การได้ไปเดินทางท่องเที่ยวต่างประเทศน่าจะเป็นอีกหนึ่งความฝันของใครหลายๆ คน ไม่ว่าจะเป็นแถบยุโรป อเมริกา หรือแม้แต่ในเอเชียก็ตาม บางคนอุตส่าห์เตรียมตัวหาข้อมูลเรื่องสถานที่ท่องเที่ยวไปอย่างดี เพื่อให้การเดินทางครั้งนั้นเป็นสิ่งที่น่าจดจำ แต่บางครั้งระหว่างที่เรากำลังประทับใจกับสถานที่นั้นๆ ก็มีมิจฉาชีพเข้ามาร่วมซีน จนเกิดเหตุการณ์ที่ทำให้ทริปนั้นกลายเป็นฝันร้ายได้
วันนี้ Allianz Travel นำกลโกงของมิจฉาชีพมาบอกเล่าให้เพื่อนๆ ฟัง เพื่อให้ระวังตัว และเที่ยวได้อย่างปลอดภัย ซึ่งมิจฉาชีพจะเข้ามาหาเราในรูปแบบใดบ้างมาดูกันเลย
1. มิจฉาชีพที่มาในรูปแบบแก๊งบังคับซื้อ
ในสถานที่ท่องเที่ยวที่เป็นที่นิยม จะมีกลุ่มคนที่คอยมองคนที่ไม่ทันระวังตัว และเดินตรงปรี่เข้ามาแบบไม่ให้เราตั้งตัว พร้อมกับยื่นของหรือยัดเยียดใส่มือเรา อย่างเช่น อาหารนกพิราบ ผ้า สิ่งของต่างๆ ถ้าเราเผลอรับไป ก็จะโดนเรียกให้จ่ายเงินทันที หากเราไม่จ่าย พวกเขาก็จะเริ่มโวยวาย และพยายามกันไม่ให้เราเดินหนี และอาจจะล้วงกระเป๋าเอาสิ่งของมีค่าไป ในจังหวะที่เรามัวแต่สนใจคนที่โวยวายอยู่ข้างหน้า ฉะนั้น หากเข้าไปในสถานที่ท่องเที่ยวที่มีคนเยอะ เราควรมองซ้ายมองขวา ถ้าเห็นใครเดินเข้ามายื่นของให้เรา เราควรรีบเดินหนีทันทีจะดีที่สุด
2. มิจฉาชีพที่มาในรูปแบบตำรวจปลอม
จะทำเป็นเข้ามาขอตรวจสอบเอกสารประจำตัวของเรา เช่น พาสปอร์ต ซึ่งหากเราเป็นนักท่องเที่ยวที่อยู่ต่างถิ่น ก็อาจรู้สึกตกใจกลัว จนไม่ทันระวัง ตำรวจปลอมเหล่านี้ก็จะชิงกระเป๋าเราหนีไปทันที หรืออาจเข้ามาบอกว่ามีการแพร่ระบาดของธนบัตรปลอม และขอตรวจเงินที่เราพกอยู่ ถ้าเราหยิบกระเป๋าขึ้นมาก็อาจจะโดนฉกชิงไปเลย ดังนั้นหากเราเจอตำรวจเดินเข้ามาหา ก็ให้ระวังไว้สักหน่อย ขอตรวจสอบบัตรประจำตัว หรือสอบถามความผิดของเราให้ชัดเจนเสียก่อน
3. มิจฉาชีพที่มาในรูปแบบการแกล้งทำของหล่น
หากเราเดินเที่ยวอยู่ แล้วเจอคนทำของตก กระจัดกระจาย เราขอแนะนำให้เดินผ่านไปเลย เพราะหากเราเข้าไปช่วยเหลือเก็บของเหล่านั้น จะเป็นจังหวะที่เราไม่ได้สนใจสิ่งรอบข้าง ซึ่งถือว่าเป็นจังหวะทองของมิจฉาชีพที่สามารถเอาของมีค่าไปจากเราได้ โดยที่เราไม่รู้ตัวเลยทีเดียว
4. มิจฉาชีพที่มาในรูปแบบโจรในคราบนักบุญ
หากเราถือของเยอะ ถือกระเป๋าใบใหญ่ หรือแวะซื้อตั๋วรถไฟตามตู้กดอัตโนมัติ ก็อาจมีมิจฉาชีพเข้ามาแสดงตัวให้ความช่วยเหลือ หากเรายอมให้ช่วยยกของ หรือให้ช่วยซื้อตั๋วให้ ก็อาจเจอการขอค่าตอบแทนทันที ซึ่งหากเราไม่ให้ พวกเขาก็จะส่งเสียงโวยวายใหญ่โตใส่เรา ดังนั้นควรปฎิเสธความช่วยเหลือจากคนที่เราไม่รู้จักตั้งแต่แรกเลยจะดีที่สุด
5. มิจฉาชีพที่มาในรูปแบบการสอบถามทาง “ฉันจะไปที่นี่ได้ยังไง?”
มิจฉาชีพบางคนมาในรูปแบบถือแผนที่แผ่นใหญ่ๆ ทำตัวเหมือนเป็นนักท่องเที่ยว และเข้ามาถามทางกับเรา หากเราพยายามช่วย และใช้สมาธิไปกับการดูแผนที่ ทำให้มีจังหวะที่เราไม่ทันได้ระวังตัว ก็จะมีมิจฉาชีพอีกคนเข้ามาล้วงกระเป๋า หรือหยิบของของเราไปดื้อๆ ซึ่งหากพบเจอก็ให้เดินหนีไปเลยดีที่สุด
6. มิจฉาชีพที่มาในรูปแบบการขอให้ช่วยถ่ายรูปให้หน่อย
มิจฉาชีพในคราบนักท่องเที่ยวอีกประเภทหนึ่งจะเดินเข้ามายื่นกล้องให้คุณช่วยถ่ายรูปให้ หากคุณใจดีรับกล้องมาเพื่อที่จะถ่ายรูปให้ และในขณะที่ถ่ายอยู่ ก็จะไม่มีเหตุการณ์อะไรเกิดขึ้น แต่ว่าในจังหวะที่เราส่งกล้องคืนเท่านั้นแหละ มิจฉาชีพจะแกล้งทำกล้องตก แล้วโวยวายเสียงดัง เพื่อเรียกร้องให้เราจ่ายค่าเสียหาย
7. มิจฉาชีพที่มาในรูปแบบอาสาสมัครถ่ายรูปให้ไหม
มิจฉาชีพบางคนจะแกล้งทำเป็นคนมีน้ำใจ เมื่อเห็นว่าเรากำลังถ่ายรูป ก็อาจเดินเข้ามาอาสาเป็นคนถ่ายรูปให้ และเมื่อถ่ายรูปให้เราเสร็จแล้ว มิจฉาชีพก็จะขอเงินค่าถ่ายรูปกับเราทันที หรือในกรณีที่เลวร้ายที่สุดคือเอากล้องสุดรักของเราวิ่งหนีหายไปเลย
8. มิจฉาชีพที่มาในรูปแบบขอทานปลอม
บางคนใช้ความขี้สงสารของคนเป็นเครื่องมือ แต่งตัวเหมือนขอทานมาขอเงินนักท่องเที่ยว หากเราหยิบกระเป๋าเงินออกมา ก็อาจจะถูกชิงไปจากมือแล้ววิ่งหนี หรือมีอีกกรณีคือหากเราส่งเงินไปให้ 1 คน ก็จะมีขอทานคนอื่นมารุมล้อม จนเราไม่สามารถเดินไปไหนได้จนกว่าจะให้เงิน และท้ายที่สุดก็อาศัยจังหวะชุลมุนล้วงกระเป๋าเราไปอีกด้วย
9. มิจฉาชีพที่มาในรูปแบบการขายตั๋วปลอม
สถานที่ท่องเที่ยวบางแห่งจะต้องมีการซื้อตั๋วเข้าชม ซึ่งจะมีมิจฉาชีพบางกลุ่มนำตั๋วปลอมมาขายในราคาที่ถูกจนน่าตกใจ ซึ่งหากเราหลงกลซื้อเพราะคิดว่าสามารถประหยัดเงินได้ แต่กลับกลายเป็นว่าตั๋วที่ได้มาเป็นของปลอมที่ไม่สามารถใช้งานได้ และจะต้องเสียเงินซื้อตั๋วใหม่อีกครั้ง
10. มิจฉาชีพที่มาในรูปแบบองค์กรช่วยเหลือสังคม
แก๊งมิจฉาชีพบางแก๊งจะทำตัวเหมือนเป็นองค์กรที่ช่วยเหลือสังคม เข้ามาโน้มน้าวพูดข้อมูลยาวเหยียด พร้อมให้ช่วยลงชื่อสนับสนุน ถ้าเรามัวแต่ให้ความสนใจไปกับเรื่องราวที่พวกนี้เล่าให้ฟัง ก็จะเป็นเป้าหมายให้มิจฉาชีพที่รออยู่เข้ามาล้วงกระเป๋า โดยที่เราไม่ทันรู้ตัวก็เป็นได้
11. มิจฉาชีพที่มาในรูปแบบการขอเงินทอนจากการซื้อตั๋วจากตู้จำหน่ายตั๋วอัตโนมัติ
มิจฉาชีพกลุ่มสุดท้ายจะรอจังหวะที่คุณซื้อตั๋วจากตู้จำหน่ายตั๋วอัตโนมัติตามที่ต่างๆ แล้วก็จะเข้ามาขอเงินคุณแบบไม่อายฟ้าอายดินกันเลยทีเดียว หากคุณไม่ยอมให้ ก็จะโวยวายเสียงดัง ทางทีดีหากพบเจอก็ให้เดินหนี หรือเปลี่ยนที่ซื้อตั๋วเลยจะเป็นการดีที่สุด
จะเห็นได้ว่ากลโกงที่เหล่ามิจฉาชีพใช้มักมาจากความเมตตาใจดีของนักท่องเที่ยว ฉะนั้น หากเราเดินทางท่องเที่ยวไม่ว่าจะไปคนเดียวหรือไปเป็นกลุ่ม เราก็ควรระมัดระวังตัวเองให้ดี ปิดกระเป๋าให้แน่นสนิทและเก็บไว้ใกล้ตัวตลอดเวลา และถึงแม้จะดูใจร้ายใจดำแต่การที่เราทำตัวไม่สนใจคนอื่น หรือไม่เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับเหตุการณ์รอบข้างก็เป็นวิธีที่ทำให้เราปลอดภัยห่างไกลจากมิจฉาชีพได้ และสิ่งสำคัญที่ควรมีทุกครั้งที่เดินทางไปต่างประเทศ คือประกันภัยการเดินทาง ที่จะช่วยให้แผนการเดินทางของเราไม่สะดุด ทำกิจกรรมต่างๆ ได้อย่างอุ่นใจ ไร้กังวล โดยมีความคุ้มครองที่ครอบคลุมค่าใช้จ่ายที่เกิดจากเหตุฉุกเฉินที่อาจเกิดขึ้นโดยไม่คาดฝัน*
*เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทกำหนด
เลือกแผนประกันการเดินทางที่ใช่สำหรับคุณ แผนประกันการเดินทาง Dance Moves จาก Allianz Travel