รวมวัฒนธรรมการให้ทิปในต่างประเทศ

รวมวัฒนธรรม การให้ทิป ในต่างประเทศ

การเดินทางไปเที่ยวต่างประเทศย่อมต้องเจอวัฒนธรรมบางอย่างที่เราไม่คุ้นชิน อย่างเช่นเรื่อง การให้ทิป ตามร้านอาหาร โรงแรม สนามบิน หรือแท็กซี่ ก็อาจสร้างความปวดหัวหรือยุ่งยากใจให้กับเราได้เหมือนกัน เพราะเราไม่รู้ว่าวัฒนธรรม การให้ทิป ของคนในประเทศนั้นเป็นอย่างไร การให้ทิป เป็นธรรมเนียมปฏิบัติที่อาจเข้าใจยาก หากไม่ได้เป็นคนที่อาศัยอยู่ในประเทศนั้นๆ บางครั้งการให้ทิปก็ถือเป็นสัญลักษณ์แสดงความขอบคุณสำหรับการให้บริการ แต่ในบางประเทศก็อาจทำให้ขัดเคืองต่อความรู้สึกได้ Allianz Travel เลยรวบรวมวิธีการให้ทิปของประเทศต่างๆ มาฝากเพื่อนๆ กันค่ะ

1. ทวีปยุโรป

ที่เที่ยวอิตาลี ทวีปยุโรป

(1) การให้ทิป ร้านอาหาร

ประเทศส่วนใหญ่ในยุโรป เช่น ฝรั่งเศส เยอรมนี สเปน สาธารณรัฐเช็ก ฮังการี ไอร์แลนด์ โปรตุเกส และสหราชอาณาจักร จะใส่ค่าบริการลงไปในใบเสร็จเลย แต่ถ้าไม่ได้ใส่ไว้ เราก็ควรให้ทิปพนักงานประมาณ 5-10% (เป็นเงินสดในสกุลเงินท้องถิ่น) เว้นเสียแต่ว่าคุณจะรู้สึกว่าร้านนั่นให้บริการไม่ดี หรืออาหารแย่มากๆ แต่บางประเทศ เช่น อิตาลี ออสเตรีย และรัสเซีย จะไม่ใส่ค่าบริการหรือคาดหวังว่าเราจะต้องให้ทิปเสมอไป แต่ถ้าเราจะปัดเศษขึ้นจากราคาค่าอาหารก็ถือเป็นเรื่องปกติ ถ้าคุณไปที่ร้านอาหารในอิตาลี คุณอาจเห็นคำว่า ‘corperto’ ในใบเสร็จของคุณ ซึ่งแปลว่า ‘ค่าบริการที่เก็บเพิ่มเติม’ ซึ่งบางครั้งเงินจำนวนนี้อาจเป็นการจ่ายให้กับร้านอาหาร  ซึ่งถ้าเราต้องการให้ทิปพนักงาน เราควรให้เป็นเงินสดและมอบให้กับพนักงานเสิร์ฟของคุณโดยตรง

สแกนดิเนเวียและไอซ์แลนด์

ประเทศที่ขึ้นชื่อว่าอาหารแพงจนน้ำตาไหล แต่โชคดีที่ประเทศเหล่านี้ไม่ได้คาดหวังกับเรื่องทิป และราคาค่าบริการมักคิดรวมอยู่ในราคาอาหารโดยรวมไปแล้ว

สหราชอาณาจักร

การไปเที่ยวผับในลอนดอนหรือเมืองอื่นๆ ในสหราชอาณาจักร เราอาจให้ปัดเศษขึ้นตอนจ่ายเงินรวมเพื่อเป็นสินน้ำใจก็ได้ แต่ก็ไม่นิยมทำกันนัก ถ้าคุณรู้สึกชื่นชอบการให้บริการในแบบฉบับผับอังกฤษแบบดั้งเดิมแล้ว คุณสามารถซื้อเครื่องดื่มให้บาร์เทนเดอร์ได้ โดยพูดว่า “และอีกแก้วสำหรับตัวคุณเอง”

(2) การให้ทิป พนักงานโรงแรม

พนักงานโรงแรม

การให้ทิปพนักงานโรงแรมสำหรับหลายประเทศในยุโรปนั้นค่อนข้างคล้ายคลึงกัน คุณอาจจะให้ทิปพนักงานยกกระเป๋าประมาณ 1-2 ยูโรต่อกระเป๋า หรือให้พนักงานทำความสะอาดประมาณ 2-5 ยูโร

รัสเซีย

เราสามารถให้ทิปพนักงานยกกระเป๋าประมาณ 200-250 รูเบิล และ 100-200 รูเบิลสำหรับพนักงานทำความสะอาด

สแกนดิเนเวียและไอซ์แลนด์

พนักงานโรงแรมไม่ได้คาดหวังที่จะได้ทิป เนื่องจากค่าบริการรวมอยู่ในค่าจ้างแล้ว

สวิตเซอร์แลนด์

พนักงานไม่ได้คาดหวังกับเงินทิปเช่นกัน แต่การมอบเงินจำนวนเล็กน้อยให้กับพนักงานทำความสะอาด (ประมาณ 5-10 ฟรังก์) เมื่อเช็คเอาท์ออกจากโรงแรมถือว่าเป็นเรื่องที่ดี

(3) การให้ทิป ไกด์และคนขับรถ

ประเทศยุโรปกลางและตะวันออกและอิตาลี

ไกด์และคนขับรถในเกือบทุกประเทศในยุโรปจะได้รับทิปแยกกัน คิดเป็นประมาณ 10-20% ต่อวัน ขึ้นอยู่กับว่าคุณสนุกกับทัวร์มากน้อยแค่ไหน

ประเทศยุโรปตะวันตก (ฝรั่งเศส เยอรมนี สเปน และสหราชอาณาจักร)

ทิปประมาณ 25-40 ยูโร (หรือเทียบเท่าในสกุลเงินท้องถิ่น) ต่อวันสำหรับไกด์ และ 10-15 ยูโรสำหรับคนขับรถ

รัสเซีย

ไกด์และคนขับรถคาดหวังทิปประมาณ 3,000 รูเบิล และ 2,000 รูเบิลตามลำดับ

ตุรกี

ถ้าเราเช่ารถส่วนตัวก็ควรให้ทิปคนขับรถประมาณ 200-300 ลีราต่อวัน ถ้าเป็นไกด์นำเที่ยวแบบกรุ๊ปทัวร์ก็ให้ทิปประมาณ 60-100 ลีรา และประมาณ 450 ลีราสำหรับไกด์ทัวร์ส่วนตัว

สแกนดิเนเวียและไอซ์แลนด์

ไม่จำเป็นต้องให้ทิปกับไกด์และคนขับรถ แต่ถ้าคุณรู้สึกว่าคุณประทับใจกับการเดินทาง การให้ทิป 10% กับไกด์และคนขับรถถือว่าเป็นสินน้ำใจที่ดี หรือคุณสามารถเลี้ยงอาหารกลางวันพวกเขาก็ได้

(4) การให้ทิป คนขับแท็กซี่

ประเทศส่วนใหญ่ในยุโรป

คนขับแท็กซี่มักไม่คาดหวังทิป แต่การปัดเศษขึ้นจากราคาค่าโดยสารถือเป็นเรื่องปกติ

ฝรั่งเศส รัสเซีย และสวิตเซอร์แลนด์

คนขับแท็กซี่มักจะคาดหวังทิป 10-15%

สแกนดิเนเวียและไอซ์แลนด์

ไม่จำเป็นต้องให้ทิปคนขับแท็กซี่ แม้แต่จะปัดการปัดเศษค่าโดยสารขึ้นก็ตาม

2. ทวีปอเมริกา

ที่เที่ยวอเมริกา ทวีปอเมริกา

(1) การให้ทิป ร้านอาหาร

ร้านอาหาร

สหรัฐอเมริกาและแคนาดา

ร้านอาหารไม่ได้รวมค่าบริการไว้ในบิลเสมอไป การให้ทิปประมาณ 15-20% ถือเป็นเรื่องปกติ เว้นแต่ว่าอาหารจะทานไม่ได้เลย หรือพนักงานเสิร์ฟให้บริการแย่มาก เราก็อาจจะให้ทิปประมาณ 5% และถ้าเราไปเที่ยวผับหรือบาร์ก็ควรให้ทิปประมาณ 1 ดอลลาร์ต่อเครื่องดื่ม 1 แก้ว หรือ 15- 20% ของยอดรวมในบิล

เม็กซิโก นิการากัว อาร์เจนตินา และเปรู

ค่าบริการจะคิดเพิ่มไปในบิลซึ่งถือเป็นเรื่องปกติ แต่ถ้าคุณต้องการให้ทิปพนักงานเสิร์ฟเพิ่มเป็นการส่วนตัวก็ควรให้ประมาณ 10-15% (ในสกุลเงินท้องถิ่นหรือดอลลาร์สหรัฐ)

บราซิล ชิลี และคอสตาริกา

ร้านอาหารมักคิด ‘ค่าบริการ’ 10% (เรียกว่า ‘cubierto’ ในชิลี) ซึ่งหมายความว่าเราไม่จำเป็นต้องให้ทิปเพิ่มก็ได้ แต่เราก็สามารถให้เพิ่มอีกประมาณ 5% ก็ได้ หากได้รับการบริการที่ดี คุณไม่จำเป็นต้องให้ทิปในบาร์ แต่คุณสามารถปัดเศษขึ้นในบิลโดยรวมได้

ประเทศในแคริบเบียน (นอกรีสอร์ทแฟนซี)

ให้ตรวจสอบบิลก่อนว่าใส่ค่าทิปไปหรือยัง หากยังไม่ได้ใส่ ก็ให้ทิปประมาณ 15-20% หรือปัดเศษขึ้นในบิลหากไปดื่มที่บาร์

(2) การให้ทิป พนักงานโรงแรม

สหรัฐอเมริกาและแคนาดา

ควรทิปพนักงานทำความสะอาดประมาณ 3-5 ดอลล่าร์สหรัฐต่อวัน และให้พนักงานยกกระเป๋า 1 เหรียญต่อกระเป๋า

ประเทศอเมริกากลางและอเมริกาใต้

ปกติแล้วพนักงานจะรับเงินดอลลาร์สหรัฐ สำหรับพนักงานขนกระเป๋าในประเทศต่างๆ เช่น คอสตาริกา เม็กซิโก นิการากัว บราซิล ชิลี เปรู และโคลอมเบีย ให้ใช้สกุลเงินท้องถิ่นที่เทียบเท่ากับ 1 ดอลลาร์สหรัฐต่อกระเป๋า และ 1-2 ดอลลาร์สหรัฐต่อวันสำหรับพนักงานทำความสะอาด โดยเฉพาะอย่างยิ่งในอเมริกาใต้ นักท่องเที่ยวมักนิยมไปพักตามไร่องุ่นในชนบท ซึ่งคนที่ดูแลคุณจะเป็นครอบครัวของพนักงาน รวมทั้งทำอาหาร ทำความสะอาด และดูแลสวน ดังนั้นคุณควรทิ้งทิปไว้ก่อนเช็คเอาท์ประมาณ 10-15 ดอลลาร์สหรัฐ (หรือเทียบเท่าในสกุลเงินท้องถิ่น) ต่อแขกหนึ่งท่าน

(3) การให้ทิป ไกด์และคนขับรถ

สหรัฐอเมริกา แคนาดา และโคลอมเบีย

เราควรให้ทิปไกด์และคนขับรถแยกกัน โดยทิปไกด์นำเที่ยวประมาณ 10-20 ดอลลาร์ในสกุลเงินท้องถิ่นต่อวัน และประมาณ 5-10 ดอลลาร์สำหรับคนขับรถ

ประเทศอเมริกากลางและอเมริกาใต้

ส่วนใหญ่ไกด์จะได้รับเงินทิปประมาณ 5-10 ดอลลาร์สหรัฐ (หรือเทียบเท่าในสกุลเงินท้องถิ่น) สำหรับงานในหนึ่งวัน และเราสามารถให้ทิปคนขับรถประมาณครึ่งหนึ่งของทิปที่ให้ไกด์

บราซิล

ถือเป็นข้อยกเว้นจากประเทศในอเมริกาใข้ เพราะคนที่อยู่ในอุตสาหกรรมท่องเที่ยวที่นี่ต้องอาศัยเงินจากค่าทิป เราควรให้ไกด์ประมาณ 100 ถึง 200 เรียลต่อวัน และอาจน้อยกว่าเล็กน้อยสำหรับคนขับรถ

ประเทศในแคริบเบียน

นักท่องเที่ยวนิยมเที่ยวไปทั่วเกาะกับทัวร์รถบัส การให้ทิปคนขับรถ 2-3 ดอลลาร์สหรัฐถือเป็นเรื่องปกติ และถ้าเป็นทัวร์แบบส่วนตัว ก็ควรให้ทิปไกด์ประมาณ 20 ดอลลาร์ และคนขับรถประมาณ 10 ดอลลาร์ต่อวัน

(4) การให้ทิป คนขับแท็กซี่

แท็กซี่ Taxi

สหรัฐอเมริกา แคนาดา และแคริบเบียน

เราควรให้ทิปคนขับรถแท็กซี่ประมาณ 10 ถึง 15% ของค่าโดยสาร หรือประมาณ 2-3 ดอลลาร์สหรัฐสำหรับการเดินทางเป็นระยะทางใกล้ๆ

ประเทศอเมริกากลางและอเมริกาใต้

ถ้าคุณต่อรองราคาค่าโดยสารก่อนขึ้นแท็กซี่ ก็ไม่จำเป็นต้องกังวลเรื่องการให้ทิป เว้นแต่ว่าคุณถูกชะตากับคนขับแท็กซี่ และถ้าค่าโดยสารเป็นไปตามมิเตอร์ คุณก็สามารถปัดเศษขึ้นเมื่อให้ค่าโดยสาร

3. ทวีปเอเชีย

ที่เที่ยวสิงคโปร์ ทวีปเอเชีย

(1) การให้ทิป ร้านอาหาร

จีน เมียนมาร์ สิงคโปร์ และไต้หวัน

ไม่มีวัฒนธรรมการให้ทิปที่ชัดเจน เราไม่จำเป็นต้องให้ทิปในร้านอาหารหรือในบาร์ แต่เนื่องจากปัจจุบันมีนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามาเที่ยวในเอเชียมากมาย ร้านอาหารใหม่เก๋ๆ บางแห่งในจีนจึงเริ่มรับทิปเล็กๆ น้อยๆ กันแล้ว

ประเทศเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (กัมพูชา ไทย เวียดนาม อินโดนีเซีย และมาเลเซีย)

เริ่มชินกับการรับทิปมากขึ้นเรื่อยๆ แต่ถ้าไม่ให้ทิปก็ยังถือว่าไม่เป็นไร

อินเดีย

การให้ทิปยังไม่ได้เป็นวัฒนธรรมของอินเดีย แต่พนักงานในร้านอาหารก็คุ้นเคยกับการได้รับทิปจากนักท่องเที่ยว ถ้าเป็นร้านอาหารขนาดใหญ่และค่อนข้างเป็นทางการที่ยังไม่ได้รวมค่าบริการในบิล เราอาจให้ทิปประมาณ 5-10% หากคุณชื่นชอบอาหารเป็นอย่างมาก สำหรับร้านอาหารขนาดเล็ก เราอาจวางเศษเหรียญไว้ 2-3 เหรียญหรือปัดเศษค่าอาหารขึ้นจากในใบเสร็จ คุณอาจให้ทิปบาร์เทนเดอร์ได้ถึง 10% ถ้าพวกเขาให้บริการคุณอย่างดี

ประเทศอื่นๆ ในเอเชีย รวมทั้งญี่ปุ่นและเนปาล

เชื่อว่าการให้ทิปต้องสำหรับการบริการที่ดีเยี่ยมเท่านั้น การให้บริการและต้อนรับขับสู้เป็นอย่างดีถือเป็นเรื่องปกติและไม่ควร “ให้รางวัล” และพนักงานในร้านอาหารบางแห่งในญี่ปุ่นอาจปฏิเสธการให้ทิปอย่างสุภาพหากคุณวางทิปไว้

(2) การให้ทิป พนักงานโรงแรม

จีน

ไม่จำเป็นต้องให้ทิปพนักงานโรงแรม แต่ถ้าคุณพักในโรงแรมที่หรูหราเป็นพิเศษ คุณสามารถให้ทิปพนักงานยกกระเป๋า 5 หยวนต่อกระเป๋า และโรงแรมระดับไฮเอนด์ก็จะบวกค่าบริการ 10% ไว้ในใบเรียกเก็บเงินโดยรวม

ญี่ปุ่น

พนักงานโรงแรมไม่ได้คาดหวังว่าต้องได้ทิป โดยเฉพาะการเข้าพักในโรงแรมแบบเรียวกัง แต่ถ้าคุณรู้สึกประทับใจเป็นอย่างมากและอยากให้ทิปเป็นการตอบแทน ให้นำเงินใส่ซองไว้ประมาณ 5,000 เยน (สำหรับการพักระยะสั้น) แต่พนักงานก็อาจปฏิเสธอย่างสุภาพหากคุณส่งมอบด้วยตนเอง

อินเดีย

พนักงานโรงแรมในอินเดียได้รับเงินค่าจ้างต่ำมาก ดังนั้นการให้ทิปพนักงานยกกระเป๋าประมาณ 50 รูปีต่อกระเป๋า และพนักงานทำความสะอาด 250 รูปีต่อวันจะได้รับการต้อนรับเป็นพิเศษ

เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (ไทย กัมพูชา อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ สิงคโปร์ เวียดนาม และมาเลเซีย)

ค่าบริการจะรวมอยู่ในบิลโดยรวมเมื่อเช็คเอาท์ ดังนั้นจึงไม่จำเป็นต้องให้ทิปก็ได้ แต่ก็ควรให้ทิปพนักงานยกกระเป๋าในสกุลเงินท้องถิ่นที่เทียบเท่ากับ 1 ดอลลาร์สหรัฐต่อกระเป๋า การให้ทิปพนักงานทำความสะอาดก็ถือว่าไม่จำเป็น แต่ถ้าคุณอยากให้ คุณก็อาจให้เป็นสกุลเงินท้องถิ่นที่เทียบเท่ากับ 2-3 ดอลลาร์สหรัฐต่อคืนก็ได้

(3) การให้ทิป ไกด์และคนขับรถ

จีน

ไม่คาดหวังทิป

เกาหลีใต้และไต้หวัน

คาดหวังว่าจะได้รับเงินเพิ่มเล็กน้อยหลังจากการเดินทาง เราสามารถให้ทิปรวมกันระหว่างไกด์กับคนขับรถประมาณ 10% ของค่าทัวร์

ญี่ปุ่น

ควรเอาเงินทิปใส่ซองให้กับไกด์ประมาณ 2,500-5,000 เยนสำหรับทัวร์เต็มวัน และถ้าคุณจ้างคนขับรถส่วนตัว คุณควรเลี้ยงอาหารกลางวันพวกเขาด้วย

อินเดีย

ให้ทิปไกด์ประมาณ 300-500 รูปีต่อวัน และ 100-200 รูปีสำหรับคนขับ

สิงคโปร์และฟิลิปปินส์

ให้ทิปไกด์และคนขับรถรวม 10% ของค่าทัวร์โดยรวมโดยให้พวกเขาไปแบ่งกันเอง

ประเทศเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (ไทย เวียดนาม มาเลเซีย กัมพูชา และอินโดนีเซีย)

ให้ทิปไกด์นำเที่ยวประมาณ 10-20 ดอลลาร์สหรัฐ (ในสกุลเงินท้องถิ่น) ต่อวัน และครึ่งหนึ่งของจำนวนเงินนั้นสำหรับคนขับ เป็นเรื่องปกติที่จะให้ทิปทั้งหมดแก่ไกด์ ซึ่งจะเป็นผู้แบ่งเงินให้กับคนขับรถเอง

(4) การให้ทิป คนขับแท็กซี่

แท็กซี่ taxi

จีนและเกาหลีใต้

ไม่จำเป็นต้องให้ทิป

ญี่ปุ่น

ปัดเศษค่าโดยสารขึ้นถือว่าเป็นแนวทางปฏิบัติมาตรฐานในญี่ปุ่น

อินเดีย

คนขับแท็กซี่และรถสามล้อในอินเดียไม่คุ้นเคยกับการรับทิป แต่การบอกให้พวกเขาเก็บเงินทอนไว้เป็นการให้ทิปแบบสุภาพ

กัมพูชาและไทย

การให้ทิปเป็นเงินท้องถิ่นมูลค่าเท่ากับ 1 ดอลลาร์สหรัฐเป็นจำนวนที่กำลังดี

อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ และมาเลเซีย

ทิป 10% จากค่าโดยสารถือเป็นมาตรฐานทั่วไป

สิงคโปร์และเวียดนาม

เพียงปัดเศษค่าโดยสารขึ้นหรือบอกให้คนขับเก็บเงินทอนไว้

4. ทวีปตะวันออกกลาง

ที่เที่ยวสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ทวีปตะวันออกกลาง

(1) การให้ทิปร้านอาหาร

สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ กาตาร์ จอร์แดน และซาอุดิอาระเบีย

พนักงานในร้านอาหารคาดหวังว่าจะได้รับทิป 10-15% ส่วนในดูไบซึ่งรัฐบาลกำหนดให้เพิ่ม 10% ลงในบิลร้านอาหาร โรงแรม และบาร์ แต่พนักงานเสิร์ฟก็ยังคาดหวังจะได้รับทิปสูงถึง 15-20%

อิสราเอล

ร้านอาหารจะใส่ค่าบริการ 10% ในบิลร้านอาหารและบาร์ ดังนั้นเราควรตรวจเช็คบิลก่อนจ่ายเงินเพื่อไม่ให้ต้องให้ทิปซ้ำซ้อนโดยไม่จำเป็น

(2) การให้ทิปพนักงานโรงแรม

สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์

รัฐบาลดูไบบังคับให้ต้องจ่ายค่าบริการ 10% ให้กับโรงแรมอยู่แล้ว และในรัฐอื่นของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ พนักงานคอนเซียชคาดหวังว่าจะได้รับทิปประมาณ 100-120 เดอร์แฮม หากมีการขอให้ทำอะไรเป็นพิเศษ เช่น การจองโต๊ะที่ร้านอาหารยอดนิยม หรือการจัดทัวร์ พนักงานยกกระเป๋าให้ทิปประมาณ 7 เดอร์แฮมต่อกระเป๋า และพนักงานทำความสะอาดประมาณ 10-11 เดอร์แฮมต่อวัน

จอร์แดนและอิสราเอล

ให้ทิปพนักงานยกกระเป๋าในสกุลเงินท้องถิ่นเท่ากับ 1.50 เหรียญสหรัฐต่อกระเป๋า และ 1.50 เหรียญสหรัฐต่อวันสำหรับพนักงานทำความสะอาด และประมาณ 2 เหรียญสหรัฐสำหรับพนักงานคอนเซียชถ้าคุณขอให้ทำอะไรเล็กน้อย

(3) การให้ทิปไกด์และคนขับรถ

สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์และกาตาร์

ทิปไกด์นำเที่ยวในสกุลเงินท้องถิ่นมูลค่าประมาณ 10-15 เหรียญสหรัฐ และคนขับรถส่วนตัวประมาณครึ่งหนึ่งของไกด์

อิสราเอลและจอร์แดน

ทิปไกด์ประมาณ 25-35 เหรียญสหรัฐ (ในสกุลเงินท้องถิ่น) และ 35-45 เหรียญสหรัฐ สำหรับไกด์ที่ขับรถให้ด้วย

(4) การให้ทิปคนขับแท็กซี่

สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ อิสราเอล จอร์แดน กาตาร์ และซาอุดีอาระเบีย

ให้ทิปคนขับแท็กซี่ประมาณ 10 ถึง 15% ของค่าโดยสาร แต่ขับแท็กซี่ในดูไบไม่คาดหวังทิป แต่คุณสามารถให้ปัดเศษค่าโดยสารขึ้นได้

5. ทวีปแอฟริกา

ที่เที่ยวแอฟริกา ทวีปแอฟริกา

(1) การให้ทิปร้านอาหาร

ร้านอาหาร

อียิปต์ โมร็อกโก และแอฟริกาใต้

ร้านอาหารและบาร์ยอดนิยมในสถานที่ท่องเที่ยวจะเพิ่มค่าบริการ 10% ในใบเสร็จ ถ้าไม่มีรวมในใบเสร็จ ก็เป็นเรื่องปกติที่จะให้ทิปประมาณ 10-15% หากคุณคิดว่าอาหารอร่อย

ประเทศอื่นในแอฟริกา

ทิปปกติ 10-15% สำหรับการบริการที่ดีในร้านอาหาร เช่นเดียวกับการปัดเศษค่าอาหารและเครื่องดื่มขึ้นในบาร์ พนักงานเสิร์ฟและพนักงานบาร์ทั่วแอฟริกาส่วนใหญ่มักจะได้รับค่าครองชีพขั้นพื้นฐาน ดังนั้นการให้ทิปจึงเป็นรายได้เสริมที่ดีสำหรับพวกเขา

(2) การให้ทิปพนักงานโรงแรม

อียิปต์และโมร็อกโก

พนักงานคอนเซียชเป็นผู้ช่วยที่ดีที่เราควรให้ทิปพวกเขาประมาณ 15-20 เหรียญสหรัฐ (ในสกุลเงินท้องถิ่น) ในช่วงเริ่มต้นการเข้าพัก เพื่อให้ได้รับบริการที่ดีตลอดระยะเวลาที่พักอยู่ ทิปพนักงานทำความสะอาดประมาณ 3-5 เหรียญสหรัฐต่อวัน และพนักงานยกกระเป๋า 1 เหรียญสหรัฐต่อกระเป๋า (ในสกุลเงินท้องถิ่น)

แอฟริกาใต้ เคนยา และแทนซาเนีย

พนักงานยกกระเป๋าคาดหวังทิปประมาณ 1 เหรียญสหรัฐ (ในสกุลเงินท้องถิ่น) สำหรับกระเป๋าแต่ละใบ และ 1 เหรียญสหรัฐสำหรับพนักงานทำความสะอาดในแต่ละวัน ให้ทิปพนักงานคอนเซียชประมาณ 3-5 เหรียญสหรัฐ สำหรับงานที่คุณขอให้พวกเขาทำในแต่ละครั้ง แคมป์ซาฟารีหรูๆ มักจะมีกล่องทิปอยู่ที่แผนกต้อนรับ และซึ่งเงินทิปที่ได้จะนำไปแบ่งกันในกลุ่มเจ้าหน้าที่ของแคมป์ ถ้าคุณอยากให้ทิปพนักงานคนไหนเป็นพิเศษก็ให้ส่งให้กับตัวพวกเขาเลย

(3) การให้ทิปไกด์และคนขับรถ

ประเทศแอฟริกาเหนือ

หลังจากจบทัวร์ควรให้ทิปไกด์ประมาณ 20 เหรียญสหรัฐต่อวัน (ในสกุลเงินท้องถิ่น) และให้ทิปคนขับรถน้อยกว่าเล็กน้อย

อิสราเอลและจอร์แดน

ทิปไกด์ประมาณ 25-35 เหรียญสหรัฐ (ในสกุลเงินท้องถิ่น) และ 35-45 เหรียญสหรัฐ สำหรับไกด์ที่ขับรถให้ด้วย

(4) การให้ทิปคนขับแท็กซี่

ทั่วทั้งทวีปแอฟริกา ปัดเศษค่าโดยสารขึ้น หรือบอกให้คนขับเก็บเงินทอนไว้ แต่ในประเทศที่คุ้นเคยกับนักท่องเที่ยว อย่างเช่น อียิปต์และแอฟริกาใต้ คนขับแท็กซี่ในมักคาดหวังทิป 10%

6. ทวีปโอเชียเนีย

ที่เที่ยวออสเตรเลีย ทวีปโอเชียเนีย

(1) การให้ทิปร้านอาหาร

ร้านกาแฟ ร้านอาหาร

ออสเตรเลียและนิวซีแลนด์

พนักงานในร้านอาหารและบาร์ไม่ได้คาดหวังว่าจะต้องให้ทิป แต่เราอาจให้ 10-15% หากรู้สึกว่าประทับใจกับการบริการ

หมู่เกาะแปซิฟิกใต้

การให้ทิปในร้านอาหารและบาร์ไม่ใช่เรื่องสำคัญ เพราะสิ่งนี้ไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งของวัฒนธรรมพื้นเมือง แต่ถ้าไปทานอาหารในร้านที่หรูหราเป็นพิเศษและรู้สึกทึ่งกับอาหารและบริการที่ดีเยี่ยม คุณสามารถให้ทิปไปอีก 10% ของราคาในบิลทั้งหมด

(2) การให้ทิปพนักงานโรงแรม

ออสเตรเลียและนิวซีแลนด์

ทิปมาตรฐานสำหรับพนักงานยกกระเป๋าประมาณ 1 ดอลลาร์ (ออสเตรเลียหรือนิวซีแลนด์) ต่อกระเป๋า และ 3-5 ดอลลาร์ต่อวันสำหรับพนักงานทำความสะอาด

หมู่เกาะแปซิฟิกใต้

ตามวัฒนธรรมไม่จำเป็นต้องให้ แต่ถ้าคุณอยากให้ให้รางวัลเป็นเงินกับพนักงานคนใดคนหนึ่งก็ควรให้ต่อหน้า ไม่เช่นนั้นจะไม่มีใครหยิบไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับพนักงานทำความสะอาด

(3) การให้ทิปไกด์และคนขับรถ

ไกด์ Guide Tour

ออสเตรเลียและนิวซีแลนด์

ควรให้ทิปไกด์และคนขับรถส่วนตัวประมาณ 20-50 เหรียญ (ในสกุลเงินท้องถิ่น) ต่อวัน และ 5-10 เหรียญต่อวันทำงานสำหรับไกด์ทัวร์บนรถบัส

หมู่เกาะแปซิฟิกใต้

หากไกด์นำเที่ยวหรือคนขับรถส่วนตัวให้บริการดีมาก คุณสามารถให้ทิปตอบแทนได้ โดยจำนวนเงินที่จะให้ขึ้นอยู่กับคุณ แต่ควรให้เป็นสกุลเงินท้องถิ่นเสมอ เนื่องจากดอลลาร์สหรัฐนั้นหาที่แลกยาก

(4) การให้ทิปคนขับแท็กซี่

คนขับแท็กซี่ในออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ และหมู่เกาะแปซิฟิกใต้จะไม่ได้คาดหวังเงินทิป แต่การปัดเศษค่าโดยสารขึ้นให้เป็นเลขเต็มจำนวน 1-5 เหรียญถือเป็นเรื่องปกติ

หากเราต้องเดินทางไปต่างประเทศ ควรศึกษาข้อมูลและวัฒนธรรมต่างๆ ของประเทศนั้นๆ ไว้ด้วย เพื่อให้ท่องเที่ยวได้อย่างสนุก และทำตามในสิ่งที่คนท้องถิ่นทำในกิจวัตรประจำวันได้อย่างไม่เคอะเขิน นอกจากนี้สิ่งสำคัญที่ควรต้องมีติดตัวไว้ทุกครั้งขณะเดินทางออกนอกประเทศก็คือประกันภัยการเดินทาง ที่จะช่วยคุ้มครองครอบคลุมค่าใช้จ่ายที่อาจเกิดขึ้นโดยไม่คาดฝัน เช่น เจ็บป่วย เกิดอุบัติเหตุ กระเป๋าหาย เที่ยวบินล่าช้า เป็นต้น*

Allianz Travel ขอแนะนำ ประกันภัยการเดินทาง Dance Moves ที่จะช่วยให้ทริปการเดินทางของเพื่อนๆ ราบรื่น ไม่มีสะดุด กับความคุ้มครองที่ครอบคลุมเกือบทุกเหตุการณ์ที่อาจเกิดขึ้นได้ ประกันการเดินทาง Dance Moves มีค่าเบี้ยประกันเริ่มต้นเพียงหลักร้อย แต่ให้ความคุ้มครองสูงสุดหลักล้าน เพื่อนๆ สามารถเที่ยวได้อย่างอุ่นใจ หมดห่วงเรื่องค่าใช้จ่ายและผู้ช่วยเหลือหากเกิดเหตุการณ์ฉุกเฉินในต่างประเทศไปได้เลยค่ะ

*เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทกำหนด

ขอบคุณข้อมูลจาก : Lonely Planet

เลือกแผนประกันเดินทางที่ใช่สำหรับคุณ ประกันการเดินทาง Dance Moves จาก Allianz Travel

10 อาหารเกาหลียอดฮิต ที่สายกินห้ามพลาด

10 อาหารเกาหลี ยอดฮิต ที่สายกินห้ามพลาด

เกาหลีใต้ หนึ่งในจุดหมายปลายทางยอดฮิตของนักท่องเที่ยวไทย เปิดประเทศต้อนรับนักท่องเที่ยวหลังจากสถานการณ์แพร่ระบาดของโควิด-19 มาตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2565 เหล่าสาวกเกาหลีคงเริ่มวางแผนที่จะไปท่องเที่ยวเกาหลีกันแล้ว ยิ่งถ้าใครติดตามซีรีย์เกาหลี ก็คงต้องอินกับ อาหารเกาหลี เมนูต่างๆ ที่มีทั้งในฉากรับประทานอาหาร หรือฉากทำกับข้าว จนหลายคนต้องกับหัดทำหรือตามรอยไปหาที่ชิมกัน และยิ่งถ้ามีโอกาสได้เดินทางไปถึงเกาหลี แล้วยิ่งต้องจัดให้ได้! 

วันนี้ Allianz Travel จัด 10 อาหารเกาหลี เมนูเด็ดที่สายกินห้ามพลาด มาให้เพื่อนๆ ได้เก็บไว้ในลิสต์ตามชิม หากได้ไปเยือนเกาหลีกันค่ะ

1. กิมจิ

อาหารเกาหลี กิมจิ

อาหารหรือเครื่องเคียงที่อยู่คู่กับชาวเกาหลีมานานกว่า 2,000 ปี มีจุดเริ่มต้นจากสภาพอากาศของเกาหลีในฤดูหนาวที่หนาวจัดจนไม่สามารถเพาะปลูกได้ จึงต้องใช้วิธีการดองเพื่อยืดอายุอาหาร ซึ่งก็คือกิมจินั่นเอง และในปัจจุบันกิมจิได้รับความนิยมในการกินมากขึ้นเรื่อยๆ และเป็นเครื่องเคียงที่นิยมกินคู่กับอาหารต่างๆ โดยเฉพาะการกินอาหารประเภทปิ้งย่าง

2. บิบิมบับ

อาหารเกาหลี บิบิมบับ

เมนูข้าวยำจานเด็ดของเกาหลีที่ไม่ควรพลาด มีเสริฟอยู่ทั่วไปไม่ว่าจะเป็นตามร้านอาหาร ฟู้ดคอร์ท หรือแม้แต่ตามสตรีทฟู้ด บิบิมบับจะสามารถเลือกรับประทานได้ว่าจะใส่เนื้อวัว เนื้อไก่ หรือเน้นผัก แต่ส่วนประกอบที่สำคัญของบิบัมบับจะมี ข้าวสวยร้อนๆ ผักต่างๆ และไข่ดิบ

3. ซัมกยอบซัล

อาหารเกาหลี ซัมกยอบซัล

หมูสามชั้นย่างที่หมักด้วยซอสสูตรพิเศษทำให้ซัมกยอบซัลมีรสชาติที่อร่อย นุ่ม กลอมกล่อม นิยมทานคู่กับผักหลากหลายชนิด พร้อมเครื่องเคียงต่างๆ และมีน้ำจิ้มสำหรับทานคู่กันคือซัมจัง

4. บูลโกกิ

อาหารเกาหลี บูลโกกิ

เมนูเนื้อย่างหรือผัดสไตล์เกาหลี จุดเด่นคือตัวเนื้อจะถูกหมักด้วยซอส น้ำมันงา และเครื่องปรุงอื่นๆ ทำให้เนื้อมีความนุ่ม หวาน หอม อร่อย สามารถทานคู่กับข้าวร้อนๆ หรือห่อผักและทานคู่กับน้ำจิ้มก็ได้

5. ต๊อกบกกี

อาหารเกาหลี ต๊อกบกกี

อาหารที่อยู่คู่กับวงการสตรีทฟู้ดของเกาหลีมาอย่างเนิ่นนาน คือการนำคาแรต็อก (แป้งเค้กข้าว) หรือที่รู้เราทุกคนจะคุ้นหูว่า “แป้งต๊อก” ไปผัดกับซอสเกาหลีสีแดง มีรสชาติเผ็ด หวาน อร่อย มีเอกลักษณ์พร้อมใส่ปลาแผ่น และผักเล็กน้อย ซึ่งในบางร้านจะใส่ไข่ต้มหรือเส้นรามยอนลงไปอีกด้วย

6. ไก่ทอดเกาหลี

ไก่ทอดเกาหลี

เมนูที่กำเนิดจากทหารอเมริกันในช่วงสงครามเกาหลี ถึงหน้าตาจะดูเหมือนไก่ทอดธรรมดา แต่จะมีรสชาติที่เป็นเอกลักษณ์ในแต่ละร้านไม่ซ้ำกัน โดยทั่วไปจะคลุกเคล้าด้วยซอสเผ็ดหวาน บางร้านก็จะมีท๊อปปิ้งพิเศษเพิ่มเติมใส่ลงไปด้วย เช่น แป้งต๊อกทอด เฟรนฟราย หรือการราดชีส ซึ่งคนเกาหลีนิยมทานเป็นกับแกล้มกับเบียร์

7. ซัมกเยทัง

อาหารเกาหลี ซัมกเยทัง

หรือก็คือซุปไก่โสม เป็นเมนูที่คนเกาหลีนิยมทานกันช่วงฤดูร้อน (ช่วงเดือน มิถุนายน – ต้นเดือนกันยายน) เพื่อช่วยฟื้นฟูกำลังของร่างกาย ไก่ที่นำมาประกอบเมนูนี้จะเป็นไก่ที่อายุไม่เกิน 45 วัน ยัดใส้ด้วยข้าวเหนียว และสมุนไพรต่างๆ เช่น เกาลัด พุทรา โสม แปะก๊วย

8. บิบิม เนงเมียน

อาหารเกาหลี บิบิม เนงเมียน

บะหมี่เย็นสไตล์เกาหลี ตัวเส้นที่ใช้จะเป็นเส้นยาวบาง ทำจากแป้งผสมบัควีท หรือมันหวาน เสิร์ฟในชามสเตนเลสเย็นๆ คลุกเคล้าด้วยซอสเผ็ดร้อน เป็นเมนูที่ชาวเกาหลีนิยมทานในช่วงฤดูร้อน

9. จาจังมยอน

อาหารเกาหลี จาจังมยอน

บะหมี่ดำเกาหลี ใช้เส้นบะหมี่แบบหนาคล้ายเส้นอุด้ง คลุกเคล้าด้วยซอสที่ทำจากเต้าเจี้ยว ถั่วดำหมัก ผัดกับเนื้อหมูหั่นและผัก นอกจากนี้ จาจังมยอนถือเป็นอาหารที่บ่งบอกถึงความโสด เนื่องจากในวันแบล๊กเดย์หรือวันคนโสดของเกาหลีซึ่งตรงกับวันที่ 14 เมษายน เหล่าคนโสดจะพร้อมใจกันรับประทานจาจังมยอนกัน ถือเป็นหนึ่งในวัฒนธรรมที่มีเฉพาะที่เกาหลีที่เดียว

10. จิเก

อาหารเกาหลี จิเก

หรือซุปเกาหลี มีหลากหลายแบบตามประเภทเนื้อสัตว์ที่ใส่ลงไป เช่น เต้าหู้ ไข่ปลา เนื้อปู กิมจิ หรือเนื้อหมู ปรุงรสด้วยโกชูจัง มิโซะหมัก เต้าเจี้ยวหรือกุ้งดองเค็ม นิยมทานเป็นของคั่นกลางระหวางอาหารจานหลัก

ในประเทศเกาหลียังมีอาหารอร่อยอีกมากมายรอให้เพื่อนๆ ได้ไปชิมกัน ใครที่ตามหาอาหารเพื่อตามรอยซีรีส์ที่ชอบ คงสนุกและอิ่มท้องกันนะคะ

และที่สำคัญสำหรับการเดินทางทุกครั้ง เหตุฉุกเฉินที่ไม่คาดคิดก็อาจเกิดขึ้นได้ Allianz Travel ขอแนะนำประกันการเดินทาง Dance Moves ที่จะช่วยให้ทริปการเดินทางของเพื่อนๆ ราบรื่น ไม่มีสะดุด กับความคุ้มครองเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝันในต่างประเทศ ไม่ว่าจะเป็นการเจ็บป่วยขณะเดินทาง เที่ยวบินล่าช้า และอื่นๆ อีกมากมาย #DanceMoves จะช่วยให้คุณทำกิจกรรมต่างๆ ตลอดทริปได้อย่างอุ่นใจ ไร้กังวล*

*เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทกำหนด

ขอบคุณข้อมูลจาก : https://sg.hotels.com/go/south-korea/great-korean-dishes

เลือกแผนประกันเดินทางที่ใช่สำหรับคุณ ประกันการเดินทาง Dance Moves จาก Allianz Travel

6 สิ่งที่ต้องเช็คให้ชัวร์ ก่อนออกเดินทางท่องเที่ยวต่างประเทศ

6 สิ่งที่ต้องเช็คให้ชัวร์ ก่อนออกเดินทาง ท่องเที่ยวต่างประเทศ

หลายคนคงเฝ้ารอช่วงวันหยุดยาวให้แวะเวียนมาถึง เพื่อเตรียมวางแผนเที่ยวพักผ่อนกันอย่างเต็มที่ แต่การที่จะไปไหนหลายๆ วัน Allianz Travel ขอแนะนำให้เพื่อนๆ เตรียมตัวและเตรียมความพร้อมในการดูแลบ้าน เพื่อให้เดินทาง ท่องเที่ยวต่างประเทศ อย่างสบายและไร้กังวล วันนี้เราเตรียมลิสต์ 6 สิ่งที่ควรทำเพื่อดูแลบ้านให้พร้อมและปลอดภัยก่อนออกเดินทางไกล มีอะไรบ้าง มาดูกันเลยค่ะ

1. ถอดปลั๊กไฟที่ไม่ได้ใช้งานออก

ถอดปลั๊กไฟที่ไม่ได้ใช้งานออก ก่อนเดินทางท่องเที่ยวต่างประเทศ

เรื่องไฟฟ้าเป็นสิ่งสำคัญอันดับต้นๆ เลยก็ว่าได้ เราควรตรวจดูปลั๊กไฟ เต้าเสียบไฟ เครื่องใช้ไฟฟ้าที่คุณมักชอบเสียบปลั๊กทิ้งไว้หลังการใช้งาน ควรเอาปลั๊กออกให้เรียบร้อย เพื่อลดโอกาสการเกิดไฟฟ้ารั่วหรือไฟฟ้าลัดวงจรขึ้นขณะที่เราไม่อยู่

2. เปิดไฟสว่างไว้ตรงจุดสำคัญของบ้าน

หากต้องเดินทางไกลบ้านหลายวัน เราขอแนะนำให้เปิดไฟ้ไว้ในจุดที่สำคัญๆ ของบ้าน เพราะแสงสว่างจะทำให้โจรผู้ร้ายคิดว่าบ้านมีคนอยู่ แต่หากกลัวว่าจะเปลืองไฟ เราสามารถติดตั้งหรือเลือกใช้ระบบเปิด-ปิดไฟอัตโนมัติ เพื่อให้สะดวกสบายมากยิ่งขึ้น

3. ปิดวาล์วน้ำ-ปั๊มน้ำ ก่อนออกเดินทาง

การเดินทาง ท่องเที่ยวต่างประเทศ ทำให้เราไม่อยู่บ้านเป็นระยะเวลานาน เราควรปิดวาล์วน้ำไว้ เพื่อป้องกันปัญหาท่อน้ำแตกหรือน้ำรั่วซึมขณะที่เราไม่อยู่บ้าน

4. ล็อกประตู-หน้าต่าง

ล็อกประตู - หน้าต่างของบ้าน ก่อนออกเดินทาง

ก่อนออกจากบ้านให้ตรวจเช็คความเรียบร้อยให้มั่นใจว่าเราได้ล็อกประตู และหน้าต่างภายในบ้านครบทุกบาน ทั้งชั้นล่างชั้นบน  รวมถึงประตูรั้วหน้าบ้านด้วย หาเราสามารถติดตั้งกล้องวงจรปิดได้ก็เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่ดี ช่วยให้บ้านของคุณปลอดภัยจากมิจฉาชีพ

5. เก็บของมีมูลค่าไว้ในที่ปลอดภัย

สิ่งของสำคัญ มีมูลค่าภายในบ้าน เช่น เพชร พลอย ทอง เงินสด ก็ควรเก็บซ่อนไว้ให้มิดชิด หรือหากเรายังกังวลกับความปลอดภัยก็สามารถนำไปฝากไว้กับญาติพี่น้องที่ไว้ใจได้ หรือหากสิ่งของมีมูลค่ามากมหาศาลก็อาจจะเลือกใช้วิธีการเช่าตู้เซฟของธนาคารเพื่อเก็บสิ่งของเหล่านั้นไว้ได้

6. ฝากบ้านกับเพื่อนบ้านหรือตำรวจก่อนเดินทาง ท่องเที่ยวต่างประเทศ

แจ้งเพื่อนบ้านหรือเพื่อนร่วมที่พักห้องใกล้เคียงที่สนิทและไว้ใจได้ให้ช่วยสอดส่อง คอยเป็นหูเป็นตาให้ในระหว่างที่คุณไม่อยู่บ้าน หรืออีกหนึ่งความปลอดภัยที่ได้รับความนิยมคือเข้าร่วมโครงการฝากบ้านไว้กับตำรวจ ผ่านแอพพลิเคชั่น Police I lert U เพื่อใช้ติดต่อสื่อสารระหว่างตำรวจกับเจ้าของบ้าน ด้วยการนำบาร์โค้ด หรือคิวอาร์โค้ดไปติดไว้ที่หน้าบ้านที่เข้าร่วมโครงการ เมื่อตำรวจเข้าไปตรวจดูแลความปลอดภัย ก็จะสแกนบาร์โค้ดแล้วรายงานให้เจ้าของบ้านรับทราบโดยการส่งข้อความไปยังโทรศัพท์มือถือของเจ้าของบ้าน ดังนั้นแม้ว่าเราจะอยู่ไกลบ้าน  เราก็ยังสามารถดูความเรียบร้อยของบ้านตนเองได้ทางโทรศัพท์มือถือ

นอกจากนี้ เรายังไม่ควรประกาศให้คนอื่นรู้ว่าเราจะไม่อยู่บ้านหลายวัน เพราะเอาเป็นการเปิดช่องให้โจรหรือขโมยรู้ว่าบ้านนี้ไม่มีคนอยู่ ดังนั้นนอกจากเราจะระมัดระวังและเตรียมบ้านให้พร้อมแล้วยังต้องระวังการโพสท์ข้อมูลต่างๆ ในโซเชียลด้วยนะคะ

และสิ่งสำคัญที่ต้องมีติดตัวไว้คือ ประกันการเดินทางDance Moves” จาก Allianz Travel ที่มีความคุ้มครองกรณีเกิดเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝันในต่างประเทศ ไม่ว่าจะเป็นการเจ็บป่วยขณะเดินทาง เที่ยวบินล่าช้า และอื่นๆ อีกมากมาย ที่ช่วยให้คุณทำกิจกรรมต่างๆ ตลอดทริปได้อย่างอุ่นใจ ไร้กังวล*

*เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทกำหนด

เลือกแผนประกันการเดินทางที่ใช่สำหรับคุณ ประกันการเดินทาง Dance Moves จาก Allianz Travel

เช่ารถเที่ยวต่างประเทศ ต้องเตรียมตัวอย่างไร

เช่ารถเที่ยวต่างประเทศ ต้องเตรียมตัวอย่างไร

การเดินทางไปยังสถานที่ที่น่าสนใจระหว่างการท่องเที่ยวต่างประเทศ มีทางเลือกหลายรูปแบบ ทั้งทางรถ เรือ หรือเครื่องบินโดยสารภายในประเทศ เราอาจเลือกใช้บริการการขนส่งสารสาธารณะ หรือการเช่ารถขับ ซึ่งการ เช่ารถเที่ยวต่างประเทศ ก็เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ช่วยอำนวยความสะดวกให้เข้าถึงสถานที่ท่องเที่ยวที่อยู่ห่างไกลได้ง่ายยิ่งขึ้น และง่ายต่อการจัดการให้ได้ตามเวลาที่เราวางแผนการเดินทางไปยังสถานที่ต่างๆ วันนี้ Allianz Travel มีเช็คลิสต์การเตรียมตัวเช่ารถขับเที่ยวต่างประเทศมาฝากเพื่อนๆ กันค่ะ รับรองว่าหากทำตามรายการนี้แล้ว ทริปขับรถเที่ยวของเพื่อนๆ ต้องสนุก ปลอดภัย และไร้ปัญหาที่ต้องมาคอยกังวลกันค่ะ

1. วางแผนการเดินทางและศึกษาเส้นทางล่วงหน้า

วางแผนการเดินทาง สำหรับการ เช่ารถเที่ยวต่างประเทศ

ก่อนออกเดินทาง เราควรวางแผนการเดินทางไว้ล่วงหน้าเพื่อให้การขับรถเที่ยวของเราเป็นไปอย่างราบรื่น ตัวอย่างเช่น


1.1 ศึกษาและเช็คเส้นทางที่จะเดินทางไปยังจุดหมาย หากมีหลายเส้นทาง ให้เลือกเส้นทางที่มีสถานที่ หรือสิ่งอำนวยความสะดวกหากเกิดเหตุการณ์ฉุกเฉิน จะได้ขอความช่วยเหลือได้ทัน

  • ดูรายละเอียดของสถานที่ต่างๆ ที่เราต้องขับผ่านตามเส้นทาง ทำเครื่องหมายมาร์คจุดสำคัญไว้ในแผนที่ เช่น ปั๊มน้ำมัน ร้านอาหาร สถานที่ท่องเที่ยวที่ต้องการแวะบนเส้นทาง สถานีตำรวจ โรงพยาบาล โรงแรมหรือที่พัก เป็นต้น
  • ศึกษารายละเอียดของจุดหมายปลายทางที่เรากำลังจะเดินทางไปท่องเที่ยว รวมถึงบริเวณที่จอดรถหรือทางเข้าออก

1.2 ตรวจสอบสภาพภูมิอากาศก่อนออกเดินทาง

การที่เราตรวจเช็คสภาพอากาศก่อนออกเดินทาง ช่วยให้เราเตรียมอุปกรณ์ที่จำเป็นไว้ล่วงหน้า อย่างเช่น หากเดินทางไปในสถานที่ที่มีโอกาสจะมีหิมะตก เราก็ต้องใช้รถที่มียางรถยนต์สำหรับวิ่งบนหิมะ หรือที่เรียกว่ายางหิมะเป็นยางรถยนต์ที่มีดอกยางพิเศษกว่ายางรถยนต์ทั่วๆไปและยึดเกาะบนถนนได้ดีกว่ายางธรรมดา  ถึงแม้ว่าจุดเริ่มเดินทางจะไม่มีหิมะตกก็ตาม แต่ในระหว่างเดินทางหรือจุดหมายปลายทางอาจมีหิมะตกก็ได้ ดังนั้นก่อนเดินทางจึงต้องศึกษาสภาพอากาศให้ดี และควรใช้ความระมัดระวังในการขับขี่เพิ่มขึ้นหากขับรถบนถนนที่มีหิมะ

2. ศึกษาข้อมูลกฎระเบียบการจราจร

ศึกษาข้อมูลกฎระเบียบการจราจรของประเทศต่างๆ  สำหรับการ เช่ารถเที่ยวต่างประเทศ

กฎระเบียบการจราจรของแต่ละสถานที่ท่องเที่ยวในแต่ละภูมิภาคของโลกมีรูปแบบและวัฒนธรรมในการใช้รถใช้ถนนที่แตกต่างกันออกไป ไม่ว่าจะเป็นภูมิภาคอเมริกา ยุโรป และเอเชีย ดังนั้นเราควรศึกษาเส้นทางในการออกเดินทางไปยังสถานที่ต่างๆ ให้ดี ศึกษาข้อมูลกฎระเบียบการจราจร ศึกษาป้ายจราจร รูปแบบและวัฒนธรรมในการใช้รถใช้ถนนของแต่ละประเทศที่เราต้องการจะไป เพื่อป้องกันเหตุการณ์ที่อาจทำให้ทริปของเราหมดสนุก

3. จองรถที่ต้องการเช่าไว้ล่วงหน้า

ทำการ เช่ารถเที่ยวต่างประเทศ ไว้ล่วงหน้า

เพื่อให้การเดินทางเป็นไปตามแผนที่เราวางไว้ และไม่เสียเวลาในวันออกเดินทางจริง เราควรทำการเช่ารถให้เรียบร้อยก่อนออกเดินทาง โดยติดต่อบริษัทเช่ารถล่วงหน้า หรือผ่านระบบการเช่ารถออนไลน์ นอกจากนั้น การจองล่วงหน้าหลายวัน ก็อาจทำให้เราได้รับส่วนลด หรือโปรโมชั่นอื่นๆ เพิ่มเติมอีกด้วย ที่สำคัญทำให้เราสามารถประหยัดเวลาและลดขั้นตอนความยุ่งยากในการเช่ารถที่จะเกิดขึ้นในวันที่ไปรับรถ หรือออกเดินทาง

4. เตรียมเอกสารสำคัญที่จำเป็นสำหรับการเช่ารถเที่ยวต่างประเทศ

เตรียมใบขับขี่สากลและเอกสารสำคัญที่จำเป็นสำหรับการ เช่ารถเที่ยวต่างประเทศ

เตรียมเอกสารสำคัญที่ใช้ในการเช่ารถในต่างประเทศ อย่างน้อยที่เราจะต้องเตรียมไว้คือ พาสปอร์ตของผู้ขับขี่ ใบขับขี่สากล และบัตรเครดิต

5. ตรวจสอบสภาพรถก่อนรับรถ

ตรวจสอบสภาพรถเช่า  สำหรับการ เช่ารถเที่ยวต่างประเทศ

ก่อนรับรถหรือก่อนออกเดินทาง ควรตรวจสอบสภาพของรถให้เรียบร้อย โดยรถควรอยู่ในสภาพที่ปลอดภัยพร้อมใช้งาน มีอุปกรณ์ที่จำเป็นในสถานการณ์ฉุกเฉินอยู่ภายในรถ เช่น ยางรถยนต์สำรอง ป้ายฉุกเฉิน สายพ่วงแบตเตอรี่ อุปกรณ์สำหรับการเปลี่ยนยางรถยนต์เบื้องต้น เป็นต้น

6. ถ่ายรูปรถก่อนรับมาใช้งานและก่อนส่งคืนหลังจากการใช้งาน

ถ่ายรูปรถก่อนรับมาใช้งานและก่อนส่งคืนหลังจากการใช้งาน สำหรับการ เช่ารถเที่ยวต่างประเทศ

ก่อนรับและส่งรถคืน ควรถ่ายภาพหรือถ่ายวิดีโอรถเช่าให้ทั่วทุกมุมของรถ เพื่อให้เห็นสภาพโดยรอบของตัวรถโดยละเอียด โดยเฉพาะตำหนิต่างๆ ที่ปรากฎบนตัวรถ เพื่อป้องกันปัญหาที่อาจเกิดขึ้นตอนส่งคืนรถให้กับผู้ให้เช่า โดยผู้ให้เช่าอาจเรียกเก็บเงินเพิ่มเติมหรือให้ชดเชยค่าเสียหาย ดังนั้นการที่เรามีรูปหรือวิดีโอเป็นหลักฐานจะสามารถนำมาใช้ยืนยัน ในกรณีที่มีปัญหาเมื่อส่งคืนรถ

7. เตรียมโทรศัพท์มือถือ สายชาร์จ​ และแบตเตอรี่สำรองให้พร้อม

เตรียมมือถือ สายชาร์จมือถือ​ และแบตเตอรี่สำรองให้พร้อม  สำหรับการ เช่ารถเที่ยวต่างประเทศ

ปัจจุบันมีแอปพลิเคชั่นบนมือถือหรือเว็บไซต์มากมายที่ช่วยให้เราดูเส้นทาง และวางแผนการเดินทางได้อย่างสะดวก เช่น Google Maps หรือ Apple Maps เป็นต้น การเตรียมโทรศัพท์มือถือให้พร้อมจะช่วยอำนวยความสะดวกได้เป็นอย่างดี เราไม่ควรหวังพึ่งระบบ GPS จากรถเช่าแต่เพียงอย่างเดียว เพราะรถเช่าบางบิรษัทอาจไม่มีระบบ GPS หรืออาจมีแอพพลิเคชั่นที่เราไม่เคยใช้มาก่อน ทำให้เราต้องเสียเวลาศึกษา เพราะความไม่คุ้นชินกับระบบ นอกจากนี้การใช้แอปพลิเคชั่นที่เราใช้ประจำ จะช่วยให้เราวางแผนได้ล่วงหน้า เตรียมการมาร์คจุดหมายปลายทาง หรือสถานที่ต่างๆ ที่ต้องการเดินทางไว้ก่อนได้ด้วย และสิ่งสำคัญคือต้องเตรียมอุปกรณ์ที่ใช้กับโทรศัพท์มือถือให้พร้อม อย่างเช่น สายชาร์จหรือแบตเตอรี่สำรอง

8. ตรวจสอบระดับน้ำมันและระดับแบตเตอรี่คงเหลือของรถยนต์อยู่เสมอ

ตรวจสอบระดับน้ำมันคงเหลือหรือระดับแบตเตอรี่คงเหลือของรถยนต์อยู่เสมอ สำหรับการ เช่ารถเที่ยวต่างประเทศ

การ เช่ารถเที่ยวต่างประเทศ ระหว่างการเดินทาง เราควรตรวจสอบระดับน้ำมันหรือระดับแบตเตอรี่คงเหลือของรถอยู่เสมอ และในการวางแผนการเดินทางก็ควรมาร์คจุดสถานีบริการน้ำมัน หรือสถานีบริการชาร์จแบตเตอรี่รถยนต์ และควรคำนวณระยะทางในการเดินทางไปในแต่ละสถานที่โดยคร่าวๆ ไว้ในแผนการเดินทางด้วย เพื่อให้เราสามารถเข้าไปเติมน้ำมันหรือชาร์จแบตเตอรี่ได้ตามระยะทางที่กำหนดไว้

9. เตรียมเบอร์โทรศัพท์หรือช่องทางการติดต่อกรณีเกิดเหตุฉุกเฉิน

เตรียมเบอร์โทรศัพท์หรือช่องทางการติดต่อกรณีเกิดเหตุฉุกเฉิน สำหรับการ เช่ารถเที่ยวต่างประเทศ

ในการเดินทางทุกครั้ง เราควรเตรียมเบอร์โทรศัพท์หรือช่องทางสำหรับการติดต่อกับหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องในกรณีเกิดเหตุฉุกเฉิน เช่น สถานีตำรวจ โรงพยาบาลหรือรถพยาบาลฉุกเฉิน บริษัทประกันการเดินทางที่เราทำประกันไว้ บริษัทรถเช่า สถานทูตไทยประจำประเทศที่เราเดินทางไป และสถานที่สำคัญต่างๆ เป็นต้น เพื่อที่เราจะได้รับมือกับเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดที่อาจเกิดขึ้นได้

10. ทำประกันการเดินทางต่างประเทศ

ทำประกันการเดินทางต่างประเทศ สำหรับ เช่ารถเที่ยวต่างประเทศ

การเช่ารถยนต์ในต่างประเทศส่วนใหญ่จะมีส่วนของประกันที่รวมไปในค่าเช่ารถแล้ว แต่เป็นรูปแบบของประกันที่จะมีการจ่ายค่าเสียหายบางส่วนที่เกิดขึ้นให้แก่รถเช่าเท่านั้น นอกจากนี้เรายังสามารถซื้อประกันเพิ่มได้อีก เผื่อเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝัน ที่เราอาจต้องเสียค่าใช้จ่ายเป็นจำนวนมาก แต่ค่าใช้จ่ายก็จะสูงขึ้นตามไปด้วยหากต้องการความครอบคลุมที่คุ้มค่ากับรถเช่าของเรา แต่เราก็มีมีทางเลือกหนึ่งที่ช่วยให้เราไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายในการทำประกันเป็นจำนวนมาก แต่ได้รับความคุ้มครองครอบคลุมในส่วนของความเสียหายที่เกิดกับรถเช่าด้วย คือการทำประกันการเดินทางที่มีความคุ้มครองครอบคลุมในส่วนของรถเช่าด้วย

นอกจากช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายกรณีที่เกิดเหตุการณ์ไม่คาดคิดกับรถแล้ว ประกันภัยการเดินทางยังช่วยคุ้มครองกรณีเจ็บป่วย หรือเหตุฉุกเฉินอื่นๆ อีกด้วย ช่วยให้เราสามารถเดินทางได้อย่างอุ่นใจ ไม่ต้องกังวลระหว่างการเดินทาง

การเช่ารถขับเที่ยวในต่างประเทศช่วยให้เราเดินทางท่องเที่ยวได้สะดวกสบาย สามารถเดินทางไปยังสถานที่ต่างๆ ได้ตามแผนที่วางไว้  อยากหยุดแวะเที่ยวถ่ายรูประหว่างทางก็สามารถทำได้ แต่ต้องมีการเตรียมตัววางแผนและเตรียมความพร้อมสำหรับการเดินทางให้ดี และสิ่งสำคัญที่เราควรมีทุกครั้งที่เดินทางไปต่างประเทศ คือ ประกันการเดินทาง ที่จะช่วยให้แผนการเดินทางของเราไม่สะดุด สามารถทำกิจกรรมต่างๆ ได้อย่างอุ่นใจ ไร้กังวล ให้ความคุ้มครองครอบคลุมค่าใช้จ่ายที่เกิดจากเหตุการณ์ฉุกเฉินที่อาจเกิดขึ้นโดยไม่คาดฝัน*

*เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทกำหนด

เลือกแผนประกันการเดินทางที่ใช่สำหรับคุณ แผนประกันการเดินทาง Dance Moves จาก Allianz Travel

Applications for travel aboard

เที่ยวที่ไหนก็รอด! 8 แอปฯ แนะนำ สำหรับทริปต่างประเทศ

การจัดทริปเที่ยวต่างประเทศเอง ไม่ว่าจะเที่ยวแบบ backpack, เที่ยวเป็นคู่, เที่ยวยกแก๊งเพื่อน หรือเที่ยวกับครอบครัว ไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป เพราะปัจจุบันเรามีเทคโนโลยีที่จะช่วยให้การเดินทางท่องเที่ยวของเราสะดวกสบายมากขึ้น Allianz Travel ขอแนะนำ 8 แอปพลิเคชันสำหรับทริปเที่ยวต่างประเทศ ที่ใช้งานง่าย สะดวกทั้งระบบ iOS และ Android ทำให้คุณอุ่นใจไร้กังวลตลอดการเดินทางเลยค่ะ

1. MAP.ME

เป็นแอปพลิเคชันแผนที่แบบ offline พูดง่ายๆ คือ เราสามารถใช้งานแอปฯ นี้ดูแผนที่ได้แบบไม่ต้องพึ่งพาเครือข่ายอินเทอร์เน็ตเลย Map.me จะช่วยให้เราวางแผนการเดินทางเพื่อไม่ให้พลาดสถานที่ท่องเที่ยวน่าสนใจรอบๆ พื้นที่ได้ ด้วยการรวบรวมข้อมูลของหลายประเทศทั่วโลก เราสามารถใช้งานแอปฯ นี้ ในประเทศไหนก็ได้ ข้อมูต่างๆ มีการอัพเดทตลอดเวลา ไม่ต้องกลัวเลยว่า จะตกเทรนด์หรือประสบปัญหาการหลงทางเลยค่ะ ยิ่งกว่านั้น Map.me มีตัวช่วยในการค้นหาโรงแรม, ร้านอาหารและคาเฟ่, การขนส่งสาธารณะ ฯลฯ อีกด้วย

2. SPLITWISE

หากคุณเคยประสบปัญหาเรื่องการจัดการบิล หรือค่าใช้จ่ายเวลาไปเที่ยว แอปพลิเคชัน Splitwise ถือว่าตอบโจทย์ และช่วยแก้ไขความยุ่งยากนี้ได้แน่นอน การใช้งานแอปฯ ก็แสนง่าย ไม่ซับซ้อน เราสามารถบันทึก, จัดหมวดหมู่, แบ่งสัดส่วนค่าใช้จ่ายได้อย่างอิสระ สำหรับใครที่มีหลายทริป เที่ยวกับเพื่อนหลายกลุ่ม เราก็สามารถตั้งกลุ่มเฉพาะทริปหรือกิจกรรมนั้นๆ ได้ สามารถดาวน์โหลด๊เป็นไฟล์ .csv ได้ด้วย พร้อมมีสกุลเงินที่รองรับมากกว่า 100 ประเทศ ก่อนไปเที่ยวจริง เราโหลดแอปฯ นี้ไปทดลองใช้กับปาร์ตี้เล็กๆ ของเรากับแก๊็งเพื่อนได้นะคะ

3. XE-CURRENCY

แอปพลิเคชันสำหรับการจัดการเงินระหว่างประเทศ ที่ทั้งสามารถทำได้ในขั้นตอนเดียว ไม่ว่าจะเป็นการตรวจอัตราสกุลเงินกลางของตลาด, การแปลงสกุลเงินเพื่อโอนเงินไปต่างประเทศ พร้อมตรวจสอบสถานะการโอนเงินได้เลยทันทีในแอปฯ นี้ ไม่ต้องลำบากเช็กที่ธนาคาร นอกจากนี้ แอปฯ XE-Currency สามารถใช้งานได้แบบออฟไลน์ไม่ต้องใช้เครือข่ายอินเทอร์เน็ตนะคะ

4. ITRANSLATE

เวลาไปเที่ยวต่างประเทศ เราอาจจะพบเจอปัญหาเรื่องการสื่อสาร การอ่านป้ายในภาษาที่เราไม่คุ้นเคย ดังนั้น iTranslate จึงเป็นแอปฯ แปลภาษาที่ตอบโจทย์อย่างมาก เพราะใช้งานง่าย ไม่ต้องใช้สัญญาณอินเทอร์เน็ตหรือโรมมิ่งใดๆ และมีภาษารองรับมากกว่า 100 ภาษาทั่วโลก โดยเราสามารถพิมพ์ประโยคสนทนา หรือจะใช้คำสั่งเสียงแทนการพิมพ์ก็ได้ นอกจากนี้ ยังมีฟังก์ชันเพิ่มเติมสำหรับผู้ที่ต้องการใช้ Pro features อีกด้วย เช่น ใช้กล้องถ่ายภาพสแกนป้าย, แปลบทสนทนาแบบเสียง-ต่อ-เสียงได้แบบทันที, การผันรูปประโยคตามการสนทนา ฯลฯ

5. SKYSCANNER

แอปพลิเคชันสำหรับทริปต่างประเทศ ที่ครบครันตั้งแต่การค้นหาสถานที่ท่องเที่ยว, ที่พัก/โรงแรม, จองเครื่องบิน, เช่ารถ ฯลฯ ให้เราวางแผนการท่องเที่ยวได้ง่ายขึ้น ในราคาที่ดีที่สุด พร้อมกับโปรโมชั่นที่พักที่ดีที่สุดให้ผู้ใช้งานอย่างเรา ที่สำคัญคือ ไม่บวกค่าธรรมเนียมเพิ่มเติมด้วย ใครที่มองหาตัวช่วยในการวางแผนเดินทาง แบบแอปฯ เดียวจบ แนะนำให้ดาวน์โหลด Skyscanner ติดโทรศัพท์ไว้เลยนะคะ

6. MOMONDO

แอป Momondo เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่คล้ายกับแอป Skyscanner จุดเด่นของแอปพลิเคชันนี้คือ การค้นหาและเปรียบเทียบราคาที่พัก/ตั๋วเครื่องบินที่รวดเร็ว ใช้งานง่าย หน้าตาแอปฯ สวยงามและฟรี เหมาะสำหรับการวางแผนทริปท่องเที่ยวที่มีงบประมาณจำกัด เราสามารถตั้งค่าตัวเลือกการค้นหาที่โดนใจเรา และยังสามารถบันทึกหรือเชื่อมต่อประวัติการค้นหาของเราเก็บไว้ในโทรศัพท์หรืออุปกรณ์อื่นได้อีกด้วย ถือเป็นอีกหนึ่งแอปฯ ที่คำนึงถึงผู้ใช้งานอย่างมากเลยค่ะ

7. POCKET

เชื่อว่าหลายคนที่จัดทริปไปต่างประเทศ คงต้องมีการวางแผนก่อนเดินทางเสมอ โดยเฉพาะการหาบทความรีวิวจากเว็บไซต์, วิดีโอ, ข่าวสารหรือโซเชียลมีเดียต่างๆ มากมายจนจำไม่ได้ว่าเก็บไว้ที่ไหนบ้าง แอปพลิเคชัน POCKET จะเข้ามาช่วยเราเข้าถึงและจัดเก็บเว็บไซต์, บทความ, โพสต์ที่เราสนใจจากโซเชียลมีเดียเอาไว้ในแอปฯ เดียว และสามารถเอาออกมาอ่านได้ในภายหลังแบบออฟไลน์ ถึงแม้ว่าเราจะอยู่ในที่ที่ไม่มีเครือข่ายอินเทอร์เน็ตก็ตาม รับรองว่าสะดวกและประหยัดเวลามากขึ้นด้วยค่ะ

8. ROME2RIO

Rome2rio เป็นแอปพลิเคชันที่เหมาะสำหรับคนที่ชื่นชอบการเดินทางเองด้วยขนส่งสาธารณะตอนไปเที่ยวต่างประเทศ ที่รวมตัวเลือกหลากหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นเที่ยวบิน, รถไฟ, รถบัส, เรือเฟอร์รี่ และรถเช่า เป็นต้น เราสามารถวางแผนการเดินทางในแต่ละวันผ่านแอปฯ นี้ได้เลย รวมถึงการเช็กตารางรถสาธารณะได้แบบ real-time และใช้ได้มากกว่า 160 ประเทศทั่วโลก

เป็นอย่างไรบ้างคะ? กับ 8 แอปพลิเคชันที่เรานำมาฝากกัน อย่าลืมโหลดไว้ในโทรศัพท์มือถือก่อนเดินทางนะคะ และเพื่อให้อุ่นใจกับทริปท่องเที่ยวต่างประเทศของคุณยิ่งขึ้น มาเลือกซื้อประกันการเดินทางจาก Allianz Travel ที่พร้อมดูแลคุณ 24 ชม. ทั่วโลก

ขอบคุณข้อมูลจาก
The 10 Best Travel Apps for 2021
15 Essential Travel Apps for backpackers

ขอบคุณรูปภาพจาก
Google Play

เรามุ่งมั่นที่จะช่วยเหลือและดูแลคุณ

อลิอันซ์ทราเวลเป็นผู้นำระดับโลกด้านประกันภัยการเดินทางและบริการช่วยเหลือทั่วไป เรามีแผนประกันภัยที่หลากหลายให้เลือก ครอบคลุมตั้งแต่แผนรายเที่ยว แผนรายปี แผนครอบครัว ไปจนถึงแผนเดินทางศึกษาต่อต่างประเทศ เราทุ่มเทที่จะให้บริการช่วยเหลือและปกป้องคุณทุกที่ ทุกเวลาเท่าที่เราจะทำได้ เราไม่ได้จำกัดอยู่แค่ประกันภัยและการให้ความช่วยเหลือ แต่เรามุ่งเน้นไปที่สิ่งที่มากกว่านั้น และทุกบริการของเราก็เพื่อลูกค้าคนสำคัญของเรา

เที่ยวนครวัด เสน่ห์มนต์ขลัง ที่ต้องลองไปสัมผัสแล้วจะรัก

เสน่ห์มนต์ขลังของ “ นครวัด ” ที่ต้องลองไปสัมผัสแล้วจะรัก

วันนี้ Allianz Travel เรามีแหล่งท่องเที่ยวสุดอลังการที่ได้รับการขนานนามว่าเป็นแหล่งมรดกโลกมาแนะนำทุกท่าน สถานที่ที่เต็มไปด้วยมนต์ขลังและความยิ่งใหญ่ จนทำให้ได้รับการขนานนามว่ามีความสวยงามด้วยสถาปัตยกรรมจนติดอันดับ 1 ใน 10 สถานที่ท่องเที่ยวสุดฮิตในอาเซียนอีกด้วย เก็บเป็นลิสต์ไว้ก่อน ถ้าเราสามารถเดินทางไปต่างประเทศได้เมื่อไหร่ จะได้มีจุดมุ่งหมายในการออกเดินทางไปเที่ยวกัน เพราะอยู่ใกล้ ๆ แค่กัมพูชาประเทศเพื่อนบ้านเรานี่เอง การเดินทางง่ายมากค่ะ เพียงนั่งเครื่องบินออกจากสนามบินนานาชาติดอนเมือง ไปยังนามบินเสียมเรียบอินเตอร์เนชั่นแนล ใช้เวลาเพียง 1 ชั่วโมงเท่านั้น ก็สามารถเที่ยวได้ทันทีแบบไม่เสียเวลาไปกับเดินทางนาน ๆ เลยค่ะ

เราจะพาทุกท่านไปเที่ยวชม “ นครวัด ” ศาสนสถานสำคัญของโลก ณ ประเทศกัมพูชา ไปชมสถาปัตยกรรมขอมโบราณที่ใช้เวลาเดินทางจากสนามบินเสียมเรียบเพียง 15 นาทีเท่านั้น

นครวัด สถาปัตยกรรมอันงดงาม
ท่องเที่ยว นครวัด

นครวัดเป็นศาสนสถานสุดยิ่งใหญ่ที่กลายเป็นสัญลักษณ์หนึ่งของประเทศกัมพูชาที่หลายคนทั่วโลกต่างรู้จักกันเป็นอย่างดี นครวัดสร้างในสมัยของพระเจ้าสุริยวรมันที่ 2 ในช่วงต้นคริสต์ศตวรรษที่ 12 เป็นศูนย์กลางทางศาสนาที่สำคัญเพียงแห่งเดียวที่ยังเหลือรอดมาจนถึงปัจจุบันค่ะ นักท่องเที่ยวมักจะนิยมเที่ยวกันในช่วงเดือนพฤศจิกายนจนถึงเดือนกุมภาพันธ์ เพราะเป็นช่วงที่มีอากาศดีไม่ร้อนจนเกินไป อุณหภูมิจะอยู่ที่ 25-30 องศาเท่านั้นเองค่ะ

นครวัด ประเทศ กัมพูชา

นครวัดเป็นศาสนสถานที่สร้างตามคติความเชื่อทางศาสนาของผู้สร้างในขณะนั้น และการก่อสร้างค่อนข้างกินเวลานานทำให้นครวัดได้รับอิทธิพลจากศาสนาความเชื่อถึง 2 ศาสนา คือแรกเริ่มเป็นศาสนาฮินดูและเปลี่ยนเป็นศาสนาพุทธในตอนท้าย ผังการสร้างปราสาทนครวัดทำเสมือนเป็นแบบภูเขา มีระเบียงคดที่มีภาพสลัก การสร้างปราสาทรูปแบบนี้สื่อถึงเขาพระสุเมรุ ซึ่งตามความเชื่อนั้น เขาพระสุเมรุเป็นสถานที่ที่สถิตของเทพและเทวดาในปกรณัมของศาสนาฮินดู ด้านนอกมีคูน้ำและกำแพงล้อม โดยตัวปราสาทประกอบด้วยระเบียงคดสี่เหลี่ยมที่มีภาพสลักทั้งหมดสามชั้น แต่ละชั้นตั้งอยู่สูงกว่าชั้นล่าง ตรงกลางของปราสาทคือพระปรางค์ที่มีทั้งหมด 5 ยอด นครวัดมีความแตกต่างจากปราสาทในพระนครปราสาทอื่น ๆ เนื่องจากมีการหันหน้าไปทางทิศตะวันตก

นครวัดได้รับการยกย่องในด้านความงามและความกลมกลืนของตัวสถาปัตยกรรม ภาพสลักฝาผนังที่เด่น ๆ สำคัญ ๆ ฝั่งหนึ่งเป็นเรื่องราวการต่อสู้ที่ทุ่งกุรุเกษตรของมหากาพย์มหาภารตะ (มหากาพย์ของศาสนาพราหมณ์-ฮินดู) และ อีกฝั่งเป็นเนื้อหา เกี่ยวกับความเชื่อ โลกสวรรค์ – โลกมนุษย์ – โลกนรก ซึ่งก็คือ เรื่อง บาป- บุญ ของศาสนาพุทธ รายละเอียดของจิตรกรรมต่าง ๆ เป็นเรื่องราวที่เข้มข้นน่าติดตาม

สถาปัตยกรรม นครวัด
สถานที่ท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์ นครวัด

นอกจากนั้นแล้วยังมีสถาปัตยกรรมส่วนอื่น ๆให้ชมอีกมากมาย อาทิเช่น ปราสาทตาพรหม ที่ต้นไม้เลื้อยพันไปกับตัวปราสาทที่เป็นฉากสำคัญในการถ่ายหนัง Holly Wood ที่แองโจลิน่า โจลีห์ แสดงนำอย่างเรื่อง Tomb Raider อีกด้วยนะคะ ตัวสถานที่กว้างใหญ่น่าค้นหาจริง ๆ

สถาปัตยกรรม นครวัด
นครวัด กัมพูชา

พูดถึงการเดินทางไปนครวัดก็ง่าย ความสวยงามยิ่งใหญ่ของสถานที่ก็น่าตื่นเต้น น่าสนใจ ทั้งเรื่องราวความเป็นมาและศิลปะของสถาปัตยกรรมแบบเขมรก็ยิ่งใหญ่ตระการตา อยากให้ลองจัดไปสักทริปค่ะ จะต้องเป็นอีกทริปที่คุณหลงรักแน่นอน ค่าใช้จ่ายก็ไม่สูง ที่พักมีให้เลือกตั้งแต่หลักร้อยไปจนหลักหลายพันบาท นอกจากชมสถาปัตยกรรมอย่าพลาดไปสัมผัสวิถีชีวิต ตลาด ร้านอาหารท้องถิ่นต่าง ๆ ของประเทศเพื่อนบ้านของเราด้วยตนเองด้วยนะคะ

เที่ยวนครวัด
เที่ยวนครวัด

ถ้าอยากเที่ยวแบบอุ่นใจ ไร้กังวล ในการไปเที่ยวต่างแดนแบบนี้ อย่าลืมเลือกทำประกันการเดินทางกับ Allianz Travel นะคะ เราพร้อมดูแลคุณ 24 ชั่วโมง

ขอบคุณข้อมูลจาก :
เที่ยวกัมพูชา ชมความยิ่งใหญ่ ปราสาทนครวัดนครธม

เรามุ่งมั่นที่จะช่วยเหลือและดูแลคุณ

อลิอันซ์ทราเวลเป็นผู้นำระดับโลกด้านประกันภัยการเดินทางและบริการช่วยเหลือทั่วไป เรามีแผนประกันภัยที่หลากหลายให้เลือก ครอบคลุมตั้งแต่แผนรายเที่ยว แผนรายปี แผนครอบครัว ไปจนถึงแผนเดินทางศึกษาต่อต่างประเทศ เราทุ่มเทที่จะให้บริการช่วยเหลือและปกป้องคุณทุกที่ ทุกเวลาเท่าที่เราจะทำได้ เราไม่ได้จำกัดอยู่แค่ประกันภัยและการให้ความช่วยเหลือ แต่เรามุ่งเน้นไปที่สิ่งที่มากกว่านั้น และทุกบริการของเราก็เพื่อลูกค้าคนสำคัญของเรา