:

พบในหลายพื้นที่ของญี่ปุ่น โดยเฉพาะในวัดและสวน

ความหมายทางวัฒนธรรม:

มักถูกใช้เป็นต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์ในศาลเจ้า

สถานที่แนะนำ:

  • มิฮารุ ทากิซากุระ (Miharu Takizakura), ฟุกุชิมะ – ซากุระอายุกว่า 1,000 ปี
  • สวนมารุยามะ (Maruyama Park), เกียวโต

4. คาวาซุซากุระ (Kawazu Zakura) – ซากุระบานเร็ว

สายพันธุ์ซากุระ: คาวาซุซากุระ (Kawazu Zakura)

ลักษณะ:

ดอกสีชมพูสด ดอกใหญ่กว่าซากุระทั่วไป และมีกลีบดอก 5 กลีบ

ช่วงบาน:

เดือนกุมภาพันธ์ – เดือนมีนาคม

แหล่งกำเนิด:

พบครั้งแรกที่เมืองคาวาซุ จังหวัดชิซุโอกะ

สถานที่แนะนำ:

เทศกาลซากุระคาวาซุ (Kawazu Sakura Festival), ชิซุโอกะ

5. อิโจวซากุระ (Ichiyou Zakura) – ซากุระดอกซ้อน

สายพันธุ์ซากุระ: อิโจวซากุระ (Ichiyou Zakura)

ลักษณะ:

ดอกสีชมพูอ่อน กลีบดอกซ้อน 20-40 กลีบ ลักษณะดอกแน่นฟูและมักมีขนาดใหญ่กว่าซากุระทั่วไป

ช่วงบาน:

กลางเดือนเมษายน – ปลายเดือนเมษายน

แหล่งกำเนิด:

พบมากในสวนสาธารณะของญี่ปุ่น

ความหมายทางวัฒนธรรม:

เป็นสัญลักษณ์ของความสง่างามและความมั่นคง

สถานที่แนะนำ:

สวนชินจูกุเกียวเอ็น (Shinjuku Gyoen), โตเกียว

6. ฟุเก็นซากุระ (Fugenzo Zakura) – ซากุระสีชมพูอมม่วง

สายพันธุ์ซากุระ: ฟุเก็นซากุระ (Fugenzo Zakura)

ลักษณะ:

ดอกซ้อนสีชมพูอมม่วง มีกลีบดอก 30-40 กลีบ

ช่วงบาน:

กลางเดือนเมษายน – ปลายเดือนเมษายน

แหล่งกำเนิด:

พบมากในสวนพฤกษศาสตร์และวัด

สถานที่แนะนำ:

สวนอิมพีเรียล (Imperial Palace East Gardens), โตเกียว

7. คิคุซากุระ (Kikuzakura Zakura) – ซากุระดอกซ้อนคล้ายเบญจมาศ

คิคุซากุระ (Kikuzakura Zakura)

ลักษณะ:

ดอกซ้อนขนาดใหญ่สีขาว-ชมพู มีกลีบดอกมากถึง 100 กลีบ

ช่วงบาน:

ปลายเดือนเมษายน – เดือนพฤษภาคม

สถานที่แนะนำ:

สวนซากุระโมะริโอกะ (Morioka Sakura Park), อิวาเตะ

8. อุคง (Ukon Zakura) – ซากุระสีเหลือง

อุคง (Ukon Zakura)

ลักษณะ:

กลีบดอกสีเหลืองอ่อนที่หาได้ยาก มีกลีบดอกซ้อนกันหนาแน่น

ช่วงบาน:

กลางเดือนเมษายน – ปลายเดือนเมษายน

สถานที่แนะนำ:

สวนชินจูกุเกียวเอ็น (Shinjuku Gyoen), โตเกียว

9. โชเง็ทสึซากุระ (Shōgetsu Zakura) – ซากุระสีขาวบริสุทธิ์

โชเกซากุระ (Shōgetsu Zakura)

ลักษณะ:

ดอกใหญ่สีขาวอมชมพูเล็กน้อย ซ้อนกัน 20-30 กลีบ

ช่วงบาน:

ปลายเดือนเมษายน – เดือนพฤษภาคม

สถานที่แนะนำ:

สวนพฤกษศาสตร์เกียวโต (Kyoto Botanical Gardens), เกียวโต

หากคุณกำลังวางแผน เที่ยวชมซากุระในญี่ปุ่น ควรศึกษาช่วงเวลาบานของพันธุ์ที่ต้องการชม รวมถึงสถานที่ยอดนิยม เช่น โตเกียว, เกียวโต และโอซาก้า เป็นต้น เพื่อให้คุณสามารถสัมผัสประสบการณ์การชมซากุระที่ดีที่สุดได้! เพื่อน ๆ สามารถติดตามข้อมูลการพยากรณ์การบานของซากุระในปีนี้ได้ที่: พยากรณ์ซากุระ ญี่ปุ่น 2025 ล่าสุด! และทุกครั้งที่เดินทางออกนอกประเทศ สิ่งที่ควรมีพร้อมติดตัวไว้คือประกันเดินทาง สิ่งสำคัญที่ช่วยให้คุณเดินทางได้อย่างอุ่นใจ ไร้กังวล เพียงจ่ายเงินไม่กี่บาท คุณก็จะได้ความคุ้มครองมากมายที่ครอบคลุมเกือบทุกเหตุการณ์ไม่คาดฝันที่อาจเกิดขึ้นระหว่างเดินทาง* เช่น ความเจ็บป่วย การเกิดอุบัติเหตุ กระเป๋าหาย ไฟลต์ดีเลย์ เป็นต้น Allianz Travel ขอแนะนำ ประกันการเดินทางต่างประเทศ Dance Moves ที่จะช่วยให้ทริป การเดินทางของคุณราบรื่น ไม่มีสะดุด อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับความคุ้มครองได้ ที่นี่

*เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทกำหนด

ขอบคุณข้อมูลจาก: japan.travel: The Different Varieties of Cherry Blossoms in Japan From Light Pink to Radiant Yellow, japan-guide.com: Cherry Tree Varieties

เลือกแผนประกันเดินทางที่ใช่สำหรับคุณ ประกันการเดินทาง Dance Moves จาก Allianz Travel

เที่ยวหน้าหนาวต่างประเทศ ต้องเตรียมอะไรบ้าง

เที่ยวหน้าหนาว ต่างประเทศ ต้องเตรียมอะไรบ้าง

ผู้ที่รักในการท่องเที่ยวที่เลือกไปท่องเที่ยวต่างประเทศในช่วงฤดูหนาวเพราะต้องการสัมผัสอากาศหนาวแบบที่บ้านเราไม่มี และแน่นอน อยากสัมผัสหิมะที่เย็นยะเยือกสักครั้งรวมทั้งเตรียมตัวสำหรับกิจกรรมบนหิมะยกตัวอย่างเช่น การเล่นสกีหรือสโนว์บอร์ด รวมไปถึงผู้ที่ชื่นชอบการผจญภัยในการเดินเขาหรือขึ้นเขาในแถบประเทศที่หนาวเย็นด้วย แน่นอนว่าอากาศที่นั่นต้องแตกต่างจากบ้านเราแน่นอนเพราะบ้านเรามีเพียงฤดูฝน ฤดูร้อนและฤดูร้อนมากเท่านั้น และไม่เคยมีหิมะตกเลยนี่สิ แล้วการเดินทางไป เที่ยวหน้าหนาว ต้องเตรียมอะไรบ้าง เราควรจะเตรียมเสื้อผ้า และอุปกรณ์ที่จำเป็นสำหรับเที่ยวในฤดูหนาวอย่างไรกันดีล่ะ วันนี้ Allianz Travel รวมลิสต์สิ่งของที่จำเป็นที่เราควรจัดเตรียมไปพร้อมกับกระเป๋าเดินทาง สำหรับการท่องเที่ยวในฤดูหนาว เที่ยวหน้าหนาว ต้องเตรียมอะไรบ้าง ไปดูกันเลยค่ะ : )

1. เสื้อผ้า เครื่องแต่งกาย

ก่อนอื่นต้องสำรวจก่อนว่าประเทศที่เราจะไปนั้นอยู่ในฤดูอะไร อุณหภูมิโดยประมาณเท่าไหร่ และนอกจากอากาศที่หนาวเย็นแล้วยังมีหิมะหรือลมฝนร่วมด้วยหรือไม่ เพื่อเตรียมเสื้อผ้าไปให้พร้อมกับทุกสถานการณ์เพราะถ้าป่วยขึ้นมาก็จะทำให้ทริปที่เตรียมไว้สะดุด เที่ยวไม่สนุกไปเลยค่ะ

เที่ยวหน้าหนาว ต้องเตรียมอะไร : เสื้อผ้า เครื่องแต่งกายในฤดูหนาว

ประเทศที่มีอากาศหนาวเย็นระดับเบบี๋ (15-25 องศาเซลเซียส)

อุณหภูมิระดับนี้ก็ใกล้เคียงกับอากาศทางภาคเหนือของประเทศเราในหน้าหนาว ซึ่งอากาศแบบนี้จะอยู่ในช่วงฤดูใบไม้ร่วงของประเทศทางฝั่งยุโรปและประเทศในเอเชียอย่างญี่ปุ่น เกาหลี ก่อนจะเข้าสู่ฤดูหนาว การจัดกระเป๋าก็ไม่ยากเลย

  • ชุดชั้นใน เลือกชุดชั้นในที่ใส่ปกติหรือหนาสักนิดก็ใช้ได้
  • เสื้อผ้า เสื้อเลือกที่สวมใส่สบาย สาว ๆ อาจเลือกเลกกิ้งมาปกป้องเรียวขาจากอากาศเย็นแล้วสวมมินิสเกิร์ตทับส่วนหนุ่ม ๆ ใส่ยีนส์สักตัวก็เอาอยู่
  • เสื้อกันหนาว เลือกเสื้อกันหนาวที่ช่วยกันลมอย่าง เสื้อแจ็คเก็ต หรือเสื้อโค้ทที่ไม่หนามากนักเป็นสไตล์แฟชั่นมาใส่ก็ได้
  • รองเท้า สวมถุงเท้าหนากับรองเท้าหุ้มส้นหรือผ้าใบที่ใส่สบาย
เที่ยวหน้าหนาว ต้องเตรียมอะไร : เสื้อผ้า เครื่องแต่งกาย รองเท้า

ประเทศที่มีอากาศหนาวเย็นระดับประถม (0-15 องศาเซลเซียส)

ยกระดับความหนาวเย็นขึ้นมาอีกนิดหนึ่ง อุณหภูมิขนาดนี้เป็นช่วงฤดูหนาวของต่างประเทศซึ่งหนาวกว่าบ้านเรามาก ยิ่งกับผู้ที่เคยชินกับอากาศ 20 องศาปลาย ๆ ของภาคกลางแล้วล่ะก็อาจป่วยได้ ที่อุณหภูมิขนาดนี้ควรติดผ้าพันคอและเพิ่มความอบอุ่นให้แก่ศีรษะของคุณด้วยหมวกไหมพรม สวมถุงมือไหมพรมเพื่อป้องกันลมช่วยเพิ่มความอบอุ่นให้กับมือของคุณได้เป็นอย่างดี

  • ชุดชั้นใน จุดนี้ควรเลือกชุดชั้นในที่มีความหนาเพื่อช่วยเพิ่มความอบอุ่นให้กับร่างกายแล้วสวมลองจอนทับอีกชั้น
  • เสื้อผ้า แนะนำเป็นเสื้อวูล, เสื้อฮีทเทค หรือเป็นสเวตเตอร์ที่หนาสักนิดมีแขนยาวและปิดคอเพื่อเก็บความร้อนและให้ความอบอุ่น ส่วนท่อนล่างควรสวมลองจอนวูลเพื่อเพิ่มความอบอุ่นให้ขาของคุณ และสวมกางเกงยีนส์หนา ๆ ทับอีกชั้น
  • เสื้อกันหนาว ควรเลือกเสื้อโค้ทที่มีความหนาและมีฮู้ดไว้ป้องกันความหนาวเย็นจากลมหากคุณต้องยืนตากลมนาน ๆ อาจทำให้รู้สึกไม่สบายได้ และเสื้อกันหนาวหรือโค้ทควรมีความยาวเลยสะโพกลงไปยิ่งถ้าได้เสื้อขนเป็ดก็จะดีมาก
  • รองเท้า ควรเตรียมถุงเท้าวูลและรองเท้าบูทไปด้วย
เที่ยวหน้าหนาว ต้องเตรียมอะไร : เสื้อผ้า เครื่องแต่งกาย

ประเทศที่มีอากาศหนาวเย็นระดับมหาวิทยาลัย ( -15 ถึง -1 องศาเซลเซียส)

ความหนาวระดับนี้เป็นระดับที่มีหิมะตกนอกจากความหนาวเย็นแล้วคุณอาจต้องพบกับความชื้นของหิมะด้วย ต้องจัดเตรียมเสื้อผ้าที่สามารถระบายความชื้นได้ดี เก็บความอบอุ่นได้ดีและกันเปียก หากเสื้อโค้ทที่คุณเตรียมไปไม่มีฮู้ดควรเตรียมหมวกไหมพรมหนา ๆ ที่ปิดหูและถุงมือไหมพรมวูล รวมถึงถุงเท้าไหมพรมวูลไปด้วย

  • ชุดชั้นใน เลือกชุดชั้นในที่มีความหนาเพื่อรักษาความอบอุ่นแล้วสวมลองจอนทับอีกชั้นหนึ่ง ควรเลือกแบบที่ระบายความชื้นได้เร็วแล้วสวมไทต์เลกกิ้งหนาและแพนตี้โฮสด้านล่าง
  • เสื้อผ้า สวมแจ็คเกตบาง ๆ หรือเสวตเตอร์ผสมขนสัตว์เพิ่มความอบอุ่นแขนยาวไว้ด้านใน ท่อนล่างใส่ลองจอนวูลที่สามารถระบายความชื้นได้ดีหากคุณต้องเจอกับหิมะสวมยีนห์หนาที่มีเนื้อผ้าสามารถกันลมได้ดีหรือกางเกงผ้าร่มบุด้านในที่สามารถกันเปียกได้ดี
  • เสื้อกันหนาว เสื้อกันหนาวควรเลือกเป็นวูลขนเป็ดและผ้าด้านนอกกันเปียก หากเป็นโค้ทควรเลือกตัวยาว ยาวถึงเขาเลยยิ่งดี มีความหนามาก ๆ แต่แนะนำเป็นเสื้อวูลขนเป็ดที่มีความหนาแน่นมากดีกว่าเพื่อเก็บความอบอุ่นให้กับคุณ และหากคุณมั่นใจว่าต้องเจอหิมะแน่ ๆ ไม่ควรเลือก Down Jacket มาใส่เพราะถึงแม้จะเบาและอบอุ่นแต่โดนความชื้นเข้าไปแจ็คเก็ตจะเปียกและไม่อุ่นอีกต่อไปจ้า
  • รองเท้า ควรเตรียมถุงเท้าวูลและรองเท้าบูทที่ยาวถึงเข่าและสามารถเดินบนหิมะได้ไปด้วย

สำหรับจำนวนนั้นขึ้นอยู่กับระยะเวลาของทริปนี้ด้วยหากไปเพียง 2-3 วันเตรียมเสื้อกันหนาวไปตัวเดียวและชุดชั้นในและเสื้อผ้าตามจำนวนวันและรองเท้าบูทและผ้าใบอย่างละคู่ก็เพียงพอแล้วแต่หากไป 7 วันขึ้นไปควรตระเตรียมเสื้อหนาวไปเผื่ออีกสักหนึ่งตัวหรือไปซื้อเพิ่มที่ประเทศนั้น ๆ ก็ได้คุณจะได้เสื้อที่เหมาะเหม็งกับสภาพอากาศทีเดียวเชียว สำหรับผู้ที่ตั้งใจไปสกีหรือปีนเขาต้องเตรียมอุปกรณ์เซฟตี้แขนขา แว่นกันลมรวมถึงถุงมือที่เหมาะสำหรับปีนเขาและเล่นสกีไปด้วยนะ

2. ครีมบำรุงผิว หรือ ครีมทาผิว ครีมกันแดด ลิปมัน

สิ่งสำคัญที่จำเป็นอีกหนึ่งอย่างที่ต้องใส่ไว้ในลิสต์ เที่ยวหน้าหนาว ต้องเตรียมอะไรบ้าง นั่นก็คือ ครีมทาผิว และลิปมัน ในฤดูหนาว อากาศจะหนาวเย็น ทำให้ผิวหนัง และปากของเราแห้ง แตก ลอก ทำให้ครีมทาผิว และลิปมันเป็นสิ่งสำคัญที่เราควรพกติดตัวไปด้วยค่ะ การเลือกครีมทาผิว ควรเลือกให้เหมาะสมกับสภาพผิวของเรา และเลือกครีมทาผิว หรือ ครีมบำรุงผิว ที่ให้ความชุ่มชื้นกับผิวที่แตกแห้งที่เราต้องพบเจอขณะเดินทางท่ามกลางสภาพอากาศที่หนาวเย็น และอีกหนึ่งไอเท็มที่ขาดไม่ได้นั่นก็คือ ครีมกันแดด ไม่ว่าจะเป็นฤดูไหน ครีมกันแดดเป็นสิ่งสำคัญที่จำเป็นต่อผิวของเรา ซึ่งแดดในฤดูหนาวจะค่อนข้างแรง เพราะฉะนั้นอย่าลืมทาครีมกันแดดทุกครั้งก่อนออกเดินทางกันนะคะ

เที่ยวหน้าหนาว ต้องเตรียมอะไร : ครีมบำรุงผิว ครีมทาผิว

3. ยารักษาโรคประจำตัว และยาสามัญประจำบ้าน

การเดินทางไปในสถานที่ที่มีอากาศหนาว ถ้าเราเตรียมตัวไม่พร้อม หรือใส่เสื้อผ้าที่ให้ความอบอุ่นกับร่างกายไม่เพียงพอ ก็อาจจะทำให้เราต้องเจ็บป่วยได้ เราควรเตรียมยารักษาโรคประจำตัว และยาสามัญประจำบ้าน เช่น ยาลดไข้ ยาแก้หวัด ยาลดน้ำมูก ยาแก้ไอ ยาแก้ปวดหัว และยาแก้แพ้ ติดกระเป๋าไปด้วย เพราะหากเกิดอาการเจ็บป่วยขึ้นมา ยาที่เราเตรียมไปจะช่วยบรรเทาอาการของเราให้ดีขึ้นได้ นอกจากนี้ราคายาในต่างประเทศส่วนใหญ่จะมีราคาแพงกว่าราคายาในประเทศไทย เพราะฉะนั้นเตรียมติดตัวไปด้วยดีที่สุดค่ะ ทริปของเราจะได้ไม่สะดุดค่ะ

*หมายเหตุ: ควรตรวจสอบยาที่เราจะจัดเตรียมไปด้วยว่า มีส่วนประกอบของสารต้องห้ามที่ห้ามนำเข้าไปในประเทศจุดหมายปลายททางหรือไม่

เที่ยวหน้าหนาว ต้องเตรียมอะไร : ยารักษาโรคประจำตัว และยาสามัญประจำบ้าน

4. อุปกรณ์กล้อง แบตเตอรี่สำรอง หรือ พาวเวอร์แบงค์ (Power Bank)

หากถามว่า เที่ยวหน้าหนาว ต้องเตรียมอะไร สิ่งที่เราต้องเตรียมไปและขาดไม่ได้ในการเดินทางไปต่างประเทศ นั่นก็คือ กล้อง และแบตเตอรี่สำรอง หรือ พาวเวอร์แบงค์ สำหรับชาร์จโทรศัพท์มือถือ เพราะโทรศัพท์มือถือเป็นสิ่งสำคัญสำหรับการเดินทาง และเราต้องใช้มือถือตลอดเวลาในการเดินทาง ไม่ว่าจะเป็นการถ่ายรูป ดูแผนที่ ดูข้อมูลสถานที่ท่องเที่ยวต่าง ๆ หาข้อมูลร้านอาหาร และข้อมูลต่าง ๆ เพราะฉะนั้นเราต้องเตรียมแบตเตอรี่สำรอง หรือพาวเวอร์แบงค์ติดตัวไปด้วย และการไปเที่ยวต่างประเทศเราก็อยากได้ภาพสวย ๆ เพื่อเก็บไว้เป็นความทรงจำ กล้องจึงเป็นอีกหนึ่งอุปกรณ์ที่จำเป็นสำหรับใช้เก็บภาพความประทับใจตามสถานที่ต่าง ๆ รูปถ่ายเป็นเหมือนสิ่งที่ทำให้เรานึกถึงเหตุการณ์และความประทับใจเหล่านั้นได้เป็นอย่างดีค่ะ

เที่ยวหน้าหนาว ต้องเตรียมอะไร : แบตเตอรี่สำรอง พาวเวอร์แบงค์ (Power Bank)

5. หนังสือเดินทาง (Passport)

หนังสือเดินทาง (Passport) เป็นสิ่งจำเป็นที่ต้องพกติดตัวไปด้วย ในการเดินทางไปต่างประเทศ เปรียบเสมือนเป็นบัตรประจำตัวประชาชนสากลเพื่อใช้สำหรับระบุตัวตนของเราระหว่างที่อยู่ในต่างประเทศ ก่อนการเดินทางต้องตรวจสอบวันหมดอายุของหนังสือเดินทางให้ดี เพราะในการเดินทางไปต่างประเทศหนังสือเดินทางของเราควรมีอายุมากกว่า 180 วัน นับจากวันที่เดินทางออกนอกประเทศไทย เพื่อความแน่ใจหากหนังสือเดินทางของใกล้หมดอายุแล้ว ควรไปดำเนินการต่ออายุหนังสือเดินทางก่อนวันเดินทาง ซึ่งเราสามารถทำการจองคิวผ่านระบบจองคิวเพื่อขอทำหนังสือเดินทาง ของกรมการกงสุล กระทรวงการต่างประเทศ ผ่านออนไลน์ได้ที่นี่ค่ะ: ระบบจองคิวเพื่อขอทำหนังสือเดินทาง

เที่ยวหน้าหนาว ต้องเตรียมอะไร : หนังสือเดินทาง (Passport)

6. ประกันการเดินทางต่างประเทศ

การเดินทางไปต่างประเทศทุกครั้ง สิ่งที่เราควรมีติดตัวไปด้วยเสมอก็คือ ประกันการเดินทางต่างประเทศ เพราะระหว่างการเดินทางอาจเกิดเหตุการณ์ไม่คาดคิดเกิดขึ้นได้เสมอ ประกันการเดินทางเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยเราเมื่อเกิดเหตุฉุกเฉิน ไม่ว่าจะเป็นการเจ็บป่วย หรือเกิดอุบัติเหตุระหว่างการเดินทาง กระเป๋าเดินทางหาย เที่ยวบินล่าช้า และอื่น ๆ อีกมากมาย การที่เราเตรียมความพร้อมไว้ก่อนย่อมเป็นเรื่องที่ดี เพราะหากเกิดเหตุการณ์ไม่คาดคิด เราจะได้รับมือกับเหตุการณ์เหล่านั้นได้ค่ะ

เที่ยวหน้าหนาว ต้องเตรียมอะไร : ประกันการเดินทางต่างประเทศ

หากคุณมีแผนที่จะเดินทางท่องเที่ยวต่างประเทศในช่วงฤดูหนาว ก็ควรตรวจสอบสภาพอากาศของประเทศจุดหมายปลายทางให้เรียบร้อย เพื่อที่จะได้จัดเตรียมเสื้อผ้าและอุปกรณ์กันหนาวให้พร้อม ถ้าเราเอาเสื้อผ้าหรือของใช้จำเป็นไปไม่เพียงพอก็อาจทำให้เกิดการเจ็บป่วยจนหมดสนุก และสิ่งสำคัญที่จะช่วยให้คุณ เที่ยวต่างประเทศในช่วงฤดูหนาว ได้อย่างอุ่นใจ ไร้กังวล ก็คือ ประกันการเดินทางต่างประเทศ Allianz Travel ขอแนะนำ ประกันภัยการเดินทาง Dance Moves ที่จะช่วยให้ทริป การเดินทางของคุณราบรื่น ไม่มีสะดุด กับความคุ้มครองที่ครอบคลุมค่าใช้จ่ายจากเกือบทุกเหตุการณ์ที่อาจเกิดขึ้นได้ ไม่ว่าจะเป็นค่ารักษาพยาบาล การเลื่อนหรือยกเลิกการเดินทาง กระเป๋าเดินทางหรือเอกสารสำคัญสูญหาย และอื่นๆ อีกมากมาย* อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับความคุ้มครองได้ ที่นี่

*เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทกำหนด

ขอบคุณข้อมูลจาก:  กรมการกงสุล กระทรวงการต่างประเทศ, Winter Packing List: Light Essentials for Cold-Weather Travel

เลือกแผนประกันเดินทางที่ใช่สำหรับคุณ ประกันการเดินทาง Dance Moves จาก Allianz Travel

ขั้นตอนและวิธีการทำใบขับขี่สากล

การทำใบขับขี่สากล ใบอนุญาตขับรถระหว่างประเทศ (IDP)

หลายคนมีแผนที่จะขับรถเที่ยวสำหรับทริปในต่างประเทศ การขับรถเที่ยวเป็นเรื่องน่าสนุก เพราะมันช่วยให้คุณมีอิสระในการสำรวจพื้นที่ต่าง ๆ ตามต้องการ คุณอาจได้เจอกับสถานที่ใหม่ๆ ที่เข้าถึงยากหากต้องเดินทางด้วยการขนส่งสาธารณะ และคุณอาจจะได้พบกับการผจญภัยเล็กๆ ที่รอคุณอยู่ข้างหน้า แต่ก่อนที่คุณจะออกเดินทาง คุณรู้ไหมว่าคุณต้องมี ใบขับขี่สากล หรือ ใบอนุญาตขับรถระหว่างประเทศ หากต้องขับรถในบางประเทศ Allianz Travel จะมาแนะนำให้คุณรู้จักกับใบขับขี่สากล หรือ ใบอนุญาตขับรถระหว่างประเทศ ขั้นตอนการทำ การเตรียมเอกสาร และสถานที่ทำใบขับขี่สากล ทำได้ง่าย ๆ ไม่ยุ่งยากเลยค่ะ 🙂

อัปเดท! เราสามารถทำใบขับขี่สากล หรือ ใบอนุญาตขับรถระหว่างประเทศ ออนไลน์ ผ่านแอปเป๋าตัง ได้แล้ววันนี้! ดูรายละเอียดขั้นตอนวิธีการทำใบขับขี่สากล ออนไลน์ ผ่านแอปเป๋าตังได้ที่บทความนี้เลยค่ะ: วิธีทำใบขับขี่สากล ออนไลน์ ผ่านแอปเป๋าตัง

ทำความรู้จัก ใบขับขี่สากล หรือ ใบอนุญาตขับรถระหว่างประเทศ (IDP)

ใบขับขี่สากล หรือ ใบอนุญาตขับรถระหว่างประเทศ (IDP)

ใบขับขี่สากล หรือชื่อทางการคือ ใบอนุญาตขับรถระหว่างประเทศ (International Driving Permit หรือ IDP) เป็นเอกสารทางกฎหมายที่ใช้ในการยืนยันตัวตนเพื่อให้ผู้ถือสามารถขับขี่ได้ในประเทศ หรือดินแดนที่ไม่ใช่ประเทศบ้านเกิด ผู้ที่ขับขี่รถจะต้องแสดงใบขับขี่สากลพร้อมกับใบขับขี่จากประเทศบ้านเกิดต่อเจ้าหน้าที่ในแต่ละประเทศ เพื่อให้ผู้ขับขี่สามารถขับรถออกนอกประเทศได้อย่างถูกกฎหมาย

ใบขับขี่สากล ที่ประเทศไทยได้เข้าร่วมเป็นภาคีอนุสัญญาว่าด้วยการจราจรทางถนน แบ่งออกเป็น 2 ประเภทตามอนุสัญญา 2 ฉบับ ได้แก่

1. อนุสัญญาว่าด้วยการจราจรทางถนน ณ นครเจนีวา ค.ศ. 1949 หรือ อนุสัญญาเจนีวา 1949

สามารถนำไปใช้ได้ใน 102 ประเทศ เช่น สหรัฐอเมริกา ออสเตรเลีย เกาหลีใต้ นิวซีแลนด์ ญี่ปุ่น เป็นต้น ใบขับขี่สากลภายใต้อนุสัญญานี้จะมีอายุการใช้งาน 1 ปี

2. อนุสัญญาว่าด้วยการจราจรทางถนน ณ กรุงเวียนนา ค.ศ. 1968 หรือ อนุสัญญาเวียนนา 1968

สามารถนำไปใช้ได้ใน 86 ประเทศ เช่น บาห์เรน บราซิล เยอรมนี สวิตเซอร์แลนด์ เป็นต้น ซึ่งบางประเทศเป็นประเทศที่ไม่ได้เป็นภาคีในอนุสัญญาเจนีวา ทำให้ใบขับขี่สากลภายใต้อนุสัญญานี้สามารถเป็นตัวเลือกให้กับคนที่กำลังจะเดินทางไปในประเทศที่อนุสัญญาเจนีวาอาจไม่ครอบคลุม มีอายุ 3 ปี นับแต่วันออกใบขับขี่สากล หรือเท่ากับอายุของใบขับขี่ภายในประเทศที่ผู้ถือมีอยู่

Road Trip in Switzerland

หมายเหตุ

  • ประเทศที่เข้าร่วมเป็นภาคีอนุสัญญาทั้งสองฉบับ เช่น ออสเตรีย เบลเยี่ยม เดนมาร์ก สหราชอาณาจักร อิตาลี ฝรั่งเศส เนเธอร์แลนด์ ตุรกี สวีเดน รวมถึงประเทศไทย สามารถใช้ใบขับขี่สากลที่ออกตามอนุสัญญาเวียนนา 1968 เพียงฉบับเดียวได้
  • ผู้ที่ต้องการขอรับใบอนุญาตขับรถระหว่างประเทศ สามารถแจ้งรายชื่อประเทศที่ต้องการนำใบอนุญาตขับรถไปใช้ต่อเจ้าหน้าที่เพื่อตรวจสอบความเกี่ยวข้องในการร่วมเป็นภาคีตามอนุสัญญา และออกใบอนุญาตขับรถระหว่างประเทศให้ได้อย่างถูกต้องตามแบบที่กำหนด

หลักฐานที่ต้องใช้ในการขอรับ ใบขับขี่สากล

1. หนังสือเดินทาง (ฉบับจริง) ซึ่งยังไม่สิ้นอายุ
2. บัตรประจำตัวประชาชน (ฉบับจริง) ซึ่งยังไม่สิ้นอายุ
3. ใบอนุญาตขับรถยนต์ส่วนบุคคล ชนิด 5 ปี หรือตลอดชีพ (ฉบับจริง) ซึ่งยังไม่สิ้นอายุ
4. รูปถ่าย ขนาด 2 นิ้ว 2 รูป ไม่เคลือบมัน (รูปถ่ายไม่เกิน 6 เดือน)
5. สำเนาหลักฐานการแก้ไขชื่อ – สกุล พร้อมสำเนาที่เซ็นรับรองสำเนาถูกต้อง (ถ้ามี)
6. สำเนาทะเบียนสมรสหรือใบหย่าพร้อมสำเนาที่เซ็นรับรองสำเนาถูกต้อง (ถ้ามี)
7. ค่าธรรมเนียมทำใบขับขี่สากล 505 บาท

กรณีไม่สามารถดำเนินการด้วยตนเอง สามารถมอบอำนาจให้ผู้อื่นทำแทนได้ โดยเตรียมเอกสารเพิ่มเติม คือ

  • หนังสือมอบอำนาจฉบับจริง โดยระบุประเทศที่จะเดินทาง พร้อมติดอากรแสตมป์
  • บัตรประชาชนของผู้รับมอบอำนาจ (ฉบับจริงพร้อมสำเนา)
  • เอกสารของผู้มอบอำนาจที่จะใช้ในการขอรับใบขับขี่สากล (สำเนาพร้อมเซ็นรับรองสำเนาถูกต้อง)

ขั้นตอนการทำ ใบขับขี่สากล

1. ลงทะเบียนจองคิวล่วงหน้าผ่านแอปพลิเคชัน DLT Smart Queue บน App Store และ Play Store หรือเว็บไซต์ https://gecc.dlt.go.th/login ตามขั้นตอนดังนี้

  • กดปุ่มลงทะเบียน (Register) กรอกข้อมูลส่วนตัวและกำหนดรหัสผ่าน หากเคยลงทะเบียนไว้แล้ว สามารถเข้าสู่ระบบด้วยเลขบัตรประชาชนได้เลย
  • เมื่อลงทะเบียนสำเร็จแล้ว เลือกสำนักงานที่ต้องการเข้าไปทำใบขับขี่
  • หัวข้อประเภทบริการ เลือกไปที่ “งานใบอนุญาต”
  • หัวข้อประเภทใบอนุญาตขับรถ เลือกไปที่ “ใบอนุญาตขับรถส่วนบุคคล”
  • หัวข้อประเภทเข้ารับบริการ เลือกไปที่ “ใบอนุญาตขับรถระหว่างประเทศ”
  • หัวข้อประเภทยานพาหนะ ให้เลือกยานพาหนะที่เราจะใช้
  • หัวข้อประเภทงาน เลือกไปที่ “ใบอนุญาตส่วนบุคคล: ใบอนุญาตขับรถระหว่างประเทศ”
  • เลือกวันและเวลาที่ต้องการใช้บริการ โดยวันที่ว่างจะขึ้นเป็นสีเขียว ส่วนวันที่คิวเต็มนั้นจะขึ้นคำว่า “เต็ม” เป็นตัวหนังสือสีแดง
  • หลังจากเลือกวันและเวลาที่ต้องการเข้าใช้บริการเรียบร้อยแล้ว ให้กด “ยืนยันการจอง” ถือเป็นอันเสร็จสิ้นการจองคิว

2. เตรียมเอกสารต่าง ๆ ตามรายการ และไปติดต่อขอรับบริการได้ที่สำนักงานขนส่งกรุงเทพมหานครพื้นที่ 1-5 และสำนักงานขนส่งจังหวัดทั่วประเทศ เปิดบริการทุกวันจันทร์-ศุกร์ ตั้งแต่เวลา 08.30-15.30 น. หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม โทร.1584 
3. ยื่นคำขอ ตรวจสอบเอกสารและคุณสมบัติเบื้องต้น > จัดทำคำขอ > ผู้ขอลงนามคำขอ
4. เมื่อตรวจสอบเอกสารผ่าน > ชำระเงิน > ออกใบเสร็จ > จัดทำใบอนุญาต > นายทะเบียนลงนาม > จ่ายใบอนุญาตขับรถ

Road Trip Travel : ทริปขับรถท่องเที่ยวต่างประเทศ

หลังจากที่คุณได้รับ ใบขับขี่สากล เพื่อนำไปใช้ขับขี่ระหว่างทริปท่องเที่ยวต่างประเทศของคุณแล้ว คุณก็ควรศึกษาและทำความเข้าใจกฎจราจรของประเทศนั้น ๆ และศึกษาเส้นทางก่อนออกเดินทางเสมอ เพื่อให้คุณขับขี่ได้อย่างปลอดภัย ป้องกันปัญหาอื่นที่อาจตามมากวนใจคุณในอนาคต นอกจากนี้ สิ่งสำคัญที่คุณควรมีติดตัวไว้ก่อนออกเดินทางไปเที่ยวต่างประเทศ ก็คือ ประกันภัยการเดินทาง ที่ช่วยให้คุณเดินทางได้อย่างอุ่นใจ ไร้กังวล เพียงจ่ายเงินไม่กี่บาท คุณก็จะได้ความคุ้มครองมากมายที่ครอบคลุมเกือบทุกเหตุการณ์ไม่คาดฝันที่อาจเกิดขึ้นระหว่างเดินทาง* เช่น ความเจ็บป่วย การเกิดอุบัติเหตุ กระเป๋าหาย ไฟลท์ดีเลย์ เป็นต้น Allianz Travel ขอแนะนำ ประกันเดินทางต่างประเทศ Dance Moves ที่จะช่วยให้ทริป การเดินทางของคุณราบรื่น ไม่มีสะดุด อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับความคุ้มครองได้ ที่นี่

*เงื่อนไข ความคุ้มครอง และข้อยกเว้นเป็นไปตามที่ระบุไว้ในกรมธรรม์ประกันภัย ผู้ขอเอาประกันภัยควรทำความเข้าใจในรายละเอียดความคุ้มครอง และเงื่อนไขก่อนตัดสินใจทำประกันภัยทุกครั้ง จำนวนความคุ้มครองและผลประโยชน์ขึ้นอยู่กับแผนประกันภัย

ขอบคุณข้อมูลจาก : สำนักงานสวัสดิภาพการขนส่งทางบก (สนภ.) กรมการขนส่งทางบก

เลือกแผนประกันเดินทางที่ใช่สำหรับคุณ ประกันการเดินทาง Dance Moves จาก Allianz Travel