เที่ยวเฉิงตู ช่วงไหนดี? รวมที่เที่ยวทุกฤดูห้ามพลาด!

เที่ยวเฉิงตู ช่วงไหนดี? รวมที่เที่ยวทุกฤดูห้ามพลาด!

การ เที่ยวเฉิงตู (Chengdu) เมืองเอกของมณฑลเสฉวน ประเทศจีน ไม่ได้มีดีแค่หมีแพนด้า แต่ยังเต็มไปด้วยแหล่งท่องเที่ยวธรรมชาติ ศิลปวัฒนธรรม และแหล่งช้อปปิ้งที่หลากหลาย จุดเด่นคือ สามารถเที่ยวได้ทุกฤดู ไม่ว่าจะใบไม้ผลิ ร้อน ใบไม้ร่วง หรือหนาว ต่างก็มีเสน่ห์เฉพาะตัว บทความนี้ Allianz Travel จะพาไปดูสถานที่เที่ยวเฉิงตูที่น่าสนใจ และช่วงเวลาไหนที่ควรไป เที่ยวเฉิงตู ในแต่ละฤดู เพื่อให้คุณวางแผนการเดินทางได้ง่ายขึ้นค่ะ : )

ช่วงเวลาไหนเหมาะที่สุดในการ เที่ยวเฉิงตู?

เฉิงตูเป็นหนึ่งในจุดหมายยอดนิยมของจีน มีนักท่องเที่ยวทั้งจากจีนและต่างประเทศมาเยือนทุกปี ช่วงเวลาที่มีนักท่องเที่ยวมากที่สุดคือระหว่างเดือนมีนาคมถึงพฤศจิกายน โดยเฉพาะช่วงเดือนมีนาคม–มิถุนายน (ฤดูใบไม้ผลิ) และกันยายน–พฤศจิกายน (ฤดูใบไม้ร่วง) ถือเป็นเวลาที่ดีที่สุดในการ เที่ยวเฉิงตู เพราะอากาศเย็นสบาย อุณหภูมิกำลังพอดี เหมาะกับกิจกรรมท่องเที่ยวและการชมสถานที่ต่าง ๆ หากคุณต้องการหลีกเลี่ยงนักท่องเที่ยวจำนวนมาก ช่วงเดือนธันวาคมถึงกุมภาพันธ์เป็นช่วงเวลานอกฤดูท่องเที่ยวที่เหมาะกับการเดินทางของคุณ เพราะช่วงเวลานี้จำนวนนักท่องเที่ยวมีจำนวนไม่มาก

ฤดูกาลในเฉิงตูและมณฑลเสฉวน

ฤดูใบไม้ผลิ (Spring): มีนาคม – พฤษภาคม (March – May)

ฤดูใบไม้ผลิของเฉิงตูมาถึงเร็ว เริ่มตั้งแต่เดือนมีนาคมถึงพฤษภาคม อุณหภูมิเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 15–20°C พร้อมปริมาณฝนปานกลาง ช่วงเวลานี้ถือว่าเหมาะที่สุดในการชมแพนด้ายักษ์ที่สถานที่ท่องเที่ยวชื่อดังอย่าง ฐานอนุรักษ์แพนด้าเฉิงตู, ฐานแพนด้าตูเจียงเยี่ยน และเขตอนุรักษ์ธรรมชาติโหวหลง ซึ่งเป็นช่วงที่แพนด้าขาวดำมีความกระฉับกระเฉงที่สุด

ในฤดูใบไม้ผลิ เฉิงตูเต็มไปด้วยสีสันและชีวิตชีวา กลิ่นหอมหวานของดอกไม้และเสียงนกร้องขับกล่อมไปทั่วเมือง นักท่องเที่ยวสามารถชมดอกท้อบานที่หลงเฉวียน เดินเล่นที่สวนพฤกษศาสตร์เฉิงตูและสวนประชาชน และเพลิดเพลินกับทัศนียภาพอันสดใสของพื้นที่สีเขียวในเมือง

พื้นที่โดยรอบก็มีเสน่ห์ฤดูใบไม้ผลิไม่แพ้กัน ไม่ว่าจะเป็นภูเขาเหมิงติ้งซานที่ปกคลุมด้วยไร่ชาขาวสุดลูกหูลูกตา ทะเลดอกแพร์บานที่ตานปา หรือพิธีชุนซาน (Chunshan Assembly) อันยิ่งใหญ่ที่ภูเขาเอ๋อเหมยในช่วงเดือนมีนาคม–เมษายน ท่ามกลางทิวแถวดอกกุหลาบพันปีที่ผลิบานตลอดเส้นทาง

ฤดูร้อน (Summer): มิถุนายน – สิงหาคม (June – August)

ฤดูร้อนในเฉิงตูยาวนานและร้อน ตั้งแต่กลางเดือนพฤษภาคมถึงกลางเดือนกันยายน โดยมีความชื้นสูงและอุณหภูมิเฉลี่ยราว 30°C เพื่อหลีกเลี่ยงความร้อน สามารถไปเยือนภูเขาชิงเฉิง (Qingcheng Mountain) ซึ่งอากาศเย็นกว่าประมาณ 5–10°C ที่นี่คุณจะได้เรียนรู้ต้นกำเนิดของลัทธิเต๋า และฝึกไทชิแบบโบราณท่ามกลางบรรยากาศเขาสดชื่น

จุดพักร้อนที่ดีในฤดูร้อนอื่น ๆ ได้แก่ ตูเจียงเยี่ยน (Dujiangyan) และภูเขาเอ๋อเหมย (Mount Emei) อีกทางเลือกคือพักผ่อนในร่ม เช่น จิบชาและเล่นไพ่นกกระจอกในสวนสาธารณะประชาชน (People’s Park) หรือเยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์อย่างพิพิธภัณฑ์จินซา (Jinsha Site Museum) พิพิธภัณฑ์เฉิงตู (Chengdu Museum) และพิพิธภัณฑ์ซานซิงตู้ยี่ (Sanxingdui Museum) เพื่อเรียนรู้ประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมของเมือง

ช่วงฤดูร้อนยังมีโอกาสได้เห็นลูกแพนด้าแรกเกิดที่ศูนย์วิจัยและเพาะพันธุ์แพนด้าเฉิงตู (Chengdu Research Base of Giant Panda Breeding) อย่าลืมพกร่มเพราะอาจเจอกับฝนฟ้าคะนองแบบกะทันหัน และเตรียมแว่นกันแดดกับครีมกันแดดเพื่อป้องกันแสงแดดจ้าในฤดูนี้

ฤดูใบไม้ร่วง (Autumn): กันยายน – พฤศจิกายน (September – November)

ฤดูใบไม้ร่วงในเฉิงตู ตั้งแต่เดือนกันยายนถึงพฤศจิกายน สวยงามเป็นพิเศษ อุณหภูมิเฉลี่ยอยู่ระหว่าง 15–25°C ฝนตกน้อย และมีวันแดดออกมาก เป็นช่วงเวลาที่เหมาะสำหรับการเที่ยวชมเมืองและทำกิจกรรมกลางแจ้ง

คุณสามารถชมเสน่ห์ของแพนด้ายักษ์ที่ศูนย์วิจัยและเพาะพันธุ์แพนด้าเฉิงตู (Chengdu Research Base of Giant Panda Breeding) ในระหว่างวันที่อากาศเย็นสบายช่วยให้เดินเที่ยวได้นานหลายชั่วโมง สวนสาธารณะ วัด บ้านชงชา และพิพิธภัณฑ์ในเฉิงตูถูกตกแต่งด้วยใบแปะก๊วยสีทองที่สวยงามดึงดูดนักท่องเที่ยว

แหล่งท่องเที่ยวยอดนิยม เช่น หุบเขาจิ่วไจ้โกว (Jiuzhaigou Valley) อุทยานแห่งชาติเหลืองหลง (Huanglong Scenic Area) และภูเขาเอ๋อเหมย (Mount Emei) โชว์ทิวทัศน์ฤดูใบไม้ร่วงอันงดงาม ทะเลสาบสีฟ้าใสในจิ่วไจ้โกวตัดกับใบไม้สีแดงสดริมฝั่งหินปูนของเหลืองหลงเปลี่ยนเป็นสีเหลืองสว่าง

ฤดูหนาว (Winter): ธันวาคม – กุมภาพันธ์ (December – February)

ฤดูหนาว ช่วงเดือนธันวาคมถึงกุมภาพันธ์เป็นช่วงนอกฤดูท่องเที่ยวของเฉิงตู อากาศเย็นกว่าและค่อนข้างแห้ง ทำให้สามารถหลีกเลี่ยงนักท่องเที่ยวจำนวนมาก ชมแพนด้าน่ารักเล่นกันที่ศูนย์อนุรักษ์ หรือเดินเล่นชิล ๆ ตามถนนของเฉิงตู เพลิดเพลินกับบรรยากาศผ่อนคลาย อุณหภูมิเฉลี่ยอยู่ระหว่าง 0–15°C มกราคมบางวันอาจติดลบ แต่หิมะในเมืองหายาก โรงแรมและตั๋วเครื่องบินมักลดราคาลงอย่างมากในช่วงนี้ เหมาะสำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการประหยัดค่าใช้จ่าย

สถานที่ท่องเที่ยวสำคัญ เช่น ศูนย์อนุรักษ์แพนด้า วัด และพิพิธภัณฑ์ ยังคงเปิดให้เยี่ยมชม ในวันที่แดดออก ชาวเมืองมักออกมาอาบแดดอุ่น ๆ ที่สวนสาธารณะประชาชน (People’s Park) พร้อมกินหม้อไฟร้อน ๆ คลายความหนาว

บริเวณรอบนอกเฉิงตู ภูเขาเอ๋อเหมย (Mount Emei) ถูกปกคลุมด้วยหิมะ สวยงามในวันที่อากาศแจ่มใส สำหรับผู้ที่ชอบเล่นสกี สามารถเล่นสกีได้ที่ภูเขาหิมะซีหลิง (Xiling Snow Mountain)

สภาพอากาศและเคล็ดลับการจัดกระเป๋าในการไป เที่ยวเฉิงตู

เฉิงตูมีภูมิอากาศแบบมรสุมเขตร้อนชื้น อุณหภูมิเฉลี่ยอยู่ระหว่าง 16–27°C มีวันฝนตกประมาณ 170 วันต่อปี ทำให้สภาพอากาศเย็นสบายและชื้น แม้เดือนกรกฎาคม–สิงหาคมจะร้อนและชื้นที่สุด แต่ความร้อนจัด หนาวจัด หรือพายุรุนแรงพบได้น้อย สภาพอากาศที่น่าอยู่ทำให้สามารถเที่ยวชมธรรมชาติ ศูนย์วิจัยแพนด้า และสถานที่ประวัติศาสตร์-วัฒนธรรมของเฉิงตูได้ตลอดทั้งปี

ฤดูกาล เดือน อุณหภูมิเฉลี่ย (°C) เคล็ดลับการจัดกระเป๋า
ฤดูหนาว มกราคม 3–9°C เตรียมเสื้อผ้าอุ่น ๆ
กุมภาพันธ์ 5–11°C แนะนำแจ็กเก็ตหนา
ฤดูใบไม้ผลิ มีนาคม 8–16°C แนะนำแจ็กเก็ตอุ่น
เมษายน 13–22°C เสื้อกันฝน เสื้อแจ็กเก็ตบาง
พฤษภาคม 17–26°C เสื้อผ้าบาง, ยาแก้แพ้
ฤดูร้อน มิถุนายน 21–28°C เสื้อผ้าระบายอากาศได้ดี, หมวก
กรกฎาคม 22–30°C เสื้อผ้าบาง, อุปกรณ์กันฝน
สิงหาคม 22–30°C เสื้อกันฝน, ครีมกันแดด
ฤดูใบไม้ร่วง กันยายน 19–26°C เสื้อแจ็กเก็ตบาง
ตุลาคม 15–21°C เสื้อสเวตเตอร์บาง, แขนยาว
พฤศจิกายน 10–16°C เสื้อโค้ท, เสื้อผ้าอุ่น ๆ
ฤดูหนาว ธันวาคม 5–11°C เสื้อโค้ทหนา, ถุงมือ

ข้อมูลควรรู้ก่อนออกเดินทาง เที่ยวเฉิงตู

 สนามบินหลัก:

  • Chengdu Shuangliu (CTU) — ใกล้ตัวเมืองกว่า
  • Chengdu Tianfu (TFU) — สนามบินใหม่ที่รองรับไฟลท์ต่างประเทศเยอะขึ้น

การเดินทางในเมือง:

Metro ครอบคลุมพื้นที่ท่องเที่ยวหลัก, แท็กซี่ / เรียกรถ Didi สะดวก, รถบัสราคาประหยัดแต่ช้ากว่า

การเดินทางออกนอกเมือง:

ขึ้นรถไฟความเร็วสูง (ไป Leshan, Dujiangyan), บัส (ไปภูเขา / สกีรีสอร์ท), หรือบินต่อในประเทศ (ไป Jiuzhaigou, Huanglong)

รวมที่เที่ยวเฉิงตูพร้อมวิธีการเดินทาง

1. ศูนย์วิจัยและอนุรักษ์หมีแพนด้า (Chengdu Panda Base)

เที่ยวเฉิงตู : ศูนย์วิจัยและอนุรักษ์หมีแพนด้า (Chengdu Panda Base)

ศูนย์วิจัยและอนุรักษ์หมีแพนด้า เฉิงตู (Chengdu Research Base of Giant Panda Breeding) เป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวที่ไม่ควรพลาดเมื่อมาเยือนเฉิงตู นักท่องเที่ยวจะได้ใกล้ชิดกับหมีแพนด้ายักษ์ในสภาพแวดล้อมที่ใกล้เคียงธรรมชาติที่สุด พร้อมทั้งเรียนรู้เกี่ยวกับการวิจัย การเพาะเลี้ยง และการอนุรักษ์แพนด้า จุดไฮไลท์ที่นักท่องเที่ยวชื่นชอบคือการได้ชมความน่ารักสดใสของลูกแพนด้า ซึ่งจะทำให้ทุกคนตกหลุมรักไปกับเสน่ห์ของสัตว์ประจำถิ่นสุดหายากแห่งนี้

จุดเด่น:

  • เป็น ศูนย์เพาะพันธุ์และวิจัยแพนด้า เพื่ออนุรักษ์สายพันธุ์หมีแพนด้ายักษ์ที่เสี่ยงต่อการสูญพันธุ์
  • นักท่องเที่ยวสามารถ ชมแพนด้าในสภาพแวดล้อมจำลอง ใกล้เคียงธรรมชาติ
  • มี ลูกแพนด้า (Panda Cubs) ให้ชมช่วงเช้า ซึ่งเป็นช่วงที่แพนด้ากำลังเล่นและกินไผ่
  • มี ศูนย์นิทรรศการ ให้ความรู้เกี่ยวกับพฤติกรรม การอนุรักษ์ และการเพาะพันธุ์แพนด้า

วิธีการเดินทาง:

  • ขึ้น Metro ลงที่ Panda Avenue Station หรือ Chengdu Zoo Station
  • ต่อ Shuttle Bus / รถบัสสาย 87, 198A ไปยัง Panda Base
  • ระยะเวลาโดยรวมประมาณ 30–50 นาที จากตัวเมืองเฉิงตู

ระยะเวลาที่แนะนำ:

ครึ่งวัน โดยเฉพาะ เช้า (07:30–10:30) เพราะแพนด้าออกมากินไผ่และขยับตัวมากที่สุด

จุดเช็คอินและเคล็ดลับถ่ายรูป:

  • ลูกแพนด้าในห้อง nursery
  • ทางเดินที่มีต้นไผ่ ให้มุมถ่ายรูปสวย
  • แสงเช้าเหมาะที่สุดสำหรับถ่ายรูป เพราะนุ่มและแพนด้ากำลังเคลื่อนไหว

2. ถนนชุนซี (Chunxi Road), ตึกหมีแพนด้า IFS, Taikoo Li, และ Daci Temple

เที่ยวเฉิงตู : ตึกหมีแพนด้า IFS

ถนนชุนซี (Chunxi Road), ตึกหมีแพนด้า IFS, Taikoo Li, และ Daci Temple คือ ย่านไลฟ์สไตล์และช้อปปิ้งใจกลางเมืองเฉิงตู ที่รวมแหล่งช้อปปิ้ง ร้านอาหาร คาเฟ่ และแลนด์มาร์กสำคัญไว้ครบในพื้นที่เดียว

ถนนชุนซี (Chunxi Road)
ย่านช้อปปิ้งชื่อดังใจกลางเมืองเฉิงตู เต็มไปด้วยร้านค้าแบรนด์เนมระดับโลก สินค้าแฟชั่นท้องถิ่น ร้านอาหาร และสตรีทฟู้ดหลากหลาย เหมาะสำหรับนักท่องเที่ยวที่อยากสัมผัสวิถีชีวิตคนเมืองเฉิงตูในบรรยากาศที่คึกคักตลอดวัน

ตึกหมีแพนด้า IFS (Chengdu IFS Panda Climbing the Building)
แลนด์มาร์กสุดชิคของเฉิงตูที่ห้ามพลาด! ที่นี่มีรูปปั้นหมีแพนด้ายักษ์กำลังปีนตึก IFS สุดอลังการ กลายเป็นจุดถ่ายรูปยอดนิยมของนักท่องเที่ยว นอกจากนั้นภายในยังเป็นห้างสรรพสินค้าหรูที่รวมแบรนด์แฟชั่นและไลฟ์สไตล์ระดับโลกไว้ครบครัน

ไท่กู่หลี่ (Taikoo Li Chengdu)
แหล่งช้อปปิ้งและไลฟ์สไตล์สุดทันสมัยที่ผสมผสานสถาปัตยกรรมจีนดั้งเดิมเข้ากับความโมเดิร์นอย่างลงตัว เต็มไปด้วยร้านค้า ร้านอาหาร และคาเฟ่เก๋ ๆ เป็นจุดเช็กอินที่เหมาะสำหรับคนรุ่นใหม่ที่อยากสัมผัสความหรูหราทันสมัยแต่ยังคงกลิ่นอายวัฒนธรรมจีน

วัดต้าซื่อ (Daci Temple)
วัดเก่าแก่ใจกลางเมืองที่สงบและเงียบสงบท่ามกลางความคึกคักของย่านการค้า นักท่องเที่ยวสามารถเดินชมสถาปัตยกรรมแบบจีนโบราณ ทำบุญ สักการะ หรือแวะจิบชาชิล ๆ ในบรรยากาศสบาย ๆ เหมือนย้อนเวลาไปสู่เฉิงตูในยุคเก่า

จุดเด่น:

  • Chunxi Road – ถนนช้อปปิ้งหลักของเฉิงตู เต็มไปด้วยห้างสรรพสินค้าแบรนด์ดัง ร้านอาหาร และร้านของฝาก
  • IFS (International Finance Square) – ตึกสูงกลางเมือง มี หมีแพนด้ายักษ์ปีนตึก เป็นแลนด์มาร์กถ่ายรูปสุดฮิต
  • Taikoo Li – ย่านไลฟ์สไตล์ทันสมัย ตกแต่งสวย มีร้านคาเฟ่ บาร์ และร้านอาหารเก๋ ๆ
  • Daci Temple (วัดต้าเจี๋ย) – วัดพุทธโบราณใจกลางเมือง สงบและมีประวัติศาสตร์ยาวนาน

วิธีการเดินทาง:

  • Metro Line 2/3 Chunxi Road Station
  • เดินเชื่อมไปยัง Taikoo Li และ Daci Temple ได้สะดวก

ระยะเวลาที่แนะนำ:

2–4 ชั่วโมง (รวมช้อปปิ้ง กินข้าว และเดินชมคาเฟ่)

จุดเช็คอินและเคล็ดลับถ่ายรูป:

  • หมีแพนด้าปีนตึก IFS – มุมถ่ายรูปกลางเมืองสุดอินเทรนด์
  • ไฟย่าน Taikoo Li ยามค่ำ – แสงสีและบรรยากาศเหมาะถ่าย Instagram
  • วัด Daci Temple – เดินถ่ายรูปศาลาไม้, จิบชาในบรรยากาศสงบ

3. ถนนแพนด้า (Panda Avenue) และ เฉิงตู ทวินทาวเวอร์ (Chengdu Twin Towers)

ถนนแพนด้า (Panda Avenue) และ เฉิงตู ทวินทาวเวอร์ (Chengdu Twin Towers)

ถนนแพนด้า (Panda Avenue) และ เฉิงตู ทวินทาวเวอร์ (Chengdu Twin Towers) คือ ย่านธีมหมีแพนด้าและแลนด์มาร์กตึกสูงใจกลางเฉิงตู ที่เหมาะทั้งการเดินเล่น ช้อปปิ้ง และถ่ายรูป

ถนนแพนด้า (Panda Avenue)
เส้นทางหลักที่มุ่งหน้าไปยังศูนย์วิจัยและอนุรักษ์หมีแพนด้า เฉิงตู ถนนสายนี้เต็มไปด้วยบรรยากาศสดใสจากงานศิลป์และรูปปั้นแพนด้าในหลากหลายท่าทางน่ารัก ๆ ตลอดสองข้างทาง กลายเป็นมุมถ่ายรูปยอดนิยมสำหรับนักท่องเที่ยวที่รักแพนด้า อีกทั้งยังสะท้อนเอกลักษณ์ของเฉิงตู เมืองหลวงของหมีแพนด้าอย่างแท้จริง

เฉิงตู ทวินทาวเวอร์ (Chengdu Twin Towers)
แลนด์มาร์กสมัยใหม่ที่สูงตระหง่านและกลายเป็นสัญลักษณ์ใหม่ของเมืองเฉิงตู ตึกแฝดคู่นี้ตั้งอยู่ในเขตไฮเทค (High-Tech Zone) โดดเด่นด้วยสถาปัตยกรรมล้ำสมัย โดยเฉพาะในยามค่ำคืนที่มีการประดับไฟสุดอลังการ กลายเป็นจุดชมวิวและถ่ายภาพที่นักท่องเที่ยวไม่ควรพลาด

จุดเด่น:

  • Panda Avenue – ถนนธีมหมีแพนด้าเต็มไปด้วยงานประติมากรรม, รูปปั้น, และการตกแต่งธีมแพนด้า เหมาะสำหรับถ่ายรูปสนุก ๆ
  • Chengdu Twin Towers – ตึกคู่สูงเด่นเป็นสัญลักษณ์ของเมืองเฉิงตู สามารถถ่ายรูปตอนกลางวันหรือไฟตอนกลางคืน
  • Landmark แบบ 3D – มีจอ 3D แสดงภาพหมีแพนด้า ทำให้ได้มุมถ่ายรูปเก๋ ๆ

วิธีการเดินทาง:

  • Metro Line 1 → Century City Station
  • เดินต่อเล็กน้อย หรือเรียกรถ Didi / แท็กซี่ไปยัง Twin Towers

ระยะเวลาที่แนะนำ:

  • 2–3 ชั่วโมง
  • เหมาะสำหรับ บ่าย–เย็น เพื่อถ่ายรูปไฟเมืองตอนกลางคืน

จุดเช็คอินและเคล็ดลับถ่ายรูป:

  • หมีแพนด้า 3D บนจอ – มุมถ่ายรูปทันสมัย
  • Twin Towers – ถ่ายทั้งกลางวันและกลางคืน
  • ถนน Panda Avenue – มุมถ่ายรูปกับประติมากรรมแพนด้าและของตกแต่งธีมต่าง ๆ

4. กว่านไจ๋ (Kuanzhai Xiangzi / Kuanzhai Alley) และถนนจิ้นหลี่ (Jinli Street)

เที่ยวเฉิงตู : ถนนจิ้นหลี่ (Jinli Street)

กว่านไจ๋ (Kuanzhai Xiangzi / Kuanzhai Alley) และถนนจิ้นหลี่ (Jinli Street) คือ ย่านโบราณและถนนท่องเที่ยวแบบดั้งเดิมของเฉิงตู ที่เต็มไปด้วยสถาปัตยกรรมสไตล์จีนโบราณ, ของกินพื้นเมือง, ร้านค้า และกิจกรรมวัฒนธรรม

กว่านไจ๋ (Kuanzhai Xiangzi / Kuanzhai Alley)
ย่านถนนเก่าแก่ที่บอกเล่าเรื่องราวประวัติศาสตร์ของเฉิงตู ผ่านตรอกซอกซอยที่ยังคงสถาปัตยกรรมโบราณผสมผสานกับร้านค้า คาเฟ่ และร้านอาหารท้องถิ่น นักท่องเที่ยวสามารถเดินเล่นถ่ายรูปเพลิน ๆ ชิมของกินพื้นเมือง และสัมผัสบรรยากาศเฉิงตูในยุคเก่าได้อย่างเต็มอิ่ม

ถนนจิ้นหลี่ (Jinli Street)
อีกหนึ่งถนนโบราณชื่อดังที่มีชีวิตชีวา เต็มไปด้วยแสงไฟสีสันยามค่ำคืน ร้านค้าและแผงขายของที่ระลึก งานฝีมือ รวมถึงอาหารพื้นเมืองรสเด็ด เช่น หมาล่า ก๋วยเตี๋ยวเสฉวน และขนมท้องถิ่นต่าง ๆ ถนนจิ้นหลี่ถือเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมที่ผสมผสานความเก่าแก่กับความคึกคักของยุคใหม่ได้อย่างลงตัว

จุดเด่น:

  • Kuanzhai Xiangzi (Wide & Narrow Alley / ตรอกกว้าง–แคบ)
    • เป็นชุดตรอกเก่า 3 สาย: ตรอกกว้าง, ตรอกแคบ, ตรอกกลาง
    • สถาปัตยกรรมโบราณแบบจีนดั้งเดิม
    • ร้านกาแฟ, ร้านชา, ร้านอาหาร, ร้านของที่ระลึก
    • บรรยากาศย้อนยุคและสงบ เหมาะเดินเล่นถ่ายรูป
  • Jinli Street (ถนนจินหลี่)
    • ถนนเก่าแก่ที่มีประวัติศาสตร์กว่า 1,800 ปี
    • มีร้านขายของพื้นเมือง, ขนมท้องถิ่น, ของที่ระลึก
    • แสงไฟโคมแดงยามค่ำคืนให้บรรยากาศโรแมนติก

วิธีการเดินทาง:

  • Metro Line 4 Kuanzhai Alley Station
  • จากนั้นเดินถึง Jinli Street หรือเรียกรถสั้น ๆ

ระยะเวลาที่แนะนำ:

  • ครึ่งวัน บ่าย–ค่ำ
  • เหมาะสำหรับเดินเล่น ชมสถาปัตยกรรม ชิม Street food และถ่ายรูปโคมแดง

จุดเช็คอินและเคล็ดลับถ่ายรูป:

  • โคมแดงตามตรอก – มุมถ่ายรูปคลาสสิก
  • ร้านชาและของเก่า – ถ่ายบรรยากาศย้อนยุค
  • Street food – ของกินพื้นเมือง เช่น มันปิ้ง, เกี๊ยว, เต้าหู้ย่าง

5. วัดเหวินซู (Wenshu Monastery)

วัดเหวินซู (Wenshu Monastery)

วัดเหวินซู (Wenshu Monastery) วัดพุทธที่เก่าแก่และใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งในเมืองเฉิงตู สร้างขึ้นตั้งแต่สมัยราชวงศ์ถัง ภายในวัดมีสถาปัตยกรรมจีนโบราณอันงดงาม ศาลา เจดีย์ และพระพุทธรูปมากมายให้กราบสักการะ วัดแห่งนี้ยังเป็นศูนย์กลางทางพุทธศาสนาที่สำคัญของเสฉวน บรรยากาศเงียบสงบ เหมาะแก่การพักผ่อนใจจากความวุ่นวายของเมือง

อีกหนึ่งไฮไลท์คือ “โรงน้ำชา” ภายในวัด ที่เปิดให้นักท่องเที่ยวได้นั่งดื่มชาเสฉวนแท้ ๆ ท่ามกลางบรรยากาศร่มรื่นของสวนวัด ถือเป็นประสบการณ์ที่ช่วยเติมเต็มการมาเยือนเฉิงตูให้สมบูรณ์แบบ

จุดเด่น:

  • สถาปัตยกรรมโบราณ – อาคารไม้, ศาลา, เจดีย์ และวิหารแบบจีนดั้งเดิม
  • สวนและโรงน้ำชา – เหมาะสำหรับจิบชา, เดินชมสวน และสัมผัสวัฒนธรรมจีน
  • ความสงบท่ามกลางเมืองวุ่นวาย – เป็นพื้นที่พักใจและถ่ายรูปสวย

วิธีการเดินทาง:

  • Metro Line 1 Wenshu Monastery Station
  • หรือรถบัสสายที่ผ่านตัววัด

ระยะเวลาที่แนะนำ:

  • 1–2 ชั่วโมง
  • เหมาะสำหรับเดินชมวัดและจิบชา

จุดเช็คอินและเคล็ดลับถ่ายรูป:

  • ศาลาไม้และประตูวัด – มุมถ่ายรูปแบบดั้งเดิม
  • โรงน้ำชา – ถ่ายบรรยากาศสงบ, ลองชุดชาจีน
  • มาเช้า – เพื่อหลีกเลี่ยงนักท่องเที่ยวมาก

6. เขื่อนตูเจียงเยี่ยนและภูเขาชิงเฉิง (Dujiangyan and Mount Qingcheng)

เขื่อนตูเจียงเยี่ยนและภูเขาชิงเฉิง (Dujiangyan and Mount Qingcheng)

เขื่อนตูเจียงเยี่ยน (Dujiangyan Irrigation System) และ ภูเขาชิงเฉิง (Mount Qingcheng) คือ แหล่งมรดกโลกใกล้เฉิงตู ที่เหมาะสำหรับผู้ชื่นชอบธรรมชาติและประวัติศาสตร์จีน

เขื่อนตูเจียงเยี่ยน (Dujiangyan Irrigation System)
สิ่งมหัศจรรย์ทางวิศวกรรมชลประทานโบราณที่สร้างขึ้นมากว่า 2,000 ปี และยังคงใช้งานได้จริงจนถึงปัจจุบัน ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกโดยยูเนสโก ความพิเศษของที่นี่คือการบริหารจัดการน้ำด้วยภูมิปัญญาโบราณที่ช่วยป้องกันน้ำท่วมและหล่อเลี้ยงพื้นที่เพาะปลูกในเสฉวนมาตลอดหลายศตวรรษ นักท่องเที่ยวสามารถเดินชมทัศนียภาพเขื่อน แม่น้ำ และสะพานแขวน พร้อมเรียนรู้เรื่องราวทางประวัติศาสตร์ที่น่าทึ่ง

ภูเขาชิงเฉิง (Mount Qingcheng)
ภูเขาศักดิ์สิทธิ์ที่ได้รับการยกย่องว่าเป็นหนึ่งในต้นกำเนิดของลัทธิเต๋า โดดเด่นด้วยป่าเขียวขจีตลอดปี และบรรยากาศสงบเงียบเหมาะแก่การปลีกวิเวก ที่นี่มีเส้นทางเดินป่าขึ้นสู่ยอดเขา ผ่านวัดและศาลาโบราณหลายแห่ง นักท่องเที่ยวที่ชื่นชอบธรรมชาติและวัฒนธรรมสามารถสัมผัสทั้งความงดงามของภูเขาและกลิ่นอายปรัชญาเต๋าไปพร้อมกัน

จุดเด่น:

  • เขื่อนตูเจียงเยี่ยน (Dujiangyan)
    • ระบบชลประทานโบราณอายุเกือบ 2,200 ปี
    • เป็นมรดกโลกด้านวัฒนธรรมและวิศวกรรม
    • วิวแม่น้ำและภูมิทัศน์สวย เหมาะสำหรับถ่ายภาพ
  • ภูเขาชิงเฉิง (Mount Qingcheng)
    • ภูเขาศักดิ์สิทธิ์แห่งลัทธิเต๋า
    • มีวัดและศาลาที่เก่าแก่
    • เส้นทางเดินป่าไม่ยากจนเกินไป เหมาะกับวันทริปใกล้เมือง

วิธีการเดินทาง:

  • รถไฟความเร็วสูง / รถไฟท้องถิ่น จากเฉิงตูไป Dujiangyan ประมาณ 20–50 นาที
  • ต่อ รถบัสหรือแท็กซี่ ขึ้นไป Mount Qingcheng
  • เส้นทางนี้สะดวกและนิยมเป็น ทริปวันเดียวจากเฉิงตู

ระยะเวลาที่แนะนำ:

  • 1 วัน
    • เช้า: เขื่อน Dujiangyan
    • บ่าย: Mount Qingcheng
  • สามารถแบ่งเป็น 2 วัน หากต้องการเดินหลายเส้นทาง

จุดเช็คอินและเคล็ดลับถ่ายรูป:

  • วิวเขื่อน และ สะพาน Anlan
  • วัดบนภูเขา Qingcheng
  • สวมรองเท้าสบายสำหรับเดิน เพราะบางจุดเป็นบันไดขึ้นเขา

7. Selfie Panda, Yangtianwo Square (Dujiangyan)

Selfie Panda, Yangtianwo Square (Dujiangyan)

Selfie Panda คือแลนด์มาร์กห้ามพลาดในเมืองตูเจียงเอี้ยน (Dujiangyan) ตั้งอยู่ที่ Yangtianwo Square จุดนี้มีหมีแพนด้ายักษ์ในท่านอนตะแคงขนาดใหญ่ที่สุดในโลก (สูงกว่า 26 เมตร) ออกแบบมาให้เป็นมุมถ่ายรูปสุดเก๋ที่ทั้งนักท่องเที่ยวจีนและต่างชาติแวะมาเช็กอิน

จุดเด่น:

  • แพนด้ายักษ์ขนาดมหึมา – รูปปั้นสูงกว่า 26 เมตร นอนเอียงบนภูเขาจำลอง
  • แลนด์มาร์กใหม่ของ Dujiangyan – เหมาะสำหรับสายโซเชียล ถ่ายเซลฟี่ มุมไหนก็โดดเด่น
  • บรรยากาศรอบ ๆ จัตุรัส – มีพื้นที่กว้างสำหรับเดินเล่น พักผ่อน และถ่ายรูป

วิธีการเดินทาง:

  • อยู่ใจกลางเมืองตูเจียงเอี้ยน (ห่างจากเฉิงตูประมาณ 55 กม.)
  • รถไฟจากเฉิงตูไป Dujiangyan ใช้เวลาเพียง 30–40 นาที
  • จากสถานีรถไฟต่อแท็กซี่ประมาณ 10–15 นาที ถึง Yangtianwo Square

ระยะเวลาที่แนะนำ:

  • ครึ่งวัน – แวะชม Selfie Panda + เที่ยวเมืองตูเจียงเอี้ยน
  • ตอนเย็น – มีการเปิดไฟสวย ๆ รอบตัวแพนด้า เหมาะสำหรับถ่ายรูปยามค่ำ

จุดเช็คอินและเคล็ดลับถ่ายรูป:

  • มุมตรงด้านหน้าแพนด้า – เห็นตัวใหญ่เต็มเฟรม
  • ถ่ายมุมกว้างจากด้านล่าง – ได้สัดส่วนยักษ์อลังการ
  • ช่วงเย็น – ไฟประดับเปิด ทำให้ภาพดูมีชีวิตชีวา
  • เตรียม เลนส์มุมกว้าง หรือไม้เซลฟี่ เพื่อเก็บวิวเต็มตัวแพนด้า

8. พระใหญ่เล่อซาน (Leshan Giant Buddha)

เที่ยวเฉิงตู : พระใหญ่เล่อซาน (Leshan Giant Buddha)

พระใหญ่เล่อซาน (Leshan Giant Buddha) พระพุทธรูปหินแกะสลักขนาดมหึมา สูงถึง 71 เมตร ตั้งอยู่ที่ปากแม่น้ำมินเจียง เป็นหนึ่งในมรดกโลกของยูเนสโก และถือเป็นพระพุทธรูปหินแกะสลักที่ใหญ่ที่สุดในโลก นักท่องเที่ยวสามารถชมพระใหญ่จากระเบียงด้านบน หรือเลือกล่องเรือชมวิวเต็มองค์จากแม่น้ำเพื่อซึมซับความยิ่งใหญ่และความสงบของสถานที่ นอกจากความยิ่งใหญ่แล้ว บริเวณรอบ ๆ ยังเต็มไปด้วยภูมิทัศน์ธรรมชาติสวยงาม เหมาะสำหรับทั้งคนที่ชื่นชอบประวัติศาสตร์ ศิลปะ และธรรมชาติในทริปเดียว

จุดเด่น:

  • ขนาดมหึมา – สูง 71 เมตร กว้าง 28 เมตร ถือเป็นพระพุทธรูปแกะสลักหินที่ใหญ่ที่สุดในโลก
  • มรดกโลก UNESCO – เป็นตัวอย่างของศิลปกรรมและวิศวกรรมจีนโบราณ
  • วิวรอบ ๆ – สามารถชมจาก ยอดเขา หรือ ล่องเรือในแม่น้ำ ให้มุมมองที่แตกต่าง

วิธีการเดินทาง:

  • รถไฟความเร็วสูง (HSR) จากเฉิงตูไป Leshan ประมาณ น้อยกว่า 1 ชั่วโมง
  • จากสถานี Leshan ต่อ แท็กซี่ หรือเดินไปจุดชมพระพุทธรูป
  • สามารถเลือก ล่องเรือชมพระจากน้ำ เพื่อมุมกว้าง

ระยะเวลาที่แนะนำ:

  • ครึ่งวัน – 1 วัน
  • เหมาะสำหรับทั้งการชมพระและล่องเรือ

จุดเช็คอินและเคล็ดลับถ่ายรูป:

  • จุดล่องเรือ – ให้ภาพมุมกว้างของพระใหญ่
  • จุดชมจากยอดเขาด้านหน้า – ถ่ายองค์พระเต็มตัว
  • ถ้ามีเวลา ให้ขึ้นเรือเพื่อได้มุมภาพที่ดีที่สุด

9. จิ่วไจ้โกว (Jiuzhaigou) และอุทยานหวงหลง (Huanglong)

เที่ยวเฉิงตู : จิ่วไจ้โกว (Jiuzhaigou)

จิ่วไจ้โกว (Jiuzhaigou) & อุทยานหวงหลง (Huanglong) คือ อุทยานธรรมชาติระดับโลกในมณฑลเสฉวน ที่มีชื่อเสียงเรื่อง ทะเลสาบสีสวย น้ำตก และป่าไม้ เหมาะสำหรับนักท่องเที่ยวที่อยากสัมผัสธรรมชาติอลังการ

หุบเขาจิ่วไจ้โกว (Jiuzhaigou Valley)
หรือที่แปลตรงตัวว่า “หุบเขาหมู่บ้านทั้งเก้า” ได้ชื่อนี้มาจากเก้าหมู่บ้านแบบทิเบตที่ตั้งอยู่ในหุบเขา ที่นี่เป็นมรดกโลกทางธรรมชาติที่องค์การยูเนสโกขึ้นทะเบียนไว้ มีชื่อเสียงระดับโลกในด้านทิวทัศน์น้ำที่น่าพิศวง ไม่ว่าจะเป็นน้ำตกที่พลิ้วไหว ทะเลสาบสีฟ้าและสีเขียวใสสะอาดระยิบระยับ น้ำพุที่ไหลริน และภูเขาที่ปกคลุมด้วยป่าเขียวขจี ทิวทัศน์ตามธรรมชาติทำให้นักเดินทาง ช่างภาพ และผู้หลงรักธรรมชาติต่างแวะเวียนมาไม่ขาดสาย เมื่อเข้าสู่ฤดูใบไม้ร่วง ป่าไม้ในหุบเขาจิ่วไจ้โกวจะเปลี่ยนสีสันสุดตระการตา ไล่เฉดตั้งแต่แดง ทอง ส้ม ไปจนถึงชาดสดใส พืชน้ำที่ก้นทะเลสาบก็เผยสีสันเข้มข้น เมื่อลองมองจากมุมสูง จะเหมือนกับว่าสีสันแห่งฤดูใบไม้ร่วงถูกเทลงไปในผืนน้ำ ทำให้หุบเขาจิ่วไจ้โกวกลายเป็นดินแดนเทพนิยายที่มีอยู่จริง หากคุณอยากชมวิวฤดูใบไม้ร่วงที่งดงามที่สุดของจีน ที่นี่ถือเป็นหนึ่งในตัวเลือกที่ดีที่สุดอย่างไม่ต้องสงสัย

เที่ยวเฉิงตู : อุทยานแห่งชาติเหลืองหลง (Huanglong National Park)

อุทยานแห่งชาติหวงหลง (Huanglong National Park)
โดดเด่นด้วยภูมิทัศน์มหัศจรรย์ของชั้นหินปูนและแอ่งน้ำขั้นบันไดที่งดงาม มักถูกจัดให้อยู่ในโปรแกรมท่องเที่ยวคู่กับจิ่วไจ้โกว ระยะทางระหว่างกันราว 110 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางโดยรถประมาณ 2 ชั่วโมงครึ่ง ประตูสู่จิ่วไจ้โกวที่ดีที่สุดคือเมืองเฉิงตู โดยคุณสามารถเดินทางจากเฉิงตูได้ทั้งรถยนต์หรือเครื่องบิน นักท่องเที่ยวบางส่วนก็เลือกบินจากฉงชิ่งหรือซีอานไปยังจิ่วไจ้โกวเช่นกัน

จุดเด่น:

  • จิ่วไจ้โกว (Jiuzhaigou Valley)
    • หุบเขา, ทะเลสาบสีฟ้าใส, น้ำตก, ป่าไม้และภูเขา
    • ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็น มรดกโลก UNESCO
    • เหมาะสำหรับถ่ายภาพ landscape, hiking ระดับง่าย–กลาง
  • อุทยานหวงหลง (Huanglong National Park)
    • มี บ่อน้ำสีรุ้งและธารน้ำแร่ขั้นบันได
    • ธรรมชาติสวยงามเหมาะสำหรับ ถ่ายรูป panorama
    • อยู่ใกล้ Jiuzhaigou สามารถเที่ยวต่อเนื่องได้

วิธีการเดินทาง:

  • บินจากเฉิงตู (CTU) → Jiuzhai Huanglong Airport
  • จากสนามบินต่อ รถบัส / รถเช่า ไป Jiuzhaigou (~1 ชั่วโมง) และ Huanglong (~1 ชั่วโมง)
  • หากไม่มีไฟลท์ สามารถใช้ รถบัสหรือรถเช่าจากเฉิงตู แต่ใช้เวลาหลายชั่วโมง

ระยะเวลาที่แนะนำ:

  • 2 – 3 วัน
    • Jiuzhaigou 1 – 2 วัน
    • Huanglong ครึ่งวัน – 1 วัน

จุดเช็คอินและเคล็ดลับถ่ายรูป:

  • Mirror Lake (Jiuzhaigou) – เงาสะท้อนน้ำสวยที่สุด
  • Nuorilang Waterfall (Jiuzhaigou) – น้ำตกใหญ่และถ่ายรูปได้หลายมุม
  • Five-Color Pond (Huanglong) – น้ำสีรุ้งขั้นบันได
  • เคล็ดลับ: จองตั๋วเข้าอุทยานและที่พักล่วงหน้า โดยเฉพาะช่วง ฤดูใบไม้เปลี่ยนสี หรือ ฤดูร้อน

10. ภูเขาหิมะกลาเซียร์ ต๋ากู่ปิงชวน (Dagu Glacier National Park)

ภูเขาหิมะกลาเซียร์ ต๋ากู่ปิงชวน (Dagu Glacier National Park)

ภูเขาหิมะกลาเซียร์ ต๋ากู่ปิงชวน (Dagu Glacier National Park)
อุทยานธารน้ำแข็งที่ตั้งอยู่ในมณฑลเสฉวน โดดเด่นด้วยภูมิทัศน์หิมะขาวโพลน ยอดเขาสูง และธารน้ำแข็งที่สวยงามตระการตา นักท่องเที่ยวสามารถเดินชมธรรมชาติแบบใกล้ชิด ถ่ายรูปวิวหิมะสุดอลังการ หรือสัมผัสความหนาวเย็นและความสงบของภูเขาสูง ที่นี่เป็นจุดหมายที่เหมาะสำหรับคนรักธรรมชาติและการผจญภัย

จุดเด่น:

  • ธารน้ำแข็ง Dagu – ธารน้ำแข็งขนาดใหญ่และสวยงาม สามารถชมวิวได้จากหลายจุด
  • ภูเขาและธรรมชาติสูง – เหมาะสำหรับการเดินป่า, ถ่ายภาพ landscape และชมวิวธรรมชาติ
  • กระเช้าชมวิว – มีบริการขึ้นกระเช้าเพื่อชมยอดเขาและธารน้ำแข็งจากมุมสูง

วิธีการเดินทาง:

  • รถบัส / รถเช่า จากเฉิงตู ประมาณ 7–8 ชั่วโมง
  • นักท่องเที่ยวส่วนมาก เช่ารถหรือจองทัวร์ เพราะพื้นที่อยู่ไกลและการเดินทางค่อนข้างซับซ้อน

เวลาที่แนะนำ:

  • 2 วัน
  • ใช้เวลาเดินชมธารน้ำแข็งและภูมิประเทศรอบ ๆ

จุดเช็คอินและเคล็ดลับถ่ายรูป:

  • จุดชมวิว 4,800 เมตร – ได้ภาพ panorama ของธารน้ำแข็ง
  • กระเช้าไฟฟ้า – มุมสูงสำหรับถ่ายวิวภูเขาและธารน้ำแข็ง
  • เตรียมตัวให้พร้อม – รองเท้าสำหรับเดินป่า, เสื้อกันหนาว, และตรวจสภาพอากาศ

11. ภูเขาสี่ดรุณี (Mount Siguniang)

เที่ยวเฉิงตู : ภูเขาสี่ดรุณี (Mount Siguniang)

ภูเขาสี่ดรุณี (Mount Siguniang) ภูเขาสูงตระหง่านในมณฑลเสฉวนที่ได้รับฉายาว่า “อัลไพน์แห่งจีน” โดดเด่นด้วยยอดเขาสูงและหุบเขาที่เต็มไปด้วยธรรมชาติอันงดงาม ทั้งป่าเขียว ทุ่งดอกไม้ และลำธารใส นักท่องเที่ยวสามารถเดินป่า ปีนเขา หรือชมวิวทิวทัศน์จากจุดชมวิวต่าง ๆ ได้ตลอดทั้งปี โดยเฉพาะในฤดูใบไม้เปลี่ยนสีที่จะเห็นภูเขาแต่งแต้มด้วยสีสันสุดอลังการ ที่นี่เหมาะสำหรับผู้รักธรรมชาติและนักผจญภัยที่อยากสัมผัสความสงบและความยิ่งใหญ่ของภูเขาสูงในเสฉวน ใครที่มีโอกาสไป เที่ยวเฉิงตู ไม่ควรพลาด สำหรับเพื่อน ๆ ที่สนใจเดินทางไปภูเขาสี่ดรุณี (Mount Siguniang) สามารถดูข้อมูลแบบละเอียดเกี่ยวกับการเดินทางได้ที่บทความ ภูเขาสี่ดรุณี สัมผัสความงามเทือกเขาแอลป์แห่งจีน เพื่อใช้เป็นตัวช่วยในการวางแผนทริปการเดินทางของคุณได้เลยค่ะ

จุดเด่น:

  • ยอดเขา 4 ยอด (Four Sisters Peaks) – ยอดสูงสุดคือ Yaomei Peak สูงกว่า 6,250 เมตร
  • หุบเขาและทะเลสาบสวยงาม – เช่น Shuangqiao Valley และ Haizi Valley
  • ธรรมชาติอลังการ – เหมาะสำหรับ trekking ระดับกลาง–สูง, ถ่ายภาพภูเขาหิมะ, ป่าไม้, และทะเลสาบ

วิธีการเดินทาง:

  • ระยะทางจากเฉิงตู ~200 กม. ใช้เวลาประมาณ 4–5 ชั่วโมง โดย รถยนต์ / รถเช่า / รถบัส
  • ไม่มีรถไฟตรงไปยังฐานเขา (Rilong หรือ Xiaojin)
  • นักท่องเที่ยวส่วนมาก เช่ารถหรือจองทัวร์จากเฉิงตู

ระยะเวลาที่แนะนำ:

  • 2–3 วัน
  • เหมาะสำหรับ trekking หลายเส้นทางหรือพักโฮมสเตย์ในหุบเขา

จุดเช็คอินและเคล็ดลับถ่ายรูป:

  • Yaomei Peak (ยอดสูงสุด) – มุมถ่ายภาพภูเขาหิมะอลังการ
  • Shuangqiao Valley และ Haizi Valley – ทะเลสาบและวิวภูเขา
  • ฤดูใบไม้เปลี่ยนสี / ฤดูหนาว – วิวสวยมาก
  • เตรียมรองเท้า trekking และเช็กสภาพอากาศ / การอนุญาตเส้นทางก่อนออกเดินทาง

12. ภูเขาหิมะซีหลิง (Xiling Snow Mountain)

ภูเขาหิมะซีหลิง (Xiling Snow Mountain)

ภูเขาหิมะซีหลิง (Xiling Snow Mountain / Xiling Xue Shan) ภูเขาหิมะชื่อดังของมณฑลเสฉวนที่เต็มไปด้วยทิวทัศน์ธรรมชาติสุดอลังการ ตลอดปีจะเห็นยอดเขาที่ปกคลุมด้วยหิมะและป่าไม้เขียวขจี นักท่องเที่ยวสามารถทำกิจกรรมกลางแจ้งหลากหลาย เช่น การเดินป่า, ปีนเขา, เล่นสกี หรือชมวิวทะเลหมอกยามเช้า จุดชมวิวบนยอดเขาเป็นจุดถ่ายภาพยอดนิยมที่สามารถมองเห็นธรรมชาติรอบด้านได้อย่างกว้างไกล ภูเขาซีหลิงเหมาะสำหรับสายธรรมชาติและนักผจญภัยทุกวัย ที่ต้องการสัมผัสความสงบและความยิ่งใหญ่ของภูเขาหิมะใกล้เฉิงตู

จุดเด่น:

  • รีสอร์ทสกีและกิจกรรมหิมะ – มีลานสกีสำหรับผู้เริ่มต้นและระดับกลาง
  • กระเช้าชมวิว – ขึ้นชมวิวภูเขาหิมะจากมุมสูง
  • วิวธรรมชาติสวยงามใกล้เฉิงตู – เหมาะสำหรับ Day trip หรือครึ่งวัน

วิธีการเดินทาง:

  • ประมาณ 110–117 กม. จากเฉิงตู
  • รถยนต์ / รถเช่า ใช้เวลาประมาณ 2–2.5 ชั่วโมง
  • หรือมี รถบัสตรงจากสถานี Chadianzi ประมาณ 3 ชั่วโมง
  • กลุ่มเล็กมัก เช่ารถส่วนตัว เพื่อความยืดหยุ่น

ระยะเวลาที่แนะนำ:

  • 1 วัน
  • เล่นสกีครึ่งวัน–เต็มวัน หรือชมวิวธรรมชาติ

จุดเช็คอินและเคล็ดลับถ่ายรูป:

  • ลานสกีและจุดกระเช้าชมวิว – มุม panorama ของภูเขาหิมะ
  • เตรียมอุปกรณ์สกีล่วงหน้า – ถ้าต้องการเช่าหรือจองครูสอน
  • ช่วงฤดูหนาว – วิวและกิจกรรมเต็มรูปแบบ

13. อุทยานแห่งชาติปีเผิงโกว (Bipenggou National Park)

เที่ยวเฉิงตู : อุทยานแห่งชาติปีเผิงโกว (Bipenggou National Park)

อุทยานแห่งชาติปีเผิงโกว (Bipenggou National Park) อุทยานธรรมชาติที่เต็มไปด้วยป่าไม้เขียวขจี ทะเลสาบใส และน้ำตกงดงาม ตั้งอยู่ในมณฑลเสฉวน เป็นจุดหมายที่เหมาะสำหรับนักท่องเที่ยวที่รักธรรมชาติและกิจกรรมกลางแจ้ง นักท่องเที่ยวสามารถเดินป่าชมวิว ปั่นจักรยาน หรือถ่ายภาพมุมสวย ๆ ของน้ำตกและภูเขาที่สะท้อนในผืนน้ำใส

อุทยานแห่งนี้ขึ้นชื่อเรื่องความงดงามตลอดทั้งสี่ฤดู โดยเฉพาะฤดูใบไม้ร่วงที่จะได้ชมภูมิทัศน์แต่งแต้มด้วยสีสันสดใส เป็นอีกหนึ่งจุดหมายใกล้เฉิงตูที่ไม่ควรพลาดสำหรับผู้ที่ต้องการสัมผัสความสงบและความอลังการของธรรมชาติ

จุดเด่น:

  • วิวภูเขาหิมะและธารน้ำแข็ง – สามารถมองเห็นภูเขาหิมะซื่อหนี่เหนียง (Four Girls Mountain) และธารน้ำแข็งในหุบเขา
  • ทะเลสาบใสและน้ำตก – ไฮไลท์คือทะเลสาบเจียหยาง (Jiaoyang Lake) และน้ำตกที่ใสสะอาด
  • ใบไม้เปลี่ยนสี – ฤดูใบไม้ร่วง (ก.ย.–ต.ค.) จะได้วิวป่าสีสันสดใสตัดกับภูเขาหิมะ

วิธีการเดินทาง:

  • อยู่ห่างจากเฉิงตู ประมาณ 200 กม.
  • เดินทางโดยรถยนต์ / รถเช่า ใช้เวลาประมาณ 4–5 ชั่วโมง
  • นิยมเช่ารถส่วนตัวพร้อมคนขับ เพื่อความสะดวกในการแวะเที่ยวระหว่างทาง

ระยะเวลาที่แนะนำ:

  • 1–2 วัน
    • วันเดียว: เที่ยวรอบๆ หุบเขาและจุดไฮไลท์
    • 2 วัน: พักค้างเพื่อสัมผัสบรรยากาศเช้าท่ามกลางภูเขา

จุดเช็คอินและเคล็ดลับถ่ายรูป:

  • Jiaoyang Lake – มุมถ่ายสะท้อนน้ำกับภูเขาหิมะ
  • น้ำตก – ถ่ายชอต Long exposure จะได้ภาพละมุน
  • ฤดูใบไม้ร่วง – สีสันสดใสที่สุด เหมาะสำหรับการถ่ายภาพ landscape
  • ควรเตรียม เสื้อกันหนาวและรองเท้าเดินป่า เพราะอากาศเย็นและเส้นทางเดินมีความชันเล็กน้อย

เฉิงตู เต็มไปด้วยเสน่ห์ทั้งธรรมชาติและวัฒนธรรม ไม่ว่าจะเป็นการไปเยือนถิ่นกำเนิดหมีแพนด้ายักษ์ ชมความงามของภูเขาและหุบเขาในอุทยานธรรมชาติต่าง ๆ หรือเดินเล่นเพลิน ๆ ท่ามกลางบรรยากาศเมืองเก่าที่มีทั้งอาหารเสฉวนรสจัดจ้านและวิถีชีวิตท้องถิ่นที่น่าหลงใหล นักท่องเที่ยวสายธรรมชาติและสายวัฒนธรรมต่างก็สามารถหาประสบการณ์ที่ใช่ได้ในเมืองแห่งนี้ สำหรับนักท่องเที่ยวไทย การเดินทางไป เที่ยวเฉิงตู สะดวกสบายขึ้นมาก เพราะสามารถเข้าประเทศจีนได้โดยไม่ต้องขอวีซ่า ทำให้การวางแผนทริปง่ายและรวดเร็วขึ้น หากคุณกำลังมองหาจุดหมายที่ผสมผสานทั้งธรรมชาติ วัฒนธรรม และอาหารอร่อย ๆ เฉิงตูก็เป็นอีกหนึ่งเมืองที่ควรค่าแก่การไปเยือน

เตรียมตัวให้พร้อม แล้วออกเดินทางไปสัมผัสความงดงามและเสน่ห์ของเฉิงตูกันค่ะ และทุกครั้งที่เดินทางไปต่างประเทศ สิ่งสำคัญที่ไม่ควรลืมพกติดตัวไว้เสมอนั่นก็คือ ประกันเดินทาง สิ่งสำคัญที่ช่วยให้คุณเดินทางได้อย่างอุ่นใจ ไร้กังวล เพียงจ่ายเงินไม่กี่บาท คุณก็จะได้ความคุ้มครองมากมายที่ครอบคลุมเกือบทุกเหตุการณ์ไม่คาดฝันที่อาจเกิดขึ้นระหว่างเดินทาง* เช่น ความเจ็บป่วย การเกิดอุบัติเหตุ กระเป๋าหาย ไฟลต์ดีเลย์ เป็นต้น ให้คุณเที่ยวเฉิงตูได้อย่างมั่นใจและไร้กังวล! Allianz Travel ขอแนะนำ ประกันการเดินทางต่างประเทศ Dance Moves ที่จะช่วยให้ทริป การเดินทางของคุณราบรื่น ไม่มีสะดุด อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับความคุ้มครองได้ ที่นี่

*เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทกำหนด

ขอบคุณข้อมูลจาก: asiaodysseytravel.com, chinadiscovery.com, chinahighlights.com

เลือกแผนประกันเดินทางที่ใช่สำหรับคุณ ประกันการเดินทาง Dance Moves จาก Allianz Travel

เที่ยวซินเจียง สัมผัสเสน่ห์แห่งเอเชียกลาง

เที่ยวซินเจียง (Xinjiang) – สัมผัสเสน่ห์แห่งเอเชียกลาง

ซินเจียงเป็นเขตปกครองที่ใหญ่ที่สุดในประเทศจีน ครอบคลุมพื้นที่ประมาณ 1 ใน 6 ของแผ่นดินจีนทั้งหมด ตั้งอยู่ทางตะวันตกเฉียงเหนือของประเทศ มีขนาดอาณาเขตที่กว้างใหญ่ จึงทำให้ซินเจียงมีภูมิประเทศที่หลากหลาย ทั้งภูเขาหิมะ ธารน้ำแข็ง ป่าไม้ ทุ่งหญ้า และทะเลทรายโกบี อีกทั้งยังเต็มไปด้วยโบราณสถานจากเส้นทางสายไหมในอดีต ซินเจียงยังเป็นบ้านของชนเผ่าอุยกูร์ ที่มีวัฒนธรรมพื้นถิ่นน่าสนใจ และอาหารท้องถิ่นที่ห้ามพลาด หากต้องการ เที่ยวซินเจียง (Xinjiang) ให้ครบทุกสถานที่อาจต้องใช้เวลาหลายวัน หากมีเวลาไม่มาก เราแนะนำให้เริ่มจากสถานที่เที่ยวแนะนำและสิ่งที่ห้ามพลาดเมื่อได้ไป เที่ยวซินเจียง ในบทความนี้กันค่ะ : )

สถานที่ท่องเที่ยวในซินเจียง

1. เที่ยวซินเจียง เขตอนุรักษ์ธรรมชาติคานาส (Kanas Nature Reserve) – สัมผัสธรรมชาติเหนือจินตนาการแห่งซินเจียง

เขตอนุรักษ์ธรรมชาติคานาส (Kanas Nature Reserve) ตั้งอยู่ในอำเภอ Burqin เขต Altay ทางตอนเหนือของซินเจียง ได้รับฉายาว่า “ไข่มุกแห่งซินเจียงตอนเหนือ” (Pearl of Northern Xinjiang) ด้วยทัศนียภาพธรรมชาติอันงดงามราวภาพวาด ไม่ว่าจะเป็น ทะเลสาบคานาส (Kanas Lake), ธารน้ำแข็ง, แม่น้ำ, ป่าสน, และทุ่งหญ้าสีเขียวขจี

เที่ยวซินเจียง : เขตอนุรักษ์ธรรมชาติคานาส (Kanas Nature Reserve)

จุดเด่น:

  • ทะเลสาบคานาส มีน้ำใสสะอาดเปลี่ยนสีตามฤดูกาล ตั้งอยู่ท่ามกลางป่าสนเฟอร์และต้นลาร์ช
  • เหมาะกับกิจกรรมเดินป่า ถ่ายภาพ และสัมผัสธรรมชาติบริสุทธิ์
  • บรรยากาศคล้ายสวิตเซอร์แลนด์ในเอเชียกลาง

เส้นทางแนะนำ:

  • คานาส > หมู่บ้าน Hemu (หนึ่งในหมู่บ้านที่สวยที่สุดในจีน)
  • Bahaba > อุทยาน Keketuohai

ช่วงเวลาที่เหมาะแก่การเดินทาง:

 มิถุนายน – ตุลาคม (ฤดูร้อน–ฤดูใบไม้ร่วง)

คำแนะนำเพิ่มเติม:

หากคุณชอบการเดินป่าท่ามกลางธรรมชาติที่ยังคงความสมบูรณ์ คานาสคือตัวเลือกที่คุณจะไม่มีวันลืม บางมุมของที่นี่ได้รับการขนานนามว่า “อัลไต สวรรค์แห่งป่าเหนือ” ที่เที่ยวซินเจียงที่ห้ามพลาดอย่างแท้จริง

2. เที่ยวซินเจียง ทะเลสาบไซ่ราม (Sayram Lake) – ทะเลสาบภูเขาสุดโรแมนติกแห่งซินเจียง

ทะเลสาบไซ่ราม (Sayram Lake หรือ Sailimu Lake) ตั้งอยู่ทางตะวันตกของเขตปกครองตนเองซินเจียง ใกล้พรมแดนประเทศคาซัคสถาน และเป็น ทะเลสาบภูเขาที่ใหญ่ที่สุดในซินเจียง โดยมีความสูงจากระดับน้ำทะเลราว 2,070 เมตร ทำให้มีอากาศเย็นสบายแม้ในฤดูร้อน

เที่ยวซินเจียง : ทะเลสาบไซ่ราม (Sayram Lake)

จุดเด่น:

  • ได้ชื่อว่าเป็น “ทะเลน้ำตาของเทพธิดา” ตามตำนานที่เล่าขาน
  • ในฤดูร้อน รอบทะเลสาบเต็มไปด้วย ดอกไม้ป่าหลากสี บานสะพรั่ง
  • สามารถชมวิว ภูเขาหิมะ ป่าสน และทุ่งหญ้า ได้ในที่เดียว
  • มีกิจกรรม ขี่ม้ารอบทะเลสาบ และตั้งแคมป์ชมพระอาทิตย์ตก

กิจกรรมแนะนำ:

  • เดินเล่นหรือขี่ม้ารอบทะเลสาบ
  • ถ่ายภาพวิวทิวทัศน์แบบพาโนรามา
  • แวะชมโบราณสถานใกล้ทะเลสาบ เช่น ซากเส้นทางสายไหม

ช่วงเวลาที่เหมาะแก่การเดินทาง:

  • เดือนมิถุนายน – สิงหาคม (หน้าร้อน) ซึ่งอากาศดี และวิวรอบทะเลสาบสวยที่สุด
  • ช่วงฤดูใบไม้ร่วง (ก.ย.–ต้นต.ค.) ก็จะได้ชมใบไม้เปลี่ยนสี

การเดินทาง:

  • จากเมือง อุรุมชี (Urumqi) ขับรถประมาณ 600 กิโลเมตร (ประมาณ 8 ชม.)
  • หรือบินไปลงที่ เมือง Yining แล้วต่อรถประมาณ 2 ชั่วโมง

คำแนะนำเพิ่มเติม:

เหมาะกับนักเดินทางที่ชอบธรรมชาติอันเงียบสงบ ถ่ายภาพวิวสวย ๆ และอยากสัมผัสประสบการณ์การท่องเที่ยวแบบชนเผ่าในบรรยากาศที่โรแมนติกและแปลกใหม่

3. เที่ยวซินเจียง ทะเลสาบไป๋ซาหู (Baisha Lake) – ม่านน้ำใสกลางทิวเขาแห่งซินเจียง

ทะเลสาบไป๋ซาหู (Baisha Lake) ตั้งอยู่ในเขต Ili Kazakh Autonomous Prefecture ทางตะวันตกเฉียงเหนือของซินเจียง เป็นทะเลสาบน้ำจืดบนที่ราบสูงที่มีทัศนียภาพงดงามและอากาศเย็นสบายตลอดทั้งปี

เที่ยวซินเจียง : ทะเลสาบไป๋ซาหู (Baisha Lake)

จุดเด่น:

  • น้ำทะเลสาบใสสะท้อนสีฟ้าคราม สลับกับภูเขาที่ปกคลุมด้วยหิมะ
  • รอบทะเลสาบมีป่าไม้เขียวชอุ่มและทุ่งหญ้า เหมาะกับการพักผ่อนและถ่ายภาพ
  • บรรยากาศเงียบสงบ ไม่พลุกพล่าน เหมาะกับนักท่องเที่ยวที่ชอบธรรมชาติและความสงบ

กิจกรรมแนะนำ:

  • เดินเล่นรอบทะเลสาบ ชมธรรมชาติและสัตว์ป่าท้องถิ่น
  • ถ่ายภาพวิวภูเขาสะท้อนในน้ำ
  • พักผ่อนริมทะเลสาบหรือปิกนิกแบบส่วนตัว

ช่วงเวลาที่เหมาะแก่การเดินทาง:

เดือนพฤษภาคม – กันยายน (ฤดูร้อน–ต้นใบไม้ร่วง) ซึ่งอากาศเย็นสบายและวิวธรรมชาติสวยที่สุด

การเดินทาง:

  • จากเมืองอุรุมชี (Urumqi) ขับรถประมาณ 400–500 กิโลเมตร ใช้เวลาราว 6–8 ชั่วโมง
  • แนะนำให้เช่ารถหรือเข้าร่วมทัวร์ท้องถิ่นเพื่อสะดวกในการเดินทางและเที่ยวรอบทะเลสาบ

คำแนะนำเพิ่มเติม:

เหมาะกับนักท่องเที่ยวสายธรรมชาติ นักถ่ายภาพ และผู้ที่ต้องการหลีกหนีความวุ่นวายจากเมืองใหญ่ มาสัมผัสความสงบและความงามของทะเลสาบกลางทิวเขา

4. เที่ยวซินเจียง ทะเลสาบเทียนฉือ (Heavenly Lake) ใกล้อุรุมชี – สวรรค์บนเทือกเขาเทียนซานแห่งซินเจียง

ทะเลสาบเทียนฉือ (Tianchi Lake) เป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวธรรมชาติยอดนิยมของซินเจียง ตั้งอยู่บน เทือกเขาเทียนซาน (Tianshan Mountains) ทางตะวันออกของเมือง อุรุมชี (Urumqi) ด้วยความสูงกว่า 1,900 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล ทำให้ทะเลสาบแห่งนี้มีอากาศเย็นสบายตลอดทั้งปี

เที่ยวซินเจียง : ทะเลสาบเทียนฉือ (Tianchi Lake)

จุดเด่น:

  • ตำนานจีนกล่าวว่า ทะเลสาบเทียนฉือ (Tianchi Lake) เป็นสถานที่อาบน้ำของเทพธิดา จึงถือเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์
  • ทะเลสาบสีฟ้าใสสะท้อนยอดเขา Bogda ที่ปกคลุมด้วยหิมะ พร้อมป่าสนโดยรอบ
  • บรรยากาศเงียบสงบ เหมาะกับการพักผ่อน ถ่ายรูป เดินเล่น หรือ ล่องเรือเพื่อชมวิว

กิจกรรมแนะนำ:

  • เดินรอบทะเลสาบชมธรรมชาติป่าสนสีเขียวขจี
  • ล่องเรือในทะเลสาบ (แนะนำให้เตรียมเสื้อกันลมไปด้วยนะคะ)
  • ถ่ายภาพวิวเทือกเขาและเงาสะท้อนในน้ำ

ช่วงเวลาที่เหมาะแก่การเดินทาง:

เดือนพฤษภาคม – กันยายน (ฤดูร้อน–ต้นใบไม้ร่วง)

การเดินทาง:

  • นั่งรถบัสหรือแท็กซี่จากตัวเมือง ใช้เวลาประมาณ 1.5 ชั่วโมง
  • มีบริการรถท่องเที่ยวตรงไปยังทางเข้าอุทยาน

คำแนะนำเพิ่มเติม:

เหมาะกับนักท่องเที่ยวที่ชื่นชอบ ธรรมชาติ ภูเขา และทะเลสาบ ไม่ควรพลาดที่นี่ โดยเฉพาะผู้ที่ต้องการสัมผัสอากาศเย็นสบายและวิวที่งดงาม

5. เที่ยวซินเจียง ทุ่งหญ้าน่าหลาตี (Nalati Grassland) – สวรรค์บนภูเขาแห่งซินเจียง

ทุ่งหญ้าน่าหลาตี (Nalati Grassland) ตั้งอยู่ในเขต Xinyuan ทางตอนใต้ของเทือกเขา เทียนซาน และเป็นหนึ่งใน ทุ่งหญ้าบนภูเขาที่ใหญ่ที่สุดในโลก ด้วยวิวทิวทัศน์ที่อลังการของหุบเขา ป่าไม้ แม่น้ำ และยอดเขาที่ปกคลุมด้วยหิมะตลอดปี ทำให้ที่นี่ถูกขนานนามว่า “สวรรค์ของนักเดินทาง

ทุ่งหญ้าน่าหลาตี (Nalati Grassland)

จุดเด่น:

  • พื้นที่กว้างใหญ่ของทุ่งหญ้าสีเขียวที่ทอดยาวสุดสายตา
  • วิวทิวเขาซ้อนกันแบบพาโนรามา เหมาะสำหรับถ่ายภาพวิวและ Drone
  • โอกาสได้ใกล้ชิดกับวิถีชีวิตชนเผ่า คาซัค (Kazak) แบบดั้งเดิม
  • มีบริการนั่งม้าชมทุ่งหญ้า, พักในกระโจม (Yurt), และชมการแสดงพื้นเมือง

กิจกรรมแนะนำ:

  • ขี่ม้า หรือขึ้นกระเช้าชมวิวทุ่งหญ้าจากมุมสูง
  • ชิมอาหารพื้นเมืองคาซัค เช่น เนื้อแกะย่าง
  • ถ่ายภาพกับฝูงม้า และวิวพระอาทิตย์ขึ้นหรือตก
  • เข้าร่วมเทศกาลพื้นเมืองหากไปในช่วงฤดูร้อน

ช่วงเวลาที่เหมาะแก่การเดินทาง:

  • มิถุนายน – กันยายน (หน้าร้อน) เป็นช่วงที่ทุ่งหญ้าเขียวชอุ่ม และอากาศเย็นสบาย
  • ควรหลีกเลี่ยงฤดูหนาวเพราะอากาศหนาวจัดและทุ่งหญ้าถูกปกคลุมด้วยหิมะ

การเดินทาง:

  • จาก เมือง Yining หรือ Urumqi สามารถนั่งรถทัวร์/รถไฟไปยัง Xinyuan County
  • จากนั้นต่อรถเข้าสู่เขตทุ่งหญ้า ใช้เวลาประมาณ 1–2 ชั่วโมง

คำแนะนำเพิ่มเติม:

เหมาะกับนักท่องเที่ยวสายธรรมชาติ ช่างภาพ หรือผู้ที่ต้องการหลีกหนีความวุ่นวาย มาสัมผัสความเงียบสงบของธรรมชาติแบบดั้งเดิม พร้อมกลิ่นอายชนเผ่าเร่ร่อนที่ยังคงมีอยู่จริงในซินเจียง

6. เที่ยวซินเจียง ทุ่งหญ้าบายันบุลัค (Bayanbulak Grassland) – ดินแดนหงส์ขาวกลางขุนเขาแห่งซินเจียง

ทุ่งหญ้าบายันบุลัค (Bayanbulak Grassland) คือทุ่งหญ้าแบบมีน้ำหล่อเลี้ยงขนาดใหญ่เป็นอันดับ 2 ของประเทศจีน ตั้งอยู่ในเขต Bayingolin ทางตอนกลางของซินเจียง ท่ามกลางวงล้อมของเทือกเขาเทียนซาน ด้วยระดับความสูงเฉลี่ยราว 2,400 เมตร ทำให้ที่นี่เป็นโอเอซิสกลางภูเขาที่เขียวชอุ่ม สดชื่น และเต็มไปด้วยชีวิตชีวา

ทุ่งหญ้าบายันบุลัค (Bayanbulak Grassland)

จุดเด่น:

  • เป็นบ้านของ หงส์ขาว หลายพันตัวที่อพยพมาทุกปี โดยเฉพาะที่ ทะเลสาบหงส์ (Swan Lake)
  • วิวเปิดโล่งของทุ่งหญ้าสีเขียวและแม่น้ำสายเล็ก ๆ คดเคี้ยวราวริบบิ้น
  • มีจุดชมวิวแม่น้ำไคดู (Kaidu River) ที่งดงามมากในช่วงพระอาทิตย์ตก

กิจกรรมแนะนำ:

  • ถ่ายภาพหงส์นับพันตัวในช่วงเดือนมิถุนายน–กันยายน
  • ขี่ม้าหรือเดินเล่นบนทุ่งหญ้าแบบชนเผ่า
  • เข้าพักในกระโจมแบบคาซัค (Kazak Yurt) เพื่อสัมผัสวัฒนธรรมท้องถิ่น
  • ชมท้องฟ้ากว้างและดวงดาวยามค่ำคืนแบบไม่มีแสงรบกวน

ช่วงเวลาที่เหมาะแก่การเดินทาง:

  • มิถุนายน – กันยายน (ฤดูร้อน) เป็นฤดูของดอกไม้ป่าและการอพยพของหงส์
  • หลีกเลี่ยงช่วงฤดูหนาว เนื่องจากหิมะตกหนัก

การเดินทาง:

  • จากเมือง Korla หรือ Urumqi สามารถนั่งรถทัวร์ หรือเช่ารถขับเองไปยัง Bayanbulak (ใช้เวลาประมาณ 6–8 ชั่วโมง)
  • ควรวางแผนพักค้างคืน 1–2 คืน เพื่อเก็บบรรยากาศธรรมชาติเต็มที่

คำแนะนำเพิ่มเติม:

เหมาะสำหรับนักท่องเที่ยวสายธรรมชาติ ช่างภาพ และผู้ที่ต้องการ สัมผัสวิถีชีวิตแบบคาซัคแท้ ๆ ในดินแดนที่ยังไม่ถูกรบกวนด้วยนักท่องเที่ยวจำนวนมาก

7. เที่ยวทะเลทรายทากลามากัน (Taklamakan Desert) – ท้าทายแดนทรายแห่งซินเจียง

ทะเลทรายทากลามากัน (Taklamakan Desert) เป็นทะเลทรายที่ใหญ่ที่สุดในประเทศจีน และเป็นหนึ่งในทะเลทรายเคลื่อนตัวขนาดใหญ่ที่สุดในโลก ครอบคลุมพื้นที่กว่า 330,000 ตารางกิโลเมตร ได้รับฉายาว่า “ทะเลแห่งความตาย (Sea of Death)” ด้วยภูมิประเทศที่โหดร้าย ทว่าเต็มไปด้วยเสน่ห์แห่งความลึกลับและน่าหลงใหล

ทะเลทรายทากลามากัน (Taklamakan Desert)

จุดเด่น:

  • ถนนทะลุทะเลทราย Taklamakan Desert Highway เป็นหนึ่งในถนนที่ยาวที่สุดในโลกที่ตัดผ่านทะเลทราย มีความยาวกว่า 500 กิโลเมตร
  • สองข้างทางเรียงรายไปด้วยต้นป๊อปลาร์สีทองในฤดูใบไม้ร่วง สวยงามสะกดตา
  • ทะเลทรายแห่งนี้ยังเป็นเส้นทางผ่านหลักของ เส้นทางสายไหม (Silk Road) ในอดีต

กิจกรรมแนะนำ:

  • ขับรถข้ามทะเลทราย หรือเข้าร่วมทัวร์ทะเลทรายที่มีไกด์ท้องถิ่น
  • ขี่อูฐ ท่องเนินทรายและชมพระอาทิตย์ตก
  • ตั้งแคมป์กลางทะเลทราย และดูดาวในท้องฟ้าที่ไร้แสงรบกวน
  • แวะเยี่ยมชม โอเอซิสโบราณ เช่น Hotan, Kuqa, หรือเมือง Miran

ช่วงเวลาที่เหมาะแก่การเดินทาง:

ปลายตุลาคม – กลางพฤศจิกายน เพราะอากาศเย็นลง ไร้พายุทราย และต้นไม้รอบ ๆ ทะเลทรายเปลี่ยนสีเป็นทองงดงาม

การเดินทาง:

  • บินจากเมือง อุรุมชี (Urumqi) ไปยัง Hotan หรือ Kuqa
  • ใช้บริการรถทัวร์ท้องถิ่น หรือเช่ารถขับเข้าสู่เส้นทาง ทะเลทราย Taklamakan Highway
  • ควรเตรียมตัวล่วงหน้า และเดินทางกับไกด์หรือทัวร์ที่เชี่ยวชาญ เพราะบางพื้นที่ไม่มีสัญญาณมือถือ

คำแนะนำเพิ่มเติม:

เหมาะสำหรับนักผจญภัย ช่างภาพ และผู้ที่อยากสัมผัสประสบการณ์ ทะเลทรายจริงแบบไม่ต้องไปถึงตะวันออกกลาง พร้อมธรรมชาติสุดขั้วและเสน่ห์แห่งอารยธรรมเก่าแก่ที่ซ่อนอยู่กลางความเวิ้งว้าง

8. เที่ยวซินเจียง เมืองเก่าคาชการ์ (Kashgar Old Town) – หัวใจวัฒนธรรมอุยกูร์แห่งซินเจียง

เมืองเก่าคาชการ์ (Kashgar Old Town) เป็นหนึ่งในเมืองโบราณที่สำคัญที่สุดของซินเจียง และเป็นศูนย์กลางวัฒนธรรมของชาวอุยกูร์ที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานกว่า 2,000 ปี

มัสยิด Id Kah ในเมืองเก่าคาชการ์ (Kashgar Old Town)

จุดเด่น:

  • สถาปัตยกรรมอิสลามและอุยกูร์แบบดั้งเดิมที่ยังคงความสมบูรณ์และมีเสน่ห์
  • ตลาดท้องถิ่นที่คึกคัก เป็นสถานที่ซื้อของพื้นเมือง เช่น เครื่องเทศ ผ้าไหม งานฝีมือ และอาหารสด
  • มัสยิด Id Kah ซึ่งเป็นมัสยิดที่ใหญ่ที่สุดในจีน และเป็นศูนย์รวมจิตใจของชาวมุสลิมในพื้นที่
  • สุสาน Abakh Khoja สถาปัตยกรรมงดงามและมีความสำคัญทางประวัติศาสตร์
ลาดท้องถิ่นในเมืองเก่าคาชการ์ (Kashgar Old Town) ซินเจียง

กิจกรรมแนะนำ:

  • เดินชมตรอกซอยเก่าแก่และบ้านเรือนไม้แบบดั้งเดิม
  • ชิมอาหารท้องถิ่น เช่น เคบับ อาหารอุยกูร์ และขนมหวานพื้นเมือง
  • เยี่ยมชมตลาดวันอาทิตย์ที่มีชีวิตชีวาและเต็มไปด้วยวัฒนธรรมท้องถิ่น

การเดินทาง:

  • บินตรงจากเมือง อุรุมชี (Urumqi) ไปยัง คาชการ์ (Kashgar) ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง
  • ใช้บริการรถไฟความเร็วสูงสายใหม่ อุรุมชี–คาชการ์ ซึ่งใช้เวลาประมาณ 10–11 ชั่วโมง

คำแนะนำเพิ่มเติม:

เหมาะสำหรับผู้ที่สนใจ ประวัติศาสตร์ วัฒนธรรม และสถาปัตยกรรมโบราณ รวมถึงนักท่องเที่ยวที่อยากสัมผัสวิถีชีวิตแบบดั้งเดิมของชาวอุยกูร์ในซินเจียง

9. เที่ยวซินเจียง เมืองโบราณเจียวเหอ (Jiaohe Ancient City) – มรดกโลกซินเจียงอายุกว่า 2,300 ปี

เมืองโบราณเจียวเหอ (Jiaohe Ancient City) ตั้งอยู่ใกล้เมืองทูหลู่ฟาน (Turpan) ในซินเจียง เป็นหนึ่งในเมืองโบราณที่เก่าแก่และสมบูรณ์ที่สุดของจีน มีประวัติศาสตร์ยาวนานกว่า 2,300 ปี และได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกโดยยูเนสโก

เมืองโบราณเจียวเหอ (Jiaohe Ancient City)

จุดเด่น:

  • เป็นเมืองโบราณที่ถูกสร้างขึ้นบนเนินเขาโดยไม่ใช้ไม้ มีลักษณะเป็นเมืองหน้าผา
  • ซากอาราม บ้านเรือน และเวิร์กช็อปโบราณยังคงสภาพดี ให้บรรยากาศย้อนยุคเหมือนกับการเดินทางข้ามเวลา
  • ทิวทัศน์ของเมืองโบราณท่ามกลางทะเลทรายและภูเขา มีความสวยงามโดยเฉพาะช่วงแสงเย็น

กิจกรรมแนะนำ:

  • เดินชมซากเมืองและถ่ายภาพสถาปัตยกรรมโบราณที่ยังคงสมบูรณ์
  • ฟังเรื่องราวประวัติศาสตร์ของเมืองผ่านไกด์ท้องถิ่น
  • ชมพระอาทิตย์ตกที่จุดชมวิวเพื่อภาพถ่ายที่งดงาม

การเดินทาง:

  • จากเมืองทูหลู่ฟาน (Turpan) นั่งรถยนต์ประมาณ 10-15 นาทีถึงเมืองเจียวเหอ
  • สามารถเดินทางจากอุรุมชีโดยรถไฟหรือรถบัสมายังทูหลู่ฟานก่อน

คำแนะนำเพิ่มเติม:

เหมาะกับนักท่องเที่ยวที่รักประวัติศาสตร์ โบราณคดี และต้องการชมมรดกโลกอันงดงามของซินเจียงในบรรยากาศทะเลทรายที่มีความลึกลับ

10. เที่ยวซินเจียง ตลาด International Grand Bazaar เมืองอุรุมชี – สีสันแห่งวัฒนธรรมอุยกูร์ที่คุณต้องสัมผัส

ตลาด International Grand Bazaar ในเมือง อุรุมชี (Urumqi) คือหนึ่งในจุดหมายปลายทางยอดนิยมสำหรับนักท่องเที่ยวที่อยากสัมผัส วัฒนธรรมพื้นเมืองของชาวอุยกูร์ อย่างแท้จริง ตลาดแห่งนี้ได้ชื่อว่าเป็น “ตลาดกลางแจ้งที่ใหญ่ที่สุดในจีน” และยังเป็นศูนย์รวมอาหาร เสื้อผ้า งานฝีมือ และของที่ระลึกที่สะท้อนเอกลักษณ์ของเส้นทางสายไหมในอดีต

ตลาด International Grand Bazaar เมืองอุรุมชี

จุดเด่น:

  • สถาปัตยกรรมสไตล์อิสลามผสมผสานจีนอย่างงดงาม โดยเฉพาะ หอคอยชมวิว ที่สามารถมองเห็นวิวเมืองอุรุมชีแบบพาโนรามา
  • ร้านค้าและแผงขายสินค้ากว่า 3,000 ร้าน จำหน่ายสินค้าท้องถิ่น เช่น:
    • ผลไม้อบแห้ง, ถั่ว, เครื่องเทศ
    • ผ้าปักมือ, พรม, เสื้อผ้าท้องถิ่น
    • ของที่ระลึกจากวัฒนธรรมอุยกูร์
  • มีเวทีจัดแสดงการแสดงพื้นบ้านในบางช่วงเวลา เช่น การรำอุยกูร์และการแสดงดนตรี

กิจกรรมแนะนำ:

  • ลองชิม เคบับเนื้อแกะ ย่างสด ๆ
  • เดินชมแผงขายเครื่องเทศกลิ่นหอมแรง
  • ซื้อขนมปัง Naan อบเตาถ่านแบบดั้งเดิม
  • ถ่ายรูปหน้าหอคอยที่เป็นสัญลักษณ์ของตลาด
ขนมปัง Naan อบเตาถ่านแบบดั้งเดิม

ช่วงเวลาที่เหมาะแก่การเดินทาง:

ช่วงฤดูร้อนอากาศจะเย็นสบาย เหมาะแก่การเดินเล่น เย็นถึงค่ำ (ประมาณ 16.00–20.00 น.) จะมีสีสันคึกคักที่สุด และบางวันอาจมีตลาดกลางคืน

การเดินทาง:

  • ตลาดตั้งอยู่ใจกลางเมืองอุรุมชี สามารถเดินทางได้ง่ายด้วยรถแท็กซี่ หรือรถบัสสาธารณะ
  • ใกล้สถานีรถไฟและแหล่งท่องเที่ยวอื่น ๆ เช่น พิพิธภัณฑ์เขตปกครองซินเจียง

คำแนะนำเพิ่มเติม:

เหมาะกับนักท่องเที่ยวที่สนใจ วัฒนธรรมท้องถิ่น, ชอบเดินตลาด, หรือกำลังมองหาของฝากและของที่ระลึกแบบไม่ซ้ำใครในจีน

ลิ้มลองรสชาติแท้ ๆ ของอาหารซินเจียง

อาหารซินเจียง เป็นอีกหนึ่งเสน่ห์สำคัญที่นักท่องเที่ยวไม่ควรพลาด เมนูส่วนใหญ่ได้รับอิทธิพลจากวัฒนธรรมอุยกูร์ มีรสชาติกลมกล่อมและเน้นใช้เนื้อวัว เนื้อแกะ และแป้งเป็นหลัก โดยเฉพาะเนื้อแกะที่มีรสชาติเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว

เมนูแนะนำ:

  • เคบับเนื้อแกะ (Yang Rou Chuan): เนื้อแกะเสียบไม้ย่างหอมกรุ่น รสชาติเผ็ดนิดๆ กลมกล่อม
  • แกะย่างทั้งตัว (Grilled Whole Lamb): เมนูพิเศษสำหรับงานเลี้ยงหรือเทศกาล รสชาติเนื้อนุ่มฉ่ำ
  • ขนมปัง Naan: ขนมปังแป้งอบกรอบนอกนุ่มใน มักเสิร์ฟคู่กับอาหารจานหลัก
  • ข้าวหมกเนื้อ (Polo / Shou Zhua Fan): ข้าวผัดคลุกกับเนื้อแกะ แครอท หอมใหญ่ ลูกเกด รสชาติหอมหวานกลมกล่อม
  • บะหมี่อุยกูร์ (Lagman): บะหมี่เส้นเหนียวนุ่มเสิร์ฟกับซุปเนื้อและผักสด
เคบับเนื้อแกะ (Yang Rou Chuan)

สถานที่แนะนำสำหรับชิมอาหาร:

  • ตลาดกลางคืนและร้านอาหารท้องถิ่นในเมืองอุรุมชี, คาชการ์ และเมืองอื่น ๆ ในซินเจียง
  • ร้านอาหารที่มีการแสดงศิลปวัฒนธรรมอุยกูร์ควบคู่ไปด้วย

วิธีการเดินทางไป เที่ยวซินเจียง

การเดินทางจากประเทศไทยไปยัง ซินเจียง สามารถทำได้สะดวกสบายโดยบินตรงจาก กรุงเทพฯ (Bangkok) ไปยังเมืองหลักอย่าง อุรุมชี (Urumqi) ซึ่งเป็นศูนย์กลางการเดินทางของเขตปกครองตนเองซินเจียง

  • หากไม่มีเที่ยวบินตรง สามารถเลือกบินแวะเปลี่ยนเครื่องที่ ปักกิ่ง (Beijing) หรือ คุนหมิง (Kunming) ได้เช่นกัน
  • เมื่อถึงอุรุมชีแล้ว คุณสามารถเดินทางไปยังเมืองอื่น ๆ ในซินเจียงด้วยทางเลือกหลากหลาย เช่น
    • รถไฟความเร็วสูง
    • เที่ยวบินภายในประเทศ
    • รถบัสสาธารณะ
    • หรือเช่ารถขับเองสำหรับความยืดหยุ่นสูงสุด

ช่วงเวลาที่ดีที่สุดในการ เที่ยวซินเจียง

  • ฤดูใบไม้ผลิ (พฤษภาคม – มิถุนายน)
  • ฤดูใบไม้ร่วง (กันยายน – ตุลาคม)

ในช่วงนี้อากาศเย็นสบาย ไม่ร้อนจัด และวิวธรรมชาติทั้งภูเขา ทุ่งหญ้า และทะเลทรายจะสวยงามเป็นพิเศษ เหมาะแก่การเดินทางและกิจกรรมกลางแจ้ง

กิจกรรมห้ามพลาดเมื่อมา เที่ยวซินเจียง

  • ขี่อูฐกลางทะเลทรายทากลามากัน (Taklamakan Desert) สัมผัสประสบการณ์สุดท้าทายในทะเลทรายที่ใหญ่ที่สุดในจีน
  • เดินป่าในภูเขาเทียนซาน (Tian Shan Mountains) ชมวิวธรรมชาติและอากาศบริสุทธิ์
  • นอนดูดาวกลางคืน ในพื้นที่ทุ่งหญ้าหรือทะเลทราย ที่ไม่มีมลภาวะทางแสง
  • ลิ้มรสอาหารพื้นเมือง เช่น บะหมี่อุยกูร์ (Lagman), ข้าวหมกเนื้อแกะ (Polo), และซุปเนื้อแบบอุยกูร์
  • ชมการแสดงพื้นบ้าน และเดินเล่นในตลาดกลางคืนเพื่อสัมผัสวัฒนธรรมท้องถิ่นอย่างใกล้ชิด
ขี่อูฐกลางทะเลทรายทากลามากัน (Taklamakan Desert)

ซินเจียงเป็นพื้นที่ที่เต็มไปด้วยธรรมชาติอันงดงามหลากหลายรูปแบบ พร้อมด้วยวัฒนธรรมท้องถิ่นที่หลากหลายและเรื่องราวทางประวัติศาสตร์ที่น่าค้นหา สายธรรมชาติและนักท่องเที่ยวที่ชื่นชอบประสบการณ์ใหม่ ๆ ไม่ควรพลาดสถานที่แห่งนี้ สำหรับนักท่องเที่ยวไทย การเดินทางไปซินเจียงในประเทศจีนก็สะดวกสบายยิ่งขึ้น เนื่องจากสามารถเข้าประเทศจีนได้โดยไม่ต้องขอวีซ่า ทำให้การวางแผนทริปง่ายและรวดเร็วขึ้นมาก

หากคุณกำลังมองหาประสบการณ์เที่ยวชมธรรมชาติสวย ๆ ในดินแดนที่ไม่ไกลจากบ้าน ซินเจียงคืออีกหนึ่งจุดหมายปลายทางที่ต้องใส่ไว้ในลิสต์ เตรียมตัวให้พร้อม แล้วออกเดินทางไปสัมผัสกับความงดงามและวัฒนธรรมอันล้ำค่าของดินแดนแห่งนี้กันค่ะ และทุกครั้งที่เดินทางออกนอกประเทศ สิ่งที่ควรมีพร้อมติดตัวไว้คือประกันเดินทาง สิ่งสำคัญที่ช่วยให้คุณเดินทางได้อย่างอุ่นใจ ไร้กังวล เพียงจ่ายเงินไม่กี่บาท คุณก็จะได้ความคุ้มครองมากมายที่ครอบคลุมเกือบทุกเหตุการณ์ไม่คาดฝันที่อาจเกิดขึ้นระหว่างเดินทาง* เช่น ความเจ็บป่วย การเกิดอุบัติเหตุ กระเป๋าหาย ไฟลต์ดีเลย์ เป็นต้น ให้คุณเที่ยวซินเจียงได้อย่างมั่นใจและไร้กังวล! Allianz Travel ขอแนะนำ ประกันการเดินทางต่างประเทศ Dance Moves ที่จะช่วยให้ทริป การเดินทางของคุณราบรื่น ไม่มีสะดุด อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับความคุ้มครองได้ ที่นี่

*เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทกำหนด

ขอบคุณข้อมูลจาก: asiaodysseytravel.com, chinadiscovery.com, chinahighlights.com

เลือกแผนประกันเดินทางที่ใช่สำหรับคุณ ประกันการเดินทาง Dance Moves จาก Allianz Travel

11 ที่เที่ยวเซี่ยงไฮ้ ห้ามพลาด!

11 ที่เที่ยวเซี่ยงไฮ้ ห้ามพลาด!

เซี่ยงไฮ้ เมืองที่ผสมผสานวัฒนธรรมจีนโบราณเข้ากับความทันสมัยได้อย่างลงตัว ไม่ว่าจะเป็นเสน่ห์ของ เดอะบันด์ (The Bund) ตึกระฟ้าใน Lujiazui หรือย่านเก่าแก่ที่เต็มไปด้วยชีวิตชีวา ที่นี่คือสวรรค์ของนักท่องเที่ยวที่หลงใหลในสถาปัตยกรรม อาหาร และวัฒนธรรม โดยทริปนี้ Allianz Travel ได้รวบรวมจุดเช็คอินยอดฮิตในเซี่ยงไฮ้ เมื่อเพื่อน ๆ ได้มาเยือนต้องมาเช็คอินกัน ใครที่กำลังมีแพลนเดินทางมาที่นี่ก็สามารถเข้ามาเซฟเก็บกันเอาไว้ได้เลยนะคะ

1. 1933 Old Millfun

ที่เที่ยวเซี่ยงไฮ้ 1933 Old Millfun

อาคารคอนกรีตสมัยเก่าสถาปัตยกรรมยุค Art Deco ซึ่งเคยเป็นโรงเชือดสัตว์ที่ใหญ่ที่สุดในเซี่ยงไฮ้มาก่อน ปัจจุบันได้กลายเป็นอาคารเท่ๆ ที่มีมุมถ่ายภาพแปลกๆ และยังเเป็นสำนักงาน Art Gallery คาเฟ่ โดยเราสามารถเข้ามาเดินถ่ายรูปเก๋ๆ กันได้แบบฟรีๆ เลย

วิธีการเดินทาง:

เดินทางโดย Metro Line 4 สถานี Hailun Road ลงทางออก 3 เดินต่อประมาณ 10 นาที

2. The Bund Viewpoint

ที่เที่ยวเซี่ยงไฮ้ The Bund Viewpoint

The Bund Viewpoint จะอยู่ตรงย่านหนานจิงตลอดเส้นถนนไป จนถึงเดอะบันต์คือตึกงามสุด ๆ แนะนำให้มาช่วงค่ำ เพราะทุกตึกจะเปิดไฟบอกเลยว่าอลังการมาก

วิธีการเดินทาง:

เดินทางโดย Metro Line 2 หรือ 10 ลงสถานี East Nanjing

3. Pop Mart สาขา East Nanjing

Pop Mart สาขา East Nanjing

ร้าน Art toy ยอดฮิตของชาวไทย โดยสาขานี้จะมาในธีมอวกาศแบบล้ำยุค ใครสายกล่องจุ่มแนะนำเลยค่ะ : )

วิธีการเดินทาง:

เดินทางโดย Metro Line 2 หรือ 10 สถานี East Nanjing

4. Tian An 1,000 Trees

ที่เที่ยวเซี่ยงไฮ้ Tian An 1,000 Trees

เป็นตึกที่ออกแบบให้มีต้นไม้อยู่บนตัวตึกมากมาย จนกลายเป็นอีกหนึ่งพิกัดเช็คอินใหม่ยอดฮิตอีกหนึ่งที่ในเซี่ยงไฮ้ ภายในตึกจะเป็นห้างที่มีทั้งร้านแบรนด์ต่าง ๆ และมีโซนร้านอาหารคล้ายฟู้ดคอร์ทชั้นใต้ดิน ที่สำคัญห้องน้ำสะอาดค่ะ

วิธีการเดินทาง:

เดินทางโดย Metro Line 13 สถานี Jiangning Road ทางออก 1 เดินต่ออีกประมาณ 8 นาที

5. Wukang Mansion

เป็นตึกแมนชั่นเก่าร่วม 100 ปี สุดคลาสสิคตั้งตรงหัวมุมถนนใจกลางห้าแยก พร้อมเดินเล่นเพลิน ๆ กันที่ย่าน Wukang Road ที่ตลอดถนนเส้นนี้จะมีคาเฟ่ ร้านอาหาร น่ารักๆ เพียบเลย

วิธีการเดินทาง:

เดินทางโดย Metro Line 10 และ 11 สถานี Jiao Tong University ทางออก 1

6. Disney Shanghai

ที่เที่ยวเซี่ยงไฮ้ Disney Shanghai

สวนสนุกดิสนีย์แลนด์อันดับ 6 ของโลก และเป็นสวนสนุกที่ใหญ่ที่สุดในเอเชีย พลาดไม่ได้กับพาเหรด จะมีการแสดงเป็นรอบ ๆ โดยจะมาในธีมรถไฟแฟนตาซีที่ขนเอาตัวละครดิสนีย์มากมาย ที่นำโดย มิกกี้ เมาส์

วิธีการเดินทาง:

เดินทางโดย Metro Line 11 สถานี Disney Resort (สถานีสุดท้าย) ทางออก 3 หรือ 4 เดินต่ออีกประมาณ 10 นาที

7. Lujiazui Circular Bridge

Lujiazui Circular Bridge

เป็นสะพานลอยที่สร้างเป็นรูปวงแหวนตัดพาดไปกับ 4 แยกถนนเห็นหอไข่มุกขนาดใหญ่ดูล้ำยุคสุด ๆ และยังเชื่อมกับออฟฟิศ และแหล่งช็อปปิ้งเข้าไว้ด้วยกัน แถมตรงนี้ยังมี Disney Store สำหรับเก็บตกหรือใครที่ไม่ได้ไปดิสนีย์เซี่ยงไฮ้ ก็สามารถมาช็อปปิ้งกันได้เลย

วิธีการเดินทาง:

เดินทางโดย Metro Line 2 / 14 สถานี Lujiazui ทางออก 1,2 หรือ 3

8. Yuyuan Garden Market

Yuyuan Garden Market

เป็นตลาดที่อลังการงานสร้างด้วยสถาปัตยกรรมสไตล์จีน โดยอาคารร้านค้าของที่นี่จะมีความเป็นตึกจีนโบราณมีของขายมากมายทั้งของกินของทานเล่น นอกจากนั้นยังมีทั้งของฝากของที่ระลึก ถ้าใครมาเซี่ยงไฮ้ก็สามารถเเวะมาเช็คอินถ่ายรูปและซื้อของฝากกันได้ที่นี่เลย

วิธีการเดินทาง:

เดินทางโดย Metro Line 10 สถานี Yuyuan Garden ทางออก 1

9. โซนฝั่ง North Bund

โซนฝั่ง North Bund

เป็นอีกโซนที่เป็นอ่าวท่าเรือ และเป็นมุมถ่ายรูปสวย ๆ อีกมุมนึงของเซี่ยงไฮ้ เราแนะนำให้เดินไปที่ North Bund Greenland สวนสาธารณะริมน้ำที่มีมุมถ่ายรูปสุดปัง ทั้งบันไดที่มีม้านั่งรูปทรงก้อนเมฆ และที่เป็นไฮไลต์คือมุมโดมไข่สีเงินที่ถ่ายไปทางวิวฝั่งตรงข้ามกับ The Bund และยังมีตึก Music Gate ที่ดีไซน์สุดล้ำ และคลอง Hongkou Gang เป็นคลองที่มีตึกอิฐสีแดงอยู่ และมีวิวหอไข่มุกอยู่ไกล ๆ บอกเลยว่ามาโซนนี้ ได้รูปกลับไปเพียบแน่นอนค่ะ

วิธีการเดินทาง:

เดินทางโดย Metro Line 12 สถานี International Cruise Terminal ทางออก 3

10. โบสถ์ Ignatius Cathedral

โบสถ์ Ignatius Cathedral

เป็นสถาปัตยกรรมแบบกอทิก (Gothic) อยู่ติดกับสํานักงานอุตุนิยมวิทยาเซี่ยงไฮ้

วิธีการเดินทาง:

เดินทางโดย Metro Line 1 , 9 และ 11  สถานี Xujiahui ทางออก 3

11. Starbucks Reserve Roastery

Starbucks Reserve Roastery

โดยสาขานี้ที่มีโรงคั่วกาแฟที่ใหญ่ที่สุดในโซนเอเชียและใหญ่เป็นอับดับ 2 ของโลก ภายในตกแต่งได้หรูหราสวยงาม แต่เครื่องดื่ม และเบเกอรี่ต่าง ๆ ราคาจะค่อนข้างสูงหน่อย ใครอยากเข้าไปดูก็สามารถเดินเข้าไปเช็คอินถ่ายรูปกันได้เลย

วิธีการเดินทาง:

เดินทางโดย Metro Line 13 สถานี West Nanjing Road ทางออก 11 และ Metro Line 2 สถานี West Nanjing Road ทางออก 3

เซี่ยงไฮ้เป็นจุดหมายปลายทางที่ไม่ควรพลาดสำหรับนักเดินทาง ด้วยแลนด์มาร์กที่มีชื่อเสียง เช่น เดอะบันด์ (The Bund) ที่ให้วิวเส้นขอบฟ้าสุดอลังการ, หอไข่มุกตะวันออก (Oriental Pearl Tower) ที่มอบประสบการณ์ชมเมืองจากมุมสูง และย่าน Wukang Road ที่ตลอดถนนเส้นนี้จะมีคาเฟ่ ร้านอาหาร น่ารักๆ เต็มไปหมด และทุกครั้งที่เดินทางออกนอกประเทศ สิ่งที่ควรมีพร้อมติดตัวไว้คือประกันเดินทาง สิ่งสำคัญที่ช่วยให้คุณเดินทางได้อย่างอุ่นใจ ไร้กังวล เพียงจ่ายเงินไม่กี่บาท คุณก็จะได้ความคุ้มครองมากมายที่ครอบคลุมเกือบทุกเหตุการณ์ไม่คาดฝันที่อาจเกิดขึ้นระหว่างเดินทาง* เช่น ความเจ็บป่วย การเกิดอุบัติเหตุ กระเป๋าหาย ไฟลต์ดีเลย์ เป็นต้น ให้คุณเที่ยวเซี่ยงไฮ้ได้อย่างมั่นใจและไร้กังวล! Allianz Travel ขอแนะนำ ประกันการเดินทางต่างประเทศ Dance Moves ที่จะช่วยให้ทริป การเดินทางของคุณราบรื่น ไม่มีสะดุด อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับความคุ้มครองได้ ที่นี่

*เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทกำหนด

ขอบคุณที่มาบทความและรูปภาพ: ตะลุยเที่ยวเซี่ยงไฮ้ครั้งแรกแบบอุ่นใจไปกับประกันเดินทางต่างประเทศ Allianz Travel | นายบ้าเที่ยว

เลือกแผนประกันเดินทางที่ใช่สำหรับคุณ ประกันการเดินทาง Dance Moves จาก Allianz Travel

ภูเขาสี่ดรุณี สัมผัสความงดงามของเทือกเขาแอลป์แห่งจีน

ภูเขาสี่ดรุณี สัมผัสความงามเทือกเขาแอลป์แห่งจีน

ภูเขาสี่ดรุณี หรือซื่อกู่เหนียงซาน (Siguniangshan / 四姑娘山) เป็นสิ่งมหัศจรรย์ทางธรรมชาติที่สวยงามจนได้รับการขนานนามว่าเป็น ‘เทือกเขาแอลป์แห่งตะวันออก (东方的阿尔卑斯)’ ตั้งอยู่ในเขตปกครองตนเองอาป้าของชาวเชียงและชาวทิเบตในมณฑลเสฉวน ประเทศจีน บนเส้นทางระหว่างเมืองเสี่ยวจิน (Xiaojin) และเมืองเหวินฉวน (Wenchuan) อยู่ห่างจากเมืองเฉิงตูประมาณ 220 กิโลเมตร ปัจจุบันที่นี่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นอุทยานแห่งชาติ เป็นแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่สำคัญของจีน รวมถึงยังเป็นแหล่งศึกษาวิจัยทางธรณีวิทยาและชีววิทยาที่สำคัญอีกด้วย เรียกได้ว่าถ้ามีโอกาส เที่ยวจีน แล้วห้ามพลาด!

ภูเขาสี่ดรุณี สัมผัสความงามเทือกเขาแอลป์แห่งจีน - ภูเขาสี่ดรุณี หรือซื่อกู่เหนียงซาน (Siguniangshan / 四姑娘山)

ภูเขาสี่ดรุณี ขึ้นชื่อในเรื่องทัศนียภาพที่สวยงามตระการตา ความยิ่งใหญ่ของลักษณะเขาที่สูงชัน ผืนป่าที่อุดมสมบูรณ์ ธารน้ำใส สัตว์ป่าหลากหลายชนิด และเส้นทางเดินป่าที่ท้าทาย จึงเป็นจุดหมายปลายทางที่ไม่ควรพลาดสำหรับผู้รักธรรมชาติและผู้ที่แสวงหาการผจญภัย Allianz Travel เตรียมข้อมูลและไฮไลต์บนเส้นทางภูเขาสี่ดรุณี พร้อมเคล็ดลับการเดินทางที่ควรรู้มาให้เพื่อนๆ ที่กำลังสนใจไปเที่ยวกันค่ะ

ทำความรู้จักกับยอดเขาสี่ดรุณี

ภูเขาสี่ดรุณี ประกอบด้วยยอดเขาสี่ลูกที่เรียงรายติดต่อกัน ตั้งแต่ทิศเหนือถึงทิศใต้เป็นระยะประมาณ 3.5 กิโลเมตร มีความสูงจากระดับน้ำทะเลตั้งแต่ 6,250 เมตร 5,664 เมตร 5,454 เมตร และ 5,355 เมตร ตามลำดับ และเนื่องจากยอดเขาทั้งสี่นี้มีหิมะปกคลุมตลอดทั้งปี ทำให้ดูเหมือนหญิงสาว 4 คนที่คลุมศีรษะด้วยผ้าสีขาว ตั้งตระหง่านอยู่ระหว่างแม่น้ำฉางผิงโกว (长坪沟) กับ ไห่จื่อโกว (海子沟) และยอดเขาเหล่านี้มีชื่อเรียกและความสูงดังต่อไปนี้

  1. ต้ากูเหนียงเฟิง (Daguniang Feng หรือ 大姑娘峰) ความสูงจากระดับน้ำทะเล 5,355 เมตร 
  2. เอ้อกูเหนียงเฟิง (Erguniang Feng หรือ 二姑娘峰) ความสูงจากระดับน้ำทะเล 5,454 เมตร
  3. ซานกูเหนียงเฟิง (Sanguniang Feng หรือ 三姑娘峰) ความสูงจากระดับน้ำทะเล 5,664 เมตร
  4. เหยาเหม่ยเฟิง (Yaomei Feng หรือ 幺妹峰) หรือที่เรียกกันว่า ‘ยอดเขาเจ้าหญิง’ ความสูงจากระดับน้ำทะเล 6,250 เมตร เป็นยอดเขาที่สูงและท้าทายที่สุดที่ดึงดูดนักปีนเขาจากทั่วโลก
ภูเขาสี่ดรุณี สัมผัสความงามเทือกเขาแอลป์แห่งจีน - ยอดเขาสี่ดรุณี

ฤดูกาลที่ดีที่สุดในการเยี่ยมชม ภูเขาสี่ดรุณี

นักท่องเที่ยวสามารถขึ้นไปเที่ยวภูเขาสี่ดรุณีได้ทุกฤดูกาล แต่ช่วงเวลาที่ดีที่สุดในการเยี่ยมชมคือฤดูใบไม้ผลิ (เมษายนถึงมิถุนายน) และฤดูใบไม้ร่วง (กันยายนถึงพฤศจิกายน) ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่อากาศอบอุ่นและคงที่ ท้องฟ้าแจ่มใสและอุณหภูมิกำลังดี เหมาะสำหรับการเดินป่าและทำกิจกรรมกลางแจ้ง ฤดูใบไม้ผลิมีดอกไม้บานสะพรั่งและต้นไม้เขียวขจี ในขณะที่ฤดูใบไม้ร่วงก็สามารถชมความงามของใบไม้เปลี่ยนสี ที่ละลานตาไปด้วยสีเหลืองทองสลับกับสีแดง มองเห็นภาพทิวทัศน์ภูเขาหิมะสะท้อนอยู่ในธารน้ำ ทำให้เกิดฉากหลังที่งดงามสำหรับการผจญภัยของคุณ

เส้นทางท่องเที่ยวยอดนิยม

1. หุบเขาซวงเฉียว (Shuangqiao Valley หรือ 双桥沟)

ภูเขาสี่ดรุณี สัมผัสความงามเทือกเขาแอลป์แห่งจีน - หุบเขาซวงเฉียวโกว (Shuangqiao Valley หรือ 双桥沟)

มีระยะทางประมาณ 34.8 กิโลเมตร ห่างจากเมืองซื่อกู่เหนียงซาน ประมาณ 7 กิโลเมตร มีสะพานไม้ 2 แห่งซึ่งหาชมได้ยากในป่าภูเขาหิมะแห่งนี้ จึงได้รับชื่อดังกล่าวว่าหุบเขาสองสะพาน ภายในหุบเขามีภูเขา 10 ลูกที่มีความสูงเกือบ 4,000 เมตร และมีหิมะปกคลุมตลอดทั้งปี หุบเขาและลำธาร 37 แห่งหล่อเลี้ยงต้นไม้ พืช และสัตว์ที่เขียวชอุ่มโดยรอบ นอกจากนี้ หุบเขาซวงเฉียวโกวยังมีจุดชมวิวอีก 54 แห่ง ให้คุณได้แวะชื่นชมทัศนียภาพอันสวยงาม เช่น ที่ราบสูง Sapodilla ที่กว้างใหญ่ มีทุ่งหญ้าเขียวขจีและป่าไม้ที่เต็มไปด้วยดอกไม้นานาพันธุ์และล้อมรอบด้วยแม่น้ำใสคดเคี้ยว ทุ่งหญ้า Nianyuba ที่มีทุ่งหญ้าเขียวขจีกว้างไกลที่เต็มไปด้วยดอกไม้ ทิวแถวของธงสวดมนต์และความเงียบสงบที่ไม่มีที่สิ้นสุด จุดชมวิว Penjingtan ซึ่งมีชื่อเสียงในเรื่องต้นที่มีรูปร่างประหลาด เช่น บอนไซ และป่าเรดวูดที่ปลายหุบเขาซวงเฉียวโกวที่รายล้อมไปด้วยภูเขาหิมะบริสุทธิ์และเมฆ และสถานที่ท่องเที่ยวอื่นๆ อีกมากมายที่จะทำให้คุณตื่นตาตื่นใจไปกับธรรมชาติอันน่าทึ่ง หุบเขาซวงเฉียวโถวเป็นเส้นทางที่เหมาะสำหรับการเดินเล่นและถ่ายรูปพักผ่อน และมีรถบัสท่องเที่ยวให้บริการตลอดเส้นทาง ซึ่งโดยปกติจะมีจุดจอดแวะอยู่ 5 แห่ง เพื่อให้นักท่องเที่ยวได้เดินเที่ยวชมและถ่ายรูปไปทางเส้นทางเดินไม้ ใช้เวลาประมาณครึ่งวันก็เที่ยวครบตามจุดต่างๆ แล้ว

หุบเขาซวงเฉียวโกว (Shuangqiao Valley หรือ 双桥沟) - Winter

ช่วงเวลาที่ดีที่สุด: เดือนมิถุนายน-เดือนกรกฎาคม และเดือนกันยายน-เดือนตุลาคม

ระดับความสูง: 3,200 เมตร – 3,850 เมตร

ระยะเวลาเยี่ยมชมที่แนะนำ: ครึ่งวัน ถึง 1 วัน

เวลาทำการ: เปิดตลอดทั้งปี เวลา 07:00-17:00 น. (1 เม.ย.-30 พ.ย.) และเวลา 08:00-17:00 น. (1 ธ.ค.-31 มี.ค. ปีถัดไป)

ค่าเข้าชม: ค่าเข้า 80 หยวนต่อคน ค่ารถบัสท่องเที่ยว 70 หยวนต่อคน

ที่อยู่: Shuangqiaogou Scenic Area, Mount Siguniang, Xiaojin County, Aba Tibetan and Qiang Autonomous Prefecture, Sichuan Province (四川省阿坝藏族羌族自治州小金县四姑娘山双桥沟)

2. หุบเขาฉางผิง (Changping Valley หรือ 长坪沟)

ภูเขาสี่ดรุณี - หุบเขาฉางผิงโกว (Changping Valley หรือ 长坪沟)

มีความยาวประมาณ 29 กิโลเมตร ตั้งอยู่ตรงกลางของหุบเขาทั้งสามแห่ง มีสถานที่ท่องเที่ยว 21 แห่งกระจายอยู่ท่ามกลางทัศนียภาพอันสวยงามเขียวขจี หุบเขาฉางผิงโกวเป็นทางเดินป่าที่สวยงามเข้าไปตามป่าทึบที่มีแสงแดดส่องลงมาบนเส้นทางเงียบสงบและมีมอสปกคลุมอยู่มากมาย และเต็มไปด้วยความอุดมสมบูรณ์ของพืชพรรณดั้งเดิมไว้ อย่าลืมชมสถาปัตยกรรมสไตล์ทิเบต Gyarong พิเศษที่หมู่บ้าน Zhangmu ซึ่งมีประเพณีพื้นบ้านทิเบตแท้ๆ และเยี่ยมชมวัดลามะเพื่อชมกลุ่มวัด Gelugpa ทิเบตที่มีอายุมากกว่า 1,200 ปีอย่างใกล้ชิด สร้างขึ้นตั้งแต่สมัยราชวงศ์ถัง และที่ Xiemaping คุณจะได้พบกับป่าที่เต็มไปด้วยต้นซีดาร์ ต้นไซเปรส ต้นเบิร์ช ต้นซีบัคธอร์น เป็นต้น และในฤดูใบไม้ร่วง ต้นไม้ในป่าจะเปลี่ยนเป็นสีเป็นสีแดง เหลือง และเขียวสลับกันอย่างงดงามตัดกับท้องฟ้าสีฟ้า จุดชมวิวมู่หลัวซีจะเป็นพื้นที่ไร่นาอุดมสมบูรณ์ ชมฝูงวัวและม้ากินหญ้าอยู่ตามริมแม่น้ำที่ข้ามทุ่งหญ้าขนาดใหญ่ และเป็นสถานที่ที่ยอดเยี่ยมในการชมด้านหลังของภูเขาซิกูเนียง เส้นทางนี้เป็นที่ชื่นชอบของนักเดินป่า ที่ชอบเดินชมทิวทัศน์อันงดงามของยอดเขาและสภาพแวดล้อมทางธรรมชาติที่เงียบสงบ ใช้เวลาประมาณ 1 วันสำหรับการเดินทางไปกลับ

วัด Lama หุบเขาฉางผิงโกว (Changping Valley หรือ 长坪沟)

ช่วงเวลาที่ดีที่สุด: ปลายเดือนพฤษภาคม-เดือนกรกฎาคม และเดือนกันยายน-เดือนตุลาคม

ระดับความสูง: 3,200 เมตร – 5,484 เมตร

ระยะเวลาเยี่ยมชมที่แนะนำ: หนึ่งวัน

เวลาทำการ: เปิดให้บริการตลอดทั้งปี

  • 1 เม.ย.-30 พ.ย. เปิดให้บริการเวลา 07:00-17:00 น. โดยจำหน่ายตั๋วเวลา 07:00-15:30 น. (นักท่องเที่ยวไม่สามารถเข้าไปในหุบเขาได้หลังจากเวลา 15:30 น.) รถบัสท่องเที่ยวให้บริการเวลา 07:20-17:30 น.
  • 1 ธ.ค.-31 มี.ค. เปิดให้บริการเวลา 07.30-17.00 น. โดยจำหน่ายตั๋วเวลา 07.30-15.00 น. (นักท่องเที่ยวไม่สามารถเข้าไปในหุบเขาได้หลังเวลา 15.00 น.) รถบัสท่องเที่ยวให้บริการเวลา 07.30-17.00 น.

ค่าเข้าชม: ค่าเข้า 70 หยวนต่อคน (1 เมษายน-30 พฤศจิกายน) และ 50 หยวนต่อคน (1 ธันวาคม-31 มีนาคมปีหน้า) รถบัสชมเมืองราคา 20 หยวนต่อคน ซึ่งให้บริการนักท่องเที่ยวระหว่างทางเข้าและวัดลามะ ระยะทาง 7 กิโลเมตร (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 15 นาที)

ที่อยู่: Changpinggou Scenic Area, Mount Siguniang, Xiaojin County, Aba Tibetan and Qiang Autonomous Prefecture, Sichuan Province (四川省阿坝藏族羌族自治州小金县四姑娘山长坪沟)

3. หุบเขาไห่ซื่อ (Haizi Valley หรือ 海子沟)

ภูเขาสี่ดรุณี - หุบเขาไห่ซื่อโกว (Haizi Valley หรือ 海子沟)

มีความหมายว่าหุบเขาแห่งทะเลสาบ มีความยาว 19.2 กิโลเมตร และมีทัศนียภาพที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิงจากหุบเขาซวงเฉียวและหุบเขาฉางผิง ลักษณะภูมิประเทศเป็นแบบภูเขาสูง และมีทะเลสาบมากกว่า 10 แห่ง ซึ่งล้วนแต่ใสราวกับคริสตัลจนสะท้อนให้เห็นท้องฟ้าสีฟ้าและเมฆสีขาวได้อย่างชัดเจน โดยมีทะเลสาบต้าไห่จื่อ (Dahaizi Lake) เปรียบเสมือนหยกที่ฝังอยู่ในผืนผ้าสีเขียวมรกตของภูเขาและทุ่งหญ้า ทิวทัศน์ที่ปกคลุมไปด้วยหิมะระหว่างภูเขานั้นน่าตื่นตาตื่นใจมาก และสวยงามยิ่งขึ้นในฤดูร้อนด้วยดอกไม้ที่บานสะพรั่ง นอกจากทะเลสาบแล้ว หุบเขาไห่จื่อยังเป็นดินแดนแห่งมหัศจรรย์สำหรับสัตว์อีกด้วย ที่ราบสูง Guozhuangping ห่างจากเมืองซื่อกูเหนียงซานไป 7 กิโลเมตร ยังมีทิวท้ศน์ของม้าจำนวนมากยืนกินหญ้าอยู่เต็มท้องทุ่งที่แต่งแต้มด้วยดอกไม้หลากหลายชนิด ทั้งสีแดง สีขาว และอื่นๆ ในช่วงฤดูร้อน ชาวทิเบต Gyarong จะจัดงานประจำปีเพื่อบูชาภูเขาศักดิ์สิทธิ์ด้วยการร้องเพลง เต้นรำ และแข่งขัน นอกจากนี้ ที่ราบสูง Guozhaungping และที่ราบสูง Chaoshanping ยังเป็นสถานที่ที่ดีที่สุดในการชื่นชมภูเขาซื่อกูเหนียงในมุมมองที่เห็นกว้างไกล

เส้นทางเดินป่าในหุบเขาไห่จื่อ การขึ้นไปบนยอดเขาต้องมีไกด์ท้องถิ่นน้ำทางเท่านั้น แต่คุ้มค่า เพราะคุณจะได้ชมทิวทัศน์ที่สวยงามที่มีความอุดมสมบูรณ์ทางธรรมชาติตลอดทาง เส้นทางนี้ไม่มีรถให้บริการ ต้องเดินเท้าเท่านั้น ใช้เวลาประมาณ 1 วัน หรืออาจต้องพักค้างคืน เหมาะสำหรับสายเดินป่าที่ชอบความท้าทายเป็นอย่างมาก

หุบเขาไห่ซื่อโกว (Haizi Valley หรือ 海子沟) - ทะเลสาบต้าไห่จื่อ (Dahaizi Lake)

ช่วงเวลาที่ดีที่สุด: ปลายเดือนพฤษภาคม-เดือนกรกฎาคม และเดือนกันยายน-เดือนตุลาคม

ระดับความสูง: 3,200 เมตร – 4,200 เมตร

ระยะเวลาเยี่ยมชมที่แนะนำ: 1-2 วัน

เวลาทำการ: เปิดให้บริการตลอดทั้งปี

  • 1 เม.ย.-30 พ.ย. เปิดให้บริการเวลา 07:30-16:00 น. 
  • 1 ธ.ค.-31 มี.ค. เปิดให้บริการเวลา 8.00-15.30 น. 

ค่าเข้าชม: ค่าเข้า 60 หยวนต่อคน (1 เมษายน-30 พฤศจิกายน) และ 40 หยวนต่อคน (1 ธันวาคม-31 มีนาคมปีหน้า) 

ที่อยู่: Haizigou Scenic Area, Mount Siguniang, Xiaojin County, Aba Tibetan and Qiang Autonomous Prefecture, Sichuan Province (四川省阿坝藏族羌族自治州小金县四姑娘山海子沟)

เส้นทางที่แนะนำสำหรับการเดินป่าขึ้น ภูเขาสี่ดรุณี – ซื่อกู่เหนียงซาน (Siguniangshan)

คนส่วนใหญ่มักจะไปเยี่ยมชมภูเขาซื่อกู่เหนียง (Siguniangshan) เพื่อเดินป่าที่หุบเขา 1 หรือ 2 แห่งจากทั้งหมด 3 แห่ง และชมภูเขาสี่ดรุณี – ซื่อกู่เหนียงซาน (Siguniangshan) จากระยะไกล

  • หุบเขา Shuanqiao (ครึ่งวัน): ทางเข้า – Yinyanggu Valley – Yangliu Bridge – Sun & Moon Mirror – White Poplar Forest – Five Color Mountain Viewing Point – Sapodilla Plateau – Sea-buckthorn Forest – Bonsai Shoal – Nianyuba – Niupengzi – Budala Mountain Viewing Point – Large Meadow – White Sand Shoal – Maozhuwan Gully – Redwood Forest – ขากลับเหมือนเดิม (ปกติ 3 ชั่วโมงโดยรถบัส 4-5 ชั่วโมงโดยรถบัสและเดิน)

  • หุบเขา Haizi (1 วัน): ทางเข้า – Guozhaungping Plateau & Chaoshanping Plateau (admire Mount Siguniang) – Shiban Village – Dajianbao – Shishaotai – Old Cattle Garden – Large Lake – ขากลับเหมือนเดิม (8-9 ชั่วโมง)

  • หุบเขา Changping (1 วัน): ทางเข้า – Changping – Lama Monastery – Toudaoping Plateau – Erdaoping Plateau – Tang Cypress Ancient Path – Dragon Cave – Sea – Lower Dry Sea – Upper Dry Sea – Leogu Rock – Muluozi – ขากลับเหมือนเดิม (ประมาณ 7-8 ชม.)

*คลิกที่นี่เพื่อดูแผนที่เส้นทางการเดินป่า

เปรียบเทียบข้อมูลของแต่ละหุบเขา

หุบเขาที่ตั้งระยะทางรูปแบบการชมทิวทัศน์ทัศนียภาพระยะเวลาแนะนำ
หุบเขา Shuangqiaoด้านซ้าย34.8 กิโลเมตรนั่งรถบัสชมทิวทัศน์; สำรวจหุบเขาทั้งหมดได้ง่าย – ภูมิทัศน์มุมกว้างที่มีป่าล้อมรอบ
– อาจไม่เห็นยอดภูเขาซื้อกูเหนียงได้อย่างชัดเจน
ครึ่งวันหรือ 1 วัน
หุบเขา Changpingตรงกลาง29 กิโลเมตรเดินป่า, ขี่ม้า; สวรรค์สำหรับนักเดินป่าตัวยง; จบเส้นทาง 2 ใน 3 ของหุบเขา– เห็นภูเขาซื้อกูเหนียงได้อย่างชัดเจน
– ทิวทัศน์แบบที่ราบสูง
1 วัน
หุบเขา Haiziด้านขวา19.2 กิโลเมตรขี่ม้า; ระดับของการเดินป่าอยู่ในระดับยากมุมที่ดีที่สุดในการถ่ายภาพทิวทัศน์ภูเขาซื่อกู่เหนียง (Siguniangshan)1 วัน

วิธีเดินทางไปยัง ภูเขาสี่ดรุณี – ซื่อกู่เหนียงซาน (Siguniangshan)

ภูเขาสี่ดรุณีอยู่ห่างจากเมืองเฉิงตู เมืองหลวงของมณฑลเสฉวน ประมาณ 220 กิโลเมตร วิธีเดินทางมีดังนี้:

  1. เครื่องบิน: จากเมืองเฉิงตูไปยังสนามบินเหวินชวน ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง จากนั้นเดินทางต่อโดยรถบัสไปยังอุทยานแห่งชาติภูเขาสี่ดรุณี ใช้เวลาอีกประมาณ 2 ชั่วโมง
  2. รถยนต์: วิธีที่สะดวกที่สุดในการเดินทางไปยังภูเขาสี่ดรุณีคือการขับรถจากเฉิงตูไปประมาณ 4-5 ชั่วโมง คุณสามารถเช่ารถหรือจ้างคนขับส่วนตัวเพื่อการเดินทางที่สะดวกสบายยิ่งขึ้น
  3. รถประจำทางหรือรถตู้: ขึ้นรถประจำทางหรือรถตู้ได้ที่สถานีขนส่งฉาเตี้ยนจื่อเชอจ้าน (Chadianzi) เมืองเฉิงตู ที่ปลายทางเป็นเมืองเซียวจิน (Xiaojin) แล้วลงที่เมืองซื่อกูเหนียงซาน (Siguniangshan) ใช้เวลาประมาณ 5-6 ชั่วโมง ขึ้นอยู่กับสภาพการจราจรและอากาศ
  4. รถไฟ: จากเมืองเฉิงตูไปยังสถานีรถไฟเหวินชวน ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง จากนั้นเดินทางต่อโดยรถบัสไปยังอุทยานแห่งชาติภูเขาสี่ดรุณี ใช้เวลาอีกประมาณ 2 ชั่วโมง

สภาพอากาศและช่วงเวลาที่ดีที่สุดในการเยี่ยมชม ภูเขาสี่ดรุณี – ซื่อกู่เหนียงซาน (Siguniangshan)

ภูเขาสี่ดรุณี – ซื่อกู่เหนียงซาน (Siguniangshan)อยู่ในเขตมรสุมกึ่งร้อนชื้น และมีอุณหภูมิที่แตกต่างกันมากในแต่ละวันและแต่ละคืน นอกจากนี้ ชาวท้องถิ่นยังบอกอีกว่าภูเขาสี่ดรุณี – ซื่อกู่เหนียงซาน (Siguniangshan)มีสี่ฤดูกาลในแต่ละยอดเขา และทุกๆ 10 ไมล์จะมีสภาพอากาศที่แตกต่างกัน ภูเขาสี่ดรุณี – ซื่อกู่เหนียงซาน (Siguniangshan)จะค่อนข้างร้อนในช่วงเที่ยง และจะเย็นในตอนเช้าและตอนกลางคืนในฤดูใบไม้ผลิและฤดูใบไม้ร่วง อุณหภูมิเฉลี่ยในฤดูร้อนโดยทั่วไปอยู่ที่ 19°C ในขณะที่ฤดูหนาว อุณหภูมิเฉลี่ยในพื้นที่หุบเขามักจะต่ำกว่า 2°C

ซื่อกู่เหนียงซาน (Siguniangshan) - Shuangqiao Valley

ภูเขาซื่อกู่เหนียง (Siguniangshan)เหมาะแก่การเยี่ยมชมตลอดทั้งปี อย่างไรก็ตาม เดือนกรกฎาคมถึงสิงหาคมเป็นช่วงเวลาที่ดีที่สุดในการเดินทางไปภูเขาซื่อกู่เหนียง (Siguniangshan) ซึ่งคุณจะได้ชื่นชมดอกไม้หลากสีสันที่ประดับประดาทุ่งหญ้าและป่าไม้สีเขียวมรกต และสัมผัสความเย็นสบายของน้ำเย็นจากหิมะในหุบเขา นอกจากนี้ กลางเดือนตุลาคมถึงกลางเดือนพฤศจิกายนเป็นอีกฤดูกาลท่องเที่ยวยอดนิยมที่จะได้ชมความงามของใบไม้สีแดงในฤดูใบไม้ร่วงและป่าไม้ที่สลับซับซ้อนเป็นสีส้ม เหลือง ทอง และเขียว คุณจะได้ภาพถ่ายที่สวยงามในช่วงนี้อย่างแน่นอน! ช่วงเดือนธันวาคมถึงพฤษภาคมเป็นช่วงที่นักท่องเที่ยวจะมองเห็น “ภูเขาสีทอง” เปล่งประกายแสงจากดวงอาทิตย์และทะเลหมอกได้ แต่ควรหลีกเลี่ยงการเดินทางในช่วงวันหยุดนักขัตฤกษ์ (ปกติวันที่ 1-7 ตุลาคม) และวันหยุดวันแรงงาน (ต้นเดือนพฤษภาคม) เพื่อหลีกเลี่ยงนักท่องเที่ยวจำนวนมาก

ภูเขาสี่ดรุณี - ซื่อกู่เหนียงซาน (Siguniangshan) ในฤดูใบไม้ร่วง

การเตียมตัวสำหรับการเดินป่า

1. ค้นคว้าและวางแผน: ทำความเข้าใจเส้นทางการเดินป่าและระดับความยากของเส้นทาง วางแผนการเดินทางและพกแผนที่ไปด้วย

2. ความพร้อมของร่างกาย: ก่อนเดินทางควรตรวจสอบความพร้อมของร่างกายสำหรับการเดินป่า การออกกำลังกายเป็นประจำและการเดินป่าเพื่อฝึกซ้อมจะช่วยเตรียมร่างกายของคุณได้

3. เสื้อผ้าและอุปกรณ์: เตรียมเสื้อผ้าที่เหมาะสมสำหรับสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลง ควรสวมเสื้อผ้าหลายชั้น เนื่องจากอุณหภูมิอาจแตกต่างกันอย่างมากในแต่ละช่วงเวลาของวัน นอกจากนี้ คุณควรสวมรองเท้าเดินป่าที่แข็งแรง พกไม้เท้าเดินป่า ใช้เป้สะพายหลังคุณภาพดี รวมถึงพกน้ำและของว่างที่มีพลังงานสูงติดตัวไปให้เพียงพอ

4. วัฒนธรรมท้องถิ่น: ให้ความเคารพวัฒนธรรม ประเพณีและขนบธรรมเนียมในแต่ละพื้นที่ และหากต้องการถ่ายรูปคนในท้องถิ่น ก็ควรขออนุญาตก่อนถ่ายภาพเสมอ

5. โรคแพ้ความสูง: ภูเขาสี่ดรุณีตั้งอยู่บนพื้นที่สูง และบางยอดเขาสูงเกิน 6,000 เมตร หากต้องการหลีกเลี่ยงหรือบรรเทาอาการแพ้ความสูง คุณควรนอนหลับพักผ่อนและดื่มน้ำให้เพียงพอ รับประทานผัก ผลไม้ และอาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการ รักษาอารมณ์ให้สงบเพื่อให้ร่างกายผ่อนคลาย และควรเตรียมยาสำหรับโรคแพ้ความสูงติดตัวไปด้วย

6. ความปลอดภัย: หากคุณวางแผนที่จะเดินป่าหรือปีนยอดเขา คุณควรติดต่อรับบริการจากไกด์ท้องถิ่น ที่มีความรู้เกี่ยวกับภูมิประเทศและสามารถรับรองความปลอดภัยของคุณได้

7. สิ่งของจำเป็นสำหรับกรณีฉุกเฉิน: เตรียมชุดปฐมพยาบาล ไฟฉาย และนกหวีด เรียนรู้ขั้นตอนการปฐมพยาบาลเบื้องต้น

8. หลีกเลี่ยงการทิ้งขยะ: เคารพธรรมชาติและหลีกเลี่ยงการทิ้งขยะ ปฏิบัติตามหลักการ “ไม่ทิ้งร่องรอย” เพื่อรักษาสิ่งแวดล้อม

ประเทศจีนมีแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่มีความอุดมสมบูรณ์ให้เราได้ไปสัมผัสอยู่มากมาย และทิวทัศน์ธรรมชาติก็สวยงามไม่แพ้ทวีปยุโรป แถมอยู่ใกล้กับประเทศไทยและไม่ต้องขอวีซ่าอีกด้วย แต่ไม่ว่าจะเดินทางไปในประเทศที่ใกล้หรือประเทศที่ไกล สิ่งที่เราควรมีติดตัวไว้ก็คือ ประกันภัยการเดินทาง สิ่งสำคัญที่ช่วยให้คุณเดินทางได้อย่างอุ่นใจ ไร้กังวล เพียงจ่ายเงินไม่กี่บาท คุณก็จะได้รับความคุ้มครองมากมายที่ครอบคลุมเกือบทุกเหตุการณ์ไม่คาดฝันที่อาจเกิดขึ้นระหว่างเดินทาง* เช่น ความเจ็บป่วย การเกิดอุบัติเหตุ กระเป๋าหาย เที่ยวบินดีเลย์ เป็นต้น Allianz Travel ขอแนะนำ ประกันการเดินทางต่างประเทศ Dance Moves ที่จะช่วยให้ทริป การเดินทางของคุณราบรื่น ไม่มีสะดุด อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับความคุ้มครองได้ ที่นี่

*เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทกำหนด

ขอบคุณข้อมูลจาก: Sichuan Travel Guide – Attractions, Things to Do, Map & Itineraries, Discover Siguniang Mountain Ultimate Travel Guide & Tips-Chinaadventure, Siguniangshan | Visit Siguniang National Park (Sichuan, China), Mount Siguniang Trekking: Top 4 Hiking Routes, Packing List & Tips

เลือกแผนประกันเดินทางที่ใช่สำหรับคุณ ประกันการเดินทาง Dance Moves จาก Allianz Travel

China Tourist Attractions

เที่ยวจีน ต้อนรับฟรีวีซ่า กับ 8 เมืองท่องเที่ยวยอดนิยม

ข่าวดีต้อนรับปีใหม่สำหรับคนที่รักการเที่ยวต่างประเทศ เมื่อรัฐบาลจีนอนุมัติให้คนไทยเข้าประเทศจีนได้โดยไม่ต้องขอวีซ่า มีผลตั้งแต่ 1 มีนาคม 2567 เป็นต้นไป ต่อจากนี้ไปเมื่อนักท่องเที่ยวไทยอยากไป เที่ยวจีน ก็แค่ซื้อตั๋วเครื่องบิน และบินไป เที่ยวจีน ได้อย่างง่ายดาย แต่สิ่งที่ยากที่สุดในการไปเที่ยวจีนก็คือการตัดสินใจว่าจะไปที่ไหนดี เนื่องจากประเทศจีนมีขนาดใหญ่ และมีเมืองที่น่าสนใจหลากหลายรูปแบบให้ไปเยี่ยมชมอยู่มากมาย Allianz Travel ขอนำเสนอ 8 เมืองท่องเที่ยวยอดนิยมของประเทศจีน ที่คุณจะได้เพลิดเพลินกับประสบการณ์ที่น่าจดจำ และนำคุณไปสัมผัสกับวัฒนธรรมและ สถานที่ท่องเที่ยวจีน ในแต่ละมุม มีที่ไหนบ้างไปดูกันเลยค่ะ 🙂

1. ปักกิ่ง (Beijing) — เมืองหลวงยุคโบราณและยุคใหม่

ปักกิ่ง เป็นเมืองหลวงของประเทศจีนมากว่า 700 ปี ที่มีประวัติศาสตร์ทั้งสมัยโบราณและแลนด์มาร์คสมัยใหม่ คุณจะพบกับพระราชวังหลายแห่งในกรุงปักกิ่ง เช่นเดียวกับอาคารสุดทันสมัย นอกจากนี้ปักกิ่งยังเป็นศูนย์กลางทางการเมือง ประวัติศาสตร์ วัฒนธรรม การคมนาคม การเมือง และการศึกษาของจีนอีกด้วย ปักกิ่งเป็น สถานที่ท่องเที่ยวจีน ที่มีผู้คนแวะมาเยี่ยมเยียนมากที่สุดในประเทศจีน และเป็นจุดเริ่มต้นของนักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ที่มา เที่ยวจีน เป็นครั้งแรก และสิ่งที่ห้ามพลาดเมื่อไปเที่ยวปักกิ่งก็คือการไปเที่ยวชมกำแพงเมืองจีน ซึ่งเดินทางจากปักกิ่งไปได้ง่ายที่สุด

ปักกิ่ง (Beijing) — เมืองหลวงยุคโบราณและยุคใหม่
  • สถานที่ท่องเที่ยวแนะนำ: กำแพงเมืองจีน พระราชวังต้องห้าม จัตุรัสเทียนอันเหมิน  หอสักการะฟ้าเทียนถาน (Temple of Heaven) สนามกีฬาแห่งชาติปักกิ่ง (สนามกีฬารังนก)
  • ประสบการณ์ที่ไม่เหมือนใคร: ขึ้นไปเดินบนกำแพงเมืองจีน นั่งรถสามล้อถีบชมย่านประวัติศาสตร์หูท่ง (Hutong) รับประทานเป็ดปักกิ่ง  ชมงิ้วปักกิ่งและการแสดงกังฟู เยี่ยมชมพระราชวังฤดูร้อน
  • ระยะเวลาที่แนะนำ: 2–4 วัน

2. กุ้ยหลิน (Guilin) – ภูมิทัศน์ภูเขาและชนบทที่สวยที่สุดในประเทศจีน

หนึ่งในเมืองที่เป็น สถานที่ท่องเที่ยวจีน ยอดนิยมก็ต้องยกให้ กุ้ยหลิน ตั้งอยู่ทางตอนใต้ในมณฑลกวางซี เป็นดินแดนแห่งขุนเขา ที่เรียกว่าภูมิประเทศแบบภูเขาคาร์สต์ ที่สวยงามที่สุดและมีรูปแบบที่เป็นเอกลักษณ์ ภูเขาสีเขียวมากมายตั้งอยู่บนที่ราบอันกว้างใหญ่ และสายน้ำที่มีธรรมชาติสวยงามราวกับสรวงสวรรค์ ทั้งเทือกเขาที่สลับซับซ้อน ถ้ำหินงอกหินย้อยรูปทรงแปลกตา หรือแม่น้ำไหลเอื่อยๆ คดเคี้ยวไปมา ที่สำคัญอากาศก็เย็นสบายตลอดทั้งปี จนได้รับสมญานามว่า “เมืองสวรรค์บนพื้นพิภพ” นอกจากทิวทัศน์ที่สวยงามแล้ว กุ้ยหลินยังเป็นที่ตั้งของชนกลุ่มน้อยหลายสิบกลุ่ม รวมถึงจ้วง เหยา แม้ว และตง ซึ่งอาศัยอยู่ห่างไกลจากตัวเมืองในหมู่บ้านที่ล้อมรอบด้วยทุ่งนาขั้นบันได และสถานที่ที่มีผู้เยี่ยมชมมากที่สุดในกุ้ยหลินคือเมืองหยางซั่ว สถานที่ที่มีตัวเลือกที่เหมาะกับทั้งคนที่อยากทำกิจกรรมผจญภัยหรือต้องการพักผ่อนอย่างเงียบสงบ 

กุ้ยหลิน (Guilin) – ภูมิทัศน์ภูเขาและชนบทที่สวยที่สุดในประเทศจีน
  • สถานที่ท่องเที่ยวแนะนำ: แม่น้ำหลี่ เมืองหยางซั่ว ทุ่งนาขั้นบันไดหลงจี แม่น้ำสองสาย และทะเลสาบทั้งสี่
  • ประสบการณ์ที่ไม่เหมือนใคร: ล่องเรือชมทิวทัศน์ในแม่น้ำหลี่ ท้าทายตัวเองด้วยการเล่น SUP (แพดเดิลบอร์ดแบบยืน) ขี่รถ ATV ปั่นจักรยานในพื้นที่ชนบท ชมนาข้าวขั้นบันได ล่องแพไม้ไผ่ ชิมบะหมี่กุ้ยหลิน
  • ระยะเวลาที่แนะนำ: 1-4 วัน

3. เฉิงตู (Chengdu) – บ้านเกิดของแพนด้ายักษ์

เฉิงตู เมืองเอกของมณฑลเสฉวน และเป็นทั้งศูนย์กลางด้านการเมือง การทหาร การศึกษา การคมนาคม และอุตสาหกรรมแห่งภูมิภาคตะวันตกเฉียงใต้  ตำแหน่งที่ตั้งทางภูมิศาสตร์ที่อยู่บริเวณลุ่มแม่น้ำหมินที่อุดมสมบูรณ์ ทำให้เฉิงตูมีภูมิทัศน์ทางธรรมชาติที่สวยงาม และประวัติศาสตร์อันยาวนานก่อให้เกิดวัฒนธรรมเก่าแก่ โบราณวัตถุทางประวัติศาสตร์ที่ควรค่าต่อการยี่ยมชม งานศิลปะหลากหลายที่สืบทอดมายาวนานนับพันปี คู่ขนานไปกับเทคโนโลยีที่ก้าวล้ำนำสมัยได้อย่างลงตัว นอกจากนี้เฉิงตูยังถือว่าเป็นถิ่นกำเนิดของแพนด้ายักษ์ สัตว์สงวนหายากของประเทศจีน ที่มีศูนย์อนุรักษ์และศึกษาแพนด้าที่ให้นักท่องเที่ยวมาเยี่ยมชม

เที่ยวจีน - เฉิงตู (Chengdu) – บ้านเกิดของแพนด้ายักษ์
  • สถานที่ท่องเที่ยวแนะนำ: หุบเขาแพนด้าตู้เจียงเอี้ยน ศูนย์เพาะพันธุ์และวิจัยแพนด้ายักษ์เฉิงตู พระใหญ่เล่อซาน ถนนโบราณจินลี่
  • ประสบการณ์ที่ไม่เหมือนใคร: แวะไปเยี่ยมแพนด้า ลิ้มรสหม้อไฟเสฉวนรสเผ็ด ชมการแสดงโชว์เปลี่ยนหน้ากากซึ่งได้ชื่อว่าเป็นศิลปะการแสดงงิ้วชั้นสูงของเสฉวน ไหว้พระใหญ่เล่อซาน ชอปปิ้งที่ถนนคนเดินซุนซีลู่ จองทัวร์ไปเที่ยวอุทยานแห่งชาติจิ่วไจ้โกว
  • ระยะเวลาที่แนะนำ: 1-4 วัน

4. ซีอาน (Xi’an) – เมืองหลวงของจีนโบราณที่ยิ่งใหญ่ที่สุด

ซีอาน เมืองหลวงเก่าแก่ที่มีชื่อเสียงเป็นอันดับสองของจีน (รองจากปักกิ่ง) ได้รับการยกย่องให้เป็นสี่เมืองหลวงโบราณที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์โลก (ร่วมกับเอเธนส์ โรม และไคโร) มีประวัติที่น่าสนใจอันเนื่องมาจากเมืองซีอานเคยผ่านช่วงเวลาแห่งความเจริญรุ่งเรืองและเหตุการณ์สำคัญต่างๆ และยังเป็นจุดเริ่มต้นของเส้นทางสายไหม ซึ่งเป็นเส้นทางการค้าโบราณที่ขยายจากเอเชียไปยังยุโรป และมีบทบาทสำคัญในการแลกเปลี่ยนทางเศรษฐกิจและวัฒนธรรมระหว่างตะวันออกและตะวันตก เมืองซีอานได้ขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกจากองค์กรยูเนสโก้ในปีพ.ศ. 2524 ทำให้ที่นี่เป็นหนึ่งในจุดหมายปลายทางที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวทั้งในประเทศและต่างประเทศที่ต้องการมาชื่นชมความสวยงาม เรื่องราวความเป็นมาของจีนในอดีต สถานที่ทางประวัติศาสตร์ขนาดมหึมา ภูมิทัศน์ทางวัฒนธรรม และสำรวจประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมจีนโบราณ

สถานที่ท่องเที่ยวจีน - ซีอาน (Xi'an)
  • สถานที่ท่องเที่ยวแนะนำ: สุสานจิ๋นซีฮ่องเต้ กำแพงเมืองซีอาน หอระฆังและหอกลอง เจดีย์ต้าเยี่ยน พิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์แห่งส่านซี สระว่ายน้ำหัวชิงฉือ สวนสาธารณะต้าถังฝูทรงหย่วน
  • ประสบการณ์ที่ไม่เหมือนใคร: เยี่ยมชมกองทัพทหารดินเผา ขี่จักรยานเที่ยวบนกำแพงเมืองโบราณ ลองชิมของว่างในย่านชาวมุสลิม
  • ระยะเวลาที่แนะนำ: 1-3 วัน
สถานที่ท่องเที่ยวจีน - ซีอาน (Xi'an) – เมืองหลวงของจีนโบราณที่ยิ่งใหญ่ที่สุด

5. เซี่ยงไฮ้ (Shanghai) — ความแตกต่างระหว่างวัฒนธรรมตะวันตกและตะวันออก

เซี่ยงไฮ้ เป็นเมืองศูนย์กลางทางธุรกิจที่ใช้เวลาเพียง 170 ปีในการเปลี่ยนจากหมู่บ้านชาวประมงมาเป็นมหานครที่ใหญ่ที่สุดในจีน เต็มไปด้วยบรรยากาศที่มีชีวิตชีวาที่สามารถเทียบได้กับนิวยอร์กและปารีสในแง่ของความทันสมัย คุณสามารถเพลิดเพลินไปกับความเจริญยุคใหม่ของจีน และได้เห็นความแตกต่างระหว่างวัฒนธรรมตะวันตกและตะวันออก เซี่ยงไฮ้มีฉายาว่าเป็นเมืองที่ไม่เคยหลับใหล เพราะว่าเต็มไปด้วยแสงสีตระการตายามค่ำคืน นอกจากนี้เซี่ยงไฮ้ยังมีชื่อเสียงในด้านสถาปัตยกรรมที่สวยงาม และมีแหล่งท่องเที่ยวมากมายที่เป็นแลนด์มาร์คที่คนรู้จักไปทั่วโลกที่ใครไปเที่ยวเซี่ยงไฮ้ก็ต้องไปเช็คอิน

สถานที่ท่องเที่ยวจีน - เซี่ยงไฮ้ (Shanghai) — ความแตกต่างระหว่างวัฒนธรรมตะวันตกและตะวันออก
  • สถานที่ท่องเที่ยวแนะนำ: เดอะบันด์ สวนอี้หยวน วัดหยกเซี่ยงไฮ้ เมืองโบราณจูเจียเจี่ยว สวนสนุกดิสนีย์แลนด์, ตึกเซี่ยงไฮ้เวิลด์ไฟแนนเชียลเซ็นเตอร์ หอไข่มุกตะวันออก ย่านซินเทียนตี้ ถนนนานจิง
  • ประสบการณ์ที่ไม่เหมือนใคร: สัมผัสประสบการณ์รถไฟที่เร็วที่สุดในโลก เดินเล่นไปตามย่านเดอะบันด์ ชมวิวมุมสูงจากจุดชมวิวบนเซี่ยงไฮ้ทาวเวอร์ ชมงานศิลปะและชองเก๋ๆ ที่ M50 Creativity Space ชอปปิ้งที่ถนนคนเดินนานจิง เยี่ยมชมตลาดและสวนอี้หยวน
  • ระยะเวลาที่แนะนำ: 1-3 วัน

6. หางโจว (Hangzhou) — สวรรค์บนดินทั้งกินทั้งชอปปิ้ง

หางโจว เป็นเมืองหลวงของมณฑลเจ้อเจียง มณฑลทางตะวันออกของประเทศจีน ตัวเมืองตั้งอยู่ที่อ่าวหางโจว และติดกับคลองต้าอวิ๋นเหอ เมืองหางโจวนับเป็นเมืองเก่าแก่ 1 ใน 6 ของจีน นอกเหนือจากเมืองซีอาน ลั่วหยาง ปักกิ่ง นานกิง และไคฟง หางโจวเคยเป็นเมืองหลวงในสมัยราชวงศ์ซ่งใต้ มีทั้งทะเลสาบซีหู ที่ได้รับยกย่องให้เป็นมรดกโลกทางวัฒนธรรม มีซากโบราณสถานของวังหลวงที่เคยเป็นที่ประทับของฮ่องเต้ และมีวัดโบราณเก่าแก่อีกมากมาย ซึ่งมาร์โค โปโล นักสำรวจชาวอิตาลี มาที่หางโจวในศตวรรษที่ 13 ได้ขนานนามหางโจวไว้ว่า “เมืองที่สง่างามและวิจิตรงดงามที่สุดในโลก” และอีกหนึ่งกิจกรรมในเมืองนี้ที่มีชื่อเสียงมากคือ “การชมพระจันทร์บนทะเลสาบซีหู” เพราะที่นี่ถูกยกย่องให้เป็นสถานที่ชมความงามของพระจันทร์ที่สวยที่สุดมากกว่าที่ไหนๆ ด้วย หางโจวจึงจัดเป็นอีกหนึ่งจุดหมายปลายทางที่มีชื่อเสียงระดับโลก นอกจากนี้ หางโจวยังเป็นเมืองภาคตะวันออกที่ได้รับการพัฒนาอย่างสูงสุด มีรถไฟฟ้าใต้ดินกว่า 10 สาย และมีสถาบันการศึกษาระดับสูงที่ติด 10  อันดันของประเทศจีนอีกด้วย

เที่ยวจีน - หางโจว (Hangzhou) — สวรรค์บนดินทั้งกินทั้งชอปปิ้ง
  • สถานที่ท่องเที่ยวแนะนำ: ศูนย์กีฬาโอลิมปิกหางโจวสนามกลาง ราฟเฟิลส์ซิตี้ ไช่เจียงซินซิตี้ ทะเลสาบซีหู วัดหลิ่งอิ่น(วัดหลิ่งหยิน) เมืองจำลองราชวงศ์ซ่ง อุทยานพื้นที่ชุ่มน้ำซีสี ไร่ชาหลงจิ่ง สวนไท่จือวัน ถนนโบราณเหอฟาง เจดีย์เหลยเฟิง
  • ประสบการณ์ที่ไม่เหมือนใคร: เดินเล่นหรือขี่จักรยานรอบทะเลสาบซีหู ล่องเรือสำปั้นผ่านพื้นที่ชุ่มน้ำซีสี ทัวร์ชมคลองแกรนด์คาแนล (คลองขุดที่เก่าแก่และยาวที่สุดในโลก) และวัฒนธรรมเมืองหางโจวกับไกด์ท้องถิ่น ชิมไก่ขอทาน (Beggar’s Chicken) ดื่มชาเขียวที่ดีที่สุดของจีนที่ไร่ชาหลงจิ่ง ชมพระพุทธรูปที่แกะสลักบนภูเขาที่วัดหลิงอิ่น
  • ระยะเวลาที่แนะนำ: 1-2 วัน

7. หวงซาน (Huangshan) – มนต์เสน่ห์แห่งมรดกธรรมชาติของโลก

เขาหวงซานหรือภูเขาเหลือง (Yellow Mountain) ตั้งอยู่ที่มณฑลอันฮุย ทางตะวันออกของจีน เป็น 1 ใน 10 ของยอดเขาที่มีทิวทัศน์สวยงามขึ้นชื่อของประเทศจีนและมีชื่อเสียงไปทั่วโลก สภาพธรณีวิทยาและธรรมชาติสวยงามราวจิตรกรรมจากปลายพู่กันศิลปิน จนได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกทางวัฒนธรรมและธรรมชาติขององค์กรยูเนสโก เมื่อปี พ.ศ. 2533 เขาหวงซานประกอบด้วยยอดเขาประมาณ 72 ยอด โดยยอดเขาสูงสุดคือยอดเหลียนฮวา (ยอดเขาดอกบัว) มีความสูงเหนือระดับน้ำทะเล 1,864 เมตร รายล้อมด้วยภูเขาสูงต่ำและมีธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ คุณจะตื่นตาไปกับต้นสนเก่าแก่เรียงรายเป็นแถวและหมู่หินแกรนิตขนาดใหญ่ที่มีรูปร่างแปลกตาตามจินตนาการ และภาพทะเลหมอกและเมฆที่ลอยปกคลุมไปทั่ว นอกจากนี้ บริเวณเทือกเขายังมีน้ำตกใหญ่ 2 แห่ง ลำธาร 24 สาย น้ำพุร้อน และบ่อน้ำร้อนธรรมชาติอีกหลายแห่ง 

เที่ยวจีน - หวงซาน (Huangshan) – มนต์เสน่ห์แห่งมรดกธรรมชาติของโลก
  • สถานที่ท่องเที่ยวแนะนำ: เทือกเขาหวงซาน ชมเมืองโบราณหงชุนที่มีประวัติศาสตร์อันยาวนานกว่า 800 ปี เมืองริมน้ำโบราณซีถัง (สถานที่ถ่ายทำภาพยนตร์เรื่อง Mission Impossible III) เมืองโบราณถุนซี
  • ประสบการณ์ที่ไม่เหมือนใคร: เที่ยวชมบริเวณโดยรอบของอุทยาน ชมพระอาทิตย์ขึ้นบนเขาหวงซาน ดื่มด่ำกับความงดงามของทะเลเมฆและหมอก ตื่นตาตื่นใจกับรูปลักษณ์ที่แปลกตาของมวลหมู่ต้นสนที่มีอายุตั้งแต่ 800 ปีขึ้นไป แช่น้ำพุร้อน เยี่ยมชมหมู่บ้านโบราณ
  • ระยะเวลาที่แนะนำ: 3-4 วัน

8. ลี่เจียง (Lijiang) – ดินแดนแห่งภูเขาและธรรมชาติสุดอลังการ

ลี่เจียง (Lijiang) เป็นเมืองที่ตั้งอยู่ทางตะวันตกเฉียงเหนือของมณฑลยูนนาน ประเทศจีน ตั้งอยู่บนความสูงประมาณ 2,400 เมตรจากระดับน้ำทะเล ลี่เจียงเป็นเมืองเก่าที่เป็นที่ตั้งถิ่นฐานของชนเผ่านาซีที่อพยพมาจากทิเบต มีลักษณะเป็นเมืองโบราณสวยงามและมีประวัติศาสตร์ยาวนานกว่า 800 ปี จึงได้รับขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกจากองค์การยูเนสโก (UNESCO) เมื่อปี พ.ศ. 2520 ให้เป็นมรดกโลกทางวัฒนธรรม ลี่เจียงเป็นเมืองที่ได้รับฉายาว่า “เวนิสแห่งตะวันออก” อันเนื่องมาจากมีลำธารและคูคลองไหลผ่านอาคารบ้านเรือนโบราณและมีสะพานเล็กๆ ข้ามฝั่งไปมามากกว่า 300 สะพาน ให้ความรู้สึกเหมือนอยู่เมืองเวนิส ประเทศอิตาลีนั่นเอง

เที่ยวจีน - ลี่เจียง (Lijiang) - ดินแดนแห่งภูเขาและธรรมชาติสุดอลังการ
  • สถานที่ท่องเที่ยวแนะนำ: ภูเขาหิมะมังกรหยก (Jade Dragon Snow Mountain) ทะเลสาบไป๋สุ่ยเหอ (Blue Moon Valley) ทุ่งหญ้าหยุนซันผิง (Yun Shan Ping) เมืองเก่าลี่เจียง สระน้ำมังกรดำ หุบเขาเสือกระโจน (Tiger Leaping Gorge)
  • ประสบการณ์ที่ไม่เหมือนใคร: ชมวิวธรรมชาติที่สวยงามที่สุดบนเยอดเขาหิมะมังกรหยกที่สูงกว่าระดับน้ำทะเล 4,506 เมตร ถ่ายรูปกับจามรีที่ทะเลสาบไป๋สุ่ยเหอ หาของอร่อยและชอปปิ้งที่เมืองโบราณลี่เจียง ชมโชว์จางอี้โหม่ว (Impression Lijiang) 
  • ระยะเวลาที่แนะนำ: 3-4 วัน

เราคงไม่สามารถเที่ยวประเทศจีนได้ทั้งหมดในทริปเดียว การที่จะตัดสินใจว่าจะไปที่ไหนก่อนเป็นทริปแรก เราควรคำนึงถึงปัจจัยหลายๆ อย่าง เช่น จำนวนวันสำหรับทริปนั้นๆ การเดินทาง สภาพอากาศ สภาพร่างกาย เป็นต้น ไม่ควรเดินทางไปหลายที่มากเกินไป มุ่งเน้นไปที่การพักผ่อนและได้ซึมซับกับประสบการณ์ที่ดีที่สุดในทริปของคุณ และสิ่งสำคัญที่คุณควรมีติดตัวไว้ก่อนออกเดินทางไปเที่ยวต่างประเทศ คือประกันภัยการเดินทาง สิ่งสำคัญที่ช่วยให้คุณเดินทางได้อย่างอุ่นใจไร้กังวล เพียงจ่ายเงินไม่กี่บาท คุณก็จะได้รับความคุ้มครองมากมายที่ครอบคลุมเกือบทุกเหตุการณ์ไม่คาดฝันที่อาจเกิดขึ้นระหว่างเดินทาง* เช่น ความเจ็บป่วย การเกิดอุบัติเหตุ กระเป๋าหาย เที่ยวบินดีเลย์ เป็นต้น Allianz Travel ขอแนะนำ ประกันการเดินทางต่างประเทศ Dance Moves ที่จะช่วยให้ทริป การเดินทางของคุณราบรื่น ไม่มีสะดุด อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับความคุ้มครองได้ ที่นี่

*เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทกำหนด

ขอบคุณข้อมูลจาก : chinahighlights.com, museumofwander.com

เลือกแผนประกันเดินทางที่ใช่สำหรับคุณ ประกันการเดินทาง Dance Moves จาก Allianz Travel

ลุยเที่ยวประเทศจีน ได้ทั้งปี ไม่มีเบื่อ

อย่างที่ทราบกันดีว่า ประเทศจีนมีพื้นที่ใหญ่เป็นอันดับ 2 ของโลก ทำให้จีนมีความหลากหลายทั้งด้านภูมิศาสตร์, ประชากรศาสตร์, วัฒนธรรมประเพณี ฯลฯ และยังถือเป็นประเทศที่มีประวัติศาสตร์ความเป็นมายาวนาน นับสองพันปี จึงไม่แปลกใจเลย ที่มีนักท่องเที่ยวต่างให้ความสนใจ อยากมาเที่ยวประเทศจีนเป็นจำนวนมาก

วันนี้ Allianz Travel อยากจะพาทุกคนไปทำความรู้จักกับประเทศจีนมากขึ้น ว่าในแต่ละพื้นที่ มีสถานที่ท่องเที่ยวไหนบ้าง ที่น่าสนใจและมีธรรมชาติสวยงามรวมอยู่ด้วย ไปดูกันเลยค่ะ

1. เขตปกครองตนเองซินเจียงอุยกูร์

เป็นเขตการปกครอง ที่มีพื้นที่ขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศจีน ลักษณะทางภูมิศาสตร์ทั่วไป จะมีพื้นที่เป็นแอ่งกระทะสลับกับเทือกเขาสูง นอกจากนี้ยังมีบางพื้นที่ที่เป็นทะเลทรายอีกด้วย ด้วยความหลากหลายทางด้านภูมิศาสตร์ ทำให้ซินเจียงอุยกูร์มีแร่ธาตุธรมชาติหลากหลายชนิด เป็นที่น่าสนใจของนักลงทุนทั้งในประเทศและต่างประเทศ ทำให้ในปัจจุบัน เขตการปกครองนี้ มีการพัฒนาพื้นที่ความเจริญออกไปอย่างกว้างขวาง เรียกได้ว่า ถ้าใครสนใจอยากจะมาเยือน ที่นี่มีสนามบินเป็นของตนเองและมีการขนส่งสาธารณะที่สะดวกสบายไว้คอยบริการด้วยค่ะ

เมื่อพูดถึง สถานที่ท่องเที่ยวของเขตปกครองตนเองซินเจียงอุยกูร์ พลาดไม่ได้กับการท่องเที่ยวเชิงธรรมชาติ (Ecotourism) ที่ไม่เพียงแต่จะได้รับชมธรรมชาติ แต่คุณจะได้สัมผัสกับวิถีชีวิตของคนท้องถิ่น แบบมองโกลและธิเบตอีกด้วย สำหรับสถานที่เที่ยวยอดนิยมในแถบนี้ ได้แก่ ทะเลสาบไซ่หลี่มู่, อุทยานคานาสือ, ทะเลทรายทากลามากัน (Taklamakan Desert) ฯลฯ

2. เฉิงตู, มณฑลเสฉวน

เมืองเฉิงตู เป็นนครกึ่งมณฑล แต่ก็ถือเป็นเมืองเอกของมณฑลเสฉวน เป็นแหล่งกำเนิดอาหารขึ้นชื่อมากมายของจีน ซึ่งก็คือ หม้อไฟแบบเผ็ดร้อน ที่เน้นใส่พริกเสฉวนจนพูนเต็มหม้อ นอกจากอาหารที่ขึ้นชื่อแล้ว ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวในเมือง เช่น จัตุรัสเทียนฟู่ ที่มีทั้งห้างสรรพสินค้า พิพิธภัณฑ์, ถนนควานจ๋ายเซี่ยงจื่อ, ศูนย์อนุรักษ์แพนด้ายักษ์ ฯลฯ ให้ทุกท่านได้ชมความเจริญและแสงสีของเมือง พร้อมด้วยการเดินทางที่สะดวกสบาย โดยใช้รถไฟฟ้า

นอกจากนี้ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวให้ท่านชื่นชมธรรมชาติ วัฒนธรรม และศาสนา ในเมืองนี้อีกด้วย ได้แก่ ถนนโบราณจิ๋นหลี, ภูเขาชิงเฉิง, ถนนชุนซีลู่, พระใหญ่เล่อซาน ฯลฯ แต่ไฮไลท์สำคัญของสถานที่ท่องเที่ยวธรรมชาติ คือ อุทยานจิ่วจ้ายโถว เป็นอุทยานที่มีความสวยงามให้ชมตลอดทั้งปี โดยเฉพาะฤดูใบไม้เปลี่ยนสี เราจะเห็นสีของใบไม้เหลือง-ส้ม-แดง ตัดกับสีของน้ำในทะเลสาบที่มีสีฟ้าอมเขียว ใครที่สนใจอาจจะต้องศึกษาวิธีการเดินทางเล็กน้อย เพราะสถานที่นี้จะค่อนข้างไกลจากเมืองค่ะ

3. จางเจียเจี้ย, มณฑลหูหนาน

เมืองนี้เป็นอีกเมืองประวัติศาสตร์ของจีน ที่มีความเป็นมายาวนานกว่า 3,000 ปี มีการเปลี่ยนแปลงการปกครองหลายต่อหลายครั้ง ตั้งแต่ยุคราชวงศ์ฉิน เป็นต้นมา ซึ่งเราสามารถเรียนรู้ประวัติศาสตร์เหล่านี้ได้ ที่พิพิธภัณฑ์หม่าหวังตุ้ย เมืองฉางชา เป็นที่รวบรวมการขุดค้นพบหลักฐานทางประวัติศาสตร์ต่างๆ ไว้มากมาย

นอกจากนี้แล้ว ยังมีอุทยานแห่งชาติจางเจียเจี้ย ที่ได้รับการรองรับจาก UNESCO ให้เป็นมรดกโลกทางธรรมชาติ โดยมีลักษณะเป็นภูเขาหินสูงที่มีความลดหลั่นกันไปเป็นหน้าผาหิน ซึ่งอุทยานแห่งนี้ก็เป็นแรงบันดาลใจให้กับภาพยนตร์เรื่อง Avatar ที่เรารู้จักกันดีด้วยค่ะ สำหรับกิจกรรมเที่ยวชมธรรมชาติก็มีให้เลือกหลากหลายรูปแบบ ทั้งการขึ้นกระเช้าชมวิว, การเดินบนระเบียงเท้าแบบแก้ว ลัดเลาะไปตามหน้าผาหิน ฯลฯ ใครที่ไม่กลัวความสูง แนะนำให้ชมวิวจากด้านบนนะคะ รับรองว่าคุณจะได้สัมผัสประสบการณ์ดี ๆ และทิวทัศน์ระดับล้านแน่นอน

4. หางโจว, มณฑลเจ้อเจียง

เป็นเมืองที่อากาศดีตลอดทั้งปี เป็นเมืองที่ผสมผสานทั้งความเจริญ, ธรรมชาติ, และวัฒนธรรมเก่าแก่ได้อย่างลงตัว คุณสามารถเดินช้อปปิ้งในย่านการค้าชื่อดัง อย่างเช่น Yan’an, Jiefang และ Hubin Road ได้เลย เพราะมีสินค้าแบรนด์เนมชื่อดังจากทั่วโลกมากมาย หรือ Hangzhou Grand Theatre ที่รวบรวมการแสดงศิลปะหลายแขนงไว้ด้วยกัน หรือจะเดินเล่นที่ถนนวัฒนธรรมเหอฟางเจีย ที่เป็นย่านเมืองเก่าของหางโจวก็ได้เช่นกัน

นอกจากนี้ ในเมืองหางโจวยังมีสวนพฤกศาสตร์ใจกลางเมือง ให้ประชาชนได้ออกมาสูดอากาศสดชื่นให้ชุ่มปอดกันเลยทีเดียว สำหรับช่วงฤดูใบไม้ผลิ จะเป็นช่วงที่ดอกไม้นานาพันธุ์เบ่งบานมากที่สุด ใครที่ชื่นชอบแบบนี้ก็แวะมาเยี่ยมชมได้เลยค่ะ

5. กุยหลิน, เขตปกครองตนเองกว่างซีจ้วง

เป็นเมืองในฝัน ที่ใครหลายคนอยากจะไปเยือนสักครั้ง เพราะด้วยสภาพภูมิศาสตร์ที่สวยงาม มีทั้งภูเขา, แม่น้ำ, ถ้ำหิน, และชุมชนริมแม่น้ำ และยังเป็นพื้นที่ที่มีสภาพอากาศเย็น น่าท่องเที่ยวตลอดทั้งปี อุณหภูมิกำลังเย็นสบายประมาณ 16-23 องศาเซลเซียส

จากภูมิศาสตร์ที่เป็นจุดเด่นของเมืองกุยหลิน กิจกรรมการท่องเที่ยวส่วนใหญ่ จึงเกี่ยวกับธรรมชาติ เช่น การล่องเรือบนแม่น้ำหลีเจียง (กุ้ยหลิน-หยางซั่ว) เป็นไฮไลท์สำคัญของที่นี่ เพราะเราจะได้สัมผัสกับธรรมชาติตลอดแม่น้ำสายนี้ รวมถึงได้เห็นวิถีชีวิตท้องถิ่นของคนในชุมชนด้วย นอกจากนี้ ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวขึ้นชื่ออื่นๆ อีก เช่น ถ้ำขลุ่ยอ้อ, เขางวงช้า, เขาเหยาซาน, เขาหลงเซิ่น, เจดีย์เงิน-เจดีย์ทอง เป็นต้น

6. แชงกรีลา, มณฑลยูนนาน

อีกหนึ่งเมือง ที่พื้นที่ถูกล้อมรอบไปด้วยภูเขาสูงขนาดใหญ่จำนวนมาก และสามารถท่องเที่ยวได้ตลอดทั้งปี ไม่ใช่แค่เมืองแชงกรีลา ยังมีอีกหลาย ๆ เมืองที่เราต้องเยือนสักครั้ง เช่น ต้าลี่, คุนหมิง, ลี่เจียง, เขตการปกครองตนเองสิบสองปันนา เป็นต้น

เมื่อพูดถึงเมืองแชงกรีลา หลายคนอาจจะยังนึกภาพไม่ออก ว่าทำไมเราต้องมาเยือนสถานที่แห่งนี้ ต้องบอกก่อนเลยว่า แชงกรีลาได้รับอิทธิพลทางวัฒนธรรมมาจากชาวทิเบต เพราะฉะนั้นวัฒนธรรมต่าง ๆ วิถีชีวิตความเป็นอยู่ และสถานที่ท่องเที่ยวจึงเกี่ยวข้องกับศาสนาเป็นส่วนมาก ไฮไลท์ของแชงกรีลาได้แก่ ภูเขาหิมะสือข่า (Shika Snow Mountain) เป็นภูเขาอันศักดิ์สิทธิ์ ที่ชาวธิเบตให้ความเคารพนับถือ ซึ่งเราจะต้องนั่งกระเช้าขึ้นไป ทำให้เราได้เห็นวิวทิวทัศน์ภูเขาหิมะรอบ ๆ อีกด้วย และ วัดซงจ้านหลิน (Songzanlin) เป็นวัดเก่าแก่ที่ถูกสร้างขึ้นในช่วงศตวรรษที่ 18 เป็นวัดที่มีความสวยงามทั้งสถาปัตยกรรมทิเบต และขนาดของวัดที่มีความใหญ่โต ไม่เพียงแต่เราจะได้ซึมซับความสวยงามของวัด เรายังได้สัมผัสถึงขนบธรรมเนียม และศาสนาพุทธนิกายลามะอีกด้วย บริเวณโดยรอบวัดก็มีทะเลสาบลาหมู่ยางชั่ว เป็นจุดชมวิวทิวทัศน์ทางหน้าวัดอีกแห่งหนึ่งค่ะ

นอกจากสถานที่ท่องเที่ยวทั้ง 2 แห่งนี้แล้ว ในแชงกรีลายังมีที่อื่น ๆ ที่น่าสนใจ ได้แก่ วัดกุยชาน, เมืองเก่าตู๋เค่อจง, ทุ่งกุหลาบพันปี, อุทยานแห่งชาติปู่ต๋าซั่ว ฯลฯ

สำหรับใครที่สนใจเที่ยวประเทศจีน วางแผนกันเลยตั้งแต่ตอนนี้ พร้อมกับซื้อประกันภัยการเดินทางของ Allianz Travel ให้คุณเที่ยวอย่างสนุก ไม่ต้องกังวลเรื่องปัญหาอุบัติเหตุ, ค่ารักษาพยาบาล, สัมภาระหาย ฯลฯ เราพร้อมดูแลคุณตลอด 24 ชม. ค่ะ

ขอบคุณข้อมูลจาก
Top 6 Places to Visit in June in China

เรามุ่งมั่นที่จะช่วยเหลือและดูแลคุณ

อลิอันซ์ทราเวลเป็นผู้นำระดับโลกด้านประกันภัยการเดินทางและบริการช่วยเหลือทั่วไป เรามีแผนประกันภัยที่หลากหลายให้เลือก ครอบคลุมตั้งแต่แผนรายเที่ยว แผนรายปี แผนครอบครัว ไปจนถึงแผนเดินทางศึกษาต่อต่างประเทศ เราทุ่มเทที่จะให้บริการช่วยเหลือและปกป้องคุณทุกที่ ทุกเวลาเท่าที่เราจะทำได้ เราไม่ได้จำกัดอยู่แค่ประกันภัยและการให้ความช่วยเหลือ แต่เรามุ่งเน้นไปที่สิ่งที่มากกว่านั้น และทุกบริการของเราก็เพื่อลูกค้าคนสำคัญของเรา