เที่ยวหน้าหนาวต่างประเทศ ต้องเตรียมอะไรบ้าง

เที่ยวหน้าหนาว ต่างประเทศ ต้องเตรียมอะไรบ้าง

ผู้ที่รักในการท่องเที่ยวที่เลือกไปท่องเที่ยวต่างประเทศในช่วงฤดูหนาวเพราะต้องการสัมผัสอากาศหนาวแบบที่บ้านเราไม่มี และแน่นอน อยากสัมผัสหิมะที่เย็นยะเยือกสักครั้งรวมทั้งเตรียมตัวสำหรับกิจกรรมบนหิมะยกตัวอย่างเช่น การเล่นสกีหรือสโนว์บอร์ด รวมไปถึงผู้ที่ชื่นชอบการผจญภัยในการเดินเขาหรือขึ้นเขาในแถบประเทศที่หนาวเย็นด้วย แน่นอนว่าอากาศที่นั่นต้องแตกต่างจากบ้านเราแน่นอนเพราะบ้านเรามีเพียงฤดูฝน ฤดูร้อนและฤดูร้อนมากเท่านั้น และไม่เคยมีหิมะตกเลยนี่สิ แล้วการเดินทางไป เที่ยวหน้าหนาว ต้องเตรียมอะไรบ้าง เราควรจะเตรียมเสื้อผ้า และอุปกรณ์ที่จำเป็นสำหรับเที่ยวในฤดูหนาวอย่างไรกันดีล่ะ วันนี้ Allianz Travel รวมลิสต์สิ่งของที่จำเป็นที่เราควรจัดเตรียมไปพร้อมกับกระเป๋าเดินทาง สำหรับการท่องเที่ยวในฤดูหนาว เที่ยวหน้าหนาว ต้องเตรียมอะไรบ้าง ไปดูกันเลยค่ะ : )

1. เสื้อผ้า เครื่องแต่งกาย

ก่อนอื่นต้องสำรวจก่อนว่าประเทศที่เราจะไปนั้นอยู่ในฤดูอะไร อุณหภูมิโดยประมาณเท่าไหร่ และนอกจากอากาศที่หนาวเย็นแล้วยังมีหิมะหรือลมฝนร่วมด้วยหรือไม่ เพื่อเตรียมเสื้อผ้าไปให้พร้อมกับทุกสถานการณ์เพราะถ้าป่วยขึ้นมาก็จะทำให้ทริปที่เตรียมไว้สะดุด เที่ยวไม่สนุกไปเลยค่ะ

เที่ยวหน้าหนาว ต้องเตรียมอะไร : เสื้อผ้า เครื่องแต่งกายในฤดูหนาว

ประเทศที่มีอากาศหนาวเย็นระดับเบบี๋ (15-25 องศาเซลเซียส)

อุณหภูมิระดับนี้ก็ใกล้เคียงกับอากาศทางภาคเหนือของประเทศเราในหน้าหนาว ซึ่งอากาศแบบนี้จะอยู่ในช่วงฤดูใบไม้ร่วงของประเทศทางฝั่งยุโรปและประเทศในเอเชียอย่างญี่ปุ่น เกาหลี ก่อนจะเข้าสู่ฤดูหนาว การจัดกระเป๋าก็ไม่ยากเลย

  • ชุดชั้นใน เลือกชุดชั้นในที่ใส่ปกติหรือหนาสักนิดก็ใช้ได้
  • เสื้อผ้า เสื้อเลือกที่สวมใส่สบาย สาว ๆ อาจเลือกเลกกิ้งมาปกป้องเรียวขาจากอากาศเย็นแล้วสวมมินิสเกิร์ตทับส่วนหนุ่ม ๆ ใส่ยีนส์สักตัวก็เอาอยู่
  • เสื้อกันหนาว เลือกเสื้อกันหนาวที่ช่วยกันลมอย่าง เสื้อแจ็คเก็ต หรือเสื้อโค้ทที่ไม่หนามากนักเป็นสไตล์แฟชั่นมาใส่ก็ได้
  • รองเท้า สวมถุงเท้าหนากับรองเท้าหุ้มส้นหรือผ้าใบที่ใส่สบาย
เที่ยวหน้าหนาว ต้องเตรียมอะไร : เสื้อผ้า เครื่องแต่งกาย รองเท้า

ประเทศที่มีอากาศหนาวเย็นระดับประถม (0-15 องศาเซลเซียส)

ยกระดับความหนาวเย็นขึ้นมาอีกนิดหนึ่ง อุณหภูมิขนาดนี้เป็นช่วงฤดูหนาวของต่างประเทศซึ่งหนาวกว่าบ้านเรามาก ยิ่งกับผู้ที่เคยชินกับอากาศ 20 องศาปลาย ๆ ของภาคกลางแล้วล่ะก็อาจป่วยได้ ที่อุณหภูมิขนาดนี้ควรติดผ้าพันคอและเพิ่มความอบอุ่นให้แก่ศีรษะของคุณด้วยหมวกไหมพรม สวมถุงมือไหมพรมเพื่อป้องกันลมช่วยเพิ่มความอบอุ่นให้กับมือของคุณได้เป็นอย่างดี

  • ชุดชั้นใน จุดนี้ควรเลือกชุดชั้นในที่มีความหนาเพื่อช่วยเพิ่มความอบอุ่นให้กับร่างกายแล้วสวมลองจอนทับอีกชั้น
  • เสื้อผ้า แนะนำเป็นเสื้อวูล, เสื้อฮีทเทค หรือเป็นสเวตเตอร์ที่หนาสักนิดมีแขนยาวและปิดคอเพื่อเก็บความร้อนและให้ความอบอุ่น ส่วนท่อนล่างควรสวมลองจอนวูลเพื่อเพิ่มความอบอุ่นให้ขาของคุณ และสวมกางเกงยีนส์หนา ๆ ทับอีกชั้น
  • เสื้อกันหนาว ควรเลือกเสื้อโค้ทที่มีความหนาและมีฮู้ดไว้ป้องกันความหนาวเย็นจากลมหากคุณต้องยืนตากลมนาน ๆ อาจทำให้รู้สึกไม่สบายได้ และเสื้อกันหนาวหรือโค้ทควรมีความยาวเลยสะโพกลงไปยิ่งถ้าได้เสื้อขนเป็ดก็จะดีมาก
  • รองเท้า ควรเตรียมถุงเท้าวูลและรองเท้าบูทไปด้วย
เที่ยวหน้าหนาว ต้องเตรียมอะไร : เสื้อผ้า เครื่องแต่งกาย

ประเทศที่มีอากาศหนาวเย็นระดับมหาวิทยาลัย ( -15 ถึง -1 องศาเซลเซียส)

ความหนาวระดับนี้เป็นระดับที่มีหิมะตกนอกจากความหนาวเย็นแล้วคุณอาจต้องพบกับความชื้นของหิมะด้วย ต้องจัดเตรียมเสื้อผ้าที่สามารถระบายความชื้นได้ดี เก็บความอบอุ่นได้ดีและกันเปียก หากเสื้อโค้ทที่คุณเตรียมไปไม่มีฮู้ดควรเตรียมหมวกไหมพรมหนา ๆ ที่ปิดหูและถุงมือไหมพรมวูล รวมถึงถุงเท้าไหมพรมวูลไปด้วย

  • ชุดชั้นใน เลือกชุดชั้นในที่มีความหนาเพื่อรักษาความอบอุ่นแล้วสวมลองจอนทับอีกชั้นหนึ่ง ควรเลือกแบบที่ระบายความชื้นได้เร็วแล้วสวมไทต์เลกกิ้งหนาและแพนตี้โฮสด้านล่าง
  • เสื้อผ้า สวมแจ็คเกตบาง ๆ หรือเสวตเตอร์ผสมขนสัตว์เพิ่มความอบอุ่นแขนยาวไว้ด้านใน ท่อนล่างใส่ลองจอนวูลที่สามารถระบายความชื้นได้ดีหากคุณต้องเจอกับหิมะสวมยีนห์หนาที่มีเนื้อผ้าสามารถกันลมได้ดีหรือกางเกงผ้าร่มบุด้านในที่สามารถกันเปียกได้ดี
  • เสื้อกันหนาว เสื้อกันหนาวควรเลือกเป็นวูลขนเป็ดและผ้าด้านนอกกันเปียก หากเป็นโค้ทควรเลือกตัวยาว ยาวถึงเขาเลยยิ่งดี มีความหนามาก ๆ แต่แนะนำเป็นเสื้อวูลขนเป็ดที่มีความหนาแน่นมากดีกว่าเพื่อเก็บความอบอุ่นให้กับคุณ และหากคุณมั่นใจว่าต้องเจอหิมะแน่ ๆ ไม่ควรเลือก Down Jacket มาใส่เพราะถึงแม้จะเบาและอบอุ่นแต่โดนความชื้นเข้าไปแจ็คเก็ตจะเปียกและไม่อุ่นอีกต่อไปจ้า
  • รองเท้า ควรเตรียมถุงเท้าวูลและรองเท้าบูทที่ยาวถึงเข่าและสามารถเดินบนหิมะได้ไปด้วย

สำหรับจำนวนนั้นขึ้นอยู่กับระยะเวลาของทริปนี้ด้วยหากไปเพียง 2-3 วันเตรียมเสื้อกันหนาวไปตัวเดียวและชุดชั้นในและเสื้อผ้าตามจำนวนวันและรองเท้าบูทและผ้าใบอย่างละคู่ก็เพียงพอแล้วแต่หากไป 7 วันขึ้นไปควรตระเตรียมเสื้อหนาวไปเผื่ออีกสักหนึ่งตัวหรือไปซื้อเพิ่มที่ประเทศนั้น ๆ ก็ได้คุณจะได้เสื้อที่เหมาะเหม็งกับสภาพอากาศทีเดียวเชียว สำหรับผู้ที่ตั้งใจไปสกีหรือปีนเขาต้องเตรียมอุปกรณ์เซฟตี้แขนขา แว่นกันลมรวมถึงถุงมือที่เหมาะสำหรับปีนเขาและเล่นสกีไปด้วยนะ

2. ครีมบำรุงผิว หรือ ครีมทาผิว ครีมกันแดด ลิปมัน

สิ่งสำคัญที่จำเป็นอีกหนึ่งอย่างที่ต้องใส่ไว้ในลิสต์ เที่ยวหน้าหนาว ต้องเตรียมอะไรบ้าง นั่นก็คือ ครีมทาผิว และลิปมัน ในฤดูหนาว อากาศจะหนาวเย็น ทำให้ผิวหนัง และปากของเราแห้ง แตก ลอก ทำให้ครีมทาผิว และลิปมันเป็นสิ่งสำคัญที่เราควรพกติดตัวไปด้วยค่ะ การเลือกครีมทาผิว ควรเลือกให้เหมาะสมกับสภาพผิวของเรา และเลือกครีมทาผิว หรือ ครีมบำรุงผิว ที่ให้ความชุ่มชื้นกับผิวที่แตกแห้งที่เราต้องพบเจอขณะเดินทางท่ามกลางสภาพอากาศที่หนาวเย็น และอีกหนึ่งไอเท็มที่ขาดไม่ได้นั่นก็คือ ครีมกันแดด ไม่ว่าจะเป็นฤดูไหน ครีมกันแดดเป็นสิ่งสำคัญที่จำเป็นต่อผิวของเรา ซึ่งแดดในฤดูหนาวจะค่อนข้างแรง เพราะฉะนั้นอย่าลืมทาครีมกันแดดทุกครั้งก่อนออกเดินทางกันนะคะ

เที่ยวหน้าหนาว ต้องเตรียมอะไร : ครีมบำรุงผิว ครีมทาผิว

3. ยารักษาโรคประจำตัว และยาสามัญประจำบ้าน

การเดินทางไปในสถานที่ที่มีอากาศหนาว ถ้าเราเตรียมตัวไม่พร้อม หรือใส่เสื้อผ้าที่ให้ความอบอุ่นกับร่างกายไม่เพียงพอ ก็อาจจะทำให้เราต้องเจ็บป่วยได้ เราควรเตรียมยารักษาโรคประจำตัว และยาสามัญประจำบ้าน เช่น ยาลดไข้ ยาแก้หวัด ยาลดน้ำมูก ยาแก้ไอ ยาแก้ปวดหัว และยาแก้แพ้ ติดกระเป๋าไปด้วย เพราะหากเกิดอาการเจ็บป่วยขึ้นมา ยาที่เราเตรียมไปจะช่วยบรรเทาอาการของเราให้ดีขึ้นได้ นอกจากนี้ราคายาในต่างประเทศส่วนใหญ่จะมีราคาแพงกว่าราคายาในประเทศไทย เพราะฉะนั้นเตรียมติดตัวไปด้วยดีที่สุดค่ะ ทริปของเราจะได้ไม่สะดุดค่ะ

*หมายเหตุ: ควรตรวจสอบยาที่เราจะจัดเตรียมไปด้วยว่า มีส่วนประกอบของสารต้องห้ามที่ห้ามนำเข้าไปในประเทศจุดหมายปลายททางหรือไม่

เที่ยวหน้าหนาว ต้องเตรียมอะไร : ยารักษาโรคประจำตัว และยาสามัญประจำบ้าน

4. อุปกรณ์กล้อง แบตเตอรี่สำรอง หรือ พาวเวอร์แบงค์ (Power Bank)

หากถามว่า เที่ยวหน้าหนาว ต้องเตรียมอะไร สิ่งที่เราต้องเตรียมไปและขาดไม่ได้ในการเดินทางไปต่างประเทศ นั่นก็คือ กล้อง และแบตเตอรี่สำรอง หรือ พาวเวอร์แบงค์ สำหรับชาร์จโทรศัพท์มือถือ เพราะโทรศัพท์มือถือเป็นสิ่งสำคัญสำหรับการเดินทาง และเราต้องใช้มือถือตลอดเวลาในการเดินทาง ไม่ว่าจะเป็นการถ่ายรูป ดูแผนที่ ดูข้อมูลสถานที่ท่องเที่ยวต่าง ๆ หาข้อมูลร้านอาหาร และข้อมูลต่าง ๆ เพราะฉะนั้นเราต้องเตรียมแบตเตอรี่สำรอง หรือพาวเวอร์แบงค์ติดตัวไปด้วย และการไปเที่ยวต่างประเทศเราก็อยากได้ภาพสวย ๆ เพื่อเก็บไว้เป็นความทรงจำ กล้องจึงเป็นอีกหนึ่งอุปกรณ์ที่จำเป็นสำหรับใช้เก็บภาพความประทับใจตามสถานที่ต่าง ๆ รูปถ่ายเป็นเหมือนสิ่งที่ทำให้เรานึกถึงเหตุการณ์และความประทับใจเหล่านั้นได้เป็นอย่างดีค่ะ

เที่ยวหน้าหนาว ต้องเตรียมอะไร : แบตเตอรี่สำรอง พาวเวอร์แบงค์ (Power Bank)

5. หนังสือเดินทาง (Passport)

หนังสือเดินทาง (Passport) เป็นสิ่งจำเป็นที่ต้องพกติดตัวไปด้วย ในการเดินทางไปต่างประเทศ เปรียบเสมือนเป็นบัตรประจำตัวประชาชนสากลเพื่อใช้สำหรับระบุตัวตนของเราระหว่างที่อยู่ในต่างประเทศ ก่อนการเดินทางต้องตรวจสอบวันหมดอายุของหนังสือเดินทางให้ดี เพราะในการเดินทางไปต่างประเทศหนังสือเดินทางของเราควรมีอายุมากกว่า 180 วัน นับจากวันที่เดินทางออกนอกประเทศไทย เพื่อความแน่ใจหากหนังสือเดินทางของใกล้หมดอายุแล้ว ควรไปดำเนินการต่ออายุหนังสือเดินทางก่อนวันเดินทาง ซึ่งเราสามารถทำการจองคิวผ่านระบบจองคิวเพื่อขอทำหนังสือเดินทาง ของกรมการกงสุล กระทรวงการต่างประเทศ ผ่านออนไลน์ได้ที่นี่ค่ะ: ระบบจองคิวเพื่อขอทำหนังสือเดินทาง

เที่ยวหน้าหนาว ต้องเตรียมอะไร : หนังสือเดินทาง (Passport)

6. ประกันการเดินทางต่างประเทศ

การเดินทางไปต่างประเทศทุกครั้ง สิ่งที่เราควรมีติดตัวไปด้วยเสมอก็คือ ประกันการเดินทางต่างประเทศ เพราะระหว่างการเดินทางอาจเกิดเหตุการณ์ไม่คาดคิดเกิดขึ้นได้เสมอ ประกันการเดินทางเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยเราเมื่อเกิดเหตุฉุกเฉิน ไม่ว่าจะเป็นการเจ็บป่วย หรือเกิดอุบัติเหตุระหว่างการเดินทาง กระเป๋าเดินทางหาย เที่ยวบินล่าช้า และอื่น ๆ อีกมากมาย การที่เราเตรียมความพร้อมไว้ก่อนย่อมเป็นเรื่องที่ดี เพราะหากเกิดเหตุการณ์ไม่คาดคิด เราจะได้รับมือกับเหตุการณ์เหล่านั้นได้ค่ะ

เที่ยวหน้าหนาว ต้องเตรียมอะไร : ประกันการเดินทางต่างประเทศ

หากคุณมีแผนที่จะเดินทางท่องเที่ยวต่างประเทศในช่วงฤดูหนาว ก็ควรตรวจสอบสภาพอากาศของประเทศจุดหมายปลายทางให้เรียบร้อย เพื่อที่จะได้จัดเตรียมเสื้อผ้าและอุปกรณ์กันหนาวให้พร้อม ถ้าเราเอาเสื้อผ้าหรือของใช้จำเป็นไปไม่เพียงพอก็อาจทำให้เกิดการเจ็บป่วยจนหมดสนุก และสิ่งสำคัญที่จะช่วยให้คุณ เที่ยวต่างประเทศในช่วงฤดูหนาว ได้อย่างอุ่นใจ ไร้กังวล ก็คือ ประกันการเดินทางต่างประเทศ Allianz Travel ขอแนะนำ ประกันภัยการเดินทาง Dance Moves ที่จะช่วยให้ทริป การเดินทางของคุณราบรื่น ไม่มีสะดุด กับความคุ้มครองที่ครอบคลุมค่าใช้จ่ายจากเกือบทุกเหตุการณ์ที่อาจเกิดขึ้นได้ ไม่ว่าจะเป็นค่ารักษาพยาบาล การเลื่อนหรือยกเลิกการเดินทาง กระเป๋าเดินทางหรือเอกสารสำคัญสูญหาย และอื่นๆ อีกมากมาย* อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับความคุ้มครองได้ ที่นี่

*เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทกำหนด

ขอบคุณข้อมูลจาก:  กรมการกงสุล กระทรวงการต่างประเทศ, Winter Packing List: Light Essentials for Cold-Weather Travel

เลือกแผนประกันเดินทางที่ใช่สำหรับคุณ ประกันการเดินทาง Dance Moves จาก Allianz Travel

ขั้นตอนและวิธีการทำใบขับขี่สากล

การทำใบขับขี่สากล ใบอนุญาตขับรถระหว่างประเทศ (IDP)

หลายคนมีแผนที่จะขับรถเที่ยวสำหรับทริปในต่างประเทศ การขับรถเที่ยวเป็นเรื่องน่าสนุก เพราะมันช่วยให้คุณมีอิสระในการสำรวจพื้นที่ต่าง ๆ ตามต้องการ คุณอาจได้เจอกับสถานที่ใหม่ๆ ที่เข้าถึงยากหากต้องเดินทางด้วยการขนส่งสาธารณะ และคุณอาจจะได้พบกับการผจญภัยเล็กๆ ที่รอคุณอยู่ข้างหน้า แต่ก่อนที่คุณจะออกเดินทาง คุณรู้ไหมว่าคุณต้องมี ใบขับขี่สากล หรือ ใบอนุญาตขับรถระหว่างประเทศ หากต้องขับรถในบางประเทศ Allianz Travel จะมาแนะนำให้คุณรู้จักกับใบขับขี่สากล หรือ ใบอนุญาตขับรถระหว่างประเทศ ขั้นตอนการทำ การเตรียมเอกสาร และสถานที่ทำใบขับขี่สากล ทำได้ง่าย ๆ ไม่ยุ่งยากเลยค่ะ 🙂

อัปเดท! เราสามารถทำใบขับขี่สากล หรือ ใบอนุญาตขับรถระหว่างประเทศ ออนไลน์ ผ่านแอปเป๋าตัง ได้แล้ววันนี้! ดูรายละเอียดขั้นตอนวิธีการทำใบขับขี่สากล ออนไลน์ ผ่านแอปเป๋าตังได้ที่บทความนี้เลยค่ะ: วิธีทำใบขับขี่สากล ออนไลน์ ผ่านแอปเป๋าตัง

ทำความรู้จัก ใบขับขี่สากล หรือ ใบอนุญาตขับรถระหว่างประเทศ (IDP)

ใบขับขี่สากล หรือ ใบอนุญาตขับรถระหว่างประเทศ (IDP)

ใบขับขี่สากล หรือชื่อทางการคือ ใบอนุญาตขับรถระหว่างประเทศ (International Driving Permit หรือ IDP) เป็นเอกสารทางกฎหมายที่ใช้ในการยืนยันตัวตนเพื่อให้ผู้ถือสามารถขับขี่ได้ในประเทศ หรือดินแดนที่ไม่ใช่ประเทศบ้านเกิด ผู้ที่ขับขี่รถจะต้องแสดงใบขับขี่สากลพร้อมกับใบขับขี่จากประเทศบ้านเกิดต่อเจ้าหน้าที่ในแต่ละประเทศ เพื่อให้ผู้ขับขี่สามารถขับรถออกนอกประเทศได้อย่างถูกกฎหมาย

ใบขับขี่สากล ที่ประเทศไทยได้เข้าร่วมเป็นภาคีอนุสัญญาว่าด้วยการจราจรทางถนน แบ่งออกเป็น 2 ประเภทตามอนุสัญญา 2 ฉบับ ได้แก่

1. อนุสัญญาว่าด้วยการจราจรทางถนน ณ นครเจนีวา ค.ศ. 1949 หรือ อนุสัญญาเจนีวา 1949

สามารถนำไปใช้ได้ใน 102 ประเทศ เช่น สหรัฐอเมริกา ออสเตรเลีย เกาหลีใต้ นิวซีแลนด์ ญี่ปุ่น เป็นต้น ใบขับขี่สากลภายใต้อนุสัญญานี้จะมีอายุการใช้งาน 1 ปี

2. อนุสัญญาว่าด้วยการจราจรทางถนน ณ กรุงเวียนนา ค.ศ. 1968 หรือ อนุสัญญาเวียนนา 1968

สามารถนำไปใช้ได้ใน 86 ประเทศ เช่น บาห์เรน บราซิล เยอรมนี สวิตเซอร์แลนด์ เป็นต้น ซึ่งบางประเทศเป็นประเทศที่ไม่ได้เป็นภาคีในอนุสัญญาเจนีวา ทำให้ใบขับขี่สากลภายใต้อนุสัญญานี้สามารถเป็นตัวเลือกให้กับคนที่กำลังจะเดินทางไปในประเทศที่อนุสัญญาเจนีวาอาจไม่ครอบคลุม มีอายุ 3 ปี นับแต่วันออกใบขับขี่สากล หรือเท่ากับอายุของใบขับขี่ภายในประเทศที่ผู้ถือมีอยู่

Road Trip in Switzerland

หมายเหตุ

  • ประเทศที่เข้าร่วมเป็นภาคีอนุสัญญาทั้งสองฉบับ เช่น ออสเตรีย เบลเยี่ยม เดนมาร์ก สหราชอาณาจักร อิตาลี ฝรั่งเศส เนเธอร์แลนด์ ตุรกี สวีเดน รวมถึงประเทศไทย สามารถใช้ใบขับขี่สากลที่ออกตามอนุสัญญาเวียนนา 1968 เพียงฉบับเดียวได้
  • ผู้ที่ต้องการขอรับใบอนุญาตขับรถระหว่างประเทศ สามารถแจ้งรายชื่อประเทศที่ต้องการนำใบอนุญาตขับรถไปใช้ต่อเจ้าหน้าที่เพื่อตรวจสอบความเกี่ยวข้องในการร่วมเป็นภาคีตามอนุสัญญา และออกใบอนุญาตขับรถระหว่างประเทศให้ได้อย่างถูกต้องตามแบบที่กำหนด

หลักฐานที่ต้องใช้ในการขอรับ ใบขับขี่สากล

1. หนังสือเดินทาง (ฉบับจริง) ซึ่งยังไม่สิ้นอายุ
2. บัตรประจำตัวประชาชน (ฉบับจริง) ซึ่งยังไม่สิ้นอายุ
3. ใบอนุญาตขับรถยนต์ส่วนบุคคล ชนิด 5 ปี หรือตลอดชีพ (ฉบับจริง) ซึ่งยังไม่สิ้นอายุ
4. รูปถ่าย ขนาด 2 นิ้ว 2 รูป ไม่เคลือบมัน (รูปถ่ายไม่เกิน 6 เดือน)
5. สำเนาหลักฐานการแก้ไขชื่อ – สกุล พร้อมสำเนาที่เซ็นรับรองสำเนาถูกต้อง (ถ้ามี)
6. สำเนาทะเบียนสมรสหรือใบหย่าพร้อมสำเนาที่เซ็นรับรองสำเนาถูกต้อง (ถ้ามี)
7. ค่าธรรมเนียมทำใบขับขี่สากล 505 บาท

กรณีไม่สามารถดำเนินการด้วยตนเอง สามารถมอบอำนาจให้ผู้อื่นทำแทนได้ โดยเตรียมเอกสารเพิ่มเติม คือ

  • หนังสือมอบอำนาจฉบับจริง โดยระบุประเทศที่จะเดินทาง พร้อมติดอากรแสตมป์
  • บัตรประชาชนของผู้รับมอบอำนาจ (ฉบับจริงพร้อมสำเนา)
  • เอกสารของผู้มอบอำนาจที่จะใช้ในการขอรับใบขับขี่สากล (สำเนาพร้อมเซ็นรับรองสำเนาถูกต้อง)

ขั้นตอนการทำ ใบขับขี่สากล

1. ลงทะเบียนจองคิวล่วงหน้าผ่านแอปพลิเคชัน DLT Smart Queue บน App Store และ Play Store หรือเว็บไซต์ https://gecc.dlt.go.th/login ตามขั้นตอนดังนี้

  • กดปุ่มลงทะเบียน (Register) กรอกข้อมูลส่วนตัวและกำหนดรหัสผ่าน หากเคยลงทะเบียนไว้แล้ว สามารถเข้าสู่ระบบด้วยเลขบัตรประชาชนได้เลย
  • เมื่อลงทะเบียนสำเร็จแล้ว เลือกสำนักงานที่ต้องการเข้าไปทำใบขับขี่
  • หัวข้อประเภทบริการ เลือกไปที่ “งานใบอนุญาต”
  • หัวข้อประเภทใบอนุญาตขับรถ เลือกไปที่ “ใบอนุญาตขับรถส่วนบุคคล”
  • หัวข้อประเภทเข้ารับบริการ เลือกไปที่ “ใบอนุญาตขับรถระหว่างประเทศ”
  • หัวข้อประเภทยานพาหนะ ให้เลือกยานพาหนะที่เราจะใช้
  • หัวข้อประเภทงาน เลือกไปที่ “ใบอนุญาตส่วนบุคคล: ใบอนุญาตขับรถระหว่างประเทศ”
  • เลือกวันและเวลาที่ต้องการใช้บริการ โดยวันที่ว่างจะขึ้นเป็นสีเขียว ส่วนวันที่คิวเต็มนั้นจะขึ้นคำว่า “เต็ม” เป็นตัวหนังสือสีแดง
  • หลังจากเลือกวันและเวลาที่ต้องการเข้าใช้บริการเรียบร้อยแล้ว ให้กด “ยืนยันการจอง” ถือเป็นอันเสร็จสิ้นการจองคิว

2. เตรียมเอกสารต่าง ๆ ตามรายการ และไปติดต่อขอรับบริการได้ที่สำนักงานขนส่งกรุงเทพมหานครพื้นที่ 1-5 และสำนักงานขนส่งจังหวัดทั่วประเทศ เปิดบริการทุกวันจันทร์-ศุกร์ ตั้งแต่เวลา 08.30-15.30 น. หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม โทร.1584 
3. ยื่นคำขอ ตรวจสอบเอกสารและคุณสมบัติเบื้องต้น > จัดทำคำขอ > ผู้ขอลงนามคำขอ
4. เมื่อตรวจสอบเอกสารผ่าน > ชำระเงิน > ออกใบเสร็จ > จัดทำใบอนุญาต > นายทะเบียนลงนาม > จ่ายใบอนุญาตขับรถ

Road Trip Travel : ทริปขับรถท่องเที่ยวต่างประเทศ

หลังจากที่คุณได้รับ ใบขับขี่สากล เพื่อนำไปใช้ขับขี่ระหว่างทริปท่องเที่ยวต่างประเทศของคุณแล้ว คุณก็ควรศึกษาและทำความเข้าใจกฎจราจรของประเทศนั้น ๆ และศึกษาเส้นทางก่อนออกเดินทางเสมอ เพื่อให้คุณขับขี่ได้อย่างปลอดภัย ป้องกันปัญหาอื่นที่อาจตามมากวนใจคุณในอนาคต นอกจากนี้ สิ่งสำคัญที่คุณควรมีติดตัวไว้ก่อนออกเดินทางไปเที่ยวต่างประเทศ ก็คือ ประกันภัยการเดินทาง ที่ช่วยให้คุณเดินทางได้อย่างอุ่นใจ ไร้กังวล เพียงจ่ายเงินไม่กี่บาท คุณก็จะได้ความคุ้มครองมากมายที่ครอบคลุมเกือบทุกเหตุการณ์ไม่คาดฝันที่อาจเกิดขึ้นระหว่างเดินทาง* เช่น ความเจ็บป่วย การเกิดอุบัติเหตุ กระเป๋าหาย ไฟลท์ดีเลย์ เป็นต้น Allianz Travel ขอแนะนำ ประกันเดินทางต่างประเทศ Dance Moves ที่จะช่วยให้ทริป การเดินทางของคุณราบรื่น ไม่มีสะดุด อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับความคุ้มครองได้ ที่นี่

*เงื่อนไข ความคุ้มครอง และข้อยกเว้นเป็นไปตามที่ระบุไว้ในกรมธรรม์ประกันภัย ผู้ขอเอาประกันภัยควรทำความเข้าใจในรายละเอียดความคุ้มครอง และเงื่อนไขก่อนตัดสินใจทำประกันภัยทุกครั้ง จำนวนความคุ้มครองและผลประโยชน์ขึ้นอยู่กับแผนประกันภัย

ขอบคุณข้อมูลจาก : สำนักงานสวัสดิภาพการขนส่งทางบก (สนภ.) กรมการขนส่งทางบก

เลือกแผนประกันเดินทางที่ใช่สำหรับคุณ ประกันการเดินทาง Dance Moves จาก Allianz Travel

วิธีทำใบขับขี่สากลออนไลน์ ผ่านแอปเป๋าตัง

วิธีทำใบขับขี่สากล ออนไลน์ ผ่านแอปเป๋าตัง

ข่าวดีสำหรับเพื่อน ๆ ที่มีแพลนขับรถเที่ยวในต่างประเทศ แล้วต้องเตรียมตัวไปทำใบขับขี่สากล วันนี้แอปพลิเคชัน เป๋าตัง ได้ร่วมมือกับ กรมขนส่งทางบก ให้เราสามารถ ทำใบขับขี่สากลออนไลน์ ผ่านแอปพลิเคชัน เป๋าตัง ได้แล้ววันนี้ ซึ่งขั้นตอนในการ ทำใบขับขี่สากล ออนไลน์ ผ่านแอป เป๋าตัง สามารถทำได้ง่าย ๆ สะดวก ขั้นตอนไม่ยุ่งยาก ใช้เวลาไม่กี่นาทีก็สามารถนั่งรอใบขับขี่สากลที่บ้านได้เลยค่ะ วันนี้ Allianz Travel มีขั้นตอนการขอใบขับขี่สากล ออนไลน์ ผ่านเป๋าตัง มาฝากเพื่อน ๆ มีเอกสารที่ต้องเตรียม เงื่อนไข และขั้นตอนในการขออย่างไรบ้าง ไปดูกันเลยค่ะ 🙂

เอกสารที่ต้องเตรียมสำหรับ ทำใบขับขี่สากล ออนไลน์ ผ่านแอป เป๋าตัง

1. รูปหน้าตรง ครึ่งตัว ที่ถ่ายไม่เกิน 6 เดือน แต่งกายสุภาพ สวมแว่นสายตาได้
2. ขนาดไฟล์ไม่เกิน 5 MB
3. พื้นหลังของรูปเป็นสีขาว ไม่มีเงาตกกระทบ

คำแนะนำ:
– ต้องเห็นตา จมูก ปาก ชัดเจน และไม่เห็นฟัน
– พยายามลืมตาให้กว้าง ไม่ขมวดคิ้ว
– ไม่ใช้รูปภาพที่ถ่ายด้วยกล้องหน้า (เซลฟี่)
– ไม่สวมหมวก แว่นตาสีเข้ม ผ้าคลุมใบหน้าหรือผ้าโพกศรีษะ ยกเว้นผู้มีความจำเป็นทางศาสนา

เงื่อนไขการทำใบขับขี่สากล ออนไลน์ ผ่านแอป เป๋าตัง

1. หนังสือเดินทางมีอายุเหลือไม่น้อยกว่า 6 เดือน
2. ใบอนุญาตขับรถมีอายุเหลือไม่น้อยกว่า 3 เดือน และไม่เป็นใบอนุญาตขับรถส่วนบุคคลชั่วคราว

ขั้นตอนการทำใบขับขี่สากล ออนไลน์ ผ่านแอป เป๋าตัง

1. เปิดแอปพลิเคชัน เป๋าตัง (เวอร์ชันอัปเดตล่าสุด)
2. เลือกเมนูบริการ ตรงแถบเมนูด้านล่างของหน้าจอแอป

การทำใบขับขี่สากล ออนไลน์ - เลือกเมนูบริการ

3. แอปแสดงหน้าบริการ หลังจากนั้น เลือก กรมการขนส่งทางบก

การทำใบขับขี่สากล ออนไลน์ - เลือกกรมการขนส่งทางบก

4. แอปแสดงหน้าขอรับใบอนุญาตขับรถระหว่างประเทศ พร้อมกับข้อมูลเอกสารที่ต้องเตรียม และเงื่อนไขเอกสาร หลังจากนั้นกดถัดไป

การทำใบขับขี่สากล ออนไลน์ - หน้าขอรับใบอนุญาตขับรถระหว่างประเทศ

5. แอปแสดงหน้าเลือกประเภทใบอนุญาตขับรถระหว่างประเทศ ขั้นตอนนี้ให้เราเลือกประเภทใบอนุญาตขับรถระหว่างประเทศให้ตรงกับประเทศที่เราเดินทางไป โดยตรวจสอบรายชื่อประเทศที่อยู่ในแต่ละอนุสัญญา โดยกดเลือก ดูรายชื่อประเทศ ที่อยู่ในแต่ละอนุสัญญา โดยมีรายละเอียดดังนี้

การทำใบขับขี่สากล ออนไลน์ - หน้าเลือกประเภทใบอนุญาตขับรถระหว่างประเทศ

5.1 อนุสัญญาเจนีวา 1949 (ประเภท 1 ปี 102 ประเทศ)
ใบอนุญาตมีอายุ: 1 ปี
ประเภทของรถ: รถยนต์และรถจักรยานยนต์
ค่าบริการ: 505 บาท
จำนวนประเทศ: 102 ประเทศ

5.2 อนุสัญญาเวียนนา 1968 (ประเภทไม่เกิน 3 ปี 91 ประเทศ)
ใบอนุญาตมีอายุ: ไม่เกิน3 ปี
ประเภทของรถ: รถยนต์
ค่าบริการ: 505 บาท
จำนวนประเทศ: 91 ประเทศ

หลังจากเลือกประเภทใบอนุญาตขับรถระหว่างประเทศเรียบร้อยแล้ว ให้กดถัดไปค่ะ

หมายเหตุ: หากประเทศที่ต้องการไปไม่อยู่ในอนุสัญญาเดียวกัน กรุณาขอรับใบอนุญาตขับรถระหว่างประเทศอนุสัญญาอื่นเพิ่มเติม

6. แอปแสดงหน้าข้อมูลบัตรประชาชน กรอกข้อมูลรหัสหลังบัตรประชาชน 12 หลัก  หลังจากนั้นกดถัดไป

การทำใบขับขี่สากล ออนไลน์ - หน้าข้อมูลบัตรประชาชน


7. แอปแสดงหน้าสแกนใบหน้า เพื่อทำการยืนยันตัวตน กดสแกนใบหน้า

การทำใบขับขี่สากล ออนไลน์ - หน้าสแกนใบหน้า


8. หลังจากสแกนใบหน้า แอปจะแสดงหน้าอัปโหลดรูปภาพติดใบอนุญาตขับรถระหว่างประเทศ โดยรูปภาพที่ใช้ต้องเป็นไปตามรายละเอียดที่ระบุไว้ ตามรายละเอียดในหัวข้อ เอกสารที่ต้องเตรียมสำหรับการทำใบขับขี่สากล ออนไลน์ ผ่านแอป เป๋าตัง ข้างต้นค่ะ (แนะนำให้เตรียมรูปไว้ให้เรียบร้อยก่อนสมัคร อัปโหลดรูปได้ไม่เกิน 5 รอบ) หลังจากนั้นทำการอัปโหลดรูปภาพที่เราเตรียมไว้ และกดถัดไปค่ะ

การทำใบขับขี่สากล ออนไลน์ - หน้าอัปโหลดรูปภาพติดใบอนุญาตขับรถระหว่างประเทศ
การทำใบขับขี่สากล ออนไลน์ - หน้าอนุญาตการเข้าถึงคลังรูปภาพ
การทำใบขับขี่สากล ออนไลน์ - หน้าอัปโหลดรูปภาพสำเร็จ

9. แอปแสดงหน้าที่อยู่สำหรับจัดส่ง กรอกข้อมูลที่อยู่สำหรับจัดส่งเอกสารใบอนุญาตขับรถระหว่างประเทศ เบอร์โทรศัพท์ และอีเมลสำหรับจัดส่งใบเสร็จ (ถ้ามี) หลังจากนั้นกดถัดไป

การทำใบขับขี่สากล ออนไลน์ - หน้าที่อยู่สำหรับจัดส่ง


10. แอปแสดงหน้าตรวจสอบข้อมูล ทำการตรวจสอบข้อมูลรายละเอียดการขอรับใบอนุญาตขับรถระหว่างประเทศ ที่อยู่สำหรับการจัดส่ง และรูปภาพติดใบอนุญาตอีกครั้ง หลังจากตรวจสอบเสร็จเรียบร้อยแล้วให้กดถัดไปค่ะ

การทำใบขับขี่สากล ออนไลน์ - หน้าตรวจสอบข้อมูล

11. ทำการชำระเงิน โดยราคาค่าบริการในการขอใบอนุญาตขับรถระหว่างประเทศ รวมค่าจัดส่งอยู่ที่ 565 บาท ชำระเงินผ่านแอป เป๋าตัง หลังจากนั้นรอรับ ใบอนุญาตขับรถระหว่างประเทศ หรือ ใบขับขี่สากล ที่จะถูกจัดส่งผ่านทางไปรษณีย์มาที่บ้านได้เลยค่ะ : )

การทำใบขับขี่สากลออนไลน์ ทำให้หลาย ๆ คน สะดวกมากขึ้น ลดระยะเวลาในการเตรียมเอกสารต่าง ๆ การจองคิว และการเดินทางไปทำใบขับขี่สากล เพียงไม่กี่ขั้นตอน ในระยะเวลาไม่กี่นาที เราก็สามารถทำใบขับขี่สากล และรอรับที่บ้านได้เลย เพียงเท่านี้เราก็สามารถมีใบอนุญาตขับรถระหว่างประเทศ หรือ ใบขับขี่สากล เพื่อขับรถท่องเที่ยวในต่างประเทศได้แล้ว แต่การเดินทางโดยการขับรถท่องเที่ยวในต่างประเทศ เราจะต้องศึกษากฎจราจรของประเทศนั้น ๆ เพราะแต่ละประเทศจะมีรูปแบบที่แตกต่างกันออกไป และที่สำคัญสิ่งที่จะขาดไม่ได้ก็คือ ประกันการเดินทางต่างประเทศ สิ่งสำคัญที่ช่วยให้คุณเดินทางได้อย่างอุ่นใจ ไร้กังวล เพียงจ่ายเงินไม่กี่บาท คุณก็จะได้รับความคุ้มครองมากมายที่ครอบคลุมเกือบทุกเหตุการณ์ไม่คาดฝันที่อาจเกิดขึ้นระหว่างเดินทาง* เช่น ความเจ็บป่วย การเกิดอุบัติเหตุ กระเป๋าหาย เที่ยวบินดีเลย์ เป็นต้น Allianz Travel ขอแนะนำ ประกันการเดินทางต่างประเทศ Dance Moves ที่จะช่วยให้ทริป การเดินทางของคุณราบรื่น ไม่มีสะดุด อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับความคุ้มครองได้ ที่นี่

*เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทกำหนด

ขอบคุณข้อมูลจาก: dlt.go.th (กรมการขนส่งทางบก), safedrivedlt.com (สำนักสวัสดิภาพการขนส่งทางบก (สนภ.) กรมการขนส่งทางบก), แอปพลิเคชั่นเป๋าตัง

เลือกแผนประกันเดินทางที่ใช่สำหรับคุณ ประกันการเดินทาง Dance Moves จาก Allianz Travel

ภูเขาสี่ดรุณี สัมผัสความงดงามของเทือกเขาแอลป์แห่งจีน

ภูเขาสี่ดรุณี สัมผัสความงามเทือกเขาแอลป์แห่งจีน

ภูเขาสี่ดรุณี หรือซื่อกู่เหนียงซาน (Siguniangshan / 四姑娘山) เป็นสิ่งมหัศจรรย์ทางธรรมชาติที่สวยงามจนได้รับการขนานนามว่าเป็น ‘เทือกเขาแอลป์แห่งตะวันออก (东方的阿尔卑斯)’ ตั้งอยู่ในเขตปกครองตนเองอาป้าของชาวเชียงและชาวทิเบตในมณฑลเสฉวน ประเทศจีน บนเส้นทางระหว่างเมืองเสี่ยวจิน (Xiaojin) และเมืองเหวินฉวน (Wenchuan) อยู่ห่างจากเมืองเฉิงตูประมาณ 220 กิโลเมตร ปัจจุบันที่นี่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นอุทยานแห่งชาติ เป็นแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่สำคัญของจีน รวมถึงยังเป็นแหล่งศึกษาวิจัยทางธรณีวิทยาและชีววิทยาที่สำคัญอีกด้วย เรียกได้ว่าถ้ามีโอกาส เที่ยวจีน แล้วห้ามพลาด!

ภูเขาสี่ดรุณี สัมผัสความงามเทือกเขาแอลป์แห่งจีน - ภูเขาสี่ดรุณี หรือซื่อกู่เหนียงซาน (Siguniangshan / 四姑娘山)

ภูเขาสี่ดรุณี ขึ้นชื่อในเรื่องทัศนียภาพที่สวยงามตระการตา ความยิ่งใหญ่ของลักษณะเขาที่สูงชัน ผืนป่าที่อุดมสมบูรณ์ ธารน้ำใส สัตว์ป่าหลากหลายชนิด และเส้นทางเดินป่าที่ท้าทาย จึงเป็นจุดหมายปลายทางที่ไม่ควรพลาดสำหรับผู้รักธรรมชาติและผู้ที่แสวงหาการผจญภัย Allianz Travel เตรียมข้อมูลและไฮไลต์บนเส้นทางภูเขาสี่ดรุณี พร้อมเคล็ดลับการเดินทางที่ควรรู้มาให้เพื่อนๆ ที่กำลังสนใจไปเที่ยวกันค่ะ

ทำความรู้จักกับยอดเขาสี่ดรุณี

ภูเขาสี่ดรุณี ประกอบด้วยยอดเขาสี่ลูกที่เรียงรายติดต่อกัน ตั้งแต่ทิศเหนือถึงทิศใต้เป็นระยะประมาณ 3.5 กิโลเมตร มีความสูงจากระดับน้ำทะเลตั้งแต่ 6,250 เมตร 5,664 เมตร 5,454 เมตร และ 5,355 เมตร ตามลำดับ และเนื่องจากยอดเขาทั้งสี่นี้มีหิมะปกคลุมตลอดทั้งปี ทำให้ดูเหมือนหญิงสาว 4 คนที่คลุมศีรษะด้วยผ้าสีขาว ตั้งตระหง่านอยู่ระหว่างแม่น้ำฉางผิงโกว (长坪沟) กับ ไห่จื่อโกว (海子沟) และยอดเขาเหล่านี้มีชื่อเรียกและความสูงดังต่อไปนี้

  1. ต้ากูเหนียงเฟิง (Daguniang Feng หรือ 大姑娘峰) ความสูงจากระดับน้ำทะเล 5,355 เมตร 
  2. เอ้อกูเหนียงเฟิง (Erguniang Feng หรือ 二姑娘峰) ความสูงจากระดับน้ำทะเล 5,454 เมตร
  3. ซานกูเหนียงเฟิง (Sanguniang Feng หรือ 三姑娘峰) ความสูงจากระดับน้ำทะเล 5,664 เมตร
  4. เหยาเหม่ยเฟิง (Yaomei Feng หรือ 幺妹峰) หรือที่เรียกกันว่า ‘ยอดเขาเจ้าหญิง’ ความสูงจากระดับน้ำทะเล 6,250 เมตร เป็นยอดเขาที่สูงและท้าทายที่สุดที่ดึงดูดนักปีนเขาจากทั่วโลก
ภูเขาสี่ดรุณี สัมผัสความงามเทือกเขาแอลป์แห่งจีน - ยอดเขาสี่ดรุณี

ฤดูกาลที่ดีที่สุดในการเยี่ยมชม ภูเขาสี่ดรุณี

นักท่องเที่ยวสามารถขึ้นไปเที่ยวภูเขาสี่ดรุณีได้ทุกฤดูกาล แต่ช่วงเวลาที่ดีที่สุดในการเยี่ยมชมคือฤดูใบไม้ผลิ (เมษายนถึงมิถุนายน) และฤดูใบไม้ร่วง (กันยายนถึงพฤศจิกายน) ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่อากาศอบอุ่นและคงที่ ท้องฟ้าแจ่มใสและอุณหภูมิกำลังดี เหมาะสำหรับการเดินป่าและทำกิจกรรมกลางแจ้ง ฤดูใบไม้ผลิมีดอกไม้บานสะพรั่งและต้นไม้เขียวขจี ในขณะที่ฤดูใบไม้ร่วงก็สามารถชมความงามของใบไม้เปลี่ยนสี ที่ละลานตาไปด้วยสีเหลืองทองสลับกับสีแดง มองเห็นภาพทิวทัศน์ภูเขาหิมะสะท้อนอยู่ในธารน้ำ ทำให้เกิดฉากหลังที่งดงามสำหรับการผจญภัยของคุณ

เส้นทางท่องเที่ยวยอดนิยม

1. หุบเขาซวงเฉียว (Shuangqiao Valley หรือ 双桥沟)

ภูเขาสี่ดรุณี สัมผัสความงามเทือกเขาแอลป์แห่งจีน - หุบเขาซวงเฉียวโกว (Shuangqiao Valley หรือ 双桥沟)

มีระยะทางประมาณ 34.8 กิโลเมตร ห่างจากเมืองซื่อกู่เหนียงซาน ประมาณ 7 กิโลเมตร มีสะพานไม้ 2 แห่งซึ่งหาชมได้ยากในป่าภูเขาหิมะแห่งนี้ จึงได้รับชื่อดังกล่าวว่าหุบเขาสองสะพาน ภายในหุบเขามีภูเขา 10 ลูกที่มีความสูงเกือบ 4,000 เมตร และมีหิมะปกคลุมตลอดทั้งปี หุบเขาและลำธาร 37 แห่งหล่อเลี้ยงต้นไม้ พืช และสัตว์ที่เขียวชอุ่มโดยรอบ นอกจากนี้ หุบเขาซวงเฉียวโกวยังมีจุดชมวิวอีก 54 แห่ง ให้คุณได้แวะชื่นชมทัศนียภาพอันสวยงาม เช่น ที่ราบสูง Sapodilla ที่กว้างใหญ่ มีทุ่งหญ้าเขียวขจีและป่าไม้ที่เต็มไปด้วยดอกไม้นานาพันธุ์และล้อมรอบด้วยแม่น้ำใสคดเคี้ยว ทุ่งหญ้า Nianyuba ที่มีทุ่งหญ้าเขียวขจีกว้างไกลที่เต็มไปด้วยดอกไม้ ทิวแถวของธงสวดมนต์และความเงียบสงบที่ไม่มีที่สิ้นสุด จุดชมวิว Penjingtan ซึ่งมีชื่อเสียงในเรื่องต้นที่มีรูปร่างประหลาด เช่น บอนไซ และป่าเรดวูดที่ปลายหุบเขาซวงเฉียวโกวที่รายล้อมไปด้วยภูเขาหิมะบริสุทธิ์และเมฆ และสถานที่ท่องเที่ยวอื่นๆ อีกมากมายที่จะทำให้คุณตื่นตาตื่นใจไปกับธรรมชาติอันน่าทึ่ง หุบเขาซวงเฉียวโถวเป็นเส้นทางที่เหมาะสำหรับการเดินเล่นและถ่ายรูปพักผ่อน และมีรถบัสท่องเที่ยวให้บริการตลอดเส้นทาง ซึ่งโดยปกติจะมีจุดจอดแวะอยู่ 5 แห่ง เพื่อให้นักท่องเที่ยวได้เดินเที่ยวชมและถ่ายรูปไปทางเส้นทางเดินไม้ ใช้เวลาประมาณครึ่งวันก็เที่ยวครบตามจุดต่างๆ แล้ว

หุบเขาซวงเฉียวโกว (Shuangqiao Valley หรือ 双桥沟) - Winter

ช่วงเวลาที่ดีที่สุด: เดือนมิถุนายน-เดือนกรกฎาคม และเดือนกันยายน-เดือนตุลาคม

ระดับความสูง: 3,200 เมตร – 3,850 เมตร

ระยะเวลาเยี่ยมชมที่แนะนำ: ครึ่งวัน ถึง 1 วัน

เวลาทำการ: เปิดตลอดทั้งปี เวลา 07:00-17:00 น. (1 เม.ย.-30 พ.ย.) และเวลา 08:00-17:00 น. (1 ธ.ค.-31 มี.ค. ปีถัดไป)

ค่าเข้าชม: ค่าเข้า 80 หยวนต่อคน ค่ารถบัสท่องเที่ยว 70 หยวนต่อคน

ที่อยู่: Shuangqiaogou Scenic Area, Mount Siguniang, Xiaojin County, Aba Tibetan and Qiang Autonomous Prefecture, Sichuan Province (四川省阿坝藏族羌族自治州小金县四姑娘山双桥沟)

2. หุบเขาฉางผิง (Changping Valley หรือ 长坪沟)

ภูเขาสี่ดรุณี - หุบเขาฉางผิงโกว (Changping Valley หรือ 长坪沟)

มีความยาวประมาณ 29 กิโลเมตร ตั้งอยู่ตรงกลางของหุบเขาทั้งสามแห่ง มีสถานที่ท่องเที่ยว 21 แห่งกระจายอยู่ท่ามกลางทัศนียภาพอันสวยงามเขียวขจี หุบเขาฉางผิงโกวเป็นทางเดินป่าที่สวยงามเข้าไปตามป่าทึบที่มีแสงแดดส่องลงมาบนเส้นทางเงียบสงบและมีมอสปกคลุมอยู่มากมาย และเต็มไปด้วยความอุดมสมบูรณ์ของพืชพรรณดั้งเดิมไว้ อย่าลืมชมสถาปัตยกรรมสไตล์ทิเบต Gyarong พิเศษที่หมู่บ้าน Zhangmu ซึ่งมีประเพณีพื้นบ้านทิเบตแท้ๆ และเยี่ยมชมวัดลามะเพื่อชมกลุ่มวัด Gelugpa ทิเบตที่มีอายุมากกว่า 1,200 ปีอย่างใกล้ชิด สร้างขึ้นตั้งแต่สมัยราชวงศ์ถัง และที่ Xiemaping คุณจะได้พบกับป่าที่เต็มไปด้วยต้นซีดาร์ ต้นไซเปรส ต้นเบิร์ช ต้นซีบัคธอร์น เป็นต้น และในฤดูใบไม้ร่วง ต้นไม้ในป่าจะเปลี่ยนเป็นสีเป็นสีแดง เหลือง และเขียวสลับกันอย่างงดงามตัดกับท้องฟ้าสีฟ้า จุดชมวิวมู่หลัวซีจะเป็นพื้นที่ไร่นาอุดมสมบูรณ์ ชมฝูงวัวและม้ากินหญ้าอยู่ตามริมแม่น้ำที่ข้ามทุ่งหญ้าขนาดใหญ่ และเป็นสถานที่ที่ยอดเยี่ยมในการชมด้านหลังของภูเขาซิกูเนียง เส้นทางนี้เป็นที่ชื่นชอบของนักเดินป่า ที่ชอบเดินชมทิวทัศน์อันงดงามของยอดเขาและสภาพแวดล้อมทางธรรมชาติที่เงียบสงบ ใช้เวลาประมาณ 1 วันสำหรับการเดินทางไปกลับ

วัด Lama หุบเขาฉางผิงโกว (Changping Valley หรือ 长坪沟)

ช่วงเวลาที่ดีที่สุด: ปลายเดือนพฤษภาคม-เดือนกรกฎาคม และเดือนกันยายน-เดือนตุลาคม

ระดับความสูง: 3,200 เมตร – 5,484 เมตร

ระยะเวลาเยี่ยมชมที่แนะนำ: หนึ่งวัน

เวลาทำการ: เปิดให้บริการตลอดทั้งปี

  • 1 เม.ย.-30 พ.ย. เปิดให้บริการเวลา 07:00-17:00 น. โดยจำหน่ายตั๋วเวลา 07:00-15:30 น. (นักท่องเที่ยวไม่สามารถเข้าไปในหุบเขาได้หลังจากเวลา 15:30 น.) รถบัสท่องเที่ยวให้บริการเวลา 07:20-17:30 น.
  • 1 ธ.ค.-31 มี.ค. เปิดให้บริการเวลา 07.30-17.00 น. โดยจำหน่ายตั๋วเวลา 07.30-15.00 น. (นักท่องเที่ยวไม่สามารถเข้าไปในหุบเขาได้หลังเวลา 15.00 น.) รถบัสท่องเที่ยวให้บริการเวลา 07.30-17.00 น.

ค่าเข้าชม: ค่าเข้า 70 หยวนต่อคน (1 เมษายน-30 พฤศจิกายน) และ 50 หยวนต่อคน (1 ธันวาคม-31 มีนาคมปีหน้า) รถบัสชมเมืองราคา 20 หยวนต่อคน ซึ่งให้บริการนักท่องเที่ยวระหว่างทางเข้าและวัดลามะ ระยะทาง 7 กิโลเมตร (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 15 นาที)

ที่อยู่: Changpinggou Scenic Area, Mount Siguniang, Xiaojin County, Aba Tibetan and Qiang Autonomous Prefecture, Sichuan Province (四川省阿坝藏族羌族自治州小金县四姑娘山长坪沟)

3. หุบเขาไห่ซื่อ (Haizi Valley หรือ 海子沟)

ภูเขาสี่ดรุณี - หุบเขาไห่ซื่อโกว (Haizi Valley หรือ 海子沟)

มีความหมายว่าหุบเขาแห่งทะเลสาบ มีความยาว 19.2 กิโลเมตร และมีทัศนียภาพที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิงจากหุบเขาซวงเฉียวและหุบเขาฉางผิง ลักษณะภูมิประเทศเป็นแบบภูเขาสูง และมีทะเลสาบมากกว่า 10 แห่ง ซึ่งล้วนแต่ใสราวกับคริสตัลจนสะท้อนให้เห็นท้องฟ้าสีฟ้าและเมฆสีขาวได้อย่างชัดเจน โดยมีทะเลสาบต้าไห่จื่อ (Dahaizi Lake) เปรียบเสมือนหยกที่ฝังอยู่ในผืนผ้าสีเขียวมรกตของภูเขาและทุ่งหญ้า ทิวทัศน์ที่ปกคลุมไปด้วยหิมะระหว่างภูเขานั้นน่าตื่นตาตื่นใจมาก และสวยงามยิ่งขึ้นในฤดูร้อนด้วยดอกไม้ที่บานสะพรั่ง นอกจากทะเลสาบแล้ว หุบเขาไห่จื่อยังเป็นดินแดนแห่งมหัศจรรย์สำหรับสัตว์อีกด้วย ที่ราบสูง Guozhuangping ห่างจากเมืองซื่อกูเหนียงซานไป 7 กิโลเมตร ยังมีทิวท้ศน์ของม้าจำนวนมากยืนกินหญ้าอยู่เต็มท้องทุ่งที่แต่งแต้มด้วยดอกไม้หลากหลายชนิด ทั้งสีแดง สีขาว และอื่นๆ ในช่วงฤดูร้อน ชาวทิเบต Gyarong จะจัดงานประจำปีเพื่อบูชาภูเขาศักดิ์สิทธิ์ด้วยการร้องเพลง เต้นรำ และแข่งขัน นอกจากนี้ ที่ราบสูง Guozhaungping และที่ราบสูง Chaoshanping ยังเป็นสถานที่ที่ดีที่สุดในการชื่นชมภูเขาซื่อกูเหนียงในมุมมองที่เห็นกว้างไกล

เส้นทางเดินป่าในหุบเขาไห่จื่อ การขึ้นไปบนยอดเขาต้องมีไกด์ท้องถิ่นน้ำทางเท่านั้น แต่คุ้มค่า เพราะคุณจะได้ชมทิวทัศน์ที่สวยงามที่มีความอุดมสมบูรณ์ทางธรรมชาติตลอดทาง เส้นทางนี้ไม่มีรถให้บริการ ต้องเดินเท้าเท่านั้น ใช้เวลาประมาณ 1 วัน หรืออาจต้องพักค้างคืน เหมาะสำหรับสายเดินป่าที่ชอบความท้าทายเป็นอย่างมาก

หุบเขาไห่ซื่อโกว (Haizi Valley หรือ 海子沟) - ทะเลสาบต้าไห่จื่อ (Dahaizi Lake)

ช่วงเวลาที่ดีที่สุด: ปลายเดือนพฤษภาคม-เดือนกรกฎาคม และเดือนกันยายน-เดือนตุลาคม

ระดับความสูง: 3,200 เมตร – 4,200 เมตร

ระยะเวลาเยี่ยมชมที่แนะนำ: 1-2 วัน

เวลาทำการ: เปิดให้บริการตลอดทั้งปี

  • 1 เม.ย.-30 พ.ย. เปิดให้บริการเวลา 07:30-16:00 น. 
  • 1 ธ.ค.-31 มี.ค. เปิดให้บริการเวลา 8.00-15.30 น. 

ค่าเข้าชม: ค่าเข้า 60 หยวนต่อคน (1 เมษายน-30 พฤศจิกายน) และ 40 หยวนต่อคน (1 ธันวาคม-31 มีนาคมปีหน้า) 

ที่อยู่: Haizigou Scenic Area, Mount Siguniang, Xiaojin County, Aba Tibetan and Qiang Autonomous Prefecture, Sichuan Province (四川省阿坝藏族羌族自治州小金县四姑娘山海子沟)

เส้นทางที่แนะนำสำหรับการเดินป่าขึ้น ภูเขาสี่ดรุณี – ซื่อกู่เหนียงซาน (Siguniangshan)

คนส่วนใหญ่มักจะไปเยี่ยมชมภูเขาซื่อกู่เหนียง (Siguniangshan) เพื่อเดินป่าที่หุบเขา 1 หรือ 2 แห่งจากทั้งหมด 3 แห่ง และชมภูเขาสี่ดรุณี – ซื่อกู่เหนียงซาน (Siguniangshan) จากระยะไกล

  • หุบเขา Shuanqiao (ครึ่งวัน): ทางเข้า – Yinyanggu Valley – Yangliu Bridge – Sun & Moon Mirror – White Poplar Forest – Five Color Mountain Viewing Point – Sapodilla Plateau – Sea-buckthorn Forest – Bonsai Shoal – Nianyuba – Niupengzi – Budala Mountain Viewing Point – Large Meadow – White Sand Shoal – Maozhuwan Gully – Redwood Forest – ขากลับเหมือนเดิม (ปกติ 3 ชั่วโมงโดยรถบัส 4-5 ชั่วโมงโดยรถบัสและเดิน)

  • หุบเขา Haizi (1 วัน): ทางเข้า – Guozhaungping Plateau & Chaoshanping Plateau (admire Mount Siguniang) – Shiban Village – Dajianbao – Shishaotai – Old Cattle Garden – Large Lake – ขากลับเหมือนเดิม (8-9 ชั่วโมง)

  • หุบเขา Changping (1 วัน): ทางเข้า – Changping – Lama Monastery – Toudaoping Plateau – Erdaoping Plateau – Tang Cypress Ancient Path – Dragon Cave – Sea – Lower Dry Sea – Upper Dry Sea – Leogu Rock – Muluozi – ขากลับเหมือนเดิม (ประมาณ 7-8 ชม.)

*คลิกที่นี่เพื่อดูแผนที่เส้นทางการเดินป่า

เปรียบเทียบข้อมูลของแต่ละหุบเขา

หุบเขาที่ตั้งระยะทางรูปแบบการชมทิวทัศน์ทัศนียภาพระยะเวลาแนะนำ
หุบเขา Shuangqiaoด้านซ้าย34.8 กิโลเมตรนั่งรถบัสชมทิวทัศน์; สำรวจหุบเขาทั้งหมดได้ง่าย – ภูมิทัศน์มุมกว้างที่มีป่าล้อมรอบ
– อาจไม่เห็นยอดภูเขาซื้อกูเหนียงได้อย่างชัดเจน
ครึ่งวันหรือ 1 วัน
หุบเขา Changpingตรงกลาง29 กิโลเมตรเดินป่า, ขี่ม้า; สวรรค์สำหรับนักเดินป่าตัวยง; จบเส้นทาง 2 ใน 3 ของหุบเขา– เห็นภูเขาซื้อกูเหนียงได้อย่างชัดเจน
– ทิวทัศน์แบบที่ราบสูง
1 วัน
หุบเขา Haiziด้านขวา19.2 กิโลเมตรขี่ม้า; ระดับของการเดินป่าอยู่ในระดับยากมุมที่ดีที่สุดในการถ่ายภาพทิวทัศน์ภูเขาซื่อกู่เหนียง (Siguniangshan)1 วัน

วิธีเดินทางไปยัง ภูเขาสี่ดรุณี – ซื่อกู่เหนียงซาน (Siguniangshan)

ภูเขาสี่ดรุณีอยู่ห่างจากเมืองเฉิงตู เมืองหลวงของมณฑลเสฉวน ประมาณ 220 กิโลเมตร วิธีเดินทางมีดังนี้:

  1. เครื่องบิน: จากเมืองเฉิงตูไปยังสนามบินเหวินชวน ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง จากนั้นเดินทางต่อโดยรถบัสไปยังอุทยานแห่งชาติภูเขาสี่ดรุณี ใช้เวลาอีกประมาณ 2 ชั่วโมง
  2. รถยนต์: วิธีที่สะดวกที่สุดในการเดินทางไปยังภูเขาสี่ดรุณีคือการขับรถจากเฉิงตูไปประมาณ 4-5 ชั่วโมง คุณสามารถเช่ารถหรือจ้างคนขับส่วนตัวเพื่อการเดินทางที่สะดวกสบายยิ่งขึ้น
  3. รถประจำทางหรือรถตู้: ขึ้นรถประจำทางหรือรถตู้ได้ที่สถานีขนส่งฉาเตี้ยนจื่อเชอจ้าน (Chadianzi) เมืองเฉิงตู ที่ปลายทางเป็นเมืองเซียวจิน (Xiaojin) แล้วลงที่เมืองซื่อกูเหนียงซาน (Siguniangshan) ใช้เวลาประมาณ 5-6 ชั่วโมง ขึ้นอยู่กับสภาพการจราจรและอากาศ
  4. รถไฟ: จากเมืองเฉิงตูไปยังสถานีรถไฟเหวินชวน ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง จากนั้นเดินทางต่อโดยรถบัสไปยังอุทยานแห่งชาติภูเขาสี่ดรุณี ใช้เวลาอีกประมาณ 2 ชั่วโมง

สภาพอากาศและช่วงเวลาที่ดีที่สุดในการเยี่ยมชม ภูเขาสี่ดรุณี – ซื่อกู่เหนียงซาน (Siguniangshan)

ภูเขาสี่ดรุณี – ซื่อกู่เหนียงซาน (Siguniangshan)อยู่ในเขตมรสุมกึ่งร้อนชื้น และมีอุณหภูมิที่แตกต่างกันมากในแต่ละวันและแต่ละคืน นอกจากนี้ ชาวท้องถิ่นยังบอกอีกว่าภูเขาสี่ดรุณี – ซื่อกู่เหนียงซาน (Siguniangshan)มีสี่ฤดูกาลในแต่ละยอดเขา และทุกๆ 10 ไมล์จะมีสภาพอากาศที่แตกต่างกัน ภูเขาสี่ดรุณี – ซื่อกู่เหนียงซาน (Siguniangshan)จะค่อนข้างร้อนในช่วงเที่ยง และจะเย็นในตอนเช้าและตอนกลางคืนในฤดูใบไม้ผลิและฤดูใบไม้ร่วง อุณหภูมิเฉลี่ยในฤดูร้อนโดยทั่วไปอยู่ที่ 19°C ในขณะที่ฤดูหนาว อุณหภูมิเฉลี่ยในพื้นที่หุบเขามักจะต่ำกว่า 2°C

ซื่อกู่เหนียงซาน (Siguniangshan) - Shuangqiao Valley

ภูเขาซื่อกู่เหนียง (Siguniangshan)เหมาะแก่การเยี่ยมชมตลอดทั้งปี อย่างไรก็ตาม เดือนกรกฎาคมถึงสิงหาคมเป็นช่วงเวลาที่ดีที่สุดในการเดินทางไปภูเขาซื่อกู่เหนียง (Siguniangshan) ซึ่งคุณจะได้ชื่นชมดอกไม้หลากสีสันที่ประดับประดาทุ่งหญ้าและป่าไม้สีเขียวมรกต และสัมผัสความเย็นสบายของน้ำเย็นจากหิมะในหุบเขา นอกจากนี้ กลางเดือนตุลาคมถึงกลางเดือนพฤศจิกายนเป็นอีกฤดูกาลท่องเที่ยวยอดนิยมที่จะได้ชมความงามของใบไม้สีแดงในฤดูใบไม้ร่วงและป่าไม้ที่สลับซับซ้อนเป็นสีส้ม เหลือง ทอง และเขียว คุณจะได้ภาพถ่ายที่สวยงามในช่วงนี้อย่างแน่นอน! ช่วงเดือนธันวาคมถึงพฤษภาคมเป็นช่วงที่นักท่องเที่ยวจะมองเห็น “ภูเขาสีทอง” เปล่งประกายแสงจากดวงอาทิตย์และทะเลหมอกได้ แต่ควรหลีกเลี่ยงการเดินทางในช่วงวันหยุดนักขัตฤกษ์ (ปกติวันที่ 1-7 ตุลาคม) และวันหยุดวันแรงงาน (ต้นเดือนพฤษภาคม) เพื่อหลีกเลี่ยงนักท่องเที่ยวจำนวนมาก

ภูเขาสี่ดรุณี - ซื่อกู่เหนียงซาน (Siguniangshan) ในฤดูใบไม้ร่วง

การเตียมตัวสำหรับการเดินป่า

1. ค้นคว้าและวางแผน: ทำความเข้าใจเส้นทางการเดินป่าและระดับความยากของเส้นทาง วางแผนการเดินทางและพกแผนที่ไปด้วย

2. ความพร้อมของร่างกาย: ก่อนเดินทางควรตรวจสอบความพร้อมของร่างกายสำหรับการเดินป่า การออกกำลังกายเป็นประจำและการเดินป่าเพื่อฝึกซ้อมจะช่วยเตรียมร่างกายของคุณได้

3. เสื้อผ้าและอุปกรณ์: เตรียมเสื้อผ้าที่เหมาะสมสำหรับสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลง ควรสวมเสื้อผ้าหลายชั้น เนื่องจากอุณหภูมิอาจแตกต่างกันอย่างมากในแต่ละช่วงเวลาของวัน นอกจากนี้ คุณควรสวมรองเท้าเดินป่าที่แข็งแรง พกไม้เท้าเดินป่า ใช้เป้สะพายหลังคุณภาพดี รวมถึงพกน้ำและของว่างที่มีพลังงานสูงติดตัวไปให้เพียงพอ

4. วัฒนธรรมท้องถิ่น: ให้ความเคารพวัฒนธรรม ประเพณีและขนบธรรมเนียมในแต่ละพื้นที่ และหากต้องการถ่ายรูปคนในท้องถิ่น ก็ควรขออนุญาตก่อนถ่ายภาพเสมอ

5. โรคแพ้ความสูง: ภูเขาสี่ดรุณีตั้งอยู่บนพื้นที่สูง และบางยอดเขาสูงเกิน 6,000 เมตร หากต้องการหลีกเลี่ยงหรือบรรเทาอาการแพ้ความสูง คุณควรนอนหลับพักผ่อนและดื่มน้ำให้เพียงพอ รับประทานผัก ผลไม้ และอาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการ รักษาอารมณ์ให้สงบเพื่อให้ร่างกายผ่อนคลาย และควรเตรียมยาสำหรับโรคแพ้ความสูงติดตัวไปด้วย

6. ความปลอดภัย: หากคุณวางแผนที่จะเดินป่าหรือปีนยอดเขา คุณควรติดต่อรับบริการจากไกด์ท้องถิ่น ที่มีความรู้เกี่ยวกับภูมิประเทศและสามารถรับรองความปลอดภัยของคุณได้

7. สิ่งของจำเป็นสำหรับกรณีฉุกเฉิน: เตรียมชุดปฐมพยาบาล ไฟฉาย และนกหวีด เรียนรู้ขั้นตอนการปฐมพยาบาลเบื้องต้น

8. หลีกเลี่ยงการทิ้งขยะ: เคารพธรรมชาติและหลีกเลี่ยงการทิ้งขยะ ปฏิบัติตามหลักการ “ไม่ทิ้งร่องรอย” เพื่อรักษาสิ่งแวดล้อม

ประเทศจีนมีแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่มีความอุดมสมบูรณ์ให้เราได้ไปสัมผัสอยู่มากมาย และทิวทัศน์ธรรมชาติก็สวยงามไม่แพ้ทวีปยุโรป แถมอยู่ใกล้กับประเทศไทยและไม่ต้องขอวีซ่าอีกด้วย แต่ไม่ว่าจะเดินทางไปในประเทศที่ใกล้หรือประเทศที่ไกล สิ่งที่เราควรมีติดตัวไว้ก็คือ ประกันภัยการเดินทาง สิ่งสำคัญที่ช่วยให้คุณเดินทางได้อย่างอุ่นใจ ไร้กังวล เพียงจ่ายเงินไม่กี่บาท คุณก็จะได้รับความคุ้มครองมากมายที่ครอบคลุมเกือบทุกเหตุการณ์ไม่คาดฝันที่อาจเกิดขึ้นระหว่างเดินทาง* เช่น ความเจ็บป่วย การเกิดอุบัติเหตุ กระเป๋าหาย เที่ยวบินดีเลย์ เป็นต้น Allianz Travel ขอแนะนำ ประกันการเดินทางต่างประเทศ Dance Moves ที่จะช่วยให้ทริป การเดินทางของคุณราบรื่น ไม่มีสะดุด อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับความคุ้มครองได้ ที่นี่

*เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทกำหนด

ขอบคุณข้อมูลจาก: Sichuan Travel Guide – Attractions, Things to Do, Map & Itineraries, Discover Siguniang Mountain Ultimate Travel Guide & Tips-Chinaadventure, Siguniangshan | Visit Siguniang National Park (Sichuan, China), Mount Siguniang Trekking: Top 4 Hiking Routes, Packing List & Tips

เลือกแผนประกันเดินทางที่ใช่สำหรับคุณ ประกันการเดินทาง Dance Moves จาก Allianz Travel

เที่ยวเกาหลี

ข้อควรรู้ก่อนไปเที่ยวเกาหลีใต้

เกาหลีใต้ ดินแดนแห่งมนต์เสน่ที่ใครหลายคนต่างหลงใหล ด้วยวัฒนธรรมที่เป็นเอกลักษณ์ อาหารรสเลิศ หรือสถานที่ท่องเที่ยวที่สวยงามหลากหลาย ยิ่งไปกว่านั้น คนไทยยังสามารถเดินทางไปเที่ยวเกาหลีใต้ได้โดยไม่ต้องขอวีซ่าให้ยุ่งยาก เพียงแค่เตรียมตัวให้พร้อมและทำความเข้าใจกฎระเบียบ มารยาท และข้อห้ามต่างๆ ที่อาจแตกต่างจากประเทศไทย เพื่อให้การเดินทางท่องเที่ยวของคุณราบรื่นและสนุกสนานมากยิ่งขึ้น มีรายละเอียดอะไรบ้างมาดูกันเลยค่ะ

ต้องขอ K – ETA ก่อนเดินทางไปประเทศเกาหลีใต้

แม้คนไทยสามารถเดินทางไปเกาหลีใต้ได้โดยไม่ต้องขอวีซ่า แต่ยังจำเป็นต้องขอ K-ETA (Korea Electronic Travel Authorization) หรือระบบอนุมัติการเดินทางเข้าสู่เกาหลีใต้ทางออนไลน์อยู่ ซึ่งมีขั้นตอนการของ่ายๆ เพียงทำตามขั้นตอนดังต่อไปนี้ค่ะ

1. เข้าสู่เว็บไซต์ทางการของ K-ETA
2. กรอกข้อมูลหนังสือเดินทาง ข้อมูลส่วนตัว และแผนการเดินทาง
3. อัปโหลดรูปภาพทางการหน้าตรงพื้นหลังสีขาว และเอกสารที่จำเป็นอื่น ๆ เช่น หลักฐานการจองที่พัก
4. ชำระค่าธรรมเนียม 10,000 วอน ต่อคน
5. รอผลการอนุมัติภายใน 24 ชั่วโมง

หลังได้รับการอนุมัติ K-ETA แล้ว ก็ถึงเวลาเตรียมตัวให้พร้อมกับสิ่งที่ควรรู้เบื้องต้นก่อนไปเที่ยวเกาหลี มีอะไรมาดูกันต่อเลย

ข้อควรรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับประเทศเกาหลีใต้

  • เวลาที่เกาหลีเร็วกว่าประเทศไทย 2 ชั่วโมง
  • เกาหลีใต้มีฤดูกาล 4 ฤดูที่แตกต่างกันอย่างชัดเจน ได้แก่
    1. ฤดูร้อน (Summer) อากาศร้อนชื้น มีฝนตกและลมมรสุม ตั้งแต่เดือนมิถุนายนจนถึงต้นเดือนกันยายน อุณหภูมิประมาณ 20 ถึง 30 องศา
    2. ฤดูใบไม้ร่วง (Autumn) อากาศเย็นสบาย ฝนตกน้อย มีใบไม้เปลี่ยนสีที่สวยงาม ช่วงเดือนกันยายนถึงเดือนพฤศจิกายน อุณหภูมิประมาณ 10 ถึง 20 องศา
    3. ฤดูหนาว (Winter) อากาศหนาวเย็น มีหิมะตก อุณหภูมิต่ำสุด -10 องศา ตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนถึงอุณหภูมิประมาณ -5 ถึง 0 องศา
    4. ฤดูใบไม้ผลิ (Spring) เที่ยวเกาหลี ในช่วงฤดูใบไม้ผลิ อุณหภูมิเย็นสบายกำลังดีและมีดอกไม้หลายชนิดบาน เช่น ดอกซากุระ เริ่มช่วงปลายเดือนมีนาคมถึงสิ้นเดือนพฤษภาคม อุณหภูมิประมาณ 10 ถึง 20 องศา
เที่ยวเกาหลี

ฤดูใบไม้ร่วง (Autumn) ในประเทศเกาหลีใต้

winter in south korea

ฤดูหนาว (Winter) ในประเทศเกาหลีใต้

spring in south korea

ฤดูใบไม้ผลิ (Spring) ในประเทศเกาหลีใต้

  • ระบบไฟฟ้าในเกาหลีใช้ไฟ 220 โวลต์ (เหมือนประเทศไทย) เป็นปลั๊กกลม 2 หรือ 3 ขา (มีสายดิน) หากมีเครื่องใช้ไฟฟ้า เช่น กล้องวิดีโอ โทรศัพท์เคลื่อนที่ เครื่องเป่าผม ควรมีปลั๊กหรือ  Adapter ติดตัวไปด้วย
  • บัตรโทรศัพท์มีขายทั่วไป ตามเคาน์เตอร์โรงแรม, ซุปเปอร์มาร์เก็ต ราคา 3,000 / 5,000 และ 10,000 วอน
  • ภาษาที่ใช้เป็นภาษาเกาหลี หรือ ฮันกึล คนเกาหลีส่วนใหญ่พูดภาษาจีนได้ ส่วนภาษาอังกฤษจะพบได้ตามสถานที่ท่องเที่ยว ป้ายแนะนำสถานที่ต่างๆ มีภาษาอังกฤษเขียนบอกเอาไว้ด้วย บางสถานที่มีป้ายภาษาไทยด้วย

สิ่งที่ห้ามทำในประเทศเกาหลีใต้

กฎและวัฒนธรรมของแต่ละประเทศจะมีความแตกต่างกัน ดังนั้นหากเราเดินทางถึงเกาหลีแล้วก็อย่าลืมปฏิบัติตามทั้งสิ่งที่ควรทำและไม่ควรทำ โดยสิ่งที่ไม่ควรทำในประเทศเกาหลีมีดังนี้

  • ห้ามแอบถ่ายรูป คนเกาหลีให้ความสำคัญกับสิทธิส่วนบุคคลมาก ดังนั้นการแอบถ่ายรูปบุคคลอื่นในที่สาธารณะเป็นเรื่องที่ผิดกฎหมายอย่างมาก ดังนั้นหากเจอหนุ่มหล่อ สาวสวยที่เกาหลี ต้องยั้งใจ ห้ามหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาถ่ายรูปกันนะคะ
  • การขึ้นลงบันได และบันไดเลื่อน หากเราไม่ได้เร่งรีบก็ให้ยืนชิดขวาสำหรับบันไดเลื่อน และเดินชิดขวาสำหรับบันไดปกติ เหมือนบ้านเรานั้นเอง
  • การทานอาหาร ในร้านอาหารฟาสต์ฟู้ด หรือคาเฟ่ต่างๆ หลังทานแล้วจำเป็นต้องเก็บภาชนะ และเทขยะทิ้งลงถังขยะได้ และไม่ควรที่จะนำตะเกียบเสียบลงบนถ้วยอาหารเพราะเปรียบเสมือนการไหว้ศพหรือทำพิธีกรรมที่เกี่ยวข้องกับความตาย
  • การใช้งานรถขนส่งสาธารณะไม่ว่าจะเป็นแท็กซี่และรถไฟต่างๆ ห้ามพูดคุยเสียงดังเด็ดขาด เพราะจะเป็นการรบกวนโชเฟอร์ขับรถ หรือรบกวนคนอื่นบนรถไฟ และถือว่าเป็นการเสียมารยาทเป็นอย่างมากในเกาหลี
train in south korea
  • การเข้าห้องน้ำในเกาหลี ไม่ต้องตกใจหากเห็นฝาชักโครกปิดอยู่ เพราะนั้นถือว่าเป็นสัญญานบ่งบอกว่าชักโครกนั้นสะอาดพร้อมใช้งาน ดังนั้นหากเราทำธุระเสร็จแล้วก็อย่าลืมปิดฝาให้เรียบร้อยด้วยนะคะ
  • การช้อปปิ้ง การต่อราคาในร้านค้าที่มีป้ายราคาบ่งบอกชัดเจนถือเป็นการเสียมารยาทในเกาหลี แต่สำหรับร้านที่ไม่มีป้ายบอกราคานั้นสามารถต่อได้ตามปกติค่ะ
shopping at south korea

การศึกษากฎและธรรมเนียมปฏิบัติของประเทศที่เรากำลังจะเดินทางไปเป็นสิ่งที่จำเป็นและสำคัญ เราควรปฏิบัติตามระเบียบอย่างเคร่งครัด ดังนั้นเพื่อไม่ให้เกิดความผิดพลาด เราก็ควรศึกษาไปก่อนล่วงหน้า ที่กล่าวมาทั้งหมดเป็นสิ่งที่ต้องเตรียมตัว และข้อควรระวังที่จะทำให้เราเที่ยวได้อย่างสนุกในเกาหลี

เพื่อนๆ ที่กำลังวางแผนจะเดินทางไปเกาหลี ก็อย่าลืมสิ่งสำคัญอย่างประกันการเดินทาง และ Allianz Travel ขอนำแนะนำประกันการเดินทาง Dance Moves ที่จะช่วยให้ทริปการเดินทางของคุณราบรื่น ไม่มีสะดุดกับความคุ้มครองเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝันในต่างประเทศ ไม่ว่าจะเป็นการเจ็บป่วยขณะเดินทาง เที่ยวบินล่าช้า และอื่นๆ อีกมากมาย ที่ช่วยให้คุณทำกิจกรรมต่างๆ ตลอดทริปได้อย่างอุ่นใจ ไร้กังวล*

*เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทกำหนด

เลือกแผนประกันเดินทางที่ใช่สำหรับคุณ ประกันการเดินทาง Dance Moves จาก Allianz Travel

ประกันเดินทางต่างประเทศเปรียบเทียบ แผนรายเที่ยว vs แผนรายปี

ประกันเดินทางต่างประเทศเปรียบเทียบ แผนรายเที่ยว vs แผนรายปี แผนไหนเหมาะกับเรา?

การเดินทางท่องโลกไปยังประเทศที่คุณไม่รู้จัก หรือไปประเทศที่คุณชื่นชอบวัฒนธรรม ธรรมชาติ หรือสิ่งที่แตกต่างจากประเทศไทย ถือเป็นการผจญภัยที่น่าตื่นเต้นและเต็มไปด้วยประสบการณ์อันน่าจดจำและความทรงจำอันล้ำค่า อย่างไรก็ตาม หลังจากที่คุณตัดสินใจซื้อตั๋วเครื่องบิน และจองที่พัก เพื่อเดินทางไปยังประเทศในฝันของคุณแล้ว สิ่งที่สำคัญที่จะช่วยให้คุณหมดกังวลว่าทริปวันหยุดของคุณจะไม่สะดุดระหว่างการเดินทางหากเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันใดๆ คุณจะมีตัวช่วยให้คุณได้อุ่นใจเสมอ วันนี้เราได้นำข้อมูล ประกันเดินทางต่างประเทศเปรียบเทียบ แผนรายเที่ยว vs แผนรายปี มาให้เพื่อนๆ เพื่อเป็นตัวช่วยในการตัดสินใจเลือกซื้อประกันการเดินทางที่เหมาะสมกับการเดินทางของเรามากที่สุด

และไม่ว่าคุณจะชอบเดินทางไปต่างประเทศแบบทริปยาว ๆ ปีละครั้ง หรือทริปสั้น ๆ ปีละ 2-3 ครั้ง Allianz Travel มีแผนประกันภัยการเดินทางสำหรับนักเดินทางทุกประเภท ทั้งแผนแบบรายเที่ยว (Single Plan) ที่ครอบคลุมการเดินทางเพียงทริปเดียว และแผนแบบรายปี (Annual Plan) ที่คุ้มครองการเดินทางหลายเที่ยวในระยะเวลา 365 วัน การที่จะเลือกซื้อแผนไหนดี ก็ขึ้นอยู่กับสไตล์การเดินทางและแผนท่องเที่ยววันหยุดของคุณค่ะ

ทำความรู้จักประกันภัยการเดินทางแผนรายเที่ยว

ประกันภัยการเดินทางแผนรายเที่ยวจะให้ความคุ้มครองทริปวันหยุดของคุณจากประเทศไทยไปยังประเทศจุดหมายปลายทาง และสิ้นสุดเมื่อคุณกลับถึงประเทศไทย คุณควรทำประกันภัยการเดินทางแบบรายเที่ยวทันที่ที่คุณจองทริปวันหยุดพักผ่อนของคุณ เพราะประกันภัยการเดินทางมีความคุ้มครองครอบคลุมการยกเลิกหรือเลื่อนการเดินทางภายใน 30 วันก่อนวันที่คุณจะเริ่มการเดินทาง หากเกิดเหตุการณ์ที่คุณไม่ได้คาดหมายมาก่อน หรืออยู่นอกเนือกจากการควบคุมของคุณ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติม ที่นี่

ถ้าคุณซื้อแผนรายเที่ยวสำหรับทริปเดียว ราคาจะถูกกว่าการซื้อแผนรายปี แต่ถ้าคุณมีแผนที่จะเดินทางสัก 2-3 ทริปในแต่ละปีเราแนะนำให้คุณซื้อแผนรายปีจะคุ้มกว่า

ทำไมต้องซื้อประกันภัยการเดินทางแผนรายปี

ประกันภัยการเดินทางแผนรายปีเปรียบเสมือนเพื่อนร่วมทางที่อยู่เคียงข้างคุณตลอดทั้งปี ช่วยปกป้องคุณจากเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดที่เกิดขึ้นระหว่างทริป เช่น การยกเลิกการเดินทาง เหตุฉุกเฉินทางการแพทย์ และสัมภาระสูญหาย เป็นต้น ไม่ว่าคุณจะเดินทางกี่ครั้งก็ตาม คุณจะได้รับความคุ้มครองทุกทริปในช่วงระยะเวลาหนึ่งปีนับจากวันที่กรมธรรม์เริ่มมีผลบังคับใช้ คุณเดินทางได้มากครั้งเท่าที่คุณต้องการ และแต่ละครั้งก็ได้สูงสุดถึงจำนวนวันที่กำหนดไว้ในแต่ละแผน อ่านรายละเอียดเพิ่มเติม ที่นี่

เปรียบเทียบความแตกต่างประกันภัยการเดินทางแผนรายเที่ยว และแผนรายปี

รายละเอียดแผนรายเที่ยวแผนรายปี
แผนและความคุ้มครองเลือกประเภทแผนและความคุ้มครองตามความต้องการของแต่ละทริปได้ เช่น เดินทางเฉพาะในเอเชีย หรือเดินทางทั่วโลก แผนและความคุ้มครองมาพร้อมกับชุดสิทธิประโยชน์มาตรฐานซึ่งอาจไม่เหมาะสมสำหรับทุกการเดินทาง
ระยะเวลาคุ้มครองตั้งแต่ 1-180 วัน (ขึ้นอยู่กับจำนวนวันเดินทางของแต่ละทริป)คุ้มครองต่อเนื่องสูงสุง 365 วัน
ค่าเบี้ยประกันเบี้ยประกันคิดตามจำนวนวันเดินทางเบี้ยประกันเป็นรายปี คุ้มค่าสำหรับผู้ที่เดินทางบ่อย
ความยุ่งยากต้องซื้อทุกครั้งก่อนเดินทางซื้อครั้งเดียว เดินทางกี่ครั้งก็ได้คุ้มครองตลอดทั้งปี
ความคุ้มค่าเหมาะกับผู้ที่เดินทางไม่กี่วัน หรือเดินทางแค่ปีละครั้งเหมาะกับผู้ที่เดินทางบ่อย
วีซ่าเชงเก้นใช้ประกอบการยื่นขอวีซ่าได้ สำหรับแผนที่คุ้มครองทั่วโลก*ใช้ประกอบการยื่นขอวีซ่าได้ สำหรับแผนที่คุ้มครองทั่วโลก*

ตัวอย่างการเลือกซื้อ ประกันเดินทางต่างประเทศเปรียบเทียบ แผนรายเที่ยว vs แผนรายปี

ตัวอย่าง

คุณ Alliz มีแผนเดินทางไปประเทศญี่ปุ่น ในเดือนเมษายน 2024 เป็นเวลา 7 วัน, เดินทางไปประเทศอังกฤษ ในเดือนมิถุนายน 2024 เป็นเวลา 20 วัน, และเดินทางไปประเทศฟินแลนด์ ในเดือนธันวาคม 2024 เป็นเวลา 20 วัน และทุกทริปต้องการความคุ้มครองแบบครบถ้วนสูงสุด

จากตัวอย่าง หากลูกค้าซื้อประกันการเดินแผนรายเที่ยว และรายปี รายละเอียดค่าใช้จ่ายที่ลูกค้าต้องชำระมีดังนี้

แผนรายเที่ยว

คุณ Alliz ต้องทำการซื้อประกันการเดินทางต่างประเทศ แผนรายเที่ยว ทุกครั้งที่ออกเดินทาง โดยมีรายละเอียดดังนี้

  1. ทริปญี่ปุ่น 7 วัน
    – จำนวนผู้เดินทาง 1 คน
    – ซื้อประกันการเดินทางสำหรับเดินทางในเอเชีย แผนรายเที่ยว แผน Samba
    – ราคา 940 บาท
  2. ทริปอังกฤษ 20 วัน
    – จำนวนผู้เดินทาง 1 คน
    – ซื้อประกันการเดินทางสำหรับเดินทางทั่วโลก แผนรายเที่ยว แผน Tango
    – ราคา 2,920 บาท
  3. ทริปฟินแลนด์ 20 วัน
    – จำนวนผู้เดินทาง 1 คน
    – ซื้อประกันการเดินทางสำหรับเดินทางทั่วโลก แผนรายเที่ยว แผน Tango
    – ราคา 2,920 บาท

ราคารวมที่คุณ Alliz ต้องชำระเงินค่าเบี้ยประกันการเดินทาง แผนรายเที่ยว ในปี 2024
= 940+2,920+2,920 = 6,780 บาท

แผนรายปี

คุณ Alliz สามารถทำการซื้อประกันการเดินทางต่างประเทศ แผนรายปี เพียงครั้งเดียวในทริปแรกที่ออกเดินทาง โดยมีรายละเอียดดังนี้

ระยะเวลาของทริปการเดินทางของคุณ Alliz ในแต่ละทริปไม่เกิน 31 วัน (ทริปญี่ปุ่น 7 วัน, ทริปอังกฤษ 20 วัน, และทริปฟินแลนด์ 20 วัน) ต้องการความคุ้มครองแบบครบถ้วนสูงสุด ดังนั้นคุณ Alliz สามารถซื้อประกันการเดินทางต่างประเทศ แผนรายปี แผน Tango ระยะเวลาการเดินทางในแต่ละทริปภายใน 1 ปี ไม่เกิน 31 วันต่อทริปหรือต่อครั้งที่เดินทางได้ โดยราคารวมที่คุณ Alliz ต้องชำระเงินค่าเบี้ยประกันการเดินทาง แผนรายปี ในปี 2024
= 5,620 บาท

ซึ่งประกันการเดินทางต่างประเทศ แผนรายปี ให้ความคุ้มครองการเดินทางทั่วโลก**

สรุป

จากตัวอย่างด้านบนคุณ Alliz สามารถเลือกซื้อประกันการเดินทางต่างประเทศ แผนรายปี แผน Tango ระยะเวลาการเดินทางต่อทริปหรือต่อครั้งไม่เกิน 31 วัน ในราคา 5,620 บาท จะมีความเหมาะสมและคุ้มค่ามากกว่าซื้อประกันการเดินทาง แผนรายเที่ยว เพราะเมื่อเปรียบเทียบกับประกันการเดินทาง แผนรายเที่ยว ที่มีค่าเบี้ยประกันการเดินทางรวมทุกทริปอยู่ที่ 6,780 บาท คุณ Alliz สามารถประหยัดเงินค่าเบี้ยประกันการเดินทางสำหรับปี 2024 ไปได้ถึง 1,160 บาท

หากเพื่อนๆ ท่านไหนมีแผนการเดินทางคล้ายๆ กับคุณ Alliz หรือมีการเดินทางบ่อย การซื้อประกันการเดินทาง แผนรายปี อาจจะเหมาะสมกับการเดินทางของเพื่อน ๆ มากกว่าการซื้อประกันการเดินทาง แผนรายเที่ยว แต่ถ้าเพื่อน ๆ เดินทางไม่บ่อย ประกันการเดินทางแผนรายเที่ยวก็อาจเป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับเพื่อน ๆ ค่ะ

ถ้าคุณคิดว่าปีนี้จะมีทริปเที่ยวต่างประเทศเพียงครั้งเดียว ประกันภัยการเดินทางแผนรายเที่ยวคือตัวเลือกที่ดีที่สุดของคุณ แต่ถ้าคุณวางแผนเที่ยวต่างประเทศหลายทริปใน 1 ปี การซื้อประกันภัยการเดินทางแบบรายปีก็คุ้มมากกว่า แต่โดยรวมแล้ว การทำประกันภัยการเดินทางทุกครั้งที่ไปเที่ยวต่างประเทศก็เป็นความคิดที่ดีเสมอ เพราะจะช่วยให้คุณเดินทางได้อย่างอุ่นใจ ไร้กังวล เพียงจ่ายเงินไม่กี่บาท คุณก็จะได้ความคุ้มครองมากมายที่ครอบคลุมเกือบทุกเหตุการณ์ไม่คาดฝันที่อาจเกิดขึ้นระหว่างเดินทาง*** เช่น ความเจ็บป่วย การเกิดอุบัติเหตุ กระเป๋าหาย ไฟลท์ดีเลย์ เป็นต้น Allianz Travel ขอแนะนำ ประกันการเดินทางต่างประเทศ Dance Moves ที่จะช่วยให้ทริป การเดินทางของคุณราบรื่น ไม่มีสะดุด อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับความคุ้มครองได้ ที่นี่

*หากวีซ่าไม่ผ่าน และยังไม่ถึงวันเริ่มความคุ้มครองตามกรมธรรม์ สามารถใช้เอกสารการปฏิเสธวีซ่าเป็นหลักฐานในการขอคืนเงินค่าเบี้ยประกันได้เต็มจำนวน
**ยกเว้นประเทศที่ไม่อยู่ภายใต้ความคุ้มครองตามกรมธรรม์สำหรับเดินทางทั่วโลกได้แก่ประเทศเนปาล และประเทศที่ถูกระบุอยู่ในประเทศที่มีความเสี่ยงสูง (Sanction Countries) รวมถึงประเทศดังต่อไปนี้ อัฟกานิสสถาน, แอลจีเรีย, บุรุนดี, คองโก, คิวบา, เอริเทรีย, กินี, อิรัก, คอซอวอ, ไลบีเรีย, ลิเบีย, มอริเตเนีย, ไนเจอร์, ไนจีเรีย, เกาหลีเหนือ, เซอร์เบีย,​โซมาเลีย, ซูดาน, ซีเรีย,​ และเยเมน
***เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทกำหนด

เลือกแผนประกันเดินทางที่ใช่สำหรับคุณ ประกันการเดินทาง Dance Moves จาก Allianz Travel