เรียนต่อต่างประเทศอย่างอุ่นใจ ด้วยประกันภัยการเดินทาง OVERSEAS STUDENT CARE

เดือนมกราคมถึงเดือนมิถุนายนเป็นช่วงเวลาเตรียมตัวสมัครสอบสำหรับคนที่อยากไปศึกษาต่อต่างประเทศ และต้องเตรียมสิ่งที่จำเป็นอีกหลายอย่างในการเดินทางไปศึกษาต่อ ไม่ว่าจะเป็นการขอวีซ่านักเรียน ติดต่อที่พัก ซื้อตั๋วเครื่องบิน และสิ่งสำคัญที่จะขาดไม่ได้เลย ก็คือ หาประกันภัยการเดินทางที่มีความคุ้มครองครอบคลุมตลอดระยะเวลาที่ศึกษาต่อต่างประเทศ เพราะมหาวิทยาลัยส่วนใหญ่มักแนะนำให้ทำประกันภัยการเดินทางไปด้วย ซึ่งสาเหตุก็เพราะว่าหลายประเทศไม่มีหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า หรือหลักประกันสุขภาพที่ครอบคลุมนักศึกษาต่างชาติ ดังนั้นหากเจ็บป่วย หรือเกิดอุบัติเหตุขึ้นแล้ว เราก็อาจเสียค่าใช้จ่ายมากมายตั้งแต่หลักหมื่นไปยันหลักล้าน Allianz Travel จึงขอนำเสนอแผนประกันภัยการเดินทางสำหรับศึกษาต่อต่างประเทศ Overseas Student Care ที่พร้อมเคียงข้างคุณในทุกช่วงเวลาของการเรียนรู้

OVERSEAS STUDENT CARE

Overseas Student Care เป็นแผนประกันภัยการเดินทางที่เหมาะสำหรับนักเรียน นิสิต นักศึกษาที่จะไปศึกษาต่อต่างประเทศโดยไม่จำเป็นต้องตรวจสุขภาพก่อน แผน Overseas Student Care มอบความคุ้มครองที่เหมาะสมกับการเรียนรู้และการใช้ชีวิต ครอบคลุมค่าใช้จ่ายทุกเหตุการณ์ที่คุณไม่คาดคิด ทั้งอุบัติเหตุและสุขภาพ คุณสามารถใช้ได้กับทุกโรงพยาบาล และเครือข่ายช่วยเหลือฉุกเฉินทั่วโลกที่ให้ความช่วยเหลือได้ทันท่วงที ตลอด 24 ชั่วโมง พร้อมด้วยทีมงานที่สามารถสื่อสารได้หลายภาษา ที่พร้อมเป็นสื่อกลาง เพื่อความอุ่นใจของนักเรียนและผู้ปกครองในยามห่างไกล ที่สำคัญ เมื่อผู้เอาประกันภัยเจ็บป่วยกะทันหันระหว่างเรียน แผน Overseas Student Care ก็มอบความคุ้มครองชดเชยการสูญเสียค่าเล่าเรียนด้วย นอกจากนี้ยังมีผลประโยชน์อื่นๆ เพิ่มเติมเพื่อความอุ่นใจที่มากขึ้น เช่น การสูญหายหรือความเสียหายของกระเป๋าเดินทางหรือทรัพย์สินส่วนตัวในระหว่างการใช้บริการของบริษัทขนส่งสาธารณะ

การทำประกันภัยการเดินทางก่อนไปศึกษาต่อต่างประเทศถือเป็นเรื่องสำคัญมาก ถึงแม้ว่าเราจะมีสุขภาพร่างกายแข็งแรง ไม่ค่อยได้เจ็บไข้ได้ป่วยง่าย ๆ หรือดูแลตัวเองเพียงพอแล้ว ไม่น่าจะเกิดอุบัติเหตุอะไร และคิดว่าประกันภัยการเดินทางไม่ใช่สิ่งจำเป็นที่ต้องเสียเงินซื้อเลย แต่เหตุการณ์ไม่คาดคิดก็อาจเกิดขึ้นเมื่อไหร่ก็ได้ การทำประกันภัยการเดินทางด้วยเงินไม่กี่บาท ก็คุ้มค่ากับผลประโยชน์มากมายที่เราจะได้รับ กันไว้ก่อนแก้ แค่นี้ก็อุ่นใจ เรียนได้อย่างหายห่วงแล้วค่ะ

สิทธิประโยชน์สุดคุ้ม OVERSEAS STUDENT CARE

  • ค่ารักษาพยาบาลเนื่องจากอุบัติเหตุและเจ็บป่วยในต่างประเทศ สูงสุด 5,500,000 บาท*
  • ค่ารักษาพยาบาลต่อเนื่องในประเทศไทย (ภายใน 12 ชั่วโมง) สูงสุด 550,000 บาท*
  • ค่ารักษาพยาบาลในประเทศไทย กรณีเดินทางกลับบ้านเป็นการชั่วคราว สูงสุด 200,000 บาท*
  • การเคลื่อนย้ายฉุกเฉินทางการแพทย์ สูงสุด 5,500,000 บาท*
  • ผลประโยชน์ชดเชยการสูญเสียค่าเล่าเรียน สูงสุด 300,000 บาท*
  • ชดเชยค่ารักษาพยาบาล ไม่ต้องสำรองจ่าย
  • ไม่จำเป็นต้องตรวจสุขภาพ*
  • คุ้มครองตลอด 24 ชั่วโมง
  • มีเครือข่ายให้ความช่วยเหลือมากกว่า 400,000 แห่งทั่วโลก
  • ดูแลคุณได้ทันที อุ่นใจเหมือนอยู่บ้าน

*เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทกำหนด

พิเศษสุด ! ซื้อวันนี้ รับฟรี บัตรกำนัล STARBUCKS มูลค่า 1,200 บาท หมดเขต 30 เม.ย. 2563

ลงทะเบียนรับสิทธิ์ คลิกเลย

เรามุ่งมั่นที่จะช่วยเหลือและดูแลคุณ

อลิอันซ์ทราเวลเป็นผู้นำระดับโลกด้านประกันภัยการเดินทางและบริการช่วยเหลือทั่วไป เรามีแผนประกันภัยที่หลากหลายให้เลือก ครอบคลุมตั้งแต่แผนรายเที่ยว แผนรายปี แผนครอบครัว ไปจนถึงแผนเดินทางศึกษาต่อต่างประเทศ เราทุ่มเทที่จะให้บริการช่วยเหลือและปกป้องคุณทุกที่ ทุกเวลาเท่าที่เราจะทำได้ เราไม่ได้จำกัดอยู่แค่ประกันภัยและการให้ความช่วยเหลือ แต่เรามุ่งเน้นไปที่สิ่งที่มากกว่านั้น และทุกบริการของเราก็เพื่อลูกค้าคนสำคัญของเรา

7 มหาวิทยาลัยยอดนิยมในอังกฤษ ที่ใครก็อยากไปศึกษาต่อ

มหาวิทยาลัยในอังกฤษถือเป็นหนึ่งในตัวเลือกต้น ๆ สำหรับนักศึกษาที่อยากศึกษาต่อต่างประเทศ เนื่องด้วยความมีชื่อเสียงทางด้านวิชาการ ประวัติศาสตร์อันยาวนาน วัฒนธรรมเก่าแก่ รวมไปถึงสิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ ที่มีให้อย่างครบครัน ปัจจุบัน มหาวิทยาลัยในอังกฤษมีมากกว่า 100 แห่ง ทั้งของรัฐบาลและเอกชน บทความนี้ Allianz Travel จึงขอพาผู้อ่านไปทำความรู้จักกับ 7 มหาวิทยาลัยยอดนิยมในอังกฤษ ที่หลายคนสนใจอยากสมัครไปศึกษาต่อ จะมีที่ไหนบ้าง ไปดูกันเลยค่ะ

1.UNIVERSITY OF OXFORD

ปีก่อตั้ง : 1096

สาขาที่มีชื่อเสียง : แพทยศาสตร์, นิติศาสตร์, วรรณกรรม, ปรัชญา การเมือง และเศรษฐศาสตร์

มหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ดนับเป็นหนึ่งในมหาวิทยาลัยที่เก่าแก่ที่สุดในโลก เริ่มก่อตั้งและทำการสอนตั้งแต่ปี ค.ศ. 1096 มหาวิทยาออกซ์ฟอร์ดมีวิทยาลัยย่อยถึง 44 วิทยาลัย เปิดสอนนักศึกษาระดับปริญญาตรี โท และเอก รวมกันประมาณ 24,000 คน และในแต่ละปี มีผู้สมัครสอบระดับปริญญาตรีราว 21,500 คน ขณะที่จำนวนรับเพียง 3,330 คนเท่านั้น

ในด้านสิ่งอำนวยความสะดวก มหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ดมีห้องสมุดให้นักศึกษาเข้ามาใช้งานมากกว่า 100 ห้องสมุด และห้องสมุดที่เก่าแก่ที่สุดของมหาวิทยาลัย ก่อตั้งในปี ค.ศ. 1602 ภายในมหาวิทยาลัย ยังมีพิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์ธรรมชาติและวิทยาศาสตร์ ซึ่งจัดแสดงกระดานดำที่ใช้โดยอัลเบิร์ต ไอน์สไตน์
ปัจจุบัน ผู้นำโลกมากกว่า 30 คน นายกรัฐมนตรีอังกฤษมากกว่า 27 คน และผู้ได้รับรางวัลโนเบลอีก 50 คน เคยศึกษาที่มหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ด ผลงานทางวิชาการ ประวัติศาสตร์อันยาวนาน และสิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ สิ่งเหล่านี้ทำให้มหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ด กลายเป็นมหาวิทยาลัยอันดับต้น ๆ ของโลก และอันดับหนึ่งของเกาะอังกฤษ ซึ่งนักศึกษาจากนานาประเทศต่างก็อยากมาเรียนที่นี่กันค่ะ

2.CAMBRIDGE UNIVERSITY

ก่อตั้งปี : 1209

สาขาที่มีชื่อเสียง : คณิตศาสตร์ ฟิสิกส์ดาราศาสตร์, วิทยาศาสตร์ธรรมชาติ, นิติศาสตร์, มานุษยวิทยา, ประวัติศาสตร์

เช่นเดียวกับออกซ์ฟอร์ด มหาวิทยาลัยเคมบริดจ์ถือเป็นอีกหนึ่งมหาวิทยาลัยที่มีชื่อเสียงระดับโลก โดยเคมบริดจ์ก่อตั้งและเปิดสอนตั้งแต่ปี ค.ศ. 1209 เป็นต้นมา ปัจจุบันมีนักเรียนกว่า 23,000 คน มีวิทยาลัยถึง 31 วิทยาลัย และมีภาควิชาที่เปิดสอนมากกว่า 100 ภาควิชา

มหาวิทยาเคมบริดจ์มีชื่อเสียงในระดับโลกด้านคณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ และฟิสิกส์ มีศิษย์เก่า ที่มีชื่อเสียงด้านนี้มากมาย อาทิ Stephen Hawking และ Charles Darwin ในภาพรวม มหาวิทยาลัยเคมบริดจ์มีศิษย์เก่า คณะอาจารย์ หรือผู้ทำวิจัยได้รับรางวัลโนเบลถึง 117 คน

3.KING’S COLLEGE LONDON

ปีที่ก่อตั้ง : 1829

สาขาวิชาที่มีชื่อเสียง : แพทยศาสตร์, พยาบาลศาสตร์, วิทยาศาสตร์

มหาวิทยาลัยคิงส์คอลเลจ ตั้งอยู่ในกรุงลอนดอน ก่อตั้งเมื่อปี ค.ศ. 1829 โดยพระเจ้าจอร์จที่ 4 และดยุคแห่งเวลลิงตัน ปัจจุบันมีนักศึกษากว่า 32,895 คน แบ่งเป็นระดับปริญาตรี 19,200 คน และระดับอื่น ๆ อีก 13,690 คน คิงส์คอลเลจ ถือเป็นมหาวิทยาลัยที่มีชื่อเสียงอย่างมากด้านแพทยศาสตร์ ซึ่งมีประวัติศาสตร์อันยาวนานย้อนกลับไปถึงปีค.ศ. 1561 ที่สำคัญ ผู้ที่ได้รับรางวัลโนเบล 12 คน ล้วนได้รับจากสาขาที่เกี่ยวข้องกับแพทยศาสตร์ และวิทยาศาสตร์สุขภาพ อาทิ รางวัลโนเบลจากการวิจัยโครงสร้าง DNA, สเต็มเซลล์ และไวรัสตับอักเสบซี เป็นต้น

4.LONDON SCHOOL OF ECONOMICS

ปีที่ก่อตั้ง : 1895

สาขาวิชาที่มีชื่อเสียง : รัฐศาสตร์, สังคมศาสตร์, เศรษฐศาสตร์

สำหรับใครที่อยากศึกษาต่อด้านเศรษฐศาสตร์และรัฐศาสตร์ในประเทศอังกฤษ London School of Economics (LSE) ถือเป็นสถาบันอันดับต้น ๆ ที่อยู่ในใจของหลายคน LSE ก่อตั้งเมื่อปี ค.ศ. 1895 ปัจจุบันมีนักเรียนประมาณ 10,000 คน และประมาณร้อยละ 70 เป็นนักเรียนต่างชาติ ซึ่งนับว่ามีอัตราส่วนที่สูงสำหรับมหาวิทยาลัยในประเทศอังกฤษ

ในส่วนผลงานทางวิชาการ ร้อยละ 26 ของนักเศรษฐศาสตร์ที่ได้รับรางวัลโนเบล ล้วนเป็นศิษย์เก่า ผู้ทำวิจัย หรือคณะอาจารย์ที่ LSE ซึ่งมีจำนวนสูงมาก เมื่อเทียบกับมหาวิทยาลัยระดับโลกอื่น ๆ

5.IMPERIAL COLLEGE LONDON

ปีที่ก่อตั้ง : 1907

สาขาวิชาที่มีชื่อเสียง : วิทยาศาสตร์, เทคโนโลยี, วิศวกรรมศาสตร์, แพทยศาสตร์, บริหารธุรกิจ

มหาวิทยาลัยอิมพีเรียลคอลเลจลอนดอน เป็นหนึ่งในมหาวิทยาลัยที่มีชื่อเสียงด้านวิศวกรรมศาสตร์และเทคโนโลยีระดับโลก มหาวิทยาลัยก่อตั้งเมื่อปี 1907 ปัจจุบันมีนักเรียนเข้าศึกษาราว 18,000 คน โดยมากกว่าร้อยละ 59 เป็นนักศึกษาต่างชาติ กว่า 140 ประเทศ

ในปี 2020 มหาวิทยาลัยอิมพีเรียลคอลเลจลอนดอน ได้รับการคัดเลือกเป็นอันดับ 9 ของมหาวิทยาลัยโลกที่มีชื่อเสียง นับตั้งแต่ก่อตั้งมา มีผู้ได้รับรางวัลโนเบล 14 คน

6.UNIVERSITY COLLEGE OF LONDON

ปีที่ก่อตั้ง : 1826

สาขาวิชาที่มีชื่อเสียง : แพทยศาสตร์, นิติศาสตร์, เศรษฐศาสตร์

มหาวิทยาลัยคอลเลจออฟลอนดอน นับเป็นมหาวิทยาลัยที่เก่าแก่อันดับสามของประเทศอังกฤษ ก่อตั้งเมื่อปี ค.ศ. 1826 และนับว่าเป็นมหาวิทยาลัยแรกของประเทศ ที่เปิดโอกาสให้ผู้หญิงสามารถเข้าเรียนได้ ปัจจุบัน มหาวิทยาลัยมีนักศึกษาที่กำลังเรียนอยู่ราว 40,000 คน และกว่าร้อยละ 40 เป็นนักศึกษาต่างชาติ

ด้านผลงานทางวิชาการ มหาวิทยาลัยคอลเลจออฟลอนดอน มีผู้ได้รับรางวัลโนเบลถึง 33 คน ซึ่งเป็นศิษย์เก่า คณะอาจารย์และผู้ทำวิจัย ในปี 2020 มหาวิทยาลัยได้รับการคัดเลือกอันดับ 10 ของมหาวิทยาลัยที่มีชื่อเสียงระดับโลก

7.UNIVERSITY OF EDINBURGH

ปีที่ก่อตั้ง : 1582

สาขาวิชาที่มีชื่อเสียง : วิทยาศาสตร์, วิศวกรรมศาสตร์, แพทยศาสตร์

มหาวิทยาลัยเอดินบะระ เป็นมหาวิทยาลัยที่ตั้งอยู่ในสกอตแลนด์ ก่อตั้งเมื่อปี 1582 และถือเป็นหนึ่งในมหาวิทยาลัยที่เก่าแก่ที่สุดของสกอตแลนด์ ปัจจุบันมีนักศึกษาที่กำลังเรียนอยู่ ราว 36,000 คน โดยประมาณร้อยละ 25 เป็นนักเรียนชาวต่างชาติ

มหาวิทยาลัยเอดินบะระ มีทั้งหมด 22 คณะด้วยกัน สาขาวิชาที่มีชื่อเสียงอาทิ แพทยศาสตร์ วิทยาศาสตร์ และวิศวกรรมศาสตร์ โดยเฉพาะด้านแพทยศาสตร์ เพราะที่นี่เป็นจุดเริ่มต้นของการค้นพบยาชาและเพนิซิลลิน สำหรับใครที่เบื่ออยู่ในลอนดอนแล้ว เอดินบะระก็นับเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่น่าสนใจค่ะ

การศึกษาต่อต่างประเทศถือเป็นเรื่องสำคัญต่ออนาคต ดังนั้นจึงควรคิดให้รอบคอบ ไม่เพียงแต่พิจารณาจากความนิยมของมหาวิทยาลัย ยังต้องมองไปถึงสภาพแวดล้อม สิ่งอำนวยความสะดวก และปัจจัยอื่น ๆ ทั้ง 7 มหาวิทยาลัยที่เราแนะนำวันนี้ หวังว่าจะเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกให้ผู้อ่านได้ลองพิจารณาว่าเป็นมหาวิทยาลัยที่เหมาะกับตัวเองหรือเปล่า

และสำหรับใครที่สมัครเรียนและได้รับการคัดเลือกแล้ว หลาย ๆ มหาวิทยาลัยในประเทศอังกฤษจะแนะนำหรือบังคับให้เราทำประกันการเดินทางสำหรับศึกษาต่อต่างประเทศไปด้วย สาเหตุที่ต้องทำก็เพราะว่าเมื่อเจ็บป่วย และเกิดอุบัติเหตุขึ้นมาแล้ว ค่ารักษาพยาบาลแพงเอาเรื่องเลยค่ะ แผนประกันการเดินทางสำหรับศึกษาต่อต่างประเทศ Overseas Student Care ของ Allianz Travel ก็เป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่ช่วยคุ้มครองครอบคลุมค่ารักษาพยาบาล ที่ทำให้เรามั่นใจ ไร้กังวล มีความสุขกับการเรียนได้อย่างเต็มที่แล้วค่ะ

ขอขอบคุณข้อมูลจาก

Top Universities in the UK 2020, QS Top Universities
Best universities in the UK 2020, Times Higher Education

เรามุ่งมั่นที่จะช่วยเหลือและดูแลคุณ

อลิอันซ์ทราเวลเป็นผู้นำระดับโลกด้านประกันภัยการเดินทางและบริการช่วยเหลือทั่วไป เรามีแผนประกันภัยที่หลากหลายให้เลือก ครอบคลุมตั้งแต่แผนรายเที่ยว แผนรายปี แผนครอบครัว ไปจนถึงแผนเดินทางศึกษาต่อต่างประเทศ เราทุ่มเทที่จะให้บริการช่วยเหลือและปกป้องคุณทุกที่ ทุกเวลาเท่าที่เราจะทำได้ เราไม่ได้จำกัดอยู่แค่ประกันภัยและการให้ความช่วยเหลือ แต่เรามุ่งเน้นไปที่สิ่งที่มากกว่านั้น และทุกบริการของเราก็เพื่อลูกค้าคนสำคัญของเรา

6 ประเทศยุโรปค่าเรียนถูก สำหรับคนอยากศึกษาต่อต่างประเทศ

การศึกษาต่อต่างประเทศนับเป็นอีกทางเลือกหนึ่งสำหรับหลาย ๆ คนที่อยากหาความรู้เพิ่มเติม หรือต้องการความก้าวหน้าในหน้าที่การงาน ปัจจุบันประเทศที่คนไทยนิยมไปเรียนต่อมีทั้งยุโรป อเมริกาและเอเชีย โดยเฉพาะประเทศสหรัฐอเมริกาและอังกฤษ อย่างไรก็ตาม ถึงแม้ว่าบางประเทศ จะต้องเสียค่าใช้จ่ายเป็นเงินจำนวนหลายหลัก แต่ก็ยังมีอีกหลายประเทศที่คิดค่าเทอมต่อปีสำหรับนักศึกษาต่างชาติในราคาที่ไม่แพงมากนัก และบางประเทศอาจไม่ถึงหลักแสนด้วยซ้ำ วันนี้ Allianz Travel จึงขอพาผู้อ่านไปทำความรู้จัก 6 ประเทศยุโรปที่มีค่าเรียนในราคาที่ไม่สูงนัก เหมาะสำหรับคนงบน้อยที่อยากไปเรียนต่อ

1.GERMANY

ค่าเทอมสำหรับนักศึกษาต่างชาติ : ประมาณ 150,000 บาทต่อปี

มหาวิทยาลัยที่ได้รับความนิยม : University of Munich, University of Bonn, University of Mannheim, Wismar University

เยอรมนี ถือเป็นหนึ่งในประเทศยุโรปที่ได้รับความนิยมจากนักศึกษาต่างชาติที่เข้ามาเรียนต่อจำนวนมาก ส่วนหนึ่งเป็นเพราะค่าเทอมของมหาวิทยาลัยในเยอรมนีมีราคาไม่แพงมาก เพียงปีละประมาณ 100,000 – 200,000 บาทเท่านั้น (ก่อนปี 2017 ค่าเทอมฟรี) ที่สำคัญ ประเทศเยอรมนีมีมหาลัยที่มีชื่อเสียงระดับโลกมากมาย ซึ่งล้วนดึงดูดให้นักศึกษาต่างชาติอยากมาเรียนต่อ

อย่างไรก็ตาม ถึงแม้เยอรมนีจะเป็นประเทศที่ค่าเล่าเรียนถูก แต่ค่าครองชีพยังค่อนข้างสูง โดยประมาณอยู่ที่ 350,000 บาทต่อปี

2.FRANCE

ค่าเทอมสำหรับนักศึกษาต่างชาติ : ประมาณ 120,000 ต่อปี

มหาวิทยาลัยที่ได้รับความนิยม : École Polytechnique, Sorbonne University, École Normale Supérieure de Lyon, Sciences Po Paris

นอกเหนือไปจากวัฒนธรรม ผู้คนและสถานที่ท่องเที่ยวแล้ว ประเทศฝรั่งเศสถือเป็นแหล่งบ่มเพาะนักปรัชญา นักเศรษฐศาสตร์ และผู้มีชื่อเสียงมากมาย อีกทั้ง Sorbonne University ก็นับเป็นหนึ่งในมหาวิทยาลัยที่เก่าแก่ที่สุดในยุโรปอีกด้วย

ปัจจุบันนักศึกษาต่างชาติเริ่มหันมาให้ความสนใจศึกษาต่อประเทศฝรั่งเศสมากขึ้น เนื่องจากชื่อเสียงของมหาวิทยาลัยและค่าเทอมการศึกษาที่ถูก (บางที่ฟรี!) ซึ่งเป็นแรงดึงดูดชั้นดีให้นักศึกษาเดินทางมาเรียนต่อที่นี่ โดยค่าเทอมอยู่ที่เพียง 120,000 บาทต่อปีเท่านั้น และบางสถานศึกษาอยู่ที่เพียง 7,000 – 10,000 บาทต่อปี ขณะที่ค่าครองชีพตลอดปี ตกอยู่ที่ราว 350,000 บาทต่อปี

3.FINLAND

ค่าเทอมสำหรับนักศึกษาต่างชาติ : ประมาณ 200,000 ต่อปี (ฟรีสำหรับนักศึกษาประเทศในกลุ่ม EU)

มหาวิทยาลัยที่ได้รับความนิยม : Tampere University, University of Oulu, University of Jyväskylä, Arcada University of Applied Sciences, University of Helsinki

ฟินแลนด์ ประเทศทางกลุ่มสแกนดิเนเวียที่มีความสวยงามทั้งทางสถาปัตยกรรมและธรรมชาติ โอบล้อมด้วยขุนเขาและป่าไม้ ฟินแลนด์เป็นอีกหนึ่งประเทศที่ค่าเทอมการศึกษาสำหรับนักศึกษาต่างชาติไม่แพง อยู่ที่ประมาณ 250,000 บาทต่อปีเท่านั้น และฟินแลนด์เองก็มีทุนการศึกษาสนับสนุนนักศึกษาต่างชาติมากมาย และค่าครองชีพที่ฟินแลนด์ค่อนข้างแพง ตกอยู่ที่ราว 420,000 บาทต่อปี

4.HUNGARY

ค่าเทอมสำหรับนักศึกษาต่างชาติ : ประมาณ 70,000 ต่อปี (ฟรีสำหรับนักศึกษาประเทศในกลุ่ม EU)

มหาวิทยาลัยที่ได้รับความนิยม : Budapest University of Economic Sciences, Central European University, University of Szeged, Eötvös Loránd University

ฮังการี ประเทศที่มีกลิ่นอายยุโรปแบบย้อนยุค ทั้งทางวัฒนธรรม สถาปัตยกรรม และอาคารบ้านเรือน นักศึกษาต่างชาตินิยมมาศึกษาต่อที่ประเทศฮังการี ไม่เพียงเพราะหลงเสน่ห์ “Old Europe” เท่านั้น แต่เพราะค่าครองชีพและค่าเทอมที่แสนถูก ทำให้ฮังการีเป็นจุดหมายปลายทางของใครหลาย ๆ คน โดยที่ค่าเทอมการศึกษาเพียง 35,000 – 70,000 บาทต่อปี และค่าครองชีพตกเพียงเดือนละ ราว 17,500 ปีเท่านั้น (ประมาณ 210,000 บาทต่อปี) สำหรับใครที่มีงบไม่มาก และอยากเรียนต่อต่างประเทศ ฮังการีถือเป็นตัวเลือกอันดับต้น ๆ เลยค่ะ

5.AUSTRIA

ค่าเทอมสำหรับนักศึกษาต่างชาติ : ประมาณ 30,000 – 50,000 บาทต่อปี

มหาวิทยาลัยที่ได้รับความนิยม : University of Vienna, Vienna University of Technology, Graz University of Technology, University of Innsbruck

ออสเตรีย ดินแดนแห่งธรรมชาติ โอบล้อมด้วยขุนเขาและทะเลสาบอันแสนโรแมนติก ที่นี่ถือเป็นจุดมุ่งหมายอันดับต้น ๆ ของนักศึกษาต่างชาติ เพราะเพียงแค่มีเงินหลักหมื่น ก็สามารถเข้าเรียนที่นี้ได้แล้ว และเมื่อเทียบกับประเทศยุโรปอื่น ๆ ก็ถือว่าค่าเทอมถูกมาก ๆ เพียงแค่เทอมละ 10,000 – 30,000 บาท เท่านั้น (ถูกว่าค่าเทอมที่ไทยอีก!) และค่าครองชีพของออสเตรียอยู่ที่ราว 420,000 บาทต่อปี

6.SPAIN

ค่าเทอมสำหรับนักศึกษาต่างชาติ : ประมาณ 70,000 บาทต่อปี

มหาวิทยาลัยที่ได้รับความนิยม : Pompeu Fabra University, University of Barcelona, Autonomous University of Madrid, University of Navarra

สเปน ประเทศในฝันของใครหลาย ๆ คนที่อยากมาสัมผัสสถาปัตยกรรมโบราณและศิลปวัฒนธรรม แต่อาจไม่ได้เป็นที่นิยมมากนักในหมู่นักศึกษาที่ต้องการไปเรียนต่อต่างประเทศ เพราะคิดว่าค่าเทอมต้องแพงแน่ ๆ แต่ที่จริงแล้ว ค่าเทอมของมหาวิทยาลัยรัฐในสเปนถูกมาก เพียงปีละ 50,000 -70,000 บาทเท่านั้น และมหาวิทยาลัยในสเปนเอง หลาย ๆ มหาวิทยาลัยก็มีชื่อเสียงระดับโลก ถ้าใครยังลังเล หรือไม่รู้จะไปเรียนที่ไหนดี สเปนก็เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่น่าสนใจค่ะ

การเรียนต่อต่างประเทศ ไม่จำเป็นต้องเสียค่าใช้จ่ายจำนวนมากเสมอไป ถ้าเราเลือกประเทศและมหาวิทยาลัยให้ถูก ก็จะช่วยลดค่าใช้จ่ายไปได้จำนวนมาก ทั้ง 6 ประเทศยุโรปที่แนะนำวันนี้ ถือเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับคนงบน้อยที่อยากไปเรียนต่อต่างประเทศ

และสำหรับใครที่กำลังจะไปเรียนต่อ หลาย ๆ มหาวิทยาลัยจะแนะนำหรือบังคับให้เราทำประกันการเดินทางสำหรับศึกษาต่อต่างประเทศไปด้วย สาเหตุที่ต้องทำก็เพราะว่าเมื่อเจ็บป่วย และเกิดอุบัติเหตุขึ้นมาแล้ว ค่ารักษาพยาบาลแพงเอาเรื่องเลยค่ะ แผนประกันการเดินทางสำหรับศึกษาต่อต่างประเทศ Overseas Student Care ของ Allianz Travel ก็เป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่ช่วยคุ้มครองครอบคลุมค่ารักษาพยาบาล ที่ทำให้เรามั่นใจ ไร้กังวล มีความสุขกับการเรียนได้อย่างเต็มที่แล้วค่ะ

เรามุ่งมั่นที่จะช่วยเหลือและดูแลคุณ

อลิอันซ์ทราเวลเป็นผู้นำระดับโลกด้านประกันภัยการเดินทางและบริการช่วยเหลือทั่วไป เรามีแผนประกันภัยที่หลากหลายให้เลือก ครอบคลุมตั้งแต่แผนรายเที่ยว แผนรายปี แผนครอบครัว ไปจนถึงแผนเดินทางศึกษาต่อต่างประเทศ เราทุ่มเทที่จะให้บริการช่วยเหลือและปกป้องคุณทุกที่ ทุกเวลาเท่าที่เราจะทำได้ เราไม่ได้จำกัดอยู่แค่ประกันภัยและการให้ความช่วยเหลือ แต่เรามุ่งเน้นไปที่สิ่งที่มากกว่านั้น และทุกบริการของเราก็เพื่อลูกค้าคนสำคัญของเรา

[UK] เปรียบเทียบประกันสวัสดิการสุขภาพรัฐสำหรับนักเรียนนักศึกษา VS ประกันภัยการเดินทาง

เทียบกันเห็นๆ ระหว่างสวัสดิการด้านสุขภาพสำหรับนักเรียนของรัฐบาลอังกฤษกับประกันภัยการเดินทาง OVERSEAS STUDENT CARE

ประเทศอังกฤษเป็นหนึ่งในประเทศที่ได้รับความนิยมจากนักเรียนไทยที่จะไปเรียนต่อต่างประเทศ แต่ในระหว่างการศึกษา อาจมีการเจ็บป่วยหรืออุบัติเหตุ ถึงแม้ว่ารัฐบาลอังกฤษจะมีสวัสดิการด้านสุขภาพสำหรับนักเรียน แต่มันยังไม่ครอบคลุมทุกความต้องการของนักเรียนต่างชาติที่ไปศึกษาต่อ เช่น ค่าใช้จ่ายด้านสุขภาพจะไม่รวมถึงค่ายา โรงพยาบาลที่เข้าได้เฉพาะโรงพยาบาลรัฐเท่านั้น รอคิวนาน

1. ค่ารักษาพยาบาล

2. ค่าชดเชย

3.สิทธิประโยชน์อื่นๆเพิ่มเติม

อุ่นใจเมื่อไปศึกษาต่ออังกฤษ เพียงคุณมีประกันภัยการเดินทางนักเรียน OVERSEAS STUDENT CARE ตอบโจทย์ทุกความต้องการของนักเรียน ไม่ว่าจะเป็น ความคุ้มครองทั้งอุบัติเหตุและเจ็บป่วย เข้าโรงพยาบาลได้ทั้งของรัฐและเอกชน ชดเชยค่าเล่าเรียนระหว่างเจ็บป่วย และอื่นๆ อีกมากมาย เบี้ยประกันเริ่มต้นเพียง 4,789 บาท

รายละเอียดเปรียบเทียบสวัสดิการด้านสุขภาพของรัฐและประกันภัยการเดินทางนักเรียน OVERSEAS STUDENT CARE
ALLIANZ TRAVEL “เดินทางอุ่นใจ ปลอดภัย ไร้กังวลตลอด 24 ชั่วโมง ทั่วโลก”สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม

โทร: 02 305 8512 (จันทร์-ศุกร์ เวลา 8.30-17.30น.)
EMERGENCY ASSISTANCE: 0-2342-3237 (ตลอด 24 ชั่วโมง)
WWW.ALLIANZTRAVELTHAILAND.COM
#OVERSEASSTUDENTCARE #ALLIANZTRAVELTHAILAND
== ติดตาม FACEBOOK FAN PAGE ของ ALLIANZ TRAVEL THAILAND ได้ที่นี่ ==

เรามุ่งมั่นที่จะช่วยเหลือและดูแลคุณ

อลิอันซ์ทราเวลเป็นผู้นำระดับโลกด้านประกันภัยการเดินทางและบริการช่วยเหลือทั่วไป เรามีแผนประกันภัยที่หลากหลายให้เลือก ครอบคลุมตั้งแต่แผนรายเที่ยว แผนรายปี แผนครอบครัว ไปจนถึงแผนเดินทางศึกษาต่อต่างประเทศ เราทุ่มเทที่จะให้บริการช่วยเหลือและปกป้องคุณทุกที่ ทุกเวลาเท่าที่เราจะทำได้ เราไม่ได้จำกัดอยู่แค่ประกันภัยและการให้ความช่วยเหลือ แต่เรามุ่งเน้นไปที่สิ่งที่มากกว่านั้น และทุกบริการของเราก็เพื่อลูกค้าคนสำคัญของเรา